คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : (Short story เพลิงภพxพีระพล) Bus...Stop ต่อครั้งที่ 7
เพลิงภพยืนมองไฟท้ายรถที่ห่างออกจนลับตา ใบหน้าคมเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น สองแขนตกนิ่งข้างกาย เขาโทษตัวเองที่ใจอ่อนยอมแพ้ให้ความต้องการดิบเถื่อนของร่างกายจนทำให้พีระพลต้องมาเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น ความลับที่ตั้งใจจะปิดไว้ตลอดชีวิตกลับถูกพบอย่างง่ายดาย
“เด็กคนนั้นกลับไปแล้วสินะ” น้ำเสียงคล้ายเยาะดังขึ้นทางตามหลังเด็กหนุ่มตาคมดุ
เพลิงภพหันควับไปมองคนพูดด้วยสายตาวาววับดุดัน แต่เอกยังคงพูดต่อโดยไม่นำพาสายตานั้น
ขณะเดินล้วงกระเป๋าเข้าหาเขาด้วยท่าทางสบายๆ
“เขาไม่เหมาะกันไฟหรอก ท่าทางหัวอ่อนว่าง่ายอย่างนั้นนะ”
“เหมาะหรือไม่เหมาะ มันเรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับคุณ”
เพลิงภพตะวาดใส่อีกฝ่ายไม่กลัวใครจะได้ยินเพราะเลยร้านปิดมามากแล้ว แถบชานเมืองเช่นนี้ผู้คนกลับเข้าบ้านเร็วจึงไม่ใคร่มีผู้คนผ่านมาทางนี้สักเท่าไรในเวลาค่อนข้างดึกเช่นนี้
แม้อีกฝ่ายจะโกธรเป็นไฟ หากเอกรินกลับทำใจเย็นเข้าโอบกอดน้องชายต่างสายเลือดจากทางด้านหลัง พลางเอยกระซิบเสียงหวานข้างหู
“เกี่ยวสิ เกี่ยวมากด้วย ก็พี่รักไฟ เรารักกันไม่ใช่เหรอ?”
พูดเสร็จริมฝีปากร้อนก็แนบลงต้นคอขาวอย่างคุ้นเคยด้วยรู้ดีว่านี้คือจุดอ่อนของคนในอ้อมกอด
“เรื่องมันผ่านมานานแล้ว จบมานานแล้วด้วย พี่เป็นคนบอกเลิกผมเอง ลืมแล้วหรือไง?”
เพลิงภพหลับตาภาพความทรงจำอันเจ็บปวดเมื่อสองปีก่อนผุดขึ้นมาจากความทรงจำที่ฝังลึกในใจ
เอกรินเป็นรุ่นพี่ที่โด่งดังในโรงเรียนเป็นคนที่ไม่ว่าเด็กสาวหรือเด็กหนุ่มพากันหลงใหล ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา
คารมคมคาย และความสุภาพอ่อนโยนที่เจ้าตัวแสดงออกต่อทุกคน ซ้ำยังเป็นนักเรียนดีเด่นที่เหล่าครูอาจายร์ต่างชื่นชม ตรงข้ามกับกวนเด็กป่วนของเพลิงภพที่ค่อยแต่สร้างความปั่นป่วนให้ครูปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันจนต่างส่ายหน้าเอือมระอาเป็นทิวแถว แม้แต่ครูฝ่ายปกครองที่ว่าแน่นยังต้องยอมยกธงขาว และมอบหมายให้เอกรินซึ่งดำรงตำแหน่งประธานนักเรียนช่วยดูแลแทนหวังอาศัยระบบรุ่นพี่รุ่นน้องอันแข็งแกร่งของโรงเรียนเข้าช่วย
ในตอนแรกเพลิงภพตั้งป้อมเป็นศัตรูกับเอกรินอย่างชัดเจน ไม่ยอมอ่อนข้อหรือเชื่อฟังอย่างรุ่นน้องคนอื่นๆ
แต่เอกรินก็มุ่งมั่นที่ทำหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายให้สำเร็จจนลุล่วงให้จงได้ จึงตามจับตามจิกรุ่นน้องจอมป่วนอย่างเพลิงภพโดยไม่ลดละเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันกลายเป็นความท้าทายให้เอาชนะ อีกฝ่าย
