ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Short story] เรื่องสั้นตามอารมณ์ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #11 : (Short story เพลิงภพxพีระพล) Bus...Stop ต่อครั้งที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 52


    แสงแดดยามสายเริ่มแรงจนอากาศภายในห้องเล็กร้อนขึ้น ส่งผลให้เจ้าของห้องที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง

    รู้สึกตัวตื่นขึ้นอย่างไม่สบายตัวนัก ดวงตาคมดุค่อยลืมขึ้นก่อนกระพริบไล่ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ แล้วเริ่ม

    ปรับรับภาพเข้าสู้สมอง

     

    ภาพแรกของวันที่ทำให้เขาแทบหยุดหายใจด้วยความตะหนกเมื่อพบใบหน้าใสของผู้ร่วมเตียงอยู่ห่างเพียง

    ไม่กี่เซนฯ ที่สำคัญมือของเขากำลังพาดอยู่บนเอวของคนที่ยังนอนรับอยู่ทั้งลำตัวตลอดจนต้นขาแนบชิดแทบ

    ไร้ช่องว่างเหมือนเขากำลังกอดอีกฝ่ายอยู่ไม่มีผิด โชคดีที่อีกฝ่ายยังไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ

     

    สภาพล่อแหลมทำให้หัวใจหนุ่มเต้นตึกตัก

     

    เด็กหนุ่มเจ้าของห้องค่อยๆยกแขนออกอย่างระมัดระวังไม่ให้รบกวนคนหลับ แล้วจึงใช้มันยันตัวขึ้นตั้งใจลุกออกจากที่นอน แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจล้มตัวลงนอนตะแขงมองใบหน้าหลับใหลอย่างมีความสุขจนน่าอิจฉาแทน

     

    เพลิงภพใช้ช่วงเวลาที่อีกคนยังไม่มีท่าที่จะรู้สึกตัวพิจารณาใบรูปไข่ที่รายล้อมด้วยเส้นผมสีดำสะเอียดได้เต็มที่ เริ่มจากคิ้วเรียวราวใช้ผู่กันวาดพาดเหนือดวงตาเรียวสีน้ำตาลคู่สวยยังถูกบดบังด้วยเปลือกตาบาง จมูกเรียวได้รู้รับกับริมฝีปากบางรูปกระจับสีอ่อนที่เมื่อจะยกยิ้มน้อยๆอย่างน่ามอง ท่าทางไร้เดียงสาราวกับเด็กทารก

     

    คนๆนี้คือคนเดียวกับคนที่วิ่งฝ่าอันตรายกลางวงวิวาทมาหาเขาโดยไม่ห่วงตัวเอง

    ดวงตาเรียวสีน้ำตาลที่แววชัดถึงความห่วงใยที่มากล้น

     

    รู้ทั้งรู้ว่าอันตรายยังดื้อดึงเข้ามาจนได้ ห้ามก็ไม่ฟัง รั้นเกินคาด

    น่าโมโหเป็นที่สุดแต่...โกธรไม่ลง

     

    ไอ้ตัวยุ่งเอย

     

    เพลิงภพอดนึกเอ็นดูอีกฝ่ายไม่ได้ จ้องอยู่นานก็ไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกตัวตื่นสักทีจนกระทั้งเสียงโทรศัพท์มือถือดังเป็นทำนองเพลงร๊อคทำให้เด็กหนุ่มร่างสูงเอื้อมมือไปหยิบมันจากหัวเตียง คิ้วหนาขมวดเครียดดวงตาคมไหววูบเมื่อเห็นชื่อผู้ที่โทรเข้ามา เพลิงภพลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกที่ระเบียงก่อนจะกดรับ

     

    ฮาโหล

     

    อ้า! ไฟ นี้พี่เองนะเสียงปลายสายตอบกลับมา

     

    อืม มีอะไรหรือเปล่า?” เพลิงภพเอยถามเสียงเรียบติดเย็นชา

     

    คือว่า...คุณพ่อให้โทรมาบอกว่าวันนี้ เราจะจัดงานวันเกิดให้ผึ้งกับต่อ แล้ว...เออ ...

