ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Spider trap ขยุ้มหัวใจดาร์กลอร์ด(tmrss)

    ลำดับตอนที่ #1 : 1 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 63


    “คุณจะไม่ไปจริงๆหรือคะ ทอม” เซซิเลียออดอ้อนหนุ่มคนรัก

    “ผมบอกคุณแล้วไงว่าผมไม่ว่าง” ทอมตอบ

    เซซิเลียทำหน้ามุ่ย เธอหอมแก้มทอมเบาๆก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันไป

    ทอมถอนหายใจ เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับเซซิเลียดี ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเล็กและพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายก็จับทั้งสองหมั้นกันเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ทอมไม่ได้คัดค้านการหมั้นเพราะถึงแม้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ เขาก็ไม่ได้รักใคร แต่ทว่าเหตุการณ์ที่เขาเห็นกับตาเมื่ออาทิตย์ก่อนทำให้เขาอยากจะถอนหมั้นกับเธอ

    เขาเผอิญไปเจอเซซิเลียกำลังจูบกับชายหนุ่มอีกคนเข้า เขาแน่ใจว่าตาไม่ฝาด ทั้งคู่ดูดดื่มกันอยู่นาน เซซิเลียสารภาพรักกับชายหนุ่มคนนั้นอีกทั้งยังบอกอีกว่าถ้าปอกลอกทอมได้เมื่อไหร่ก็จะหนีมาอยู่ด้วย ทอมไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีเพราะเรื่องแบบนี้พูดไปพ่อแม่เขาคงไม่เชื่อแน่ เพราะเซซิเลียช่างแสดงละครเก่งเหลือเกิน

    ทอมมาขี่ม้าเล่นเพื่อระบายความเครียด แต่อากาศที่ร้อนจัดทำให้เขาเครียดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เหงื่อไหลโซมหน้า เขายกมือขึ้นปาดเหงื่อ อากาศร้อนจัดจนทำให้เขาวิงเวียนไม่รู้สึกตัว เขาตาลายก่อนหมดสติไป

    ทอมฟื้นขึ้นมาอีกทีในกระท่อมโกโรโกโส มีหญิงสาวหน้าตาจืดชืดกำลังพัดให้เขาอยู่

    “ฟื้นแล้วหรือคะ” เธอถาม ก่อนจะยื่นแก้วน้ำมาให้ “ดื่มน้ำเสียหน่อยค่ะจะได้รู้สึกดีขึ้น”

    “ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน” ทอมถามอย่างระแวง

    “คุณเป็นลมอยู่ตรงโน้น” เด็กสาวชี้มือบอก “ฉันก็เลยพาคุณมาที่นี่ คุณจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าคะ คุณริดเดิ้ล”

    ทอมขมวดคิ้ว “เธอรู้จักชื่อฉันได้ยังไง”

    “ไม่มีใครไม่รู้จักคุณริดเดิ้ลหรอกค่ะ” หญิงสาวก้มหน้าลงต่ำ “ฉันเห็นคุณประจำ ”

    “แล้วเธอเป็นใคร” ทอมถาม

    “เมโรเพค่ะ เมโรเพ ก๊อนท์” เด็กสาวตอบ ยังคงไม่มองหน้าเขา

    “ยังไงก็ขอบใจที่ช่วยฉัน” ทอมว่า เขาคว้ากระเป๋าเงินและหยิบเงินให้เธอ

    เมโรเพถอยหลังหนี “ฉันไม่ได้ช่วยคุณเพราะหวังอะไรแบบนั้นนะคะ”

    ทอมประหลาดใจ “เเล้วเธอต้องการอะไร”

    “ฉันไม่ต้องการอะไร ตอนนี้คุณก็หายดีแล้วกลับบ้านไปเถอะค่ะ” เมโรเพว่า

    ทอมรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ยอมกลับบ้านแต่โดยดี เมื่อมาถึงบ้านปรากฏว่าเซซิเลียกับพ่อแม่มารับประทานอาหารเย็นด้วย พ่อแม่ของเขาตำหนิที่ทอมมาช้า ส่วนพ่อแม่ของเซซิเลียก็เร่งเร้าจะให้พวกเขาแต่งงานกัน ทอมพยายามปฏิเสธโดยอ้างว่าเขาอยากใส่ใจกับการทำงานให้เต็มที่ก่อน จนกระทั่งคุณพ่อของเซซิเลียพูดขึ้นมาว่า

