คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 8 (100%)
“เซเวอร์รัส” จอห์น วิง นักเรียนปีสามเรียกเขา เซเวอร์รัสหันไปมอง
“มีอะไรครับ” เด็กชายถามอย่างสุภาพ
จอห์นก้มลงมองเด็กชายตัวน้อยอย่างเอ็นดู ให้ตายเถอะ มีคนกล้าแกล้งเด็กคนนี้ได้ไงกันนะ
“ฉันมีโอกาสได้ไปเที่ยวหมู่บ้านฮอกมี้ดส์” จอห์นว่า “ฉันซื้อขนมมาฝากเธอด้วย” เขายื่นเค้กหม้อใหญ่รสช็อกโกแลตให้เซเวอร์รัส
เด็กชายตาเบิกกว้างด้วยความยินดี ช็อกโกแลตทั้งก้อน ของเขาคนเดียวเสียด้วย เขาไม่เคยได้กินเค้กก้อนใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย.
“ขอบคุณครับ” เซเวอร์รัสตะกุกตะกัก
จอห์นยิ้ม ใช้มือขยี้หัวเด็กชายอย่างเอ็นดู
“ผมไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดี” เซเวอร์รัสยังพูดต่อไปอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
“ไม่ต้องตอบแทนหรอก” จอห์นว่า
“ผมไปแล้วนะครับ” เซเวอร์รัสว่า ก่อนจะวิ่งจากไปอย่างยินดี
แต่ก่อนที่เขาจะไปถึงสถานที่นัดพบของเขากับเพื่อนๆ ทอมก็หยุดเขาเอาไว้
“เธอได้เค้กนั่นมาจากไหนน่ะ เซเวอร์รัส” ทอมถาม
“มีคนให้ผมมาครับ” เซเวอร์รัสว่า “เค้กช็อกโกแลตทั้งก้อน เยี่ยมไปเลย”
ทอมขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบให้เซเวอร์รัสรับของจากใครเลย
“ขอฉันดูหน่อยได้ไหม” ทอมถาม
เซเวอร์รัสพยักหน้า เขาเปิดฝากล่องเค้ก ทอมมองสำรวจ ดูเหมือนว่าจะสั่งทำพิเศษเสียด้วย มีตัวหนังสือแกะสลักอยู่บนหน้าเค้ก เขียนว่า à mon Severusทอมรู้สึกเดือดปุดๆขึ้นมา กล้าดียังไงมาเขียนแบบนี้
“ชื่อผมนี่”เซเวอร์รัสร้อง เขาอ่านสองคำแรกไม่ออก มันคงเป็นภาษาต่างประเทศ
“เซเวอร์รัส” ทอมพูด พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ “เธอกินเค้กนี่ไม่ได้”
“ทำไมล่ะครับ” เซเวอร์รัสร้องอย่างผิดหวัง “มันน่าอร่อยออก”
“ฉันจะซื้อให้ใหม่” ทอมว่า “ก้อนใหญ่กว่านี้ อร่อยกว่านี้ด้วย”
เซเวอร์รัสยังคงงุนงง “แต่ทำไมผมถึงกินก้อนนี้ไม่ได้ล่ะครับ”
“เธอไม่ควรรับของกินจากคนแปลกหน้า” ทอมว่า “อาจจะมีคนคิดทำร้ายเธอรู้ไหม”
“แต่ว่า..”เซเวอร์รัสพยายามคัดค้าน เขาไม่เห็นว่าช็อกโกแลตนั่นจะอันตรายตรงไหนเลย
“เดี๋ยวฉันจะพิสูจน์ให้ดู” ทอมว่า เขาเดินนำเซเวอร์รัสไปที่ห้องทำงาน
“ดิ๊กกี้” ทอมเรียก และลูกหมาก็เดินมาหาเขาอย่างเชื่อฟัง ทอมบิเค้กส่งให้มัน มันกินอย่างเอร็ดอร่อยและก็ล้มลง ชักดิ้นชักงอทันที
เซเวอร์รัสตกใจมาก เค้กนั่นมียาพิษจริงๆด้วย ถ้าเขาหรือเพื่อนๆกินเข้าไปล่ะ