    คุณพ่อคุณแม่อยากให้ไฟมารวมงานด้วย ...ถ้าไฟว่าง เทียนกับเหม่ยคงดีมากถ้าไฟมา

     

    ....

     

    ไฟ...

     

    รู้แล้ว แค่กลับไปวันนี้ก็พอใช่มั้ย? แค่นี้นะ

     

    เด็กหนุ่มสรุปแล้วตัดสายโดยไม่รอฟังอีกฝ่าย เพลิงภพทรุดนั่งกับพื้นเหม่อเอนหลังผิงกำแพง

    คล้ายคนอ่อนแรง ดวงคมดูหม่นหม่องเมื่อถึงบ้าน

     

    บ้านของเพลิงภพในอดีตคือตึกแถวเล็กๆที่เปิดเป็นร้านขายของชำด้านล่าง มีสมาชิกสามคนคือพ่อแม่และตัวเขา

    อยู่กันอย่างอบอุ่น สามีภรรยาช่วยกันทำมาหากินแข็งขันพร้อมกับทุมเทความรักให้กับบุตรชายเพียงคนเดียวของพวกเขา จากห้องแถวเล็กขยายเป็นมินิมาร์คทันสมัย เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวเล็กนี้มีความสุขที่สุด

     

    แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อแม่ของเพลิงต้องจากไปด้วยอุบัติเหตุ ผู้เป็นพ่อซึ่งโศกเศร้าสียใจกับการจากไปของภรรยาหันไปทุมเทเวลาให้กับการทำงานอย่างหนักแทบไม่พักไม่ผ่อน หรือไม่ก็ต้องออกไปสังสรรค์จนดึกดื่นทุกคืน เพลิงภพทุกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำและแทบไม่ได้กลับบ้านแม้จะเป็นวันหยุดเขาก็มักต้องอยู่ที่หออย่างเหงาหงอย

     

    จนกระทั้งเมื่อสามปีก่อนขณะที่เพลิงภพอายุ 14 ย่าง15 พ่อของเขาก็พาผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กชายคนหนึ่ง

    มาแนะนำในฐานะแม่คนใหม่และพี่ชายคนใหม่ตามกฎหมาย

     

    เพลิงไม่ได้ขัดค้านหรือรังเกียจการแต่งงานใหม่ของผู้เป็นพ่อ แต่กระนั้นก็ยังทำใจรับครอบครัวใหม่ไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของบ้านยิ่งเมื่อมีน้องฝาแฝดเกิดขึ้นมาตอกย้ำว่าเขาเป็นส่วนเกินของครอบครัวนี้โดยสมบูรณ์

     

    นอนจากนั้น เขายัง...........

     

    เพลิงภพถอนหายใจหยิบซองบุหรี่ที่วางทิ้งไว้แถวนั้นขึ้นมา คาบไว้ในปากม้วนหนึ่งก่อนจะจุดไฟด้วยไฟแช็ก

    ก่อนเขาปล่อยควันบางเบาให้ล่องลอยไปในอากาศอย่างไร้จุดหมาย

     

    พีระพลตื่นแล้วเมื่อเพลิงภพกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งเด็กหนุ่มนั่งขัดสมาธิหน้าตาเร่อราอยู่บนเตียงที่จัดเก็บอย่างเรียบร้อย ใบหน้าใสหันมาส่งยิ้มให้เจ้าของห้อง

     

    อรุณสวัส

     

    อืม

     

    ตอบสั่นด้วยน้ำเสียงเรียบอย่างคนที่อารมณ์ยังไม่เข้าที่ดีแล้วร่างสูงก็เลิกทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือ

    บรรยากาศอึ้มครึ้มรอบตัวเพลิงพลแผ่ไปทั่วห้องจนพีระพลรู้สึกอึดอัด

     

    อืม...เรากลับก่อนนะ ปานนี้ที่บ้านเป็นห่วงแย่แล้ว

     

    พีระพลเอยพลางลุกขึ้นหยิบกระเป๋าใบเก่งขึ้นสะพายบ่า ด้วยคิดว่าเวลานี้เพลิงพลคงอยากอยู่ลำพัง

    ร่างสูงเพียงพยักหน้าแสดงการรับรู้โดยที่ไม่ได้หันมามองอีกคน

     

    หากขณะที่พีระพลเปิดประตูออกเพื่อออกจากห้องนั้นกลับถูกรั้งไว้ด้วยเสียงทุ้มของเจ้าของห้อง

     

    วันศุกร์นี้ว่างหรือเปล่า? เรามีเรื่องขอร้อง.........

     

    พีระพลถึงกลับนิ่งอึ้งเมื่อหันกลับไปสบสายตาคมดุของเพลิงภพถ่ายทอดความเศร้า เหงาและหวาดกลัวมากมาย

    โดยที่แม้แต่เจ้าตัวคงไม่รู้ตัว เหมือนแววตาของเด็กหลงทางที่หวาดกลัว แล้วอย่างนี้ใครจะปฏิเสธได้ลง

     

    อา...อืม

    ...........................................................................................................................................................................

     

    เรื่องที่เพลิงภพขอร้องพีระพลให้มาเป็นเพื่อนในงานวันเกิดของน้องๆเพลิงภพนั้นเอง ด้วยเหตุนี้พีระพลจึง

    นั่งเคียงข้างร่างสูงอยู่ในรถแท็กซี่ซึ่งมุ่งหน้าไปทางชานเมืองหลังจากแวะซื้อของขวัญเป็นตุ๊กตาหมีมาสองตัวที่วาง

    คั้นกลางระหว่างสองหนุ่ม ตลอดทางทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันเมื่อเพลิงภพเอาแต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

    พีระพลจึงได้แต่นั่งเงียบๆ จนกระทั้งถึงที่หมาย.....

     

    เป็นตึกแถวห้าคู่หาที่ถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของมินิมาร์คขนาดใหญ่ที่ชั้นล่าง ส่วนด้านบนเป็นที่พักอาศัย

    ของครอบครัวเจ้าของ  ลงรถจ้างเงินแล้วเพลิงภพก็พาพีระพลเดินเข้าไปด้านในร้าน

     

    พี่อินป๋ากับน้ารินละ

    เพลิงภพเอยถามพนักงานสาววัยยี่สิบที่ยืนคิดเงินอยู่ที่เคาร์เตอร์

     

    อ้าว! คุณเพลิงภพ เฮียอยู่ข้างบนข้างค่ะ หญิงสาวตอบอย่างร่าเริงพร้อมรอยยิ้ม

     

    เด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้ก็จะหันมาชวนพีระพลที่ยืนอยู่ด้านหลัง

    ไปกันเถอะ

     

    เพลิงภพเดินไปจนลึกสุดของร้านเปิดประตูที่ห้ามบุคคลนอกเข้าด้านหลังเป็นโกดังเก็บห้องและออฟฟิตเล็กที่ดูเรียบร้อยทันมัยพอสมควรทั้งสองเดินขึ้นบันได้ขึ้นไปชั้นบนที่ถูกดัดแปลงตกแต่งให้เป็นบ้านที่กว้างขวางที่เดียว

    ห้องแรกเป็นห้องนั่งเล่นควบห้องรับแขน พร้อมทั้งห้องทานอาหารถัดไปเป็นห้องครัวและอื่นๆ ส่วนห้องนอนทั้งหมดอยู่ชั้นสาม  ด้านการตกแต่งออกแนวจีนตามเชื้อสายของเจ้าของบ้าน

     

    โกไฟ!”

