ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snape The last prince สเนป เจ้าชายองค์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #13 : 10 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      120
      12 เม.ย. 62

    ดัมเบิลดอร์ตะลึง อ้าปากค้าง และเขาก็ตั้งสติได้ “เธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ดีจริงๆ แต่เธอน่าจะอ่อนแอเกินกว่าจะใช้ผงฟลูได้นะ”
    รีมัสสั่นหน้า ก่อนจะพูดอย่างร่าเริง “แน่นอนว่าไม่ พอผมฟื้นขึ้นมา ผมก็สดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้บำบัดเฮิร์บยังตกใจเลย แล้วเขาก็ร่ายคาถาตรวจร่างกายผม และเขาก็ตกใจมาก”
    “ทำไมล่ะ” ดัมเบิลดอร์ถาม เขาชักจะสังหรณ์ใจไม่ดีเสียแล้ว
    “เขาถามผมว่าผมมีฝาแฝดหรือเปล่า เพราะเขาได้รับข้อมูลมาว่าผมเป็นมนุษย์หมาป่า แต่จากที่คาถาบอกเขา ผมเป็นพ่อมดธรรมดาที่ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของหมาป่าอยู่ในตัวด้วยซ้ำ และเขาก็บอกว่าพิษในร่างกายผมหายไปหมดแล้ว มันหายไปอย่างกับไม่เคยมีอยู่ เขาบอกว่ามันมหัศจรรย์มาก ท็องส์เองก็ตกใจเสียจนสีผมเปลี่ยน เขาบอกให้ผมออกจากโรงพยาบาลได้เลย ท็องส์อยู่จัดการเรื่องเอกสาร ผู้บำบัดจะเขียนจดหมายรับรองว่าผมไม่ใช่มนุษย์หมาป่าแล้ว ต่อไปผมก็จะทำธุรกรรมต่างๆได้ง่ายขึ้น” ลูปินอธิบายยืดยาว ฉีกยิ้มกว้าง “ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้” และเขาก็หันมาทางสเนป “ทั้งหมดนี้เพราะนาย ขอบใจมาก เซเวอร์รัส นายมีอะไรให้ฉันช่วย บอกได้เลยนะ”
    เกิดความเงียบขึ้น ไม่มีใครกล้าพูดอะไร และสเนปก็พูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ
    “ไม่เป็นไร ลูปิน ฉันได้รับผลตอบแทนแล้วแหละ ฉันได้วันหยุดพักผ่อนตลอดชีพจากดัมเบิลดอร์ ฉันไม่ต้องปวดหัวกับพวกเด็กสมองนิ่มอีกแล้ว”
    รีมัสหันขวับไปทางดัมเบิลดอร์ เขาเข้าใจความนัยของสเนปทันที “คุณไล่เขาออก” เขาถามอาจารย์ใหญ่อย่างไม่อยากเชื่อ “ เพราะเขาช่วยผม คุณเลยไล่เขาออก” อดีตมนุษย์หมาป่าไม่อาจสะกดกลั้นโทสะได้ “คุณทำยังงี้ได้ยังไง”
    ดัมเบิลดอร์อับจนถ้อยคำ และเขาก็พูดด้วยเสียงที่ไม่เหมือนตัวเขาเองเลย “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันคิดว่าเซเวอร์รัสวางยาพิษเธอ ฉันก็เลย..”
    “เขาไม่ได้บอกคุณเหรอว่าผมจะสลบไปหลายวัน” รีมัสขัดขึ้น “เขาบอกผมล่วงหน้าแล้ว และผมก็เต็มใจ ถ้าคุณสงสัยเขาก็ให้ติดทัณฑ์บนไว้ก่อนก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องไล่ออกทันทีเลย”
    ดัมเบิลดอร์หันมาทางสเนป “เซเวอร์รัส คือฉันขอ..”
    แต่สเนปพูดขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ “ถ้าจะขอโทษล่ะก็ไม่จำเป็น”
    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์เริ่มอีกครั้ง
    “คุณไล่ผมออกจากฮอกวอสต์ตอนกลางคืน ไม่แม้แต่จะเตรียมรถม้าให้ผมด้วยซ้ำ แล้วคุณก็ส่งจดหมายมาหาผม ตอกย้ำความผิดพลาดของผม ความผิดพลาดที่ผมอยากจะลืม แล้วเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา คุณเรียกผมเป็นไอ้โกหก แล้วบอกว่าผมชั่วกว่าจอมมาร” สเนปพูดรัวเร็ว “ขอโทษทีนะ ดัมเบิลดอร์ เวลาที่ผมจะอ้อนวอนขอร้องคุณว่าไม่มีที่ไปน่ะหมดแล้ว”
    “แต่เธอบอกฉันว่าไม่มีที่ในโลกมนุษย์ให้เธออยู่” ดัมเบิลดอร์สงสัย
    “ช่ายย” สเนปว่าอย่างไม่ใส่ใจนัก “เพราะที่ที่ผมไปอยู่คือนิลนคร อาณาจักรของพวกนาค ผมใช้ชีวิตเป็นเจ้าชายเลยแหละ แล้วนั่นก็ไม่ใช่คำเปรียบเทียบด้วย”
