ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    moony bunny หมาป่าหมายจันทร์(rlss)

    ลำดับตอนที่ #9 : 7 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 672
      61
      6 พ.ค. 63

    **
    เซเวอร์รัสกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าจอมมาร เขากลับมาทำหน้าที่สายลับของเขาอีกครั้ง นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาทำเพื่อภาคีได้
    “เซเวอร์รัส” โวลเดอมอร์พูด “เจ้าพร้อมจะพิสูจน์ความจงรักภักดีของเจ้าหรือไม่”
    “ข้าพร้อมทำทุกอย่างที่นายท่านต้องการ” เซเวอร์รัสพูดอย่างกล้าหาญกว่าที่ตัวเองรู้สึกจริง
    โวลเดอมอร์เชยคางลูกน้องให้สบตาตัวเอง “ข้าต้องการให้เจ้ารับใช้ข้า” เขาหยุดไปชั่วครู่ “บนเตียง”
    เซเวอร์รัสผงะไป “นายท่าน” เขาประท้วง
    “เจ้าจะทำทุกอย่างให้ข้าพอใจไม่ใช่หรือ” โวลเดอมอร์ถามเสียงเยียบเย็น “ข้าต้องการเจ้า ข้าต้องการระบาย”
    เซเวอร์รัสหน้าซีด “มีคนมากมายพร้อมทำหน้าที่นี้ เบลลาทริกซ์”
    “ข้าไม่ต้องการมัน” โวลเดอมอร์ร้องด้วยโทสะ “ข้าต้องการเจ้า”
    “นายท่าน ได้โปรด”เซเวอร์รัสอ้อนวอนทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีหวัง
    โวลเดอมอร์ใช้ไม้กายสิทธิ์ถอดเสื้อผ้าของเขาและเซเวอร์รัสออก เซเวอร์รัสถอยหนีด้วยความหวาดกลัว
    “นายท่าน ข้า..”
    Cut ถ้าอยากอ่านmentเกี่ยวกับเนื้อเรื่องและเมล์ไว้นะคะ ถ้าเม้นแต่เมล์ไม่ให้นะคะ
    ขอเตือนไว้ก่อนว่าncนี้darkนะคะ ไม่ฟินนะ
    ยืนยันคำเดิมว่ารีมัสเป็นพระเอกและเรื่องนี้ก็ไม่ใช่3p
    เมื่อเซเวอร์รัสฟื้นขึ้นมา เขาก็อยู่คนเดียว เขาพยายามลุกขึ้นยืน ร่ายคาถารักษาบาดแผลภายนอกและรีบเดินทางไปกองบัญชาการภาคีเพื่อรายงานแผนของจอมมารให้สมาชิกคนอื่นรับรู้
    เมื่อก่อนเซเวอร์รัสอาจจะแค่ไม่ชอบได้ยินชื่อของจอมมาร แต่ตอนนี้เขาไม่อาจจะทนได้ยินชื่อของสัตว์ร้ายนั่นอีกแม้แต่ครั้งเดียว ถึงอย่างไรก็ตามพวกภาคีนั้นชอบที่จะเอ่ยชื่อจอมมารเพื่อแสดงความกล้าหาญแบบโง่ๆโดยเฉพาะแบล็คกับลูปิน
    “สรุปว่าโวลเดอมอร์วางแผนที่จะ..” แบล็คเริ่ม
    “อย่าเอ่ยชื่อจอมมาร” เซเวอร์รัสคำราม
    “ไม่กล้าฟังชื่อนายเก่าหรือไง” แบล็คว่า แววตาเป็นประกายมุ่งร้าย “หรือว่านายปัจจุบันกันล่ะ”
    “แกน่าจะชินได้แล้ว สเนป” มู้ดดี้ว่า “ใครๆก็เรียกเขาว่าโวลเดอมอร์ทั้งนั้น”
    “การกลัวชื่อยิ่งเพิ่มความกลัวมากขึ้นนะ เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์พูด
    “เลิกพูดกันสักที” เซเวอร์รัสตะโกนอย่างควบคุมอารมณ์ตนเองไม่อยู่ พวกนี้ไม่เข้าใจอะไรเลย พวกเขาไม่รู้เลยว่าชื่อนั่นทำให้เซเวอร์รัสเจ็บปวดและทุกข์ทรมานขนาดไหน เซเวอร์รัสไม่อยากได้ยินชื่อนั้นอีก ความเจ็บปวดที่ได้รับจากเจ้าของชื่อนั้นสุดจะทานทนได้ เขาไม่อาจทนฟังชื่อนั้นได้
    “มันจะอะไรกันนักหนา สนิฟเวลลัส” แบล็คว่า “แกขี้ขลาด ไม่กล้าพูดก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราทุกคนจะเป็นแบบแกสักหน่อย”
    “เซเวอร์รัสไม่ได้ขี้ขลาด” ลูปินแทรกขึ้นท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน “เขาเสี่ยงตายเป็นสายลับให้เรา และก็” เขาหันไปทางเพื่อน “เลิกเรียกเขาว่าสนิฟเวลลัสสักที โตๆกันแล้วนะ ซิเรียส”
    “นายเข้าข้างมัน” แบล็คหันมาเล่นงานลูปิน
    “ฉันไม่ได้เข้าข้างใคร” ลูปินเถียงกลับ “ฉันแค่คิดว่าพวกเราโตแล้ว ไม่ควรจะล้อเลียนหรือแกล้งกันแบบตอนเด็กๆอีก”
    “มันจะอะไรกันนักหนา จันทร์เจ้า” แบล็คเถียงกลับ “ฉันเคยทำมากกว่านี้นายยังไม่สนเลย”
    “แต่ตอนนี้ฉันสน” ลูปินว่า “นายจะ..”
    “พอได้แล้ว” มู้ดดี้ขัด “เรื่องโวลเดอมอร์จะว่ายังไง”
    เซเวอร์รัสลุกขึ้นยืน “ถ้าพวกคุณยืนยันที่จะเอ่ยชื่อจอมมารให้ได้ ผมก็ขอตัว”เขาเดินออกจากห้องไป
    “เซเวอร์รัส เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์เรียก แต่เขาก็ไม่หยุดเดิน
    “เอาแต่ใจตัวเองชะมัด” ท็องส์ว่า
    “ไม่ใช่สักหน่อย” ลูปินว่า “เขาแค่ไม่อยากได้ยินขื่อของโวลเดอมอร์เหมือนกับพ่อมดแม่มดอีกนับล้านๆคนทั่วโลก ไม่เห็นจะผิดตรงไหน”
    “ทำไมคุณต้องปกป้องเขาด้วย” ท็องส์ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
    “ฉัน.” ลูปินเริ่มโดยไม่รู้เลยว่าจะตอบว่าอะไร นั่นน่ะสิ ทำไมเขาต้องปกป้องเซเวอร์รัสด้วย
    “เดี๋ยวฉันจะไปตามเซเวอร์รัสก่อนนะ” ดัมเบิลดอร์ว่าก่อนที่จะเดินออกไปนอกห้อง

