เรื่องเล่าของเจ้าชาย(ss/le)ฉบับกลอน - เรื่องเล่าของเจ้าชาย(ss/le)ฉบับกลอน นิยาย เรื่องเล่าของเจ้าชาย(ss/le)ฉบับกลอน : Dek-D.com - Writer

    เรื่องเล่าของเจ้าชาย(ss/le)ฉบับกลอน

    เรื่องของสเนป/ลิลี่ฉบับกลอน

    ผู้เข้าชมรวม

    463

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    463

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    10
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.พ. 60 / 15:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ส่วนใหญ่อ้างอิงมาจากแฮร์รี่ พอตเตอร์เล่ม7แต่มีแทรกความคิดคนเขียนไปด้วยอ่านให้สนุกนะคะ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      มาจะกล่าวบทไป 
      ถึงเพ็ตทูเนียและลิลี่
      เล่นชิงช้าแกว่งกันสนุกดี
      คนพี่แกว่งแล้วก็ลงมา
      คนน้องแกว่งทะยานขึ้นไป
      ดูเหมือนลอยอยู่ในเวหา
      พี่เตือนด้วยกริ้วโกรธา
      ว่ามารดาไม่ให้ทำสิ่งนี้
      ฝ่ายว่าโฉมศรีขนิษฐา
      บอกว่าอย่ากลัวไปเลยพี่
      พูดพลางหยิบบุปผามาลี
      โฉมศรีซ้ำเสกด้วยมนตรา
      ในสนามเด็กเล่นแห่งนั้น
      ทั้งสองกัลยาคิดว่า
      อยู่แต่สองคนเอกา
      แต่ว่าไม่เป็นความจริง
      ยังมีเด็กชายคนนั้น
      ผิวพรรณซีดขาวราวผีสิง
      เสื้อผ้าสกปรกรุงริง
      พิงพุ่มไม้แอบมองกัลยา
      เพ่งพินิจพิศดูคนน้อง
      อยากลองเดินเข้าไปหา
      ทรงโฉมประโลมโสภา
      จะเมตตาฉันบ้างหรืออย่างไร
      พอพี่ถามทำไมทำอย่างนี้
      คลี่มาลีกระจายน่าสงสัย
      ก็คิดจะเปิดตัวทันใด
      โดดออกไปไม่ทันยั้งคิด
      ก็ว่าเห็นเห็นกันอยู่แล้ว
      สองพี่น้องไม่แคล้วจับผิด
      คนน้องก็ถามตามใจคิด  
      จงแจ้งกิจจาแต่จริงไป
      อะไรว่าเห็นเห็นกันอยู่แล้ว
      เด็กชายก็แจ้วบอกให้
      เธอเป็นแม่มดจงเชื่อไป
      สองพี่น้องไยไพทันที
      ไม่สุภาพหยาบคายคนน้องว่า
      เธอนั้นพูดจาน่าบัดสี
      กุมาราแก้กลทันที
      ถึงเป็นดังนี้ไม่ผิดนัก
      แม่ฉันก็เป็นแม่มด
      ฉันโอรสรับเวทมนต์จงประจักษ์
      คนพี่หัวเราะคักคัก
      ฉันรู้จักว่าเธอคือใคร
      เด็กสเนปอยู่ตรอกช่างปั่นฝ้าย
      น้ำเสียงหยาบร้ายบอกชัดให้
      ไม่ควรคบค้าสมาคมไป
      ทำไมแอบดูพวกเรา
      เด็กสเนปนั้นก็พูดว่า
      โถใครหนาจะอยากดูเจ้า
      มักเกิ้ลน่าเกลียดไม่เหมือนเรา
      พี่สาวนั้นหาได้เข้าใจ
      แต่ก็เข้าใจในน้ำเสียง
      ไม่ฟังเดินเลี่ยงออกได้
      ชวนขนิษฐายาใจ
      กลับไปที่อยู่สถาพร
        (จบฉาก1)
      สเนปนั่งเคียงกับคนน้อง
      ลองถามรูัชื่อดวงสมร
      ชื่อว่าลิลี่บังอร
      สเนปสอนเรื่องราวโลกเวทมนตร์
      กระทรวงจะจับเธอไป
      จำไว้อย่าได้สับสน
      หากว่าเธอเผลอใช้เวทมนต์
      นอกพ้นจากเขตโรงเรียน
      ลิลี่ก็กล่าวด้วยสงสัย
      ฉันเคยใช้กังวลจนปวดเศียร
      สเนปว่าเรายังไม่เรียน
      ถึงจะเพี้ยนใช้บ้างเขาปล่อยเรา
      เมื่ออายุได้สิบเอ็ดปี
      โฉมศรีรักษาตัวเจ้า
      คอยระมัดระวังนงเยาว์
      ตัวเจ้าอย่าเผลอใช้เวทมนตร์
      มันมีจริงจริงใช่ไหม
      ไฉไลกล่าวด้วยสับสน
      ทูนีบอกว่าเธอซ้อนกล
      เวทมนต์มันไม่มีจริง
      มันมีจริงจริงสำหรับเรา
