ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Spider trap ขยุ้มหัวใจดาร์กลอร์ด(tmrss)

    ลำดับตอนที่ #2 : 2 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 63


    เวลาผ่านไปห้าปีหลังจากที่เมโรเพกับทอมน้อยมาอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า ทั้งคู่กินดีอยู่ดีพอใช้ แต่ทอมก็ยังเป็นเด็กอมทุกข์และไม่มีความสุข
    “ไอ้ตัวประหลาด” บิลลี่ สตับส์ว่า เขาไม่ชอบทอมเพราะหมอนั่นมีแม่อยู่ ไม่เหมือนกับเขา อีกประการหนึ่งทอมไม่ยอมมาเป็นลูกน้องเขาเหมือนเด็กคนอื่นๆ
    “ฉันไปทำอะไรให้นาย” ทอมว่าอย่างไม่พอใจ
    “แกมันตัวประหลาด”บิลลี่ว่า พลางผลักทอมล้มลงไปกับพื้น
    “มากไปแล้วนะ” ทอมร้อง ประกายบางอย่างออกมาจากตัวเขาและกระแทกบิลลี่ล้มไป
    “ปีศาจ ปีศาจ” บิลลี่ตะโกนพลางวิ่งหนี “ทอม ริดเดิ้ลเป็นปีศาจ”
    ทอมยืนอยู่ตรงนั้น สับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น
    **
    “เป็นอะไรจ้ะ ทอม” เมโรเพถามขณะที่ลูบหัวลูกชาย
    “บิลลี่บอกว่าผมเป็นปีศาจ” ทอมว่า “ผมทำอะไรประหลาดๆ”
    เมโรเพเชยคางลูกชายให้สบตาเธอ “ลูกไม่ใช่ปีศาจ ลูกเป็นเด็กที่น่ารักมากต่างหาก”
    “แต่ผมทำอะไรประหลาดๆ” ทอมว่าอย่างไม่มั่นใจ “มีแสงออกมาจากตัวผม”
    “ลูกเป็นพ่อมดจ้ะทอม” เมโรเพว่า “สิ่งที่ลูกทำได้คือเวทมนตร์”
    “เวทมนตร์เหรอครับ” ทอมพูดงงๆ “ผมเสกเวทมนตร์ได้เหรอ แล้วมีแค่ผมเหรอที่ทำได้”
    “แม่ก็ทำได้จ้ะ” เมโรเพว่า “คนอีกมากก็ทำได้ สักวันหนึ่งลูกก็จะได้ไปเข้าโรงเรียนสอนเวทมนตร์ ลูกจะได้เจอเพื่อนๆที่เหมือนกับลูก”
    “แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้ไปล่ะครับ” ทอมถามอย่างกระตือรือร้น “พรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า เดือนหน้า”
    เมโรเพหัวเราะเบาๆอย่างเอ็นดู “ตอนลูกอายุสิบเอ็ดจ้ะ”
    ทอมหน้าเบ้ “อีกตั้งนาน”
    ทั้งคู่เงียบกันไปอีกและทอมก็ถามขึ้นมาว่า “พ่อไปไหนล่ะครับ”
    เมโรเพมีสีหน้าลำบากใจ “พ่อของลูกรักลูกมากนะ แต่เขามาอยู่กับเราไม่ได้”
    “ทำไมล่ะครับ” ทอมถาม
    “สักวันหนึ่งลูกก็จะรู้เอง” เมโรเพว่า “แม่ไปทำงานก่อนนะจ๊ะ เธอรีบเดินจากไปก่อนที่ลูกจะประท้วง
    บ้านเด็กกำพร้าพาเด็กๆไปเที่ยวทุ่งกว้างในฤดูร้อน ทอมเดินเลี่ยงห่างมาจากเด็กคนอื่นๆ
    “ระวังหน่อยสิ” เสียงหนึ่งดังขึ้น
    ทอมหยุดเดินกระทันหัน หมุนไปรอบๆเพื่อหาต้นตอของเสียง
    “ใครน่ะ” ทอมว่า แต่เสียงที่เปล่งออกมาไม่ใช่คำพูดแต่เป็นเสียงฟ่อๆเหมือนงู
    “พูดภาษาเราได้ด้วย” เสียงประหลาดนั่นดังขึ้นอีก “ก้มลงมาสิ ฉันอยู่ตรงนี้”
    ทอมก้มลงไปดู เห็นงูสีดำเลื่อมเป็นมันอยู่
    “สวัสดี” งูทักอย่างเป็นมิตร ก่อนที่จะเลื้อยขึ้นไปบนแขนของทอม
    “นายพูดภาษาคนได้” ทอมว่า
    “หยาบคาย” งูพูดอย่างไม่พอใจ “นายต่างหากที่พูดภาษางูได้”
    ทอมยังคงไม่เข้าใจ งูยังคงเลื้อยพันไปรอบคอทอม “อุ่นจัง ฉันไม่ได้เจอนักพูดมานานแล้วนะนี่”
    ทอมดึงงูออกมาก่อนที่จะวางมันลงบนพื้นหญ้า “ไปได้แล้ว”
