ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Short story] เรื่องสั้นตามอารมณ์ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #3 : (Short story ตังค์xโจ) ลอยกระทง.....งานนี้ต้องโทษพระจันทร์เต็มดวง!

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 52


    ลอยกระทง.....งานนี้ต้องโทษพระจันทร์เต็มดวง!

     

    วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำก็นองเต็มตาหลิ่ง พวกเราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริงวันลอยกระทง~ 

     

    เสียงเพลงบ่งบอกถึงเทศกาลที่กำลังเกิดขึ้นดังแว่วมาจากวิทยุเครื่องเล็กของร้านขายกระทงที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง

    บริเวณท่าน้ำหน้าตลาดวโรรส หรือ กาดหลวงของชาวเชียงใหม่ ซึ่งเวลานี้แน่นขนัดไปด้วยผู้คนหลากหลายที่พากันมาร่วมเทศกาลลอยกระทง บางมาเป็นครอบครัว บางมากับคนรัก หรือกลุ่มเพื่อนที่พากันเฮฮาตามภาษาวัยรุ่น

    โดยไม่หวั่นกับอากาศที่หนาวเย็นแต่อย่างใด

     

    พิทวัส หรือโจ มองภาพความสนุกสนานตรงหน้าอย่างเพลิดเพลิน ดวงตาเรียวเล็กตามเชื้อสายจีนเปล่งประกายอย่างเด็กเล็กๆที่รักสนุก โจชอบงานรื่นเริงทุกประเภทมีความสุขที่ได้พบปะผู้คนจึงไม่แปลกที่ใครๆเรียกเขาว่าเป็นหนุ่มสังคม ผิดกลับเพื่อนรักอย่างเตสิทธิ์ที่ชอบเก็บตัวอยู่เงียบๆ อย่างตอนนี้เจ้าตัวก็เดินตามเข้าอย่างเงียบๆเหมือนอย่างทุกครั้งที่โดนเขาตามลากตามฉุดไปไหนมาไหนด้วย

     

    พิทวัสรู้ว่าเพื่อนรักไม่ชอบเข้าสังคมไม่ถนัดในการพบปะผู้คนแต่ทุกครั้งที่เขาขอร้อง(แกมบังคับ)ให้เตสิทธิ์ไปเป็นเพื่อนแม้เจ้าตัวจะบอกว่าไม่ชอบใจแต่ก็ไม่เคยมีคำปฏิเสธมาให้เคืองเลยสักครั้ง

     

    ครั้งนี้ก็เช่นกันพอบอกว่าอยากมาเที่ยวงานลอยกระทงที่เชียงใหม่ ตอนแรกเจ้าเพื่อนรักก็ทำเป็นบ่น สุดท้ายก็เป็นมันนั้นแหละจองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ให้เสร็จสรรพ พร้อมที่พักอย่างหรู แถมฟรีอีกต่างหาก อะไรมันจะสบายขนาดนี้ คราวหน้าให้พาไปทัวร์ยุโรปท่าจะดี

     

    พิทวัสนึกขำๆ มองไปทางร่างสูงของเพื่อนรักใบหน้าหล่อเหล่ากระชายใจสาว(และชาย)ยังคงนิ่งสนิทติดจะหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะต้องเดินเบียดเสียดกับผู้คน เจ้าตัวคงไม่รู้ไอ้ที่เบียดๆนะเขาตั้งใจมาเบียดทั้งนั้น

    ไม่ใช่แค่ใบหน้า รูปร่างสูงสมส่วนภายใต้เสื้อไหมพรมคอเต่าสีดำทับด้วยเสื้อกันหนาวสีน้ำตาล กางเกงยีนส์สีซีด

    นั้นก็ชวนมองไม่แพ้กัน

     

    ขำอะไรไอ้โจ!”

    เพื่อนรักถามน้ำเสียงหาเรื่อง หน้าตาบ่งบอกมากว่าไม่สบอารมณ์

     

    เปล่า ไม่ได้ขำสักหน่อย โจบอกเสียงสูงพลางยักไหล่

     

    เพราะมั่วแต่ต่อล้อต่อเถียงกับเพื่อนรักโจจึงไม่ทันเห็นว่ามีคนจุดประทัดเล่นตรงทางที่พวกเขากำลังจะเดินผ่าน

     

    ระวัง!”

