ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ ๕ เพื่อน
หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังมีคนมาแซว มาถามถึงพี่คีย์ในโพสของฉันไม่ขาด ช่วงนี้ไม่ว่าฉันจะโพสรูปอะไร จะมีสองคนที่มาแสดงความคิดเห็นบ่อยๆ นั่นคือพี่คีย์และพี่วิน และฉันก็ยังเจอเขาทั้งสองในทุกวันเช่นเดิม แต่ไม่ใช่ที่คณะของพวกเขานะ เป็นที่คณะของฉันเอง
บางวันพวกเขาก็มาช่วงพักเที่ยง มาดักรอทานข้าวเที่ยงในโรงอาหารคณะพร้อมๆ กัน หรือช่วงเย็นที่พี่คินต้องมารอฉันกลับบ้าน ที่ห้องซ้อมการแสดงประกวดดาวเดือนของคณะฉัน ซึ่งพี่คีย์และพี่วินร่วมทั้งพี่เจพี่ปลื้มก็มักจะตามมาด้วยเสมอ ที่สำคัญมีทั้งน้ำขนมมาบริการฉันและพี่ๆเพื่อนๆ ที่ช่วยกันซ้อมดาวเดือนด้วยเช่นกัน
ส่วนพี่คินเองก็มักจะเปิดทางให้พี่คีย์มากกว่า จะค่อยเชียร์พี่คีย์ให้ฉันฟังเสมอ ในขณะที่พี่วินได้คะแนนติดลบจากพี่คินเสมอเช่นกัน เหตุการณ์ต่างๆ ก็คล้ายในชีวิตก่อนนะ เพียงแค่แตกต่างตรงที่ชีวิตก่อน พี่คีย์แค่มานั่งรอเป็นเพื่อนพี่คินและพี่วินเท่านั้น ไม่ได้มาคอยดูแลฉันแบบพี่วิน
อีกเรื่องที่เหมือนกันคือ พัดชาที่ยัดเหยียดตัวเองเข้ากลุ่มฉัน นับตั้งแต่วันที่เธอทำรายงานกลุ่มกับกลุ่มฉัน ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่ห่างกลุ่มฉันอีกเลย แต่อย่างที่บอกชีวิตนี้ฉันไม่ได้ใส่ความรู้สึกหรือหัวใจของคำว่าเพื่อนให้พัดชาเหมือนชีวิตที่แล้ว
“ยัยคุณหนูอิงฟ้า ฉันพูดตรงๆเลยนะ ว่าฉันรู้สึกไม่ค่อยชอบยัยพัดชาเท่าไรอ่ะ เหมือนอะไรที่ทำมันดูเฟคๆ ยังไงก็ไม่รู้” เดซี่เอ่ยขึ้นในขณะที่พวกเรากำลังนั่งกันอยู่ที่เก้าอี้ใต้ตึกอาคารเรียนในช่วงบ่าย
“เอ่อนั้นดิ แกรู้สึกเหมือนฉันเลย ฉันว่ายัยนี่ดูไม่ได้จริงใจอ่ะ” หลินเอ่ยสมทบความคิดเห็นขึ้นอย่างเห็นด้วยกับเดซี่
“จะว่าฉันอคติก็ได้นะโว๊ย แต่กระเทยอย่างฉันมั่นใจว่ายัยนี่ร้ายแน่นอน ดูก็รู้พยายามยัดเหยียดตัวเองเข้ามาในกลุ่มขนาดนี้” เดซี่แสดงความคิดเห็นขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พร้อมสีหน้าและท่าทางที่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง
“อันนี้ยิ่งเห็นด้วย ฉันแอบสังเกตหลายครั้งหล่ะ เวลาที่มองยัยอิงเหมือนมีอะไรบางอย่าง แกต้องระวังไว้หล่ะ” หลินเอ่ยเสริมความเห็นของเดซี่อีกครั้ง เพื่อบอกให้รู้ว่าคิดอย่างนั้นเหมือนกัน
