ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    moony bunny หมาป่าหมายจันทร์(rlss)

    ลำดับตอนที่ #12 : 10 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 514
      55
      12 พ.ค. 63

    ตระกูลมัลฟอยและกรีนกราสมีอิทธิพลในโลกเวทมนตร์อย่างมาก ใช้เวลาเพียงไม่ถึงอาทิตย์ อัมบริดจ์ก็ถูกจับกุมเข้าอัซคาบัน ดัมเบิลดอร์ถือโอกาสประกาศว่าศาสตราจารย์ลูปินจะกลับมาสอนพร้อมด้วยใบรับรองการเป็นมนุษย์หมาป่าที่ควบคุมการแปลงร่างได้แล้วซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักเรียนและอาจารย์ส่วนใหญ่
    เซเวอร์รัสหลีกเลี่ยงไม่คุยกับลูปิน ไม่อยู่กับเขาตามลำพังและนั่งเก้าอี้ที่ห่างจากเขาที่สุดเท่าที่จะทำได้เวลารับประทานอาหาร แต่วันหนึ่งบทสนทนาของเขากับลูปินก็เกิดขึ้นจนได้
    “ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ เซเวอร์รัส” ลูปินว่า ขณะที่เซเวอร์รัสกำลังจะลงไปสู่คุกใต้ดิน
    “มีอะไร” เซเวอร์รัสถาม ไม่ใส่ใจที่จะรักษามารยาท
    “ฉันจะมาขอบใจนาย” ลูปินเกาจมูกแก้เก้อ “เรื่องน้ำยาวูล์ฟเบน”
    เซเวอร์รัสเลิกคิ้วสูง แกล้งทำสีหน้าประหลาดใจ “นายพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เคยปรุงยาให้นายนานตั้งชาติหนึ่งแล้ว”
    ลูปินดูสับสน “นายไม่ใช่คนปรับปรุงสูตรน้ำยาหรือ”
    เซเวอร์รัสพ่นลมหายใจออกมาอย่างดูถูก “ทำไมฉันต้องสละเวลาว่างอันมีค่าของฉันทำเรื่องแบบนั้นด้วย ทำไมฉันต้องปรุงน้ำยาให้คนที่ไม่รู้จักรับผิดชอบอย่างนาย”
    ลูปินมีท่าทีละอายใจเล็กน้อย “ดัมเบิลดอร์บอกว่าเขาได้จากนักปรุงยาที่เขารู้จัก ฉันก็เลยคิดว่า..”
    “คิดว่าเป็นฉัน” เซเวอร์รัสต่อให้ด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ดัมเบิลดอร์รู้จักนักปรุงยาเป็นสิบๆได้”
    “งั้นฉันขอตัวก่อนนะ” ลูปินว่า ก่อนที่จะเดินจากไป
    หลังจากนั้นเซเวอร์รัสกับลูปินก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก ชีวิตที่ฮอกวอตส์ของเซเวอร์รัสสงบสุขพอใช้ จนกระทั่งกลางดึกวันหนึ่ง เซเวอร์รัสตื่นขึ้นมาเพราะแขนของเขาปวดแสบปวดร้อนเกินกว่าจะนอนต่อไปได้ เซเวอร์รัสพยายามใช้แขนอีกข้างปฐมพยาบาล แต่สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาทำให้เขาแทบสิ้นสติ ตรงที่ควรจะมีร่องรอยตรามารอยู่กลับเป็นตัวอักษรเลือดเขียนว่า “แกต้องตาย คนทรยศ” เซเวอร์รัสยังไม่แน่ใจว่าเขาเห็นอะไรตัวอักษรนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไปและปรากฏอักษรชุดใหม่เขียนว่า “จะบุกฮอกวอสต์สิ้นปีนี้”แล้วมันก็หายไปอีก ทิ้งไว้แต่รอยแดงๆบนต้นแขนและความหวาดกลัวสุดขีดที่เกิดขึ้นในใจของเซเวอร์รัส
    เซเวอร์รัสตัดสินใจรายงานเรื่องนี้กับดัมเบิลดอร์ทันที แม้ว่าจะดึกแล้วก็ตาม เขาไม่ใส่ใจชีวิตตนเองนักหรอก แต่ถ้าจอมมารจะบุกฮอกวอตส์จริงก็จำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมไว้ก่อน
    “ห้องทำงานอาจารย์ใหญ่”เซเวอร์รัสร้องพลางโยนผงฟลูเจ้าไปในเตาผิง เมื่อมันกลายเป็นสีเขียวเขาก็เข้าไปทันที
    “โอ้ เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างแปลกใจ “ลมอะไรหอบเธอมาหาฉันล่ะนี่”
    “ลมพยาบาทจากจอมมารน่ะสิ” เซเวอร์รัสตอบ ถือโอกาสนั่งลงบนเก้าอี้ “เขาจะบุกฮอกวอสต์”
    “เธอรู้ได้ยังไง” ดัมเบิลดอร์ถามอย่างเคร่งขรึม
    เซเวอร์รัสเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับคำเตือนบนต้นแขนของเขาให้ดัมเบิลดอร์ฟัง
