คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : 14(จบตอนแล้ว)
วันเสาร์ ห้องทำงานของสกาย อยู่บนหอคอย
เซเวอร์รัสมายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของสกาย เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเคาะประตู
“ เข้ามาได้เลย” สกายพูด
เซเวอร์รัสเปิดประตูเข้าไป สกายนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำลังจิบชาด้วยท่าทางสง่างาม เขาเลื่อนเก้าอี้มาให้เซเวอร์รัส
“ นั่งลงสิ เซเวอร์รัส เดี๋ยวผมจะไปชงชามาให้” เจ้าของห้องพูดอย่างสุภาพ ก่อนจะลุกขึ้นไปชงชา
เซเวอร์รัสนั่งลงตามคำเชิญ เขารู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้ สายตาของสกายดูเป็นประกายน่ากลัวชอบกล
“ คุณชอบรับประทานอาหารแบบไหน เซเวอร์รัส” ธันเดอร์ชวนคุย “ ชอบพวกปลาหรือเปล่า”
“ ก็ชอบ” สเนปตอบ รู้สึกงงๆว่าถามทำไม
“ ผมก็ชอบเหมือนกัน โดยเฉพาะตรงท้อง มันๆ หวานๆ อร่อยที่สุด” ธันเดอร์พูด พลางเลียริมฝีปาก
“ ฮอกวอตส์มีปลาที่สดที่สุดในโลก” เซเวอร์รัสว่า “ คุณคงได้ลองชิมแล้ว”
“ ใช่” สกายพูด “ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีพวกเนื้องู”
เซเวอร์รัสถอยหลังตามสัญชาตญาณ “ เนื้องูมันกินไม่ได้หรอก เหม็นด้วย”
“ อย่างงั้นรึ” สกายพูด เขาจับไหล่เซเวอร์รัสไว้แน่น มือที่เคยเป็นมือมนุษย์กลับกลายเป็นกรงเล็บของนก กรงเล็บบาดไหล่เซเวอร์รัส
“ ปล่อยฉันนะ” เซเวอร์รัสตะโกน พยายามดิ้นหนี แต่ก็ดิ้นไม่หลุด เขารู้สึกอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
“ เรื่องอะไรจะปล่อย” สกายพูด เขาจับสเนปตรึงกับผนัง “ งูอร่อยๆ มาถึงที่ทั้งที นาคเกิดมาเป็นอาหารของครุฑอยู่แล้ว”
“ ถ้าแกทำอะไรฉัน ดัมเบิลดอร์ต้องจัดการแกแน่” เซเวอร์รัสพยายามขู่
“ คิดว่ากว่ามนุษย์จะมา ฉันก็หนีกลับวิมานฉิมพลีแล้ว” สกายพูดพลางหัวเราะ “ และแกก็จะเป็นอาหารในท้องของฉัน”
“ แต่พญาเวนไตย ราชาแห่งครุฑเลิกกินนาคไปแล้ว และจะลงโทษครุฑทุกตนที่กินนาคด้วย” สเนปพยายามคว้าฟางเส้นสุดท้าย “ แกไม่กลัวหัวหน้าแกหรือไง”
“ หึ! ท่านเวนไตยไม่มีวันทรงทราบเรื่องนี้” ธันเดอร์พูด “ แกเตรียมตัวเป็นอาหารของฉันซะเถอะ” กรงเล็บของเขายิ่งบาดผิวสเนปจนเลือดไหลซิบๆ “ นาคดำน่าอร่อย”
“ ช่วยด้วย” เซเวอร์รัสตะโกนสุดเสียง “ ใครก็ได้ช่วยที”
“ ไม่มีประโยชน์หรอกน่า” สกายหัวเราะ “ ห้องฉันเก็บเสียง ไม่มีใครได้ยินหรอก'
' ช่วยฉันด้วย นที' เซเวอร์รัสพยายามส่งกระแสจิตไปให้ลูกน้อง ' ครุฑจะกินฉัน'
“ แกพยายามส่งกระแสจิตให้พวกนาคมาช่วยเหรอ” สกายพูดอย่างรู้ทัน “ ดีเลย จะได้กินเป็นของว่างล้างปากหลังจากกินแกเสร็จ”