จนกระทั้งต่างมีความรู้สึกพิเศษให้แก่กันโดยไม่รู้ตัว และเมื่อความรู้สึกนั้นมันรุนแรงมากขึ้นทั้งสองจึงไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกนั้นได้อีกต่อไป
ความรู้สึกที่เรียกว่า...ความรัก ซึ่งเป็นความลับระหว่างคนสองคนเท่านั้น เมื่อมันเป็นความรักที่ผิดแปลก
ไปจากความรักอย่างชายหญิงทั่วไป กระนั้นความรักของเพลิงภพและเอกรินเติบโตอย่างรวดเร็วลึกซึ้งและร้อนแรงจนแทบจะแผดเผาทั้งสองให้มอดไหม้ไปกับไฟรักที่ต่างสุ่มให้กันและกันจนลุกโชน
แต่แล้วมันกลับจบอย่างง่ายดายในวันที่เอกรินจบการศึกษา เพลิงภพถือช่อดอกไม้รอแสดงความยินดีกับคนรักอยู่ที่สวนหลังโรงเรียนตามที่อีกฝ่ายนัดหมาย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างคนมีความรักที่มองโลกสวยงามไปเสียทุกสิ่ง ทั้งกลีบดอกไม้ใบไม้ที่ปลิวไสวตามแรงอย่างร่าเริง ผีหรือจะเสื้อตัวน้อยที่บินโฉบไปมาก็ดูน่ารักน่าชัก
นี้เขากลายเป็นพวกอ่อนไหวขนาดนี้ไปตั้งแต่เมื่อกัน? เพลิงภพคิดอย่างขบขันหัวเราะขณะมองเจ้าผีเสื้อตัวน้อย
ดวงตาคมดุมองไปรอบตัวอย่างรอคอย เขาคิดถึงเจ้าของหัวใจเขาแทบใจจะขาดอยู่แล้ว ทุกวินาทีที่ห่างกันมันช่างแสนทรมานเหลือเกิน ความรักครั้งแรกมันช่างรุนแรงเร้าร้อนเสียเหลือเกินหากก็หวานล้ำจนไม่อาจถอดตัวให้ทุ่มเทหัวใจลงไปจนหมดสิ้น ในที่สุดคนที่เขารอก็ปรากฏกาย เอกรินในชุดนักเรียนเรียบรอยหากแต่เสื้อสีขาวสะอาดในวันนี้กลับเต็มไปด้วยรอยขีดเขียนแทนการรำลาและสัญญาจากเพื่อนๆว่าจะไม่ลืมกันในวันที่ต้องจากันไปตามฝันของตนเอง
เพลิงภพส่งยิ้มอย่างเสน่หาให้อีกฝ่ายที่กลับดูเคร่งเครียดผิดปกติวิสัย จนเพลิงภพอดสงสัยไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าห่างทิ้งระยะห่างไว้พอสมควร
“ยินดีด้วยครับ” เด็กหนุ่มตาคมมอบช่อดอกไม้สวยสดให้รุ่นพี่คนรัก เขาคาดหวังรอยยิ้มชื่นชมจากคนรับ แต่ก็ต้องผิดหวังมืออีกฝ่ายเพียงแต่รับไว้ด้วยท่าทีเฉยชา
“ขอบใจมาก”
“พี่เอกเป็นอะไร สีหน้าไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายหรือเปล่า? หรือว่าอ่านหนังสือจนดึกอีกแล้ว
แต่นี้ก็สอบเสร็จแล้ว...”
“ไฟ เราเลิกกันเถอะ”
เพลิงภพชักถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามวิสัยคนรักกัน แต่ยังไม่ทันเอยจนประโยค อีกฝ่ายกลับโผงถ้อยคำ
อันเจ็บปวดออกมาอย่างรวดเร็ว เหมือนเวลาหยุดนิ่งเพลิงภพไม่รับรู้ถึงสรรพสิ่งรอบกายอีกต่อไป
ดวงคาคมกระพริบขึ้นลงสองสามครั้งอย่างงุนงง ก่อนเสียงสั่นเพร่าจะหลุดออกมาจากริมฝีปากของเขา
“พ..พี่เอก...พูดอะไร พูดอีกทีสิ”
“เราเลิกกันเถอะ”
ชัดเจน...ไม่ใช่ความเข้าใจผิด หูไม่ฝาด ความจริงเข้าตีเสกหน้าให้แทบล้มทั้งยืน
เมื่อไม่เคยมีวี่แววไม่มีสัญญาณเตรียมให้ทำใจมาล่วงหน้าว่าความรักจะต้องคุดมาหยุด
ในวันนี้ เมื่อทุกครั้งที่พบเจอพูดคุยยังหวานชื่นไม่เปลี่ยน
“ทำไม?”
