คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 7 (100%)
“แฟนสวยนี่หว่า” รุ่นพี่แซว
“ไม่ใช่แฟนครับ” เซเวอร์รัสเถียง หน้าแดง “พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน”
“เพื่อนก็เพื่อน” รุ่นพี่ว่า “กินอาหารสิ”
อาหารหลากหลายจริงๆ เซเวอร์รัสกินอย่างละนิดละหน่อย ตั้งใจจะรักษามารยาทให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ น่าเสียดายที่ไม่มีแมลง
สัปดาห์แรกของการเรียนสงบสุขดี เซเวอร์รัสมีเพื่อนสลิธีรินเพิ่มขึ้นมาสองสามคน เขายังคงพบกับลิลี่ตอนพัก บ่อยครั้งที่เด็กผู้ชายสามคนบนรถไฟตามมาด้วยและเอาแต่พูดกันเรื่องควิชดิช
“ฉันจะลงเล่นปีหน้าแน่ๆ” เจมส์ว่า “แล้วนายล่ะ เซเวอร์รัส”
“ไม่อะ” เซเวอร์รัสตอบโดยไม่ต้องคิด เขาชอบบินก็จริง แต่ไม่ชอบเล่นกีฬาอย่างควิชดิชเลย
“แปลกจัง” ซิเรียสว่า “ใครๆก็อยากเล่นควิชดิชทั้งนั้น”
“อย่าเอามาตรฐานนายมาตัดสินคนอื่นย่ะ” ลิลี่แหว “เซฟน่ะเด็กเรียน”
“พูดถึงเรื่องเรียน” เจมส์ร้อง “ฉันยังไม่ได้ทำการบ้านเลย”
“ฉันทำเสร็จแล้ว” รีมัสพูดขรึมๆ
“ขอลอก” ทั้งเจมส์กับซิเรียสร้องพร้อมกัน ลิลี่กับเซเวอร์รัสส่ายหน้าอย่างระอา
“เดี๋ยวฉันสอนให้” รีมัสว่า เด็กชายกริฟฟินดอร์อีกสองคนพยักหน้าอย่างยินดี
การเรียนการสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดนั้นสนุกกว่าที่คิด เซเวอร์รัสรู้จักวิธีการสอนของทอมเป็นอย่างดี เมื่อทอมสั่งให้พวกเขาจับคู่กัน เซเวอร์รัสได้จับคู่กับแฮมเล็ต โค้ก ทั้งๆที่เขาอยากคู่กับลิลี่ ทั้งสองผลัดกันสาปคาถาใส่กัน สุดท้ายเซเวอร์รัสสามารถปลดอาวุธจากแฮมเล็ตได้ ทอมจึงตัดสินให้เขาชนะ แต่แฮมเล็ตไม่พอใจมาก
“นายเล่นทีเผลอ” เขาตะโกน
“อยู่ในสงคราม นายละสายตาจากคู่ต่อสู้ได้ยังไง” เซเวอร์รัสพูดเสียงเรียบ
“เซเวอร์รัส เอ่อ มิสเตอร์สเนปพูดถูกแล้ว” ทอมว่า “ให้สลิธีรินอีกห้าคะแนน”
“ขอบคุณครับ”เซเวอร์รัสยิ้มกว้าง
แฮมเล็ตได้แต่จ้องเซเวอร์รัสอย่างไม่พอใจ เชอะ พวกขี้ประจบเอ๊ย
แฮมเล็ตเป็นพ่อมดที่เกิดจากมักเกิ้ล เมื่อสมัยอยู่ประถมเขาเป็นที่หนึ่งในชั้นอยู่เสมอ และเพื่อนๆก็ชอบกลที่เขาเล่น เขาเป็นเด็กป๊อปปูลาร์และทุกคนก็ชอบเขา เขารู้มาตลอดว่าเขาเป็นเด็กพิเศษ เมื่อเขาได้รับจดหมายให้มาเรียนโรงเรียนเวทมนตร์จึงดีใจมาก แต่ฮอกวอตส์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิด เขาไม่ได้พิเศษอะไรเลยในโรงเรียนนี้ เขากลายเป็นนักเรียนระดับปานกลาง เขาพยายามจะเข้ากลุ่มกับนักเรียนปีหนึ่งคนอื่นๆ โดยเฉพาะเจมส์กับซิเรียส แต่พวกนั้นก็ไม่สนใจเขาเลย และเด็กสเนปนั่นก็ดูเหมือนจะเป็นศิษย์โปรดของอาจารย์หลายคน เขาต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้