' นที อย่ามาตนเดียวนะ ไปบอกดัมเบิลดอร์ เขาจะช่วยเธอได้' เซเวอร์รัสไม่แน่ใจหรอกว่าดัมเบิลดอร์จะช่วยอะไรเขาได้ เมื่อเผชิญกับเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างครุฑ แต่อย่างน้อยๆดัมเบิลดอร์ก็ไม่แพ้ทางครุฑเหมือนพวกนาค
เขาเจ็บปวดไปทั้งตัว เจ็บเหลือเกิน กรงเล็บของสกายบาดผิวเขา เขาจะรอดไหม ดัมเบิลดอร์จะมาทันช่วยเขาหรือเปล่า เซเวอร์รัสพยายามดิ้น พยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไร้ผล เขาต้องตายที่นี่จริงๆหรือ เขาเพิ่งจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เขายังไม่อยากตาย และเขาก็หมดสติไปเพราะความเจ็บที่สุดจะทนได้
**
นทีได้รับกระแสจิตจากเจ้าชายของเขา และเขาก็เดือดเนื้อร้อนใจมาก เขาจะทำยังไงดี เขาตนเดียวสู้ครุฑไม่ไหวหรอก ความจริงแล้วต่อให้นาคทั้งกองทัพก็สู้ครุฑไม่ได้ แต่การที่เจ้าชายทรงไว้พระทัยมนุษย์ว่าจะช่วยพระองค์ได้ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับนที มนุษย์ผู้นั้นเก่งกาจและมีความสามารถมาก บางทีเขาควรจะไปหาดัมเบิลดอร์ เขารีบรุดออกจากเมืองบาดาล
เขาปรากฏตัวที่ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ ชายชราดูตกใจมากที่เห็นเขา ถึงขนาดทำลูกอมตก
“ เธอเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้ยังไง” ดัมเบิลดอร์ถาม ไม่มีใครเข้ามาในห้องทำงานของเขาได้ หากเขาไม่อนุญาต
“ ผมคือนที เป็นองครักษ์ของเจ้าชายศรีวาเรศ หรือเซเวอร์รัส สเนปของคุณ ตอนนี้พระองค์กำลังทรงเดือดร้อน” นทีพูดอย่างรวดเร็ว “ ไปกับผมเดี๋ยวนี้เลย ไม่มีเวลาแล้ว”
ดัมเบิลดอร์ลุกขึ้นยืนทันที “ นำทางฉันไป ด่วนเลย” เขาพูดอย่างร้อนรน นทีจับมือเขาไว้และทั้งคู่ก็เหมือนถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ โชคดีที่เวทย์มนตร์ป้องกันการหายตัวของฮอกวอตส์ใช้ไม่ได้กับเวทย์มนตร์ของนาค ไม่อย่างงั้นคงเสียเวลามากกว่านี้ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน้าประตูห้องของสกาย
“ คุณช่วยพังประตูเข้าไปหน่อย” นทีว่า “ เวทย์มนตร์ของครุฑมันค้านกับเวทย์มนตร์ของนาค”
ดัมเบิลดอร์ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เขาก็ทำตาม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับภาพที่น่าสยดสยองที่สุด งูดำตัวใหญ่มหึมาที่มี7หัว นอนหมดสติอยู่บนพื้น เลือดไหลเปรอะเต็มตัวไปหมด และร่างที่คล้ายกับมนุษย์ แต่มีกรงเล็บ จะงอยปากและปีกเหมือนนก กำลังใช้กรงเล็บฉีกเนื้องูเข้าปาก
