คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : (Short story เพลิงภพxพีระพล) Bus...Stop(ยังไม่จบ)
หกโมงเย็นแดดแรงลดแสงลงเหลือเพิ่งสีส้มระบายท้องฟ้า หนึ่งในช่วงจลาจลคัลคลั่ง
ป้ายรถเมล์กลายเป็นจุดศูนย์รวมโดยไม่ได้นัดหายของมหาชนชาวกรุง หนึ่งในประกอบด้วย
หนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ดนาม พีระพล เครื่องแบบนักเรียนสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินของเขา
ดูแปลกแยกกับเด็กช่างกลหน้าโหด ดิบ เถื่อนรอบตัวอย่างเห็นได้ชัด ราวกับแกะน้อยกลางดง เสือ สิงห์
กระทิง แรด เรียกได้ว่าอยู่ผิดที่ผิดทางจริงๆ
แต่เจ้าตัวหาได้สนใจไม่ เมื่อดวงตาเรียวหลังกรอบแว่นของหนุ่มน้อยลอบกวาดมองกลุ่มเด็กช่างซึ่งจับกลุ่มคุยส่งเสียงดังอย่างมาเกรงใจใครตามประสาขาโจ๋ขาใหญ่ ปากอิ่มคลี่ยิ้มบางเมื่อพบเป้าหมาย คนที่พีระพลแอบตั้งสมญาว่า “นายตาขวาง” ซึ่งมาจากใบหน้าและดวงตาดุดันปานเหยี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์เครื่องหมายการค้าของคนๆนั้น
แน่นอนว่าพีระพลไม่เคยรู้จักหนุ่มช่างกลหน้าเถื่อนตาดุทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
ทั้งสองจึงเป็นเพียงคนที่บังเอิญรอรถเมล์ป้ายเดียวกัน นั่งรถเมล์คันเดียวกันบ่อยๆ
แค่คนที่มาอยู่สถานที่เดียวกันในเวลาเดียวกัน ต่างคนต่างมีจุดหมายคนละที่มีจุดประสงค์คนละอย่าง...ก็เท่านั้น
หากแต่แวบแรกที่สายตาประสานกันประหนึ่งไฟฟ้ารั่วแล่นปราดไปทั่วร่างของพีระพลจนชา
หลังจากนั้นโดยไม่รู้ด้วยดวงตาเจ้ากรรมกลับค่อยแต่สอดส่องหาเจ้าของตาตมดุอยู่ร่ำไป
ทามกลางผู้คน นายตาขวางของหนุ่มพีกลับโดดเด่นจับตาราวกับมีแสงไฟจับอยู่ตลอดเวลา
ทั้งกล้าทั้งกลัวจึงทำได้แค่แอบมองอยู่ทุกวัน ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออก หนุ่มพีเป็นต้องพาตัวเองมาที่ป้ายรถเมล์
หน้าโรงเรียนช่างกลตามใจเรียกร้องจนได้ แค่ได้มองห่างๆแล้วกลับบ้านด้วยความปราบปลื้มยินดี
แต่วันไหนหนุ่มตาดุเล่นตัวไม่โผล่มาให้แอบมองหนุ่มพีเป็นต้องคอตกกลับบ้านด้วยจิตใจห่อเหี่ยว
วันนี้เป็นอีกวันที่พีระพลสมหวัง หากแต่รอยฟกช้ำบนใบคมทำให้พีระพลขมวดคิ้วอย่างไม่
ชอบใจด้วยสายเลือดหมอในตัวทำให้ไม่ใคร่ชอบเห็นใครเจ็บไข้ได้ป่วย ช้ำยังถูกปลูกฝังให้นึกถึงความปลอดภัยในชีวิตมาเป็นอันดับแรก จึงอดเป็นห่วงเป็นใยคนเจ็บไม่ได้
ไปตีกับใครเขามาอีกแล้ว ดูสิ! หน้าตาช้ำหมด ยุบยาทาคงไม่ได้ทา แผลบวมเบ่งเชียว
ไม่เข้าใจทำไมถึงชอบหาเรื่องเจ็บตัวนักนะ
คันไม่คันมือร่ำๆจะหยิบชุดปฐมพยาบาลพกพาออกจัดกาแผลบนใบหน้าคมให้รู้แล้วรู้รอด
รถเมล์แล่นมาแทบท่าคนแยกขึ้นแย่งลงน่าเวียนหัว กลุ่มเด็กช่างของนายตาขวางเดินขึ้นรถอย่างสบายๆ
เพราะฝูงโดยสารต่างหลีกทางให้ด้วยความเกรงกลัวไม่อยากมีเรื่อง
ผิดกลับพีระพลที่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนตะเกียดตะกายเพื่อขึ้นรถเมล์คันเดียวกัน
กลุ่มเด็กช่างจับจ้องที่นั่งด้านหลังจนหมดที่นั่งทุกที่ถูกจับจ้องหนุ่มพีจึงจำต้ออาศัยราวโหนอย่างเลียงไม่ได้
ทำให้ไม่เห็นสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องแผ่นหลังของตนอยู่
ร่างโปร่งยืนหันหลังให้หนุ่มตาขวางที่นั่งตรงกลางของเบาะหลังสุดท่ากลางเพื่อนฝูง ท่อนแขนแข็งแกร่งกอดนิ่งอยู่ทีหน้าอก ใบหน้าหล่อดิบแบบแบดบอยของเพลิงภพมองตรงด้านหน้าจับจ้องร่างโปร่งของ “เจ้าเด็กเรียน”
เห็นมาหลายวันแล้วว่าไอ้เจ้าเด็กเรียนที่ชอบแอบมองเขาทุกครั้งที่คิดว่าเขาไม่รู้ตัว
ตอนแรกก็ไม่รู้หรอก แต่เพื่อนมันเห็น...มันเลยสะกิดบอก
นึกว่าแฟนกิ๊กคนไหนมากดักหาเรื่อง คิดว่างานเข้า แต่ดูแล้วไม่น่าใช่
เพราะท่าใช่มันคงเข้ามาหาเรื่องนานแล้ว แต่นี้เอาแต่แอบมองไม่เห็นจะทำอะไร
อยากมองก็มองไป...ตัวบางๆอย่างนี้ลองเข้ามาหาเรื่องพ่อจะสอยร่วง
แหม่ง! วันๆแดกไรเข้าไปบ้างว่าตัวอย่างกับแผ่นไม้อัด
ไม่ต้องใช้เลื่อย มือหักก็ขาดสองท่อนแล้ว
แต่มั้ยสาวๆชอบมองมันนักว่ะ หล่อตรงไหนหน้าจืดๆขาวๆซืดๆอย่างนั้น
ความคิดของเพลิงภพวนเวียนอยู่ที่ร่างโปร่งที่ยืนหันหลังห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว
เอี๊ยดดดดดดดดดดด!
ระบบเบรกอันทันสมัยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสียงห้ามล้อดังสนั่นประสานกับเสียงกรีดร้องพร้อมแรงเหวี่ยงที่ทำให้ร่างของคนที่ยืนอยู่โล่ไปข้างก่อนจะเด้งกลับหลังอย่างแรงจนมือหลุดจากที่จับยึดเซถลาหงายหลังไปถึงท้ายรถ
ราวกับฉากโรแมนติกในหนังรักที่นางเอกสะดุดล้มลงในอ้อมกอดของพระเอกอย่างพอดิบพอดี
แต่ว่า...พีระพลไมใช่นางเอกสาวน้อยร่างบาง และ เพลิงภพไมใช่พระเอกรูปหล่อน้ำใจงาม
สุดท้ายภาพผู้ชายสองนั่งตักกันก็ไม่ใช่ภาพน่ารักน่าดูสักกะนิด
หากมีเพียงสองคนที่สัมผัสกันเท่านั้นที่รู้สึกถึงกระแสไฟอ่อนๆที่แล่นผ่านผิวเนื้อของกันและกัน
ให้เพียงมองสบตากันโดยไม่รู้ตัว เมื่อตาสบตาจากกระแสไฟอ่อนกลับเพิ่มดีกรีเป็นถ่านไฟร้อน
ให้ต้องรีบดีดตัวผละออกราวต้องของร้อน
“ข...ขอโทษครับ”
พีระพลระร่ำระส่ำเอยปากคอสั่นพอๆกับหัวใจที่เต้นเร็วจนผิดจังหวะ
“............”
อีกฝ่ายนิ่งเงียบไม่เอยกระไรผิดกับจังหวะหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน
สัมผัสนุ่มกับกลิ่นหอมอ่อนๆของร่างโปรงยังไม่จากหาย
ความเงียบกับดวงตาดุดันทำให้พีระพลใจเสีย กลัวอีกฝ่ายไม่พอใจจนแขงขาสั่น เพราะภาพยามคนตาขวงออกอาการบ้าคลั่งใส่คู่อริเวลาวิวาทยังติดตาเหตุการณ์การพบกันครั้งแรกแสนประทับใจมีวันเลื่อนจากความทรงจำของพีระพลไปจนวันตายแน่
“อะไรว่ะไฟ?”
หนึ่งในกลุ่มเด็กช่างหน้าเถื่อนถาม มองสลับระหว่างเพื่อนของตนกับเด็กต่างโรงเรียน
พร้อมมีเรื่องทันทีที่ต้องการ
“ไม่มีไร แล้วตกลงว่าเรื่องนั้นว่าไงว่ะ....”
เพลิงภพส่ายหน้า หันคุยกับเพื่อนไม่สนใจร่างโปร่งอีกต่อไป ให้อีกคนมองตาปริบๆ
ด้วยความโล่งใจ ประจบเหมาะเมื่อถึงที่หมายพอดิบพอดี เมื่อรถจอดสนิทร่างโปร่งจึงถึง
โอกาสเดินลงรถปะปนกับผู้โดยสารคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว
...................................................................................................................................................................
เวรกรรม!
พีระพลยืนหน้าเครียดหลังจากสำรวจข้าวของของตัวเองแล้วพบว่ากระเป๋าสตางค์หายไป
เทกระเป๋าหาแล้วก็ไร้วี่แวว เด็กหนุ่มร่างโปร่งถอนหายใจกลุ้มทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง
หมด! ไม่เหลือสักแดงเดียว ถังแตกของแท้ไอ้พี
“ทำไงดี?”
อีกหลายวันกว่าจะสิ้นเดือนอันเป็นเวลาที่คุณแม่ผู้คุ้มรายจ่ายของบ้านจะจ่ายเงินเดือนให้คุณสามีและลูกๆ
สุดท้ายพีระพลจึงหันหน้าไปหาที่พึ่งสุดท้าย
เด็กหนุ่มเดินไปยังห้องนอนที่อยู่ตรงข้าม มือเรียวเคาะประตูพอเป็นพิธีก่อนจะเปิดประตูเข้าไปยิ้มหวานให้เจ้าของห้องที่นอนเอกเขรกอ่านหนังสือการ์ตูนอย่างสบายใจอยู่บนเตียงใหญ่
“พี่ยืมตังค์หน่อยดิ”
...................................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น