“นายคิดอะไรอยู่เหรอ แฮม” ปีเตอร์ถาม เขาเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของแฮมเล็ต
“ฉันเกลียดสเนป” แฮมเล็ตคำราม “ไอ้จอมเลียเอ๊ย”
ปีเตอร์พยักหน้าอย่างเห็นใจ เขาเป็นเด็กที่ไม่ฉลาดนักและเพื่อนๆก็ไม่ชอบเขา แต่ปีเตอร์ไม่รู้เลยว่าที่เพื่อนๆไม่ชอบเขาไม่ใช่เพราะเขาเรียนไม่เก่ง แต่เพราะเขาขโมยการบ้านของรีมัสไปลอกและลืมส่งคืนให้เจ้าตัว ทำให้รีมัสต้องถูกกักบริเวณ เจมส์ ซิเรียสและรีมัสเลยแบนเขาตั้งแต่ตอนนั้น
“พวกเราจะทำอะไรได้” ปีเตอร์ว่า
“เราต้องขอความช่วยเหลือจากพวกริดเดิ้ลแฟนคลับ” แฮมเล็ตพูดเสียงเหี้ยม
กลุ่มริดเดิ้ลแฟนคลับจัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ทอมมาสอนโรงเรียนนี้ใหม่ๆ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดี.การเรียนการสอนที่สนุกตื่นเต้นและมีบุคคลิกที่ดูลึกลับทำให้ทอมเป็นขวัญใจของนักเรียนได้ไม่ยาก พวกเขาไม่เคยแสดงตัวว่าเป็นแฟนคลับเพราะมั่นใจว่าทอมคงไม่ชอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่ว่าวันนี้กลุ่มแฟนคลับได้ข่าวที่ไม่ค่อยดีนักจากเด็กปีหนึ่งสองคน
“เขาเรียกชื่อต้นหมอนั่นจริงเหรอ” โอลิเวีย เทย์เลอร์กรีดร้อง ศาตราจารย์ริดเดิ้ลไม่เคยเรียกชื่อต้นใครมาก่อนเลย แม้ว่าเธอจะเรียนกับเขามาเกือบสี่ปีแล้วก็ตาม เด็กสเนปนั่นเป็นใครกันแน่
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง” เอ็มม่า กรีน เด็กปีสี่ บ้านเรเวนคลอว่าก่อนที่จะพยักพเยิดชวนเอมอนด์ กรีน ลูกพี่ลูกน้องที่อายุเท่ากันไปจัดการกับเด็กสเนป
“ศาสตราจารย์ริดเดิ้ลไม่เคยชมฉันสักครั้ง” เอมอนด์บ่น “แต่กลับชมเด็กนั่น อยากลองประลองด้วยเเล้วสิ”
เป็นโชคร้ายของเซเวอร์รัสที่ตอนนั้นเขาไม่ได้อยู่กับเพื่อนๆ เพราะว่ากริฟฟินดอร์มีซ้อมควิชดิช เจมส์ ซิเรียสและรีมัสจึงไปนั่งดู ส่วนลิลี่บอกว่าเธออยู่กับพวกเขามากจนกลายเป็นผู้ชายไปแล้วจึงขอเวลาส่วนตัวไปอยู่กับเพื่อนๆผู้หญิงเสียหน่อย ส่วนเพื่อนๆสลิธีรินของเขาจับกลุ่มทำการบ้านด้วยกันซึ่งเซเวอร์รัสค่อนข้างเบื่อเพราะเขาทำเสร็จไปตั้งนานแล้ว เขาจึงออกมาเดินเล่น หวังว่าจะจับแมลงได้สักตัว
มีคนลอบโจมตีเด็กชายจากด้านหลัง เซเวอร์รัสหันขวับ เขาพบรุ่นพี่ปีสี่สองคนยืนขวางทางอยู่ เด็กชายไม่อยากมีเรื่องจึงพยายามเดินไปข้างหน้าต่อ แต่เด็กหนุ่มจับไหล่เขาให้หันมาเผชิญหน้า
“ว่าไง” เด็กหนุ่มพูดเสียงเย็น “ได้ข่าวว่าเก่งนักเหรอ”
เซเวอร์รัสส่ายหน้า เขารู้คาถาเล็กๆน้อยๆไม่กี่บท เขามั่นใจว่าไม่ได้เก่งขนาดนั้น
“อย่าเสียเวลาเลย เอมอนด์” เด็กสาวว่า “จัดการมันเลย”
