ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ The Legend of Gradius ~

    ลำดับตอนที่ #4 : บ้านหลังใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 53


     

                    ภาพที่เซริกส์เห็นคือ เจ้าของมือเรียว ขาวเนียนดันประตูรั้วบานใหญ่ ก้าวเข้ามาพร้อมกับถุงกระดาษสีน้ำตาลใบใหญ่ที่กอดไว้ตรงอกด้วยมือซ้าย หมวกราวกับหมวกของพวกนักสืบ เสื้อแขนยาวสีดำสวมทับเสื้อยืดสีขาวที่อยู่ด้านในกางเกงยีนส์สีดำรัดรูป ทำให้รู้ได้ทันทีว่าผู้มาเยือนเป็นผู้หญิงแน่นอน

     

                    “นายหญิง …”  ผู้พ่ายแพ้หลุดปากออกมา สายตาของผู้ปรากฏกายตนนี้มองไปยังผู้ที่ผลักประตูเข้ามาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพเทิดทูน

     

                    นายหญิง ?”  เซริกส์หลุดปากออกมา เขามองไปยังศัตรูผู้ที่นั่งคุกเข่าหมดแรงอยู่ด้านหน้าแล้วหันไปมองยังผู้มาเยือน

     

                    “เจ้า !...นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ”  นางแสดงสีหน้าตกใจกับเหตุการณ์ที่เห็น

                   

                    นางวางถุงกระดาษลงบนพื้นแล้ววิ่งเข้ามาพร้อมกับถอดหมวกออก เผยให้เห็นหน้าตาที่งามราวกับนางฟ้า ริมฝีปากสีชมพูน่าหลงใหล ดวงตาคมกริบที่ทำให้หนุ่มๆทั้งหลายที่สบตารู้สึกราวกับต้องมนต์ ผิวที่ขาวเนียน ผมสีน้ำเงินเป็นประกายเมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์

     

                    .....เซริกส์ยืนอึ้งไร้ซึ่งคำพูดใดๆ

     

                    นายหญิง  โปรดอภัยให้ความไร้พลังของข้าด้วยผู้ปรากฏกายตะโกนบอกนายหญิงของมัน

     

                    เซลโล เจ้ากลับไปพักซะ นางตะโกนบอกผู้เป็นบ่าว

                   

                    เซริกส์มองหญิงสาวที่บัดนี้กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว นางสอดมือเข้าไปทางด้านหลังขณะที่วิ่งเข้ามา คล้ายกับกำลังเตรียมพร้อมจะนำบางสิ่งออกมา ขณะที่เขากำลังจับจ้องที่นางอย่างไม่ละสายตา เขาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างเข้า

     

                    วิ้งงแสงประหลาดสีเขียวปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ร่างกายของศัตรูเขาปะมือด้วยเมื่อครู่ ทำให้เขาเผลอตัวหันไปมองมัน แสงสีเขียวเรืองขึ้นจู่ๆ ภายในเสี้ยววินาที แสงของมันสว่างขึ้นแล้วร่างของผู้ปรากฏกายตนนี้ก็กลายสภาพเป็นก้อนกลมๆ มันพุ่งไปทางประตูของที่พักหน่วยสำรวจที่ 3 อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เซริกส์เองก็หันมองตามด้วยความประหลาดใจ ทันทีที่มันพุ่งไปชนประตู บานประตูก็เรืองแสงขึ้น อักขระสีเขียวเกิดขึ้นอีกครั้งบนบานประตู

     

     

                    ขณะที่เซริกส์กำลังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความพลั้งเผลอก็ได้สติขึ้นอีกครั้ง เขารีบหันกลับไปยังหญิงสาวที่พุ่งตัวเข้ามา แต่สายไปเสียแล้ว นางได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย เซริกส์กวาดสายตาไปรอบๆแต่ก็ไร้ร่องรอยของนางเช่นกัน ไร้ซึ่งแรงกดดันไร้ซึ่งจิตสังหาร แล้วในขณะที่เขากวาดสายตามองดูรอบๆเพื่อหาตัวนาง บางอย่างก็พุ่งเข้ามาทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

