คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 5 (100%)
รุ่นน้องของทอมคือไอลีน พริ้นซ์ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ผิวซีดขาวและดูไม่ค่อยสวยนัก แต่เธอก็เป็นเด็กฉลาดและมีความสามารถโดยเฉพาะในวิชาปรุงยา ทอมพยายามชวนให้เธอเล่นเกมด้วย เธอโปรดปรานเกมก๊อบสโตนเป็นพิเศษ ทอมจึงพาเธอไปเข้าสโมสรเกมก๊อบสโตน ไอลีนเข้ากับคนในสโมสรได้ดีทีเดียว
ทอมยังคงรับติวหนังสือให้กับเพื่อนๆและรุ่นน้อง เขาชอบการสอนหนังสือโดยเฉพาะวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ทอมแอบหวังว่าเขาจะได้สอนวิชานี้หลังเรียนจบ อาจารย์วิชานี้แก่เต็มทีแล้วและทอมคิดว่าไม่มีที่ไหนเหมือนกับฮอกวอตส์ เขาไม่คิดจะจากไปไหน แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม
ทอมยังคงหลงใหลสิ่งที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า “ศาสตร์มืด” เป็นพิเศษ มันเป็นศาสตร์ที่แตกต่างไปจากเวทมนตร์ปกติ บ่อยครั้งก็เป็นสิ่งที่ไว้ทำร้ายผู้อื่น แต่ทอมไม่ได้ศึกษามันเพื่อทำร้ายใคร เขาเพียงแค่ศึกษาเพื่อพัฒนาตัวเองเท่านั้นและใช่ว่าเวทมนตร์ปกติจะทำร้ายคนไม่ได้ เช่น คาถาสกอร์จิฟายที่เป็นคาถาทำความสะอาดก็สามารถใช้ทำให้คนหายใจไม่ออกและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ในทางตรงกันข้ามคาถาที่นับว่าเป็นศาสตร์มืดก็อาจใช้ช่วยคนได้เช่นเสกคำสาปสะกดใจให้คนที่กำลังตกใจหนีออกมาจากสถานที่ที่ไฟไหม้ เพราะการหนีไฟนั้นสิ่งสำคัญคือสติ คนส่วนใหญ่ตายเพราะเหยียบกันตายมากกว่าเพราะไฟ คำสาปนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถออกมาได้โดยไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่ทว่าเพราะคำสาปนี้อันตรายเกินไปเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้คาถานี้ด้วยจุดประสงค์ที่ดี ดังนั้นมันจึงเป็นคำสาปควบคุมพิเศษ
ทอมใช้เวลาเจ็ดปีในฮอกวอตส์ศึกษาเวทมนตร์ทุกศาสตร์อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะการเล่นแร่แปรธาตุ ทอมใช้พิธีกรรมที่ทำให้เขาแก่ช้ากว่าปกติ เมื่อเขาเรียนจบแล้วเขาก็สมัครเป็นอาจารย์ที่ฮอกวอตส์ แต่ศาสตราจารย์ดิพพิตปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าทอมยังหนุ่มเกินไปและไม่มีประสบการณ์ ทอมจึงไปสมัครทำงานเป็นลูกจ้างในร้านเล็กๆอย่างบอร์เจ็นและเบิร์กส์เพื่อสร้างสายสัมพันธ์และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทอมได้ทำความรู้จักกับเฮปซิบาห์ สมิท ทายาทของฮัฟเฟิลพัฟ เธอนำล็อกเก็ตของสลิธีรินและถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟมาอวดเขา ทอมมองล็อกเก็ตอย่างโหยหา ทอมรู้จักมันดีแม้ว่าจะไม่เคยเห็นเพราะแม่เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังบ่อยๆ เด็กสาวที่กำลังท้องแก่ อดอยากและไม่มีทางเลือกจนต้องขายสมบัติประจำตระกูลเพื่อแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย
“เป็นอะไรไปจ๊ะ ทอม” หญิงชราถาม
ทอมสะดุ้งจากภวังค์ “ผมแค่คิดถึงเรื่องที่แม่เล่าน่ะครับ”
เธอเลิกคิ้ว “ยังไงจ๊ะ”
ทอมรู้ว่าเธอคงไม่ยอมขายล็อกเก็ตแน่ แต่เขาจะเอามันมาโดยไม่ต้องจ่ายเงินสักแดงเดียว
“คุณแม่เคยเป็นเจ้าของล็อกเก็ตครับ” ทอมว่าแล้วเขาก็เริ่มเล่าเรื่องจริงปนเท็จว่าแม่เขาลำบากเพียงใดในตอนนั้นจนจำเป็นต้องขายสมบัติชิ้นเดียวของตระกูลไปในราคาถูก “คุณแม่รักล็อกเก็ตนั่นมากครับ มันเป็นของขวัญที่คุณตาให้ แต่ถ้าไม่ขายไปพวกเราก็คงตายกันไปแล้ว” ทอมเช็ดน้ำตา
เฮบซิบาห์ใจอ่อนตามคาด เธอยื่นล็อกเก็ตให้ทอม แต่ทอมไม่รับ
“มันเป็นของคุณแล้วครับ”
“อยู่กับฉันมันก็เป็นแค่เครื่องประดับไว้อวดฐานะเท่านั้น แต่สำหรับเธอมันมีคุณค่าทางใจ”
ทอมซ่อนยิ้มไม่ให้เธอเห็น “ผมต้องจ่ายเท่าไหร่ครับ”
หญิงชราหัวเราะ “ไม่ต้องหรอกจ้ะ ถือเป็นของขวัญก็แล้วกัน ยินดีที่ได้รู้จักเด็กหนุ่มนิสัยดีอย่างเธอนะจ๊ะ”
ทอมก้มหัวให้แสดงความขอบคุณและรับมันมา แม่จะต้องดีใจแน่ๆ
ทอมออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่หลายปี จนกระทั่งเขาได้ข่าวว่าอัลบัสได้รับตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ เขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะกลับฮอกวอตส์อีกครั้ง
อัลบัสอ้าแขนต้อนรับเขาอย่างดี ทอมเล่าถึงประสบการณ์ท่องเที่ยวให้เขาฟังและบอกว่าอยากรับตำแหน่งอาจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด อัลบัสตอบรับด้วยดีและยังให้เขาเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีริน เมื่อทอมถามถึงศาสตราจารย์ซลักฮอร์น อัลบัสก็เพียงแค่ยักไหล่แล้วพูดอะไรทำนองว่า “เขาบ่นว่างานเยอะเกินไป”
ทอมกำลังดื่มกาแฟอยู่ เมื่อเอลฟ์รายงานว่ามีคนต้องการพบ ทอมสบถ หงุดหงิดที่มีคนมาหาแต่เช้า บางทีอาจจะเป็นพ่อกับแม่ล่ะมั้ง พวกเขาบ่นว่าทอมอายุมากแล้วน่าจะมีคนรักกับเขาบ้าง เขาอายุยังไม่ถึงสี่สิบเลยนะ แต่แขกที่มากลับเป็นรุ่นน้องคนสนิทของเขา ไอลีน สเนป เธอเพิ่งเปลี่ยนนามสกุลตามสามีไปเมื่อสี่ปีก่อน ทอมไม่เคยเห็นสามีของเธอ รู้แต่ว่าเขาเป็นมักเกิ้ล ส่วนเด็กน้อยที่อายุคงไม่เกินสามขวบที่แอบอยู่หลังเธอคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกชายของเธอ เด็กคนนี้เหมือนไอลีนราวกับแกะ เพียงแต่จมูกงองุ้มเท่านั้น
“สวัสดีคุณริดเดิ้ลสิลูก” ไอลีนดันหลังเด็กชายให้มาหาทอม
“ไม่” เด็กน้อยว่า แนบตัวชิดกับแม่มากกว่าเดิม
“อย่าดื้อสิลูก” ไอลีนว่า เธอหันมาทอม “ขี้อายน่ะค่ะ”
ทอมรู้สึกงุนงงมาก “เธอพาเขามาทำไม”
“ฉันจะไปหาสมุนไพรหายากน่ะค่ะ พาเขาไปด้วยไม่ได้” ไอลีนอธิบาย
“แล้วทำไมไม่ให้อยู่กับพ่อล่ะ” ทอมถาม
ไอลีนถอนหายใจ “คือว่า..”