     

    เสียงแหลมเล็กร้องดังลั่นพร้อมกับเจ้าของเสียงตัวเล็กจ๋อยสองร่างวิ่งเข้าใส่ร่างสูงของเพลิงภพราวพายุ

    จนเด็กหนุ่มเกือบตั้งรับไม่ทัน

     

    ว่าไง!ไอ้ตัวยุ่งทั้งสอง

     

    เพลิงภพก้มลงหอมแก้มเด็กน้อยที่เหมือนกันราวกับแกะทั้งสองอย่างเอ็นดูก่อนจะอุ้มไว้คนละข้าง

    แล้วจึงแนะนำพีระพลให้รู้จักกับเด็กน้อยทั้งสอง

     

    หวัดดี!เพื่อนเฮียก่อน โกพี

     

    สวัสดีครับ/ค่ะ  สองเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพียง ก่อนจะฉีกกว้างจนยิ้มตาหยีให้

    โกพีตามที่ได้รับการแนะนำ

     

    นี้น้องชายกับน้องสาวเรา อาเทียนกับอาเหม่ย

     

    สวัสดีครับ พีระพลยิ้มให้เด็กน้อยทั้งสองอย่างเอ็นดู

     

    เพลิงภพพาทั้งหมดไปนั่งที่เก้าอี้รับแขกก่อนจะมอบของขวัญให้แก่น้องๆที่ร้องกรีดกร๊าดตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่ตามประสาเด็กเรียกให้หญิงสาวผู้เป็นมารดาของเด็กทั้งสองผละออกครัวมาดู

     

    ส่งเสียงเอะอะอะไรกันจ๊ะเด็กๆ  

     

    เสียวหวานเอยพร้อมๆร่างอรชลของหญิงสาววัยสี่สิบที่ยังสาวและสวยราวสาววัยสามสิบต้นๆก่อน ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มด้วยเครื่งอสำอางค์ชั้นดีชะงักไปเมื่อเห็นผู้มาเยียนก่อนเปลี่ยนรอยยิ้มยินดี

     

    อาเหม๋ยรีบเอาตุ๊กตาตัวใหม่ไปอวดทันที

     

    ม๋าม๋าๆ โกไฟให้เหม๋ยล่ะ น่ารักมั้ย?” หญิงสาวยิ้มให้บุตรสาว

     

    จ๊ะน่ารักมากจ๊ะ

     

    ของเทียนก็มีนะ แฝดอีกคนรีบอวดบ้าง

     

    จ๊ะๆ ได้ทั้งคู่เลย แล้วขอบคุณโกหรือยัง? หืม?”

     

    เด็กน้อยทั้งสองทำยิ้มแหยก่อนจะวิ่งกลับมาหาเพลิงภพแล้วกล่าวขอบคุณอย่างพร้อมเพียง

     

    ขอบคุณครับ /ค่ะโกไฟ

     

    ขอบใจที่มานะจ๊ะไฟ

     

    วารินหรือน้ารินตามที่เพลิงภพเรียกเอยกับเด็กหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงของเธอเมื่อพาร่างบองบางมานั่ง

    เก้าอี้เดียวถัดจากเด็กหนุ่ม พลางมองไปที่เด็กหนุ่มอีกคนอย่างสงสัย

     

    ครับ พอดีผมว่าง นี้พีระพลเพื่อนของผม

     

    เพลิงภพแนะนำเพียงเท่านั้นด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ใคร่อยากจะพูดกับหญิงสาวนัก

    แต่กระนั้นเธอกลับไม่ถือสากลับสนใจยิ้มแย้มทักทายพีระพลแทน

     

    สวัสดีจ๊ะ ตามสบายนะถือเสียว่าเป็นบ้านของตัวเอง

     

    ค...ครับ ขอบคุณครับ

     

    พีระพลตอบหญิงสาวอย่างเกรงใจ ก่อนเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคนในห้องรับแขกแห่งนี้

