ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snape The last prince สเนป เจ้าชายองค์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #10 : 8(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 62


    เซเวอร์รัสมายืนหน้ากำแพงเมืองที่ใหญ่โตกว้างขวาง นทียืนอยู่ข้างๆเขา
    “ยินดีต้อนรับสู่นิลนครพระเจ้าค่ะ” เขาพูดอย่างภาคภูมิใจ
    “นิลนคร” สเนปทวนคำ
    “พระเจ้าค่ะ เป็นอาณาจักรของพระองค์ ของตระกูลกัณหาโคตมะ” นทีอธิบาย “เราเข้าไปกันเลยพระเจ้าค่ะ” เขาเปิดประตูเมือง
    “เดี๋ยวก่อน” ชายที่เฝ้าประตูอยู่ทัก “พาใครมาด้วยน่ะ นที”
    นทียืดอกขึ้นอย่างลำพองใจ “ผู้นี้คือเจ้าชายศรีวาเรศ พระราชนัดดาของราชินีอัปสราแห่งตระกูลกัณหาโคตมะ”
    “ฉันไม่ได้ชื่อศรีวาเรศสักหน่อย” เซเวอร์รัสพึมพำ
    “พระนามของพระองค์ไม่เกี่ยวกับน้ำและยังไม่มีความหมายที่เป็นมงคล” นทีอธิบาย “พระนามศรีวาเรศมาจากคำว่าศรี แปลว่าสิริ วารี หมายถึงน้ำ และอิศ ซึ่งหมายถึงผู้เป็นใหญ่ ความหมายเป็นมงคลยิ่งพระเจ้าค่ะ”
    “โอ้”ชายเฝ้าประตูอุทาน ก่อนจะถอยหลังเปิดทางให้และโค้งคำนับ “ขอจงทรงพระเจริญพระเจ้าค่ะ”
    สเนปพยักหน้ารับและเขากับนทีก็เดินผ่านเข้าประตูเมืองไป
    เส้นทางที่เดินผ่านเหมือนหมู่บ้านมนุษย์ทั่วไป ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นหมู่บ้านงูเลย
    “ฉันไม่เห็นมีงูสักตัว” สเนปตั้งข้อสังเกต
    “ที่พระองค์เห็นก็เป็นนาคหมดแหละพระเจ้าค่ะ” นทีว่า “พออยู่ในกำแพงเมือง พวกเขาก็อยู่ในร่างมนุษย์ อยู่ในร่างนาคไม่ไหวหรอกพระเจ้าค่ะ เดี๋ยวหางพันกันยุ่งหมด”
    และเมื่อเดินมาได้ครึ่งทาง เซเวอร์รัสก็คิดอะไรขึ้นมาได้
    “ฉันลืมของ” เขาอุทาน “ตายล่ะ ของสำคัญด้วย”
    “พระองค์ทรงหมายถึงขวดนี้ใช่มั้ยพระเจ้าค่ะ” นทีพูดพลางยื่นขวดนาคเทียมมาให้เขา
    เซเวอร์รัสรับมาอย่างดีใจ “ใช่แล้ว จะสำเร็จอยู่แล้ว พรุ่งนี้เขาจะเกิดมาแล้ว เธอรู้ใจฉันจริง นที”
    นทียิ้ม “หม่อมฉันเห็นพระองค์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ หม่อมฉันเคยเห็นพระบิดาของพระองค์ด้วยซ้ำ เขาก็เห็นหม่อมฉัน แต่ตอนนั้นหม่อมฉันอยู่ในร่างกระรอกเผือก หม่อมฉันจะไม่รู้ใจพระองค์ได้อย่างไรล่ะพระเจ้าค่ะ”
    “เธอหมายความว่ายังไงที่เห็นฉันตั้งแต่เด็กๆ อายุเธอก็น่าจะเท่าๆกับฉัน”
    “หม่อมฉันอายุ300กว่าปีแล้วนะพระเจ้าค่ะ” นทีว่า “นาคส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่500ปีพระเจ้าค่ะ”
    และพวกเขาก็ออกเดินทางกันต่อไปจนกระทั่งถึงปราสาทราชวังหลังใหญ่ พวกเขาเดินเข้าไปในปราสาทนั้น มันเป็นปราสาทที่ใหญ่โตเหลือเกิน ใหญ่กว่าฮอกวอตส์เสียอีก ฮอกวอตส์กลายเป็นกระท่อมไปเลยเมื่อเทียบกับปราสาทนี้
    “ของพระองค์ทั้งหมดพระเจ้าค่ะ” นทียิ้มกริ่ม “ตอนนี้เราไปเข้าเฝ้าพระราชินีกันเถอะพระเจ้าค่ะ” เขาออกเดินนำ