     

    ร่างสองร่างแนบชิดกันด้วยแรงดึงของเตสิทธิ์ สองสายตาประสานกันในเวลาสั้นๆ แว่วเสียงหัวใจใครบางคนเต้นดังตึกตักแข่งกับเสียงประทัด ก่อนพิทวัสจะเป็นฝ่ายถอยออกมาส่งยิ้มขอบคุณให้เพื่อนรัก

     

    ขอบใจว่ะ ตังค์

     

     

    อีกแล้ว

     

    ใจเต้นอีกแล้ว

     

    โจหนุ่มตี๋หน้าขาวเดินคิ้วขมวดเดินนำหน้าเพื่อน ด้วยความสับสนใจในอาการแปลกๆของตน

    พักหลังๆนี้เขามักจะใจเต้นยามเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับไอ้ตังค์เพื่อนรักที่สนิทกันมานาน มันเหมือนกับตอนที่เขารู้สึกยามอยู่ใกล้กับสาวน้อยที่เป็นรักครั้งแรก

     

    แต่นี้....กับเพื่อนรัก....ที่เป็นผู้ชาย

     

    หลายปีดีดักที่คบกันมาไม่ยักจะเป็น หรือเพราะช่วงหลังๆมานี้ไอ้ตังค์มันชอบทำตัวแปลกๆ

     

    จะรีบเดินไปไหน เดี๋ยวก็หลงหรอก!”

     

    เสียงทุ้มดังมาจากข้างตัวพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆจากมือเจ้าของเสียงที่กอบกุมมือเขาไว้

     

    นี้ไงที่ว่ามันทำตัวแปลกๆ  จับมือ โอบไหล่ โอบเอวเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะถ้ามีใครแปลกหน้าเข้ามาคุยกับเขาล่ะก็

    ไอ้เพื่อนรักเป็นต้องมายืนขนาบทันทีราวคู่ปาท๋องโกทันที

     

    แล้วยัง......

     

    หนาวเหรอมือเย็นหมดแล้ว บอกให้ใส่ถุงมือก็ไม่เชื่อ

     

    ว่าแล้วมือของเขากับมือของมันก็หายเข้าไปซุกในกระเป๋าเสื้อกันหนาวอุ่นๆของคนพูด

     

     

    เอาใจใส่ อ่อนโยนเป็นพิเศษในบ้างครั้ง

     

    คนโดนขโมยมือ(?)หันไปมองหน้าหัวขโมยด้วยความสับสนมึนงงในหัวใจ ใบหน้าหัวขโมยยังคงความสงบ

    ไร้สึกสิ่งแสดงความรู้สึกใดๆ ตรงข้ามกับคนมองที่รู้สึกร้อนๆที่บริเวณใบหน้า

     

    ถึงไม่มีใครสังเกตแต่ท่ามกลางผู้คน ผู้ชายสองคนมาเดินจับมือกันมันก็....นะ

     

    มีไรมองหน้าอยู่ได้ เดี๋ยวก็จูบเสียหรอก

     

    นี้ก็อีกคำพูดแปลกๆ อืม...มันหมายความว่าไง?

     

    แน่จริงก็จูบเลยดิ   ง่ะ! คิดอะไรออกไป

     

    บ้า! แค่จะบอกว่าอยากได้กระทง จะลอยกระทง

     

    ก็แก้ตัวกันไป แต่เห็นคุณป้านั่งขายกระทงอยู่ไม่ไกลเลยเดินไปอุดหนุดกระทงใบตองสวยมาอันหนึ่ง

    ควักตังค์จ่ายแบบไม่รอเงินทอน แล้วเดินตรงไปที่ท่าน้ำไม่ได้สนใจอีกคนที่ตามมา

     

    ร่างสูงโปร่งของอาตี๋โจนั่งลงยกกระทกพนมมือตั้งจิตอธิฐานขออภัยต่อเจ้าแม่คงคาร่วมทั้งขอพรให้ชีวิตมีความสุขปลดความทุกข์ให้ลอยไปกับกระทง กำลังจะปล่อยกระทงน้อยลงน้ำ แต่มือใครบางคนกับหยุดไว้เสียก่อน

     

    ไอ้เพื่อนตังค์จุดไฟแช็กเกิดเปลวไฟสีส้มก่อนจะจุดธูปและเทียนบนกระทงให้สว่าง

     

    ก่อนลอยเขาต้องจุดธูปเทียนก่อนไม่รู้หรือไง?”

