คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 4(100%)
“รีมัส ลูปิน” ดัมเบิลดอร์ตอบเสียงเรียบ สายตาจ้องเขม็งที่เซเวอร์รัส
“คุณจะบ้าไปแล้วหรือไง” เซเวอร์รัสตะโกนขึ้นมาอย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ลูปินเกือบจะฆ่าเขา หมอนั่นเป็นตัวอันตราย เป็นไอ้คนขี้ขลาดที่ดีแต่พูดแล้วดัมเบิลดอร์ก็จะให้เขามาสอนที่นี่
“รีมัสมีคุณสมบัติเหมาะสมทุกอย่าง เขาเป็นคนมีความสามารถ” ดัมเบิลดอร์ว่า
“แต่เขาเป็น..” เซเวอร์รัสไม่อาจพูดคำนั้นออกมาได้ ความทรงจำเลวร้ายยังติดอยู่ในใจของเขา ความทรงจำที่เขาเกือบตาย
“ดังนั้นฉันจึงต้องขอความช่วยเหลือจากเธอ” ดัมเบิลดอร์ว่า “ฉันต้องการให้เธอปรุงน้ำยาวูล์ฟเบนให้เขา”
“คถณรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแบล็ค” เซเวอร์รัสตั้งคำถาม
“ฉันเชื่อใจเขา” ดัมเบิลดอร์ว่า น้ำเสียงของเขาบอกชัดเจนว่าเป็นคำขาด
เซเวอร์รัสได้แต่จำใจพยักหน้า เขาจะปรุงน้ำยาให้ลูปิน แต่ไม่ใช่เพื่อหมอนั่นหรือดัมเบิลดอร์ แต่เพื่อนนักเรียนในฮอกวอตส์ ไม่ควรจะมีใครต้องเจ็บปวดเหมือนที่เขาเจ็บ
ลูปินมาถึงฮอกวอตส์ในวันเปิดเทอม เขาดูอิดโรยแต่ก็ร่าเริงดี เซเวอร์รัสแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการเป็นมิตรด้วย ลูปินถือวิสาสะเรียกชื่อต้นเขา หมอนั่นมีสิทธิ์อะไร แต่เซเวอร์รัสไม่ได้คัดค้าน ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปเถียงกับคนแบบนี้
สัปดาห์แรกของการกลับมาฮอกวอตส์ไม่ดีเลยสำหรับเซเวอร์รัส ลองบัตท่อมปรุงยาผิดพลาด เขาสั่งให้นักเรียนทำรายงานเรื่องน้ำยาหดตัวช่วงปิดเทอมและเขาก็เขียนคำสั่งชัดเจนไว้บนกระดาน ถามจริงๆเถอะว่าลองบัตท่อมได้สนใจทำรายงานหรือว่าอ่านคำสั่งบนกระดานบ้างหรือเปล่า เพราะถ้าเด็กนั่นสนใจน้ำยาที่ปรุงก็คงไม่มีทางผิดพลาดร้ายกาจขนาดนี้ เขาต้องทำยังไงเด็กนี่ถึงจะเข้าใจสักทีนะ บางทีการขู่แรงๆสักครั้งอาจจะช่วยได้กระมัง เขาบอกว่าจะป้อนน้ำยานั่นให้คางคกของลองบัตท่อม หวังว่าเด็กนั้นจะพยายามมากขึ้นเพื่อเห็นแก่สัตว์เลี้ยงแสนรักแต่เขาไม่ได้ตั้งใจวางยาพิษคางคกนั่นจริงๆหรอก ต่อให้มีเรื่องผิดพลาดขึ้นมาเขาก็มีทั้งบิซัวร์และยาถอนพิษต่างๆเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว