คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บ้านหลังใหม่
ภาพที่เซริกส์เห็นคือ เจ้าของมือเรียว ขาวเนียนดันประตูรั้วบานใหญ่ ก้าวเข้ามาพร้อมกับถุงกระดาษสีน้ำตาลใบใหญ่ที่กอดไว้ตรงอกด้วยมือซ้าย หมวกราวกับหมวกของพวกนักสืบ เสื้อแขนยาวสีดำสวมทับเสื้อยืดสีขาวที่อยู่ด้านในกางเกงยีนส์สีดำรัดรูป ทำให้รู้ได้ทันทีว่าผู้มาเยือนเป็นผู้หญิงแน่นอน
“นายหญิง …” ผู้พ่ายแพ้หลุดปากออกมา สายตาของผู้ปรากฏกายตนนี้มองไปยังผู้ที่ผลักประตูเข้ามาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพเทิดทูน
“นายหญิง ?” เซริกส์หลุดปากออกมา เขามองไปยังศัตรูผู้ที่นั่งคุกเข่าหมดแรงอยู่ด้านหน้าแล้วหันไปมองยังผู้มาเยือน
“เจ้า !...นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ” นางแสดงสีหน้าตกใจกับเหตุการณ์ที่เห็น
นางวางถุงกระดาษลงบนพื้นแล้ววิ่งเข้ามาพร้อมกับถอดหมวกออก เผยให้เห็นหน้าตาที่งามราวกับนางฟ้า ริมฝีปากสีชมพูน่าหลงใหล ดวงตาคมกริบที่ทำให้หนุ่มๆทั้งหลายที่สบตารู้สึกราวกับต้องมนต์ ผิวที่ขาวเนียน ผมสีน้ำเงินเป็นประกายเมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์
“.....” เซริกส์ยืนอึ้งไร้ซึ่งคำพูดใดๆ
“ นายหญิง โปรดอภัยให้ความไร้พลังของข้าด้วย” ผู้ปรากฏกายตะโกนบอกนายหญิงของมัน
“ เซลโล เจ้ากลับไปพักซะ ” นางตะโกนบอกผู้เป็นบ่าว
เซริกส์มองหญิงสาวที่บัดนี้กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว นางสอดมือเข้าไปทางด้านหลังขณะที่วิ่งเข้ามา คล้ายกับกำลังเตรียมพร้อมจะนำบางสิ่งออกมา ขณะที่เขากำลังจับจ้องที่นางอย่างไม่ละสายตา เขาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างเข้า
“วิ้งง” แสงประหลาดสีเขียวปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ร่างกายของศัตรูเขาปะมือด้วยเมื่อครู่ ทำให้เขาเผลอตัวหันไปมองมัน แสงสีเขียวเรืองขึ้นจู่ๆ ภายในเสี้ยววินาที แสงของมันสว่างขึ้นแล้วร่างของผู้ปรากฏกายตนนี้ก็กลายสภาพเป็นก้อนกลมๆ มันพุ่งไปทางประตูของที่พักหน่วยสำรวจที่ 3 อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เซริกส์เองก็หันมองตามด้วยความประหลาดใจ ทันทีที่มันพุ่งไปชนประตู บานประตูก็เรืองแสงขึ้น อักขระสีเขียวเกิดขึ้นอีกครั้งบนบานประตู
