ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mocca Almond หอมรักละมุน ว้าวุ่นกับนายฝาแฝด

    ลำดับตอนที่ #2 : 2

    • อัปเดตล่าสุด 30 ธ.ค. 54


     2

     

                    เช้านี้เป็นเช้าที่บรรยากาศดีอีกวันหนึ่ง แต่ผิดกับฉันที่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจซักเท่าไหร่ เพราะฉันต้องคอยลุ้นว่าโทรศัพท์มือถือของฉันจะกำลังอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ฉันเองก็ได้แต่วิงวอนให้โทรศัพท์ของฉันตกอยู่กับคนที่ใจดีอย่างพี่แทน และขออย่าให้มันไปตกอยู่ในมือของคนปากร้ายอย่างพี่ธันว์ ขอให้มันเป็นอย่างที่คิดเถอะนะ

                    "แก้ม มายืนเหม่ออะไรอยู่ตรงนี้เนี่ย เดี๋ยวก็เดินชนเสาไฟฟ้ากันพอดี" ฝันที่เดินมาจับไหล่ฉันทำให้ฉันสะดุ้งและพบว่าหน้าฉันห่างจากเสาไฟฟ้าเพียงคืบเดียวเท่านั้น นี่ฉันเหม่อจนเกือบจะเดินชนเสาจริง ๆ เหรอเนี่ย

    "แก้ม เป็นอะไรหรือเปล่า ดูสติไม่ค่อยอยู่กับตัวเลยนะ" นิ่มถามพลางจับไหล่อีกข้างของฉัน สีหน้าดูเป็นห่วงฉันอย่างเห็นได้ชัด

    "อ๊ะ อื้ม เมื่อวานฉันลืมโทรศัพท์มือถือไว้น่ะ ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน น่าจะลืมไว้ที่ร้านเค้กน่ะ" ฉันที่ดึงสติกลับมาได้แล้วจึงตอบคำถามเพื่อน

    "อืม...ก็หวังว่าเธอจะลืมไว้ที่ร้านเค้กแล้วบังเอิญมีคนไปเจอแล้วเก็บมาให้นะ" ฝันกอดอกพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิด

    "ฉันก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้คนที่เก็บได้เป็นพี่แทนจังเลย" ฉันเผลอหลุดปากเอ่ยชื่อพี่แทนออกไป ทำให้ยัยเพื่อนปากไวอย่างฝันถึงกับตาโตก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสายตาล้อเลียนฉัน

    "อ๊ะ ๆ ๆ แล้วทำไมต้องเป็นพี่แทนด้วยล่ะ หรือว่าเธอ..." ฝันลากเสียงพลางทำหน้ากรุ้มกริ่ม

    "เฮ้ย เปล่า ฉันหมายถึงถ้าเป็นพี่แทนเก็บได้ ก็ดีว่าพี่ธันว์เก็บได้ต่างหากล่ะ ก็พี่แทนน่ะ ดูอบอุ่น น่ารัก ต่างกับพี่ธันว์สิ้นเชิง" ฉันพูดไปก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ทำไมกันนะ หรือว่าฉันจะ...

    "ฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ" ก่อนที่สติของฉันจะเตลิดเปิดเปิงไปไกล จู่ ๆ เสียงของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างหลัง และฉันก็สามารถเดาออกเลยล่ะว่าเป็นใคร เสียงที่เย็นชาแบบนี้น่ะ ก็มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นแหละ

    "พี่ธันว์..." ฉันเผลอเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจ

    "ใช่ คงจะผิดหวังสินะที่ไม่ใช่พี่แทนที่น่ารัก ใจดีของเธอ" พี่ธันว์พูดประชด

    "เอ่อ พี่ธันว์มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ" ฉันเก็บอาการความกลัว ตีหน้านิ่งก่อนจะถามเขาเสียงเรียบ

    "ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่มาตามหาเจ้าของโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้น่ะ" พี่ธันว์พูดก่อนจะชูโทรศัพท์มือถือในมือขึ้นมา โทรศัพท์ที่มีสายห้อยรูปกระต่าย เก่าๆ มอม ๆ ที่ฉันคุ้นตามานาน ใช่แล้วล่ะ มันคือโทรศัพท์ของฉันเอง

