ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snape The last prince สเนป เจ้าชายองค์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #4 : 4

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 62


    22 มค 1996

    “เธอมีสมองบ้างหรือเปล่า ลองบัตท่อม” สเนปตวาดเนวิลล์ที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัว “ถ้ามีล่ะก็ เอามาใช้หน่อยเถอะ”

    เนวิลล์ตาแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้ สเนปยังคงพูดต่อไปแบบคนใจร้าย “เธอน่าจะไปตรวจสมองที่เซนต์มังโกหน่อยนะ”
    คำพูดนี้เองที่ทำให้ความอดทนของแฮร์รี่ขาดผึง สเนปพูดอย่างนี้ได้อย่างไรกัน เขารู้ว่าสเนปรู้ดีว่าเนวิลล์รู้สึกอย่างไรกับเซนต์มังโก สเนปไม่มีมนุษยธรรมบ้างหรือยังไงนะ ก่อนที่เขาจะห้ามตนเองได้ทัน เขาตะโกนด่าสเนปด้วยถ้อยคำหยาบคาย เขาไม่ได้ยินเสียงเฮอร์ไมโอนี่ห้าม ไม่ได้ยินเสียงร้องอย่างตกใจของเนวิลล์
    “กักบริเวณ พอตเตอร์” สเนปพูดเสียงทุ้มต่ำอย่างอันตรายมาก “คืนนี้ที่ห้องทำงานฉัน เวลา2ทุ่ม และหักกริฟฟินดอร์50คะแนน เลิกชั้นได้” เขาสะบัดเสื้อคลุมจากไป
    *****************************************************************************************************
    แฮร์รี่ยังคงอารมณ์เสียตลอดทั้งวันและเมื่อถึงคาบวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด อัมบริดจ์ก็ให้นักเรียนอ่านหนังสือเหมือนเดิม
    “เอาล่ะจ้ะ” อัมบริดจ์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “อ่านหนังสือไปเงียบๆนะจ๊ะ แล้วก็หวังว่าจะไม่มีใครพูดเรื่องเหลวไหลไร้สาระเรื่องคนที่กลับมาจากความตายอีกนะจ๊ะ” เธอชายตามองแฮร์รี่อย่างแฝงความนัย
    แฮร์รี่ผู้ซึ่งอารมณ์เสียมาจากคาบปรุงยา ตะโกนตอบทันที “ผมไม่ได้พูดเหลวไหล โวลเดอมอร์กลับมาแล้ว คนที่ทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ปัญญาอ่อนสิ้นดี”
    “กักบริเวณคืนนี้นะจ๊ะ 2ทุ่ม มิสเตอร์พอตเตอร์ เผื่อมันจะซึมลึกไปบ้าง ว่าอย่าพูดโกหก” อัมบริดจ์พูดด้วยเสียงอ่อนหวานชวนคลื่นเหียน
    “ผมมีกักบริเวณกับสเนปแล้ว” แฮร์รี่ตอบห้วนๆ
    “เธอนี่ตัวก่อเรื่องแท้ๆเลยใช่มั้ยจ๊ะ ฉันไม่แปลกใจเลยที่ศาสตราจารย์สเนปจะกักบริเวณเธอ แต่ยังไงเธอก็ต้องมากับฉันก่อน”
    ********************************************************************************************************************"
    แฮร์รี่ไปกักบริเวณกับอัมบริดจ์ตอน2ทุ่ม ไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย เขายังต้องใช้ปากกาขนนกเลือดคัดว่าฉันต้องไม่โกหกซ้ำไปซ้ำมา จนรอยแผลเป็นที่มือยิ่งชัดเจนมากขึ้น กว่าอัมบริดจ์จะปล่อยเขาก็เป็นเวลา3ทุ่ม แฮร์รี่รีบกลับไปหอกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่เตรียมน้ำยารักษาไว้แล้ว แฮร์รี่รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย เขาขอบใจเฮอร์ไมโอนี่ก่อนจะรีบไปกักบริเวณกับสเนป
    ************************************************************************************************************************
    เซเวอร์รัสกำลังอารมณ์เสียอย่างยิ่ง เจ้าเด็กนั่นกล้าโดดกักบริเวณ ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้มาก่อน คอยดูเถอะ เขาจะ..
    ก่อนที่เขาจะคิดอะไรต่อไป ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น 