ขณะที่เซริกส์กำลังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความพลั้งเผลอก็ได้สติขึ้นอีกครั้ง เขารีบหันกลับไปยังหญิงสาวที่พุ่งตัวเข้ามา แต่สายไปเสียแล้ว นางได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย เซริกส์กวาดสายตาไปรอบๆแต่ก็ไร้ร่องรอยของนางเช่นกัน ไร้ซึ่งแรงกดดันไร้ซึ่งจิตสังหาร แล้วในขณะที่เขากวาดสายตามองดูรอบๆเพื่อหาตัวนาง บางอย่างก็พุ่งเข้ามาทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“เช้งงงง ” เสียงของอาวุธประทะกัน เป็นอสูรตนหนึ่งที่พุ่งเข้าหาเซริกส์ ตาของมันสีเขียวเหมือนกับแสงที่เกิดจากบานประตูและเกิดจากตัวศัตรูที่เขาประมือเมื่อครู่ แขนทั้งสองข้างของมันมีลักษณะคล้ายเคียว ลักษณะอื่นๆ ดูคล้ายกับพวก กูล เพียงแต่มันแข็งแกร่งกว่าปราดเปรียวกว่าเท่านั้นเอง การปรากฏตัวของมันทำให้เซริกส์ประหลาดใจไม่น้อย
“ อสูร ? นี่มันบ้าอะไรกัน ” เขาเอ่ยขึ้นลอยๆขณะที่รับมือกับอสูรตนนี้อยู่
การต่อสู้เริ่มได้ไม่นานเท่าไรนัก เซริกส์ก็เหลือบไปมองเห็นบางอย่าง ที่ทำให้เขาต้องตกใจ เขารีบสังหารอสูรตนนี้อย่างรวดเร็วด้วยดาบเล่มใหญ่ในมือ ด้วยการฟันอย่างรุนแรงและรวดเร็วจนร่างของอสูรถูกแบ่งเป็นส่วนๆ แล้วกลายเป็นเศษฝุ่นหายไปในอากาศ
“โฮ่ ! น่าสนใจดี พนักงานต้อนรับของที่นี่มีเยอะขนาดนี้เชียวหรือ ? ” เขาพูดขึ้นขณะที่หันไปมองไปยังจุดที่ทำให้เขาตกใจเมื่อครู่
พนักงานต้อนรับ ? ใช่แล้วละ สิ่งที่เขาเห็นคือ อสูร รูปร่างหน้าตาเหมือนตัวที่เขาสังหารไปเมื่อครู่ เพียงแต่จำนวนมันมีเยอะมากราว 30 ตัวเห็นจะได้ นั่นทำให้สนามหญ้ากว้างๆของที่พักของหน่วยสำรวจที่3 ดูเล็กลงมาก และผู้ที่เดินนำหน้าทัพของพวกอสูร คือ ผู้หญิงผมสีน้ำเงินผู้นั้นเอง
“เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร ” นางเอ่ยถามขณะที่เดินเข้ามาใกล้เซริกส์เรื่อยๆ พอนางเข้ามาใกล้เซริกส์ระยะหนึ่ง นางก็หยุดเดินเข้ามา เหล่าอสูรต่างรายล้อมเตรียมพร้อมปะทะกับเซริกส์
“เห ๆ นั่นต้องเป็นข้ามากกว่านะที่ต้องถามนะ ” เซริกส์ถามย้อนพร้อมกับใบหน้ายิ้มกวนๆ
“เข้ามาในที่ของข้า แล้วเข้ามาทำร้าย การ์เดี้ยน ของข้าตามใจชอบนี่นะ ? ” นางถามกลับไปยังเซริกส์อีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ
“ช่วยไม่ได้นี่นา ก็บ่าวของเจ้ามันไร้มารยาทเอง ข้าเลยช่วยสั่งสอนนะ ” เซริกส์ตอบพร้อมใบหน้ากวนๆอีกครั้ง
“งั้น ... เจ้าต้องการให้ข้าช่วยสังสอนเข้าไหม ?” นางถามด้วยใบหน้ายิ้มๆแต่แววตาบ่งบอกว่าอยากจะอัดเซริกส์ที่ยั่วโทสะด้วยรอยยิ้มแบบกวนๆ