    "เอ๋ โทรศัพท์นี่มัน...." ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ของฉันคืน ทว่า เขากลับดึงมันกลับไปไว้กับตัว

    "มันคงไม่ใช่ของเธอหรอก ใช่ไหมล่ะ ดูท่าเธอคงจะกำลังรอโทรศัพท์มือถือจากพี่แทนของเธอนี่น่า เครื่องนี้น่ะ คงไม่ใช่ของเธอหรอก" พี่ธันว์พูดพลางยิ้มมุมปากน้อย ๆ อย่างเจ้าเล่ห์และเดินจากไปพร้อมกับทิ้งให้หัวของฉันหนักอึ้ง ใบหน้าแดงก่ำ มันไม่ใช่ความรู้สึกของความเขินอาย แต่ฉันกำลังโมโหผู้ชายคนนี้อยู่ต่างหาก เขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่นะ ทำไมเขาต้องแสดงท่าทางไม่เป็นมิตรกับฉันทุกครั้งที่เจอกันด้วย

    "สาบานได้เลย ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอใครที่ร้ายกาจ เย็นชา แล้วก็คิดอะไรบ้า ๆ อย่างผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย" ฉันสบถออกมาอย่างไม่พอใจ ในขณะที่วางจากข้าวมื้อเที่ยงลงบนโต๊ะอาหาร

    "ใจเย็น ๆ นะแก้ม เดี๋ยวพี่เขาคงจะเอามาให้คืนเองแหละเนาะ" นิ่มพูดปลอบใจฉันอย่างนิ่มนวล

    "แหม ก็เธอเล่นพูดออกมาซะดังเลยนี่นา ว่าเธอชอบพี่แทนมากกว่าพี่ธันว์ เขาคงน้อยใจล่ะมั้ง" ฝันกล่าวเสริม

    "จะบ้าหรอ ฉันไม่ได้ชอบพี่แทนซะหน่อย" ฉันพูดค้านพลางหลบสายตา รู้สึกว่าใจเต้นแรงผิดปกติ

    "ฮั่นแน่ะ ถ้าไม่ได้ชอบ แล้วทำไมถึงหน้าแดงขึ้นมาซะล่ะ" ฝันพูดล้อเลียนฉัน ซึ่งมันยิ่งทำให้อุณหภูมิบนใบหน้าของฉันมันสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ หรือว่าฉันจะชอบพี่แทนเข้าแล้วจริง ๆ ...

    เมื่อหมดชั่วโมงเรียน ฝันและนิ่มชวนฉันไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าที่เพิ่งเปิดใหม่ใกล้มหาวิทยาลัย แต่ฉันก็ตอบปฏิเสธไปโดยอ้างว่าติดธุระ ทั้งที่จริงแล้ว ฉันอยากจะแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว เนื่องจากวันนี้ฉันรู้สึกเบื่อหน่าย หัวเสียกับเรื่องพี่ธันว์ ซึ่งวันนี้ทั้งวัน ฉันก็เอาแต่สบถและต่อว่าเขาให้เพื่อนสาวทั้งสองฟังจนหูชา

    ฉันเดินมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่สระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย ตอนนี้ดวงตะวันเริ่มจะทอแสงลงลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มเข้ม แสงของดวงตะวันสาดลงมายังผิวน้ำให้ส่องประกาย ดูแล้วก็ชวนผ่อนคลายอารมณ์จากความขุ่นเคืองลงได้บ้าง ฉันเดินเข้ามานั่งทิ้งตัวลงที่ขอบสระ หย่อนขาแช่ลงในน้ำ รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ความเงียบถูกปกคลุมไปทั่วบริเวณ ฉันเริ่มลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่ฉันได้เจอกับพี่ธันว์ ชายที่ช่วยชีวิตฉัน แต่กลับมีทีท่าที่ไม่ค่อยเป็นมิตรและดูเย็นชากับฉันแถมยังชอบพูดจาถากถางฉันได้ตลอด และพี่แทน ชายหนุ่มใจดี สุภาพ ดูอบอุ่น ความรู้สึกของฉันในตอนนี้กำลังบ่งบอกว่า ฉันกำลังรู้สึกถูกใจในตัวของพี่แทนอยู่ ซึ่งในทางกลับกัน ฉันกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับพี่ธันว์ผู้เป็นแฝดผู้พี่เอาซะเลย