ในชีวิตก่อนทั้งเดซี่และหลินก็เคยพูดแบบนี้ และพยายามเตือนฉันให้ระวังพัดชา แต่ในชีวิตก่อนฉันก็บอกเพื่อนๆ ว่าอย่าไปคิดมากเลย พัดชาไม่ได้มีอะไรหรอก ก็คงอยากมีเพื่อน คงรู้สึกถูกชะตากับพวกเราแหละ เลยขอเข้ากลุ่มด้วย ในตอนนั้นฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ ทุกครั้งที่ไปไหนด้วยกัน แม้เดซี่และหลินไม่อยากให้ไปด้วย ก็มักเป็นฉันที่เกลี้ยกล่อมเพื่อนทั้งสองให้เปิดใจรับพัดชา ทั้งสองยอมรับฟังฉัน และให้พัดชาได้เข้ามาอยู่ในกลุ่ม แม้ในใจจะไม่เคยวางใจพัดชาเลยก็ตาม
จนกระทั่งเรียนจบ ฉันแต่งงานไปแล้วเพื่อนทั้งสองก็ยังคงอคติกับพัดชาอยู่ มีบ่อยครั้งที่ทั้งสองคนมักพูดเรื่องพัดชา ที่น่าสงสัยเกี่ยวกับโพสที่พัดชาลงในโซเชียล ที่หลายๆ อย่างเชื่อมมาหาพี่วิน แต่เป็นฉันที่ให้ใจพัดชา และคิดว่าพี่วินกับพัดชาคงไม่มีทางหักหลังเพื่อนและแฟนอย่างฉัน ฉันจึงมักจะหาทางจบบทสนทนาเหล่านั้นเสมอ แต่สุดท้ายฉันก็คือคนโง่ ที่ปล่อยให้ทั้งสองคนเอาความรักและความเชื่อใจของฉันมาทำลาย
เพราะฉะนั้นในชีวิตใหม่นี้ ฉันจะไม่ผลักไสพัดชา เพราะหากเธอคิดจะทำอะไรอย่างน้อยฉันก็ยังมีโอกาสได้คอยสังเกต แต่ฉันก็จะไม่รับเธอเข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วยความรู้สึกและหัวใจของคำว่าเพื่อนเช่นเดียวกัน
“ถ้าเราคิดว่าเขาไม่จริงใจเราก็แค่ไม่ต้องให้ใจของคำว่าเพื่อนกับเขาสิ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ต้องผลักไสเขาออกไป เพราะถ้าเขาจะทำอะไรเราจะได้รับมือทัน” ฉันเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสองพร้อมไหวไหล่และยักคิ้วให้เล็กน้อย
“ยัยคุณหนูเปลี่ยนไป ปกติคุณหนูอิงฟ้าโลกสวย ต้องตอบว่าช่างเถอะ อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรหรอก” เดซี่ทำหน้าตกใจเล็กน้อย พร้อมทำเสียงล้อเลียนคำพูดฉัน ใช่เพราะที่ผ่านมาฉันโลกสวย โลกสวยมากๆ ด้วยหล่ะ
“นั่นดิ เพราะความโลกสวยของแก ทำให้คนอื่นชอบมาเอาเปรียบ” หลินเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับเดซี่ ก่อนจะหันมาพูดกับฉันด้วยประโยคที่ทั้งสองชอบว่าฉันบ่อยๆ
ด้วยความที่เราทั้งสามเป็นเพื่อนกันมานาน เดซี่และหลินคือเพื่อนที่รู้นิสัยฉันที่สุด และมักจะคอยปกป้องฉันเวลาโดนเพื่อนๆ เอาเปรียบเพราะความโลกสวย ถึงสองคนจะชอบว่าฉันเรื่องนี้ แต่ฉันรู้ว่าเพื่อนทั้งสองจริงใจและห่วงใยฉันมาก
แต่ถ้าถามว่าจริงๆ ฉันรู้ไหมว่าเพื่อนกำลังเอาเปรียบ ฉันก็พอรู้แหละ แต่เพราะฉันมักจะคิดว่าไม่เป็นไร ก็เพื่อนอ่ะ ก็คนรู้จักกัน หรือคิดว่าเขาคงมีเหตุผล แม้กระทั่งความคิดที่ว่า ฉันเกิดมาพร้อมความโชคดีที่มีครอบครัวที่อบอุ่น เกิดมาบนกองเงินกองทองที่ใช้ถึงลูกถึงหลานก็ไม่หมด ฉันจึงมักยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ
พอคิดๆ ไปชีวิตที่ผ่านมาของฉันมันโง่จริงๆ แหละ ที่ยอมคนอื่นขนาดนั้น แต่พอฉันได้ผ่านความตายมาครั้งหนึ่ง มันเลยทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ที่สำคัญความจริงใจถ้าให้ผิดคนก็ไม่มีค่า เผลอๆ นำหายนะว่าให้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นพอได้ชีวิตใหม่ครั้งนี้ฉันจะใช้มันให้ดีที่สุด จะมีสติก่อนทำอะไรทุกอย่าง และจะปกป้องตัวเองให้มากที่สุดเช่นกัน
“ต่อไปนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองโลกสวยแล้วนะ” ฉันหันไปยิ้มให้เพื่อนทั้งสองพร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ้อน เดซี่และหลินจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้มากอดฉัน พร้อมเราทั้งสามที่หัวเราะด้วยกัน
“อารมณ์ดีอะไรกันเหรอ ขอพัดร่วมด้วยคนนะ” เราทั้งสามหยุดหัวเราะและหันสบตากันทันที เมื่อคนที่มาใหม่เอ่ยขึ้นและเดินมาหยุดที่ข้างๆ กัน
“อ่อไม่มีอะไรหรอกพัด พอดีพวกเราคุยอะไรกันเรื่อยเปื่อยนะ” ฉันหันไปตอบพัดชาพร้อมยิ้มให้เธอ
“พัดเอางานไปส่งอาจารย์มา เดินตามหาอิงตั้งนานอ่ะ” พัดชาเดินมาจับมือฉันก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนเธอดีใจมากที่ตามหาฉันเจอ
“อ่อ แล้วตามหาอิงมีอะไรหรือเปล่า” ฉันถามเธอด้วยน้ำเสียงปกติที่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกไป
“ป่าวหรอก อิงก็รู้ว่าพัดไม่มีเพื่อนเลย พัดมีเพื่อนแค่อิงคนเดียวไง ก็เลยเดินหาอิงจะได้มานั่งรอเวลารวมตัวตามที่รุ่นพี่นัดนะ” พัดชามองสบตาฉันด้วยสายตาเศร้าพร้อมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าเช่นกัน แน่นอนว่าในชีวิตก่อนฉันเชื่อสนิทใจกับท่าทางแบบนี้ แต่ชีวิตนี้หยุดจ๊ะ ฉันรู้ว่าเธอแค่แสดง
“อิงว่าทุกคนในคณะก็พร้อมเป็นเพื่อนพัดนะ ถ้าพัดจริงใจและอยากเป็นเพื่อนกับทุกคนจริงๆ” ฉันเอ่ยบอกพัดชาและยิ้มอ่อนให้เธอ โดยเน้นคำว่าจริงใจให้เธอรู้ว่า แค่เธอจริงใจก็ไม่มีใครปิดใจให้เธอหรอก แต่ที่เธอไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะฉันเห็นว่าพอมีเพื่อนที่เป็นผู้หญิงคุยด้วย เธอก็มักจะทำสีหน้าใส่และไม่คุย แต่ถ้าเป็นผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มหรือระดับใกล้เคียงตะวันเธอก็คุยนะ
และนี่คือเรื่องที่ฉันเพิ่งได้สังเกตในชีวิตครั้งใหม่นี้ ชีวิตก่อนฉันโครตโลกสวยเลย ไม่ค่อยมองใครในแง่ลบ ไม่เคยสังเกตอาการ ความรู้สึก หรือการกระทำของใครเลย เพราะคิดว่าทุกคนต้องโลกสวยเหมือนฉัน
