ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snape The last prince สเนป เจ้าชายองค์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #8 : 7 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 62



    9 กพ. 1996
    “เจ้าชายทรงทำอะไรอยู่พระเจ้าค่ะ” นทีถาม ขณะที่สเนปสาละวนบดเครื่องปรุงยา
    “ปรุงยา” สเนปตอบโดยไม่หันมามอง “น้ำยาวูลฟ์เบนของลูปิน”
    “ทำไมเขาต้องดื่มยาล่ะพระเจ้าค่ะ เขาก็ดูแข็งแรงดี” นาคหนุ่มยังคงสงสัย
    “เขาเป็นมนุษย์หมาป่า ตอนพระจันทร์เต็มดวงจะกลายเป็นหมาป่าอาละวาด” สเนปอธิบาย “น้ำยานี้จะทำให้เขาควบคุมตนเองได้”
    “ปรุงยากมั้ยพระเจ้าค่ะ” นทีถาม
    “ยากสุดๆ” สเนปว่าและบ่นพึมพำกับตัวเอง “ทำอย่างกับฉันมีงานไม่มากพอ”
    “แล้วทำไมต้องปรุงล่ะพระเจ้าค่ะ” นทีพูดอย่างแฝงความนัย “ในเมื่อเรามีวิธีที่ดีกว่านั้น”
    สเนปวางมือจากยาที่ปรุงอยู่และหันขวับมาหานที “เธอหมายความว่ายังไง”
    นทียิ้มเจ้าเล่ห์ “พิษของพญานาคมีประโยชน์หลายอย่างนะพระเจ้าค่ะ”
    “พิษก็คือพิษ ฆ่าได้เหมือนกัน จะมีประโยชน์อะไรอีก” สเนปว่า
    “พระองค์ทรงเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง พระองค์ไม่ทรงรู้ตัวเลยหรือว่าพิษของเราสามารถขจัดวิญญาณร้ายในร่างกายมนุษย์ได้ด้วย และพระองค์ก็ทรงทำมาแล้ว เด็กมนุษย์คนนั้น พระองค์ทรงกำจัดวิญญาณร้ายในร่างกายของเขา” นทีอธิบายยืดยาว
    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับลูปิน” สเนปสงสัย
    “มนุษย์ผู้นั้นโดนวิญญาณร้ายของหมาป่าสิงร่าง มันจะมีอำนาจเหนือเขาในวันพระจันทร์เต็มดวง พระองค์ทรงใช้พิษกำจัดมันได้ พระองค์ควรทำในวันเดือนดับ เป็นวันที่มันอ่อนแอมากที่สุด” นทีว่า
    “ทำยากมั้ย” เซเวอร์รัสถามอย่างสนใจ ตอนนี้อะไรก็ได้ให้งานเขาลดไปทีเถอะ แค่อย่างเดียวก็ได้ เขาต้องสอนหนังสือให้กับพวกเด็กสมองนิ่ม ทำงานให้กับฝ่ายภาคีและผู้เสพความตาย ปรุงยาให้ห้องพยาบาล และยังต้องศึกษาประวัติศาสตร์และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆเพื่อรับตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทอีกด้วย
    “ไม่ยากหรอกพระเจ้าค่ะ จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว พระองค์แค่ทรงคิดให้แจ่มชัดว่าหมาป่าออกมาจากร่างของชายผู้นั้นและรวมพลังไว้ที่พระเนตรก่อนจะปล่อยมันออกมา” ลูกน้องของเขาว่า
    “ทำไมต้องรวมที่ตาล่ะ” สเนปซัก
    “พิษของพระองค์แผ่ออกมาทางตาจึงต้องรวมพลังที่ตา ถ้าพ่นพิษออกทางอื่นก็ต้องรวมพลังที่อื่น” นทีอธิบาย
    “มันมีผลข้างเคียงอะไรมั้ย” อาจารย์ปรุงยาซัก
    “หม่อมฉันไม่แน่ใจพระเจ้าค่ะ มีนาคตนหนึ่งพ่นพิษใส่พระนลเพื่อกำจัดกลีที่สิงในร่างเขา ก็ไม่มีผลกระทบใดๆ แต่กลีสิงร่างเขาแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น แต่ชายคนนั้นถูกสิงมานานหลายปี อาจจะมีผลกระทบอะไรอย่างอื่น” นทีแบ่งรับแบ่งสู้ “แต่ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้นะพระเจ้าค่ะ และหม่อมฉันก็เตรียมยาไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินแล้ว อย่างมากที่สุดที่หม่อมฉันสันนิษฐานได้คือเขาจะสลบไปและร่างกายก็จะร้อนดุจไฟเผา เพราะพระองค์ทรงมีพิษที่ทำให้เกิดแผลไฟไหม้และไม่มีวิธีใดๆของมนุษย์จะช่วยได้”.
    “ฟังดูน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย” สเนปบอกอย่างไม่แน่ใจ
    “คนที่ตัดสินใจก็คือชายผู้นั้น หาใช่พระองค์” นทีว่า “ทรงเขียนจดหมายไปนัดเขาคุยดีมั้ยพระเจ้าค่ะ พรุ่งนี้ก็ได้เวลาไปเที่ยวหมู่บ้านแล้ว ทรงไปคุยรายละเอียดที่นั่นก็ได้พระเจ้าค่ะ”
    “ความคิดดี ลูปินเป็นพวกกริฟฟินดอร์ มันอาจจะยอมเสี่ยงก็ได้ ฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งระแวงวันพระจันทร์เต็มดวงอีก” สเนปว่า ใจคิดไปถึงวันที่ความอยากรู้อยากเห็นเกือบทำให้เขาต้องสิ้นชื่อ แล้วเขาก็ไม่ไว้ใจว่าหมาป่านั่นจะกินยาตรงเวลา จะให้เขาไปเตือนบ่อยๆเหมือนเมื่อครั้งก่อนไม่ได้หรอก จอมมารคืนชีพแล้ว เขามีงานให้ทำมากมาย
    เขานั่งลงและเริ่มเขียนจดหมาย