    “ไม่ไป” งูประท้วง มันเลื้อยมาพันขาทอมอีก “ไปด้วยนะ”
    ทอมทำสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ “นายจะไปกับฉันได้ยังไง”
    “ก็ซุกอยู่ในเสื้อนายไง” งูว่าพลางเลื่อนขึ้นไปในเสื้อของทอม
    “จั๊กจี้น่ะ” ทอมว่า
    “ตั้งชื่อให้ฉันหน่อยสิ” งูขอร้อง
    “นายตัวดำอย่างนี้ชื่อว่าอีโบนี่ละกัน” ทอมว่าพลางลูบหัวสัตว์เลี้ยงตัวใหม่อย่างแสนรัก
    อีโบนี่ครางเบาๆเหมือนแมว
    ทอมแบ่งเศษอาหารจากโต๊ะให้อีโบนี่กิน ตอนกลางคืนมันก็ขดตัวอยู่บนอกของทอม ทอมรู้สึกว่าอีโบนี่เป็นเพื่อนมากกว่าเพื่อนร่วมสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเสียอีก ทั้งคู่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาไม่ว่าจะยามกินยามนอน ทอมคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้อีโบนี่ฟัง
    วันนี้อีโบนี่ตื่นขึ้นมาก่อนทอม มันเลื้อยออกไปตามรอยแยกประตูเพื่อไปสำรวจโลกกว้าง แต่มันรู้ว่ามันคิดผิดเมื่อไปเจอกับบิลลี่ เด็กเกเรที่ชอบรังแกทอมและลูกน้องของเขา เดนนิส บิชอปและเอมมี่ เบนสัน
    “กรี๊ด งู” เอมมี่ร้อง พลางกระโดดเหยง
    “นี่มันงูของริดเดิ้ลนี่นา” เดนนิสว่า
    “ตีมันให้ตายเลย” บิลลี่ออกคำสั่ง เขาคว้าทัพพีตักอาหารมาฟาด
    “โอ๊ย เจ็บนะ” อีโบนี่ร้อง แต่เด็กๆก็ได้ยินเป็นเสียงขู่ฟ่อๆของงู พวกเขาช่วยกันรุมตีอีโบนี่
    อีโบนี่ดิ้นเร่าๆ บิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด มันไม่น่าหนีออกมาเลย มันกำลังจะตาย ทำไมพวกมนุษย์ช่างใจร้ายเช่นนี้ มันเลื้อยกลับไปหาทอม
    “ตามมันไปไหม” เดนนิสถาม
    “ไม่ต้อง” บิลลี่พูดอย่างเหี้ยมเกรียม “มันไม่รอดหรอก”
    **
    “ทอม ทอม ทอม” อีโบนี่ร้อง
    ทอมสะดุ้งตื่นจากฝันที่แสนหวาน เขาลุกขึ้นนั่ง ตั้งใจจะดุอีโบนี่ แต่ก็ต้องตกใจที่เห็นสภาพของของมัน
    “เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรให้นาย” ทอมร้อง
    “บิลลี่” อีโบนี่สำลัก “กับเพื่อนๆ” และจากนั้นก็มีแต่ความเงียบ ไม่มีแม้แต่เสียงหายใจของอีโบนี่
    ทอมวิ่งปรี่เข้าไปหาบิลลี่และต่อยเขาอย่างแรง เดนนิสพยายามดึงตัวเขาออกมา แต่ทอมบ้าคลั่งไปเสียแล้ว
    “แกทำอีโบนี่ทำไม” ทอมร้อง “มันทำอะไรให้แก”
    “หยุดเดี๋ยวนี้ ริดเดิ้ล” มาร์ทาว่า “วันนี้ไม่ต้องกินข้าวเย็น”
    บิลลี่ยิ้มเยาะทั้งๆที่เลือดกำเดายังไหล มาร์ทาพยุงเขาไปทำแผล ก่อนที่ลอบส่งสายตาระแวงมาให้ทอม
    “มันไม่จบแค่นี้แน่” ทอมประกาศกร้าว เขาต้องแก้แค้นให้ได้ คอยดูสิ
    วันรุ่งขึ้นกระต่ายของบิลลี่ สตับส์แขวนคอตัวเองกับขื่อในห้องนอนของเขา บิลลี่เสียใจและโกรธมาก เขายืนยันว่าทอมเป็นคนทำ แต่ทอมปฏิเสธพร้อมกับให้เหตุผลที่น่าเชื่อถือว่าขื่อนั้นสูงเกินกว่าที่เขาจะปีนขึ้นไปแขวนคอกระต่ายได้ บิลลี่จึงทำอะไรไม่ได้และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้ามายุ่งหรือมีปัญหากับทอมอีกเลย
    Talk ชื่อเด็กกำพร้าเป็นข้อมูลจริง เรื่องที่กระต่ายของบิลลี่แขวนคอเพราะทอมทำก็เป็นเรื่องจริง แต่ในฟิคนี้คนคงไม่สงสารบิลลี่กันนักหรอก