    ต่อ


    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์เรียก

    เซเวอร์รัสนั่งพิงกำแพง สายตาเหม่อลอย

    “เธอสบายดีหรือเปล่า” ดัมเบิลดอร์ถามอย่างไม่แน่ใจ เอื้อมมือไปจับบ่าเขา

    เซเวอร์รัสสะดุ้ง ยกมือขึ้นปิดหน้า “อย่า อย่า”

    ดัมเบิลดอร์ผงะไป “เซเวอร์รัส” เขาเรียก “โวลเดอมอร์ทำอะไรเธอ”

    “อย่าเอ่ยชื่อจอมมาร” เซเวอร์รัสว่า “ผมไม่ต้องการได้ยินชื่อนั้นอีก”

    เป็นครั้งแรกที่ดัมเบิลดอร์ยอมทำตามคำขอของเขา “คนที่เธอก็รู้ว่าใครทำอะไรเธอ”

    “ผมไม่ต้องการพูดถึงมัน” เซเวอร์รัสเพ้อเหมือนคนจับไข้ “ไม่ต้องการพูดถึงมัน”

    “เธอได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า” ดัมเบิลดอร์ถามอย่างกังวล “เขาเสกคำสาปกรีดแทงใส่เธอใช่ไหม”

    เซเวอร์รัสไม่ตอบ เขาไม่อาจจะตอบได้

    “เธออาจจะช้ำภายในนะ เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์ว่า “ให้ฉันร่ายคาถาตรวจร่างกายเธอ”

    “ไม่”เซเวอร์รัสกรีดร้อง “ผมไม่เป็นอะไร สบายดี”

    “เธอต้องเจ็บหนักแน่ๆ บางทีเขาอาจจะใช้คาถาศาสตร์มืดอย่างอื่นนอกจากคำสาปกรีดแทงด้วย ให้ฉันตรวจดูนะ”และโดยไม่ฟังคำคัดค้าน ดัมเบิลดอร์ร่ายคาถาตรวจร่างกาย

    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อเห็นผลตรวจร่างกายของชายหนุ่มตรงหน้า “เขาทำร้ายเธอขนาดนี้ เซเวอร์รัส ฉันส่งเธอให้สัตว์ร้ายนั่นเพื่อให้มัน..” เขาไม่อาจพูดคำนั้นออกมาได้ เขาเป็นคนทำร้ายคนตรงหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    “อย่าบอกใคร” เซเวอร์รัสขอร้องเสียงแหบ “ผมไม่ต้องการเป็นตัวตลกอีกแล้ว ไม่ต้องการ”