    “ลูกสาวฉันท้องได้สามเดือนแล้วนะ ขืนเลื่อนงานแต่งไปก็ขายหน้าพอดี”

    ทอมตกตะลึงอ้าปากค้าง ไม่มีทางที่เซซิเลียจะท้องกับเขาได้ เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้นกับเธอเลย

    “ไปทำยังงั้นได้ไง” คุณนายริดเดิ้ลดูลูกชาย “ยังไงแกก็ต้องแต่งกับหนูเซซิเลีย ภายในเดือนนี้แหละ”

    ทอมลุกขึ้นยืน “ผมไม่แต่ง” เขาตะโกนลั่นห้อง “ผมไม่รับผิดชอบลูกใครก็ไม่รู้หรอกนะ”

    ทอมกระทืบเท้าเดินออกจากบ้านไป เขามุ่งตรงไปกระท่อมของเมโรเพตามสัญชาตญาณ

    เมโรเพได้ยินเสียงเคาะประตูจึงไปเปิดแล้วก็ต้องประหลาดใจมากที่เห็นเทพบุตรในฝันของเธอมายืนอยู่ตรงหน้า

    “ขอฉันเข้าไปหน่อยได้ไหม” ทอมพูดอย่างอ้อนวอน

    เมโรเพพยักหน้า เธอหลีกทางให้เขาเข้ามาข้างใน

    ทอมดูมีความทุกข์มากเสียจนเธอรู้สึกทุกข์ตามไปด้วย เขาทิ้งตัวลงบนเตียงพลางถอนใจ

    “ฉันไปชงชามาให้นะคะ” เมโรเพว่าและเธอก็เดินกลับมาพร้อมชาควันฉุยและขนมสโคนร้อนๆ

    “ลองชิมดูสิคะ” เมโรเพว่า “เวลาเราเครียดกินของอร่อยก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้”

    ทอมพยักหน้า เขาคว้าขนมสโคนขึ้นมาและเมื่อชิมแต่คำแรกก็รู้สึกว่าหวานซาบซ่านไปทั่วปาก

    “อร่อยดี” ทอมชมอย่างจริงใจ เขาเคยกินอาหารเลิศรสราคาแพงมาตั้งหลายอย่างแต่ขนมถูกๆนี้กลับรสชาติดีอย่างไม่น่าเชื่อ

    “ดีใจที่คุณชอบค่ะ” เมโรเพว่า

    ทอมกัดสโคนอีกคำหนึ่ง สีหน้าครุ่นคิด “เมโรเพ” เขาเรียก

    หญิงสาวสะดุ้ง “มีอะไรหรือคะ

    “ถ้าฉันจะขออยู่กับเธอและจ้างให้เธอทำอาหารให้ฉัน เธอจะคิดเท่าไหร่”

    เมโรเพแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ทอม ริดเดิ้ลขอมาอยู่กับเธอ เขาขอมาอยู่กับเธอ พระเจ้า เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม

    “ว่ายังไงล่ะ” ทอมเร่งเมื่อเห็นว่าเมโรเพไม่ตอบสักที

    “ทำไมคุณถึงอยากอยู่ที่นี่ล่ะค่ะ” เมโรเพถาม “บ้านนี้คับแคบและยังสกปรกด้วย บ้านคุณน่าอยู่กว่าตั้งเยอะ'

    “คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก” ทอมตอบเป็นปริศนา “ถ้าเธอประเมินไม่เป็น ฉันให้เธอเท่านี้ก่อนละกัน” ทอมหยิบธนบัตรให้เมโรเพและยัดใส่มือเธอ “สำหรับเดือนนี้”แล้วทอมก็เดินจากไปทิ้งให้เมโรเพมองธนบัตรด้วยสายตางุนงง เธอไม่เข้าใจสักนิดว่ากระดาษนี้คืออะไร