    ในท้องพระโรง มีบัลลังก์ใหญ่มหึมาตั้งอยู่ตรงกลาง ผู้หญิงที่สง่างามอย่างยิ่งนั่งอยู่บนนั้น
    “ยินดีต้อนรับ” หญิงคนนั้นพูด “นที สหายของข้าและศรีวาเรศ หลานชายของข้า” เธอกวักมือเรียก “เข้ามาใกล้ๆย่าสิ หลาน”
    สเนปกำหมัดแน่น อยู่ๆเขาก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เลย เธอทิ้งให้เขาอยู่ในโลกมนุษย์ อยู่ในบ้านเก่าๆโกโรโกโสแทนที่จะได้อยู่ในปราสาทหลังใหญ่ เขาต้องถูกรังแกแทนที่จะได้รับการยกย่องในฐานะเจ้าชาย เขาคิดไม่ออกเลยว่าเขาจะมีความสุขแค่ไหนถ้าได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับตนและทั้งหมดนี้ก็ไม่เกิดขึ้นเพราะผู้หญิงตรงหน้าเขา
    “ย่ารู้ว่าหลานโกรธ” ราชินีพูด “แต่ขอให้ย่าอธิบาย การที่ย่ามีลูกกับมนุษย์นั้นเป็นเรื่องผิดกฎอยู่แล้ว ย่าไม่เคยบอกใครเรื่องนี้ยกเว้นนที ตอนที่เจ้าเกิดย่าเพิ่งได้เป็นราชินีใหม่ๆ พวกขุนนางหัวเก่าหลายคนคิดว่าบัลลังก์ไม่ควรเป็นของผู้หญิงและหากรู้ว่าย่าทำผิดกฎ เขาก็จะใช้ข้ออ้างนี้ถอนย่าออกจากบัลลังก์และย่าก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรกับเจ้า อีกเหตุผลสำคัญคือสงครามระหว่างครุฑกับนาคยังไม่จบ นาคทั้งสี่ตระกูลต้องผลัดเวรกันไปเป็นเครื่องบูชายัญแด่ครุฑ เราใช้การจับฉลากเพื่อเลือกนาคที่โชคร้าย ตั้งแต่พระราชาถึงคนรับใช้ไม่มีใครรอดพ้นจากสิ่งนี้ได้ “ เธอหลับตาลงราวกับหวนคิดถึงความทรงจำที่แสนเจ็บปวด “ปู่ใหญ่ของเจ้าก็เป็นเครื่องบูชา ทวดของเจ้าบอกว่านาคทุกตนที่ถูกส่งไปเป็นเครื่องบูชาก็มีครอบครัวทั้งนั้น ถ้าเขายกเว้นลูกชายตนก็ย่อมมีเสียงติฉินนินทาตามมาแน่นอน ย่าเป็นห่วงเจ้า ศรีวาเรศ ย่าจะไม่ยอมให้เจ้าไปเป็นเครื่องบูชา จะไม่ยอมให้ขุนนางมารังแกเจ้า หลายปีที่ผ่านมาย่าพยายามปกครองบ้านเมืองอย่างดีจนพวกขุนนางเริ่มยอมรับย่ามากขึ้น และย่ายังได้ยินข่าวว่าพญาเวนไตยจะไม่จับนาคกินแล้ว ย่าเฝ้าดูสถานการณ์อยู่สองสามเดือนก็พบว่าเป็นความจริง นอกจากเขาจะไม่จับนาคกินแล้ว เขายังลงโทษครุฑทุกตนที่กินนาคอีกด้วย ย่าจึงบอกให้นทีไปรับเจ้ามา ให้เจ้าอยู่อย่างลำบากบนโลกมนุษย์ก็ยังดีกว่าโดนครุฑกิน”
    “ผมเข้าใจแล้ว” เซเวอร์รัสว่า “แต่ผมเหนื่อยมาก อยากพักผ่อน”
    “ตามสบาย” ย่าของเขาว่า “ในวังนี้ทั้งหมดเป็นผู้รับใช้ของเจ้า เจ้าจะเรียกใช้ใครก็ได้”
    เซเวอร์รัสไม่เคยสุขสบายเท่านี้มาก่อนเลย เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเองด้วยซ้ำ อาหารเย็นก็เลิศรสสุดๆ เขาได้แช่ในอ่างอาบน้ำหินอ่อนที่งดงามมากและตอนที่เขาเอกขเนกอยู่บนเบาะหนุ่มๆก็มีเสียงดนตรีขับกล่อมที่ไพเราะยิ่ง เขาเคลิ้มหลับไป หลับสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็นมาเป็นเวลาหลายปี
    Talk1 แอบมาหย่อนให้
    Talk2 ตอนนี้เฉลยแล้วว่ากระรอกเผือกตาเขียวประหลาดที่โทไบอัสเห็นเป็นใคร