“พัดอยากเป็นเพื่อนกับทุกคนนะ และพัดก็จริงใจในคำว่าเพื่อนนะ อิงไม่รังเกียจพัดใช่ไหมถ้าพัดจะเป็นเพื่อนกับอิงและเดซี่กับหลินด้วย” พัดชายังตีหน้าเศร้า ท่าทางเศร้าจับมือฉันและหันมองเดซี่กับหลิน
“การเป็นเพื่อนกัน ทำไมต้องรังเกียจเหรอ” ฉันเอ่ยถามพัดชาด้วยความสงสัย ในเมื่อเธอแสดงอยู่ ฉันก็อยากแสดงบ้าง
“ก็พัดเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาๆ ไม่รู้ว่าลูกคุณหนูอย่างอิง เดซี่ และหลินจะรังเกียจหรือเปล่านะสิ” พัดชาเอ่ยตอบฉัน ตอนนั้นเราทั้งสามคนหันมองหน้ากัน และแน่นอนว่าเดซี่และหลินแอบเบะปากมองบน
“เอาจริงๆ นะพัด พวกเราสามคนนะไม่รังเกียจหรอกนะ ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอแค่จริงใจกันก็พอ เพราะที่พวกเราสามคนรังเกียจคือ คนที่ไม่จริงใจ เส้แสร้ง สร้างภาพ ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง พวกแบบนี้ต่างหากที่พวกเรารังเกียจ ถ้าพัดไม่ได้เป็นแบบนั้นพวกเราสามคนก็พร้อมเป็นเพื่อนพัดนะ” ฉันจับมือพัดชามากุมไว้และเอ่ยบอกเธอ ในประโยคหลังที่ฉันพูด ฉันแอบเห็นแววตาของพัดชาที่ส่งความไม่พอใจมาให้ ใช่เพราะเธอเป็นแบบนั้นเธอรู้สึกเหมือนถูกฉันด่า เลยแสดงความไม่พอใจมาทางสายตาแม้จะแอบก็เถอะ ส่วนเพื่อนฉันสองคนได้แต่ทำตาโตกับคำพูดฉันก่อนจะหัวเราะกันเบาๆ
“อือ พัดไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก ขอบคุณนะที่เป็นเพื่อนกับพัด งั้นเย็นนี้พัดขอไปนั่งรออิงซ้อมการแสดงนะ” พัดชาเอ่ยขึ้นเหมือนซึ้งใจกับความเป็นเพื่อนครั้งนี้มาก และขอไปอยู่รอฉันซ้อมการแสดงของคณะ เพราะปกติทุกวันเดซี่กับหลินก็มักจะอยู่รอฉันทุกวัน เหตุการณ์วันนี้ที่พัดชาพูดเรื่องการขอเป็นเพื่อนฉัน ก็เหมือนชีวิตก่อนแหละ มีเพียงแค่คำพูดของฉันที่ต่างออกไป และก็เป็นเหตุการณ์เริ่มต้นที่หลังจากนี้พัดชาก็เริ่มไปไหนมาไหนกับฉัน ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน พัดชาก็มักจะเป็นคนที่ตามฉันไปด้วยเสมอ นี่แหละมั้งคงเป็นจุดที่ทำให้พัดชาเขาใกล้พี่วินและมีสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ
ชีวิตก่อนฉันอาจจะพลาด เพราะความโลกสวย กับความคิดว่าไม่เป็นไร จนอะไรหลายๆ อย่างนำพามาสู่จุดจบหายนะของชีวิต แต่ในชีวิตนี้ฉันจะไม่ปล่อยความโลกสวยของตัวเองมาบดบังความจริงอีกแล้ว
หลายเหตุการณ์อาจจะต้องดำเนินไปเหมือนชีวิตก่อน หรืออาจจะมีเหตุการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีเพราะฉันต้องการเปลี่ยนหายนะของชีวิตตัวเอง ไม่ว่าเหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้ก็ตาม ฉันก็พร้อมจะรับมือกับมัน ฉันจะมีสติให้มากเพราะมันคือเดิมพันชีวิตของฉัน ฉันไม่รู้ว่าบทสรุปมันจะลงเอยเหมือนชีวิตก่อนไหม แต่ฉันจะเลือกทำ และเลือกคนที่ดีที่สุดให้กับชีวิตตัวเอง