“จะกลับบ้าน” เด็กชายพูดอู้อี้
ทอมคุกเข่าให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับเด็กน้อย “ชื่ออะไรครับ”
“ไม่บอกหรอก” เด็กชายว่า แลบลิ้นใส่อย่างทะเล้น “แม่บอกไม่ให้เซวี่บอกชื่อกับคนแปลกหน้า”
ทอมหัวเราะอย่างเอ็นดู “ไม่บอกก็ไม่บอก เซวี่”
เซวี่มีท่าทีตกใจมาก “รู้ได้ไงอะ” เขาหันไปหาแม่ “แม่บอกเขาเหรอ”
ไอลีนก็อดขำไม่ได้ “ไม่ได้บอกจ้ะ”
“ตกลงชื่อเซวี่ใช่ไหม” ทอมซัก
“ไม่ใช่” เซวี่เถียง “เฉพาะแม่กับ กับ..” เด็กชายคิดคำไม่ออก ไอลีนจึงพูดแทนให้ “คนพิเศษ”
“นั่นแหละ” เซวี่ว่า “ถึงเรียกได้ คนอื่นต้องเรียกว่า เซ วัส”
ทอมหัวเราะ “ก็ได้ เซวัส”
เด็กชายทำท่าหงุดหงิด “ไม่ใช่เซวัส เซวัสต่างหาก”
“ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหนนี่” ทอมว่า เขารู้สึกว่าเด็กนี่ตอนหน้าบึ้งก็น่ารักดีไม่หยอก
เด็กน้อยกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ “ไม่ใช่ ไม่ใช่”
“เขาชื่อเซเวอร์รัสค่ะ” ไอลีนว่า “เขายังออกเสียงไม่ได้”
ทอมยืดตัวขึ้นและยื่นมือให้ “สวัสดีเซเวอร์รัส ยินดีที่ได้รู้จัก”
เซเวอร์รัสมองอย่างลังเลก่อนจะจับมือ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณริดเดิ้ล”
ไอลีนกอดลูกชายไว้ “เป็นเด็กดีนะลูก อีกสามวันเดี๋ยวมารับ”
เซเวอร์รัสพยักหน้า “ครับ เด็กดีครับ”
ไอลีนจุ๊บแก้มลูกชายเบาๆก่อนจะหายตัวไป
ทอมรู้สึกสับสนมากที่รุ่นน้องเอาลูกมาฝากเขาแทนที่จะให้เด็กอยู่กับพ่อ ดูเหมือนว่ามีอะไรต้องให้สืบอีกแล้ว แต่ตอนนี้ช่างเถอะ เขามีเด็กน้อยน่ารักต้องดูแล
“หิวไหม” ทอมถาม “อยากกินอะไร”
คำตอบของเซเวอร์รัสทำให้เขาแทบช็อก “แมลงครับ แมลงสดๆ”
Talk เราแต่งฟิคมาหลายเรื่อง เซเวอร์รัสไม่เคยเป็นมนุษย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทายสิว่าครั้งนี้เผ่าไหน
ต่อ
“อย่าเลย” ทอมว่า เขาจะให้ลูกของไอลีนกินแมลงได้ยังไงกัน “ฉันทำสเต็กให้กินดีกว่า”
เซเวอร์รัสมีสีหน้าผิดหวังแต่ก็พยักหน้า
ทอมสังเกตเห็นว่าเซเวอร์รัสกินอาหารได้เรียบร้อยผิดปกติมาก เขาไม่กินหกและไม่กินเลอะเทอะ ท่าทางการกินของเขาเป็นผู้ใหญ่และดูเกร็งๆ
“เธออยากกินขนมหวานอะไร” ทอมถาม หลังจากที่กินอาหารคาวเสร็จแล้ว
เซเวอร์รัสมองเขาอย่างระแวง “เซวี่ต้องทำ’ไร”
ทอมขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจที่เด็กชายพูด
เซเวอร์รัสพยายามจะอธิบายเมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่เข้าใจ “ขนมหวาน ไม่ ต้องทำงาน”