เซเวอร์รัสรู้สึกสับสนอยู่สักพัก แต่ก็ตัดสินใจชักไม้กายสิทธิ์ออกมา ถ้าเขามีไม้กายสิทธิ์จะต้องได้เปรียบแน่ๆ แต่เอมอนด์ต่อยเขาที่ท้องและหยิบไม้กายสิทธิ์ไป
“เอาคืนมานะ” เซเวอร์รัสตะโกน พยายามเอื้อมมือหยิบ
เอมอนด์กับเด็กสาวมองหน้ากันอย่างเจ้าเล่ห์ เด็กหนุ่มแบกเซเวอร์รัสเหมือนแบกถุงปุ๋ยและโยนเขาเข้าไปในตู้เก็บของมืดๆ ร่ายคาถาเก็บเสียงและกันกระแทก
“เราจะทำยังไงกับไม้กายสิทธิ์นี้ดีล่ะ” เอ็มม่าถาม
“ทิ้งไว้แถวนี้ก็ได้” เอมอนด์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “อย่าเอาไปด้วยเลย เป็นหลักฐานมัดตัวเราเปล่าๆ”
เซเวอร์รัสพยายามทุบประตู เขากรีดร้องและทุบประตูอย่างแรง เขาจะต้องออกไปให้ได้ เขาเริ่มปวดเบาและก็รู้ดีว่าเด็กอายุสิบเอ็ดปีไม่ควรฉี่ราด เขามองไปรอบๆพยายามหากระป๋องหรืออะไรก็ตามที่เอามาใช้ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรเลย เขาไม่รู้ว่าถูกขังอยู่ในนานเท่าไหร่ อาจจะเป็นวันๆหรือแค่ไม่กี่นาที เขาทั้งหิว กลัวและอับอาย ถ้ามีใครรู้ว่าเขาฉี่ราด เขาต้องถูกล้อไปอีกนานแน่ๆ
ต่อ
ลิลี่ฟังแมรี่เล่าเรื่องมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอเริ่มเบื่อขึ้นเรื่อยๆ อยู่กับเพื่อนผู้หญิงไม่เห็นสนุกเหมือนกับตอนที่อยู่กับเซเวอร์รัสและเพื่อนผู้ชายคนอื่นเลย
“ฉันขอตัวก่อนนะ” ลิลี่ว่า ตัดบทการพูดพล่ามไม่หยุดของแมรี่ เธอลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะไปตามหาเพื่อนพ่อมดคนแรกของเธอ
ลิลี่เดินตามหาเซเวอร์รัสมาเป็นชั่วโมงๆแล้ว ถึงขนาดถามรุ่นพี่สลิธีรินด้วย แต่พวกเขาก็ยืนยันว่าเซเวอร์รัสไม่ได้อยู่ในหอแล้วเขาไปไหนล่ะ ลิลี่ตัดสินใจไปหาพวกเจมส์เพื่อขอความช่วยเหลือ
“อะไรนะ”เจมส์ร้อง “เซเวอร์รัสหายตัวไปเหรอ”
“ใช่” ลิลี่ว่า “ฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน”
“เราไปปรึกษากันที่ห้องนั่งเล่นรวมดีกว่า” ซิเรียสว่า
ทั้งสี่คนเดินกลับหอกริฟฟินดอร์ แต่อยู่ๆรีมัสก็ชะงัก
“ทำไมไม่เดินล่ะ” ซิเรียสถาม แต่รีมัสใช้นิ้วจุปากให้เงียบ
“ฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง”
ทั้งสามเงี่ยหูฟัง แต่ก็ไม่ได้ยินอะไร
“ฉันรู้แล้วว่าเราจะตามหาเขาได้ที่ไหน” รีมัสว่า พลางชี้ไปที่รุ่นพี่สามคน ผู้ชายคน ผู้หญิงสองคน “เราต้องตามคนผู้ชายไป”
เจมส์ขมวดคิ้ว “ฉันไม่เข้าใจ”
“ผู้ชายนั่นบอกให้ไปปล่อยเด็กหัวเมือกสเนปออกมา” รีมัสว่า
“อย่าเรียกเซเวอร์รัสอย่างงั้นนะ” ลิลี่ร้อง
“ใจเย็นก่อน” รีมัสปลอบ “ฉันแค่ถ่ายทอดคำพูดน่ะ แล้วผู้หญิงที่หน้าคล้ายๆกันก็ถามว่าทำไมต้องปล่อยด้วย ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ ผู้ชายก็บอกไม่ได้ ถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมา เราจะซวยกันหมด”