    Talk พระเอกเรายังไม่เกิดค่ะ พ่อแม่เพิ่งเจอกัน

    ต่อ

    ทอมมาอยู่ที่กระท่อมได้หลายเดือนแล้ว เขารู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านยิ่งกว่าที่คฤหาสน์ริดเดิ้ล ไม่มีใครในคฤหาสน์รู้ว่าเขาชอบกินอะไร แต่เมโรเพรู้ เธอทำอาหารที่เขาชอบ เธอเอาใจเขายิ่งกว่าคนรับใช้ที่บ้าน เธอเอาใจใส่เขา

    “คุณไม่เบื่อบ้างหรือคะ” เมโรเพถาม “อยู่แต่ในกระท่อมเก่าๆแบบนี้”

    “ฉันออกไปไหนไม่ได้ เมโรเพ ถ้าพ่อกับแม่รู้ล่ะก็..” ทอมพูดเศร้าๆ

    ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทั้งสองหันไปมองอย่างระแวดระวัง

    “เดี๋ยวฉันจะไปเปิดเอง” ทอมพูดอย่างกล้าหาญและเดินไปที่หน้าประตู

    “พ่อบ้านอีริค” ทอมอุทานเมื่อเห็นชายที่คุ้นเคย

    “คุณหนูต้องกลับไปกับผม” อีริคพูดอย่างจริงจัง

    “ไม่” ทอมปฏิเสธเสียงแข็ง “ผมจะไม่กลับไป ผมไม่มีวันแต่งงานกับเซซิเลีย”

    “ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องใช้กำลังแล้ว” อีริคพูดเสียงกร้าว เขาขยับเข้ามาใกล้ทอม ท่าทางคุกคาม

    ทอมรู้ว่าเขาไม่มีทางสู้แรงของอีริคได้เลย เพราะนอกจากอีริคจะตัวโตและมีกล้ามเนื้อมากกว่าเขาแล้ว หมอนี้ยังเคยเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวมาหลายแขนง แต่เขาไม่มีวันโดนจับไปง่ายๆโดยไม่ทำอะไรแน่ เขาตั้งท่าเตรียมพร้อม

    แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะทันทำอะไรก็มีเสียงตะโกนว่า “สตูเปฟาย” ลำแสงสีแดงพุ่งเข้าใส่อีริค พ่อบ้านล้มลง หมดสติไปทันที ทอมหันขวับไปมองก็เห็นเมโรเพชี้ไม้มาที่อีริค นิ้วมือของเธอสั่นระริก นี่เป็นครั้งแรกที่เมโรเพใช้เวทมนตร์ได้ ตลอดเวลาที่เธออยู่กับพ่อและพี่ชายที่ชอบรังแกเธอ เธอไม่เคยใช้เวทมนตร์ได้เลย แต่เมื่อเธอต้องปกป้องคนที่เธอรัก เธอก็ใช้มันได้ดีทีเดียว

    “เธอทำได้ยังไง” ทอมถาม ทั้งตกใจทั้งชื่นชม

    “ฉันเป็นแม่มด” เมโรเพสารภาพ ก้มหน้าลงเตรียมรอรับระเบิดอารมณ์ของเขา

    แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอลองเสี่ยงเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ทอมมีสีหน้าครุ่นคิด

    “แต่เธอไม่เคยใช้เวทมนตร์เลย” ทอมพูดอย่างใคร่ครวญ “ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน”

    “มันไม่จำเป็นนี่คะ” เมโรเพตอบ “แค่จัดการงานบ้านเล็กๆน้อยๆ แต่ครั้งนี้มันจำเป็น เขาจะทำร้ายคุณ”

    “สิ่งที่เธอทำทำให้ฉันตัดสินใจอะไรได้” ทอมพูดอย่างจริงจัง “เราหนีไปด้วยกันเถอะ”

    เมโรเพตกตะลึง อ้าปากค้าง “คุณพูดอะไรนะคะ คุณริดเดิ้ล”

