คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 4 (100%)
ทอมรู้สึกว่าฮอกวอตส์เป็นบ้านมากกว่าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า วิชาการต่างๆก็ล้วนน่าสนใจทั้งนั้น บางทีอาจจะยกเว้นวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ทอมเป็นเด็กนักเรียนชั้นแนวหน้า เขารู้ว่ามีเพียงการศึกษาที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเขากับแม่ได้ ทอมยังผูกสัมพันธ์กับเพื่อนๆหลายคนไม่ว่าจะเป็นเอเวอร์รี่ มัลซิเบอร์ น็อตต์และคนอื่นๆ พวกเขาตั้งกลุ่มติวหนังสือด้วยกัน ทอมยังมีพันธมิตรอยู่บ้านอื่นๆที่พอจะให้ความช่วยเหลือได้หากเขาเดือดร้อน แม้ว่าไม่อาจจะนับได้ว่าเป็นเพื่อนกัน แต่ก็เปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรี
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ในที่สุดวันปิดเทอมก็ใกล้เข้ามาทุกที พอถึงวันสุดท้ายก่อนปิดเทอม ทอมก็ผุดลุกผุดนั่งและตัดสินใจแอบย่องออกมาจากหอนอน
“มาทำอะไรหรือ ทอม” เสียงเรียบๆดังขึ้น
ทอมสะดุ้ง หันไปมองก็พบดัมเบิลดอร์ยืนยิ้มอยู่
“ผมนอนไม่หลับครับ” ทอมตอบโดยไม่สบตา
“พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านแล้วคงจะตื่นเต้นล่ะสิ” ดัมเบิลดอร์พูดยิ้มๆ
“ผมไม่ได้กลับบ้าน” ทอมพูดเสียงกร้าว “ที่นั่นไม่ใช่บ้านผม”
ดัมเบิลดอร์ถอนใจ “พูดอย่างนี้คุณแม่ของเธอคงเสียใจ”
“ผมรักแม่” ทอมว่า “ผมอยากอยู่กับแม่ แต่ผมไม่อยากกลับไปที่นั่น ไปที่นั่น”
ดัมเบิลดอร์มองทอมอย่างชั่งใจ “ที่นั่นแย่มากนักหรือ ทอม”
“พวกเขาชอบรังแกผม” ทอมพูดอย่างขมขื่น “เพียงเพราะผมแตกต่างจากเขา แล้วตอนนี้สถานการณ์ที่นั่นก็แย่กว่าเดิมเสียอีก”
“ทำไมล่ะ” ดัมเบิลดอร์ถาม
“พวกมักเกิ้ลกำลังทำสงครามกัน” ทอมว่า “แม่เขียนจดหมายมาบอก ปริมาณอาหารก็น้อยลงเรื่อยๆ แทบวันดีคืนดีก็อาจมีระเบิดลง”
“แล้วเธอต้องกลับไปที่นั่นน่ะหรือ” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างตกใจ “เธอไปไม่ได้นะ ทอม กลับไปไม่ได้เด็ดขาด”
“แล้วผมจะทำยังไงล่ะครับ” ทอมพูดเศร้าๆ “ผมไม่มีที่ไปนี่”
“เธอจะไปอยู่กับฉันไหม” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างไม่คาดคิด
“แล้วแม่ล่ะครับ” ทอมย้อน “ผมทิ้งแม่ไม่ได้นะ แม่มีผมอยู่คนเดียว”
“ฉันไม่ได้จะให้เธอทิ้งแม่ ฉันยินดีที่จะรับเธอสองแม่ลูกมาอยู่ด้วย” ดัมเบิลดอร์ว่า “เธอเป็นเด็กน่ารักและมีพรสวรรรค์ ส่วนแม่ของเธอก็เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง”
ทอมหรี่ตามองอย่างระแวง “อาจารย์ชอบแม่ผมหรือครับ”
“เมโรเพเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง” ดัมเบิลดอร์ตอบไม่ตรงคำถาม