     

                    “เช้งงงง เสียงของอาวุธประทะกัน เป็นอสูรตนหนึ่งที่พุ่งเข้าหาเซริกส์ ตาของมันสีเขียวเหมือนกับแสงที่เกิดจากบานประตูและเกิดจากตัวศัตรูที่เขาประมือเมื่อครู่ แขนทั้งสองข้างของมันมีลักษณะคล้ายเคียว ลักษณะอื่นๆ ดูคล้ายกับพวก กูล เพียงแต่มันแข็งแกร่งกว่าปราดเปรียวกว่าเท่านั้นเอง การปรากฏตัวของมันทำให้เซริกส์ประหลาดใจไม่น้อย

     

                    “ อสูร ? นี่มันบ้าอะไรกัน เขาเอ่ยขึ้นลอยๆขณะที่รับมือกับอสูรตนนี้อยู่

     

                    การต่อสู้เริ่มได้ไม่นานเท่าไรนัก เซริกส์ก็เหลือบไปมองเห็นบางอย่าง ที่ทำให้เขาต้องตกใจ เขารีบสังหารอสูรตนนี้อย่างรวดเร็วด้วยดาบเล่มใหญ่ในมือ ด้วยการฟันอย่างรุนแรงและรวดเร็วจนร่างของอสูรถูกแบ่งเป็นส่วนๆ แล้วกลายเป็นเศษฝุ่นหายไปในอากาศ

                   

                    โฮ่ ! น่าสนใจดี พนักงานต้อนรับของที่นี่มีเยอะขนาดนี้เชียวหรือ ? ” เขาพูดขึ้นขณะที่หันไปมองไปยังจุดที่ทำให้เขาตกใจเมื่อครู่

     

                    พนักงานต้อนรับ ? ใช่แล้วละ สิ่งที่เขาเห็นคือ อสูร รูปร่างหน้าตาเหมือนตัวที่เขาสังหารไปเมื่อครู่ เพียงแต่จำนวนมันมีเยอะมากราว 30 ตัวเห็นจะได้ นั่นทำให้สนามหญ้ากว้างๆของที่พักของหน่วยสำรวจที่3 ดูเล็กลงมาก และผู้ที่เดินนำหน้าทัพของพวกอสูร คือ ผู้หญิงผมสีน้ำเงินผู้นั้นเอง

     

                    เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร นางเอ่ยถามขณะที่เดินเข้ามาใกล้เซริกส์เรื่อยๆ พอนางเข้ามาใกล้เซริกส์ระยะหนึ่ง นางก็หยุดเดินเข้ามา เหล่าอสูรต่างรายล้อมเตรียมพร้อมปะทะกับเซริกส์

     

                    เห ๆ นั่นต้องเป็นข้ามากกว่านะที่ต้องถามนะ เซริกส์ถามย้อนพร้อมกับใบหน้ายิ้มกวนๆ

     

                    เข้ามาในที่ของข้า แล้วเข้ามาทำร้าย การ์เดี้ยน ของข้าตามใจชอบนี่นะ ? ” นางถามกลับไปยังเซริกส์อีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ

     

                    ช่วยไม่ได้นี่นา ก็บ่าวของเจ้ามันไร้มารยาทเอง ข้าเลยช่วยสั่งสอนนะ เซริกส์ตอบพร้อมใบหน้ากวนๆอีกครั้ง

     

                    “งั้น ... เจ้าต้องการให้ข้าช่วยสังสอนเข้าไหม ?” นางถามด้วยใบหน้ายิ้มๆแต่แววตาบ่งบอกว่าอยากจะอัดเซริกส์ที่ยั่วโทสะด้วยรอยยิ้มแบบกวนๆ

     

                    หึหึ ก็เอาสิข้าจะออมมือให้ละกันคำพูดกับรอยยิ้มกวนๆของเซริกส์จี้จุดนางเสียจนระงับอารมณ์ไม่อยู่

     