    “ทอม” ทอมว่า “เรียกฉันว่าทอม”

    “ทอม” เมโรเพพูดอย่างไม่แน่ใจ “คุณพูดอะไรน่ะ”

    “เราจะหนีไปด้วยกัน” ทอมพูดอย่างจริงจัง “ฉันมีบ้านพักตากอากาศเล็กๆอยู่ที่ทุ่งดอกไม้ เราไปอยู่ด้วยกันได้”

    “แต่ทำไม..” เมโรเพว่าอย่างสับสน

    ทอมทิ้งตัวลงคุกเข่าข้างเดียว เขาหยิบแหวนเงินขึ้นมาแล้วยื่นให้เธอ “เมโรเพ แหวนนี้อาจจะไม่ใช่แหวนเพชรราคาแพง แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ฉันมีตอนนี้ แต่งงานกันนะ”

    เมโรเพตกตะลึง เเทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองไม่ เทพบุตรในฝันขอเธอแต่งงาน “คุณแน่ใจเหรอ ฉันน่าเกลียดและยังจนอีกด้วย”

    ทอมกุมมือเธอเอาไว้ “คุณไม่ได้น่าเกลียดเลย เมโรเพ คุณน่ารักมากในสายตาของผมและเรื่องที่ยากจนก็ไม่มีปัญหาเลย ตอนนี้ผมก็เหมือนเหลือแต่ตัวแล้ว ยกเว้นแต่ว่าคุณจะรังเกียจผม”

    “ไม่ค่ะ ทอม ฉันยินดีที่จะแต่งงานกับคุณค่ะ” เมโรเพตอบ

    “งั้นเราไปกันเถอะ”ทอมยันตัวลุกขึ้นยืน “ไปสู่รังรักของเรากัน”

    ทั้งคู่เดินทางออกไปด้วยกัน ไปสู่บ้านพักตากอากาศที่ทุ่งกว้างของทอม

    แมรี่ ริดเดิ้ลแทบจะเป็นลมเมื่อรู้ข่าวลูกชายจากอีริค ทอม ลูกชายของเธอหนีออกจากบ้านไปอยู่กระท่อมของคนจรจัดอย่างก๊อนท์ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังหน้ามืดตามัวหนีไปกับลูกสาวของมันอีก

    “ฉันจะต้องพาเจ้าทอมกลับมาให้ได้” แมรี่ประกาศก้อง

    ส่วนทอมกับเมโรเพก็ไม่ได้รับรู้อะไรเลย ทั้งสองคนเข้าพิธีแต่งงานที่โบสถ์เล็กๆเพื่อผูกสัมพันธ์วิญญาณร่วมกันอย่างสมบูรณ์และหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขจนกระทั่งเมโรเพตั้งครรภ์

    “อย่ายกสิ” ทอมดุภรรยา “เดี๋ยวก็ล้มหรอก”

    “คุณก็ห่วงฉันเกินไป ทอม” เมโรเพพูดยิ้มๆ “ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก ของแค่นี้เอง”

    “ไม่ได้ ไม่ได้” ทอมยืนยัน “เธอทำงานหนักไม่ได้แล้วนะ” เขาแนบหูกับท้องเธอ “เมื่อไหร่จะดิ้นนะ”

    เมโรเพหัวเราะเบาๆอย่างเอ็นดู “คุณนี่ล่ะก็ ลูกเรายังไม่ถึงสามเดือนเลย จะดิ้นได้ยังไง”

    “ลูกเราจะหน้าตาเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่นะ” ทอมว่า

    “ฉันอยากให้เขาเหมือนคุณ เพราะฉันหน้าตาน่า..” เมโรเพกำลังจะพูดว่าน่าเกลียดออกมา แต่เมื่อเห็นสายตาของสามีจึงเปลี่ยนคำพูด “ไม่ดีเท่าคุณ”

    ทอมลูบหัวภรรยาอย่างเอ็นดู “คุณสวยในแบบของคุณแล้ว”

    พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่รู้เลยว่ามันเป็นความสงบก่อนพายุจะมา

