คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Wisteria1 : เปิดภาคเรียน[100%]
เปิดภาคเรียน
ณ ท่าเรือเคลพี
เสียงรองเท้าหนังกระทบกับพื้น
และเสียงตะโกนของผู้คุมโรงเรียนดังไปทั่วบริเวณท่าเรือ
เพื่อเช็คความเรียบร้อยและความปลอดภัยของนักเรียนทุกคน
นอกจากวันนี้จะเป็นวันเปิดภาคเรียนแรกแล้วยังเป็นวันที่นักเรียนปี1มารวมตัวกัน
นั้นยิ่งทำให้ทุกอย่างในตอนนี้ดูวุ่นวายไปหมด
แต่นั้นไม่ได้เข้าหัวประสาทของเขาเลยแม้แต่น้อย
เพราะสิ่งที่กังวลคือเขาลืมกระเป๋าเสื้อผ้าต่างหาก...
“ ชานยอล! ลูกแม่ ” ผู้หญิงผมยาวสลวย
ตากลมโตกรีดอายไลเนอร์เล็กน้อยเข้ากับใบหน้าสะสวย
แม้ว่าเธอคนนี้จะอายุมากแล้วก็ได้ แต่นั้นไม่ได้ทำให้หญิงสาวตรงหน้าของเขาแก่ลงเลยแม้แต่น้อย
“ อ่า แม่ขอโทษนะครับ
ต้องลำบากแม่อีกแล้ว ” ร่างบางเดินเข้าไปกอดแม่ก่อนจะรับกระเป๋าเดินทางของเค้าจากผู้เป็นแม่ของตนมาถือเอง
“ อ๊ะ! นี่นาย ” ร่างบางล้มพับไปกับพื้น จากแรงกระแทก
ร่างสูงก้มหัวขอโทษก่อนจะเอื้อมมือไปจับเพื่อช่วยอีกฝ่าย “
อ๊ะ นะนี่นาย นายอีกแล้วหรอคริส ให้ตายสิ!
นายเดินภาษาอะไรของนาย ห้ะถึงไม่เห็นคนอยู่ตรงนี้ ” ร่างบางว่าพลางปัดมือของร่างสูงออกก่อนจะลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากกางเกง
“ ถ้านายไม่ได้หูหนวก ฉันคิดว่าฉันขอโทษนายไม่แล้ว
และฉันไม่ได้ตั้งใจ ” ร่างบางมองอีกคนเขียวปั๊ด “ นี่! ” ก่อนที่ร่างบางจะชาร์ตตัวเข้าใส่อีกฝ่าย
หญิงสาวได้จับมือห้ามไว้ก่อน “ ขอโทษนะลูกคริส
ชานยอลไม่ได้ตั้งใจ น้าขอโทษทีนะ ” ร่างบางทำท่ากระฟัดกระเฟียดไปมาหลังจากที่แม่เอ่ยขอโทษแทนตน
แต่ก่อนจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงกริ๊งของท่าเรือดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนดังขึ้น เพื่อให้นักเรียนในบริเวณนั้นขึ้นเรือให้เรียบร้อย
“ เหอะ
แม่ไปขอโทษมันทำไม มันผิดนะ! ” หญิงสาวชี้หน้าดุลูกตัวเองที่ทำตัวไม่เหมาะสม
ก่อนจะผลักร่างบางตรงหน้าให้ขึ้นเรือเพื่อมุ่งหน้าไปโรงเรียน
ก่อนจากลาร่างบางหันมาหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ ก่อนจะโบกมือลาและขึ้นเรือตามร่างสูงอีกคนไป
.
.
เมื่อเสียงกริ๊งแจ้งเตือนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนประตูเรือจะปิดลง
ร่างบางเดินถือกระเป๋าไปตามทางเดินเพื่อหาห้องพักของตัวเอง
ปีนี้ร่างบางอายุสิบสามปี เขาได้รับบัตรเชิญให้เขารับการศึกษาที่วิสทีเรีย เพราะพ่อของเขาเคยได้รับการศึกษาจากที่นี่เช่นเดียวกัน
แม่พยายามปกปิดเรื่องนี้กับเขามาตลอด ทั้งเรื่องของพ่อและเรื่องความสามารถพิเศษของเขา
และนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นแม่ของเขาร้องไห้เป็นครั้งที่สองของเขา
ครั้งแรกคือตอนที่เขายังเด็ก เขาตัดสินใจเรียนที่นี่เพื่อมาตามหาพ่อของเขา
เพราะแม่ไม่เคยบอกอะไรเขาเลยเกี่ยวกับพ่อตั้งแต่ที่พ่อจากพวกเขาไปตั้งแต่ร่างบางยังเด็ก
และปาร์ค ยูรา พี่สาวของเขาอายุเพียง4ขวบ
ร่างบางสะบัดหัวไล่ความคิดออกจากหัว ก่อนจะมุ่งหน้าเดินหาห้องพักต่อไป
“ โย่วว ชานยอล ห้ะเฮ้ย!