“หึหึ ก็เอาสิข้าจะออมมือให้ละกัน”คำพูดกับรอยยิ้มกวนๆของเซริกส์จี้จุดนางเสียจนระงับอารมณ์ไม่อยู่
“ได้เสียสิ ผู้ชายอย่างเจ้าเป็นประเภทที่ข้าเกลียดที่สุดด้วย” นางตอบด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
“หึหึ ผู้หญิงที่พูดจาแบบนี้ด้วยหน้ายิ้มๆเนี่ย ข้าเพิ่งเห็นเจ้าเป็นคนแรกนะเนี่ย เข้ามาเลยสิเดี๋ยวข้าจะสอนให้เองว่า กลุสตรี เนี่ยเขาต้องทำยังไง” เซริกส์ตอบกับอีกครั้ง ถ้อยคำที่เจ็บแสบทำเอานางทั้งอาย ทั้งโกรธ
“ เจ้าบ้า ! อสูรอัญเชิญจัดการเจ้าบ้านี่ซะ ” นางตะโกนด่า ใบหน้าของนางแดงด้วยความอายและความโกรธ อสูรรอบๆตัวนาง พุ่งเข้าหาเซริกส์ทันที ด้วยระยะห่างไม่มากนักและจำนวนของอสูรอัญเชิญจำนวน 30 ตัว ทำให้ศึกครั้งนี้เซริกส์ตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด
“พวกเจ้า ! หยุดเดี๋ยวนี้ ” เสียงตวาดของใครบางคนทำเอาเหล่าอสูรอัญเชิญและเซริกส์ที่กำลังจะปะทะกันต้องชะงัก เซริกส์หันไปมองยังคนผู้นั้นด้วยความสงสัย
ชาย อายุราวๆ 70 ดูท่าทางราวกับนักปราชญ์ ผมยาวสีเงินต้องแสงอาทิตย์เป็นประกาย เครายาวสีเงินพลิ้วไหวตามสายลม ดวงตาคมกริบนัยน์ตาสีดำภายใต้แว่นตาจ้องมายังเซริกส์อย่างไม่กระพริบตา ภายใต้ชุดคลุมสีน้ำตาลเก็บซ่อนความน่าเกรงขามไว้มากมายเกินหยั่งรู้ได้ ชายชราก้มหยิบถุงกระดาษที่หญิงสาวผู้ทะเลาะกับเซริกส์วางทิ้งไว้ขึ้นมา
อสูรอัญเชิญจำนวนมาก กลายเป็นลูกไฟกลมๆสีเขียว พุ่งกลับไปยังหาหญิงสาวผมสีน้ำเงินผู้เป็นนายของพวกมัน นางดึงแขนเสื้อลงเผยให้เห็นกำไลข้อมือที่มีโซลสีเขียวมรกตเม็ดใหญ่และเม็ดที่เล็กกว่าเรียงล้อมอยู่รอบๆ ลูกไฟสีเขียวพุ่งเข้าไปในโซลเม็ดเล็กที่รายล้อมอยู่รอบๆโซลเม็ดใหญ่ หลังจากที่ลูกไฟสีเขียวพวกนั้นถูกเก็บกลับคืนไปยังกำไลหมดแล้ว นางเดินเข้าไปหาชายชราผมขาวที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสองคน
นางคุกเข่าลงแล้วก้มน่า แสดงความเคารพต่อชายชราผู้นี้
“ท่านอาจารย์รากัน ศิษย์... ” นางพยายามจะกล่าวอะไรบางอย่าง
“เอาหละเจ้าไม่ต้องพูด ” รากันพูดตัดบททันที เขาหันมามองยังเซริกส์พร้อมกับรอยยิ้ม
“เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใคร มาจากที่ไหนกัน ?” เขาถามเซริกส์
เซริกส์สัมผัสได้ถึงพลังของรากันผู้นี้ มันไม่ต่างจากอาจารย์
เขารีบคุกเข้าลงแสดงความเคารพทันที