    *

    ในที่สุดแมรี่ก็รู้ว่าลูกของเธอหนีไปไหน เธอจะต้องพาลูกของเธอกลับมาให้ได้ ยัยเด็กก๊อนท์นั่นคงจะมายั่วลูกชายเธอและอ้างว่าท้องกับเขาเพื่อที่จะบังคับให้เขาแต่งงานด้วย เธอมั่นใจว่าเด็กในท้องจะต้องไม่ใช่ลูกของทอมแน่นอน

    “ขอบคุณมาก” เธอกล่าวขอบคุณสายสืบที่เธอจ้างมาสืบเรื่องลูกชาย

    สายสืบโค้งคำนับก่อนจะเดินจากไป

    แมรี่เรียกอีริคมาพร้อมกับมอบจดหมายให้ กำชับให้เขานำจดหมายนี้ไปส่งให้ลูกชายของเธอให้ได้ อีริครับคำ

    เขาใช้เวลาเดินทางไม่ถึงวันก็มาถึงจุดหมาย เมื่อเขากดกริ่งก็พบว่าคนที่มาเปิดประตูก็คือก๊อนท์นั่นเอง

    “ฉันมาหาคุณริดเดิ้ล” อีริคประกาศอย่างวางมาด

    “ทอมไม่อยู่” เมโรเพว่า รู้สึกไม่ชอบใจท่าทางของชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย “มีธุระอะไรบอกฉันไว้ก็ได้”

    อีริคมองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “เธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไรกันล่ะ” เขาพูดอย่างดูถูก “คนใช้หรือว่า ..” เขาขยับปากอย่างไม่มีเสียง “อีตัว”

    “ฉันเป็นภรรยาของเขา” เมโรเพพูดอย่างสง่า

    ก่อนที่ใครจะพูดอะไร ทอมก็กลับมาพอดี

    “คุณมาทำอะไรที่นี่ อีริค” ทอมพูดอย่างไม่พอใจ “ผมบอกแล้วนะว่าจะไม่กลับไปเด็ดขาด”

    “คุณนายสั่งให้ผมเอาจดหมายมาให้คุณหนู” อีริคว่าพลางยื่นจดหมายให้

    ทอมแกะจดหมายออกอ่านและหน้าก็ซีดลงเรื่อยๆ

    “เกิดอะไรขึ้นคะ ทอม” เมโรเพถามอย่างกังวล

    “แม่ผมไม่สบาย” ทอมว่า “เธอต้องการให้ผมกลับไปเยี่ยมท่าน”

    เมโรเพขมวดคิ้ว “ฉันไปด้วยได้ไหมคะ”

    “อย่าเลย เมโรเพ” ทอมห้าม “เธอกำลังท้องกำลังไส้ เขาไม่ให้นั่งเครื่องบิน ฉันจะรีบไปรีบกลับ รับรองไม่เกินอาทิตย์นึงหรอก”

    “แต่..” เมโรเพเริ่มอย่างกังวล เธออยากห้ามทอมไม่ให้ไป เธอสังหรณ์ใจไม่ดียังไงบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่รู้จะห้ามปรามยังไงดี แม่ลูกเขาจะพบกัน เธอจะห้ามยังไงได้

    “ไม่ต้องห่วง ผมจะรีบไปรีบกลับ” ทอมให้คำสัญญา

    **

    ทันทีที่ทอมกลับมาถึงบ้าน เขาก็รู้ว่าโดนหลอกเสียแล้ว แม่นั่งอยู่ที่เก้าอี้นวมกำลังจิบกาแฟด้วยท่าทีสง่างาม ไม่มีเค้าของคนป่วยเลยสักนิด

    “แม่ไม่ได้ป่วยเหรอ” ทอมว่าอย่างไม่พอใจ

    “แม่แกป่วยใจ” โทมัส พ่อของทอมว่าอย่างไม่พอใจ “แกคิดยังไงไปแต่งงานกับยัยเด็กก๊อนท์นั่น ทั้งๆที่หนูเซซิเลียท้องลูกของแกอยู่แท้ๆ”