” ร่างบางสะดุ้งสุดตัวจนเผลอต่อยหน้าเพื่อนไป คิม จงอิน ล้มลงกับพื้นจนร่างบางต้องช่วย
“ ขะ..ขอโทษ
กูไม่ได้ตั้งใจช่วยไม่ได้มึงโผล่มาไม่ให้เสียงกูเอง ” ร่างบางบ่นอุบอิบก่อนจะช่วยเพื่อนตัวดำลุกขึ้นมา
ก่อนจะพากันไปห้องพักที่มีเพื่อนรออยู่แล้ว
“ เอ่อ พวกมึงได้ข่าวของวิสทีเรียหรือยัง
” หลังจากที่เข้ามาห้องพักและเก็บของเรียบร้อยแล้วเพื่อนตัวขาว
หรือโอ เซฮุน ก็เอ่ยประโยคแทรกความเงียบเข้ามา “ ข่าวไรของมึงวะโอโม่
” เตนล์หรือใครๆที่เรียกว่าหมวย
เพื่อนไทยแลนด์แดนสยาม ผู้ชายหน้าหวานที่อยากจะแมนด้วยการไปไถผมด้านข้างมา “ เห็นพี่ปี3เล่ากันว่ามีรุ่นน้องปี1 เป็นมนุษย์2คนวะ ” ชานยอลขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากที่เพื่อนพูดจบ เป็นไปไม่ได้เด็กนักเรียนทุกคนที่นี่ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ใช่มนุษย์
แต่พวกเราต่างกับตรงที่ว่าพวกเราทุกคนต่างมีพรสวรรค์ติดตัวมาทุกคนไม่มากก็น้อย แต่มนุษย์ที่เซฮุนพูดถึงคือคนที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลยต่างหาก “ เป็นไปไม่ได้ เด็ก2คนนั้นตายแน่
ไม่มีนักเรียนคนที่นั้นที่ไร้ความสามารถและอยู่ที่นี่ได้โดยไม่ถูกกลั้นแกล้ง ”
เป็นหมวยเตนล์ที่พูดขึ้นมา ใช่! เป็นไปไม่ได้
.
.
นักเรียนทุกคนทยอยลงจากเรือหลังจากเดินทางมากกว่า2ชั่วโมง
ก่อนที่พี่กล้ามใหญ่ หรือศาสตราจารย์แจ็คสัน ครูสอนศาสตร์มืด
ที่ควบตำแหน่งภารโรงของวิสทีเรียอีกด้วย ชานยอลไม่เคยเข้าใจความคิดของศาสตราจารย์แจ็คสันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นักเรียนทุกคนแบ่งแยกตามชั้นปี เพื่อความเป็นระเบียบมากขึ้น หมอกสีฟ้าอมม่วงปรากฏขึ้นเพื่อปกคลุมและให้ความปลอดภัยแก่เด็กนักเรียนเพื่อเดินทางไปโรงเรียน
.