    **************************************

    ต่อ

    รีมัสได้รับจดหมายแปลกๆจากเซเวอร์รัส นกฮูกโรงเรียนมาส่งให้เขา

    ถึงลูปิน

    ฉันมีธุระจะคุยกับนาย มาที่ร้านไม้กวาดสามอัน พรุ่งนี้ตอน10โมง ถ้าว่าง ถ้าเป็นไปได้ ขอให้มาคนเดียว ฉันจะคุยเรื่องตัวปัญหามีขนของนาย

    ซ. สเนป

    จดหมายฉบับนั้นห้วนสั้น ไม่มีกระทั่งคำขึ้นต้นและคำลงท้ายตามแบบฉบับ เซเวอร์รัสต้องการคุยเรื่องอะไรกันแน่ ตั้งแต่เขาได้รับตำแหน่งอาจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดโดยมีซิเรียสเป็นผู้ช่วย เซเวอร์รัสก็ทำเหมือนพวกเขาสองคนเป็นอากาศธาตุ แล้ววันนี้กลับมานัดเขาเนี่ยนะ

    “นายทำอะไรอยู่” เสียงของซิเรียสดึงเขาให้ตื่นจากภวังค์

    รีมัสหันไปมอง “เซเวอร์รัสส่งจดหมายให้ฉัน นัดฉันตอน10 โมงที่ร้านไม้กวาดสามอัน วันพรุ่งนี้ เขาให้ฉันไปคนเดียว”

    ซิเรียสพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างดูถูก “เจ้าหมอนั่นทำตัวแปลกขึ้นทุกวัน ฉันไม่แปลกใจเล้ย”