    “เข้ามา” เขาพูดเสียงเรียบ

    แฮร์รี่ พอตเตอร์นั่นเอง เขาเดินเข้ามาในห้องราวกับว่าตนเองไม่ได้มาสาย
    “ฉันไม่นึกเลยนะว่าเด็กชายผู้รอดชีวิตจะดูนาฬิกาไม่เป็น ฉันนัดเธอกี่โมง พอตเตอร์” สเนปพูดเสียงต่ำอย่างอันตรายมาก
    “2ทุ่ม” แฮร์รี่ตอบเสียงกระด้าง
    “และนี่มันกี่โมง เธอมันไร้ความรับผิดชอบเหมือนพ่อเธอไม่มีผิดเลย” สเนปเหยียดหยาม
    แฮร์รี่กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ สเนปดูเหมือนจะไม่สนใจ

     “ไปขัดหม้อตรงนั้น”สเนปสะบัดไม้กายสิทธิ์และหม้อปรุงยาที่สกปรกที่สุดเท่าที่แฮร์รี่เคยเห็นก็ปรากฎขึ้น 

    สเนปยื่นฟองน้ำกับน้ำยาให้แฮร์รี่ “ใช้น้ำยานี้ขัด หวังว่าจะทำเป็นนะ เจ้าชายพอตเตอร์” สเนปประชด

    แฮร์รี่รับมาโดยไม่พูดอะไร เขารีบบีบน้ำยาใส่ฟองน้ำและขัดหม้อปรุงยา น้ำยานั้นช่างแสบแผลเหลือเกิน แต่เขาจะไม่บอกสเนปเด็ดขาด ปีศาจค้างคาวนั่นต้องไม่เชื่อเขา และต้องเยาะเย้ยเขาแน่ แฮร์รี่จึงได้แต่อดทน
    เซเวอร์รัสมองเด็กหนุ่มอย่างนึกแปลกใจ แค่ขัดหม้อทำไมต้องทำหน้าเจ็บปวดขนาดนั้น คงไม่เคยทำงานเลยสิท่า สเนปคิดอย่างดูถูกและเขาก็ได้กลิ่นเลือด กลิ่นเลือดชัดเจนมาก ด้วยความเป็นงู ประสาทรับกลิ่นของเขาจึงดีกว่ามนุษย์หลายเท่า เขารีบสูดจมูกหากลิ่นทันทีและเขาก็ต้องตกใจเมื่อเขารับรู้ว่ากลิ่นมาจากเด็กพอตเตอร์ ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่าพอตเตอร์เป็นแผลที่มือน่ะ น้ำยาของเขายิ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนแผลอยู่ด้วย ทำไมเด็กนั่นไม่บอกนะ

    ******************************************

    แฮร์รี่กัดฟันแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวด เขาจะไม่โอดครวญแน่นอน เขาจะไม่ยอมให้สเนปเกิดความพอใจใดๆ เขามั่นใจว่าสเนปต้องเห็นด้วยกับอัมบริดจ์ สเนปคงอยากทำแบบนี้กับนักเรียน แต่ทำไม่ได้เพราะดัมเบิลดอร์คอยจับตามองอยู่
    สเนปเดินเข้ามาใกล้แฮร์รี่ “ยื่นมือมาให้ฉันดู พอตเตอร์” สเนปสั่ง
    แฮร์รี่สะดุ้ง “ผมยังขัดไม่เสร็จครับ” 
    “เอามือมาให้ฉันดู พอตเตอร์”สเนปสั่ง เขากระชากมือแฮร์รี่อย่างรุนเเรง
    แฮร์รี่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด สเนปหรี่ตามอง มือของแฮร์รี่เปื้อนเลือด และนั่นรอยแผลเป็นที่มือเป็นตัวอักษรเลือดว่าฉันต้องไม่โกหก
    “ใครทำ” สเนปถาม เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์โกรธได้ เขารู้ว่าอะไรทำให้เกิดแผลแบบนี้ได้ ปากกาขนนกเลือด มีคนกล้าทำร้ายนักเรียนในฮอกวอตส์ มีคนกล้าทำร้ายลูกของลิลี่
    “ไม่เกี่ยวกับคุณ” แฮร์รี่ตอบ
    สเนปกำหมัดแน่น ตัวสั่นเทิ้มด้วยโทสะ “เกี่ยว พอตเตอร์ มีคนทำร้ายเธอที่ฮอกวอตส์ นักเรียนทุกคนควรปลอดภัยที่นี่ ฉันเป็นอาจารย์ ฉันมีหน้าที่ปกป้องนักเรียนทุกคน”
    แฮร์รี่พ่นลมหายใจออกมาอย่างดูถูก “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เด็กบ้านสลิธีรินของอาจารย์ปลอดภัยแน่นอน”
    “มันไม่เกี่ยวกับว่าเธอจะอยู่บ้านฉันหรือเปล่า พอตเตอร์ มันเกี่ยวกับว่ามีคนทำร้ายเธอ” สเนปพูด “บอกฉันมาว่าเป็นใคร”
    แฮร์รี่จ้องตาสเนปโดยไม่หลบ