“ ดีโอ แบมแบม เจโน่
ทางนี้! ” แบค ฮยอน เด็กชายตัวเล็กที่มาพร้อมกับใบหน้าหวานตัดกับปากสีเชอรี่
รับกับผมสีชมพูที่เจ้าตัวไปย้อมมา ทำให้คนตัวเล็กดูเป็นเด็กน้อยท่ามกลางนักเรียนชั้นเดียวกัน
“ โอ้ยย แบคอย่าเสียงดังสิ ดีโออายเพื่อนๆนะ ” คนตัวเล็กกว่าแบคฮยอน หนุ่มน้อยตาโต ผิวขาวอมน้ำนมเอ่ยดุเพื่อนใหม่ของเขาอย่างน่ารัก
แบคฮยอนทำท่าหงอยเหมือนหมาน้อยจนเจโน่และแบมแบมหัวเราะออกมา ก็จะเงียบลง
เมื่อแจ็คสันเรียกรวมตัวอีกครั้ง แจ็คสันแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆและเช็คชื่อนักเรียนเพื่อให้ง่ายต่อการขึ้นรถม้า
“ นี่นะหรอ มนุษย์ที่ใครๆพูดถึง
น่ารักดีนี่ ” อยู่ๆผู้ชาย4คนก็มาทักดีโอกับแบมแบม
ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวออกมา “ ฉันแดฮยอน นี่ยงกุก
เซโล่ และจงออบ ลูกน้องฉัน ” นักเรียนในชั้นปีเดียวกันเริ่มหันมามองพวกเขามากขึ้นกว่าเดิมเมื่อแดฮยอนพูดจบ
“ น่าเสียดายนะที่นายเป็นมนุษย์ สนใจมาเข้ากลุ่มกับฉันไหมละอย่างน้อยฉันก็ดีกว่าไอ้2ตัวนี่
” ดีโอ แบมแบมหันหน้ามามองหันเลิกลั่ก ก่อนจะช่วยกันห้ามเจโน่กับแบคฮยอนเอาไว้
“ พวกฉัน2คนมันทำไมห้ะ! แดฮยอน นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร ” แดฮยอนทำท่าจะเข้าไปต่อยแบคฮยอนที่ขึ้นเสียงกับเขา
แต่ก่อนที่แดฮยอนจะต่อยหน้าแบคฮยอน ก็มีมือใครสักคนมาจับห้ามไว้ก่อนที่หมัดนั่นจะโดนหน้าแบคฮยอน
“ นายเป็นหลานของศาสตราจารย์ซูโฮนะแดฮยอน
นายควรเป็นตัวอย่างให้เพื่อนมากกว่านี้
และนายไม่ควรทำให้ศาสตราจารย์ต้องเสียชื่อเสียงเพราะนาย ” มาร์ค ลี จับมือแดฮยอนแน่น
ก่อนที่แดฮยอนจะยอมลดมือลง และเดินหนีออกไป
เมื่อเห็นว่าศาสตราจารย์แจ็คสันเริ่มเดินมาตรงนี้แล้ว “ ขะ..ขอบ/ไม่ต้องขอบคุณ
ที่ฉันช่วยเพราะฉันไม่ชอบให้ใครโดนรังแก ” มาร์คเอ่ยตัดบทก่อนที่เจโน่จะพูดจบ
และหันหลังเดินกลับไปที่เดิม “ ว่าไงนะ! คิดว่าตัวเองหล่อมากหรือไงมาร์ค ลี ”เจโน่บ่นอุบอิบ
เบ้ปากอีกนดจะเป็นรูปตีน..พร้อมชูนิ้วกลางใส่หลังจากที่มาร์คเดินออกไป
ท่ามกลางสายตาของเพื่อน
บนรถม้า
“
เหอะ พวกนายไม่น่าห้ามฉันเลย พวกแดฮยอนพวกนิสัยไม่ดี ” ดีโอเอื้อมมือไปจับคนตรงหน้าให้ฉันเย็นๆกว่านี้
“ ใช่ ดีโอ แบมแบม พวกนายต้องอยู่กับฉันไว้นะ
และห้ามไปยุ่งกับพวกแดฮยอนเด็ดขาด ” ดีโอ แบมแบม พยักหน้ารับทราบ
ก่อนจะเป็นแบมแบมเองที่เอ่ยถามขึ้น
“ นี่เจโน่
นายรู้จักกับมาร์คด้วยหรอ ฉันเห็นดูท่าพวกนายจะสนิทกันนะ ” แบคฮยอนพยักหน้าให้กับคำพูดของแบมแบม
มาร์ค ลี เป็นน้องชายของรุ่นพี่ซิ่วหมินปี3 กลุ่มเดียวกับพี่คริส “ หมอนั่นเนี่ยนะ จะบ้าหรอแค่หน้าฉันก็ไม่อยากเจอ
คนอะไรหยิ่งและขี้เก๊กเป็นบ้า หล่อมากมั้ง? เอ่อยอมรับว่าหล่อ
หล่อมาก TT ” แบคฮยอนยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะเขยิบเข้าไปชิดเจโน่
ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ทุกคนขำลั่นออกมา “ ระวังน้า
เจโน่ในอนาคตนายอาจจะได้มาร์คเป็นแฟนก็ได้นะ คิคิ ” เจโน่มองตาค้อนก่อนจะเสหน้าหนีเพื่อนๆที่เริ่มแซวเขา
“ เอ่อนี่
ทุกคนฉันมีรุ่นพี่จะแนะนำให้ทุกคนรู้จักด้วยละ ” หนุ่มน้อย3คนมองหน้ากันไปมาก่อนที่แบคฮยอนจะอุทานออกมาหลังจากที่เจโน่พูดจบ
“ ว่าไงนะนายเป็นน้องชายของรุ่นพี่เซฮุนกลุ่มเดียวกันกับรุ่นพี่ชานยอลและพี่ไคไงหรอ
ทำไมนายไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ ” เจโน่ทำหน้างง
เค้าผิดตรงไหนที่ไม่ได้บอกให้เร็วกว่านี้ “ นายไม่รู้หรอว่ากลุ่มพี่เซฮุนนะดังมากและเก่งที่สุดในชั้นปี
เป็นกลุ่มรวมตัวของเจ้าชายของโรงเรียนก็ว่าได้ ” เจโน่ส่ายหัวไปมา
ก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนแทนการตอบคำถามของแบคฮยอนตามแบมแบมไป
.