“ผมไม่ให้” ทอมพูดอย่างก้าวร้าว “แม่เป็นของผม ผมจะเก็บแม่ไว้ให้พ่อ ผมไม่ยอมให้ใครมาแทนที่พ่อทั้งนั้น แม้แต่อาจารย์ก็เถอะ”
ดัมเบิลดอร์ชะงัก งุนงงอยู่ชั่วครู่และความเข้าใจก็แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า เขาเริ่มหัวเราะคิกคัก
“ผมพูดเรื่องจริงนะ” ทอมพูดเสียงเข้ม รู้สึกหงุดหงิดที่ดัมเบิลดอร์เห็นคำขู่ของเขาเป็นเรื่องตลก
“ทอม” ดัมเบิลดอร์ว่า “ฉันไม่ได้อยากเป็นพ่อเธอ ยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่เคยคิดอะไรกับแม่เธอในแง่นั้น ฉันรักแม่เธอเหมือนน้องสาว”
ทอมยังคงมองอย่างระแวง ดัมเบิลดอร์จึงพูดเสริมต่อ
“ฉันแต่งงานแล้ว ทอม ฉันไม่คิดจะนอกใจเขา”
“เขา” ทอมทวนคำ “เขาเหรอครับ”
“ใช่แล้ว” ดัมเบิลดอร์พูดยิ้มๆ “เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ไง”
“ผู้ชายกับผู้ชายแต่งงานกันได้ด้วยหรือครับ” ทอมถาม
“ถ้ารักกันใครๆก็แต่งงานกันได้ ทอม” ดัมเบิลดอร์ว่า “เธอควรจะรู้เรื่องนี้”
“มันไม่แปลกเหรอครับ” ทอมถาม “มันไม่มีปัญหาเหรอ”
“ปัญหาน่ะมีแน่ ทอม” ดัมเบิลดอร์ว่า “ฉันทะเลาะกับเกลเลิร์ตแทบทุกวัน แต่ปัญหาในชีวิตคู่ก็มีกันทุกคนไม่ใช่เฉพาะคู่รักที่เป็นเพศเดียวกัน ต่อให้ต่างเพศก็มีปัญหานี้ สิ่งสำคัญคือพวกเธอต้องปรับตัวเข้าหากันและเข้าใจกัน”
ทอมพยักหน้ายอมรับ “ผมขอกลับไปนอนก่อนนะครับ”
“ตามสบาย ทอม” ดัมเบิลดอร์ว่า “พรุ่งนี้ฉันจะไปรอเธอที่สถานีนะ”
ทอมขมวดคิ้ว “ผมไม่ได้บอกสักคำว่าตกลงไปกับอาจารย์”
ดัมเบิลดอร์มีสีหน้าสลดลง “ไม่ไปจริงๆเหรอ ฉันจะพาเธอไปทะเลด้วยนะ อยากไปหรือเปล่า”
ทอมมีสีหน้าสดใสขึ้น เขาชอบทะเล
“ทะเลสวยๆ หาดทรายขาวๆ ก่อปราสาททราย ว่ายน้ำ แล่นเรือ ตกปลา” ดัมเบิลดอร์ยังโฆษณาต่อไป
“ผมอยากไป” ทอมพูดอย่างกระตือรือร้น “ให้ผมไปนะ นากินีก็ไปด้วย”
ดัมเบิลดอร์หัวเราะเบาๆ “แน่นอน”
“ผมจะไปเขียนจดหมายหาแม่” ทอมพูดก่อนจะรีบวิ่งกลับหอนอน
ดัมเบิลดอร์มองตามไปและส่ายหัวอย่างเอ็นดู
ต่อ
“ช่วงนี้เรามีแผนต้องทำอะไรบ้าง อีริค” โทมัสถามพ่อบ้านของตัวเอง
“รีสอร์ทที่Mullion Coveกำลังมีปัญหาครับ” อีริครายงาน “คนดูแลที่นั่นไม่ได้ส่งค่าเช่ามา 2 เดือนแล้ว”
โทมัสขมวดคิ้ว “ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“เขาบอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนมาเข้าพักครับ” อีริคว่า “ผมว่าคงจริง”
“ไม่มีคนเข้าพักก็ดี” โทมัสว่า “ฉันจะได้พาครอบครัวไปพักสักหน่อย เราไม่ได้ไปทะเลกันนานแล้ว”
“เดี๋ยวผมจะจัดการจองให้ครับ” อีริคว่า
เมโรเพและทอมย้ายเข้ามาอยู่บ้านของดัมเบิลดอร์ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“ทำตัวตามสบายนะ” ดัมเบิลดอร์ว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวMullion Cove กัน”