ทอมตัดสินใจใช้คาถาพินิจใจและก็พบว่าเมื่อเซเวอร์รัสอยู่บ้านจะไม่ได้รับอนุญาตให้กินขนมหวานและเมื่อไปขอพ่อ พ่อก็จะบอกว่าคนที่ได้รับอนุญาตให้กินขนมคือคนที่ทำงานเท่านั้น ไม่ใช่ตัวประหลาดอย่างเขา
ทอมถอนหายใจ เขารู้แล้วว่าทำไมถึงมีการต่อต้านการแต่งงานระหว่างพ่อมดแม่มดกับมักเกิ้ล เพราะว่าในโลกนี้ยังมีมักเกิ้ลประเภทที่ไม่ยอมรับว่าพ่อมดแม่มดก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกันกับพวกเขา
“เธอเป็นแขกของฉัน” ทอมพูดช้าๆ “ฉันจะให้เธอกินขนมหวาน เธออยากกินอะไร”
เซเวอร์รัสตอบเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “ไอศกรีมครับ”
ทอมหันไปสั่งเอลฟ์ให้ไปนำไอศกรีมมา
หลายวันผ่านไปพวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขพอใช้ เซเวอร์รัสนอนบนเตียงเสริมในห้องเดียวกับทอม เมื่อตอนหลับเขาก็ดูเป็นเด็กธรรมดาๆนี่เอง แต่ที่น่าแปลกคือจะมีใยแมงมุมอยู่ใต้ร่างของเขาทุกครั้ง ทอมกลัวว่าอาจจะเป็นแมงมุมมีพิษก็ได้ เขาจึงสั่งให้เอลฟ์ทำความสะอาดห้อง แต่ก็ไม่พบแมงมุมสักตัว เซเวอร์รัสยังชอบเล่นในสวนเป็นพิเศษและหลังจากที่เขาเล่นเสร็จ จำนวนแมลงก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทอมเคยเห็นเด็กบางคนที่บี้แมลงเล่น แต่ทั้งมือและเสื้อผ้าของเซเวอร์รัสไม่เคยเลอะเลือดและเขาก็ไม่เคยเห็นซากแมลง ราวกับว่ามันหายไปในอากาศ ใยแมงมุมยังเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆทั้งๆที่ไม่มีแมงมุมให้เห็นสักตัว นอกจากนี้ทุกครั้งที่ถามเซเวอร์รัสว่าอยากกินอะไร คำตอบก็ยังคงเป็นแมลงทุกครั้งจนทอมต้องเลิกถาม
แต่สิ่งที่ทำให้ทอมรู้สึกว่าไม่สามารถทนอยู่เฉยๆได้อีกต่อไปคือเมื่อเขาตื่นขึ้นมากลางดึกและเห็นกับตาว่าทำไมที่นอนของเซเวอร์รัสจึงมีใยแมงมุม เซเวอร์รัสกำลังพ่นใยแมงมุมออกมา เขาพ่นใยแมงมุมตอนนอนโดยไม่รู้ตัว ทอมไม่กล้าปลุกเขา ได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า ทอมตัดสินใจเขียนจดหมายถึงไอลีนเล่าเรื่องพฤติกรรมประหลาดของลูกชายของเธอ เขากลัวเหลือเกินว่าเด็กคนนี้อาจจะโดนคำสาปอะไรบางอย่าง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าใยที่เขาพ่นออกมาพันคอตัวเองยามหลับและไม่มีใครเห็น
จดหมายตอบของไอลีนยิ่งทำให้เขาสับสน เธอยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติและจะอธิบายให้ฟังเมื่อเจอหน้า
เมื่อไอลีนมารับลูกกลับบ้าน ทอมจึงรีบซักถามรายละเอียดทันที
“เขาเป็นลูกครึ่งแมงมุมค่ะ” ไอลีนสารภาพ “ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน”