    “มันไม่ใช่เรื่องตลกนะ เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์ว่า “แต่ฉันเข้าใจ ฉันจะไม่บอกใคร เรื่องของเธอ เข้าห้องกัน ฉันจะบอกให้ทุกคนไม่ให้พูดชื่อเขา”

    “ผมเป็นตัวปัญหาอีกแล้ว” เซเวอร์รัสพึมพำ แต่เขาก็ยอมตามดัมเบิลดอร์เข้าห้องไป

    “เซเวอร์รัสไม่อยากได้ยินขื่อคนที่เธอก็รู้ว่าใคร” ดัมเบิลดอร์อธิบายให้สมาชิกภาคีคนอื่นๆฟัง “เพราะเขาเพิ่งถูก เอ่อ” เขาชะงักคิดหาถ้อยคำที่เหมาะสม “ทรมานมา เพราะฉะนั้นผมขอร้อง แค่วันนี้วันเดียวเลิกพูดชื่อเขา”

    “แต่มันคงไม่ได้ถูกทรมานมากนักหรอก จริงไหม” มู้ดดี้แทรกขึ้น “มันยังมีสติอยู่นี่ ไม่ได้เป็นบ้าไปอย่างพวกลองบัตท่อมสักหน่อย”

    เซเวอร์รัสไม่ได้โต้ตอบ แค่เพียงเพราะเขาสามารถกุมสติที่เหลือเพียงน้อยนิดของเขาไว้ได้หมายความว่าการทรมานของเขาไม่ได้เกิดขึ้นจริงหรือไง ไม่มีความหมายอะไรเลยหรือ

    “อีกอย่างหนึ่งนะ” มู้ดดี้ต่อ “มันอาจเป็นเวรกรรมก็ได้ ทำกับคนอื่นไว้มากนี่”

    เซเวอร์รัสไม่อาจทนได้อีกต่อไป “ผมไปทำอะไรให้ใคร” เขาว่า “ผมไม่เคยฆ่า ไม่เคยแม้จะใช้คำสาปกรีดแทงด้วยซ้ำ”

    “ยังไงแกก็ต้องชดใช้สิ่งที่แกทำ” แบล็คพูดอย่างโหดร้าย “จ่ายค่าโง่ที่แกโง่พอจะเข้าร่วมตั้งแต่แรก”

    “ซิเรียส” ดัมเบิลดอร์ปราม

    “ไม่ว่าโวลเดอมอร์จะทำอะไรแก” แบล็คพูดต่อ “มันก็เป็นสิ่งที่แกสมควรได้รับแล้วทั้งนั้น”

    “อย่าเอ่ยชื่อจอมมาร”เซเวอร์รัสตวาดใส่

    “ฉันจะพูดแล้วมันจะทำไม” แบล็คลอยหน้าลอยตา “โวลเดอมอร์ โวลเดอมอร์”

    “ซิเรียส พอสักที” ดัมเบิลดอร์ห้าม “พอได้แล้ว”

    แต่คนที่เคลื่อนไหวคือลูปิน เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาและร้องว่า “เพ็ตตริฟิคัส โททาลัส”

    แบล็คล้มลง ตัวแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้

    “พอได้แล้ว ซิเรียส” ลูปินพูดเสียงเรียบ “สงบสติอารมณ์เสีย ไม่ใช่เรื่องตลกเลย”

    แบล็คไม่ตอบ เขาได้แต่กลอกตาไปมา

    “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ท็องส์ถามอย่างไม่เข้าใจ “ซิเรียสพูดผิดตรงไหน ฉันพนันก็ได้ว่าสเนปก็ต้องเคยทำแบบนี้กับคนอื่นเหมือนกัน ต่อให้เขากลับตัวได้ก็ไม่ได้หมายความว่า..”

    “ฉันไม่เคยทำ” เซเวอร์รัสร้องออกมาด้วยโทสะ “ฉันไม่เคยทำกับใครแบบที่จอมมารทำกับฉัน ฉันไม่เคยทรมาน ฉันไม่เคย ไม่เคย ข่มขืนใคร” เขาหอบ เขาพูดออกไปแล้ว ชายหนุ่มหลับตาลง คาดว่าจะได้ยินเสียงหัวเราะ แต่กลับไม่มีเสียงอะไรเลย เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง

    “ทำไมพวกคุณไม่หัวเราะกันล่ะ” เซเวอร์รัสร้องอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ “ไม่ตลกหรือไง”

    “มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์พูดเศร้าๆ “เธอพูดได้ยังไงว่ามันเป็นเรื่องตลก”.