“ขอบคุณมากนะคะ” เมโรเพว่า “ไม่น่าจะต้องทำถึงขนาดนี้เลย”
ดัมเบิลดอร์โบกมือ “อย่าคิดมากไปเลย ไปเที่ยวกันแค่สองคนมันก็เหงาๆ มีเด็กมาด้วยก็หายเหงาไปได้เยอะ”
“ใช่” กรินเดวัลด์พูดขึ้นบ้าง “อัลบัสรักเด็กเสมอ เขาถึงปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งในกระทรวงเวทมนตร์และเลือกเป็นครู”
“ถ้าอาจารย์ชอบเด็กขนาดนั้น ทำไมถึงไม่มีลูกสักคนล่ะครับ” ทอมถามตามประสาซื่อ
ผู้ใหญ่ทั้งสามหัวเราะ ดัมเบิลดอร์มีท่าทีขัดเขิน
“ผู้ชายกับผู้ชายมีลูกด้วยกันไม่ได้หรอกจ้ะ” เมโรเพอธิบาย “ต้องเป็นผู้ชายกับผู้หญิงถึงจะมีได้”
“แม้กระทั่งพ่อมดแม่มดก็มีไม่ได้หรือครับ” ทอมซัก เขาคิดว่าการมีเวทมนตร์จะสามารถทำได้ทุกอย่างเสียอีก
“ถึงเราจะเป็นพ่อมดแม่มดแต่ก็มีบางเรื่องที่เราไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้” ดัมเบิลดอร์อธิบาย “เพราะยังไงเราก็ยังเป็นมนุษย์”
ทอมหน้ามุ่ย “พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย”
พวกผู้ใหญ่หัวเราะกันอีก “ไปเก็บของได้แล้วจ้ะ” เมโรเพว่า
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างสงบสุขพอใช้ ทอมพลิกตัวไปมา ตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยว
ชายหาดที่Mullion Coveนั้นขาวสะอาดราวกับหิมะ ทอมเริ่มสร้างปราสาททรายหรือที่จริงก็คือเอาทรายมากองรวมๆกันอย่างสนุกสนาน ผมเล่นเพลินจนไม่รู้ว่าทุกการกระทำของเขาถูกชายคนหนึ่งจับจ้องอยู่
“สวัสดี” ผู้ชายคนนั้นทักขณะที่คุกเข่าลงข้างๆทอม
“มีอะไรครับ” ทอมถามอย่างระแวง
“หนูมาคนเดียวหรือ” ชายคนนั้นซัก
“ผมมากับคุณแม่” ทอมว่า พยักเพยิดไปที่เตียงผ้าใบที่แม่ของเขากำลังนอนพักผ่อนอยู่
ชายคนนั้นหันขวับไปมอง แววตาปรากฏประกายบางอย่างที่ทอมไม่รู้ว่าคืออะไร
“แล้วคุณพ่อล่ะ”
ทอมรู้สึกไม่ชอบใจเอามากๆ ผู้ชายคนนี้เป็นใครถึงมาถามนู่นถามนี่อยู่ได้
“จัดการเลย” ทอมกระซิบกับนากินี
นากินีรอจังหวะนี้อยู่นานแล้วมันเลื้อยออกมาแล้วส่งเสียงขู่ฟ่อๆ
ผู้ชายคนนั้นชะงัก ยืนตัวแข็งทื่อ
“ถ้าคุณยังไม่ไป” ทอมพูดด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ “ผมจะสั่งให้มันกัดคุณ”
“เกิดอะไรขึ้นตรงนั้นน่ะ” ชายอีกคนที่หนุ่มกว่ามากเดินเข้ามาร่วมวงด้วย
ทอมตะลึงมองผู้ชายคนนั้น เขามีผมแบบเดียวกับทอม ดวงตารูปร่างและสีเดียวกัน เพียงแต่ว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ขณะที่ทอมเป็นเด็ก
“ขอโทษครับคุณหนู” ชายที่มาก่อนว่า “ผมเห็นเด็กคนนี้หน้าตาคล้ายคุณหนูก็เลยมาสอบถามดู”
“ขอบคุณมาก อีริค” คุณหนูว่า “คุณไปได้แล้ว”
อีริคโค้งคำนับและเดินจากไป
ฝาแฝดต่างวัยจ้องกันอยู่นาน
“คุณเป็นใคร” ทอมถาม
แต่ทว่าฝั่งตรงข้ามไม่ตอบ เขาเข้ามากอดทอมไว้แน่นเสียจนทอมเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก
“ปล่อยผมนะ” เด็กชายพยายามดิ้น
“ไม่ปล่อย” คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าตอบ “พ่อจะไม่ปล่อยให้ลูกห่างสายตาอีกแล้ว”
เมโรเพเดินเข้ามาใกล้ ตอนแรกเธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าความฝันของเธอกำลังจะเป็นจริง
“ปล่อยลูกเถอะค่ะทอม” เธอว่า
สามีของเธอปล่อยลูกและหันมากอดเธอไว้แน่น “เมโรเพ ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน คุณไปอยู่ที่ไหนมา”
ทอมน้อยมองหน้าพ่อและแม่อย่างสับสน “เขาเป็นใครกันครับแม่”
“ทอม” เมโรเพว่า “เขาเป็นพ่อของลูกจ้ะ ชื่อของลูกก็ตั้งตามเขานี่แหละ”
ทอมน้อยรู้ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ เขารู้ตั้งแต่นาทีแรกที่เห็นผู้ชายคนนี้ว่าถ้าเขาไม่ใช่พ่อก็ต้องเป็นญาติเกี่ยวดองกันทางสายเลือด
“พ่อคิดถึงลูกมากรู้ไหม” ทอมว่า มองสำรวจลูกชายที่เขาเพิ่งเคยได้เห็นเป็นครั้งแรก
“ถ้าคุณคิดถึงเราจริง ทำไมถึงไม่เคยมาหาเราเลย” ทอมน้อยตั้งแง่ “ผมกับแม่ลำบากแค่ไหน คุณรู้หรือเปล่า”
ทอมมีสีหน้าไม่สบายใจ “คือพ่อ พ่อ”
“อย่าพูดแบบนั้น” เมโรเพดุลูก “พ่อก็มีเหตุผลของเขา “
“พ่อพยายามตามหาลูกกับแม่แล้ว” ทอมอธิบาย “แต่พ่อก็ไม่เจอ พ่อตั้งใจแล้ว พยายามแล้ว”
“คุณตั้งใจไม่มากพอน่ะสิ” ทอมน้อยถากถาง “คุณกลับมาทำไมตอนนี้ ตอนที่ผมกับแม่มีชีวิตอยู่ได้แล้วโดยไม่มีคุณ ผมไม่มีพ่อ ผมไม่จำเป็นต้องมี”
“ทอม” เมโรเพกรีดร้อง “ลูกพูดแบบนั้นกับคุณพ่อไม่ได้ ขอโทษเสีย”
“คุณแม่รักเขามากกว่าผม” ทอมน้อยพูดอย่างน้อยใจ “เขาทิ้งแม่ไป แต่แม่ก็ยังรักเขา”
“แม่บอกกับลูกแล้วว่าพ่อไม่ได้ตั้งใจทิ้งเรา” เมโรเพอธิบาย
“ผมไม่สน” ทอมน้อยตะโกน “ผมไม่ต้องการเขา” พอพูดจบเด็กชายก็วิ่งออกไป
“ทอม ทอม” พ่อและแม่ช่วยกันตะโกนเรียกแต่เขาก็ไม่หันมามอง
ต่อ
“นายไม่ออกไปเล่นทะเลเหรอ” อัลบัสถามเกลเลิร์ต
อัลบัสนอนเอกเขนกอยู่บนเตียง ขณะที่คนรักของเขานั่งอยู่หน้ากระจก
“ฉันว่าเรามาทำอย่างอื่นที่สนุกกว่าการเล่นน้ำทะเลดีกว่า” เกลเลิร์ตว่า แววตาเป็นประกายซุกซน
“ยังเช้าอยู่เลย” อัลบัสบ่ายเบี่ยง
เกลเลิร์ตลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งมาหาคนรัก เชยคางขึ้น
“ห้องนี้เก็บเสียง” เขากระซิบ
อัลบัสหน้าแดงพอๆกับเส้นผมของเขา “ถ้ามีคนเข้ามาล่ะ”
“ใครจะมา” เกลเลิร์ตว่า “ทอมกับเมโรเพก็ไปเล่นน้ำ”
อัลบัสพยักหน้านิดหนึ่ง แทบจะมองไม่เห็น
เกลเลิร์ตจูบอัลบัสที่ปาก ลิ้นอุ่นๆร้อนๆกวาดไปทั่วปาก กระตุ้นทุกอารมณ์ความรู้สึก มือของเกลเลิร์ตค่อยๆเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จับเข้าที่แก่นกลาง อัลบัสร้องครางเบาๆ แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันทำอะไรไปได้มากกว่านั้น ประตูก็เปิดผางออกและที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือทอมที่ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตา
ทั้งคู่แยกออกจากกันทันที อัลบัสพยายามจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“พวกคุณทำอะไรกันอยู่ครับ” ทอมถามอย่างสงสัย
“เอ่อ” เป็นคำเดียวที่อัลบัสพูดออกมาได้
“ทำไมกลับมาเร็วจัง” กรินเดวัลด์เปลี่ยนเรื่อง “ไม่อยู่เล่นต่อแล้วหรือ”
“ผมไม่อยากเจอเขา” ทอมพึมพำ
“ไม่อยากเจอใคร” ดัมเบิลดอร์ซัก
“เขากลับมาทำไมตอนนี้” ทอมพูดเพ้อต่อไปราวกับไม่ได้ยินเสียงของอาจารย์ “ตอนที่ผมกับแม่ไม่ต้องการเขาแล้ว เขากลับมาทำไม”
ดัมเบิลดอร์เข้าใจแล้วว่าเด็กชายหมายถึงใคร เขาไม่รู้จะพูดอะไรดีจึงได้แต่ยืนอยู่เฉยๆ
“เขาจะมาแย่งแม่ไปจากผม แม่รักเขามากกว่าผมและไม่นานพวกเขาก็จะมีลูกใหม่แล้วพวกเขาก็จะลืมผม” ทอมพูดพลางสะอื้นไห้
“ไม่จริงเลย” เมโรเพที่เพิ่งมาถึงและได้ยินคำพูดของลูกกรีดร้อง ทำไมลูกของเธอถึงคิดอย่างนั้นกัน
เธอถลาเข้าไปหาลูกชาย กอดเขาเอาไว้แน่น ทอมน้อยพยายามดิ้นหนี แต่เมโรเพก็ยิ่งกระชับกอดให้แน่นขึ้น
“แม่รักลูก แม่ไม่มีวันรักใครมากกว่าลูก” เมโรเพยืนยัน
“แต่แม่ก็รักเขาด้วย” ทอมพูดพลางสะอื้น
“คนเรามีความรักได้หลายแบบ แม่รักพ่อของลูกและก็รักลูกด้วย ความรักที่แม่มอบให้ลูกไม่มีวันลดลงและตอนนี้ลูกก็จะมีคนที่รักลูกมากๆเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง”
ทอมผู้พ่อเขยิบเข้ามาใกล้ “แม่เขาพูดถูก พ่อไม่ได้มาแย่งความรักของลูก ลูกจะไม่ได้รับความรักน้อยลง ตรงกันข้ามลูกจะได้รับความรักเพิ่มขึ้นจากพ่อ”
ทอมน้อยหันไปเผชิญหน้ากับพ่อ “ทำไมคุณถึงไม่เคยไปตามหาผมกับแม่ พวกเราอยู่ที่เดิมมาตลอด พวกเราไม่เคยไปไหน ทำไมถึงหาไม่เจอ”
“เอาล่ะ ทอม” ดัมเบิลดอร์แทรก “สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีตั้งหลายที่และพ่อของเธอก็ไม่รู้ว่าเธอกับแม่อยู่ที่ไหนกันแน่ การหาคนไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดหรอกนะ”
ทอมน้อยยังคงกอดอก ทำหน้าบึ้ง
“พ่อไม่สามารถเอาเวลาสิบกว่าปีที่เสียไปกลับมาได้ แต่พ่อสัญญาว่าต่อไปนี้พวกเราจะได้อยู่ด้วยกัน พ่อจะชดเชยทุกช่วงเวลาที่เสียไปให้แม่ของลูกกับลูก” ทอมว่า
“ทำยังไงล่ะ” ทอมน้อยถาม
“ทุกอย่าง” ทอมว่า “พ่อจะทำทุกอย่าง”
“ผมจะคอยดู” ทอมน้อยพูดอย่างท้าทาย
ตกดึกทอมน้อยตื่นขึ้นมาและไม่สามารถหลับลงได้ เขาค่อยๆเลื่อนตัวลงจากเตียงอย่างเงียบกริบ เขาเปิดประตูห้องนอน ตั้งใจจะไปเดินเล่นริมหาดเพื่อคลายเครียด
“จะไปไหน” เสียงดังขึ้นเมื่อทอมน้อยเดินเหม่อมาตามทาง
ทอมน้อยหันขวับไปมอง ชายคนหนึ่งหน้าตาน่ากลัวย่างสามขุมเข้ามาใกล้เขา