    “เธอจะบอกว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงหรือ” ดัมเบิลดอร์ซัก “ที่ว่าเธอเป็น..”
    “เป็นงู ใช่” สเนปตอบสบายๆ “ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจะแสดงให้ดู” แล้วร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นงูยักษ์สีดำสนิทที่มีถึง7หัว แต่ละหัวมีหงอนสีทองและตาสีแดง
    ดัมเบิลดอร์ตะลึง พูดไม่ออก
    สเนปกลับร่างเป็นมนุษย์ สีหน้าดูพออกพอใจในตัวเองอย่างมาก “งูมันไว้ใจไม่ได้” เขาประชดต่อ “คุณจะไล่มันออกจากฮอกวอสต์ทันที ไม่ยอมให้มันมาทำร้ายใครเด็ดขาด”
    ดัมเบิลดอร์พูดไม่ออก เขาได้แต่ตะลึงมองสเนป
    “คุณลองบอกเหตุผลมาสิว่าทำไมผมถึงต้องทำงานให้คุณต่อ” เซเวอร์รัสท้าทาย “ผมได้อะไรบ้างจากการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายให้คุณ เพื่อให้คุณชนะสงครามที่ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยซ้ำ สงครามของมนุษย์ร้ายแรงขนาดไหนก็ไม่เคยกระทบถึงเมืองบาดาล พวกคุณยังไม่เข้าร่วมสงครามโลกของพวกมักเกิ้ลเลยนี่ ทำไมผมต้องร่วมสงครามของพวกคุณด้วยล่ะ’
    “คุณดูสิว่าคุณทำอะไรลงไป” รีมัสตำหนิดัมเบิลดอร์ “ถ้าเราต้องเสียพ่อมดฝีมือดีอย่างเซเวอร์รัสล่ะก็..” เขาสั่นหัว “จะเป็นงูหรืออะไรก็ช่าง การสูญเสียเขาไป จะเป็นหายนะของภาคี”
    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์พยายามเกลี้ยกล่อมต่อ “ฉันอยากให้เธอเห็นแก่ความผูกพันของเรา”
    “ตอนคุณไล่ผมอย่างกับหมูกับหมา ไม่เห็นจะพูดถึงความผูกพันอะไรเลยนี่ แล้วผมก็เห็นแก่ความผูกพันแล้ว ไม่งั้นฮอกวอตส์ก็คงเหลือแต่ชื่อ นาคอย่างพวกเรา สามารถจมเมืองทั้งเมืองได้ด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่แค่ปราสาทเล็กๆอย่างฮอกวอตส์เลย” สเนปพูดเสียงเรียบ ค้านกับอารมณ์ในใจที่คุกรุ่น
    ดัมเบิลดอร์ตั้งท่าจะพูด แต่เซเวอร์รัสขัดขึ้นเสียก่อน “แล้วก็ไม่ต้องใช้มุกเก่าของคุณว่าผมไม่รักเธอแล้วหรือ ต่อให้ผมจะรักหรือไม่รักเธอ ผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตเป็นทาสของอดีต ผมมีชีวิตที่ดีมากในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องจมอยู่กับอดีตอีกแล้ว ลาก่อน” เขาสะบัดเสื้อคลุมจากไป
    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์เรียก แต่สเนปก็ไม่แม้แต่จะหันมามอง เขาเดินออกจากห้องไปทันที
    ดัมเบิลดอร์ไม่รู้จะพูดอะไรได้ เขาจับน้ำเสียงทุกข์ทรมานของชายหนุ่มได้ แม้ว่าจะพูดเหมือนไม่สนใจ แต่เขาก็รู้ดีว่าเซเวอร์รัสเสียใจแค่ไหนกับคำพูดและการกระทำของเขาในช่วงที่ผ่านมา เขาจะพูดหรือทำอะไรเพื่อชดเชยความผิดครั้งนี้ได้บ้าง
    “ผมไม่ปลอบใจคุณหรอกนะ” รีมัสพูดอย่างไม่มีความเมตตา “คุณทำตัวเองนี่ ผมจะไปบอกข่าวดีกับซิเรียสก่อน ลาล่ะ”และเขาก็เดินออกไป
    ชายชราได้แต่ตะลึงงัน และน้ำตาหยดหนึ่งก็ร่วงลงมาที่เครายาวสีขาวของเขา เขาสูญเสียเซเวอร์รัสไปแล้ว ชายหนุ่มที่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อภาคี ชายหนุ่มที่เขาเริ่มรู้สึกรักและเอ็นดู ดัมเบิลดอร์สูญเสียเขาไปเพราะด่วนตัดสินเขาผิดๆ ตอนนี้หากพระเจ้ามีจริง เขาจะไม่ขออะไรเลย นอกจากให้เซเวอร์รัสมองเขาด้วยความเคารพแบบเดิม ไม่ใช่สายตาที่ดูถูกเหยียดหยามอย่างนั้น เขาพร้อมจะให้ทุกอย่างที่เซเวอร์รัสต้องการ ทุกอย่างจริงๆ ขอแค่ให้ได้เขากลับมา
    Talk เดี่ยวpart หลัง ดัมเบิลดอร์จะลงเมืองบาดาล ดูซิว่าจะเป็นยังไง