     

    แม่ครับ เทียน เหม่ย ตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว ไปที่โต๊ะอาหารกันเถอะครับ

     

    เจ้าของเสียงคือชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเรียวรายล้อมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาเรียวสีน้ำตาลเข้มอยู่ใต้คิ้วโก่ง ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มอย่างน่าดู จัดได้ว่าหน้าตาดีในระดับที่ต้องสาวๆตามกริ๊ดหลายคนทีเดียว

     

    นี้ตาเอกลูกชายของน้าเอง เขาอยู่มหาลัยปีสองแล้วล่ะจ๊ะ หญิงสาวแนะนำชายคนนั้นกับพีระพล

     

    สวัสดีครับ เอกยิ้มทักทายแขกตามมารยาท ก่อนจะเบนสายตากลับจ้องมองร่างสูงของเพลิงภพที่แสร้งยุ่งกับเจ้าตัวยุ่งทั้งสองไม่สนใจผู้มาใหม่เลยสักนิดด้วยแววตาเศร้าๆ

     

    แล้วทั้งหมดก็ย้ายมานั่งที่โต๊ะอาหารซึ้งพ่อของเพลิงภพนั่งรออยู่แล้ว ท่านเป็นชายวัยกลางคนร่างท้วมนิดๆที่ใจดีมีอารมณ์เหลือล้นเลยที่เดียว เจ้าบ้านตอนรับพีระพลเป็นอย่างดีและเป็นกันเอง แต่ตัวเพลิงภพกลับเงียบขรึมไม่ค่อยพูดถามคำตอบคำเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรอาหารมื้อค่ำก็จบลงด้วยดี

     

    พีระพลอาสาช่วยหญิงสาวเจ้าบ้านเก็บกวาดโต๊ะอาหาร

     

    ไม่เป็นไรจ๊ะ ไม่เป็นไร พีไปนั่งเล่นกับไฟกับน้องๆดีกว่า เดี๋ยวตรงนี้น้าจัดการเอง หล่อนปฏิเสธ

     

    ให้ผมช่วยเถอะนะครับ ผมอยากช่วย

     

    เด็กหนุ่มยืนยันพร้อมกับจัดการรวมจานเป็นตั้งแล้วยกไปล้างในครัวอย่างแข็งขัน หญิงสาวกับเด็กหนุ่มพูดคุยกับไปทำงานไปอย่างถูกคอไม่นานทุกอย่างก็ถูกจัดการเรียบร้อยเหลือเพียงจานไม่กี่ใบที่ต้องเช็ดให้แห้ง

     

    วันนี้น้าดีใจมากเลยที่ไฟเขากลับมาบ้าน ตั้งแต่ออกไปอยู่หอข้างนอกไฟแทบไม่กลับบ้านเลยถ้าป๋าไม่โทรตามหรือมีเรื่องสำคัญ น้ารู้ว่าเขาคงไม่ชอบใจเท่าไรที่น้าเข้าอยู่ในบ้านหลังนี้ถึงเขาจะไม่แสดงออก แต่ความเงียบของเขากันบอกได้ดีอยู่แล้วว่าเขาไม่ยอมรับน้า

     

    จู่ๆหญิงสาวก็ระบายความในใจออกมาคงเพราะหล่อนรู้สึกถูกคอถูกใจเด็กหนุ่มเป็นพิเศษ

     

    คุณน้าอย่าคิดมากเลยครับ อืม...ยังเสียไงเขาก็ไม่ได้คัดค้านนี้ครับ แล้วดูไฟเขารักเอ็นดูเทียนกับเหม่ย

    มากอยู่นะครับ พีระพลพยายามให้กำลงใจหญิงสาว

    ขอบใจนะจ๊ะที่ให้กำลังใจป้า พูดกับพีป้าก็สบายใจขึ้น วารินยิ้มให้เด็กหนุ่มด้วยความเอ็นดูและขอบคุณ