.
.
“
ทุกคนคิดว่าไงถ้าปีนี้ฉันจะลงแข่งประลองเวทย์ในปีนี้ ” คิมจงอินสำลักน้ำทันทีที่ชานยอลพูดจบ
“ นายจะบ้าหรอชานยอล ไม่มีทางหรอ
นายก็รู้ว่าการแข่งขันเวทย์น่ากลัวแค่ไหน และเด็กปี2แบบเราไม่มีทางได้แข่งแน่นอน ”
เตนล์และเซฮุนพยักหน้าเห็นด้วยกับจงอิน เด็กปี2แบบพวกเค้าไม่มีทางที่จะแข่งขันประลองเวทย์ได้
นักเรียนที่จะเข้าแข่งขันได้ต้องขึ้นปี5 ขึ้นไปทั้งนั้น
.
.
“ คริส ตกลงยังไงของนาย
เรื่องชานยอล ฉันเห็นนะว่านายจงใจเดินเข้าไปชนชานยอล ” คิม
จงแดหรือเฉิน ยิ้มเจ้าเล่ห์
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคริสนะชอบขานยอลตั้งแต่ที่คริสเคยไปช่วยรุ่นพี่แทมินต้อนรับน้องๆแทนศาสตราจารย์แจ็คสัน
แต่เจ้าตัวนั้นแหละที่ปากแข็ง “ ก็ป่าวนี่ ” คริสทำท่ายักไหล่ไม่สนใจในสิ่งที่จงแดพูด “
เอ่อนี่ทุกคน ฉันมีคนจะแนะนำให้พวกนายได้รู้จักด้วยนะ มาร์ค ลี
น้องชายฉันหน่ะเข้าเรียนที่นี่ คงไม่ว่าอะไรนะถ้าฉันจะเอาน้องฉันมาเข้ากลุ่มด้วย ”
หนุ่มน้อยซาลาเปา คิม มินซอกหรือซิ่วหมินเอ่ยขึ้นมาบ้าง
ทุกคนพยักหน้ารับทราบก่อนจะหันหน้าไปสนใจขนมตรงหน้าต่อ
ปัง! เสียงหลังคาดังขึ้นเหมือนมีอะไรหล่นลงมา ก่อนจะเป็นลี แทยงหรือทีวายที่โผล่หัวออกมาก่อน
และตามด้วยต้วน อี้เอินหรืออีกชื่อคือเสือมาร์คที่เป็นคนปีนเข้ามาในรถม้าคนแรก
ซิ่วหมินสร้างน้ำแข็งให้เป็นหิมะก่อนจะปาใส่หน้าทั้ง2คน โทษฐานที่ทำพวกเขาตกใจ
แทยง มาร์คส่ายหน้าไปมา เพื่อสะบัดให้หิมะหลุดออกจากผม “
กูขอโทษทีวะ พอดีกูวิ่งตามมึงไม่ทันเลยได้นั่งรถม้าหลังมึง2คันแทน ” ซิ่วหมินเลยปั้นหิมะอีกรอบหมายจะปาใส่หน้าแทยองและมาร์ค แต่มาร์ครู้ทัน
สร้างเกราะกำบังทำให้หิมะสะท้อนกลับไปหาซิ่วหมินแทน “55555555555555555
ซิ่วหมินมึงโคตรตลกอ่ะ ” ซิ่วหมินมองตาเขียวปั๊ด
หลังจากที่ทุกคนหัวเราะใส่เขา ก่อนจะเป็นจงแดที่เป็นคนปัดหิมะออกมา “ พวกมึงไปหวานกันไกลๆกูเถอะ ” คริสเอ่ยขึ้นมาทำให่ซิ่วหมินทำท่ากระฟัดกระเฟียดไปมาอย่างขัดใจ
นั้นยิ่งทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาอีกรอบ
“ เอ่อ พวกมึงได้ยินแจบอมพูดว่าปีนี้
ทางโรงเรียนจะอนุญาตให้นักเรียนปี3ขึ้นไปลงแข่งประลองเวทย์ด้วยนะเว้ย
แต่กูไม่รู้ว่าข่าวลือนี่จะเป็นจริงไหม ” มาร์คพูดขึ้นแทรกเสียงหัวเราะของเพื่อนๆขึ้นมา
“ บ้า ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ไม่มีทางหรอ การแข่งขันประลองเวทย์ไม่ใช่การแข่งขันเด็กเล่นนะ อย่าลืมสิกฎของการแข่งขันคือผู้ล่า
เด็กอายุสิบสี่แบบเราไม่มีทางที่จะรอดในเกมแรกหรอนะ ” ซิ่วหมินเอ่ยขัดขึ้นมา
การแข่งขันประลองเวทย์เป็นการแข่งขันที่วัดระดับความสามารถของนักเรียนที่แข่ง
และคนที่สามารถชนะการแข่งขันของแต่ละบ้าน พวกเค้าจะถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายของโรงเรียน
แต่การแข่งขันมันไม่ใช่เรื่องง่าย ฆ่าได้คือฆ่า ถึงแม้ศาสตราจารย์ซูโฮ
และศาสตราจารย์อี้ชิงจะบอกว่าสามารถชุบชีวิตและให้ยาได้ก็ได้
แต่ทุกอย่างย่อมมีข้อผิดพลาดเสมอ นั้นไม่สามารถทำให้เขาเชื่อใจได้
และอย่างที่ซิ่วหมินบอกพวกเขาอายุแค่สิบสี่เท่านั้น เด็กสิบสี่จะไปสู้รุ่นพี่ปี5
ที่อายุสิบเจ็ด สิบแปดได้ยังไง แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง นั้นหมายความว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะได้เป็นเจ้าชายของโรงเรียนได้...
35%
โรงเรียนวิสทีเรีย
ปราสาทสไตล์ยุโรป
ที่อายุน่าจะประมาณร้อยปีขึ้นไป แต่รูปทรงและการออกแบบ
รวมถึงตัวปราสาทเองยังดูใหม่ตลอดเวลา เหมือนเพิ่งสร้างเสร็จ ด้านทิศเหนือของโรงเรียนเป็นหอของบ้านโพไซดอน
ทางทิศตะวันออกเป็นหอของบ้านอาร์เธน่า ทางทิศตะวันตกเป็นหอของบ้านแอเรส
และทางทิศใต้เป็นหอของบ้านฮีเฟสตุส บริเวณโดยรวมปกคลุมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม
ด้านหลังมีริมบึงขนาดใหญ่ และภูเขารายล้อมไปทั่ว
รวมถึงสัตว์ป่าน้อยใหญ่ด้วยเช่นกันที่มักจะมาอาศัยในแถบโรงเรียน
หมอกสีฟ้าอมม่วงบัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวปกคลุมไปทั่วบริเวณโดยรอบแทน
“ เอาละ นักเรียนปี1
ฟังทางนี้!หากฉันพูดชื่อใครออกมาให้ก้าวออกมาข้างหน้าและเดินไปนั่งตามบ้านของตัวเอง
” ศาสตราจารย์อี้ชิงพูดขึ้นมา
“ อี เจโน่ บ้านโพไซดอน
” เสียงปรบมือดังขึ้น ก่อนที่เจโน่จะละมือออกจากการกอบกุมของดีโอและตรงไปนั่งข้างๆรุ่นพี่ปี2
“ มาร์ค ลี บ้านฮีเฟสตุส
” เสียงปรบมือดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง
ก่อนจะมีรุ่นพี่ที่คาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าหอมาต้อนรับและพาไปนั่งที่
“ นี่ๆดีโอ
รู้หรือป่าวว่าบ้านฮีเฟสตุสมีแต่คนไม่ดีละถึงจะอยู่หอนี่ได้หอฮีเฟสตุสมีแต่คนหัวร้อน
โอหังและร้ายกาจ พวกเค้าไม่เป็นมิตรกับทุกคน ” อี้ชิงปรายตามองมาที่แบคฮยอนเล็กน้อย
เพื่อดุที่เจ้าตัวพูดออกมาแบบนั้น “ คุณแบคฮยอน
คุณคิดว่าคุณรู้ดีแค่ไหนเกี่ยวกับบ้านแต่ละบ้าน ” แบคฮยอนก้มหัวลงเล็กน้อยอย่าสำนึกผิด ก่อนศาสตราจารย์อี้ชิงจะประกาศชื่อของเค้าว่าอยู่บ้านโพไซดอน
แบคฮยอนเดินคอตกไปนั่งข้างๆเจโน่ทันที
“ โด คยองซู กันต์พิมุก
แบม ” นักเรียนทุกคนหยุดปรบมือและเงียบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
หลังอาจารย์ประกาศชื่อเสร็จ
“ ดีโอเธออยู่บ้านโพไซดอน
รุ่นพี่ซิ่วหมินปี3 จะเป็นคนดูแลให้คำปรึกษาเธอเอง เชิญไปนั่งที่ได้ ส่วนอ่า
แบมแบม ฉันเรียกเธอแบบนี้ได้ใช่มั้ย เธออยู่บ้านอาร์เธน่า รุ่นพี่เฉินจะเป็นคนดูแลเธอเอง
เชิญ ” เฉินและซิ่วหมิน ต่างเดินออกมาต้อนรับน้องและเป็นคนพาไปนั่งที่แทน
.