น้ำเสียงเปร่งเอยออกไปอย่างยากเย็นลำคอของเพลิงภพแห้งผากราวกับเดินผ่านทะเลมาครึ่งค่อนวัน
ทั้งที่ความจริงก็ยังยืนอยู่ที่เก่า เจ็บปวดที่อกข้างซ้ายคล้ายใครมาดึงหัวใจออกไปขย้ำเล่น
“พี่ขอโทษ แต่พี่คิดว่า...พี่ไม่ดีพอสำหรับไฟ สักวันไฟจะเจอคนที่ดีกว่าพี่”
เอกรินบอกเหตุผลอันเรียบง่ายแต่แสนเจ็บปวด ก่อนจะหันหลังเดินจากไปภาพถูกท้ายในวันนั้นจึงเป็นภาพแผ่นหลังอันพร่ามัวที่เพลิงภพพยายามมองผ่านม่านน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลรินอย่างน่าไม่อายเป็นครั้งแรก
“พี่ดีไม่พอ หรือจริงๆแล้วผมไม่คู่ควรกันแน่” เด็กหนุ่มได้แต่ตัดพ้อผ่านสายลมด้วยความซอกซ้ำใจ
ความรักที่ทุ่มเทให้หมดตัวหมดใจกลับจบลงอย่างง่ายดายราวเด็กเล่นขายของคิดจะเล่นก็เล่นคิดจะเลิกก็เลิกโดยไม่คำนึงถึงว่าใครจะเจ็บปวด จะเป็นจะตายอย่างไง จากนั้นการติดจากเอกรินก็หายไปโดยสิ้นเชิงราวกับไม่เคยมีตัวต้นมาก่อน จนกระทั้งในวันแต่งงานใหม่ของบิดากับภรรยาคนใหม่ ทั้งสองกลับมาพบกันอีกครั้งในฐานะพี่น้องตามกฎหมาย ปฏิบัติต่อกันเหมือนคนแปลกหน้า เสแสร้งเป็นห่วงเป็นใยราวกับพี่น้องร่วมสายเลือด
เป็นครอบครัวสุขสรรค์ เลี่ยน! จนน่าสะอิดสะเอี่ยน
แล้ววันนี้กลับมาบอกว่ายังรักกัน ให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม มันจะเชื่อได้แค่ไหนกัน เมื่อใจที่เคยมอบให้กับถูกส่งคืนในสภาพที่บอกช้ำแสนสาหัส กว่าจะเยี่ยวยารักษาได้ก็นาน แล้วยังความสัมผัสที่เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นพี่น้องคนในครอบครัวเดียวกันอีก
“โธ่! ไฟ พี่ขอโทษ”
เอกรินครางเสียงอ่อนกับคำตัดพ้อของเพลิงภพ เด็กหนุ่มยิ้มเยาะ
“ขอโทษ วันนั้นพี่ก็พูดอย่างนี้เหมือนกัน”
“พี่ขอโทษ ต่อไปพี่จะไม่ทำให้ไฟเสียใจอีก ตอนนั้นพี่มันโง่เง่าเองที่ทิ้งคนที่รักสุดหัวใจไป”
เสียงนุ่มแหบพร่ากระซิบขณะริมฝีปากคลอเคลียขบเม้นติงอ่อน มือซุกซนลูกไล้ผิวลื่นใต้เสื้อหนาทิ้งสัมผัสร้อนซ่าไปทั่วผิวเนื้อที่ลากผ่าน เล้าโลมโน้นน้าวอีกฝ่ายอย่างคุ้นเคย
เพลิงภพขื่นตัวออกจากวงแขนของพี่ชายต่างสายเลือดก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคนที่เคยทำให้ใจหวั่นไหวและยังคงสั่นค่อนหัวใจของเขาได้อย่างรุนแรงก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
“พอเถอะ! ให้มันจบไปเถอะ อย่างรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆขึ้นมาให้ต้องเจ็บปวดกันอีกเลย
ฝากลาป๋ากับน้ารินด้วยแล้วกัน ”
เพลิงภพกล่าวและไม่รอคำขัดค้านใดๆ เขาก้าวจากพี่ชายต่างสายเลือดโดยไม่หันกลับไปมอง
ร่างสูงค่อยๆหายไปกลับเงามืดของยามค่ำคืน
“ไฟเป็นของพี่ พี่ไม่ปล่อยให้ใครง่ายๆหรอก ไม่ว่าด้วยวิธีไหนพี่จะต้องได้ไฟกลับมา”
ชายหนุ่มกล่าว สายตาวาบวับเต็มไปด้วยความความมุ่งมั่น
..................................................................................................................................................................................
ความคิดเห็น