คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : (Short story เพลิงภพxพีระพล) Bus...Stop ต่อครั้งที่ 8
ทันทีที่บอกจุดหมายปลายทางแก่คนขับแล้ว พีระพลก็เอนกายผิงเบาะหนังอย่างไร้เรี่ยวแรง รู้สึกมึนงงเหมือนถูกกับถูกตีแสกหน้าด้วยไม้หน้าสามภาพความสัมพันธ์เกินเลยของเพลิงภพและเอกรินยังติดตาค่อยวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในห้วงความคิดของเด็กหนุ่ม
เขารู้สึกเจ็บ...เจ็บในอก มันทั้งเจ็บทั้งแน่นจนหายไม่ออก
มันปวด....มันแสบ....มันร้อนไปหมดทั้งใจ
เหมือนแอลกอฮอร์ราดลงบนแผลสด
ทรมานจนต้องหลั่งน้ำตาออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวดแสนสาหัสที่อัดแน่นอยู่ภายใน
หยาดน้ำตาไหลออกมาอย่างไร้สาเหตุจากหยดเล็กคลอปริ่มริมขอบตาร้อนผ่าวค่อยๆลือล้นเป็นกลาย
สายไหลพราก ส่งเสียงสะอื้นแผ่นเบาให้ดังขึ้นเรื่อยๆจนร่างกายสั่นสะท้านไปตามแรงสะอื้นที่เจ้าตัวพยายามกลั่น
ด้วยการขบริมฝีปากแน่น มือขวายกขึ้นป้องปากปิดเสียงอีกชั้น มือซ้ายเกร็งขย้ำชายเสื้อจนยับย่น
ดวงตาพร่ามัวด้วยม่านน้ำตา
หัวสมองของพีระพลไม่รู้รับอะไรอื่นอีกแล้ว ไม่ว่ารถวิ่งไปทางไหน จะถูกหรือผิดทาง
อะไร อย่างไง เวลานี้เขาไม่รับรู้ทั้งสิ้น
รู้แต่ว่าอยากกลับบ้าน อยากกลับบ้าน และภาวนาให้ถึงบ้านโดยเร็ว
เมื่อรถจอดสนิทเด็กหนุ่มก็ปิดประตูก้าวลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้านทันที
ไฟห้องนั่งเล่นยังเปิดอยู่แต่เขาไม่ใส่ใจ เร่งฝีเท้าให้ถึงห้องนอนให้เร็วที่สุด
ไม่สนใจแม้แต่เสียงทักของพี่สาวที่นั่งดูละครหลังข่าวอยู่
“กลับมาแล้วเห....”
กลับเป็นหญิงสาวที่ต้องร้อนล้นลุกขึ้นเข้าไปมาคว้าแขนเด็กหนุ่มเอาไว้เสียก่อนด้วยความร้อนใจเมื่อหันมาเห็นน้ำตาของน้องชายคนเดียว
“พีเป็นอะไร? ร้องทำไม?”
คนเป็นพี่ถามน้ำเสียงนุ่มนวลด้วยความห่วงใย นิ้วเรียวยาวเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ตั้งแต่เล็กจนโตเธอดูแลน้องเล็กของเธออย่างดีมาตลอดไม่ค่อยทำให้เจ็บซ้ำน้ำใจ หรือตีให้เจ็บตัว พอเห็นน้องร้องไห้สีหน้าทรมานแล้วใจคอคนเป็นพี่หายวาบอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนขอนไม้กลางมหาสมุทรท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำ พีระพลโผเข้ากอดร่างบางแต่แข็งแรงของพี่สาวแน่นก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกรอบอย่างไม่อาย ร้อง ร้อง และร้องจนสาแก่ใจ จนความเจ็บปวดตรงหัวใจมันบรรเทาทุเลาลง
หญิงสาวลูบแผ่นหลังกว้างของน้องชายอย่างปลอบประโลมและรอคอยให้อีกฝ่ายแบ่งปันความทุกข์ร้อน
เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเริ่มคลายสะอื้นแล้วหญิงสาวจึงพาไปนั่งที่โชฟาและเริ่มต้นถามอีกครั้ง
“ไหนบอกพี่สิว่าเป็นอะไร? ร้องไห้ทำไม? ใครทำอะไรพีหรือเปล่า?”
พีระพลสบตาพี่สาวลังเลอยู่ชั่วครู่ เขาคิดก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
“เปล่าไม่มีใครทำอะไรผมหรอก”
เด็กหนุ่มไม่ได้โกธรไม่มีใครทำอะไรเขาจริงๆคำตอบนั้นคงทำให้คนถามยิ่งงงปนสงสัยเข้าไปใหญ่
เพราะหัวคิ้วที่ขมวดจนแทบจะพันกันของพี่สาวมันแสดงออกชัดเจน
“แล้วพีร้องไห้ทำไม?”
เป็นอีกครั้งที่เด็กหนุ่มต้องนิ่งคิดตามคำถามของพี่สาว ทำไมเขาต้องร้องไห้?
พีระพลจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ส่วนพี่สาวรอคอยคำตอบอยู่เงียบๆ มีเพียงโทรทัศน์ที่ถูกเปิดที่ไว้
โดยไม่มีใครสนใจ ในจอสีเหลี่ยมสัญญาณไฟฟ้าถูกแปลเป็นภาพหญิงสาวน่าตาจิ้มลิ่มกำลังหลบอยู่หลังต้นไม้แอบมองชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งทอดรักกัน หวานซึ้งด้วยสายตาเศร้าสร้อยก่อนจะวิ่งน้ำตาคลออกไปหลบร้องไห้อยู่คนเดียว
พีระพลจ้องภาพนางเอกสาวร้องไห้สะอึนสะอื้นราวโลกจะแตกแผ่นจะทลาย เหมือนจะเขาใจอะไรขึ้นมา
เด็กหนุ่มตาโตลุกพรวดด้วยความตกใจกับความรู้สึกของตนที่เพิ่งค้น เด็กหนุ่มหันไปทางพี่สาวที่มองอาการคล้าย
ผีเข้าของน้องชายอย่างหวาดๆ
อาการเจ็บหน้าอกจนหายใจไม่ออกจนต้องร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรนั้นนะ เขารู้แล้วว่าเพราะอะไร
สิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่ในเวลานี้ มันคือ......
“ พี่ทำไงดี! ผมว่า...ผมกำลังหลงรัก...หลงรักเพื่อน....เพื่อนผู้ชาย”
“หา!?”
หญิงสาวตะลึงอ้าปากค้างกระพริบตาปริบๆ
.............................................................................................................................................................................
ดึกจนล้วงเข้าวันใหม่แล้วพีระพลถึงได้ปิดไฟปีนขึ้นเตียงเตรียมเข้านอน แต่เขากลับนอนไม่หลับ ถ้อยคำที่สนทนากับพี่สาวยังอยู่ในหัวพอเธอหายตกใจซึ่งก็กินเวลาไปหลายนาทีเหมือนกันเขาก็ตอบคำถามของพี่สาวอย่างละเอียดถี่ยิบชนิดหมดไส้หมดพุง นี้ร่ำๆจะเอาแบบทดสอบทางจิตวิทยามาให้เขาทำอีกต่างหากสมเป็นนักศึกษาแพทย์ผู้มุ่งมั่นสานฝันเป็นจิตแพทย์ตัวจริง
‘พี่ว่าการที่พีจะรักจะชอบเพื่อน...เออ...ผู้ชาย มันก็ไม่ผิดเหรอนะ ถึงพี่จะรู้สึก...แปลกๆอยู่บ้าง
ยังไงดีล่ะ? แต่พี่ไม่ได้รังเกียจความรักแบบนี้หรอกนะ อืม...แต่พีต้องลองถามตัวเองให้มั่นใจว่า
รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ไม่ใช่ความสับสนจากความใกล้ชิดหรือชื่นชมเขาเท่านั้น คิดดีๆ เพราะความรัก
แบบนี้มันไม่มันไม่ง่ายเหมือนคนรักชายหญิงทั่วไปหรอกนะ แต่ยังไงพี่อยู่ข้างพีเสมอ
ถ้าต้องการความช่วยอะไรก็นะ บอกได้เลย เข้าใจนะไอ้น้อง’
ถึงจะดูงงๆมึนๆอยู่บ้างแต่พี่สาวคนดีของเขาก็ให้กำลังใจอย่างดี และพร้อมให้ความช่วยเหลือเขาเสมอ
ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เกิดมาเป็นน่องชายของพี่สาวแสนดีคนนี้
แล้วเขายังเล่าเรื่องเกี่ยวเพลิงภพและความสัมพันธ์น่าสงสัยระหว่างเพลิงภพกับเอกรินให้พี่สาวฟังอีกด้วย
และก็ได้คำแนะนำมาดังนี้
‘ลองถามเขาตรงๆดูสิ ถ้าเขาไม่มีอะไรกันเขาก็ไม่จำเป็นต้องปิดปังอะไร แล้วพีค่อยกลับมาคิดเรื่องเขากับพีอีกที
แต่ถ้าเขาเป็นแฟนกันพีจะได้ตัดใจแต่เนินๆ จะได้ไม่เจ็บไปมากกว่านี้ ตัดไฟต้นลมเสีย’
เด็กหนุ่มถอนหายใจในความมืด ถ้ามันทำได้ง่ายๆอย่างนั้นก็ดีนะสิ พูดง่ายนะง่ายแต่ทำยาก
เจอกันอีกครั้งจะทำหน้ายังไงยังไม่รู้เลย จะมองหน้ากันติดหรือเปล่า จะพูดคุยกันได้อย่างสนิทใจเหมือนเดิมหรือเปล่า แล้วเขาจะกล้าพูดกับเพลิงภพอีกหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจแล้วจะอย่างนี้จะกล้าถามได้ไงกัน
แล้วถ้าสองคนนั้นเป็นแฟนกันจริงล่ะ? จะทำไงดี?
แต่คิดก็ปวดใจจะแย่ อีแบบนี้กว่าจะตัดใจได้มิช้ำใจตายก่อนหรือไง?
ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวยิ่งกว่าแก้โจทย์เลขยากๆติดกันสิบชั่วโมง หรือ แปลบทความภาษาอังกฤษสิบหน้ารวดเสียอีก
แหมก็คนไม่เคยมีความรักนี้น่า แบบว่ารักครั้งแรก มันก็เลยนะ...สับสนๆ
“โอ๊ย!ปวดหัวๆ”
ชายหนุ่มขยี้หัวอย่างคนคิดไม่ตก เครียดจนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนถีบหมอน ผ้าห่มตกลงไปกองกับพื้นหมด
ก่อนจะลุกพรวดขึ้นนั่งกอดเข่าหน้ามุ่ยหน้าบูดอยู่กลางเตียง
“งี่เง่าชะมัดเลยชั้น”
เด็กหนุ่มบ่นงึมงำพลางถอนหายใจอีกครั้ง
TBC
ความคิดเห็น