ทอมหยิบอะไรบางอย่างหยอดใส่คอของดิ๊กกี้ มันหยุดดิ้นทันทีและไม่นานก็มาวิ่งร่าเริงได้
“เห็นไหม” ทอมพูดอย่างมีชัย “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอกินเค้กนั่นและไม่มียาแก้พิษ”
“ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ”เซเวอร์รัสว่า ก้มหน้าลง
“ดีมาก” ทอมว่า “อยากกินอะไรก็มาบอกฉัน ฉันซื้อให้เธอได้ทุกอย่าง อย่าไปรับของคนอื่นมาอีกนะ”
“ครับ”เซเวอร์รัสรับคำ ขณะที่เดินไปหาเพื่อนๆก็คิดว่ารุ่นพี่คนนั้นช่างใจร้ายจริงๆที่ให้เค้กอาบยาพิษเขา ถ้าทอมไม่มาช่วยเขาคงต้องตายแน่ๆ ทอมเป็นคนดีจริงๆ
ส่วนทอมก็ยิ้มกริ่มที่แผนการของเขาสำเร็จด้วยดี เด็กนั่นกล้าดียังไงมาเขียนหน้าเค้กว่า “ถึงเซเวอร์รัสของฉัน” คงคิดว่าเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสแล้วเขาจะอ่านไม่ออกล่ะสิ แต่เสียใจด้วยนะเด็กน้อย เซเวอร์รัสเป็นของทอมคนเดียวเท่านั้น โชคดีอีกเรื่องคือมันเป็นเค้กช็อกโกแลต ถ้าเป็นเค้กอย่างอื่นทอมก็ไม่รู้จะจัดการยังไงดีเหมือนกัน ทำไมน่ะเหรอ เพราะความจริงมันไม่ได้มียาพิษอะไรเลยน่ะสิ อย่างน้อยก็สำหรับมนุษย์น่ะ แต่ช็อกโกแลตมีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายต่อสุนัขมาก เจ้าดิ๊กกี้ถึงได้ชักดิ้นชักงอไงล่ะ ขอบคุณเมอร์ลินที่เซเวอร์รัสไม่เคยสนใจเรื่องสัตว์เลย ตอนนี้เขาตัดคู่แข่งไปได้อีกคนแล้ว เซเวอร์รัสคงไม่กล้ารับของจากใครอีกแน่ๆ
Talk แผนสูงนะคะ
Talk2 สุนัขห้ามกินช็อกโกแลตจริงค่ะ
ต่อ
เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก ตอนนี้เซเวอร์รัสไม่ใช่เด็กปี 1 ตัวเปี๊ยกอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเด็กหนุ่มปี5ที่กำลังเตรียมตัวสอบว.พ.ร.ส. ตอนนี้เด็กหนุ่มกับเพื่อนๆนั่งอยู่ริมทะเลสาบและกำลังติวหนังสือกันอยู่
“พวกเธอคิดหรือยังว่าอยากเป็นอะไร” ลิลี่ถาม หลังจากที่พวกเขาคร่ำเคร่งกันมาได้สักพัก
เจมส์เสยผมทำท่าเท่ “นักควิชดิช ไม่ก็มือปราบมาร”
ลิลี่นิ่วหน้า “รู้แล้วย่ะ นายเพ้อแบบนี้มาเป็นปีๆแล้ว”
“ฉันอยากเป็นผู้บำบัด” รีมัสพูดอย่างสงบ “แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก”
“นายเก่งออก รีมัส” ซิเรียสค้าน
“แต่ฉันไม่เหมือนพวกนาย” รีมัสพูดเศร้าๆ “ฉันเป็น นายก็รู้ว่าอะไร”
“แล้วเธอล่ะ เซเวอร์รัส” ลิลี่หันมาถามเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ “อยากเป็นอะไร”
เซเวอร์รัสทำท่าคิด “ฉันยังไม่รู้เลย ความจริงฉันไม่อยากจากฮอกวอสต์ไปไหน ฉันอยากอยู่กับทอม เอ่อ ศาสตราจารย์ริดเดิ้ลน่ะ”