    “ฉันขอดูหน่อยได้ไหม” ดัมเบิลดอร์ถามอย่างอ่อนโยน
    เซเวอร์รัสยื่นแขนให้ดู ดัมเบิลดอร์พินิจอยู่ชั่วครู่ก่อนพูดว่า “ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เธอแน่ใจหรือว่าไม่ได้ฝันหรือเห็นภาพหลอน”
    เซเวอร์รัสกระชากแขนกลับ สีหน้าขุ่นเคือง “ผมเคยแยกความจริงกับความฝันไม่ออกตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่เป็นเรื่องจริง คุณต้องเสริมการป้องกันให้โรงเรียน”
    “ฉันทำแน่ เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์ปลอบ “ไม่ต้องกังวล ทำใจให้สบาย ฉันจะบอกให้ภาคีคนอื่นๆมาช่วยด้วย เธอปลอดภัยแน่”
    “ผมไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองหรอก”เซเวอร์รัสพูดเสียงกระด้าง “ยิ่งจอมมารฆ่าผมเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ผมไม่อยากมีชีวิตอยู่เท่าไหร่หรอก”
    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์ร้องอย่างตกใจ “เธอคงไม่ได้คิดที่จะฆ่าตัวตายหรอกนะ”
    “จนกว่าสงครามจะจบ ผมตายไม่ได้หรอก” เซเวอร์รัสว่า “ถ้าผมตายตอนนี้ก็เห็นแก่ตัวเกินไป”
    “แล้วถ้าสงครามจบล่ะ” ดัมเบิลดอร์ถามหยั่งเชิง
    “ผมก็จะตายทันที” เซเวอร์รัสพูดราวกับนำเสนอข้อเท็จจริงธรรมดา “ผมไม่ใส่ใจเรื่องมีชีวิตอยู่เท่าไหร่หรอก”
    ดัมเบิลดอร์ตะลึง พูดไม่ออก เซเวอร์รัสคิดจะฆ่าตัวตาย นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว เขาทำร้ายคนคนหนึ่งมากขนาดนี้เชียวหรือ เขาจะต้องแก้ไขในสิ่งที่เขาทำพลาดไป แต่ด้วยวิธีใดดีเล่า
    “ผมขอตัวก่อน” เซเวอร์รัสว่า เขาโยนผงฟลูไปในเตาผิงและหายวับไป
    ตั้งแต่เซเวอร์รัสได้รับคำเตือนจากเจ้านายเก่า เขาก็เริ่มฝันร้ายทุกวัน เขาฝันว่าโดนโวลเดอมอร์และผู้เสพความตายคนอื่นๆร่วมกันทรมานเขาด้วยวิธีการต่างๆที่โหดร้ายผิดมนุษย์ พวกนั้นข่มขืนเขา ร่ายคำสาปกรีดแทงใส่เขา ใช้มีดเฉือนเนื้อของเขาและอีกสารพัดวิธีการทรมาน แม้ว่าจะเป็นเพียงความฝันแต่ก็แจ่มชัดเหมือนเป็นความจริง เซเวอร์รัสไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงฝันแบบนี้ เป็นเพราะเขาคิดมากไปเองหรือจอมมารต้องการส่งคำเตือนให้เขาในรูปแบบความฝันกันแน่ แม้ว่าฮอกวอตส์จะได้รับการป้องกันอย่างดีและเซเวอร์รัสก็ฝึกสกัดใจเป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจอมมารที่โกรธจัดจะส่งภาพหลอนมาในฝันของเขาไม่ได้
    ฝันร้ายกระทบต่อชีวิตตอนกลางวันของเซเวอร์รัสด้วย เขาตวาดใส่ทุกคน แม้กระทั่งเด็กบ้านตัวเอง เขาอารมณ์เสีย หงุดหงิดง่ายกว่าเดิม วิตกจริตและสะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยินเสียงอะไร พฤติกรรมของเขาไม่อาจรอดพ้นสายตาของมักกอนนากัลไปได้
    “คุณน่าจะจ้างผู้บำบัดจิตมาดูแลเขา” มักกอนนากัลพูดกับดัมเบิลดอร์อย่างจริงจัง “ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่ แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะเขานะ นักเรียนก็จะแย่ไปด้วย”
    “เซเวอร์รัสก็คงบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องไป” ดัมเบิลดอร์พูดเศร้าๆ “เขาไม่ได้บ้า”
    “ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้บ้า” มักกอนนากัลพูดอย่างอ่อนใจ “คนที่ไปหาผู้บำบัดจิตไม่ได้บ้า พวกเขาแค่ต้องการความช่วยเหลือ”.
    “ผมจะลองกล่อมเขาดู” ดัมเบิลดอร์ตอบ “คุณมีผู้บำบัดจิตแนะนำไหม”
    “อลัน โกลด์สตีน” มักกอนนากัลเสนอทันที “คุณจำได้ไหม”
    ดัมเบิลดอร์พยักหน้า “ผมจะลองติดต่อเขาดู ขอบคุณมาก มิเนอร์ว่า”