      โฉมเฉลาผู้เป็นยอดมิ่ง
      สำหรับเขามันไม่มีจริง
      เขาจะทิ้งจดหมายให้เรามา
      นกฮูกจะเอามาส่งหรือ
      สเนปร้องอือแล้วบอกว่า
      มันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
      ของโลกมนตราแห่งนี้
      แต่เธอเป็นพวกลูกมักเกิ้ล
      คงมีคนเดินแจ้งสารศรี
      ให้แก่ชนกชนนี
      มารศรีอย่าได้สงกา
      แล้วการที่ฉันเป็นบุตรี
      มักเกิ้ลมันจะมีปัญหา
      หรือจะไม่มีให้ว่ามา
      สเนปก็ว่าทันที
      เชื่อเถิดว่าไม่มีปัญหา
      กัลยายิ้มแย้มเกษมศรี
      ความกังวลปลดปลิดทันที
      สเนปนี้ก็ว่าต่อไป
      เธอมีเวทมนต์มากมาย
      สายสวาทอย่าได้สงสัย
      เสียงเขาแผ่วเบาลงไป
      ลิลี่ไม่ได้ทันฟัง
      แล้วก็มาถามเรื่องครอบครัว
      ดีชั่วเป็นไฉนจงเล่ามั่ง
      สเนปนั้นครั้นได้ฟัง
      ก็เอ่ยวาจังว่าก็ดี
      แสดงว่าเขาไม่ทะเลาะกัน
      บอกพลันอย่าหวังเลยโฉมศรี
      ทะเลาะกันทุกวันไม่ปรานี
      แต่ฉันนี้ไม่ได้สนใจ
      จะไปโรงเรียนเพียรศึกษา
      พ้นจากเคหานั้นไปได้
      ลิลี่ก็พูดทันใด
      หรือพ่อเธอไม่ชอบมนตรา
      เขาไม่ชอบอะไรทั้งนั้น
      เล่าอัซคาบันลิลี่ว่า
      ทั้งพวกผู้คุมวิญญาณ์
      จงแจ้งกิจจาแต่จริงไป
      ทำไมอยากรู้เรื่องพวกนั้น
      มันหยาบคายร้ายกาจอัชฌาสัย
      ลิลี่ว่าหากฉันเผลอใช้
      เวทมนต์ในย่านคนธรรมดา
      สเนปว่าเรื่องนั้นเล็กน้อย
      กระจ้อยร่อยเขาไม่จับเธอหรอกหนา
      เธอไม่จบอัซคาบันหรอกกัลยา
      พูดพลางหน้าเเดงดังทินกร
      ทันใดก็มีเสียงดัง
      ทูนีแอบฟังสเนปสอน
      แต่ลื่นเสียหลักบังอร
      สเนปก็ห่อนพอใจ
      ใครมาแอบดูกันแน่เล่าคราวนี้
      ภคินีคิดขัดอัชฌาสัย
      เธอใส่เสื้อแม่หรือว่าไร
      กิ่งไม้ก็ร่วงลงมา
      ถูกบ่าเพ็ตทูเนียเสียงดังลั่น
      เธอนั้นก็เซถลา
      ด้วยเจ็บก็ฟายน้ำตา
      ลิลี่ถามมาทันที
      ว่าเธอนั้นทำใช่ไหม
      สเนปบอกไม่นะโฉมศรี
      ลิลี่ไม่ฟังวจี
      พาพี่สาวกลับบ้านไป
      (จบฉาก2)
      ต่อมาที่สถานีคิงครอส
      สเนปถอดชุดมักเกิ้ลแล้วใส่
      เสื้อคลุมพ่อมดอันอำไพ
      ฝ่ายลิลี่พิไรว่าวอน
      ได้โปรดเถิดนะทูนี
      ขอพี่โปรดฟังหนูก่อน
      หนูนั้นจะไปว่าวอน
      ให้อาจารย์ที่สอนเปลี่ยนใจ
      พี่สาวว่าไม่อยากฟัง
      เอ่ยวาจังด้วยขัดอัชฌาสัย
      เธอคิดหรือว่าฉันอยากไป
      เป็นคนไม่ธรรมดา
      ตัวประหลาดอันน่ารังเกียจ
      น่าเดียจฉันท์ฉันไม่อยากฟังว่า 
      ลิลี่ก็ฟายน้ำตา
      ฉันนั้นหาใช่ตัวกาลี
      นั่นแหละที่เธอจะไป
      โรงเรียนไงล่ะแม่โฉมศรี
      โรงเรียนสำหรับตัวกาลี
      ฉันนี้ไม่ได้สนใจ
      พี่ไม่เห็นว่าเป็นตัวประหลาด
      ร้ายกาจเลยหรือว่าไม่ใช่
      ตอนที่ว่าวอนพิไร
      ให้ดัมเบิลดอร์รับภคินี
      ฉันไม่ได้ไปว่าวอน
      กล่าวอ้อนอย่าพูดน่าบัดสี
      ลิลี่ตอบพลันทันที
      ฉันนี้เห็นจดหมายมา
      ทูนียิ่งโกรธานัก
      ไม่รู้จักมารยาทหรือไงหว่า
      หรือเธอกับสเนปกุมารา
      แอบสอดสายตาดูฉันนี้
      ลิลี่ว่าเขาไม่เชื่อฉัน
      มักเกิ้ลนั้นติดต่อโลกเวทมนต์ไม่ได้นี่
      ต้องมีสายลับไปรษณีย์
      ทูนีก็ถ่มเขฬะลง
      ดูเหมือนคนจากโลกใบนั่น