บางวันพวกเขาก็มาช่วงพักเที่ยง มาดักรอทานข้าวเที่ยงในโรงอาหารคณะพร้อมๆ กัน หรือช่วงเย็นที่พี่คินต้องมารอฉันกลับบ้าน ที่ห้องซ้อมการแสดงประกวดดาวเดือนของคณะฉัน ซึ่งพี่คีย์และพี่วินร่วมทั้งพี่เจพี่ปลื้มก็มักจะตามมาด้วยเสมอ ที่สำคัญมีทั้งน้ำขนมมาบริการฉันและพี่ๆเพื่อนๆ ที่ช่วยกันซ้อมดาวเดือนด้วยเช่นกัน
ส่วนพี่คินเองก็มักจะเปิดทางให้พี่คีย์มากกว่า จะค่อยเชียร์พี่คีย์ให้ฉันฟังเสมอ ในขณะที่พี่วินได้คะแนนติดลบจากพี่คินเสมอเช่นกัน เหตุการณ์ต่างๆ ก็คล้ายในชีวิตก่อนนะ เพียงแค่แตกต่างตรงที่ชีวิตก่อน พี่คีย์แค่มานั่งรอเป็นเพื่อนพี่คินและพี่วินเท่านั้น ไม่ได้มาคอยดูแลฉันแบบพี่วิน
อีกเรื่องที่เหมือนกันคือ พัดชาที่ยัดเหยียดตัวเองเข้ากลุ่มฉัน นับตั้งแต่วันที่เธอทำรายงานกลุ่มกับกลุ่มฉัน ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่ห่างกลุ่มฉันอีกเลย แต่อย่างที่บอกชีวิตนี้ฉันไม่ได้ใส่ความรู้สึกหรือหัวใจของคำว่าเพื่อนให้พัดชาเหมือนชีวิตที่แล้ว
“ยัยคุณหนูอิงฟ้า ฉันพูดตรงๆเลยนะ ว่าฉันรู้สึกไม่ค่อยชอบยัยพัดชาเท่าไรอ่ะ เหมือนอะไรที่ทำมันดูเฟคๆ ยังไงก็ไม่รู้” เดซี่เอ่ยขึ้นในขณะที่พวกเรากำลังนั่งกันอยู่ที่เก้าอี้ใต้ตึกอาคารเรียนในช่วงบ่าย
“เอ่อนั้นดิ แกรู้สึกเหมือนฉันเลย ฉันว่ายัยนี่ดูไม่ได้จริงใจอ่ะ” หลินเอ่ยสมทบความคิดเห็นขึ้นอย่างเห็นด้วยกับเดซี่
“จะว่าฉันอคติก็ได้นะโว๊ย แต่กระเทยอย่างฉันมั่นใจว่ายัยนี่ร้ายแน่นอน ดูก็รู้พยายามยัดเหยียดตัวเองเข้ามาในกลุ่มขนาดนี้” เดซี่แสดงความคิดเห็นขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พร้อมสีหน้าและท่าทางที่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง
“อันนี้ยิ่งเห็นด้วย ฉันแอบสังเกตหลายครั้งหล่ะ เวลาที่มองยัยอิงเหมือนมีอะไรบางอย่าง แกต้องระวังไว้หล่ะ” หลินเอ่ยเสริมความเห็นของเดซี่อีกครั้ง เพื่อบอกให้รู้ว่าคิดอย่างนั้นเหมือนกัน
ในชีวิตก่อนทั้งเดซี่และหลินก็เคยพูดแบบนี้ และพยายามเตือนฉันให้ระวังพัดชา แต่ในชีวิตก่อนฉันก็บอกเพื่อนๆ ว่าอย่าไปคิดมากเลย พัดชาไม่ได้มีอะไรหรอก ก็คงอยากมีเพื่อน คงรู้สึกถูกชะตากับพวกเราแหละ เลยขอเข้ากลุ่มด้วย ในตอนนั้นฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ ทุกครั้งที่ไปไหนด้วยกัน แม้เดซี่และหลินไม่อยากให้ไปด้วย ก็มักเป็นฉันที่เกลี้ยกล่อมเพื่อนทั้งสองให้เปิดใจรับพัดชา ทั้งสองยอมรับฟังฉัน และให้พัดชาได้เข้ามาอยู่ในกลุ่ม แม้ในใจจะไม่เคยวางใจพัดชาเลยก็ตาม