    “ฉันควรไปดีไหม” มนุษย์หมาป่าถาม

    “นายไป ฉันก็ไปด้วย” อดีตนักโทษว่า “ฉันยังไม่ค่อยไว้ใจมันเท่าไหร่” ความแค้นนับสิบๆปีคงยากที่จะประสานภายในเวลาไม่ถึงเดือน

    “งั้นก็ตกลง”รีมัสว่า

    10กพ1996

    “เมื่อไหร่เจ้านั่นจะมา” ซิเรียสบ่น ขยับเท้าไปมาอย่างอยู่ไม่สุข ก่อนจะดื่มบัตเตอร์เบียร์ทีเดียวหมดแก้ว

    “พูดถึงใครครับ” รอนถามอย่างสงสัย ตอนนี้สามสหายทองคำมานั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกันกับซิเรียสและรีมัส

    “เซเวอร์รัสน่ะ” รีมัสตอบแทน รอนแทบสำลักบัตเตอร์เบียร์

    “ส ส สเนปน่ะนะ มาทำอะไรครับ” รอนตะกุกตะกักถาม

    “ถามฉันสิ” เสียงเยียบเย็นดังขึ้น รอนหันไปมอง สเนปยืนอยู่ตรงนั้น

    “ฉันบอกให้นายมาคนเดียวไม่ใช่หรือ” สเนปพูดกับลูปิน ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งเรื่องมาก

    “ฉันไม่ไว้ใจให้นายคุยกับรีมัสตามลำพังหรอก” ซิเรียสแทรก “จะพูดอะไรก็พูดเลย ยังไงรีมัสก็บอกฉันทุกอย่างอยู่แล้ว”

    “ก็ได้” สเนปบอกอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ “ฉันมีวิธีช่วยให้นายหายจากการเป็นมนุษย์หมาป่าได้ อาจจะนะ”

    “บ้าไปแล้ว” ทั้งโต๊ะอุทานพร้อมกัน

    “เป็นไปไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง “ไม่มีวิธีรักษามนุษย์หมาป่า”

    สเนปไม่สนเฮอร์ไมโอนี่ “ฉันจะทำในคืนเดือนดับซึ่งก็คือวันเสาร์หน้า”

    “นายคิดจะทำอะไรกันแน่” รีมัสระแวง “ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”

    “มันอยู่ในขั้นทดลอง” สเนปว่า “ ฉันจะบอกนาย มันไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์แค่50เปอร์เซ็นต์ยังไม่ถึงเลย ถ้านายกลัวไม่กล้าเสี่ยง ฉันก็ไม่ว่าอะไรนะ” ได้ผล ดวงตาของลูปินวาวโรจน์อย่างโกรธเกรี้ยว

    “ฉันไม่ได้กลัว” เขาว่า “และถ้ามีโอกาส ฉันก็อยากลองดู ฉันเบื่อการเป็นมนุษย์หมาป่าเต็มทีแล้ว”

    “นายทำอย่างนั้นไม่ได้ จันทร์เจ้า” ซิเรียสขัด “นายจะเอาตัวนายไปเป็นหนูทดลองไม่ได้”

    รีมัสหันไปมองเพื่อนก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “ ขอเถอะ ซิเรียส ฉันเบื่อชีวิตแบบนี้เต็มทีแล้ว ฉันอยากเป็นอิสระจากปีศาจนั่น”

    “แต่..”

    “ฉันตัดสินใจแล้ว” รีมัสพูด ด้วยน้ำเสียงที่บอกว่าจะไม่ฟังคำคัดค้านใดๆ

    “งั้นมาหาฉัน เสาร์หน้าตอน2ทุ่ม” สเนปว่า ก่อนจะสะบัดเสื้อคลุมจากไป ค่อยยังชั่วที่หมอนี่ไม่เรื่องมาก

    17 กพ 1996

    ทุ่ม50แล้ว เซเวอร์รัสเดินวนเวียนไปเหมือนหนูติดจั่น จะได้ผลหรือเปล่าหนอ เขาตัดสินใจถูกแล้วหรือเปล่าหนอ ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ถ้าเกิด.. เขาสั่นหัวแรงๆ พยายามขจัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปและได้ยินเสียงเคาะประตู