.
.
“ ชานยอลนั้นใช่น้องที่เซฮุนบอกว่าเป็นมนุษย์หรือป่าว
และนั้นมาร์คที่เป็นน้องชายเซฮุนซิ่วหมินใช่มั้ย ทำไมพี่น้องคู่นี้ถึงต่างกันแบบนี้ละ คนพี่บ้านโพไซดอน คนน้องบ้านฮีเฟสตุส ”
เตนล์ชี้นิ้วไปทางดีโอและแบมแบมให้ชานยอลดู ชานยอลพยักหน้าเล็กน้อย
ก่อนจะเป็นรุ่นพี่ซิ่วหมินที่สะกิดและบอกให้แบมแบมนั่งข้างๆเขาแทนที่จะไปนั่งข้างๆเจ้าตัวเอง
เสียงประกาศเรียกชื่อของนักเรียนชั้นปีที่1
ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ จนครบทุกคน ก่อนที่ศาสตราจารย์ซูโฮ
จะออกมาพูดเปิดภาคเรียนเป็นปกติ พร้อมคำขวัญที่ว่า ใครหล่อกว่าครูใหญ่คือกบฏ ซึ่งร่างบางคิดว่ามันไร้สาระและไม่เข้าใจความคิดของครูใหญ่ๆ
พอๆกับความคิดของศาสตราจารย์แจ็คสัน เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ จ้างร้อยเล่นล้าน!
“ อ่า แบมแบม
นี่พี่ชานยอลนะ ส่วนนี่เตนล์ พี่อยู่ปี2 และเป็นเพื่อนกับเซฮุนพี่ชายของเจโน่นะ ”
แบมแบมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
อย่างน้อยเค้าก็ได้เพื่อนดี และรุ่นพี่ดีและน้า
.
หลังจากนักเรียนทุกคนรับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะเข้าไปพักผ่อน
รวมถึงเป็นเวลาที่หัวหน้าหอจะเรียกประชุมถึงกฎของโรงเรียนให้นักเรียนปี1ฟังของแต่ละบ้าน
และยังเป็นเวลาที่นักเรียนชั้นปีที่1 จะเดินสำรวจรอบโรงเรียน
ก่อนจะเริ่มเรียนจริงๆพรุ่งนี้
เสียงรุ่นพี่ปี5
ตะโกนแข่งกันเพื่อเรียกรุ่นน้องทั้งหมดมารวมตัวกันก่อนจะพาไปที่หอแทนรุ่นพี่ปีที่6-7
ที่จะเข้าเรียนหลังโรงเรียนเปิดหนึ่งอาทิตย์ รุ่นพี่โบกอม(หัวหน้าหอโพไซดอน) รุ่นพี่ยูรา(หัวหน้าหอแอเรส) รุ่นพี่มินโฮ(หัวหน้าหอฮีเฟสตุล) รุ่นพี่ซูจี(หัวหน้าหออาร์เธน่า)
.
.
.