      เสือกทุกที่ทุกวันหรือมีประสงค์
      ฉันนั้นไม่ได้ใจจง
      เชิญลงไปโลกมนตรา
      ลิลี่ขึ้นไปบนรถไฟ
      ชลนัยน์ไหลลงอาบหน้า
      เจ็บคำพี่สาวจำนรรจา
      เบือนหน้าไม่พูดต่อมิตร
      ฉันไม่ได้อยากคุยกับเธอ
      สเนปเก้อถามว่าทำสิ่งใดผิด
      ทูนีเกลียดฉันไม่ย้ังคิด
      ไม่เป็นมิตรไมตรีเหมือนก่อนมา
      อ้าวแล้วมันจะทำไม
      ไฉไลแค้นแสนสหัสา
      เป็นพี่สาวฉันเธอทราบมา
      สเนปก็ว่าทันที
      ยัยนั่นมันก็เป็นแค่
      แล้วกล่าวแก้ว่านี่แน่โฉมศรี
      เราจะไปโรงเรียนแล้วคราวนี้
      มารศรียิ้มแย้มทันใด
      เธอจะต้องอยู่สลิธีริน
      ยุพินจงจำเอาใจใส่
      เด็กผมยุ่งคนหนึ่งขัดใจ
      ใครจะอยากอยู่สลิธีริน
      พูดกับเด็กผมดำนั่งข้างข้าง
      หากถูกวางอยู่บ้านนั้นคนเยาะสิ้น
      หากได้ไปอยู่สลิธีริน
      ฉันสิ้นหวังลาออกเลยเป็นสัจจา
      ฝ่ายเด็กผมดำนามว่าซิเรียส
      ก็บอกว่าอย่าเกลียดฉันจะบอกว่า
      บ้านฉันสลิธีรินทุกคนมา
      ตกหัทยาร้องถามทันที
      ฉันคิดว่านายดูใช้ได้
      ซิเรียสบอกไปว่าฉันนี่
      เห็นจะลองแหวกพงศ์ประเพณี
      นายนี้จะไปถิ่นใด
      ฝ่ายเด็กผมยุ่งที่ชื่อเจมส์
      แสนเกษมชูดาบที่หามีไม่
      ฉันนั้นประสงค์จำนงไป
      อยู่กริฟฟินดอร์ให้เหมือนบิดา
      สเนปทำเสียงฮึดฮัด
      เจมส์ พอตเตอร์ขัดใจร้องว่า
      มีปัญหาหรือไงให้ว่ามา
      สเนปว่าไม่มีสิ่งใด
      หากนายอยากเป็นพวกเพาะกล้าม
      ไร้ปัญญาก็ตามอัชฌาสัย
      ซิเรียสพูดขัดทันใด
      นายก็ไม่มีทั้งสองอัน
      ลิลี่ก็ได้พูดว่า
      ไปเถิดอย่าได้หุนหัน
      พลางชวนสเนปจรจรัล
      สองกุมารเยาะหยันไยไพ
      เดี๋ยวเจอกันนะสนิฟเวลลัส
      ขัดขาแต่หาทำสำเร็จไม่
      พอสวมหมวกคัดสรรไป
      ลิลี่ได้อยู่กริฟฟินดอร์
      สเนปมองตามด้วยผิดหวัง
      เธอนั่งกับพวกนั้นแล้วหนอ
      พอเห็นสายตาตัดพ้อ
      เธอยิ้มขอโทษเป็นที
      สเนปได้อยู่สลิธีริน
      สมดังจินดาหวังไว้นี่
      สองคนยังเป็นไมตรี
      แต่มีตัดพ้อต่อกัน
        (จบฉาก3 :หลายปีผ่านไป)
      ฉันคิดว่าเราเป็นเพื่อนสนิท
      เหตุใดจึงคิดบิดผัน
      สเนปตั้งคำถามพลัน
      ลิลี่นั้นก็ตอบทันที
      พวกเรานั้นเพื่อนสนิท
      มิได้คิดฉันทาจำไว้นี่
      แต่เธอผูกมิตรไมตรี
      คนไม่ดีฉันไม่พอใจ
      เพื่อนเพื่อนบ้านสลิธีริน
      หยามหมิ่นแมคโดนัลด์ได้
      สเนปก็ว่าทันใด
      อย่าใส่ใจเอาขำเถิดนงเยาว์
      นั่นมันเป็นเวทมนต์ร้ายกาจ
      อาจจะทำร้ายคนแล้วเจ้า
      คิดว่าเป็นเรื่องเบาเบา
      ตัวฉันนั้นไม่เข้าใจ
      แล้วทีพอตเตอร์เพื่อนคู่หู
      สเนปจู่ถามด้วยขัดอัชฌาสัย
      ลิลี่บอกไปทันใด
      ไม่เกี่ยวกันกับในเรื่องนี้
      พวกเขาชอบไปไหนเล่า
      เจ้าลูปินก็น่าบัดสี
      หายไปในยามราตรี
      รุ่งแสงรวีจึงกลับมา
      ลิลี่ว่าเขาเกิดโรคัน
      สเนปบอกฉันไม่เชื่อว่า
      เขาจะได้เกิดโรคา
      ทุกจันทราเต็มดวงหรือว่าไร
      ลิลี่ว่าเข้าใจทฤษฎี
      ที่เธอนี้มีความสงสัย
      แต่เธอนั้นอกตัญญูไป
      ไม่รู้จักบุญคุณคน
      เจมส์ พอตเตอร์ช่วยชีวา
      สเนปโกรธาโกลาหล
      ช่วยฉันงั้นหรือนิรมล