    “เข้ามา” เขาว่า ลูปินเปิดประตูเข้ามา ดวงตาของเขาเป็นประกายกล้า

    “ฉันพร้อมแล้ว เซเวอร์รัส” รีมัสพูดด้วยน้ำเสียงที่กล้ากว่าที่ตัวเองรู้สึกจริงเล็กน้อย

    “มันจะเจ็บหน่อยนะ นายอาจสลบไปหลายวัน” สเนปเตือน เขาคิดว่าลูปินมีสิทธิ์รู้ทุกอย่าง หมอนี่มีสิทธิ์จะถอนตัวถ้าไม่พร้อม

    “ฉันพร้อม ฉันยินดี” รีมัสว่า เขาภาวนาให้เซเวอร์รัสไม่พูดอะไรมากกว่านี้ เขากลัวจะประสาทขึ้นมาในวินาทีสุดท้าย

    “ดี” เซเวอร์รัสว่า เขาคิดภาพหมาป่าออกจากร่างของลูปิน รวมสมาธิไว้ที่ตาและส่งพลังมาที่ดวงตา

    “อ๊ากก!” ลูปินร้องอย่างเจ็บปวด เขาร้อนไปทั้งตัวเหมือนถูกไฟเผา เหมือนมีอะไรบางอย่างพยายามแหวกอกเขาออกมา ความเจ็บปวดนี้สุดจะทานทนได้ เขาสลบไปทันที

    แม้ว่านทีจะเตือนเขาเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้น แต่การมาเห็นกับตามันคนละเรื่องกัน เซเวอร์รัสใจเต้นรัวไปหมด เขาค่อยๆคุกเข่าอยู่ข้างลูปิน พยายามเรียกให้รู้สึกตัว เขามั่นใจว่าเสียงร้องของลูปินต้องดังก้องไปทั่วปราสาทแน่นอน อาจจะมีใครมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ และถึงตอนนั้นเขาจะอธิบายยังไง เขาไม่น่าใจร้อนเลย

    “เปิดประตูเดี๋ยวนี้ สเนป” เสียงของแบล็คโหวกเหวกโวยวาย “ฉันจะพังประตูเข้าไปฆ่าแก แกทำอะไรจันทร์เจ้า”

    เซเวอร์รัสไม่ตอบ เขาลนเกินกว่าจะพูดอะไรได้

    ซิเรียสพังประตูเข้ามา เมื่อเขาเห็นลูปินนอนสลบอยู่ก็หันขวับมาทางสเนปที่ยืนอยู่ข้างๆ

    “แกทำอะไรเพื่อนฉัน แก ไอ้งูพิษ” เขาปรี่เข้ามาต่อยสเนป เซเวอร์รัสเซล้มลง การปล่อยพิษทำให้ร่างกายเขาอ่อนแอมาก

    “ฉันไม่น่าคิดเล้ยว่าแกอาจกลับใจได้ งูก็เป็นงูอยู่วันยังค่ำ” ซิเรียสว่า เขาอุ้มรีมัสขึ้น “ฉันจะพาเขาไปห้องพยาบาลและจะมาจัดการกับแก ฉันจะบอกดัมเบิลดอร์ แกไม่รอดแน่” เขาหันมาขู่สเนป

    เขาเดินจากไป ทิ้งให้สเนปตะลึงงันอยู่คนเดียว

    *********************************

    “เกิดอะไรขึ้น” มาดามพรอมฟรีย์ถามอย่างตกใจ เมื่อเห็นซิเรียสอุ้มรีมัสที่กำลังหมดสติมา “ฉันได้ยินเสียงร้อง”

    “เจ้านั่นมันทำร้ายรีมัส มันหลอกรีมัสไปหามัน” ซิเรียสพูดอย่างมีอารมณ์

    “ใคร”พยาบาลสาวสับสน “แต่ช่างเถอะ วางเขาไว้บนเตียงก่อน ฉันจะร่ายคาถาตรวจร่างกาย”