“ หยุดเดี๋ยวนี้” ดัมเบิลดอร์สั่ง เขาเอาไม้กายสิทธิ์ออกมาและชี้ไปที่มนุษย์นกอย่างขู่ขวัญ “ ปล่อยเซเวอร์รัสซะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ”
แววตาสีฟ้าเฉียบคมหันมาหาดัมเบิลดอร์ “ อย่ามายุ่งดีกว่า มันเป็นเรื่องของครุฑกับนาค มนุษย์อย่างแก ไม่เกี่ยว” เขาโบกปีกทีนึงและก็เกิดพายุขึ้น ดัมเบิลดอร์กระเด็นออกไปนอกห้อง
ครุฑตนนั้นหัวเราะ “ นี่คือบทเรียนสำหรับคนที่ยุ่งเรื่องของชาวบ้าน” และเขาก็หันมาจัดการเซเวอร์รัสต่อ
ฉับพลันนั้นเอง ก็มีลูกธนูแหวกผ่านอากาศมาและปักลงที่แขนของสกาย เขาหันขวับไปมองทันที
“ ใครบังอาจมาลอบทำร้าย นัดดาของพญาเวนไตย ไม่กลัวตายหรือไง” สกายพูดโกรธๆ
“ เจ้ากล้ามากที่เอาชื่อของพญาเวนไตยไปอ้าง” เสียงทรงพลังดังขึ้น
ทุกคนที่ยังมีสติอยู่ หันไปมองเป็นตาเดียว
“ ท่าน” นทีกับสกายพูดพร้อมกัน
' เจ้าชายทรงรอดแล้ว' นทีคิดอย่างโล่งใจ ถ้าเขามาถึงนี่ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว
Talk เฉลยแล้วว่าสกายเป็นใคร จริงๆแล้วต้องว่าเป็นอะไร ความจริงไรท์ใบ้ไปในชื่อตัวละครแล้ว สกายแปลว่าท้องฟ้า และครุฑก็เป็นเจ้าแห่งท้องฟ้า มีนาคแล้วจะขาดครุฑได้ยังไง ส่วนตัวละครใหม่ที่โผล่ออกมาจะเป็นใคร ทำไมนทีกับสกายต้องเรียกว่าท่าน ใบ้ให้ว่าพูดถึงในเรื่องหลายครั้งแล้ว
ต่อ
“ เจ้าบังอาจมาก อัสนี” เสียงทรงพลังยังพูดต่อไป เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ยังดูสง่างาม แต่งตัวด้วยชุดลำลอง แต่กลับทรงพลังอำนาจยิ่ง เขาใช้เพียงมือเดียวก็สามารถยกสกายหรืออัสนี แล้วแต่ว่าเราจะเรียกว่าอะไรออกมาจากร่างงูยักษ์ได้ เขาเขย่าตัวมนุษย์นกไปมา “ บังอาจมากจริงๆที่กล้าเอาชื่อข้าไปอ้าง ทำร้ายผู้บริสุทธิ์เช่นนี้” เขาเหวี่ยงจนสุดแรงเกิด อัสนีกระเด็นติดผนังห้อง
“ เสด็จปู่เวนไตย” เขาพูดอย่างกลัวๆ ชี้นิ้วสั่นระริกไปที่สเนป “ ท่านจะว่างูตัวนี้บริสุทธิ์ได้อย่างไร ท่านจำไม่ได้หรือว่าเผ่าพันธุ์ของมันใช้กลโกงสกปรกเสียจนพระนางวินตาต้องตกเป็นทาสของนางกัทรุถึง500ปี”
“ เรื่องนั้นมันยุติไปตั้งนานแล้ว” พญาเวนไตยพูด “ นาคที่มีส่วนร่วมกับการโกงครั้งนั้นก็โดนข้าประหารสิ้น นาคที่เกิดยุคหลังไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้อีก” เขาเดินไปที่ร่างใหญ่ยาวของสเนป หยิบขวดยาอะไรบางอย่างมาจากกระเป๋า และหยดลงไปที่แผลและค่อยๆทา “ ไม่เป็นไร นาคน้อย” เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ เจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว” ดวงตาของสเนปทั้ง14ดวง ลืมขึ้น หางของเขาสะบัดไปมา เขาค่อยๆรวบรวมสมาธิและร่างท่อนบนของเขาก็กลับเป็นมนุษย์ แต่หางยังคงเป็นหางงู