ทอมตะลึง อ้าปากค้าง เขาว่ารู้มาว่าไอลีนเป็นแม่มดสายเลือดบริสุทธิ์และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่มีเชื้อสายของปีศาจแมงมุมในสายเลือดของเธอ ฝั่งสามีของเธอก็เป็นแค่มักเกิ้ลธรรมดา
“เขาไม่ใช่ลูกของโทไบอัสหรอกค่ะ” ไอลีนพูดเสียงแผ่ว ก้มหน้าลงด้วยความละอาย
ทอมเลิกคิ้ว เขารู้จักไอลีนดี เธอไม่ใช่คนที่จะคบชู้ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรและปล่อยให้เธออธิบาย
“ฉันคิดว่าเป็นเขา” หญิงสาวเล่าต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เหมือนกันมาก เหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก ฉันมีอะไรกันกับเขาแล้วเขาก็ออกไป”
ทอมพยักหน้าเป็นสัญญาณให้เล่าต่อ
“แล้วโทไบอัสตัวจริงก็เข้ามา ฉันถามเขาว่าทำไมกลับมาเร็วนัก” ไอลีนพูดรัวเร็ว “เขาบอกว่าเขาออกไปตั้งแต่เช้าแล้วและก็ไม่ได้แวะเข้าบ้านเลย ตอนนั้นฉันรู้แล้วว่าคนที่มาหาฉันไม่ใช่สามีของฉัน ฉันตัดสินใจไม่บอกเขาเรื่องนี้ ฉันไม่แน่ใจว่าคนคนนั้นเป็นใคร ฉันคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ดื่มน้ำยาสรรพรส ไม่นานหลังจากนั้นฉันก็คลอดเซเวอร์รัส เขาก็เหมือนเด็กทารกปกติธรรมดาๆนี่เอง จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 3 เดือนเขาก็เริ่มพ่นใยได้ ฉันต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ฉันไม่กล้าปล่อยให้เขาอยู่กับโทไบอัสตามลำพัง สามีของฉันเกลียดทุกอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์ปกติ ฉันกลัวเหลือเกินค่ะ กลัวว่าวันหนึ่งถ้าฉันตายไป เซเวอร์รัสจะต้องอยู่คนเดียวในโลก ไม่มีใครรักเขา ไม่มีใครต้องการ ไม่มีใครดูแลเขา” หลังจากจบคำปราศรัยอันยืดยาวนี้แล้ว เธอก็ร้องไห้
ทอมกอดเธอไว้เหมือนพี่ชายกำลังกอดน้องสาว “อย่าห่วงเลย ไอลีน” เขาปลอบ “ถ้าไม่มีใครรักเซเวอร์รัส ฉันจะรักเขาเอง ถ้าไม่มีใครต้องการเขา ฉันจะต้องการเขาเองและฉันก็สัญญากับเธอด้วยเกียรติของฉันว่าจะดูแลเขาไปจนถึงวันสุดท้าย” ทอมพูดอย่างหนักแน่น
มีเวทมนตร์เปล่งประกายรอบทอมเมื่อเขาพูด โอบล้อมเขากับไอลีนเอาไว้ คำสัญญาของพ่อมดแม่มดต่างจากพวกมักเกิ้ล เมื่อมีใครคนหนึ่งพูดว่า “ฉันสัญญา” เวทมนตร์โบราณเก่าแก่ก็จะรับรู้ถึงคำสัญญานั้นและพันธนาผู้ให้คำสัญญานั้นไว้ ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ทอมก็ได้ผูกสัมพันธ์กับเด็กชายไปเรียบร้อยแล้ว ทอมรู้ดี วันหนึ่งเขาอาจจะแต่งงานและมีลูกเป็นของตัวเอง แต่เซเวอร์รัสก็จะเป็นที่หนึ่งในใจเขาเสมอ
Talk ขอแม่แล้วค่ะ
ความคิดเห็น