     

    พีระพลยิ้มตอบ เขาวางจานใบสุดท้ายลงในที่เก็บจานก่อนจะเอยขอตัวออกไปหาเพลิงภพเพื่อช่วยกลับภายในห้องรับแขกมีเพียงคุณป๋านั่งดูทีวีอยู่พีระพลจึงเอยถามถึงเพลิงภพ

     

    อาไฟพาอาเทียนกับอาเหม่ยขึ้นไปนอน พีลองขึ้นไปดูที่ห้องน้องสิ อยู่ข้างบนห้องซ้ายมือสุดนะ

     

    ครับ งั้นผมขออนุญาตขึ้นไปนะครับ เด็กหนุ่มเอยอย่างเกรงใจ

     

    ตามสบายเลย สบายๆ คุณป๋าออกปากอนุญาตด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี

     

    พีระพลจึงขึ้นไปชั้นสามตามที่คุณป๋าบอก พอขึ้นยันไดมาจะพบห้องโถงเล็ก ก่อนจะกั้นเป็นห้องห้องทางขวาสองห้องและทางซ้ายอีกสามห้อง พีระพลเดินไปที่ห้องทางซ้ายมือสุดซึ่งเป็นห้องของสองแฝดตามที่เจ้าของบ้านบอก

    มือเรียวค่อยบิดลูกบิดอย่างแผ่วเบาแง้มประตูให้พอมองเห็นด้านในซึ่งมีเพียงเด็กสองทั้งสองที่หลับอยู่บนเตียง เขาจึงค่อยปิดประตูตามเดิน

     

    คิ้วเรียวขมวดด้วยความสงสัย ไม่มี แล้วไฟอยู่ไหน?”

     

    เด็กหนุ่มคิดว่าจะลงไปรอข้างล่าง แต่แล้วพีระพลก็ได้ยินเสียงแว่วมาจากห้องไปที่เขากำลังเดินผ่าน

     

    อยู่นี้เอง!” พีระพลยิ้มอย่างดีใจแล้วก้าวที่ประตูคว้าลูกบิดเปิดเข้าไปทันที

     

    ฟะ... ริมฝีปากที่ตั้งใจเรียกอีกคนชะงักค้างกลางอากาศ ดวงตาเรียวเบิกกว้างอย่างคนตื่นตกใจ

     

    ภาพเพลิงภพกับเอกแนบชิดกับบนเตียงกว้างแลกเปลี่ยนจุมพิตอย่างดูดดื่มบ่งบอกถึงความสัมพันธ์เกินเลย

    กว่าพี่น้องทั่วไป ทั้งสองยังคงอยู่ในโลกส่วนตัวหากไม่โดยรบกวนด้วยเสียก่อน

     

    ปัง!

     

    เสียงปิดประตูดังตามด้วยเสียงวิ่งจากไปของพีระพลทำให้สองร่างที่ทาบทับกันอยู่ชะงักมองไปที่ประตู

    ก่อนเพลิงภพจะได้สติรีบลุกขึ้นตามพีระพลออกไป เขาวิ่งลงชั้นล่างถามหาพีระพลกับพ่อได้คำตอบว่าเพิ่งออกไป เด็กหนุ่มวิ่งตามออกมาที่หน้าร้านแต่เขาทันเห็นแค่รถแท็กซี่แล่นออกไปเท่านั้น

     

    เพลิงภพยืนหอบมองตามไฟท้ายรถไปอย่างหงุดหงิด

     

    โธ่โว๊ย!”

     

    ..............................................................................................................................................................................

     สวัสดีครับ บูตะ

    รู้สึกเรื่องมันอืดไปหรือเปล่า?
    เหมือไรจะถึงฉาก...คนเขียนก็รออยู่เหมือนกัน ฮ่าๆ
    ไฟว่าไง? คนอ่านเขาลุ้นอยู่นะ! ก๊ากกกกกกกกกกกก

    ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×