“ถามจริงๆเถอะ เซเวอร์รัส” เจมส์พูดอย่างเคร่งขรึมผิดกับบุคลิกปกติของเขา “นายกับศาสตราจารย์ริดเดิ้ลเป็นอะไรกันแน่ นายดูสนิทกับเขามากนะ”
“เขาเป็นอาจารย์ประจำบ้านของฉัน” เซเวอร์รัสพูด แก้มเริ่มเป็นเป็นสีชมพูจางๆ “มันแปลกตรงไหนกัน”
“พวกเรายังไม่สนิทกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลขนาดนี้เลย” ซิเรียสขัด
ก่อนที่เซเวอร์รัสจะโต้ตอบ รีมัสก็พูดขึ้นมา “เราจะติวหนังสือกันอยู่ไหม ข้อสอบคงไม่ได้ออกไปเรื่องเซเวอร์รัสกับศาสตราจารย์หรอกจริงไหม”
เจมส์กับซิเรียสทำท่าเหมือนอยากพูดเรื่องนี้ต่อ แต่เมื่อเห็นสายตาของรีมัสกับลิลี่จึงยอมแพ้
เซเวอร์รัสตั้งใจอ่านหนังสือ แต่กลับไม่มีสมาธิเลย เขาสนิทกับทอมมากไปจริงๆหรือ แต่ทอมก็เป็นรุ่นพี่คนสนิทของแม่เขา บางทีเขาก็มาค้างบ้านทอมช่วงปิดเทอม ไม่แปลกอะไรเลยที่พวกเขาจะสนิทกัน แต่ความรู้สึกปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้ออยู่ในท้องนี่คืออะไรกัน
“เซฟ เซฟ เซฟ” ลิลี่ตะโกน พร้อมกับโบกไม้โบกมือข้างหน้า พอเห็นว่าเพื่อนไม่มีปฏิกิริยาก็ยิ่งตะโกนดังขึ้น
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง” เจมส์ว่า เขาชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่เซเวอร์รัสและพูดว่า “อากัวเมนตี” น้ำพุ่งออกมาจากไม้กายสิทธิ์ตรงไปที่เซเวอร์รัสทำเขาเปียกไปทั้งตัว
“เล่นบ้าอะไรเนี่ย” เด็กหนุ่มโวยวาย “เปียกหมดเลย”
“มีสติแล้วหรือ เซฟ” ลิลี่ว่า “เธอเหม่ออะไรอยู่”
“ไม่มีอะไร” เซเวอร์รัสพึมพำ ก่อนจะลุกขึ้นยืน โบกไม้กายสิทธิ์เป่าตัวให้แห้ง “ไปก่อนนะ ฉันมีนัดปรึกษาเรื่องอาชีพ” โดยไม่รอคำตอบ เขาก็เดินจากไป
เพื่อนๆที่เหลือได้แต่มองหน้ากันอย่างงุนงง
“สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวยังไงก็ไม่รู้นะ” เจมส์ว่า
เซเวอร์รัสเดินมาถึงห้องทำงานของทอมก่อนจะเคาะประตู พอได้ยินเสียงอนุญาตเขาก็เปิดประตูเข้าไป
“สวัสดีครับ ศาสตราจารย์” เซเวอร์รัสทักทายอย่างสุภาพ
“นั่งสิ เซเวอร์รัส” ทอมว่า
เซเวอร์รัสนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับทอม
“เธอคิดหรือยังว่าอยากเป็นอะไร” ทอมถาม
“ผมยังไม่รู้ครับ” เซเวอร์รัสพึมพำ
“เธอเป็นเด็กเก่ง” ทอมว่า “ค่อยๆคิด เธอชอบอะไร อยากทำอะไร”
“ผมไม่รู้จริงๆครับ” เซเวอร์รัสว่า เขาเป็นเด็กเก่งก็จริงแต่เป็นคนที่ไม่ตระหนักถึงคุณค่าในตัวเองมากนัก
“แล้วมีอะไรที่เธอไม่อยากทำบ้างไหมล่ะ” ทอมถาม กระตุ้นต่อไป
“ผมไม่อยากไปจากคุณ” เซเวอร์รัสพูดเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“ว่าไงนะ” ทอมว่า แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เซเวอร์รัสพูดว่าอยากอยู่กับเขางั้นเหรอ