    ต่อ

    **

    18 กพ 1996

    เซเวอร์รัสรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเวลาตี5ของอีกวันหนึ่ง เขาบิดขี้เกียจและค่อยยันตัวลุกขึ้นนั่ง โชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เขาจะได้ไม่ต้องสอนเด็กสมองนิ่มและความทรงจำของเขาก็กลับมา เขาไม่ต้องสอนหนังสืออีกแล้ว ดัมเบิลดอร์โยนเขาออกมาจากฮอกวอสต์แล้ว เขาโง่เองที่คิดว่าชายชราจะใจดีเหมือนบิดาในเรื่องลูกล้างผลาญ นิทานเรื่องหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิลที่พ่อบังคับให้เขาอ่าน มันเป็นเรื่องของพ่อที่มีลูกชาย2คน ลูกคนเล็กเอาเงินมรดกไปล้างผลาญจนหมด พออดอยากก็กลับมาหาพ่อ พ่อก็สั่งให้ฆ่าลูกวัวเพื่อฉลองการกลับมาของลูก ฝ่ายลูกคนโตไม่พอใจเลยมาโวยวายพ่อ พ่อจึงบอกว่าลูกอยู่กับพ่อเสมอและสิ่งที่พ่อมีเป็นของลูก แต่น้องชายเจ้าหายไปนานเพิ่งได้กลับมา เหมือนกับเขาตายไปแล้วได้กลับคืนชีวิตใหม่ เซเวอร์รัสประทับใจนิทานเรื่องนี้มาก เขาหวังว่าจะมีคนที่พร้อมรักและให้อภัยเขาเหมือนพ่อใจดีในเรื่องลูกล้างผลาญนี้และเขาก็เคยคิดว่าดัมเบิลดอร์จะเป็นคนคนนั้น ช่างเถอะ เขาน่าจะชินได้แล้ว ใครจะมารักเขาจริงและเขาก็คิดขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่นาคเทียมของเขาจะออกมาลืมตาดูโลก เขาลุกขึ้นยืน คว้าขวดนาคเทียมและหยดเลือดลงไป น้ำยาในขวดเปลี่ยนเป็นสีแดงสด แสดงว่าประสบความสำเร็จแล้ว เขาล้วงมือไปในเสื้อคลุมหยิบดอกลิลลี่และจดหมายที่ลิลี่เคยเขียนให้ออกมา ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้แต่หากทำเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาจะได้ผมและตาของลิลี่ เขาชอบดวงตาของลิลี่ มันเป็นดวงตาสีเขียวเหมือนพ่อของเขา ทุกครั้งที่ลิลี่มองเขาอย่างเป็นมิตรทำให้เขาคิดถึงพ่อ จินตนาการว่าจะเป็นอย่างไรหากพ่อไม่ได้เกลียดเวทมนตร์มากขนาดนั้น พ่อจะมองเขาด้วยสายตาเมตตาเหมือนลิลี่หรือเปล่าและเขาก็เกลียดผมของตนเอง มันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป มันทำให้เขาถูกล้อเลียนอยู่เรื่อย เขากล้าพูดเลยว่าเขาสระผมมากกว่าที่เพื่อนร่วมชั้นของเขาสระเสียอีก แต่ผมของเขาก็มันเมือกอย่างนี้เอง ไม่ว่าจะสระสักเท่าไหร่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย เขาจะไม่ยอมให้เด็กที่เขาสร้างขึ้นมาต้องถูกล้อเลียนเหมือนเขาเด็ดขาด เขาร่ายคาถาฮิวเมโน เจเนซิส ตามด้วยฮิวเมโน เทมเปอราดูเนอ น้ำยาในขวดนั้นค่อยเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นงูขนาดจิ๋ว สมกับที่นทีเคยบอกไว้ว่าเมื่อนาคเกิดจะอยู่ในร่างนาค เขาค่อยๆเอานาคจิ๋วออกจากหลอดทดลอง มันมีสีดำและมี7หัว มันส่ายหัวของมันไปมา ก่อนจะกลายเป็นเด็กทารก เซเวอร์รัสไม่ชอบเด็กนัก แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าเด็กคนนี้น่ารักเหลือเกิน เด็กคนนี้เหมือนถอดแบบเขามาทุกอย่าง ยกเว้นดวงตาที่เป็นสีเขียวและผมที่เป็นสีแดง ถ้าหากเขามีโอกาสได้แต่งงานกับลิลี่ ลูกของเขาก็คงหน้าตาเป็นแบบนี้ เขาร่ายคาถาฮิวแมโน อินเทรเมนตัมอีก9ครั้ง เด็กทารกค่อยๆเติบโตเป็นเด็กชายวัย9ขวบ ตอน9ขวบเป็นเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเซเวอร์รัส เป็นเวลาที่เขาได้มีเพื่อนคนแรก