      ไม่พ้นช่วยตนและมิตรา
      ฉันไม่อยากให้เธอเป็นคนโง่
      เจมส์พอตเตอร์อวดโก้เป็นหนักหนา
      วีรบุรุษควิดดิชนักกีฬา
      หัทยาจำนงเธอนี้
      ลิลี่ก็ได้บอกพลัน
      ฉันรู้ว่าพอตเตอร์น่าบัดสี
      เย่อหยิ่งยโสอวดดี
      ไม่ควรที่จะจำนรรจา
      แต่มิตรของเธอนั้นชั่วร้าย
      สหายจงฟังฉันว่า
      สเนปชุ่มชื่นทันตา
      แล้วก้าวบาทาดำเนินไป
      (จบฉาก4)
      ด้วยเวรามารอแล้ว
      เพื่อนแก้วจะขัดอัชฌาสัย
      สเนปนั่งพิงพฤกษาไพร
      ใกล้พวกตัวกวนเล่นกัน
      ซิเรียสบอกว่าน่าเบื่อหน่าย
      สหายก็ชี้ให้ดูนั่น
      ดูสิดูว่าใครกัน
      แกล้งมันคงจะสนุกดี
      สเนปหยิบไม้กายสิทธิ์ฤทธิรุทธ
      เจมส์ปลดอาวุธเร็วรี่
      ซิเรียสร่าเริงทันที
      ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ศัตรู
      พอสเนปนั้นล้มคว่ำลงกับพื้น
      ทั้งสองหายืนเฉยเดินเข้าไปสู่
      เยาะหยันไยไพศัตรู
      คนอื่นอยากดูก็เข้ามา
      เจมส์นั้นก็ถามทันใด
      ข้อสอบเป็นไงทำได้ไหมหว่า
      ซิเรียสว่าฉันเห็นกับตา 
      นาสิกติดข้อสอบรอยมันมี
      ฝูงคนก็ได้หัวเราะ
      เยาะหยันกันเกษมศรี
      สเนปว่าคอยดูที
      กูนี้จะมารอนราญ
      จะทำอะไรเราได้
      ไยไพแล้วก็กล่าวสาร
      หรือจะเอาจมูกใหญ่บาน
      กล้าหาญมาเช็ดหน้าเรา
      สเนปพ่นคำหยาบคาย
      เสกมนตร์ร้ายไม่ไปถึงเขา
      เจมส์ว่าอย่าได้ดูเบา
      จงเจ้าล้างปากจะดี
      สเนปนั้นก็สำลัก
      เพื่อนรักเดินเข้ามานี่
      แล้วกล่าววาจาทันที
      ฉันนี้ให้ปล่อยเขาไป
      ว่าอย่างไรหรือจ๊ะเอฟเวนส์
      ลิลี่เขม้นด้วยขัดอัชฌาสัย
      ฉันบอกให้ปล่อยเขาไป
      เขาทำอะไรให้เธอ
      เจมส์ทำท่าเหมือนใคร่ครวญ
      คิดคำนวณแล้วกล่าวแก้เก้อ
      การที่เขามีตัวตนอยู่นี่แหละเออ
      หากว่าเธอจะพอเข้าใจ
      กลุ่มคนหัวเราะดังลั่น
      ตบมือสนั่นหวั่นไหว
      ลิลี่มิได้สนใจ
      ร้องบอกออกไปทันที
      เธอคิดหรือว่าเธอน่าขำ
      ฉันจะย้ำเธอมันน่าบัดสี
      ปล่อยเขาอย่าได้ราวี
      ไม่งั้นจะเห็นดีกัน
      เจมส์ว่าฉันนั้นจะปล่อยแน่
      ถ้าแค่เธอยอมไปเที่ยวกับฉัน
      ฉันนั้นก็จะปล่อยมัน
      ไม่แกล้งกันฉันให้สัญญา
      สเนปคำสาปเริ่มหมดฤทธิ์
      คิดแก้แค้นแสนสหัสา
      คืบคลานไปตามมรคา
      ไปหยิบไม้ขึ้นมาดีใจนัก
      ฉันไม่ไปเที่ยวกับเธอหรอก
      ลิลี่บอกต่อให้ง้อจนอ่อนศักดิ์
      หากฉันได้ไปเที่ยวกับปลาหมึกยักษ์
      ยังดีนักว่าไปเที่ยวกับตัวเธอ
      โชคร้ายจังเลยนะเพื่อน
      ซิเรียสเตือนเฮ้ยเจมส์อย่าเผลอ
      แต่สายไปแล้วสิเออ
      เจมส์ พอตเตอร์โลหิตติดหน้าไป
      เจมส์หันมาสาปสเนป
      ให้เจ็บอายดังเลือดตาไหล
      โยนเขาห้อยหัวขึ้นไป
      โชว์กางเกงในต่อฝูงชน
      ทุกคนก็ได้หัวเราะ
      เยาะหยันกันดูสับสน
      ฝ่ายว่าลิลี่นิรมล
      จวนจนแย้มยิ้มเห็นกับตา
      สเนปนั้นสุดอับอาย
      แม้ตัวจะตายเสียดีกว่า
      ให้หญิงมาช่วยชีวา
      จะเอาหน้าไปแฝงไว้แห่งไร
      ลิลี่ก็ได้พูดว่า
      ปล่อยเขาลงมานะจะบอกให้
      เจมส์ก็แก้คำสาปทันใด
      ตามใจมารศรีด้วยใจรัก
      สเนปก็คิดแก้แค้น
      ให้สาแทนที่มันแกล้งกูหนัก