    “เด็กในท้องของเซซิเลียไม่ใช่ลูกของผม” ทอมว่าอย่างมีโทสะ “เมโรเพต่างหากที่เป็นแม่ของลูก ผมต้องอยู่ดูแลเธอ” เขาหันหลังจะเดินจากไป

    “จับตัวเขาไว้” โทมัสสั่ง บอดี้การ์ดสี่คนเข้ามาล็อคตัวทอมเอาไว้

    “พาเขาไปอยู่ในห้อง ล็อคประตูให้สนิท อย่าให้หนีออกมาได้” โทมัสประกาศก้อง

    บอดี้การ์ดทั้งสี่ลากตัวคุณหนูของพวกเขาไปตามที่เจ้านายสั่ง ทอมพยายามดิ้นรนและต่อสู้ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

    โทมัสกับแมรี่ไม่ยอมปล่อยให้ลูกชายไปไหนมาไหนตามลำพังอีกเลย เขาส่งคนเฝ้าติดตามลูกชายตลอดเวลาและสั่งการให้เตรียมการแต่งงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ งานแต่งงานระหว่างทอมกับเซซิเลียจัดขึ้นอย่างเอิกเกริก ในงานเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ ขาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือความสุขของเจ้าบ่าวที่ทำหน้าบึ้งตลอดงาน แต่ทุกคนก็ต่างชมว่าทั้งคู่เป็นคู่สร้างคู่สมกัน

    เมโรเพเฝ้ารอคนรักของเธอจนเลยเวลาครบกำหนดมาหลายอาทิตย์แล้ว เขาก็ยังไม่กลับมา เธอกลับได้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าสามีของเธอแต่งงานใหม่เสียแล้ว หัวใจของเธอแทบแตกสลาย ทำไมเขาถึงหมดรักเธอง่ายๆแบบนี้ แต่เมื่อเธอพิจารณาใบหน้าของเขาในหนังสือพิมพ์ดีๆ ความโกรธแค้นน้อยใจก็เปลี่ยนเป็นความสงสาร ทอมไม่เต็มใจจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเลยแม้แต่น้อย เธอจะต้องไปช่วยเขา เธอรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อหายตัว แต่เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์ อีกทั้งไม่ได้ใช้เวทมนตร์มานาน เธอจึงหายตัวมาผิดจุดหมาย เธอมองไปรอบๆอย่างหมดหวัง เธอหลงทางเสียแล้ว แต่เธอจะไม่ยอมแพ้ เธอจะต้องตามหาสามีของเธอให้เจอ แม้จะต้องใช้เวลาเป็นปีๆก็ตาม

    ต่อ

    ทอมย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันกับเซซิเลียด้วยความไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่เขาฉลาดพอที่จะไม่เป็นศัตรูกับเธออย่างเปิดเผย เขาเริ่มแสดงละครว่ารักเซซิเลียแค่ไหน จนทำให้พวกคนที่พ่อแม่ส่งมาเฝ้าติดตามค่อยๆทยอยหายไปทีละคน

    “ผมจะไปทำธุระที่ต่างเมืองสักหน่อย” เขาบอกกับเซซิเลียที่กำลังกล่อมชาร์ลอตให้นอนหลับ

    เซซิเลียไม่ได้มีทีท่าประหลาดใจ เธอบอกแต่เพียงว่า “ทิ้งเงินไว้ด้วยนะคะ จะได้ไว้ซื้อของ”

    “ผู้หญิงหน้าเงิน” ทอมคิด แต่ก็ยอมควักเงินให้เพื่อตัดรำคาญ

    ชาร์ลอตร้องไห้ขึ้นอีก ช่างน่ารำคาญยิ่งนักในสายตาของทอม เด็กนี่หน้าตาน่าเอ็นดูก็จริง แต่ไม่มีเค้าของตระกูลริดเดิ้ลหรือของเซซิเลียเลยแม้แต่น้อย ขณะที่เซซิเลียและเขามีผมสีดำ ตาสีน้ำตาล แต่เด็กคนนี้กลับมีผมบลอนด์ ตาฟ้า แค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกเขา เขาได้แต่หวังว่าพ่อแม่ของเขาจะตาสว่างเสียที