    ซิเรียสทำตาม “ผมจะไปบอกดัมเบิลดอร์เรื่องนี้ ผมไม่ยอมให้สเนปหลุดไปหรอก”

    “สเนปเหรอ” ป๊อปปี้อ้าปากค้าง “เซเวอร์รัส สเนปน่ะนะ ฉันคิดว่าเขากลับตัวแล้วเสียอีก”

    “เหอะ กลับตัว” ซิเรียสพูดอย่างดูถูก “ผมขอใช้เตาผิงนะครับ” เขาขออนุญาตนางพยาบาล

    เธอได้แต่พยักหน้าอย่างงงๆ

    แอนิเมจัสคว้าผงฟลูกำหนึ่งโยนไปที่เตาผิง ไฟสีส้มเปลี่ยนเป็นสีเขียว 

    “ดัมเบิลดอร์ ผมมีเรื่องด่วน” เขาตะโกนใส่เตาผิง

    “ถอยไปซิเรียส” เสียงชายแก่ดังอย่างร่าเริง “ฉันจะเข้าไป”

    ซิเรียสทำตาม ดัมเบิลดอร์ออกมาจากเตาผิงอย่างสง่างาม เขาร่ายคาถาปัดขี้เถ้าออกจากเสื้อคลุม

    “มีอะไรรึ” ดัมเบิลดอร์ถาม น้ำเสียงจริงจังขึ้น เมื่อเห็นแววตาโกรธเกรี้ยวของซิเรียส

    “สเนปทำร้ายรีมัส” ซิเรียสพูดห้วนๆ “มันหลอกรีมัสว่ามีวิธีรักษามนุษย์หมาป่า และเขาก็เชื่อ ไปหามัน”

    ดัมเบิลดอร์ตกตะลึง “ตอนนี้รีมัสเป็นยังไงบ้าง” เขาถามอย่างร้อนรน “พาฉันไปดูเร็ว”

    มาดามพรอมฟรีย์ปรากฏตัวขึ้น สีหน้ากังวล “ท่านอาจารย์ใหญ่ รีมัสเหมือนจะมีพิษอยู่ในร่างกาย ฉันพยายามขับออกแต่ไม่ได้ผล”

    “สเนปวางยาพิษเขาจริงๆด้วย” ซิเรียสพูดอย่างกราดเกรี้ยว “ผมไม่ยอมจริงๆนะ คุณต้องจัดการเรื่องนี้”

    ประกายแวววับในตาของดัมเบิลดอร์หายไป บัดนี้มันฉายแสงวาวโรจน์อย่างกราดเกรี้ยว เซเวอร์รัสทำอย่างนี้ได้อย่างไร เขาอยากจะได้ตำแหน่งป้องกันตัวจากศาสตร์มืดขนาดนี้เชียวหรือ บางทีการหลงใหลในศาสตร์มืดของเขาอาจจะฝังรากลึกจนยากจะถอน อาจารย์ใหญ่ร่ายคาถาผู้พิทักษ์ออกมา เขาสั่งมันให้ไปเรียกเซเวอร์รัสมา

    ****************************************

    “มาหาฉันที่ห้องทำงาน เซเวอร์รัส” นกฟีนิกซ์สีเงินพูดต่อหน้าสเนป ก่อนจะหายวับไป

    เซเวอร์รัสหัวใจเต้นรัว เขาควรทำยังไงดี ดัมเบิลดอร์จะทำอะไรกับเขา แต่เขาไม่มีทางเลือก ถ้าเขาไม่ไป ก็หนีไม่พ้นอยู่ดี ยกเว้นแต่จะหนีไปบาดาลซึ่งจะเป็นที่สุดท้ายที่เขาจะไป เขาผูกพันกับมนุษย์เสียแล้ว เขาไม่พร้อมจะใช้ชีวิตอย่างนาคเต็มตัว