“ผมบอกว่าผมไม่อยากไปจากคุณ” เซเวอร์รัสพูด หน้าขึ้นสีเล็กน้อย
ทอมทำท่าคิด “เธอชอบปรุงยาใช่ไหม”
“ครับ” เซเวอร์รัสตอบอย่างกระตือรือร้น เขาอาจจะเรียนดีทุกวิชาก็จริง แต่วิชาปรุงยาเป็นวิชาโปรดของเขา ทักษะการปรุงยาของเขาอยู่ในขั้นส.พ.บ.ส.แล้วด้วยซ้ำ เขาเอาหนังสือระดับส.พ.บ.ส.ของแม่มาอ่าน ลองปรุงยาตามและปรับปรุงสูตรยา นอกจากนี้เขายังเขียนคาถาที่เขาคิดเองหลายคาถาลงไปหนังสือเล่มนี้อีกด้วย
“เธอสนใจมาสอนปรุงยาไหม” ทอมถาม “อยากลองถ่ายทอดความสนุกของวิชานี้ให้คนอื่นบ้างไหม”
“แล้วศาสตราจารย์ซลักฮอร์นล่ะครับ” เซเวอร์รัสถาม
“เขากำลังจะเกษียณอยู่แล้ว” ทอมว่า
“แต่ผมไม่อยากไปเป็นศิษย์เอกของเขานี่ครับ” เซเวอร์รัสว่า การที่จะสอนอะไรได้จำเป็นต้องมีมาสเตอร์ดีกรีในวิชานั้นเสียก่อนและวิธีเดียวที่จะได้มันมาคือเป็นศิษย์เอกของคนที่ได้มาสเตอร์ดีกรีในเรื่องนั้นมาก่อนและทำผลงานชิ้นเอกในสาขาวิชานั้น การเป็นศิษย์เอกนั้นต่างจากเป็นนักเรียนทั่วไปคือต้องมากินนอนกับอาจารย์และผูกพันธะเวทมนตร์ต่อกัน เซเวอร์รัสชอบการปรุงยาก็จริง แต่เขาไม่ชอบซลักฮอร์นนัก ตาแก่คนนี้ไม่เคยใส่ใจความสามารถของเซเวอร์รัส เพราะว่าเด็กหนุ่มหน้าตาน่าเกลียด เป็นเลือดผสมและจน เซเวอร์รัสไม่เคยได้รับความใส่ใจจากอาจารย์คนนี้มากเท่าที่เขาคิดว่าเขาควรจะได้รับ ตาแก่นั่นเอาแต่เอาใจพวกคนหน้าตาดีต่างหาก เซเวอร์รัสไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้หน้าตาน่าเกลียด ตาของเขาเป็นสีดำสนิทและมีสเน่ห์ จมูกของเขาโค้งงอเหมือนพวกอาหรับ แน่ล่ะมันอาจจะเห็นชัดไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก มีแต่ผมของเขาเท่านั้นที่มันจนเหมือนมีปัญหา แต่มันไม่ได้สกปรก
ทอมเลิกคิ้ว “ใครบอกว่าจะให้เธอเป็นศิษย์เอกของเขากัน” แค่คิดว่าจะให้เซเวอร์รัสไปกินนอนกับคนอื่น ไปผูกพันธะเวทมนตร์คนอื่นก็แทบทำให้เขาทนไม่ได้แล้ว “ฉันก็มีมาสเตอร์ดีกรีวิชาปรุงยาเหมือนกัน เธอมาเป็นศิษย์เอกของฉันก็ได้”
ใบหน้าของเซเวอร์รัสสดใสขึ้นมาทันที “ผมอยากเป็นครับ ผมจะได้อยู่กับคุณแล้ว”
ทอมยิ้มอย่างพอใจ เอาล่ะ อย่างน้อยพวกเขาก็ใจตรงกัน
ต่อ