    ต่อ

    วันนี้เป็นวันคริสต์มาส ทอม ริดเดิ้ลพร้อมกับภรรยาและลูกสาวได้รับเกียรติเชิญไปงานเลี้ยง ทั้งหมดดูมีความสุขมากโดยเฉพาะทอมที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่หากมองลึกลงไปในแววตาของเขาจะเห็นว่าเป็นรอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมยิ่งนัก

    “สวัสดี ทอม ดีใจมากที่ได้พบเธอ” แอรอน พ่อของเซซิเลียกล่าวขึ้น “และขอบใจที่ช่วยดูแลลูกและหลานของฉันอย่างดี”

    ทอมยิ้มมุมปากและโค้งคำนับอย่างประชดประชัน “มันถึงเวลาแล้วที่ผมจะนำลูกและหลานมาคืนให้กับคุณ แอรอน” เสียงของทอมไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบ แต่ทุกคนก็ได้ยินเพราะต่างเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

    “เธอหมายความว่ายังไง” แอรอนกล่าวด้วยโทสะ

    ทอมหยิบภาพถ่ายจำนวนหนึ่งขึ้นมาโบก หลายคนที่มุงดูอยู่ต่างชี้ชวนกันดู มันเป็นภาพของเซซิเลียกำลังกอดจูบกับชายผู้หนึ่งอยู่ราวกับเป็นสามีภรรยากัน แต่ชายที่อยู่ในภาพหาใช่ทอม ริดเดิ้ลผู้เป็นสามีที่ถูกต้องของเธอไม่ แต่ที่น่าตกตะลึงไปกว่านั้นคือผลตรวจดีเอ็นเอที่ระบุชัดเจนว่าชาร์ลอต ริดเดิ้ลไม่ได้มีเลือดของตระกูลริดเดิ้ลอยู่ในตัวแม้แต่หยดเดียว

    “นี่มันอะไรกันครับ”

    “เซซิเลียมีชู้เหรอ”

    “ฉันว่าแล้วเด็กชาร์ลอตหน้าตาไม่เหมือนสองคนนี้สักนิด คงเหมือนพ่อจริงๆสิท่า”

    เสียงว่าร้ายของชาวบ้านทำให้แอรอนตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก เซซิเลียเองก็เช่นกัน ชาร์ลอตมองคนโน้นคนนี้อย่างไม่เข้าใจอะไรมากนัก