    Talk จำอลันกันได้ไหมเอ่ย
    Spoil "ถ้านายชอบเขาจริงคงไม่ปล่อยเวลามาถึงป่านนี้หรอก อย่าทำเป็นหมาหวงก้าง"

    ต่อ

    หลังจากที่ดัมเบิลดอร์เขียนจดหมายถึงอลันแล้ว งานต่อไปที่ท้าทายกว่าคือเกลี้ยกล่อมให้เซเวอร์รัสรับการรักษา

    “คุณว่าไงนะ” ปฏิกิริยาของเซเวอร์รัสไม่ต่างอะไรกับที่ดัมเบิลดอร์คาดไว้ เขาตะโกนใส่ดัมเบิลดอร์ทันทีที่ดัมเบิลดอร์บอกเรื่องผู้บำบัดกับเขา

    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์เรียกเสียงอ่อน “เธอไม่สบาย เธอต้องได้รับการรักษา”

    “ผมไม่ได้บ้า” เซเวอร์รัสตวาดกลับ

    “เธอไม่ได้บ้า” ดัมเบิลดอร์พูดหนักแน่น “แต่เธอกำลังไม่สบาย นะ เซเวอร์รัส อย่างน้อยๆเธอก็ลองคุยกับผู้บำบัดโกลด์สตีนก่อน”

    “ผู้บำบัดอะไรนะ” เซเวอร์รัสถาม แสดงความสนใจเป็นครั้งแรก

    “ผู้บำบัดอลัน โกลด์สตีน” ดัมเบิลดอร์ว่า “เธอจำเขาได้ไหม เขาเรียนรุ่นเดียวกับเธอ”

    เซเวอร์รัสจำคนคนนั้นได้ดี อลันเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มาปกป้องเขา อาจจะเป็นคนเดียวด้วยซ้ำที่ทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องเขา กล้าแม้กระทั่งเถียงกับพ่อมดที่ทรงพลังอำนาจที่สุดอย่างดัมเบิลดอร์ ลิลี่มาปกป้องเขาก็จริงอยู่ แต่เธอก็ไม่ได้ทำเต็มที่นัก เธอมีสิทธิ์หักคะแนนหรือกักบริเวณคนพวกนั้นได้ แต่เธอก็ไม่ทำ ถึงแม้เธอจะแสดงท่าทีเกลียดชังเจมส์ พอตเตอร์มากขนาดไหน แต่เซเวอร์รัสรู้ดี เขาพินิจใจเธอได้ เธอชอบหมอนั่นมาตั้งนานแล้ว แต่เธอกลัวว่าคนจะมองเธอไม่ดีถ้าเธอออกเที่ยวกับอันธพาลที่รังแก'เพื่อน'ของเธอ ทันทีที่เซเวอร์รัสเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน เธอก็ตัดความสัมพันธ์กับเขาเพื่อไปคบกับเจมส์ แต่ต่อให้เซเวอร์รัสไม่ได้เรียกเธอแบบนั้น สักวันเธอก็ต้องคบกับเจมส์อยู่ดี เพราะว่าใจเธอเหม่อลอยถึงเจมส์ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา แต่อลันไม่ใช่ เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่ชอบแก๊งตัวกวน แม้ว่าจะไม่ถึงขนาดเกลียดชังเหมือนเซเวอร์รัส แต่เขาก็รังเกียจพฤติกรรมนอกคอก ชอบแหกกฎและรังแกผู้อื่นของแก๊งนี้ เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เซเวอร์รัสไม่เกลียดและเขาก็รู้เรื่องของเซเวอร์รัสบ้าง การคุยกับเขาคงจะดีกว่าคุยกับคนแปลกหน้า