    ต่อ

    “เจ้าชายทรงเป็นอะไรไปพระเจ้าค่ะ” นทีตั้งคำถาม ตั้งแต่เจ้าชายทรงกลับมา ก็เอาแต่เหม่อลอย ไม่มีพระสติเลย

    “ฉันทำถูกแล้วหรือเปล่า” สเนปพูดอย่างใจลอย “ที่ตัดความสัมพันธ์กับเขาแบบนั้น”

    นทีโมโหเดือดขึ้นมา “ถูกแล้วพระเจ้าค่ะ เขาทำร้ายเจ้าชายขนาดนั้น ไม่ต้องไปอาลัยอาวรณ์เขาหรอกพระเจ้าค่ะ”

    สเนปหันมาหานที “ฉันอดรู้สึกไม่ดีไม่ได้ ถ้ามองจากมุมมองของดัมเบิลดอร์ เขาคงคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว”

    “ถูกยังไงพระเจ้าค่ะ” นทีว่า

    “อยู่ๆลูปินก็สลบไปหลังจากมาหาฉัน พอร่ายคาถาตรวจร่างกายก็พบว่ามีพิษอยู่ในตัวอีก แล้วเรื่องที่ฉันไม่ถูกกับเขาก็ไม่ได้เป็นความลับด้วย” สเนปว่า “ถ้าฉันเป็นเขา ก็อาจทำแบบนี้เหมือนกัน”

    “เจ้าชายพระทัยอ่อนจังพระเจ้าค่ะ” นทีว่าอย่างอ่อนใจ “เขาทำกับเจ้าชายขนาดนั้น”

    “ฉันไม่ได้ใจอ่อน” เซเวอร์รัสเถียง “เขาเคยช่วยฉันไว้ เขาเหมือนมอบชีวิตใหม่ให้ฉัน ตอนที่ทุกคนปฏิเสธฉัน มีแต่เขาที่อ้าแขนต้อนรับ”

    “แต่..” นทีพยายามค้าน แต่ก่อนจะพูดอะไรต่อไป ก็มีเสียงร้อนใจดังขึ้น

    “นที มีมนุษย์มาอยู่หน้าประตูเมือง เขาบอกว่าจะมาพบคนที่ชื่อเซเวอร์รัส”

    สเนปหันขวับไปมอง “คนนั้นหน้าตาเป็นยังไง”

    “เป็นชายชราพระเจ้าค่ะ” ชายคนนั้นหันมาพูดกับสเนป “หม่อมฉันเป็นยามเฝ้าประตูอยู่ เขาก็มาพร้อมกับนกไฟประหลาด เขาพยายามขอร้องให้หม่อมฉันเปิดประตูเมืองให้ พอหม่อมฉันไม่ยอมเขาก็คุกเข่าอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมลุก บอกว่าจะพบเซเวอร์รัสให้ได้ ทั้งขู่ทั้งปลอบก็ไม่ได้ผล”

    สเนปลุกขึ้นยืน “ฉันจะไปหาเขา” และเขาก็เดินออกไป

    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์ร้องอย่างดีใจ “ฉันคิดว่าเธอจะไม่ยอมออกมาเสียแล้ว”

    สเนปมองดัมเบิลดอร์ที่คุกเข่าอยู่ “คุณมาทำอะไรที่นี่ คุณมาที่นี่ได้ยังไง”