    “ผมขอประกาศ” ทอมพูดอย่างเป็นงานเป็นการ ดึงความสนใจของทุกคนให้กลับมาอยู่ที่เขาอีกครั้ง “ต่อไปนี้ผมไม่ใช่สามีของเซซิเลียและไม่ใช่พ่อของชาร์ลอตอีกต่อไป ขอตัดขาดกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” พูดจบ เขาก็เดินออกจากงานเลี้ยงไป

    ทั้งงานเลี้ยงตกอยู่ในความเงียบ แอรอนใช้โอกาสหนีพาลูกและหลานออกไปจากงานเลี้ยง หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นพวกเขาอีกเลย

    แมรี่ได้รับรู้ข่าวนี้ผ่านทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในวันรุ่งขึ้น เธอแทบช็อคเมื่อได้อ่านข่าวนี้และซักลูกชายเป็นการใหญ่

    “ข่าวนี้จริงหรือ ทอม” เธอถามเสียงสั่นเครือ

    “เรื่องอะไรล่ะครับ แม่” ทอมถามด้วยอาการสงบ

    “เรื่องที่เซซิเลียมีชู้และชาร์ลอตไม่ใช่สายเลือดของเรา” แมรี่ว่า

    ทอมพยักหน้าอย่างขรึมๆ

    แมรี่สะอึกสะอื้นออกมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวถึงขีดสุด เธอรักเซซิเลียเหมือนลูก อีกทั้งชาร์ลอตก็เป็นเด็กน่ารักช่างพูด คนแก่อย่างเธอนั้นเมื่อลูกโตพ้นอกไปก็ต้องการหลานเล็กๆไว้ปลอบประโลมความเหงา

    “ชาร์ลอต หลานย่า” แมรี่รำพึง “ไม่น่าเลย”

    “เด็กนั่นไม่ใช่หลานของเรา แมรี่” โทมัสขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมไม่รู้คุณมองไม่ออกได้ยังไง เด็กนั่นหน้าตาไม่เหมือนพวกเราหรือแม่มันเลยสักนิด”

    “ถึงอย่างไรฉันก็เอ็นดูแม่หนูนั่นมาตลอด” แมรี่คร่ำครวญ “ต่อไปนี้บ้านเราคงไม่มีเด็กเล็กๆมาสร้างความสนุกสนานอีกแล้ว ฉันคงต้องตายก่อนได้เห็นหน้าหลานเป็นแน่”

    “ไม่หรอกครับ” ทอมว่า แววตาเป็นประกายกล้า “แม่ยังมีหลานอีกคนหนึ่ง หลานที่แม่รังเกียจแม่ของเขา จนต้องออกอุบายพรากผมออกมาเช่นนี้ ตอนนี้ถ้าลูกของผมรอดชีวิตไปได้ อายุก็คงใกล้เคียงกับชาร์ลอตนั่นเอง”

    แมรี่คว้ามือลูกมากุมไว้ “ลูกต้องตามพวกเขาให้ได้นะ ตามลูกสะใภ้และหลานของแม่มาให้ได้”

    ทอมพยักหน้า “ผมจะทำตามที่แม่ต้องการครับ ผมจะไม่หยุดจนกว่าจะหาเมียและลูกของผมเจอแม้จะเจอเพียงศพก็ตาม”

    โทมัสตบไหล่ลูกชายเบาๆ “พ่อมั่นใจว่าแกทำได้ ลูกชายและอย่าพูดอะไรเป็นลางร้ายเช่นนั่น พ่อมั่นใจว่าลูกและเมียของแกจะต้องปลอดภัย”

    “ผมไม่ได้ยินข่าวของพวกเขามาเกือบสิบปีแล้วนะครับ” ทอมว่าอย่างปลงตก “ผมอุตล่าห์จ้างสายสืบตามหาเขา”

    “โลกนี้กว้างใหญ่มาก” โทมัสว่า “แต่ถ้ามีวาสนาต่อกันก็คงได้กลับมาพบกันอีก”

    ทอมยิ้มให้พ่อของตน “ผมก็หวังให้เป็นเช่นนั้นครับ”



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×