“นายได้ยินละเอียดขนาดนั้นได้ไง” ซิเรียสถาม รีมัสไม่ตอบ
“งั้นแสดงว่าเขาขังเซเวอร์รัสไว้ใช่ไหม” ลิลี่ว่า “ฉันจะไปจัดการ”
“ใจเย็นๆก่อน ลิลี่” เจมส์ปล่อย “เราไปด้วยกันหมดไม่ได้ ฉันจะเป็นคนไปเอง”
“ทำไมต้องเป็นนาย” ทั้งสามคนถามพร้อมกัน
เจมส์ยิ้มอย่างมีเลศนัย “เดี๋ยวฉันจะเอาอะไรมาให้นายดู”
เจมส์หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากเสื้อ มันเป็นผ้าคลุมสีเงินบางเบาเหมือนกับนำน้ำมาถักทอให้เป็นผืน
ซิเรียสและรีมัสอุทานอย่างชื่นชม ส่วนลิลี่ยังทำหน้าไม่เข้าใจ
“ผ้าสวย แต่มันจะมีประโยชน์อะไร”
ซิเรียสถอนหายใจ “มันคือผ้าคลุมล่องหน ลิลี่ จะไม่มีใครเห็นเรา ถ้าเราคลุมผ้านี่”
“เขาจะไปแล้ว” เจมส์ว่า พลางตวัดผ้าคลุมคลุมตัว และเขาก็หายวับไปทันที “เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังทีหลัง”
“เวทมนตร์นี่มหัศจรรย์จริงๆ” ลิลี่พูด
เจมส์เดินย่องอย่างเบาที่สุดตามหลังเอมอนด์ กรีน ระวังไม่ให้ชนใครหรืออะไร ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงห้องเรียนห้องหนึ่ง เอมอนด์เปิดประตูและเดินเข้าไป เจมส์ตามเข้าไปติดๆ เอมอนด์หยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาเคาะที่ตู้เก็บของ พึมพำคาถาบางอย่างและเปิดประตูตู้ กลิ่นฉุนๆบางอย่างลอยมาปะทะจมูก เจมส์รู้จักกลิ่นนั้นดี มันเป็นกลิ่นปัสสาวะ
“ถึงขนาดฉี่แตกเลยเหรอ” เอมอนด์เยาะหยัน มองดูเด็กสเนปอย่างสมเพช ก็ไม่ได้เก่งเท่าไหร่นี่หว่า
“ปล่อยผมไปเถอะครับ”เซเวอร์รัสพูดทั้งน้ำตา
เอมอนด์กระชากคอเสื้อเด็กชายขึ้นมาและเหวี่ยงเขาอย่างแรง
“จำไว้เป็นบทเรียน อย่าทำอวดดีอีก” เอมอนด์คำราม
“ครับ” เซเวอร์รัสรับคำเสียงสั่น ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาอวดดีตั้งแต่ตอนไหน
“ดี” เอมอนด์ว่า “เพราะยังไงศาสตราจารย์ริดเดิ้ลก็ต้องรู้อยู่ดีว่าแกมันไม่ได้เรื่อง” เขาเดินออกไปพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ
เจมส์โกรธจนตัวสั่น เขาอยากไปจัดการกับเอมอนด์ แต่เขารู้ว่าตอนนี้เขาจะต้องปลอบใจเพื่อนของเขาก่อน เซเวอร์รัสยังนั่งอยู่ในตู้ สะอึกสะอื้นไม่หยุด เจมส์เดินเข้าไปใกล้แล้วถอดผ้าคลุมออก
“เซเวอร์รัส” เจมส์เรียก เซเวอร์รัสหันมาเห็นเจมส์และเขาก็ยิ่งถอยหนี
“ไม่ต้องกลัว” เจมส์ปลอบ “ฉันไม่ทำอะไรหรอก”
เซเวอร์รัสเงยหน้าขึ้นและเขาก็จำเจมส์ได้
“พาฉันออกไปที” เซเวอร์รัสร้อง
เจมส์พยักหน้า ยื่นมือไปประคองเพื่อนออกมา
“ฉันจะไปส่งนายที่หอนะ”
เซเวอร์รัสส่ายหน้า “ฉันไม่อยากกลับหอ ฉันต้องโดนล้อแน่ๆ”.