“ ขออภัยที่ผู้น้อยล่วงเกิน ข้าชื่อ เซริกส์ เดินทางมาตามคำสั่งของอาจารย์ไกอา เพื่อมาพบกับผู้ที่พักอยู่ที่นี่มีนามว่า ไอริส ครับ”
“ฮ่า ฮ่า สมแล้วที่เป็นศิษย์ของไกอา นิสัยคล้ายกันจริงๆ ” รากันหัวเราะเสียงดัง มือขวาลูบเคราของตนเองแล้วมองหน้าเซริกส์ด้วยรอยยิ้ม เซริกส์ฝืนถามกลับ
“ไม่ทราบว่า ท่านรากันทราบหรือไม่ ว่านางอยู่ที่ใด” เซริกส์ถาม
“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าก็ได้พบแล้วไม่ใช่หรือ ? ” ชายชราตอบพร้อมกับหัวเราะ
“ได้พบ ? … หรือว่าจะเป็น ! ” เซริกส์พูดพร้อมกับหันไปมองยังหญิงสาวที่เขาทะเลาะด้วยนางเองก็หันมาสบตากับเซริกส์ นางค้อนตาใส่เซริกส์ แล้วหันกลับไปก้มหน้า
“ ฮ่า ๆ ๆ เอาละลุกขึ้นเถอะ ข้าพอจะเดาเหตุการณ์ออกแล้ว การ์เดี้ยนของที่นี่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรนัก ”
รากันส่งถุงกระดาษให้ไอริส แล้วเดินนำพวกเขาไปยังตัวตึก
“เอาหละ ไอริส เจ้าไปหาห้องนอนสำหรับเจ้าหนุ่มเซริกส์นี่ทีละกัน ” ชายชราพูด
“แต่...อาจารย์คะ จะให้เจ้าบ้านี่พักที่นี่กับเราหรือ?” นางเอ่ยถามชายชราพลันหันมาค้อนตาใส่เซริกส์
“ใช่สิ เพราะตั้งแต่นี้ไปเจ้าหนุ่มนี่จะเป็นหนึ่งในคณะสำรวจของเรา นอกจากนั้นยังเป็นศิษย์คนที่3ของข้าและศิษย์น้องของเจ้าอีกด้วย ” ชายชราพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า
“แต่ว่า .... ” นางพยายามจะแย้ง
“ไม่มีแต่ ” ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เซริกส์ได้ยินดังนั้น เขาหันไปส่งยิ้มกวนๆให้กับไอริสเพื่อยั่วโทสะนางเล่นแล้วหันไปทางชายชราเขาคุกเข่าลงต่อหน้าชายชราอีกครั้ง
“ผู้น้อยขอฝากตัวด้วยครับ” เซริกส์พูดขึ้น
“อืม เจ้าไปพักซะ พรุ่งนี้ข้าจะขอชมสิ่งที่เจ้าเรียนรู้มาจากไกอา หวังว่าเจ้าคงไม่ทำให้ข้าผิดหวัง” รากันแล้วเขาก็เดินเข้าไปด้านในที่พัก ทิ้งให้ไอริสที่แสดงอาการไม่พอใจกับเซริกสี่นั่งคุกเข่าอยู่ด้วยกันภายนอกสองคน
เซริกส์ค่อยๆลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันหน้าไปยิ้มให้กับไอริสซึ่งแสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด นางค้อนสายตาใส่เขาอีกครั้งแล้วเดินลงส้นตึงตังเข้าไปยังที่พักทันที เซริกส์หัวเราะเบาๆแล้วค่อยๆเดินตาม ไอริสเข้าไปในที่พัก ในตอนนี้ตัวเขาได้อยู่ที่บ้านหลังใหม่ ได้พบอาจารย์คนใหม่ มีเรื่องที่เขาต้องเรียนรู้อีกมากมายจากที่นี่ การฝึกฝนกับไกอามาตลอด3ปีเขาพัฒนาขึ้นมากแค่ไหน เขาจะได้ตนเองในครานี้...
ความคิดเห็น