    “ห้องทำงานดัมเบิลดอร์ กบช็อกโกแลต” เขาคว้าผงฟลูกำหนึ่งโยนไปที่เตาผิง อันแรกเป็นจุดหมายปลายทาง อันที่2เป็นรหัสผ่านเข้าห้องทำงาน เขารอจนไฟเป็นสีเขียวก่อนจะเดินเข้าไป

    สเนปเคยเห็นดัมเบิลดอร์กราดเกรี้ยวมาแล้วหลายครั้ง ทั้งกราดเกรี้ยวเพราะเขาเป็นต้นเหตุและเพราะสาเหตุอื่น แต่ไม่มีครั้งไหนที่ชายชราดูกราดเกรี้ยวเท่าครั้งนี้

    “นั่งลง” ดัมเบิลดอร์พูด สเนปทำตาม ชายชราไมมีประกายวาววับน่ารำคาญในแววตาและไม่ชวนเขากินลูกอมรสมะนาว ทั้งสองอย่างไม่เคยเป็นลางดี

    “เธอทำอะไรรีมัส เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง ฉันอุตส่าห์ไว้ใจเธอ เอาตัวเธอออกมาจากคุกอัซคาบัน ให้งานเธอทำ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเธอ นี่คือสิ่งที่เธอตอบแทนฉันหรือ” ดัมเบิลดอร์ร่ายยาวอย่างกราดเกรี้ยว

    “ผม..”สเนปเริ่ม แต่ดัมเบิลดอร์ขัดขึ้น

    “งูยังไงมันก็เป็นงูอยู่วันยังค่ำ เลี้ยงดีแค่ไหนก็ยังฉกกัด” เขาพูดต่ออย่างใส่อารมณ์ “ฉันไม่ควรไว้ใจเธอเลย”

    ประโยคสุดท้ายนี้เองที่เหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจเซเวอร์รัส เขาคิดว่าดัมเบิลดอร์รู้จักเขาดีที่สุด บางทีอาจจะมากกว่าเขารู้จักตัวเองเสียอีก เขาคิดว่าชายชราให้อภัยความผิดของเขาหมดแล้ว แต่จากคำพูดเมื่อตะกี้ เห็นได้ชัดว่าดัมเบิลดอร์ยังคงมีส่วนระแวงเขาในใจลึกๆมาตลอด

    “ฉันจะไล่เธอออก” ดัมเบิลดอร์พูดต่ออย่างไม่อ้อมค้อม “ฉันจะไม่เอาเธอเข้าคุก เธอจะมีประโยชน์กว่าถ้าอยู่ข้างนอก แต่ฉันคงไม่ไว้ใจเธออีกแล้ว”

    “อย่าทำแบบนี้กับผม” เซเวอร์รัสพูดเสียงสั่นเครือ “ในโลกมนุษย์นี้ผมไม่มีที่ไปอีกแล้ว” แน่ล่ะเขามีที่ในโลกบาดาล แต่คงไม่เหมาะจะบอกดัมเบิลดอร์ตอนนี้

    “เธอน่าจะคิดก่อนก่อเรื่อง วางยาพิษเพื่อนร่วมงาน” ดัมเบิลดอร์พูด เขาไม่สนสเนปเลยแม้แต่น้อย

    “ผมแค่พยายามขจัดมนุษย์หมาป่าในตัวเขา” เซเวอร์รัสพยายามอธิบาย “เขาจะฟื้น เชื่อผมสิครับ ขอเวลาสัก3วัน ถึงตอนนั้นถ้าเขาไม่ฟื้น คุณค่อย..”