      ซิเรียสมิได้ให้ผ่อนพัก
      สเนปกลิ้งหนักลงดินดาน
      ฉันบอกให้ปล่อยเขาไป
      พูดพลางหยิบไม้เจมส์กล่าวสาร
      นี่แน่ะโฉมยงนงคราญ
      ไม่ต้องการสาปเธอจงเชื่อฟัง
      ถ้างั้นก็ปล่อยเขาไปซะ
      เจมส์กล่าววจีแก้มนต์ขลัง
      แล้วก็เยาะเย้ยเอ่ยวาจัง
      ชีวังรอดได้เพราะนงเยาว์
      สเนปนั้นสุดอัประมาณ
      ดังพระกาฬมาผลาญชีวิตเจ้า
      ก็พูดออกไปด้วยใจเบา
      ใครเขาต้องการเลือดสีโคลน
      พูดไปแล้วกลับคิดได้
      ต่อไปกูจะได้หวยโหน
      เรียกเธอว่าเลือดสีโคลน
      ดูดังโจรร้ายใจทมิฬ
      ลิลี่ว่าฉันมายุ่งนักหรือ
      ขออย่าถือครั้งต่อไปไม่ยุ่งสิ้น
      จะพูดไปก็ก็หาว่าเล่นลิ้น
      ว่าแล้วยุพินเอ่ยวาจา
      ถ้าหากว่าฉันเป็นเธอนะ
      ฉันจะซักกางเกงในบ้างหนา
      สนิฟเวลลัสลิลี่เรียกฉายา
      กลั้นน้ำตาแค้นนักในใจจินต์
      เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว
      เพิ่งรู้ว่าเพื่อนแก้วคิดดูหมิ่น
      เจมส์ก็โกรธแทนยุพิน
      อย่าหยามหมิ่นเจ้าจงขอขมา
      ลิลี่ว่าฉันไม่สนใจ
      แล้วก็ไยไพเจมส์ว่า
      บังคับให้เขาขอขมา
      โทษาเธอนั้นก็มี
      เจมส์นั้นก็พูดทันใด
      ฉันไม่เคยจะเรียกโฉมศรี
      ด้วยคำที่มันไม่ดี
      มารศรียิ่งโกรธโกรธา
      ทำผมยุ่งเหมือนเพิ่งลงจากไม้กวาด
      ทำอวดอาจกับลูกสนิชหนา
      สาปคนที่ทำให้เธอโกรธา
      เลี่ยนนักหนาฉันอยากอาเจียน
      ว่าพลางกระทืบบาทา
      เรียกเท่าไรกัลยาไม่หันเศียร
      เจมส์ก็ถามเพื่อนนักเรียน
      ทำเนียนเหมือนไม่สนใจ
      เธอนั้นพูดจาหยาบร้าย
      ความหมายนั้นเป็นไฉน
      ซิเรียสตอบพลันทันใด
      ไฉไลว่านายอวดดี
      เจมส์ยิ่งกริ้วโกรธโกรธา
      บอกว่าจะเห็นกันแล้วนะนี่
      แล้วซ้ำสาปสเนปทันที
      ใครนี้อยากเห็นฉันถอดกางเกงใน
      (จบฉาก5)
      สเนปพร่ำวอนขอโทษ
      ลิลี่ไม่โปรดตัดอัชฌาสัย
      อย่าได้ร่ำวอนพิไร
      พูดไปก็เปลืองวาจา
      ตอนนี้เป็นเวลาราตรี
      สุริย์ศรีนั้นลับเวหา
      ลิลี่ก็ได้ออกมา
      ประจันหน้ากับสเนปนั้น
      ที่ฉันออกมาหานาย
      เพราะสหายได้บอกแก่ฉัน
      ว่านายจะนอนที่นี่นั้น
      สเนปว่าฉันสัจจา
      ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเรียกเธอ
      ลิลี่ว่าเผลอหรือว่า
      ลิ้นเธอนั้นมีวิญญาณ์
      จึงกล่าววาจาตามใจ
      ฉันนั้นขี้เกียจแก้ตัว
      แม้เธอจะชั่วสักเท่าไหร่
      เพื่อนเพื่อนฉันไม่เข้าใจ
      เหตุใดคบหาเป็นมิตร
      ถ้าอยากเข้าร่วมผู้เสพความตาย
      คบกับสหายที่ทำผิด
      ต่อไปไม่ขอเป็นมิตร
      สเนปคิดร่ำพิไรวอน
      ฉันไม่ได้ตั้งใจเรียกเธอว่า
      อย่าโกรธาโปรดฟังฉันก่อน
      ฝ่ายลิลี่อนงค์บังอร
      ดวงสมรก็ตอบทันใด
      เธอเรียกทุกคนที่กำเนิด
      เกิดแบบฉันว่าอย่างนี้ฉันสงสัย
      แล้วฉันนั้นต่างอย่างไร
      พูดพลางกลับไปที่นอน
      สเนปกระเสือกกระสนจะกล่าว
      เด็กสาวไม่ฟังคำอ้อน
      ถึงจะร่ำไห้พิไรวอน
      บ่ห่อนจะให้อภัย
      (จบฉาก6:หลายปีผ่านไป)
      ต่อมาลิลี่ได้แต่งงาน
      นงคราญเป็นสุขอย่าสงสัย
      อยู่กับเจมส์มีโซ่คล้องใจ
      ให้ชื่อแฮร์รี่กุมารา
      ผลกรรมจะนำถึงที่ตาย