จนกระทั่งเรียนจบ ฉันแต่งงานไปแล้วเพื่อนทั้งสองก็ยังคงอคติกับพัดชาอยู่ มีบ่อยครั้งที่ทั้งสองคนมักพูดเรื่องพัดชา ที่น่าสงสัยเกี่ยวกับโพสที่พัดชาลงในโซเชียล ที่หลายๆ อย่างเชื่อมมาหาพี่วิน แต่เป็นฉันที่ให้ใจพัดชา และคิดว่าพี่วินกับพัดชาคงไม่มีทางหักหลังเพื่อนและแฟนอย่างฉัน ฉันจึงมักจะหาทางจบบทสนทนาเหล่านั้นเสมอ แต่สุดท้ายฉันก็คือคนโง่ ที่ปล่อยให้ทั้งสองคนเอาความรักและความเชื่อใจของฉันมาทำลาย
เพราะฉะนั้นในชีวิตใหม่นี้ ฉันจะไม่ผลักไสพัดชา เพราะหากเธอคิดจะทำอะไรอย่างน้อยฉันก็ยังมีโอกาสได้คอยสังเกต แต่ฉันก็จะไม่รับเธอเข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วยความรู้สึกและหัวใจของคำว่าเพื่อนเช่นเดียวกัน
“ถ้าเราคิดว่าเขาไม่จริงใจเราก็แค่ไม่ต้องให้ใจของคำว่าเพื่อนกับเขาสิ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ต้องผลักไสเขาออกไป เพราะถ้าเขาจะทำอะไรเราจะได้รับมือทัน” ฉันเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสองพร้อมไหวไหล่และยักคิ้วให้เล็กน้อย
“ยัยคุณหนูเปลี่ยนไป ปกติคุณหนูอิงฟ้าโลกสวย ต้องตอบว่าช่างเถอะ อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรหรอก” เดซี่ทำหน้าตกใจเล็กน้อย พร้อมทำเสียงล้อเลียนคำพูดฉัน ใช่เพราะที่ผ่านมาฉันโลกสวย โลกสวยมากๆ ด้วยหล่ะ
“นั่นดิ เพราะความโลกสวยของแก ทำให้คนอื่นชอบมาเอาเปรียบ” หลินเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับเดซี่ ก่อนจะหันมาพูดกับฉันด้วยประโยคที่ทั้งสองชอบว่าฉันบ่อยๆ
ด้วยความที่เราทั้งสามเป็นเพื่อนกันมานาน เดซี่และหลินคือเพื่อนที่รู้นิสัยฉันที่สุด และมักจะคอยปกป้องฉันเวลาโดนเพื่อนๆ เอาเปรียบเพราะความโลกสวย ถึงสองคนจะชอบว่าฉันเรื่องนี้ แต่ฉันรู้ว่าเพื่อนทั้งสองจริงใจและห่วงใยฉันมาก
แต่ถ้าถามว่าจริงๆ ฉันรู้ไหมว่าเพื่อนกำลังเอาเปรียบ ฉันก็พอรู้แหละ แต่เพราะฉันมักจะคิดว่าไม่เป็นไร ก็เพื่อนอ่ะ ก็คนรู้จักกัน หรือคิดว่าเขาคงมีเหตุผล แม้กระทั่งความคิดที่ว่า ฉันเกิดมาพร้อมความโชคดีที่มีครอบครัวที่อบอุ่น เกิดมาบนกองเงินกองทองที่ใช้ถึงลูกถึงหลานก็ไม่หมด ฉันจึงมักยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ
พอคิดๆ ไปชีวิตที่ผ่านมาของฉันมันโง่จริงๆ แหละ ที่ยอมคนอื่นขนาดนั้น แต่พอฉันได้ผ่านความตายมาครั้งหนึ่ง มันเลยทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ที่สำคัญความจริงใจถ้าให้ผิดคนก็ไม่มีค่า เผลอๆ นำหายนะว่าให้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นพอได้ชีวิตใหม่ครั้งนี้ฉันจะใช้มันให้ดีที่สุด จะมีสติก่อนทำอะไรทุกอย่าง และจะปกป้องตัวเองให้มากที่สุดเช่นกัน
“ต่อไปนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองโลกสวยแล้วนะ” ฉันหันไปยิ้มให้เพื่อนทั้งสองพร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ้อน เดซี่และหลินจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้มากอดฉัน พร้อมเราทั้งสามที่หัวเราะด้วยกัน
“อารมณ์ดีอะไรกันเหรอ ขอพัดร่วมด้วยคนนะ” เราทั้งสามหยุดหัวเราะและหันสบตากันทันที เมื่อคนที่มาใหม่เอ่ยขึ้นและเดินมาหยุดที่ข้างๆ กัน
“อ่อไม่มีอะไรหรอกพัด พอดีพวกเราคุยอะไรกันเรื่อยเปื่อยนะ” ฉันหันไปตอบพัดชาพร้อมยิ้มให้เธอ
“พัดเอางานไปส่งอาจารย์มา เดินตามหาอิงตั้งนานอ่ะ” พัดชาเดินมาจับมือฉันก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนเธอดีใจมากที่ตามหาฉันเจอ
“อ่อ แล้วตามหาอิงมีอะไรหรือเปล่า” ฉันถามเธอด้วยน้ำเสียงปกติที่ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกไป
“ป่าวหรอก อิงก็รู้ว่าพัดไม่มีเพื่อนเลย พัดมีเพื่อนแค่อิงคนเดียวไง ก็เลยเดินหาอิงจะได้มานั่งรอเวลารวมตัวตามที่รุ่นพี่นัดนะ” พัดชามองสบตาฉันด้วยสายตาเศร้าพร้อมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าเช่นกัน แน่นอนว่าในชีวิตก่อนฉันเชื่อสนิทใจกับท่าทางแบบนี้ แต่ชีวิตนี้หยุดจ๊ะ ฉันรู้ว่าเธอแค่แสดง
“อิงว่าทุกคนในคณะก็พร้อมเป็นเพื่อนพัดนะ ถ้าพัดจริงใจและอยากเป็นเพื่อนกับทุกคนจริงๆ” ฉันเอ่ยบอกพัดชาและยิ้มอ่อนให้เธอ โดยเน้นคำว่าจริงใจให้เธอรู้ว่า แค่เธอจริงใจก็ไม่มีใครปิดใจให้เธอหรอก แต่ที่เธอไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะฉันเห็นว่าพอมีเพื่อนที่เป็นผู้หญิงคุยด้วย เธอก็มักจะทำสีหน้าใส่และไม่คุย แต่ถ้าเป็นผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มหรือระดับใกล้เคียงตะวันเธอก็คุยนะ
และนี่คือเรื่องที่ฉันเพิ่งได้สังเกตในชีวิตครั้งใหม่นี้ ชีวิตก่อนฉันโครตโลกสวยเลย ไม่ค่อยมองใครในแง่ลบ ไม่เคยสังเกตอาการ ความรู้สึก หรือการกระทำของใครเลย เพราะคิดว่าทุกคนต้องโลกสวยเหมือนฉัน
“พัดอยากเป็นเพื่อนกับทุกคนนะ และพัดก็จริงใจในคำว่าเพื่อนนะ อิงไม่รังเกียจพัดใช่ไหมถ้าพัดจะเป็นเพื่อนกับอิงและเดซี่กับหลินด้วย” พัดชายังตีหน้าเศร้า ท่าทางเศร้าจับมือฉันและหันมองเดซี่กับหลิน
“การเป็นเพื่อนกัน ทำไมต้องรังเกียจเหรอ” ฉันเอ่ยถามพัดชาด้วยความสงสัย ในเมื่อเธอแสดงอยู่ ฉันก็อยากแสดงบ้าง