    “เธอชื่อเซไวลินและเธอเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของฉัน” เขาบอกกับเด็กชาย

    “ผมต้องเรียกคุณว่าอะไร” เซไวลินถาม “คุณสร้างผมขึ้นมาในฐานะทาสหรือเปล่า ผมต้องเรียกคุณว่าเจ้านายไหม”

    “ไม่” สเนปรีบปฏิเสธ “เมื่ออยู่กันที่นี่ให้เธอเรียกฉันว่าพ่อ”

    “ครับพ่อ” เซไวลินตอบอย่างว่าง่าย “ผมขอถามได้ไหมครับว่าทำไมพ่อถึงตั้งชื่อผมว่าเซไวลินและเรกูลัสเป็นใครหรือครับ

    “ชื่อเซไวลินเป็นชื่อที่พ่อชอบเป็นอันดับ2 รองมาจากชื่อแฮร์รี่” เซเวอร์รัสหลับตาและคิดถึงความหลัง

    ***

    คศ1973

    ตอนนั้นเซเวอร์รัสกับลิลี่ยังเป็นเพื่อนรักกันอยู่ ทั้งคู่มักใช้เวลาว่างอยู่ด้วยกันเสมอ วันนี้ก็เช่นกัน

    “แม่ฉันส่งจดหมายมาหา บอกว่าน้าฉันคลอดลูกแล้วล่ะ เป็นเด็กผู้ชายน่ารักเชียว” ลิลี่พูดอย่างร่าเริงพลางโบกจดหมายไปมา

    “อือ” เซเวอร์รัสตอบ

    “ฉันน่ะอยากมีลูกชายน่ารักๆ” ลิลี่ยังคงพูดต่อ

    “ฉันคิดว่าเธอชอบเด็กผู้หญิงเสียอีก” เซเวอร์รัสว่าอย่างประหลาดใจ

    “ฉันชอบเด็กผู้ชาย อยากมีลูกชาย แต่พูดก็พูดเถอะยังหาพ่อของลูกไม่ได้เลย” ว่าแล้วเธอก็หัวเราะ

    “ก็ฉันไง” เซเวอร์รัสพูดเสียงแผ่ว

    “ว่าไงนะ” ลิลี่ถาม

    ”เปล่า” เซเวอร์รัสรีบปฏิเสธ เขารู้ว่าลิลี่ไม่เคยคิดกับเขาเกินเพื่อน พูดก็พูดเถอะ เขายังไม่แน่ใจเลยว่าเขารู้สึกกับลิลี่เกินเพื่อนหรือเปล่า ความรู้สึกที่เขามีต่อลิลี่คืออารมณ์หึงหรือหวงเพื่อนกันแน่