    “ถ้าเป็นเขาคงไม่เป็นไร” เซเวอร์รัสตอบ

    ดัมเบิลดอร์ยิ้มอย่างพอใจ “ดีแล้ว เซเวอร์รัส”

    ผู้บำบัดโกลด์สตีนมาถึงในวันรุ่งขึ้นและเขาก็มานั่งคุยกับเซเวอร์รัสที่ห้องทำงาน เซเวอร์รัสไม่รู้หรอกว่าเป็นบุคลิกที่ติดตัวมาแต่เกิดของโกลด์สตีนหรือการฝึกอบรมเป็นผู้บำบัดจิต แต่ผู้บำบัดคนนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกรุกล้ำ เขาไม่บังคับให้เซเวอร์รัสพูดหรือทำอะไรแบบที่เขามักเคยเจออยู่เสมอ ไม่ได้มองว่าเขาเป็นคนอ่อนแอน่าสมเพชหรือแสดงท่าทีว่าเข้าใจทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น สิ่งที่เซเวอร์รัสชอบที่สุดคือผู้บำบัดมักเรียกเขาว่าศาสตราจารย์หรือมาสเตอร์สเนปเพราะกว่าจะได้ตำแหน่งพวกนี้มาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันเป็นความภูมิใจของเขาและเขาก็ยินดีที่มีคนเห็นความสำคัญของมัน

    “คุณจะไปดื่มกับผมหน่อยได้ไหม” อลันถาม

    เซเวอร์รัสเลิกคิ้ว “นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาด้วยหรือ”

    “คุณจำเป็นต้องปรับตัวเข้าสังคม” อลันตอบอย่างเป็นงานเป็นการ

    “อ๋อ ตกลง” เซเวอร์รัสตอบ เขาไม่ได้ไปดื่มมานานแค่ไหนแล้วนะ

    บรรยากาศร้านไม้กวาดสามอันคึกคักเกินกว่าที่เซเวอร์รัสชอบ อลันเลือกโต๊ะที่ไกลจากผู้คนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขายกมือเรียกมาดามโรสเมอร์ทา

    “วิสกี้ไฟแก้วหนึ่งครับ” เขาสั่ง “คุณจะเอาอะไร” ประโยคหลังเขาหันมาถามเพื่อนร่วมโต๊ะ

    “น้ำชาละกัน”เซเวอร์รัสตอบ

    อลันเลิกคิ้ว แต่ก็สั่งน้ำชาให้เขา เมื่อเจ้าของร้านเดินจากไปแล้ว เขาถึงถามเซเวอร์รัส “คุณไม่ดื่มหรือ”

    “ผมไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์” เซเวอร์รัสตอบ “พ่อของผม..” เซเวอร์รัสไม่ได้อธิบายอะไรต่อ แต่อลันเหมือนจะเข้าใจ

    “ผมไม่เคยเมากลับบ้านเลย” อลันว่า “ผมมีลูกที่ยังเล็กอยู่ที่บ้าน คงแย่มากที่จะเมาให้เธอเห็น”

    “พ่อผมไม่ได้คิดแบบคุณ” เซเวอร์รัสว่า “เขาดื่มที่บ้านเลยแหละ”

    “ผมดีใจที่คุณเปิดเผยมากขึ้นนะ” อลันว่า “คุณสบายใจขึ้นแล้วหรือยัง”

    “ผมเปิดเผยเฉพาะกับคนที่ผมไว้ใจ คนที่ผมคิดว่าเป็น..”เซเวอร์รัสไม่กล้าเอ่ยคำว่าเพื่อนออกมา อลันคงไม่อยากเป็นเพื่อนกับเขา ทันทีที่เขาบำบัดเสร็จ ทั้งคู่คงไม่ได้เจอกันอีก

    “เพื่อน” อลันพูดแทนเขา “ผมเรียกคุณว่าเซเวอร์รัสได้ไหม”

    เซเวอร์รัสพยักหน้าแทนคำตอบ พวกเขาดื่มเครื่องดื่มกันและเดินกลับโรงเรียนไปพร้อมกัน

    รีมัสกำลังมีปัญหาใหญ่ เขาไม่ชอบผู้บำบัดที่ดัมเบิลดอร์จ้างมาเลย หมอนั่นดูสนิทสนมกับเซเวอร์รัสมาก เป็นครั้งแรกที่รีมัสเห็นเซเวอร์รัสมีท่าทีผ่อนคลายขนาดนี้