                    ได้เสียสิ ผู้ชายอย่างเจ้าเป็นประเภทที่ข้าเกลียดที่สุดด้วยนางตอบด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

     

                    “หึหึ ผู้หญิงที่พูดจาแบบนี้ด้วยหน้ายิ้มๆเนี่ย ข้าเพิ่งเห็นเจ้าเป็นคนแรกนะเนี่ย เข้ามาเลยสิเดี๋ยวข้าจะสอนให้เองว่า กลุสตรี เนี่ยเขาต้องทำยังไงเซริกส์ตอบกับอีกครั้ง ถ้อยคำที่เจ็บแสบทำเอานางทั้งอาย ทั้งโกรธ

     

                   

                    เจ้าบ้า ! อสูรอัญเชิญจัดการเจ้าบ้านี่ซะ นางตะโกนด่า ใบหน้าของนางแดงด้วยความอายและความโกรธ อสูรรอบๆตัวนาง พุ่งเข้าหาเซริกส์ทันที ด้วยระยะห่างไม่มากนักและจำนวนของอสูรอัญเชิญจำนวน 30 ตัว ทำให้ศึกครั้งนี้เซริกส์ตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด

     

                    พวกเจ้า ! หยุดเดี๋ยวนี้ เสียงตวาดของใครบางคนทำเอาเหล่าอสูรอัญเชิญและเซริกส์ที่กำลังจะปะทะกันต้องชะงัก เซริกส์หันไปมองยังคนผู้นั้นด้วยความสงสัย

     

                    ชาย อายุราวๆ 70 ดูท่าทางราวกับนักปราชญ์ ผมยาวสีเงินต้องแสงอาทิตย์เป็นประกาย เครายาวสีเงินพลิ้วไหวตามสายลม ดวงตาคมกริบนัยน์ตาสีดำภายใต้แว่นตาจ้องมายังเซริกส์อย่างไม่กระพริบตา ภายใต้ชุดคลุมสีน้ำตาลเก็บซ่อนความน่าเกรงขามไว้มากมายเกินหยั่งรู้ได้ ชายชราก้มหยิบถุงกระดาษที่หญิงสาวผู้ทะเลาะกับเซริกส์วางทิ้งไว้ขึ้นมา

                   

                    อสูรอัญเชิญจำนวนมาก กลายเป็นลูกไฟกลมๆสีเขียว พุ่งกลับไปยังหาหญิงสาวผมสีน้ำเงินผู้เป็นนายของพวกมัน นางดึงแขนเสื้อลงเผยให้เห็นกำไลข้อมือที่มีโซลสีเขียวมรกตเม็ดใหญ่และเม็ดที่เล็กกว่าเรียงล้อมอยู่รอบๆ ลูกไฟสีเขียวพุ่งเข้าไปในโซลเม็ดเล็กที่รายล้อมอยู่รอบๆโซลเม็ดใหญ่  หลังจากที่ลูกไฟสีเขียวพวกนั้นถูกเก็บกลับคืนไปยังกำไลหมดแล้ว นางเดินเข้าไปหาชายชราผมขาวที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสองคน

     

                    นางคุกเข่าลงแล้วก้มน่า แสดงความเคารพต่อชายชราผู้นี้

                    ท่านอาจารย์รากัน ศิษย์... นางพยายามจะกล่าวอะไรบางอย่าง

     

                    “เอาหละเจ้าไม่ต้องพูด รากันพูดตัดบททันที เขาหันมามองยังเซริกส์พร้อมกับรอยยิ้ม

     

                    เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใคร มาจากที่ไหนกัน ?” เขาถามเซริกส์

     

                    เซริกส์สัมผัสได้ถึงพลังของรากันผู้นี้ มันไม่ต่างจากอาจารย์ของเขาไกอา ไม่สิ มันมากกว่านับสิบเท่า

    เขารีบคุกเข้าลงแสดงความเคารพทันที

                    ขออภัยที่ผู้น้อยล่วงเกิน ข้าชื่อ เซริกส์ เดินทางมาตามคำสั่งของอาจารย์ไกอา เพื่อมาพบกับผู้ที่พักอยู่ที่นี่มีนามว่า ไอริส ครับ