ตอนนี้เซเวอร์รัสอายุ19ปี เขามาเป็นศิษย์เอกของทอมได้สามปีแล้ว นับตั้งแต่เขาเรียนจบจากฮอกวอตส์ เพื่อนๆของเขาต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง นานๆจะกลับมาเยี่ยมเขาทีหนึ่ง แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยเหงาเพราะมีทอมอยู่ด้วย การเรียนของเขากับทอมนั้นเสร็จสิ้นนานแล้ว แต่เซเวอร์รัสยังไม่สามารถคิดค้นผลงานชิ้นเอกได้จึงถือว่ายังไม่ผ่านหลักสูตร ทั้งวันเขาจึงหมกตัวอยู่ในคุกใต้ดิน พยายามปรุงน้ำยาสูตรใหม่ให้ได้ วันๆเขาเอาแต่ขลุกอยู่ในคุกใต้ดินจึงไม่ทราบถึงข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วฮอกวอตส์
ลอเรนซ์ เทย์เลอร์เป็นญาติผู้น้องของโอลิเวีย เธอชื่นชอบญาติผู้พี่ของเธอมาก ชอบมุกตลกและการเล่นแผลงๆ เธอเพิ่งอายุได้แปดขวบตอนที่ย้ายไปอยู่ที่อเมริกา แต่ยังติดต่อโอลิเวียอยู่เสมอ เด็กหญิงได้รับจดหมายระบายความคับข้องใจที่ญาติผู้พี่ต้องโดนไล่ออกเพราะไปแตะต้องเซเวอร์รัส สเนป เมื่อเธอสอบ ว.พ.ร.ส.ที่อเมริกาได้แล้วจึงขอทำเรื่องมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ฮอกวอสต์ทันที เธอต้องแก้แค้นให้โอลิเวียให้ได้
ข่าวลือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำลายชีวิตคน ลอเรนซ์ตั้งข้อสังเกตถึงความใกล้ชิดสนิทสนมที่มีมากเกินพอดีของอาจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดกับศิษย์เอกและโหมไปทั่ว เธอเริ่มจากตั้งข้อสังเกตที่เป็นความจริงก่อนจะเริ่มใส่สีตีไข่มากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้นักเรียนเริ่มลือกันว่าทั้งคู่มีอะไรกันแล้ว
เมื่อเซเวอร์รัสออกทาจากคุกใต้ดินก็ต้องประหลาดใจที่ผู้คนพากันมองและซุบซิบเมื่อเขาเดินผ่าน แม้ว่าจะพูดกันเสียงเบามากแต่ก็พอจับใจความได้
“คงไม่ได้เก่งเท่าไหร่หรอก เอาตัวเข้าแลกสิไม่ว่า”
“คงเป็นได้แค่ของเล่น เขาเบื่อก็เขี่ยทิ้ง”
“แต่ริดเดิ้ลไม่น่าทำเลยนะ ผู้หญิงดีๆก็มีตั้งเยอะ”
ชักจะไม่ได้การแล้ว เซเวอร์รัสรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นทุกที เขารู้ว่าพวกนั้นพูดถึงใคร เขาไม่ว่าอะไรหรอกถ้าคนที่ถูกนินทาเป็นเขาคนเดียว เขาเป็นคนไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว แต่คำพูดว่าร้ายนั่นลามไปถึงทอมด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่เขายอมไม่ได้ ข่าวลือนั้นจะไม่ทำให้ชายหนุ่มเดือดร้อนเลยถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาก็แอบคิดอกุศลกับทอม ทอมเป็นคนใจดี น่ารัก เป็นความรักแรกที่เขาได้รับนอกจากความรักของแม่ ตอนแรกเขาคิดว่าเขาเห็นทอมเป็นพ่อ แต่เมื่อเขาเข้าสู่วัยรุ่นก็รู้ว่าความรู้สึกของเขามากเกินกว่าจะเรียกได้ว่าเป็นความรักบริสุทธิ์ มันเป็นความรักที่เต็มไปด้วยตัณหาราคะ เขารู้สึกผิดที่หลอกลวงความใจดีของทอม ทอมเอ็นดูเขาเหมือนลูก ใช่ เขาไม่ควรคิดแบบนี้ เขาไม่ควรคิดอกุศลกับคนที่ให้เขาเรียกว่าพ่อ