50%
KIRS ‘S PART
ผมเดินลัดเลาะตามทางเดินหลังหอพัก
ก่อนจะมาหยุดที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ต้นวิสทีเรีย ใช่ชื่อโรงเรียนของเราตั้งตามชื่อต้นไม้ชนิดนี้
ต้นไม้เมืองหนาว ดอกไม้ของมันสวยมาก และผมชอบมัน
ผมได้รับบัตรเชิญจากศาสตราใหญ่ตอนอายุสิบเอ็ด
ว่าผมเป็นเด็กพิเศษหลังจากที่ผมสามารถหยิบอาวุธและใช้มันได้แม้ว่าจะไม่เคยเห็นหรือได้รับการฝึกก็ตาม
พ่อของผมก็เช่นกันพ่อเป็นศิษย์เก่าที่นี่ พ่อผมสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว
พ่อตอบรับคำเชิญของโรงเรียนทันที และพ่อดีใจมาก เมื่อผมอายุครบสิบสองตามกำหนดผมสามารถเข้าเรียนได้เลย
โดยไม่ต้องผ่านการฝึกอะไรทั้งสิ้น ผมคิดว่าการที่ผมต้องมาเรียนที่นี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่ผมต้องสละชีวิตวัยเด็กมัธยมและมหาลัยออกไป
แต่ถ้าวันนั้นผมปฏิเสธออกไปที่จะไม่ต่อโรงเรียนแห่งนี้
ผมต้องพลาดโอกาสอะไรหลายอย่างลงแน่ๆ ผมได้รู้จักเฉิน ซิ่วหมิน มาร์คบนเรือ และมารู้จักแทยงตอนประกาศรายชื่อบ้าน
นั้นทำให้พวกผมมารวมตัวกันตั้งแต่ตอนนั้น ผมมีชื่อเรื่องในเรื่องความสามารถพอๆกับแทยงและมาร์ค
ผมใช้ชิวิตตามปกติของเด็กทั่วไป เรียน ทำกิจกรรม และเข้าร่วมงานของโรงเรียน
แต่แล้ววันนึงเมื่อปีที่แล้วในวันต้อนรับนักเรียนชั้นปี1
นั้นทำให้ผมได้เจอกับร่างบาง
.
ผมคิดว่าผมกำลังมีความรักตั้งแต่เจอเด็กคนนั้น
ปาร์ค ชานยอล เด็กผู้ชายหน้าหวานราวกับผู้หญิง
ประกอบกับส่วนสูงที่โดดเด่นกว่าเพื่อนชั้นปีเดียวกัน เหมือนต้องมนต์สะกดเมื่อผมเผลอไปสบตากับร่างบางเข้า
เหมือนฟ้าจะเห็นใจในความรักของผมครั้งนี้ แต่
.
.
เหมือนฟ้าจะดูผิด...
เมื่อร่างบางเกลียดผมยิ่งกว่าอะไร หลังจากที่ผมไปสารภาพรักกับร่างบางเมื่อปีที่แล้ว
และร่างบางปฏิเสธผม ด้วยเหตุผลที่ว่าร่างบางเกลียดคนเจ้าชู้ และผมไม่ใช่สเปคของร่างบางด้วยเช่นกัน
ไยฟ้าถึงทำกับผมเช่นนี้ TT คนหล่อน้ำตานอง
แต่นั้นไม่ได้ทำให้ผมละความพยายามที่จะเข้าใกล้
แต่นั้นดูเหมือนว่าร่างบางจะหลบและหนีผมได้ทุกครั้ง รวมถึงลิสรายชื่อผมลงสมุดดำ
แต่ดูเหมือนฟ้าจะไม่ได้ใจร้ายกับผมเสมอไปเมื่อครอบครัวผมสนิทกับคุณนายปาร์ค
แม่ของร่างบาง ทำให้ทุกๆปิดเทอมหรือวันหยุดผมได้เจอร่างบางบ่อยขึ้น
ถึงยังไงร่างบางก็ยังคงเกลียดผมเหมือนเดิม
ถึงแม้ว่าคุณนายปาร์คจะพยายามบอกผมเสมอว่าเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง..