    “มันไม่ใช่เรื่องตลกแน่ถ้าผมเป็นผู้หญิง” เซเวอร์รัสว่า “แต่เพราะผมเป็นผู้ชาย มันถึงเป็นเรื่องตลก”

    “โดนทำร้ายก็คือโดนทำร้าย” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูดบ้าง “ไม่เห็นเกี่ยวกับเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเลย”

    “แต่มันเป็นเรื่องตลก” เซเวอร์รัสหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน “จับตอนที่แบล็คจับก้นผมได้ไหมล่ะ ทุกคนหัวเราะกัน ไม่ใช่หรือไง” เขาหันมาทางดัมเบิลดอร์ “คุณพูดเองด้วยซ้ำว่าผมเป็นผู้ชาย มันจะเสียหายอะไร”

    ดัมเบิลดอร์ผงะ เขาเกือบลืมเรื่องนั้นไปแล้ว เซเวอร์รัสที่น่าสงสาร โลกนี้ใจร้ายกับเขาเหลือเกิน

    “ผมก็เป็นแค่ตัวตลกเท่านั้นแหละ” เซเวอร์รัสตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “เป็นตัวตลกให้พวกคุณหัวเราะเล่น พวกคุณไม่เคยคิดหรอกว่าสนิฟเวลลัสมันจะรู้สึกยังไง ทรมานแค่ไหน อับอายแค่ไหน พวกคุณไม่สนมันหรอก พวกคุณเห็นชีวิตมันเป็นของเล่น ไม่สนหรอกว่ามันจะตายหรือพังคามือพวกคุณ

    ทุกสายตาจับจ้องเขาโดยเฉพาะอวัยวะใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมา หูและหางกระต่ายที่งอกออกมา

    “ซิเรียส” ดัมเบิลดอร์ร้อง แต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าซิเรียสโดนสาปอยู่นี่แล้วใครเป็นคนทำกันล่ะ

    ดัมเบิลดอร์ร่ายคาถาไฟไนท์ ซิเรียสยันตัวลุกขึ้น ใบหน้าซีดเผือด

    “นายเห็นหรือยัง เท้าปุย” ลูปินพูด “ว่าความสนุกชั่วครู่ของนายทำลายคนคนหนึ่งมากขนาดไหน”

    “ฉัน” แบล็คเริ่ม แต่เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ

    “ผมจะกลับบ้านแล้ว” เซเวอร์รัสว่า เขาลุกขึ้นยืน “พ่อผมชวนผมให้ไปอยู่ดวงจันทร์ด้วยกัน ผมจะตอบรับคำเชิญ ผมจะไปอยู่กับพ่อ พวกมนุษย์โลกมีแต่พวกเห็นแก่ตัว”

    “ดวงจันทร์หรือ” หลายเสียงถามพร้อมกัน

    เซเวอร์รัสชี้ที่หูของตัวเองอย่างอารมณ์เสีย “ไม่เห็นนี่หรือไง หูกระต่ายนี่ พวกคุณไม่เคยได้ยินตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์หรือไง พวกเรามนุษย์กระต่ายสร้างอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่บนดวงจันทร์ เหมือนกับที่พวกคุณสร้างอารยธรรมบนโลก”

    “นายเป็นกระต่ายบนดวงจันทร์” ลูปินร้อง

    “ใช่” เซเวอร์รัสตอบ “ขอตัวก่อนนะ” เขาลุกขึ้นและเดินจากไป

    “งั้นที่นายกลัวตัววีเซิล” ลูปินถามอย่างไม่แน่ใจ

    “มันเคยจะกินฉัน” เซเวอร์รัสตอบโดยไม่หันมามอง “ฉันนอนอยู่ในคอกเด็ก มันมาคาบฉันไป เจ้าสัตว์นักล่าตัวร้าย ทำตัวให้คนเอ็นดู ความจริงแล้วเป็นนักล่าไร้หัวใจ ถ้าแม่ตามไปไม่ทัน ฉันก็คง..”

    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์เรียก “หวังว่าเธอจะมีความสุขบนดวงจันทร์นะ”

    เซเวอร์รัสหมุนตัวกลับมานั่ง “ผมทำไม่ได้หรอก ผมยังต้องเป็นสายลับให้คุณอยู่นี่”

    “ไม่ต้องแล้ว” ดัมเบิลดอร์ว่า “ฉันจะไม่ให้เธอไปเสี่ยงอีกแล้ว ใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการเถอะนะ”

    Talk บทนี้บอกว่าทำไมเซเวอร์รัสถึงกลัววีเซิล วีเซิลเป็นสัตว์นักล่า มันชอบแอบไปในรังกระต่ายและขโมยลูกกระต่ายมากิน เซเวอร์รัสเองก็เคยเกือบถูกกินก็เลยกลัวมาก



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×