    “ฉันจะตั้งชื่อลูกเพราะๆเลย ถ้าเธอมีลูก จะชื่ออะไร” ลิลี่ชวนคุยต่อ

    เด็กหนุ่มนั่งคิดอยู่นาน เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย “แฮร์รี่” เขาตอบในที่สุด

    ลิลี่ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น “คิดตั้งนานได้ชื่อนี้เนี่ยนะ เชยระเบิดเลย”

    “ชื่อเชยๆน่ะดี จะไม่โดนล้อ สนิฟเวลลัส เหอะ” เด็กหนุ่มว่าอย่างใส่อารมณ์

    “เธอต้องเป็นพ่อทูนหัวลูกฉันนะ” เด็กสาวว่า “จองตัวไว้ก่อนเลย”

    “ไม่ต้อง เพราะลูกเธอก็คือลูกฉัน” สเนปว่า

    “หา!” ลิลี่อุทาน

    “เธอกับฉันเป็นเพื่อนกัน ลูกเธอก็คือลูกฉัน เอ๊ย เหมือนลูกฉัน ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งพ่อทูนหัว ฉันก็จะดูแลลูกเธออย่างดี(เพราะลูกเธอก็คือลูกฉัน เขาคิดอย่างเพ้อฝัน) แต่เธอไม่ปรึกษาพ่อเด็กเลยเหรอ”

    “ใครจะเป็นแฟนฉัน ก็ต้องชอบเธอด้วย love me love my friend”

    “ฉันเคยได้ยินแต่ love me love my dog นะ เธอเห็นฉันเป็นหมาเหรอ กลัวแต่มีแฟนแล้วจะทิ้งเพื่อน”

    “ไม่มีทาง” ลิลี่ปฏิเสธขันแข็ง “เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดกาล”

    แต่นั่นแหละ เรื่องมันเกิดขึ้นก่อนเขาจะลุ่มหลงในศาสตร์มืดและเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน ทุกวันนี้เขายังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมเธอถึงตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่าแฮร์รี่ มันเป็นความคิดของเธอหรือของพอตเตอร์คนพ่อกันแน่ หากเป็นความคิดของเธอ เป็นไปได้ไหมว่าเธอพยายามจะให้เขารักเด็กคนนี้เหมือนลูกตนเอง

    *****

    “ส่วนชื่อเรกูลัสเป็นชื่อของเพื่อนเก่าพ่อ เขาเป็นน้องชายของคนที่พ่อเกลียด พ่อเลยอคติกับเขา แต่เขาก็ดีกับพ่อมาก ตอนพ่อทะเลาะกับลิลี่ เพื่อนสนิทของพ่อ ก็มีแต่เขาเนี่ยแหละคอยอยู่เคียงข้าง”

    *”

    1977

    “ไอ้พี่ชายบ้า” เรกูลัสตะโกนอย่างอารมณ์เสีย “มีอย่างที่ไหนเห็นคนอื่นดีกว่าน้อง กล้าหนีออกจากบ้าน พอไปถามว่าไปพักไหน ดันหาว่าเสือกอีก

    “แล้วนายจะไปยุ่งกับมันทำไม” เซเวอร์รัสถามอย่างไร้อารมณ์ “ก็ต่างคนต่างอยู่สิ มันไม่เห็นว่านายเป็นน้อง ก็ไม่ต้องเห็นมันเป็นพี่”

    “แหม พูดไม่ดูตัวเองเลยนะครับ เซเวอร์รัส” เรกูลัสลากเสียง “ยังเป็นวิญญาณติดตามยัยนั่นอยู่เลยนี่ เขาไม่รักแล้วไปตามเขาทำไมล่ะครับ นี่แหละน้าเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน มัวแต่จดๆจ้องๆสุดท้ายก็ไม่ทันเขา”

    “หุบปาก” สเนปตวาด “ก็ฉันรู้จักเธอมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ความผูกพันน่ะ เข้าใจเปล่า”

    “และฉันก็รู้จักซิเรียสมาตั้งแต่เกิด” แบล็คคนน้องว่า “เขาเคยเป็นพี่ชายที่ดี ถึงจะกวนประสาทไปหน่อยก็เถอะ”

    “ฉันขอโทษ” เซเวอร์รัสว่า

    “ช่างเถอะ” เรกูลัสพูด “ดูเหมือนเจมส์ พอตเตอร์จะเป็นหัวขโมยชั้น1เลย แย่งทั้งพี่ฉันและก็เพื่อนนาย”