    จ๋อม...!!! เสียงเหมือนมีวัตถุอะไรสักอย่างตกลงกระทบกับผิวน้ำ ทำให้ฉันต้องสะดุ้งหันไปมองตามต้นเสียง

    "ใครน่ะ!!!" ฉันตะโกนถามพลางลุกขึ้นหมุนตัวไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง

    จ๋อม...!!! เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้งทำให้ฉันหันขวับไปมองและพบว่าอีกฝั่งของสระว่ายน้ำ มีผู้ชายร่างสูง เพรียว กำลังยืนยิ้มอย่างอบอุ่นและมองมายังที่ ที่ฉันยืน...

    "พี่แทน" ฉันเรียกชื่อพี่แทนออกมาแผ่วเบา ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อย ๆ เดินมาหาฉัน

    "กำลังอยากได้เจ้านี่อยู่ใช่ไหมล่ะ" พี่แทนชูมือขึ้น ภายในมือมีโทรศัพท์มือถือพร้อมกับที่ห้อยรูปกระต่ายมอม ๆ ที่คุ้นตา

    "โทรศัพท์มือถือของแก้ม..." ฉันพูดพลางยิ้มออกอย่างดีใจ ก่อนจะยื่นมือไปรับ

    "ขอบคุณนะคะพี่แทน" ฉันกล่าวขอบคุณพี่แทนอย่างจริงใจ

    "ธันว์ฝากมาให้น่ะ" พี่แทนบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มใจดี แต่นั่นมันทำให้ฉันกลับต้องหุบยิ้มลงในทันที ทำไมพี่แทนต้องพูดถึงผู้ชายคนนั้น คนที่ฉันไม่ชอบ คนที่ทำให้ฉันต้องรู้สึกมานั่งแย่อย่างนี้ด้วยนะ

    และเหมือนว่าพี่แทนจะเดาออกว่าฉันชักจะไม่ค่อยชอบหน้าพี่ชายฝาแฝดของเขาสักเท่าไหร่ พี่แทนจึงได้แต่ยิ้มและเอามือมาขยี้ที่หัวฉันเบา ๆ

    "ทีหลังก็ระวังหน่อยสิ" พี่แทนทำเสียงเข้ม พูดล้อเลียนพี่ธันว์ ก่อนจะหัวเราะร่วนออกมาขำ ๆ และนั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าร่างกายของฉันมันกำลังเบาหวิว ล่องลอย เสียงของจังหวะหัวใจเริ่มจะรัวไม่เป็นจังหวะ เขาจะรู้ไหมนะ ว่าตอนนี้ ฉันกำลังจะละลายไปต่อหน้าต่อตาเขาแล้ว

    "แก้ม แก้ม!!!!" พี่แทนสะกิดเรียกฉันให้ออกจากภวังค์

    "อ๊ะ คะ!!!" ฉันสลัดหน้าสองสามทีก่อนจะขานรับอย่างตกใจ

    "ไม่สบายเหรอ หน้าแดงเชียว" พี่แทนพูดพลางเอามือทั้งสองข้างมาแนบที่แก้มของฉัน และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก หัวใจเต้นแรงหนักกว่าเดิมจนแทบจะออกมาเต้นข้างนอก รู้สึกได้เลยว่าตอนนี้หน้าฉันมันคงจะเปลี่ยนสีจนกลายเป็นสีแดงเข้มไปแล้วแน่ ๆ

    "อะ เอ่อ...มะ ไม่ได้เป็นอะไรค่ะพี่แทน" ฉันค่อย ๆ ดึงมือเขาออกและรีบก้มหน้างุดพร้อมกับบอกปัดไปในทันที ฉันแอบได้ยินเสียงพี่แทนหัวเราะในลำคออย่างแผ่วเบา ในตอนนี้ ฉันคงจะดูน่าตลกมาก ๆ แน่เลย

    "เอ้อ นี่มันก็เย็นมากแล้วนะ เราไปหาอะไรกินกันไหม เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง" ฉันเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเชิญชวนจากพี่แทน