“ ขอบคุณมากครับ” เขาพูดเสียงสั่นกับผู้ช่วยชีวิต เงยหน้าขึ้นมองพญาเวนไตย ราวกับทาสมองพระราชา
“ ไม่เป็นไร นาคน้อยศรีวาเรศ” ราชาแห่งครุฑลูบหัวเขา “ ความแค้นที่ข้ามี ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไปมาก ข้ารู้สึกเสียใจจริงๆ” เขาหยุดพูดชั่วครู่ “ ขอให้เจ้ามีความ..” เขาส่ายหน้า “ ข้าขอให้เจ้ามีความสุขไม่ได้ ชะตาชีวิตของเจ้า ถูกลิขิตมาให้ต้องทนทุกข์ทรมาน แต่จะเป็นการทรมานที่มีเกียรติ ข้าขออวยพรให้เจ้ามีชื่อเสียงรุ่งโรจน์ เจ้าจะได้รับคำสรรเสริญในฐานะวีรบุรุษ”
“ ท่านคือพญาเวนไตยที่เขาร่ำลือกันใช่หรือไม่” เซเวอร์รัสถาม
“ ใช่แล้ว ศรีวาเรศ” พญาเวนไตยพูดอย่างมีเมตตา และเขาหันมาหาอัสนี “ ส่วนเจ้าไปกับข้า ไปรับโทษที่วิมานฉิมพลี” เขาขยุ้มเสื้อของหลานชาย และหันมาหานทีกับดัมเบิลดอร์ที่ยังตะลึงอยู่ “ ข้าต้องขอโทษด้วยที่หลานชายข้าก่อเรื่องวุ่นวาย” ราชาแห่งครุฑกางปีกสีทองออก มันส่งประกายแสบตา และเขาก็พาหลานชายบินออกไปอย่างสง่างาม
เซเวอร์รัสยังคงมองตามไป เขาประสานมือและก้มหัวลงเป็นการแสดงคารวะ
ดัมเบิลดอร์เดินเข้าไปหาเขา “ เซเวอร์รัส” เขาเอามือลูบหัวลูกน้อง และดึงตัวเข้ามากอด “ ไม่เป็นไรแล้วนะ เธอปลอดภัยแล้ว”
เซเวอร์รัสซุกหัวที่อกของดัมเบิลดอร์ “ ผมคิดว่าผมจะตายเสียแล้ว ผมคิดว่าคุณจะมาไม่ทัน”
“ ฉันมาเพื่อเธอเสมอ เซเวอร์รัส ลูกชายที่รักของฉัน” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างอ่อนโยน
“ ผมขอตัวกลับก่อนนะ” นทีพูด เขาไม่อยากอยู่รบกวนเวลาส่วนพระองค์ของเจ้าชายหรอก โดยไม่อยู่รอคำตอบ เขาหายตัวออกไปทันที
“ ฉันจะพาเธอไปห้องพยาบาล” ดัมเบิลดอร์พูด “ ช่วยกลับร่างเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ไหม เซเวอร์รัส ประเดี๋ยวป๊อปปีจะตกใจ”
เซเวอร์รัสพยักหน้า เขาหลับตาลงเพื่อรวบรวมสมาธิและหางของเขาก็ค่อยเปลี่ยนเป็นขา2ข้าง โชคดีที่เขาเกิดบนบก ไม่อย่างนั้นต้องวุ่นวายหาแอ่งน้ำมาให้เขาเปลี่ยนร่างด้วย ดัมเบิลดอร์พยักหน้าอย่างพอใจ เขาเดินไปที่เตาผิงและส่งเสียงเรียกนางพยาบาล เซเวอร์รัสคิดว่าโชคดีเหลือเกินที่มีดัมเบิลดอร์ เขาพร้อมจะทำทุกอย่างที่ชายชราจะสั่งหรือขอร้องเขา ดูเหมือนเขาจะคิดเร็วเกินไปสักหน่อย
Talk จำบทแรกได้ไหมคะ ที่เกริ่นถึงตอนเซเวอร์รัสเกือบตาย ตอนหน้าจะผูกกับตอนนั้นแล้วค่ะ เราจะskipไป หลังโวลเดอมอร์ตายเลย เผอิญไรท์เขียนบรรยายฉากไม่เก่ง เลยไม่ขอเขียนฉากสงครามนะคะ,
เซเวอร์รัสร่างนาค
ความคิดเห็น