    “ฟอกซ์พาฉันมา” ดัมเบิลดอร์พูด “และฉันมาหาเธอ”

    “ลุกขึ้นเถอะ” เซเวอร์รัสพูด “คุณจะคุกเข่าทำไม”

    “เธอเป็นเจ้าชายไม่ใช่หรือ” ดัมเบิลดอร์พูด “เวลากราบทูลกับเจ้าชาย ฉันก็ต้องคุกเข่าสิ”

    “ลุกขึ้นเถอะ” สเนปพูด “ไม่ต้องมาถือศักดิ์ฐานะหรอก”

    ดัมเบิลดอร์ยันตัวลุกขึ้นยืน “ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ” เขาโค้งคำนับ

    สเนปอึดอัด “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ตัองถือศักดิ์ฐานะหรอก ไม่ต้องใช้ราชาศัพท์กับผมหรอก”

    “ก็ได้ เซเวอร์รัส ฉันมาขอโทษเธอ” ชายชราพูดโดยไม่สบตาสเนป “ฉันรู้ว่าเธอคงไม่มีวันให้อภัยฉัน แต่สิ่งที่ฉันอยากบอกกับเธอก็คือ ตลอดเวลา10กว่าปีที่เธอมาทำงานกับฉัน ไม่ใช่แค่เธอที่ผูกพันกับฉัน ฉันเองก็ผูกพันกับเธอเหมือนกัน”

    สเนปไม่ตอบ ดัมเบิลดอร์ยังพูดต่อไป “ฉันรู้ว่าฉันอาจขอเธอมากไปหน่อย ฉันรู้ว่าเธอไม่มีวันให้อภัยฉันอีกต่อไปแล้ว แต่แค่ครั้งเดียว ขอโอกาสฉันอีกครั้ง นะ ได้โปรด”

    ‘ได้โปรดงั้นหรือ ดัมเบิลดอร์พูดคำว่า ได้โปรดกับเขางั้นหรือ จะมีเรื่องอะไรที่ประหลาดกว่านี้หรือเปล่า' สเนปคิด

    “เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์กระตุ้นต่อ “พูดอะไรกับฉันสักคำสิ ด่าฉันก็ได้ อย่าเมินแบบนี้”

    เซเวอร์รัสกระแอม “ผมจะกล้าด่าคุณได้ยังไง คุณมีบุญคุณกับผมขนาดนี้ แต่จะให้ผมกลับไปทำงานกับคุณ มันออกจะเกินไปหน่อย”

    “เธออยากได้อะไรเป็นการชดใช้ เธอเคยบอกว่าอยากได้สระบัวไม่ใช่หรือ ฉันจะสร้างให้เธอ แล้วเธออยากได้อะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า จะเอาเงินเดือนเพิ่มไหม หรือว่าจะเอาอย่างอื่นอีก ฉันให้เธอได้เกือบทุกอย่างเลยนะ ยกเว้นตำแหน่งอาจารย์ป้องกันตัวจากศาสตร์มืด” อาจารย์ใหญ่พูดรัวเร็ว

    สเนปเลิกคิ้วสูง ดัมเบิลดอร์รีบพูดต่อ “ไม่ใข่ว่าฉันไม่ไว้ใจเธอ แต่งานนี้โดนคำสาปไว้ ไม่มีใครสอนวิชานี้ได้เกิน1ปีเลย ฉันเป็นห่วงเธอ กลัวเธอจะเป็นอันตราย ทุกวันนี้เธอก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่แล้ว อะไรที่เสี่ยงน้อยลงได้ก็ควรเสี่ยงน้อยลง และหาอาจารย์ปรุงยาที่มีความสามารถอย่างเธอ มันหายากมากนะ กลับมาเถอะ เซเวอร์รัส กลับบ้านเถอะ ลูก”

    “คุณเรียกผมว่าลูก” เซเวอร์รัสพูดอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณอยากได้งูอย่างผมเป็นลูกเหรอ”

    “ไม่สำคัญหรอกว่าเธอเป็นงูหรืออะไร” ดัมเบิลดอร์พูด “เธอเคยเป็นคนของฉัน และตอนนี้เธอก็เป็นงูของฉัน ถ้าเธอยังยอมอยู่นะ” เขาปิดท้ายประโยคอย่างไม่แน่ใจ

    “พ่อครับ” เสียงเซไวลินดังขึ้น และเด็กน้อยก็เดินออกมา “พ่อมาทำอะไรตั้งนาน”

    เซเวอร์รัสหันไปมองลูกชาย “พ่อมาคุยธุระ ลูก เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว”