แต่แผนของเขากลับผิดพลาดเพราะแทนที่ลองบัตท่อมจะลองพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองกลับขอให้เกรนเจอร์ช่วยเสียอย่างนั้น เด็กนั่นคิดว่าในชีวิตจริงจะมีคนคอยช่วยเหลือเราทุกอย่างหรืออย่างไร เขาหักคะแนนกริฟฟินดอร์ห้าคะแนนและปล่อยเลิกชั้น แน่นอนว่าอารมณ์ของเซเวอร์รัสไม่ดีขึ้นเมื่อพวกเด็กกริฟฟินดอร์ทยอยมาที่ห้องพักครูพร้อมกับลูปิน เขาตัดสินใจเดินออกไปนอกห้อง เขาไม่อยากอยู่ใกล้ลูปินมากเกินกว่าที่จำเป็น แต่เขาจำเป็นต้องบอกอะไรลูปินเกี่ยวกับลองบัตท่อมสักหน่อย หมอนั่นจะได้ระวังตัวเอาไว้เพราะถ้าลูปินให้ลองบัตท่อมทำอะไรยากๆและเด็กนั่นเกิดเป็นอะไรขึ้นมา คนที่ซวยก็คงไม่พ้นเขาที่ต้องปรุงน้ำยารักษาอาการให้ ตอนนี้เขาก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว แต่ลูปินไม่เชื่อเขา ก็ตามใจแล้วกัน
ไม่นานนักข่าวลือที่เขาเป็นบ็อกการ์ตของลองบัตท่อมและเด็กนั่นจับเขาใส่ชุดคุณย่าก็แพร่ไปทั่วโรงเรียน แต่เซเวอร์รัสไม่ได้สนุกไปด้วยเลย เขารู้ว่าเด็กนั่นไม่ผิดที่จะเห็นเขาเป็นบ็อกการ์ต เขาข่มขู่เด็กนั่นไม่กี่นาทีก่อนที่จะเริ่มชั้นเรียน แต่ที่เซเวอร์รัสโกรธคือวิธีที่ลูปินสอนให้เด็กนั่นจัดการกับบ็อกการ์ต เขามั่นใจว่าไม่มีเด็กอายุสิบสามที่ไหนคิดมโนภาพแบบนั้นออกมาได้ มันต้องเป็นคำแนะนำของลูปิน หมอนั่นสามารถเปลี่ยนบ็อกการ์ตให้เป็นอะไรก็ได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา แต่ไม่เลย ลูปินตั้งใจทำให้เขากลายเป็นตัวตลกให้พวกกริฟฟินดอร์หัวเราะเยาะ ลูปินก็เหมือนพอตเตอร์กับแบล็คจงใจทำให้เขาอับอายเพื่อความสะใจ
Talk เดี๋ยวค่ำๆมาลงให้อีกครึ่งบทนะคะ
“ ตัวอะไรน่ารักดีจัง” แฮร์รี่ถามเนวิลล์
เนวิลล์เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้แฮร์รี่ ในอ้อมแขนเขามีสัตว์ตัวเล็กๆอยู่ “ลูกวีเซิล ศาสตราจารย์สเปราต์เห็นว่ามันบาดเจ็บเลยส่งมาให้ฉันดูแล เธอว่าฉันจะทำได้ดีแหละ” มีกระแสความภูมิใจจางๆที่ไม่ค่อยมีใครได้ยินในน้ำเสียงของเขา
“แต่เธอเก็บมันไปก่อนไม่ดีกว่าเหรอ” เฮอร์ไมโอนี่เตือน “เดี๋ยวสเนปมาเห็นเข้าก็เป็นเรื่องอีกแหละ”
“อือ” เนวิลล์ว่า เขายัดลูกวีเซิลใส่กระเป๋าได้ทันเวลาก่อนที่สเนปจะเปิดประตูห้องและสั่งให้พวกเขาเข้าไปข้างใน
“นายตั้งชื่อมันว่าอะไร” รอนถามอย่างสนใจ
“วินดี้” เนวิลล์ตอบ “ฉันชอบชื่อนี้”