“หน้าตาดีนี่หว่า” ชายคนนั้นว่า “ท่าจะรวย เอาเงินมาแบ่งกันใช้บ้างสิ”
“ผมไม่มีเงินหรอก” ทอมว่า
โจรควักมีดขึ้นมาจี้คอทอม “ทีนี้มีได้หรือยัง”
“ผมไม่มีจริงๆ” ทอมว่า เขาล้วงกระเป๋าตั้งใจจะหยิบไม้กายสิทธิ์
“อย่าขยับนะเว้ย ไม่งั้นฉันปาดคอแกแน่” โจรขู่ “ถึงแกจะไม่มี แต่พ่อแม่แกก็คงมี ไปกับฉัน”
ทอมผู้พ่อสะดุ้งตื่นขึ้น เขาฝันร้ายน่ากลัวเหลือเกินขณะที่เขาบอกตัวเองว่าเป็นแค่ฝัน เขาก็สังเกตว่ามีอะไรบางอย่างหายไป
“ทอม” เขาตะโกน ภรรยาที่อยู่ข้างๆสะดุ้งตื่น
“เกิดอะไรขึ้น”
“เขาหายไปแล้ว” ทอมพูดอย่างลนลาน “ลูกของเราหายไปแล้ว”
เมโรเพตื่นเต็มตาทันที “ตายแล้ว เราต้องรีบไปหาเขา”
เธอลุกขึ้นแล้วเคาะประตูที่เชื่อมต่ออีกห้องหนึ่งอย่างแรง ไม่นานทั้งดัมเบิลดอร์และกรินเดวัลด์ก็มาปรากฏตัวขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น” ดัมเบิลดอร์ถาม
“เขาหายไป” เมโรเพว่า
“งั้นเราไปกันเลย” กรินเดวัลด์ว่า
พวกเขารีบเดินออกจากห้อง เมโรเพร่ายคาถาหาคนเพื่อชี้เส้นทางให้ไปหาลูกชาย
ทอมเดินย่ำไปตามเส้นทางนั้นอย่างรวดเร็ว ใจของเขาร้อนรุ่มเสียจนไม่สามารถลดฝีเท้าได้แม้แต่ก้าวเดียว
“ปล่อยผมนะ” เขาได้ยินเสียงลูกร้อง “ปล่อยผม ผมเจ็บนะ”
หัวใจของคนเป็นพ่อแทบจะหยุดเต้น เขารีบเดินไปทางต้นเสียง
ภาพที่เห็นทำให้เขาเลือดขึ้นหน้า มีคนกำลังทำร้ายลูกชายของเขา เขาพุ่งเข้าไปต่อยคางโจร แต่ว่าทอมไม่เคยเรียนวิชาการต่อสู้มาก่อนเพราะฉะนั้นเขาจึงพลาด โจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้องของเขา ทอมทรุดตัวลง
“เอ็กซ์เปลลิอาร์มัส” เมโรเพตะโกนก่อนที่โจรจะแทงซ้ำ โจรสะดุ้ง แววตาหวาดกลัวและรีบวิ่งหนีไป
“ทอม ทอม เป็นยังไงบ้าง” เมโรเพร้อง เธอไม่แน่ใจว่าเรียกสามีหรือลูกกันแน่
“ผมไม่เป็นไร” สามีของเธอว่า ทั้งๆที่เลือดไหลไม่หยุด “ไปดูลูกก่อน”
“พ่อครับ” ทอมน้อยพูดเสียงสั่น “พ่ออย่าเป็นอะไรนะครับ แม่ไปดูพ่อ ผมไม่เป็นไร”.
เกลเลิร์ตเดินเข้ามาใกล้ เขาร่ายคาถาเย็บแผลให้ทั้งคู่
ทอมน้อยยังคงร้องไห้ไม่หยุดเพราะความเสียขวัญ พ่อของเขากอดเขาไว้แน่น “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พ่ออยู่ตรงนี้ ไม่เป็นไรนะ”
“ผมรักพ่อ” ทอมน้อยว่า
ทอมลูบหัวลูกชาย “พ่อก็รักลูก”.
“กลับกันได้แล้ว” ดัมเบิลดอร์ว่า
“ทีหลังอย่าแอบออกมาแบบนี้อีกนะ” เมโรเพดุลูก “ถ้าพวกเรามาไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น”
“ผมขอโทษครับ” ทอมน้อยพูดทั้งน้ำตา
“อย่าดุลูกเลย” ทอมว่า “พวกเรากลับกันเถอะ”
ทั้งหมดเดินกลับมาที่บ้านพัก ทอมนึกขอบคุณเหตุการณ์วันนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถือว่าดี แต่เหตุการณ์นี้ก็ช่วยให้เขาได้ลูกชายกลับมา
ความคิดเห็น