    “ผมขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมครับ ผู้บำบัดโกลด์สตีน” รีมัสถาม เขามาดักรอที่ห้องของอลันตั้งแต่เช้ามืด

    “มีอะไรหรือครับ ศาสตราจารย์ลูปิน” อลันถามกลับ

    “คุณไม่คิดหรือว่าคุณสนิทสนมกับเซเวอร์รัสมากเกินไป” รีมัสถาม พยายามทำน้ำเสียงให้เรียบ “จรรยาบรรณห้ามไม่ให้พวกคุณมีความสัมพันธ์เกินเลยกับคนไข้ไม่ใช่หรือครับ”

    อลันนึกขำอยู่ในใจ แต่ก็ตอบไปด้วยท่าทีเป็นงานเป็นการ “ผมเป็นผู้บำบัดจิตนะครับ ผมต้องทำให้คนไข้ไว้ใจผม ก็เลยต้องไปกินไปดื่มด้วยกันบ้าง เราไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด และอีกอย่างผมเองก็ไม่ได้จะเป็นผู้บำบัดของเขาตลอดไปสักหน่อยนี่ครับ”

    ความกลัวท่วมท้นใจรีมัส “คุณชอบเซเวอร์รัสหรือ”

    “อ๋อ เซเวอร์รัสเป็นคนน่ารักนะ ลึกลับ น่าค้นหา” อลันตอบ “เป็นคนน่าสงสารด้วย น่าจะมีใครคอยอยู่ข้างๆ คอยดูแลเขา”

    ความกลัวของรีมัสได้รับการยืนยันว่าเป็นจริงแล้ว “นายอย่ามายุ่งกับเซเวอร์รัส” รีมัสว่า “ฉันชอบเขา”

    อลันยิ้มมุมปาก น่าสมเพชจริงๆ ถ้าหมอนี่ชอบเซเวอร์รัสจริงๆล่ะก็ เขาขอปั่นหน่อยล่ะ “ถ้านายชอบเขาจริง นายจะปล่อยเวลามาถึงป่านนี้เหรอ อย่ามาทำตัวเป็นหมาหวงก้าง”

    รีมัสหน้าเสีย “ฉัน..”

    “นายไม่เคยปกป้องเขาเลย ลูปิน” อลันว่าอย่างดูถูก “คนที่นายบอกว่าชอบถูกรังแก นายก็ทำเป็นไม่เห็น”

    อลันเดินจากไป ทิ้งให้รีมัสยืนรากงอกอยู่ตรงนั้น

    “วันนี้ลูปินเป็นอะไร” เซเวอร์รัสกระซิบถาม “เขาดูหงุดหงิดชอบกล”

    “เดี๋ยวค่อยคุยกัน” อลันตอบ

    ทันทีที่พวกเขามาถึงห้องทำงานของเซเวอร์รัส เซเวอร์รัสก็ถามย้ำคำถามเดิมอีกครั้ง

    “เขาจ้องหน้านายอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อแน่ะ เกิดอะไรขึ้น”

    “เขาไม่พอใจที่ฉันมาสนิทกับนาย” อลันตอบง่ายๆ

    “เขาไม่อยากให้ฉันมีเพื่อนล่ะสิ” เซเวอร์รัสว่า “คงคิดว่าฉันควรอยู่คนเดียวมั้ง”

    อลันยิ้ม “เขาหึงนายต่างหาก”

    “หึงฉันเนี่ยนะ บ้าอะไรอย่างนั้น ฉันรู้จักหมอนั่นมาตั้งหลายปี ไม่เคยได้สัมผัสแม้แต่เศษเสี้ยวของคำว่าชอบ แล้วอีกอย่างนายก็มีลูกเมียแล้วไม่ใช่หรือ”

    อลันหัวเราะ “ก็เขาไม่รู้นี่นา”

    “แต่ยังไงฉันก็ไม่อยากเชื่ออยู่ดี” เซเวอร์รัสว่า “ถ้าเขาชอบฉันจริง ทำไมเขาไม่เคยปกป้องฉันเลยล่ะ”

    “ฉันก็พูดไปแบบนั้นเหมือนกัน” อลันว่า “หมอนั่นหน้าเสียไปเลยล่ะ”

    “สมน้ำหน้า” เซเวอร์รัสว่า

    “แล้วนายชอบเขาหรือเปล่า” อลันถาม

    “ฉันจะไปชอบหมอนั่นได้ยังไง” เซเวอร์รัสตอบ “ฉันเกลียดมัน”

    Talk เราจะเปลี่ยนให้อลันเป็นพระเอกดีไหม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×