    "ไปกันเถอะ" ยังไม่ทันได้ตอบอะไร พี่แทนก็เป็นฝ่ายจูงมือฉันออกมาจากสระว่ายน้ำก่อนจะพาไปขึ้นรถในทันที

    เรามาถึงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง มีลักษณะในการจัดแต่งเหมือนเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ดูอบอุ่น ประดับด้วยต้นไม้นานาชนิด บรรยากาศชวนเพลิดเพลินไปพร้อมกับเสียงของไวโอลินที่นักดนตรีภายในร้านกำลังบรรเลงอยู่บนเวทีสร้างความรื่นรมย์ให้แก่ลูกค้าภายในร้านเป็นอย่างดี

    พี่แทนพาฉันมานั่งอยู่ตรงริมระเบียงชั้นสองของร้าน จากมุมนี้ ฉันสามารถมองเห็นบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยบึงขนาดใหญ่ กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้ที่ปลูกตามรั้วระเบียง และแสงนวล ๆ ที่ส่องสว่างจากดวงจันทร์ และดวงดาวที่ค่อย ๆ ขึ้นมาเรียงรายบนท้องฟ้าสีครามในยามตะวันตกดิน

    "ชอบหรือเปล่าครับ" พี่แทนถามอย่างสุภาพ ส่วนฉันก็ละสายตาจากการชื่นชมธรรมชาติ เปลี่ยนมาเป็นการจ้องมองที่ดวงตาของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า รู้สึกได้ว่า ฉันกำลังควบคุมสติไม่อยู่ ฉันมองตาพี่แทนราวกับคนที่ถูกสะกดจิต

    "ชอบค่ะ" ฉันตอบออกไปโดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่า สิ่งที่ฉันตอบ มันหมายถึงบรรยากาศของที่นี่ หรือคนที่พาฉันมาที่นี่กันแน่...

    "ที่นี่เป็นที่ที่พ่อกับแม่พี่พามาตอนเด็ก ๆ พี่ชอบที่นี่มากเลยนะ" พี่แทนเป็นผู้เปิดเรื่องสนทนาหลังจากที่ฉันเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา

    "ตอนเด็ก ๆ น่ะ พี่กับธันว์ชอบลงไปวิ่งเล่นตรงสวนข้างล่างนั่นล่ะ" พี่แทนชี้นิ้วไปตรงสวนข้างล่างที่มีชิงช้าไม้ห้อยลงมาจากกิ่งของต้นไม้ใหญ่ และม้าโยกที่ทำมาจากไม้ ซึ่งดูจากสภาพ มันก็คงจะเก่ามากแล้ว

    "มีครั้งหนึ่งที่พี่กับธันว์ลงไปเล่นที่นั่น แล้วไปเจอเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังรังแกน้องหมาอยู่ ธันว์ทนไม่ได้เลยเข้าไปห้าม  ธันว์ลงทุนอุ้มน้องหมาไว้กับตัวเพื่อป้องกันไม่ให้มันถูกทำร้าย แต่แล้ว ธันว์ก็โดนเด็กพวกนั้นรุมเตะจนตัวมอม ได้แผลไปทั้งตัวเลยล่ะ แต่สุดท้าย ธันว์ก็ขอพ่อให้เก็บน้องหมาตัวนั้นกลับไปเลี้ยงจนได้ ตอนนี้น่ะ มันตัวโตจนแทบจะชนพี่ล้มแล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ" พี่แทนพูดด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขกับวันวาน ส่วนฉันเองก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายเย็นชา ปากร้าย แข็งกร้าวอย่างพี่ธันว์ จะมีมุมที่ใจดีแบบนั้นด้วยน่ะเหรอ

    "ขอบคุณมากนะคะพี่แทน มื้อเย็นวันนี้อร่อยมาก ๆเลยค่ะ " ฉันกล่าวขอบคุณพี่แทนก่อนจะลงจากรถ ซึ่งหลังจากกินข้าวมื้อเย็นเสร็จ เขาก็อาสามาส่งฉันที่หอพัก

    "ไว้ถ้าชอบ พี่จะพาไปใหม่นะ ฝันดีนะครับ" พี่แทนพูดอย่างใจดี ก่อนจะบอกลาและขับรถออกไป