“ก็พัดเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาๆ ไม่รู้ว่าลูกคุณหนูอย่างอิง เดซี่ และหลินจะรังเกียจหรือเปล่านะสิ” พัดชาเอ่ยตอบฉัน ตอนนั้นเราทั้งสามคนหันมองหน้ากัน และแน่นอนว่าเดซี่และหลินแอบเบะปากมองบน
“เอาจริงๆ นะพัด พวกเราสามคนนะไม่รังเกียจหรอกนะ ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอแค่จริงใจกันก็พอ เพราะที่พวกเราสามคนรังเกียจคือ คนที่ไม่จริงใจ เส้แสร้ง สร้างภาพ ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง พวกแบบนี้ต่างหากที่พวกเรารังเกียจ ถ้าพัดไม่ได้เป็นแบบนั้นพวกเราสามคนก็พร้อมเป็นเพื่อนพัดนะ” ฉันจับมือพัดชามากุมไว้และเอ่ยบอกเธอ ในประโยคหลังที่ฉันพูด ฉันแอบเห็นแววตาของพัดชาที่ส่งความไม่พอใจมาให้ ใช่เพราะเธอเป็นแบบนั้นเธอรู้สึกเหมือนถูกฉันด่า เลยแสดงความไม่พอใจมาทางสายตาแม้จะแอบก็เถอะ ส่วนเพื่อนฉันสองคนได้แต่ทำตาโตกับคำพูดฉันก่อนจะหัวเราะกันเบาๆ
“อือ พัดไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก ขอบคุณนะที่เป็นเพื่อนกับพัด งั้นเย็นนี้พัดขอไปนั่งรออิงซ้อมการแสดงนะ” พัดชาเอ่ยขึ้นเหมือนซึ้งใจกับความเป็นเพื่อนครั้งนี้มาก และขอไปอยู่รอฉันซ้อมการแสดงของคณะ เพราะปกติทุกวันเดซี่กับหลินก็มักจะอยู่รอฉันทุกวัน เหตุการณ์วันนี้ที่พัดชาพูดเรื่องการขอเป็นเพื่อนฉัน ก็เหมือนชีวิตก่อนแหละ มีเพียงแค่คำพูดของฉันที่ต่างออกไป และก็เป็นเหตุการณ์เริ่มต้นที่หลังจากนี้พัดชาก็เริ่มไปไหนมาไหนกับฉัน ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน พัดชาก็มักจะเป็นคนที่ตามฉันไปด้วยเสมอ นี่แหละมั้งคงเป็นจุดที่ทำให้พัดชาเขาใกล้พี่วินและมีสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ
ชีวิตก่อนฉันอาจจะพลาด เพราะความโลกสวย กับความคิดว่าไม่เป็นไร จนอะไรหลายๆ อย่างนำพามาสู่จุดจบหายนะของชีวิต แต่ในชีวิตนี้ฉันจะไม่ปล่อยความโลกสวยของตัวเองมาบดบังความจริงอีกแล้ว
หลายเหตุการณ์อาจจะต้องดำเนินไปเหมือนชีวิตก่อน หรืออาจจะมีเหตุการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีเพราะฉันต้องการเปลี่ยนหายนะของชีวิตตัวเอง ไม่ว่าเหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้ก็ตาม ฉันก็พร้อมจะรับมือกับมัน ฉันจะมีสติให้มากเพราะมันคือเดิมพันชีวิตของฉัน ฉันไม่รู้ว่าบทสรุปมันจะลงเอยเหมือนชีวิตก่อนไหม แต่ฉันจะเลือกทำ และเลือกคนที่ดีที่สุดให้กับชีวิตตัวเอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น