     

                    ฮ่า ฮ่า สมแล้วที่เป็นศิษย์ของไกอา นิสัยคล้ายกันจริงๆ  รากันหัวเราะเสียงดัง มือขวาลูบเคราของตนเองแล้วมองหน้าเซริกส์ด้วยรอยยิ้ม เซริกส์ฝืนถามกลับ

     

                    “ไม่ทราบว่า ท่านรากันทราบหรือไม่ ว่านางอยู่ที่ใดเซริกส์ถาม

     

                    ฮ่า ๆ ๆ เจ้าก็ได้พบแล้วไม่ใช่หรือ ? ” ชายชราตอบพร้อมกับหัวเราะ

     

                    ได้พบ ? … หรือว่าจะเป็น ! ” เซริกส์พูดพร้อมกับหันไปมองยังหญิงสาวที่เขาทะเลาะด้วยนางเองก็หันมาสบตากับเซริกส์ นางค้อนตาใส่เซริกส์ แล้วหันกลับไปก้มหน้า

     

                    ฮ่า ๆ ๆ เอาละลุกขึ้นเถอะ ข้าพอจะเดาเหตุการณ์ออกแล้ว การ์เดี้ยนของที่นี่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรนัก

    รากันส่งถุงกระดาษให้ไอริส แล้วเดินนำพวกเขาไปยังตัวตึก

     

                    เอาหละ ไอริส เจ้าไปหาห้องนอนสำหรับเจ้าหนุ่มเซริกส์นี่ทีละกัน ชายชราพูด

     

                    “แต่...อาจารย์คะ จะให้เจ้าบ้านี่พักที่นี่กับเราหรือ?” นางเอ่ยถามชายชราพลันหันมาค้อนตาใส่เซริกส์

     

                    ใช่สิ เพราะตั้งแต่นี้ไปเจ้าหนุ่มนี่จะเป็นหนึ่งในคณะสำรวจของเรา นอกจากนั้นยังเป็นศิษย์คนที่3ของข้าและศิษย์น้องของเจ้าอีกด้วย ชายชราพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า

     

                    แต่ว่า .... นางพยายามจะแย้ง

     

                    ไม่มีแต่ ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

                    เซริกส์ได้ยินดังนั้น เขาหันไปส่งยิ้มกวนๆให้กับไอริสเพื่อยั่วโทสะนางเล่นแล้วหันไปทางชายชราเขาคุกเข่าลงต่อหน้าชายชราอีกครั้ง

                    “ผู้น้อยขอฝากตัวด้วยครับ เซริกส์พูดขึ้น

     

                    “อืม เจ้าไปพักซะ พรุ่งนี้ข้าจะขอชมสิ่งที่เจ้าเรียนรู้มาจากไกอา หวังว่าเจ้าคงไม่ทำให้ข้าผิดหวัง รากันแล้วเขาก็เดินเข้าไปด้านในที่พัก ทิ้งให้ไอริสที่แสดงอาการไม่พอใจกับเซริกสี่นั่งคุกเข่าอยู่ด้วยกันภายนอกสองคน

     

                    เซริกส์ค่อยๆลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันหน้าไปยิ้มให้กับไอริสซึ่งแสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด นางค้อนสายตาใส่เขาอีกครั้งแล้วเดินลงส้นตึงตังเข้าไปยังที่พักทันที  เซริกส์หัวเราะเบาๆแล้วค่อยๆเดินตาม ไอริสเข้าไปในที่พัก ในตอนนี้ตัวเขาได้อยู่ที่บ้านหลังใหม่  ได้พบอาจารย์คนใหม่ มีเรื่องที่เขาต้องเรียนรู้อีกมากมายจากที่นี่ การฝึกฝนกับไกอามาตลอด3ปีเขาพัฒนาขึ้นมากแค่ไหน เขาจะได้ตนเองในครานี้...

                   

                   

           

                   

     

                   

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×