     

    ก็ไม่รู้นิ  พอดีไม่ใช่คนแถวนี้อ่ะ

     

    แล้วมึงไม่ลอยเหรอ?” เห็นอีกคนไม่มีกระทงในมือจึงเอยถามด้วยความสงสัย

     

    อันเดียวก็พอแล้ว เดี๋ยวนี้เขารณรงค์ลดโลกร้อน ครอบครัวเดียวลอยอันเดียวก็พอ ช่วยกันลดขยะไง

     

    อืม....มีเหตุผล

     

    แต่...กูเป็นครอบครัวเดียวกับมึงตั่งแต่เมื่อไรว่ะ

     

    ไม่อยากเปลืองเงินซื้อก็บอกมาเถอะ

    เขาว่า ไอ้เพื่อนตัวดีหัวเราะเบาๆอย่างที่มันชอบทำเวลาแกล้งยั่วเขาได้

     

    ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงเดียวจะไม่ทันได้ลอยกระทงแต่จะถีบคนลงน้ำแทน

    สองเราจึงช่วยกันประคองกระทงน้อยลงน้ำ

     

    กระแสน้ำพัดพาเจ้ากระทงน้อยลอยไปตามน้ำตามกระทงอื่น แสงจากเปลวเทียนสะท้องในท้องน้ำ

    ระยิบระยับดูสวยงามน่าดูยิ่งนัก เงยหน้ามองบนฟ้าก็เขาปล่อยโคมลอยกันเต็มไปหมดแทนที่ดวงดาวที่ถูกกลบด้วงแสงของพระจันทร์เต็มดวงชวนมองกระจ่างตา คุ้มค่าอุตส่าห์ที่ถ่อมาถึงเชียงใหม่

     

    หันไปมองคนข้าง ดวงตาสีนิลกลับจ้องอยู่แล้ว แสงจันทร์สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่สวยส่องประกายวิบวับไม่เหลือแววดุดันเช่นเคยกับมีบางสิ่งสื่อมาให้ใบหน้าคนมองร้อนผ่าวจนต้องหลบตา แต่นิ้วเรียวกับจับปลายคางไว้ให้ริมฝีปากบางเฉียบโฉบลงมาแนบกับปากสีสดแล้วผละอย่างรวดเร็ว จนคุณอาจพลาดหากกระพริบตา

     

    แม้แต่คนโดนจุ๊บเองยังงงเบลอ เหมือนอาการไฟตกที่อยู่ๆก็วูบแล้วก็กลับมาปกติอย่างรวดเร็ว

     

    ลอยกระทงเสร็จแล้วกลับกันเถอะ ง่วงแล้วว่ะ

     

    ไอ้ตังค์เอยชวน

     

    ด้วยความมึนๆงงๆจึงพยักหน้าตอบตกลงกลับแต่โดยดี

     

    เราเดินกลับโรงแรมผ่านถนนไนส์บาร์ซ่า ที่คึกคักได้ด้วยร้านร่วงและผู้คนนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ

    จนกระทั้งถึงที่พักซึ่งตั้งอยู่ในยานการค้านี้เอง เข้าห้องได้ไอ้เพื่อนรักก็ทิ้งตัวนอนทันที

     

    ส่วนโจยังมีเรื่องคาใจให้ต้องถามเพื่อนรักให้รู้เรื่องก่อน อาตี๋ยืนนิ่งจ้องมองเพื่อนอยู่เป็นนาน เกิดอาการอยากรู้แต่ไม่อยากถามขึ้นมาเสียงั้น จนคนโดนจ้องเองที่ทนไม่ไว้

     

    เตสิทธิ์ลุกขึ้นนั่งดวงตาคมดุมองเพื่อนรักที่หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนคนถ่ายไม่ออกมาหลายวัน

     

    มีไรว่ามา ไอ้โจจ้องอยู่ได้หลับไม่ลงเลย

     

    ง่ะ มีไรเหรอ? ไอ้มีมันก็มีหรอกนะ แต่ถามไปมันจะดีเหรอ?  ถามดี ไม่ถามดี

    ถามไปให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า ไม่ชอบอะไรที่มันค้างๆคาๆ

     

    ที่ท่าน้ำ มึง...จ...จูบกูทำไม

     

    สิ้นคำถามบังเกิดความเงียบชั่วขณะ

     

    เพราะพระจันทร์เต็มดวงไง

     

    หนุ่มหล่อตาดุตอบก่อนจะกลับไปนอนหลับเหมือนเดิม

     

    เป็นคำตอบที่ช่วยให้ความกระจ่างมากทีเดียว กระจ่างมากๆ กระจ่างเสียจน โจอยากบีบคอคนตอบให้ตายไปเลย

     

    เพราะพระจันทร์เต็มดวง!

     

    งั้นที่กูใจเต้นแปลกๆกับมึงก็เพราะพระจันทร์เต็มดวงใช่มั้ย?

    ที่กูเห็นมึงอบอุ่นอ่อนโยนเนี้ยะก็เพราะพระจันทร์เต็มดวงใช่หรือเปล่า?

     

    ไอ้ตังค์

     

    สรุปว่า........งานนี้ต้องโทษพระจันทร์เต็มดวง!

     

    จบ!

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×