คนหล่อจะร้องไห้...ขอกำลังใจให้ผมที
“ นายคริส!!! ” เสียงทุ้มแบบนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ความรักของผมยังไงละ
ผมนั่งหลับตาต่อไปโดยไม่ได้สนใจสักนิดว่าร่างบางตรงหน้าจะเหนื่อยและทำหน้าโมโหมากแค่ไหน
สงสัยจะเรื่องเดิมอีกตามเคย
“ แม่ให้ฉันเอาผ้าพันคอมาให้
มองอะไร รับไปสิ ฉันถักมันอะ...อุ๊บ ” ร่างบางยกมือขึ้นปากทันทีหลังจากที่ตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป
“ หื้ม ว่าไงนะ
โยดาถักเองเลยหรอ หว้า! แฟนใครน่ารักจัง ”
“ ใครแฟนนาย อย่ามาคิดเองเออเอง
เพราะฉันว่างหรอนะ รับไปสิ หรือถ้านายไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไรนะ
ฉันจะเอาไปให้รุ่นพี่มินโฮ ” อะไรผมยังไม่ทันพูดอะไรเลยนะ
แล้วทำไมต้องพูดชื่อรุ่นพี่หน้าหม้อนั้นด้วย
“ ฉันยังไม่ทันพูดอะไรเลยนะ
แล้วนี่ไม่เห็นยอมให้ฉันเรียกโยดาแล้วหรอ ” ผมรับผ้าพันคอมาไว้ในมือก่อนจะเขยิบหน้าเข้าไปใกล้ร่างบางตรงหน้า
แต่ดูเหมือนร่างบางจะรู้ทันเลยผลักผมออกไปแทน ก่อนจะรีบเดินหนีออกไปทันที
“ ไม่ทราบว่าน้องสาวกินอะไรมาหรอจ้ะ
ถึงได้น่ารักแบบนี้ ” ผมตะโกนไล่หลังร่างบางไปก่อนที่ร่างบางจะหยุดเดินและหันมามองผมด้วยสายตาอาฆาต
“ หล่อโว้ยยยยยยยย ”
ร่างบางชูนิ้วกลางให้ผมก่อนจะวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
จะว่าไปโรงเรียนยังไม่มีใครรู้เรื่องของผมกับร่างบาง
แม้แต่เพื่อนสนิทของผมก็ตาม ไม่มีใครเคยสงสัยหรือรู้ว่าครอบครัวของพวกเรารู้จักกัน
ผมก้มมามองผ้าพันคอในมืออย่างมีความสุขก่อนจะพับมันและเดินกลับเข้าหอพักของตัวเอง
เพื่อพักผ่อนก่อนเริ่มเรียนวันพรุ่งนี้
KIRS’S PART END
Love is the flower you’ve got to let grow.
หลังจากที่ร่างบางวิ่งหนีคริสมาได้
ร่างบางหยุดพักที่หน้าน้ำพุรูปปั้นสิงโต ระหว่างทางเดินจากหอแอเรสไปสู่หออาร์เธน่า
ไอ้บ้า ไอ้เงิง ใครใช้ให้มาทำให้หัวใจเต้นแรงแบบนี้ ร่างบางทุบหน้าอกตัวเองแรงๆ
หมายจะให้มันหยุดเต้นแรงสักที ก่อนจะหยุดนั่งพักสักครู่
“ นักเรียนปาร์ค ชานยอล!
” ศาสตราจารย์แจ็คสันในชุดภารโรงพร้อมหมาตัวกลมในอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามปรากฎตัวขึ้น
ร่างบางเผลอปล่อยตัวเงินตัวทองออกจากปากตัวเบ้อเร่อ
“ ขอโทษครับศาสตราจารย์
ผมไม่ได้ตั้งใจ ก็ศาสตราจารย์โผล่มาไม่ทันตั้งตัวผมก็ตกใจสิครับ ” ร่างบางงก้มหัวลงน้อยๆ ก่อนจะเบะปากและอยากจะตบปากตัวเองสักร้อยที
“ ไม่เป็นไรๆ อ่า
ศาสตราจารย์ใหญ่ให้ฉันมาตามเธอพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเธอไปพบ อ่าอีกเรื่อง
เธอเห็นคริสปี3กับเพื่อนของเขาไหม ศาสตราจารย์ใหญ่ให้ฉันมาตามพวกเขาด้วยเหมือนกัน ”
ร่างบางพยักหน้าก่อนจะชี้ไปที่หอพักก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปไปที่โรงเรียนห้องศาสตราจารย์ใหญ่..
----------------------------------------------------
เกร็ดความรู้
ชื่อท่าเรือของวิสทีเรียมาจากชื่อสัตว์พิเศษ เคลพี(Kelpies) หรือม้าน้ำ ปีศาจจำพวกพรายน้ำ ลักษณะเป็นม้าสีขาวหรือกึ่งคนกึ่งม้า ที่อยู่คือแม่น้ำ ทะเลสาบ หรือหนองน้ำ มันสามารถล่อลวงคนที่หยุดพักอยู่ริมน้ำเพื่อดื่มน้ำ มันมักปรากฎตัวขึ้นเป็นม้าสีขาวที่สงบเสงี่ยม แต่เมื่อขี่หลังมัน มันจะพาดิ่งลงสู่ก้นน้ำทันที จนบุคคลนั้นจมน้ำตายไป เคลพีจะกินซากศพเหลือแค่หัวใจและตับเท่านั้น
ความคิดเห็น