“ไม่ใช่ความผิดของนายนะ” เจมส์ว่า
“ไม่ ไม่ ไม่” เซเวอร์รัสกรีดร้อง เจมส์ยกมือขึ้นปิดหู
“เกิดอะไรขึ้น” เสียงนุ่มดังขึ้นพร้อมกับศาสตราจารย์ริดเดิ้ลที่เดินเข้ามา
ท่าทีสงบเยือกเย็นที่ทอมมักมีอยู่เสมอหายไปทันที เมื่อเห็นว่าเซเวอร์รัสกำลังสะอึกสะอื้นไม่หยุด กำปั้นทุบรัวไปที่เด็กพอตเตอร์
“เธอทำอะไร มิสเตอร์พอตเตอร์” ทอมร้อง กระชากเจมส์ออกจากเซเวอร์รัส คว้าตัวเด็กชายเข้ามากอดปลอบ
“ฉันอยู่นี่ เซเวอร์รัส ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร พอตเตอร์ทำอะไรเธอ”
ใช้เวลาสักพักก่อนที่เซเวอร์รัสจะสงบ
“ไม่ครับ” เซเวอร์รัสพูดเสียงอู้อี้ “เจมส์มาช่วยผม คนทำเป็นคนอื่น”
“ใคร” ทอมถาม พยายามคุมน้ำเสียงไม่ให้ดังจนเกินไป
“ผมไม่รู้”
“แต่ผมรู้” เจมส์แทรกขึ้นมา “เอมอนด์กับเอมม่า กรีนและก็โอลิเวีย เทย์เลอร์”
ทอมหรี่ตามองเจมส์ “เธอแน่ใจหรือ”
เจมส์พยักหน้า เขารู้สึกว่าอาจารย์มีประกายตาบางอย่างขึ้นมา พูดก็พูดเถอะ ตอนนี้เขาไม่นึกอยากเป็นสามคนนั่นเลยสักนิด
“ไม่ต้องห่วง” ทอมปลอบเซเวอร์รัส “เขาจะไม่กล้ามายุ่งกับเธออีก ฉันสัญญา” อาจารย์เอื้อมมือลูบหัวเด็กชาย ทำให้เจมส์สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
“นั่นใช่แหวนของเพฟเวอเรลล์หรือเปล่าครับ” เขาร้องออกมาก่อนที่จะห้ามตัวเองได้ทัน
ต่อทอมเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ “เธอรู้ได้ยังไง”
“ผมจำตราสัญลักษณ์ได้ครับ” เจมส์ตอบ เขาเองก็เป็นทายาทของเพฟเวอเรลล์เช่นเดียวกัน มรดกที่เขาได้รับตกทอดมาคือผ้าคลุมล่องหน เขาเองก็เป็นว่าที่ลอร์ดพอตเตอร์และต้องเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของบรรพบุรุษ
“ใช่แล้ว” ทอมตอบ ใช้นิ้วลูบไล้ไปที่แหวนอย่างแสนรัก เขาได้รับแหวนนี้หลังจากที่คุณลุงของเขาเสียชีวิต ด้วยความที่ลุงไม่มีลูก เขาจึงได้รับมรดกนี้มาแทน
“งั้นคุณก็เป็นท่านลอร์ดใช่ไหมครับ” เจมส์ถาม
ทอมพยักหน้า เซเวอร์รัสเงยหน้าขึ้นมองเขา แววตาสับสน
“คุณเป็นท่านลอร์ด” เซเวอร์รัสทวนคำ “ทำไมคุณไม่เคยบอกผม” น้ำเสียงของเด็กชายสั่นเล็กน้อยด้วยแรงอารมณ์
“มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับฉัน” ทอมว่า “ฉันยังเป็นทอมคนเดิมเสมอ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเรื่องของเราได้”
“ทำไมคุณต้องปิดบังผม” เซเวอร์รัสซัก “ผมคิดว่าเราไม่มีความลับต่อกันเสียอีก”
“เซเวอร์รัส” ทอมเรียกก่อนจะดึงตัวเด็กชายเข้ามากอดไว้แน่น “ฉันรักเธอ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเธอ แต่ฉันอยากให้เธอรับรู้ในสิ่งที่ฉันเป็นจริงๆ ไม่ใช่หัวโขนของท่านลอร์ดที่ฉันมี”
“คุณไม่ไว้ใจผม” เซเวอร์รัสตัดพ้อ
ทอมเชยคางเด็กชายให้สบตาเขา “ฉันไว้ใจเธอ ฉันแค่ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะสำคัญสำหรับเธอ ตำแหน่งนี้ไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับฉัน ไม่มีเลย”
“ผมรู้มาว่าท่านลอร์ดบางตระกูลจะถูกหมั้นไว้ตั้งแต่เกิดกับคนที่คู่ควร” เซเวอร์รัสพูดช้าๆ “แล้วคุณ..”