    “อย่ามาหลอกฉัน และอย่าว่าแต่3วันเลย วันเดียวฉันก็ไม่ให้ ออกไปจากที่นี่ก่อนเช้า” ดัมเบิลดอร์ตัดบท “ฉันจะไม่ยอมให้เธอมาทำร้ายใครอื่นอีกแล้ว ฉันจะเรียกตัวเธอมา ถ้ามีเรื่องใช้ ไปได้แล้ว”

    สเนปลุกขึ้นยืน เขาพยายามบังคับขาไม่ให้สั่น พยายามข่มน้ำตาที่จะไหลออกมา “ครับ ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่าง” เขาพูดก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้อง เขาไม่มีที่ไปอีกแล้ว เขาคงจะต้องไปโลกบาดาล ที่ใดมีน้ำ ที่นั่นมีทางเชื่อมต่อโลกบาดาล เขาไม่จำเป็นต้องเก็บข้าวของ ที่นั่นมีทุกอย่างพร้อมให้เขา เซเวอร์รัสเดินอย่างรวดเร็วไปที่หน้าประตูฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์ไม่แม้แต่จะจัดหารถม้าให้เขา ชายชราคงเกลียดเขาแล้วจริงๆ

    “เจ้าชาย” นทีทักทันที เจ้านี่มันเป็นวิญญาณตามติดหรือยังไงนะ “หม่อมฉันขอพระราชทานอภัยโทษพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันไม่ควรแนะนำอะไรแบบนั้นให้พระองค์”

    “ช่างเถอะ” สเนปตัดบท “พาฉันไปเมืองบาดาลที ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ฉันคงอยู่ร่วมกับมนุษย์ไม่ได้จริงๆ”

    “เจ้าชาย” นทีพูดด้วยเสียงสั่นเครือ โง่แท้ๆที่แนะนำพระองค์แบบนั้น เจ้าชายไม่เคยพ่นพิษใส่ใครมาก่อนและยังทรงพระเยาว์มาก(เมื่อเทียบกับอายุขัยของนาคที่เฉลี่ยรวมเกือบ500ปี เจ้าชายเป็นเพียงลูกงูน้อยที่เพิ่งฟักออกจากไข่หรือแฮทชลิ่งเท่านั้นเอง) เจอเรื่องแบบนี้ก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา

    “เรารีบไปกันเถอะ” เจ้าชายนาคว่า เขาไม่อยากจะคิดอะไรแล้ว เขาอยากไปให้พ้นจากที่นี่

    “พระเจ้าค่ะ”นทีรับคำ “เดี๋ยวหม่อมฉันจะพาพระองค์ไปที่แม่น้ำใกล้ๆนะพระเจ้าค่ะ”นทีคว้ามือเซเวอร์รัสและทั้งคู่ก็เหมือนถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ

    *****************************************

    สเนปมาทำอะไรที่นี่ ท็องส์คิดอย่างสงสัย เธอเฝ้ามองสเนปเดินไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เธอรีบหลบให้พ้นสายตา แม้ว่าสเนปอาจจำเธอไม่ได้แต่ก็ไม่เสี่ยงดีกว่า

    “ไม่เจ็บจริงๆหรือ” เธอได้ยินเสียงสเนปพูด “ที่นั่นจะดีจริงๆใช่มั้ย”

    “ดีแน่พระเจ้าค่ะ” อีกเสียงหนึ่งตอบ “กระโดดลงไปเลย”

    “กรี๊ด!” มือปราบมารสาวกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ เธอเพิ่งเห็นอาจารย์ปรุงยาโดดน้ำต่อหน้าต่อตา ทำไมเขาถึงคิดฆ่าตัวตาย เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอรีบวิ่งไป เสกคาถาฟองอากาศและดำน้ำหา แต่ก็ไม่พบสเนป กระแสน้ำพัดเขาไปถึงไหนกันแน่ เธอขึ้นมาจากน้ำ ใช้คาถาเป่าตัวให้แห้ง กระแสน้ำก็ไม่แรงนัก เขาไปไหนกันแน่ เธอต้องรีบไปรายงานดัมเบิลดอร๋ เขาต้องรู้เรื่องนี้ เธอรีบหายตัวไปที่ฮอกวอตส์ทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×