     “ดี”สเนปพูด “ในเมื่อเธอไม่บอก ฉันจะเข้าไปดูเอง เลกจิลิเมนส์” เขาร่ายคาถาก่อนที่แฮร์รี่จะทันตั้งตัว

    ภาพอัมบริดจ์บังคับให้แฮร์รี่เขียนหนังสือด้วยปากกาขนนกเลือด ผ่านเข้ามาในใจสเนปและแฮร์รี่พร้อมๆกัน
    สเนปถอนคาถาออก เขารู้สึกขยะแขยงกับสิ่งที่ตนเองเห็นเป็นอย่างยิ่ง ยัยคางคกนั่นกล้าทำอย่างนี้ได้อย่างไร แล้วทำไมเด็กพอตเตอร์ถึงไม่บอกใครเรื่องนี้ เขาแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น เขาเชื่อเสมอว่าพอตเตอร์จะต้องไม่พลาดโอกาสทำตัวเด่น ไม่พลาดโอกาสเรียกร้องความสนใจ เขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป
    “ทำไมเธอไม่บอกใคร”สเนปตั้งคำถาม
    “ทำไมต้องบอก” แฮร์รี่ย้อน “ทำอย่างกับมีใครช่วยผมได้”
    “อย่างน้อยๆศาสตราจารย์มักกอนนากัลกับท่านอาจารย์ใหญ่ก็ช่วยเธอได้” สเนปพูด
    “ศาสตราจารย์มักกอนนากัลรู้เรื่องนี้แล้ว” แฮร์รี่เถียง
    “ฉันยืนยันกับเธอ พอตเตอร์ว่าศาตราจารย์มักกอนนากัลไม่รู้เรื่องนี้แน่นอน ถ้าเขารู้ย่อมไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแน่” สเนปยืนยัน “ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” 
    “คุณจะทำอะไรได้” แฮร์รี่ถาม “ยัยนั่นเป็นคนที่กระทรวงส่งมา ถ้าคุณไปแกว่งเท้าหาเสี้ยน คุณอาจจะถูกไล่ออกหรือร้ายกว่านั้นคุณอาจถูกโยนเข้าอัซคาบัน”
    “ช่างหัวกระทรวงเฮงซวยนั่นเถอะ” สเนปสบถ “คุมอะไรก็ไม่เคยได้ ฟัดจ์นั่นก็ปัญญาอ่อนแท้ๆ คนที่เชื่อพวกนั้นก็ปัญญาอ่อนพอกัน”.
    “แต่ทุกคนก็เชื่อพวกเขา” แฮร์รี่พูดอย่างหมดหวัง
    “เราก็ต้องทำลายความน่าเชื่อถือของกระทรวง” สเนปพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “เธอคงได้ข่าวการแหกคุกอัซคาบันครั้งใหญ่แล้วสินะ”
    แฮร์รี่สับสน เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกัน
    สเนปยิ้ม “เจ้าปัญญาอ่อนฟัดจ์บอกว่าที่พวกนั้นแหกคุกได้เพราะพ่อทูนหัวหมาๆของเธอ แต่ถ้าเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้ไม่จริง กระทรวงก็หมดความน่าเชื่อถือไปอีกมากทีเดียว”
    “แล้วคุณจะทำยังไง” แฮร์รี่ถาม 
    “ฉันเป็นงู” สเนปพูดแฝงความนัย “แค่จับหนูตัวเดียวไม่ยากนักหรอก”
    เขายัดยาให้แฮร์รี่ “เอาไปทาและไปได้แล้ว” เขาโบกมือไล่
    ********************************************************************************************************************
    หลังจากไล่เด็กนั่นไปแล้ว เซเวอร์รัสก็มานั่งคิดว่าตนจะทำยังไงดี “นที” เขาลองเรียกดู
    นทีปรากฏกายขึ้นมาทันที สเนปแทบจะร่วงหล่นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ
    “มีอะไรให้รับใช้พระเจ้าค่ะ” นทีทูล
    สเนปเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง “ฉันต้องจับไอ้หนูทรยศนั่นให้ได้ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี”
    “ไม่ต้องห่วงหรอกพระเจ้าค่ะ”นทีพูด “พระองค์เคยได้ยินว่า 'ชายก็ตายเพราะหญิง หญิงก็ตายเพราะชายไหม’ พระเจ้าค่ะ เรื่องนี้จัดการง่ายนิดเดียว”
    “จอมมารไม่เหมือนมนุษย์ปกติ” สเนปพูด “เขาไม่เคยรักใคร”
    “ใครบอกว่าหม่อมฉันพูดถึงเจ้านั่นกันล่ะพระเจ้าค่ะ” นทีพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “เราเป็นงูก็ต้องเข้าทางงู”
    “เธอหมายถึงนากินีน่ะหรือ” สเนปพูดอย่างงุนงง
    “พระเจ้าค่ะ” นทีพยักหน้ายืนยัน “นางเป็นงูเพศเมีย ย่อมยินดีในบุรุษแน่นอน”
    “แต่ฉันไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันจะช่วยอะไรได้” สเนปพูดอย่างสงสัย
    “จอมมารที่พระองค์ทรงเรียกบ้าอำนาจมาก ถ้าพระองค์ทรงบอกว่าสามารถทำให้เขามีอำนาจมากขึ้น เขาต้องตกบ่วงแน่นอน”
    สเนปยังคงสับสน นทีจึงอธิบายให้ละเอียดขึ้น “หม่อมฉันรู้จักนาคาตระกูลเอราปถตนหนึ่ง เขามีนามว่าชล เป็นนาคที่มีวาทศิลป์ไพเราะ เจ้าชู้ยิ่ง ทั้งเขายังเกิดบนบกจึงสามารถแปลงกายบนบกได้ เพียงพระองค์นำเขาไปหาจอมมาร เขาก็จะหาวิธีจับคนทรยศนั่นมาได้”
    “แล้วอยู่ๆให้เอาเขาไปให้ จอมมารจะไม่สงสัยเอาหรือ” สเนปถาม
    “หม่อมฉันจะเขียนจดหมายแนะนำพระเจ้าค่ะ” เมื่อเห็นคิ้วของสเนปเลิกขึ้น เขาก็รีบอธิบายต่อ “หม่อมฉันจะเขียนด้วนภาษานาคหรือที่พระองค์ทรงรู้จักในนามภาษาพาร์เซล”
    สเนปตะลึงอ้าปากค้าง ภาษาพาร์เซลมีตัวอักษรด้วยหรือ
    นทีดูเหมือนจะอ่านใจเขาได้ “มีแน่นอนพระเจ้าค่ะ” เขารีบยืนยัน “หม่อมฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง พระองค์ทรงมีประชุมกับพวกนี้อีกเมื่อไหร่พระเจ้าค่ะ”
    “วันเสาร์ ตอน10โมง” สเนปตอบอย่างไม่กระตือรือร้นนัก เขาไม่ตั้งตาคอยการถูกทรมานหรอก พวกภาคีไม่เคยรู้เลยว่าเขาต้องเจ็บปวดแค่ไหนเพื่อหาข่าวมาให้และการกระทำของเขาก็ไม่มีใครเห็นคุณค่าเลย
    “งั้นเดี๋ยวหม่อมฉันจะซักซ้อมกับชลและเขียนจดหมาย เจ้าชายต้องตรัสอย่างไรก็ได้ให้หมอนั่นเชื่อว่าชลมีประโยชน์ต่อเขา ทำได้ไหมพระเจ้าค่ะ” นทีพูด
    “ทำได้” สเนปตอบอย่างมั่นใจ เขาไม่ได้ทำแบบนี้มาตลอดหรอกหรือ หลอกลวงจอมมาร “ แต่ฉันต้องพูดให้ตรงกับจดหมายที่เธอเขียนด้วย”
    “เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงพระเจ้าค่ะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะนำจดหมายที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษมาให้พระองค์ทอดพระเนตรก่อน” นทีว่า “ขอทูลลาพระเจ้าค่ะ” เขาก้มกราบก่อนจะหายวับไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×