“บางตระกูล ใช่” ทอมยอมรับ “แต่ฉันไม่เคยถูกจับหมั้นกับใคร ไม่มีใครบังคับให้ฉันทำอะไรได้ เซเวอร์รัส”
“ครับ” เซเวอร์รัสรับคำและเริ่มเช็ดน้ำตา
ทอมโบกไม้กายสิทธิ์เพื่อทำความสะอาดหน้าตาและเสื้อผ้าของเด็กชาย
“ไปกันเถอะ ฉันจะไปส่งเธอที่หอ” เขาหันมาทางเจมส์ “ขอบใจมาก ฉันให้กริฟฟินดอร์ห้าสิบคะแนน”
เจมส์ยิ้มกว้าง “ขอบคุณครับ”
ทอมเดินย่ำเท้าไปมาในห้องทำงานของดัมเบิลดอร์
“พวกนั้นมาทำร้ายเซเวอร์รัส ขังเขาไว้ในตู้เก็บของเป็นชั่วโมงๆ เด็กที่น่าสงสารกลัวและอับอายมาก เซเวอร์รัสไม่เคยทำอะไรให้พวกเขาเสียหน่อย” ทอมร่ายยาวด้วยแรงโทสะ
“เซเวอร์รัสเป็นยังไงบ้าง” ดัมเบิลดอร์ถาม
“ผมส่งเขาเข้านอนไปแล้ว” ทอมตอบห้วนๆ “ฝากให้เด็กคนอื่นดูแลเขา เขายังร้องไห้อยู่เลย”
“เธอจะให้ฉันทำยังไง” ดัมเบิลดอร์ถามอย่างเคร่งขรึม
“ผมต้องการให้พวกนั้นโดนไล่ออก” ทอมคำราม “ผมไม่ยอมให้ใครมาคุกคามเซเวอร์รัส เขาจะต้องรู้สึกปลอดภัยที่นี่ ที่นี่เป็นโรงเรียน ไม่ใช่สถานดัดสันดานหรือคุก คนที่ทำร้ายคนอื่นไม่ควรจะอยู่ที่นี่”
ดัมเบิลดอร์พยักหน้า “ฉันเห็นด้วยกับเธอ ทอม” เขาก้มลงเขียนเอกสารการไล่ออกสามฉบับก่อนจะเงยหน้าขึ้น “ไปตามพวกเขามาที่ห้องนี้”
ทอมยิ้มอย่างสะใจ
“ขอโทษครับ ศาสตราจารย์ฟลิตวิก ผมขอตัวเทย์เลอร์และกรีนหน่อยได้ไหมครับ” ทอมถามอย่างสุภาพ
“กรีนไหนล่ะ” อาจารย์ร่างเล็กถาม
“ทั้งสองคนเลยครับ” ทอมตอบ
เด็กทั้งสามคนตื่นเต้นยินดีมาก ศาสตราจารย์ริดเดิ้ลมาตามหาเขา พระเจ้า พวกเขาต้องใช้แต้มบุญหมดแล้วแน่ๆ
ฟลิตวิกอนุญาต เด็กทั้งสามเดินตามทอมไป
“พวกเราจะไปไหนครับ” เด็กหนุ่มกรีนถาม
ทอมไม่ตอบ เขาสาวเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ เด็กทั้งสามต้องเร่งฝีเท้าเพื่อให้ตามทัน ไม่นานพวกเขาก็มาถึงรูปปั้นสัตว์ประหลาด ทอมบอกรหัสผ่านและดุนหลังเด็กๆเข้าไป พวกเขาขึ้นบันไดเวียนจนมาถึงห้องทำงานของดัมเบิลดอร์
“สวัสดี มิสเทย์เลอร์ มิสเตอร์และมิสกรีน” ดัมเบิลดอร์ทักทายอย่างสุภาพ
เด็กทั้งสามตกตะลึง พวกเขาไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะถูกพามาที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่และท่าทีเคร่งขรึมผิดปกติของชายชราตรงหน้าก็ดูไม่ใช่สัญญาณที่ดี