    “พวกเขาไม่ใช่สิ่งของ ถูกแย่งไม่ได้หรอก พวกเขาเต็มใจ” เซเวอร์รัสพูดหงอยๆ “เพราะเรามันชั่วไง เพราะเราอยู่สลิธีริน คนอื่นเลยไม่อยากคบด้วย” ว่าแล้วเขาก็หัวเราะอย่างไร้อารมณ์ขัน

    “ช่าย” เรกูลัสเห็นด้วย “ต่อไปเราต้องคบกันเอง จะเพื่อน จะแฟนก็ต้องมาจากบ้านนี้ จะได้ไม่ต้องมีปัญหากันอีก”

    “นายเล็งใครไว้บ้างยัง” เซเวอร์รัสถาม

    เรกูลัสพ่นลมหายใจ “เล็งไปก็เท่านั้น ยังไงแม่ก็ต้องให้แต่งกับพวกเลือดบริสุทธิ์”

    “ทำอย่างกับนายไปชอบคนที่เลือดไม่บริสุทธิ์ยังงั้นแหละ เธอเป็นใครล่ะ” เซเวอร์รัสถาม

    “เขาเป็นใครล่ะ” เรกูลัสแก้

    “นายเป็นเกย์” เซเวอร์รัสอุทาน “แล้วนายแน่ใจเหรอว่าเขาไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์”

    “นายเป็นเลือดบริสุทธิ์หรือเปล่า” อยู่ๆเรกูลัสก็ถามขึ้นมาลอยๆ

    “ฉันเป็นเลือดผสม” เซเวอร์รัสตอบงงๆ “รู้แล้วยังจะถามอีก”

    “นายก็ได้คำตอบแล้วนี่” เรกูลัสพูดสบายๆ

    ต้องใช้เวลานานกว่าสเนปจะรวบรวมสติได้

    “น นายชอบฉัน” เขาพูดตะกุกตะกัก “ อะไร ยังไง ทำไม ตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “ฉันไม่รู้เหมือนกัน” เด็กหนุ่มรุ่นน้องว่า “มันไม่ใช่รักแรกพบหรอก แต่มันค่อยๆก่อตัว มันอาจเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ช่วงนี้ที่เรายังไม่มีใคร มาลองคบกันดูก่อนไหม ไหนๆนายก็จะจบปีนี้แล้วนี่ ไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหม ขอสร้างความทรงจำกับนายเถอะ”

    “ถ้าผูกพันกันเกินไป ตอนจากจะทุกข์มากกว่าเดิมนะ” เซเวอร์รัสเตือน

    “ฉันไม่สน” เรกูลัสพูดอย่างดื้อดึง “ดีกว่าไม่มีอะไรเลย” เขาโน้มคอเซเวอร์รัสเข้าไปใกล้และทั้งคู่ก็จูบกัน

    เซเวอร์รัสไม่เคยจูบใครมาก่อน ทันทีที่ถอนริมฝีปากออกจากกันได้ เขาก็ลูบริมฝีปากของตนเอง เขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือไม่ดี เพียงแต่รู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในท้อง วาบหวิวไปหมด แต่เขารักลิลี่ไม่ใช่เหรอ เขาจะรู้สึกอย่างนี้ได้อย่างไร

    “นายหน้าแดง” เรกูลัสว่า เขาเองก็หน้าแดงเช่นกัน

    “อากาศมันร้อนน่ะ” เซเวอร์รัสแก้ตัว เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลยในช่วงเดือนนี้ที่มีหิมะตกเต็ม

    คืนนี้เขามีการบ้านอีกข้อแล้ว คือต้องจัดการกับความรู้สึกของตนเองให้ได้ เขาจะรักเรกูลัสไม่ได้ พ่อแม่ของเรกูลัสต้องไม่ยอมรับเขาแน่ เขาต้องจัดการความรู้สึกให้เหลือแค่ชอบและตักตวงความสุขจากช่วงเวลานี้ให้มากที่สุด

    Talk เราชอบคู่rbssมาก ดูเคมีเข้ากันอยู่ แต่หาฟิคไทยไม่ค่อยได้เลย

    ภาพประกอบค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×