      ไปได้ยินคำทำนายทายว่า
      อันซึ่งเด็กน้อยกุมารา
      ผู้จะมาฆ่าจอมมาร
      เกิดเดือนที่เจ็ดวางวาย
      ตัวพ่อนั้นชายกล้าหาญ
      ต่อสู้เคียงกับนงคราญ
      ผู้เป็นมารดาของเด็กน้อย
      สู้จอมมารได้ถึงสามครั้ง
      จอมมารได้ฟังคำถ้อย
      จึงคิดจะฆ่าเด็กน้อย
      โอรสกลอยสวาทสเนปวอน
      โปรดไว้ชีวิตนงคราญ
      จะสังหารคนอื่นผมไม่อ้อน
      ไว้แต่ลิลี่ผมขอวอน
      แล้วก็ บ่ ห่อน จะไว้ใจ
      อนึ่งซึ่งเจ้าแห่งมาร
      จะไว้นงคราญกูสงสัย
      จำกูจะไปพิไร
      วอนไหว้ขอร้องดัมเบิลดอร์
      แม้กูจะเป็นผู้เสพความตาย
      แต่สายสวาทของกูนั้นหนอ
      เป็นคนของดัมเบิลดอร์
      ถ้าขอก็คงยอมตาม
      นัดพบกันที่หน้าผา
      ดัมเบิลดอร์ฤทธาชาญสนาม
      โผล่ออกมาฟ้าดินครั่นคร้าม
      อารามไม้หลุดจากมือ
      อย่าฆ่าผมเลยสเนปว่า
      ดัมเบิลดอร์ถามมาทำไมหรือ
      มีข่าวเจ้านายมาแจ้งฤๅ
      สเนปว่าผมไม่ถือคำเจ้านาย
      ผมมาเตือนจงระวัง
      โปรดฟังก่อนที่จะสาย
      ไม่ใช่ผมมาขอร้องอย่าใจร้าย
      ผู้เสพความตายมีอะไร
      เรื่องคำทำนายทายทัก
      คุณก็รู้จักหรือไม่ใช่
      แล้วเธอบอกเขาไปเท่าไร
      ทั้งหมดเท่าที่ได้ยิน
      ท่านคิดว่าเป็นโฉมฉาย
      จะฆ่าให้ตายทั้งสิ้น
      ดัมเบิลดอร์ว่าที่เธอได้ยิน
      มิใช่ยุพินแต่โอรส
      คุณก็รู้ว่าผมว่าไง
      จะฆ่าให้ตายเสียทั้งหมด
      ทั้งสามีนงคราญและโอรส
      จะม้วยหมดด้วยมือจอมมาร
      ดัมเบิลดอร์นั้นครั้นได้ฟัง
      ก็เอ่ยวาจังกล่าวสาร
      แม้ว่าโฉมยงนงคราญ
      เยาวมาลย์มีความสำคัญ
      เขาน่าจะไว้ชีวิต
      เหตุใดไม่คิดขอนั่น
      สเนปก็ตอบคำพลัน
      ผมนั้นขอแล้วเป็นสัจจา
      ดัมเบิลดอร์ว่าน่ารังเกียจนัก
      ให้ประจักษ์ตอนนี้ฉันรู้ว่า
      ทุกคนก็อาจมรณา
      หากเธอสมปรารถนาเข้าใจดี
      สามีลูกชายบรรลัย
      เธอไม่สนใจหรอกนะนี่
      สเนปพร่ำวอนเอ่ยวจี
      คุ้มครองเธอนี้พร้อมครอบครัว
      ดัมเบิลดอร์ก็ว่าทันใด
      มีอะไรตอบแทนบ้างจะยังชั่ว
      สเนปว่าปวารณาตัว
      ดีชั่วสุดคุณจะสั่งมา
      ทุกสิ่งทุกอย่างในธรณี
      หากคุณนี้ต้องการจะไปหา
      มาให้คุณพูดจริงเป็นสัจจา
      โปรดเมตตาคุ้มครองไฉไล
      ด้วยกรรมเวรามาตามติด
      ชีวิตหาได้คงไม่
      ภัสดาและนางอรไท
      มาม้วยบรรลัยอยู่ด้วยกัน
      กอดศพนางร่ำโศกา
      เจ้าแก้วตาจากลับไปสวรรค์
      ว่าพลางโศการำพัน
      โกรธกันฉันทาสิ่งใด
      หากว่าไม่เอาคำทำนายนั่น
      ไปให้มันหรือโฉมจะสิ้นได้
      หนีไปสวรรคาลัย
      ไม่มีเมตตาปราณี
      ก็รู้สึกตัวว่าตัวผิด
      สุดคิดแล้วนะโฉมศรี
      โปรดผินพักตร์มากล่าววาที
      จะด่าตีก็ตามแต่ใจ
      พอถึงห้องทำงานดัมเบิลดอร์
      ก็ตัดพ้อด้วยน้อยใจใหญ่
      ไหนคุณว่าจะป้องกันภัย
      เหตุใดจึงม้วยมรณา
      เขากับเจมส์ไว้ใจคนผิด
      ชีวิตจึงสิ้นสังขาร์
      เหมือนเธอคิดจอมมารจะเมตตา
      ไม่เข่นฆ่าโฉมเฉลาเยาวมาลย์
      ลูกของเขานั้นได้รอดตาย
      เป็นชายดูทีกล้าหาญ
      ดวงเนตรไม่ผิดนงคราญ
      จำเนตรเยาวมาลย์ได้ฉันมั่นใจ
      สเนปไม่อาจทนฟัง
      เอ่ยวาจังด้วยขัดอัชฌาสัย
      โฉมศรีนั้นม้วยบรรลัย