วินดี้เป็นสัตว์ตัวเล็กๆที่ซุกซนมาก ในขณะที่เนวิลล์ยังง่วนอยู่กับการปรุงยา มันก็ถือโอกาสหนีออกไปสู่อิสรภาพ มันวิ่งไปที่โต๊ะทำงานของสเนป เนวิลล์ตัวแข็งทื่อ วินดี้ไต่ขึ้นไปบนโต๊ะที่มือของสเนปกำลังวางอยู่ เด็กกริฟฟินดอร์หายใจไม่ทั่วท้องเพราะถ้าสเนปเห็นมันเมื่อไหร่ก็คงเป็นจุดจบของตัววีเซิลที่น่าสงสาร ขณะที่พวกสลิธีรินมองอย่างสงสัยใคร่รู้
สเนปเงยหน้าขึ้นจากม้วนกระดาษ วินดี้เอียงคอมองเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น สเนปลุกขึ้นยืน มือทั้งสองจับโต๊ะไว้ แฮร์รี่สังเกตว่ามือของสเนปสั่นเล็กน้อย
“ออกไป” เขาสั่ง แต่กระแสความมีอำนาจในนั้นดูแผ่วเบามาก วินดี้ยังเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น
“ออกไปให้พ้น” สเนปเสียงดังขึ้นกว่าเก่า มีกระแสความหวาดกลัวเจืออยู่ในน้ำเสียงแบบที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน เขาถอยหลังหนีไปจนติดกำแพง
วินดี้ยังคงเดินตามเขาไป มันดูสนใจใคร่รู้มาก พวกเด็กกริฟฟินดอร์ก็เช่นกัน ทุกคนต่างพากันจ้องสเนปเขม็ง
“ออกไปนะ” สเนปพูดย้ำอีกครั้ง เขายกมือขึ้นปิดหน้า “ออกไป”
เด็กกริฟฟินดอร์หลายคนพยายามกลั้นหัวเราะ ขณะที่เด็กสลิธีรินเริ่มกังวล
“อาจารย์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” กรีนกราสถาม
สเนปไม่ตอบ เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หลังพิงกำแพง ตาจ้องมองเพดาน วินดี้ไต่เข่าเขาขึ้นไป สเนปกรีดร้องออกมาทีหนึ่งก่อนที่คอของเขาจะเอียงไปข้างๆและล้มลงนอน
“ศาสตราจารย์” กรีนกราสกรีดร้อง เธอวิ่งเข้าไปหาก่อนที่จะให้สเนปหนุนตัก
พวกเด็กกริฟฟินดอร์ระเบิดเสียงหัวเราะ
“ให้ตายสิ” ดีนว่า “แค่ลูกวีเซิลตัวเล็กๆแค่นี้ กลัวจนเป็นลมไปเลย”
“คนเรามันต้องมีสิ่งที่กลัวกันบ้างแหละ” ซาบินี่เถียง “หรือนายจะบอกว่านายไม่กลัวอะไรเลย”
“ก็จริงอยู่” เชมัสตอบแทนเพื่อน “แต่ตอนที่พวกเราเผชิญหน้ากับบ็อกการ์ตก็ไม่มีใครกลัวจนเป็นลมสักคนนี่นา จริงไหมพวกเรา” ตอนท้ายเขาหันไปขอความสนับสนุนจากเพื่อนร่วมบ้านซึ่งได้รับคำตอบด้วยเสียงตบมือกราวใหญ่
“พาศาสตราจารย์สเนปไปห้องพยาบาลก่อนเถอะ”กรีนกราสตัดบท “อย่ามัวเสียเวลาเลย”
แครบและกอยล์ช่วยกันประคองสเนปออกไปจากคุกใต้ดิน
วีเซิลค่ะ น่ารักขนาดนี้ ทำไมเซฟถึงกลัวนะ
ความคิดเห็น