    ทอมออกเดินทางไปที่บ้านพักตากอากาศของตน หวังว่าจะพบกับเมโรเพ ภรรยาที่รักของเขารออยู่ เธอคงจะโกรธเขามาก แต่เขาตั้งใจจะง้อเธอและอธิบายจนกว่าเธอจะหายโกรธ บางทีเขาอาจจะลองทำอาหารง้อเธอดู เธอชอบกินนี่นา

    แต่เขาไม่คิดว่าเมื่อเขากลับมาถึงบ้านกลับว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใดๆ

    “เมโรเพ เมโรเพ” เขาตะโกนก้อง “คุณอยู่ไหนน่ะ”

    เขาวิ่งพล่านไปทั่วบ้าน ค้นทุกซอกทุกมุมราวกับหาแมลงสักตัวแต่ก็ไม่พบร่องรอยของเมโรเพ ไม่พบแม้กระทั่งจดหมายหรืออะไรเลย

    ทอมทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรงและเริ่มร้องไห้ เมโรเพไปไหนเสียแล้ว เมียและลูกของเขาไปไหน เธอคิดว่าเขาทอดทิ้งเธอหรือ เธอเกลียดเขาแล้วหรือ เขาจะมีโอกาสอธิบายหรือเปล่า เธอไปอยู่ที่ไหนกัน เธอกับลูกจะปลอดภัยไหม จะเป็นอะไรหรือเปล่า เขายันตัวลุกขึ้นยืน เขาจะตามหาเธอและต้องหาวิธีหย่ากับเซซิเลียให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเป็นปีๆก็ตาม

    “ปกติผมไม่ค่อยสืบคดีผัวๆเมียๆนะ” สายสืบจอห์นว่า

    “ผมขอร้องล่ะครับ” ทอมว่า “เท่าไหร่ก็ได้”

    สายสืบจอห์นพยักหน้า ริดเดิ้ลเป็นคนใจป้ำ เขายอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อที่จะตามหาลูกเมียและหาหลักฐานว่าเซซิเลียเล่นชู้ จอห์นชอบลูกค้าแบบนี้ เมื่อทั้งคู่ตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันไป

     Talk เดี๋ยวดึกๆจะมาลงให้จบตอนค่ะ

    ต่อ

    เมโรเพเดินโซซัดโซเซมาตามถนน ทำอย่างไรเธอก็หาเขาไม่เจอสักที เงินทองที่มีก็เริ่มร่อยหรอไปเรื่อยๆ แม้จะเป็นแม่มด แต่ก็ไม่สามารถเสกเงินทองมาใช้ได้ เธอตัดใจขายล็อกเก็ตของสลิธีริน มรดกที่พ่อภูมิใจนักหนาเพื่อที่จะนำเงินมาซื้ออาหาร สำหรับเธอตอนนี้ขนมปังสักก้อนยังมีค่ากว่าล็อกเก็ตนี่เสียอีก

    เธอรู้ตัวว่าลูกของเธออยากออกมาลืมตาดูโลกเต็มทีแล้ว แต่เธอไม่มีเงินพอที่จะไปโรงพยาบาล เธอจึงรวบรวมกำลังเดินมาที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า คนดูแลท่าทางปราดเปรียวปรี่เข้ามาหาเธอและประคองเธอเข้าไปข้างใน

    การคลอดลูกเจ็บกว่าที่เมโรเพคิดไว้ เธอกรีดร้องสุดเสียง มิสซิสโคล คนที่พาเธอมาคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

    “เบ่งเข้าค่ะ เบ่งเข้า” มิสซิสโคลเชียร์ “อุ๊ย ออกมาแล้ว”

    “เป็นเด็กผู้ชาย” นางพยาบาลที่ช่วยทำคลอดให้ว่า “ร่างกายแข็งแรงดี เดี๋ยวฉันจะพาเขาไปล้างตัว” เธอเดินจากไปแล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขน เธอส่งเขาให้เมโรเพ