      พูดไปใช่ว่าเป็นมา
      นี่หรือคือความสำนึกผิด
      ฉันนั้นยังคิดกังขา
      สเนปว่าแม้นตัวมรณา
      ยังดีกว่าที่เป็นดังนี้
      จะขอลาตายตามแม่ดวงจิต
      ไปสถิตฟากฟ้าราศี
      ดัมเบิลดอร์ก็เอ่ยวจี
      ด่วนเสียชีวีไปทำไม
      เธอก็รู้ที่เขามรณา
      ปกป้องโอรสาหรือไม่ใช่
      ช่วยฉันปกป้องเด็กไป
      จะให้ประจักษ์ว่ารักจริง
      สเนปใคร่ครวญเห็นว่า
      แม่โฉมกัลยายอดหญิง
      ตายด้วยรักลูกก็จริง
      แต่มีสิ่งทำให้รำคาญ
      จะปกป้องเขาไปทำไมเล่า
      เจ้านายผมก็สิ้นสังขาร
      ต่อไปไม่มีจอมมาร
      ลูกนงคราญก็คงปลอดภัย
      ดัมเบิลดอร์ว่าเขาจะกลับมา
      กุมาราจะอันตรายใหญ่
      สเนปรับคำด้วยจำใจ
      อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้
      ต้องมาคุ้มครองลูกศัตรู
      แสนอดสูสารพัดจะบัดสี
      ขอคุณเมตตาปรานี
      อย่าเอ่ยวจีแพร่ไป
      ความดีจะไม่ให้เล่า
      เอาก็เอาตามแต่อัชฌาสัย
      หากว่าเธอนั้นมั่นใจ
      ฉันไม่เผยขอให้สัญญา
      รับคำจะเป็นอาจารย์ให้
      อยู่ในโรงเรียนคาถา
      สอนศาสตร์วิชาปรุงยา
      กว่าเด็กจะมาโรงเรียนนี้
      ( จบฉาก 7: 10 ปีผ่านไป)
      พอเห็นลูกน้อยนางโฉมฉาย
      เป็นชายกล้าดังราชสีห์
      ดวงเนตรไม่ผิดชนนี
      ยิ่งเห็นยิ่งมีความโศกา
      แต่ทั้งใบหน้าและร่างกาย
      กลับคล้ายชนกแค้นหนักหนา
      อคตินั้นเข้าบังตา
      ไม่ทันพิจารณาดูให้ดี
      ก็บอกแก่ดัมเบิลดอร์
      ลูกพ่อเหลือเกินเด็กนี่
      เย่อหยิ่งยโสอวดดี 
      พาทีว่าร้ายทุกประการ
      ดัมเบิลดอร์นั้นครั้นได้ฟัง
      ก็เอ่ยว่าจังตอบสาร
      ถ้วนทั่วทุกหมู่อาจารย์
      ชมกุมารว่าดีนักครัน
      ขอเธอจงหมั่นระวังภัย
      ระวังระไวอย่าหุนหัน
      ครูสอนป้องกันศาสตร์มืดคนนั้น
      จงหมั่นดูไว้ให้ดี
      ( จบฉาก 8: 3 ปีผ่านไป)
      สเนปยืนอยู่ห้องโถงกลาง
      ยืนข้างบอกดัมเบิลดอร์นี่
      จอมมารเริ่มเรืองฤทธี
      คาร์คารอฟนั้นหนีซอกซน
      ตั้งใจหนีไปหากกลับมา
      จอมมารโกรธาโกลาหล
      เพราะเขานั้นได้ทรชน
      บอกกลแก่พวกไพรี
      ดัมเบิลดอร์นั้นครั้นได้ฟัง
      เอ่ยวาจังว่าแล้วเธอจะหนี
      หรือไม่ส่งแจ้งให้ทราบที
      สเนปนี้ก็เอ่ยวาจา
      ผมนั้นไม่ใช่คนขี้ขลาด
      เป็นชายองอาจแกร่งกล้า
      ถึงแม้จอมมารฟื้นมา
      พร้อมทำตามสัญญาที่รับไว้
      ดัมเบิลดอร์ว่าเธอกล้าหาญ
      ชายชาญฉันไม่สงสัย
      เราอาจคัดสรรเร็วไป
      ออกทันใดทิ้งสเนปอยู่เอกา
      (จบฉาก 9 :2 ปีผ่านไป)
      ดัมเบิลดอร์นั้นป่วยเกือบตาย
      เกือบวายชีวังสังขาร์
      สเนปก็ได้ออกมา
      ร่ายคาถาแก้กันทันที
      แล้วก็ถามด้วยนึกสงสัย
      ทำไมถึงสวมแหวนนี่
      แหวนมันเป็นตัวกาลี
      สารพัดไม่ดีทุกสิ่งอัน
      อย่างคุณก็น่าจะรู้
      ทำไมยังจู่ลู่สวมแหวนนั่น
      ดัมเบิลดอร์ก็ตอบคำพลัน
      ฉันนั้นถูกยั่วยวนหลงไป
      สเนปว่าอะไรยั่วเล่า
      ดัมเบิลดอร์เขาหาตอบคำไม่
      สเนปว่าโชคดีเท่าไร
      ที่คุณยังไม่มรณา
      ดัมเบิลดอร์ก็ตอบคำพลัน
      ฉันนั้นคงถึงสิ้นสังขาร์
      เธอจงบอกออกตามสัจจา
      เหลือเวลาอีกสักเท่าไร