Flashback
“ทำไมทำหน้าเครียดจัง เซเวอร์รัส” ทอมถาม ตบไหล่ศิษย์เอกของเขาเบาๆ “ไปสอนไม่สนุกเหรอ”
เซเวอร์รัสในวัย 18 ปี ได้ลองเข้าสอนปีแรกเพราะศาสตราจารย์ซลักฮอร์นเกิดป่วยกระทันหัน เซเวอร์รัสซึ่งเป็นนักปรุงยาฝึกหัดจึงได้เข้าสอนเด็กปีสามบ้านฮัฟเฟิลพัฟกับเรเวนคลอ การเรียนการสอนดำเนินไปด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งมีนกฮูกตัวหนึ่งบินเข้ามาส่งจดหมายให้กับนักเรียน เธออ่านจดหมายและก็เป็นลมไป เพื่อนของเธอรีบขออนุญาตพาเธอไปห้องพยาบาล เซเวอร์รัสก็อนุญาต ต่อมาเซเวอร์รัสรู้ว่าเด็กหญิงเป็นลมเพราะรู้ข่าวว่าย่าเสียชีวิต เซเวอร์รัสนำน้ำยาที่ปรุงเสร็จใหม่ๆไปให้มาดามพรอมฟรีย์ ทันได้เห็นครอบครัวของเด็กหญิงมารับเธอไปร่วมงานศพ เด็กหญิงยังสะอื้นไห้ไม่หยุด พ่อของเธอกอดเธอไว้แน่น
“ไม่ร้องแล้วนะ คนเก่งของพ่อ”
“พ่อขา (daddy)”
“พ่อขา(daddy)” คำนี้เองที่ทำให้เซเวอร์รัสไม่สบายใจ เขาเรียกพ่อของเขาว่าคุณพ่อหรือfatherอย่างเป็นทางการมาตลอด ไม่เคยเรียกว่าพ่อ(dad),พ่อจ๋า(daddy),ป๊ะป๋า(papa) หรืออะไรก็ตามที่เป็นทางการน้อยลงเลย แม้ว่าเขาจะได้รับความรักเต็มที่จากแม่และเพื่อนๆ แต่เขาก็รู้สึกเสมอว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไป
“ผมอยากมีพ่อ” เซเวอร์รัสเปรย
ทอมเลิกคิ้ว “เธอก็มีพ่ออยู่แล้วนี่”
“ผมอยากเรียกเขาแบบไม่เป็นทางการบ้าง” เซเวอร์รัสว่า เขาพ่นลมหายใจออกทางจมูก “และเขาก็เป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง”.
ทอมดึงตัวเด็กหนุ่มเข้าไปกอด “ถ้าเธอไม่รังเกียจจะเรียกฉันว่าพ่อก็ได้นะ”
“พ่อ”เซเวอร์รัสพูดเสียงสั่นอย่างยินดี
ทอมนิ่วหน้า “ไม่เอาแบบนั้น เรียกdaddyสิ”
เซเวอร์รัสทำตามทันที “daddy”
End flashback
ใช่ เขาไม่ควรคิดอะไรแบบนี้ ทอมรักเขาเหมือนพ่อรักลูก แม้ว่าเซเวอร์รัสจะไม่เข้าใจว่าทำไมทอมถึงยืนยันจะให้เขาเรียกอาจารย์ว่าdaddyแทนที่จะเป็นdadเฉยๆ แต่อาจเป็นเพราะว่าทอมคงอยากจะให้เซเวอร์รัสคิดถึงตอนวัยเยาว์กระมัง เพราะเด็กเล็กๆมักเรียกพ่อว่าdaddyกันทั้งนั้น
Talk dad แปลว่าพ่อแบบไม่เป็นทางการ
Daddyมี2ความหมาย ความหมายแรกเป็นคำที่เด็กเล็กๆใช้เรียกพ่อแบบที่เซฟเข้าใจ ส่วนความหมายที่สองออกจะทะลึ่งหน่อย เป็นคำเรียกผู้ชายที่มีอำนาจนำในเรื่องเพศ aka เป็นคำเรียกฝ่ายรุกนั่นเอง
Talk2 เซฟช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน
ความคิดเห็น