    ฉันมองตามรถของพี่แทนไปจนสุดสายตา ก่อนจะหันหลังกลับมา อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ วันนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นวันที่แย่ที่สุดสำหรับฉัน แต่แล้วก็กลับกลายเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุด ฉันเริ่มจะมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้วล่ะ ว่าฉันน่ะ...กำลังชอบพี่แทนเข้าซะแล้ว

    ฉันเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางร่าเริง ฮัมเพลงเบา ๆ แล้วทิ้งตัวลงนอน ในหัวของฉันตอนนี้มีแต่ภาพของพี่แทนอยู่เต็มไปหมด ภาพใบหน้าที่เรียวเล็ก ริมฝีปากสีชมพูที่กำลังยิ้มอย่างอบอุ่น สายตาที่อ่อนโยนคู่นั้น ฉันกำลังเพ้อถึงพี่แทนเข้าแล้ว ฉันรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้หน้าของฉันกำลังแดงขึ้น ๆ ปากของฉันกำลังฉีกยิ้มแบบไม่ยอมหุบ รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ

                    ตื๊ดดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดดดดด...

    ในขณะที่ฉันกำลังเพ้อฝันอย่างมีความสุขอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นขัดจังหวะ ฉันจึงเด้งตัวไปหยิบมันขึ้นมาดูอย่างหัวเสียเล็ก ๆ

    เบอร์โทรศัพท์ที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอนี้ เป็นเบอร์ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย อยากจะรู้จริง ๆ ว่าเป็นใครกันนะ ที่มาขัดจังหวะความสุขของฉันแบบนี้

    "ฮัลโหล" ฉันรับสายโทรศัพท์เสียงห้วน

    "คงจะยิ้มแก้มปริเลยสินะ ยัยเปิ่น" เสียงปลายสายพูดออกมาอย่างเรียบ ๆ แต่ลงท้ายด้วยสรรพนามที่ใช้เรียกฉันว่า 'ยัยเปิ่น'

    "ใครน่ะ" ฉันถามด้วยเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ อารมณ์ฉุนเริ่มกลับมาเยือนอีกครั้ง

    "วันนี้คงจะมีความสุขแล้วล่ะสิ เธอต้องขอบคุณฉันนะ ที่ยอมปล่อยให้น้องชายของฉันทิ้งร้านเพื่อไปนั่งกินข้าวกับเธอน่ะ" ปลายสายพูดพลางหัวเราะในลำคอ

    "พี่ธันว์..." หลังจากได้ยินปลายสายพูดจบ ฉันจึงรู้ได้ทันทีว่าเขาคือใคร

    "ใช่ ฉันเอง" พี่ธันว์ตอบกลับ

    "พี่เอาเบอร์แก้มไปได้ยังไง แล้วพี่โทรมา ต้องการอะไร" ฉันถามแบบเริ่มขึ้นเสียงเล็กน้อย

    "ฉันก็แค่จะโทรมาบอกว่า เธอควรจะขอบคุณฉัน ทั้งเรื่องที่ฉันเก็บโทรศัพท์ของเธอได้ แถมยังปล่อยให้น้องชายของฉันทิ้งร้านเพื่อเอามันไปคืนเธอ แล้วยังไปนั่งกินข้าวกับเธออีก" น้ำเสียงเรียบ ๆ นั่นดูกวนประสาทฉันมากในตอนนี้ ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเก็บอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา

    "พี่ต้องการจะโทรมาบอกแค่นี้ใช่มั้ยคะ" ฉันถามกลับเสียงเรียบเฉย กดอารมณ์เอาไว้

    "พรุ่งนี้ไปที่สระว่ายน้ำ ฉันจะรอเธอที่นั่น เท่านี้แหละที่ฉันจะบอก" พูดจบ พี่ธันว์ก็ตัดสายไป ส่วนฉันที่เก็บความรู้สึกโมโหไว้นานจนทนไม่ไหว ก็ถึงกับระเบิด หยิบหมอนขึ้นมาชกรัวอย่างไม่ยั้งมือ พร้อมกับสัญญากับตัวเองว่า พรุ่งนี้ ฉันจะไม่มีทางไปตามนัดเป็นอันขาด!!!!เดินชนเสากนพอดนพเ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×