    เมโรเพให้ลูกดื่มนมจากอก มิสซิสโคลมองสองแม่ลูกด้วยสายตาใคร่ครวญ

    “เธอจะตั้งชื่อเขาว่าอะไรหรือ” มิสซิสโคลถามอย่างนุ่มนวล

    “ทอมค่ะ ทอมตามชื่อพ่อของเขาและมาร์โวโล่ตามชื่อพ่อของฉัน” เมโรเพพูดโดยไม่ได้คิด พวกเขาเป็นคนที่เธอรักมากที่สุด แม้ว่าเธออาจจะไม่มีโอกาสเจอพวกเขาแล้วก็ตาม “นามสกุลของเขาคือริดเดิ้ล” เธอเสริม มองดูลูกชายอย่างแสนรัก

    “แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป” มิสซิสโคลถาม ผู้หญิงตัวคนเดียวแบบนี้แถมยังมีลูกเล็กอีกด้วย

    “ฉันไม่รู้ค่ะ” เมโรเพว่า “ฉันไม่มีที่ไปแบ้ว สามีของฉันก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ฉันคงต้องฝากทอมไว้ที่นี่ แล้วฉันก็จะ..” เธอพูดยังไม่ทันจบประโยค คนดูแลสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

    “เธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น คุณนายริดเดิ้ล” เธอว่า “อาหารที่ดีที่สุดสำหรับเด็กทารกก็คือนมแม่และคุณก็ยังอ่อนแอมากด้วย ถ้าไม่มีที่ไปก็อยู่ด้วยกันที่นี่แหละ”

    “เรียกฉันว่าเมโรเพเถอะค่ะ” เมโรเพว่า “แล้วจะไม่เป็นการรบกวนคุณหรอกหรือ”

    “เธอทำอาหารได้หรือเปล่า” มิสซิสโคลตั้งคำถาม

    “ได้ค่ะ” เมโรเพว่า ยังคงสับสนอยู่

    “แล้วพออ่านออกเขียนได้บ้างไหม” มิสซิสโคลถามต่อไปอีกโดยไม่สนใจความงุนงงของเมโรเพ

    “ได้ค่ะ” เมโรเพว่า

    “งั้นก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย เธอมาทำงานกับฉัน ช่วยดูแลเด็กๆพวกนี้ พวกเรากำลังขาดคนอยู่พอดี เธอจะได้อยู่กับลูกของเธอด้วย ที่นี่ถึงเงินเดือนจะไม่มากเท่าไหร่แต่ก็กินฟรีอยู่ฟรี ถ้ารู้จักประหยัดไม่กี่ปีก็คงพอมีเงินเก็บ” มิสซิสโคลว่า

    “แต่” เมโรเพยังคงลังเล “แล้วสามีของฉันล่ะคะ”

    “เธอจะกระเตงลูกเล็กๆแบบนี้ไปตามหาเขาไม่ได้หรอก” มิสซิสโคลพูดอย่างมีเหตุผล “ฉันเข้าใจว่าเธอรักและเป็นห่วงเขา แต่เธอไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว เธอต้องคิดถึงลูกให้มากๆ เธออยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าหนูทอมจะโต ให้อะไรมันเข้าที่เข้าทางกว่านี้แล้วค่อยไปตามหาเขาก็ยังไม่สายหรือไม่แน่เขาอาจจะมาตามหาเธอเองก็ได้นะ”

    เมโรเพมองดูใบหน้าไร้เดียงสาของลูกชายและเธอก็ตัดสินใจได้ในนาทีนั้น เธอต้องเป็นแม่ที่ดีของทอมน้อยเพื่อที่เมื่อครอบครัวได้มาพบหน้ากันอีกครั้ง ทอมจะไม่เสียใจที่เลือกเธอเป็นภรรยาและแม่ของลูก

    “ฉันจะอยู่ที่นี่ค่ะ” เธอว่าอย่างมุ่งมั่น “ฉันจะอยู่ดูแลทอมและเด็กคนอื่นๆด้วยค่ะ”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×