    สเนปคนลูกมองหน้าพ่อของตนและชายชราสลับกันไปมา “ผมขอออกความเห็นหน่อยได้ไหมครับ” เขาพูด พ่อของเขาพยักหน้า “ผมเป็นแค่เด็ก แต่ผมคิดว่าคนเราก็ทำผิดพลาดกันได้ คนเราก็เข้าใจผิดกันได้ ตราบใดก็ตามที่ความสัมพันธ์ยังไม่ได้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ก็มีโอกาสที่จะคืนดีกันได้ พ่อเองก็คงไม่อยากให้ใครตัดความสัมพันธ์กับพ่อ เพียงเพราะพ่อทำผิดพลาดแค่ครั้งเดียวหรอกใช่ไหมครับ”

    เซเวอร์รัสนิ่งคิด เขาคิดถึงวันที่ลิลี่ไม่ยอมให้อภัยเขาตอนที่เขาเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน เขาทำผิดแค่ครั้งเดียว แต่เป็นความผิดที่ใหญ่จนเพื่อนไม่ยอมให้อภัย เขารู้สึกเจ็บปวดมากตอนนั้น เขาเคยคิดว่าถ้าเป็นเพื่อนกันน่าจะให้อภัยกันได้ทุกอย่าง แต่เขาก็คิดผิด ถึงยังไงเขาก็ยังหวังว่าลิลี่จะไม่โกรธถึงขนาดตัดความสัมพันธ์กับเขา

    “เซเวอร์รัส” เสียงของชายชราปลุกเขาจากภวังค์ “เธอว่ายังไงล่ะ”

    สเนปหันมามองดัมเบิลดอร์ก่อนจะพูดว่า “ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย” เขายื่นข้อเสนอ “ถ้าคุณพูดหรือทำอะไรอย่างนั้นอีก คุณจะไม่มีวันได้เห็นหน้าผมอีกเลย”

    “ได้สิ ได้” ดัมเบิลดอร์รีบรับคำ “ทุกอย่างเลย”

    สเนปยืดตัวขึ้นอย่างพออกพอใจในตัวเอง “ดีครับ” เขาหันไปทางเซไวลิน “ลูกจะกลับไปกับพ่อหรือจะอยู่ที่นี่"

    เซไวลินนิ่งคิดสักครู่ “ผมอยู่ที่นี่ดีกว่าครับ ประเดี๋ยวคุณโกเมศมาหา ผมจะได้อยู่เป็นเพื่อนกับเขา”

    “เห็นโกเมศดีกว่าพ่อเหรอ” สเนปขยี้หัวลูกชาย

    “ไม่ได้เห็นดีกว่าสักหน่อย” เซไวลินบ่นอุบอิบ “ผมแค่ไม่อยากไปอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้นเอง อีกอย่างพ่อหวงผมหรือหึงเขากันแน่”

    “เซไวลิน!” สเนปพูดเสียงดัง “เดี๋ยวจะโดน”

    เซไวลินวิ่งหนี พลางหัวเราะไปด้วย “ไปแล้วนะครับพ่อ”

    สเนปสั่นหัวอย่างอ่อนใจ เป็นพ่อคน เอ๊ย พ่อนาคเนี่ยปวดหัวใช่เล่น และ1 กันยาปีนี้ เซไวลินจะได้เข้าเรียนแล้ว นาคเทียมช่วงแรกๆจะเติบโตเร็วกว่าปกติมาก 3 เดือน คือ 1 ปี หลังจากนั้นจึงเติบโตเหมือนปกติ

    “ไปกันเถอะ เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์ชวน สเนปพยักหน้า ฟอกซ์บินลงมาและทั้งคู่ก็หายวับไป

    Talk อยากให้ลองมองในมุมของดัมเบิลดอร์บ้างค่ะ เราคนอ่านก็รู้ว่าเซเวอร์รัสพยายามช่วย แต่ดัมเบิลดอร์ไม่รู้ อยู่ๆรีมัสก็สลบไป หลังจากไปหาเซเวอร์รัสและยังมีพิษอยู่ในตัวอีก ไม่แปลกอะไรที่เขาจะโกรธมาก คนเราเวลาโกรธก็มักทำอะไรไม่คิด เหมือนที่เซเวอร์รัสเรียกลิลี่ว่าเลือดสีโคลนนั่นแหละ อย่างที่เซไวลินพูดแหละค่ะ เราคงไม่อยากให้ใครตัดความสัมพันธ์กับเรา เพียงเพราะทำผิดพลาดแค่ครั้งเดียวใช่ไหมคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×