“มีอะไรหรือคะ” โอลิเวียถามขึ้นอย่างขลาดๆ
แทนคำตอบ ดัมเบิลดอร์ยื่นเอกสารให้ เด็กทั้งสามรับไปอ่านและเอมอนด์ก็โวยวายขึ้น
“ไล่พวกเราออก หมายความว่ายังไง”
“ขอโทษนะ” ทอมพูดเสียงเย็น “มีคำไหนที่เธอไม่เข้าใจเหรอ”
“แต่พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ” เอ็มม่าพูดเสียงเครือ ทอมพ่นลมหายใจอย่างดูถูก
“เธอทำอะไรไว้อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้” ทอมคำราม “เธอกล้ามาแตะต้องเซเวอร์รัส ฉันถนอมเขามาตั้งแต่เล็ก แต่เธอกลับทำให้เขาต้องร้องไห้”
“แต่ว่า” โอลิเวียพยายามแก้ตัว “พวกเราก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”
ทอมหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาและชี้ไปที่เธออย่างขู่ขวัญ “เธอ ไม่ มี สิทธิ์”เขาพูดเน้นทีละคำและกวาดไม้กายสิทธิ์ไปที่สองพี่น้องกรีน “พวกเธอไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องเซเวอร์รัสของฉัน”และก่อนที่ใครจะพูดอะไร ทอมก็ร่ายคาถาบางอย่าง
เด็กทั้งสามทรุดตัวลงและเริ่มกรีดร้อง ดัมเบิลดอร์มองอย่างเป็นกังวล “เธอทำอะไรน่ะ”
“คาถาสนองกรรม” ทอมตอบ “ความรู้สึกที่พวกนี้ทำให้เซเวอร์รัสรู้สึกทั้งทางกายและใจจะกลับมาหาพวกเขา”
“ผมขอโทษ” เอมอนด์พูดออกมา ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตาบอดและอึดอัดมาก “ช่วยผมด้วย ผมจะไม่ทำอีกแล้ว”
“ได้โปรดเถอะค่ะ” เด็กหญิงทั้งสองร้อง “พวกเรามองไม่เห็น หายใจไม่ออก พวกเราไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย”
“นี่ยังไม่ถึงนาทีเลยนะ” ทอมพูด “เธอขังเซเวอร์รัสไว้ในตู้เป็นชั่วโมงๆ แต่เอาเถอะฉันไม่อยากลดตัวไปอยู่ในระดับเดียวกับพวกเธอ” เขาพึมพำคาถาแก้คำสาป
“เซ็นซะ” ดัมเบิลดอร์พูดเสียงเรียบ “ฉันจะส่งจดหมายไปหาพ่อแม่เธอ พวกเขาจะได้มารับเธอที่สถานี”
เด็กทั้งสามเซ็นลายเซ็นอย่างเงื่องหงอย พ่อแม่ของพวกเขาจะว่ายังไงบ้างล่ะนี่
“ผมไปก่อนนะครับ” ทอมว่า “ผมต้องไปบอกเซเวอร์รัสว่าเขาปลอดภัยแล้วและผมจะไม่ให้ใครทำอะไรเขาอีก”
ดัมเบิลดอร์พยักหน้าอนุญาต ทอมเดินออกไปอย่างร่าเริง ไม่มีใครมาทำร้ายเซเวอร์รัสได้ ถ้าเขายังอยู่
ความคิดเห็น