      สเนปว่าผมไม่อาจบอก
      หาได้หลอกคุณอย่าสงสัย
      คงจะปีหนึ่งประมาณไว้
      ดัมเบิลดอร์บอกไปทันที
      ฉันนั้นก็โชคดีนัก
      ที่มีมิตรรักประเสริฐศรี
      เลิศล้ำโลกาธาตรี
      ไม่มีผู้เปรียบเทียบทาน
      หากคุณตามผมเร็วกว่านี้
      คงจะไม่วายชีวีสังขาร
      คงต่อชีวิตให้อยู่นาน
      บรรลัยลาญช้ากว่านี้ไป
      คุณนั้นทำให้แหวนแตก
      แหลกลงมันน่าสงสัย
      หรือคุณคิดว่าแหวนแตกไป
      คุณจะไม่ได้มรณา
      ดัมเบิลดอร์ว่าคงทํานองนั้น
      ฉันนั้นเกือบจะเป็นบ้า
      ขอเธออย่าได้สงกา
      แล้วกล่าววาจาต่อไป
      ทีนี้เรื่องง่ายขึ้นนักหนา
      สเนปก็ว่าด้วยสงสัย
      คุณนั้นพูดเรื่องอะไร
      ดัมเบิลดอร์บอกไปทันที
      ก็เรื่องของแผนจอมมาร
      ที่จะให้สังหารฉันนี่
      เด็กเดรโกนั้นน่าโศกี
      เห็นครั้งนี้จะม้วยมรณา
      เดรโกนั้นไม่มีฤทธิ์
      หรือจะประสิทธิ์ดังคำว่า
      ลงโทษบิดรมารดา
      จอมมารทรมาจิตใจ
      หากว่าเขาทำไม่สำเร็จ
      เธอจะทำให้เสร็จหรือไม่ใช่
      สเนปก็บอกทันใด
      แน่ใจตามที่คุณเอ่ยวจี
      ดัมเบิลดอร์ก็ว่าทันใด
      ฉันเข้าใจแล้วในสารศรี
      เขาไม่จำเป็นต้องมี
      สายลับอยู่ที่นี่แล้วหรือว่าไร
      สเนปก็เอ่ยวาจา
      ตามคุณว่านั้นมันก็ใช่
      โรงเรียนจะถูกยึดเขามั่นใจ
      ดัมเบิลดอร์คัดค้านให้สัญญา
      ถึงตอนนั้นเธอจะช่วยปกป้อง
      คุ้มครองดูแลรักษา
      ทั้งเด็กหญิงชายที่เข้ามา
      สเนปพยักหน้าจำใจ
      งั้นงานแรกเธอจงช่วยสืบสวน
      เร่งกระบวนอย่าทำให้สงสัย
      เดรโกนั้นตื่นกลัวภัย
      บอกไปว่าจะแนะนำงาน
      เขานั้นโปรดปรานเธอนัก
      คงจักฟังที่เธอกล่าวสาร
      สเนปว่าเขาไม่โปรดปราน
      จอมมารกริ้วโกรธโกรธา
      ต่อชนกผู้เป็นที่รักของเขา
      เดรโกโศกเศร้าคิดว่า
      ผมแย่งตำแหน่งบิดา
      โกรธาดังไฟเพลิงกาฬ
      เอาเถิดก็ลองดูสักหน่อย
      ฉันไม่ค่อยสนหรอกหากถูกสังหาร
      แต่คนอื่นจะม้วยวายปราณ
      เป็นน่าสงสารรำคาญใจ
      มีทางเดียวที่จะช่วยเดรโก
      สเนปโมโหถามด้วยขัดอัชฌาสัย
      งั้นคุณตั้งใจจะบรรลัย
      ตายไปด้วยมือเด็กนี้
      ดัมเบิลดอร์ก็ได้กล่าวไป
      ฉันให้สิทธิ์นั้นแก่เธอนี่
      ตัวเธอก็เรืองฤทธี
      จงฆ่าชีวีฉันวายปราณ
      สเนปก็ได้พูดเยาะ
      จำเพาะให้ผมสังหาร
      ลงมือเดี๋ยวนี้หรือจะขอกาล
      จารจารึกหลุมศพว่าตัวดี
      ดัมเบิลดอร์ก็ได้กล่าวไป
      ไม่รีบขนาดนั้นหรอกนะนี่
      แต่คงไม่ทันพ้นปี
      ฉันนี้จะม้วยมรณา
      หากคุณไม่ห่วงบรรลัย
      ทำไมไม่ให้เดรโกฆ่า
      ดัมเบิลดอร์ว่าห่วงวิญญาณ์
      กุมาราจะแตกทำลาย
      คุณห่วงวิญญาณเดรโก
      น่าโมโหหงุดหงิดไม่รู้หาย
      แต่วิญญาณผมจะถูกทำลาย
      วอดวายคุณไม่สนใจ
      แต่เธอนั้นก็น่าจะรู้นะ
      วิญญาณเธอจะเป็นไฉน
      ปีนี้ฉันจะบรรลัย
      อยากจากไปไม่ทรมา
      น้ำเสียงเขานั้นร่าเริงนัก
      แต่ดวงจักษุแรงกล้า
      ราวกับมองเห็นวิญญาณ์
      สเนปพยักหน้าจำใจ
      ( จบฉาก 10)
      สเนปดัมเบิลดอร์เดินเคียงข้างสนาม
      สเนปก็ถามด้วยสงสัย
      ว่าคุณได้ทำอะไร
      ในห้องกับเด็กคนนั้น
      ดัมเบิลดอร์ก็ว่าด้วยอ่อนใจ
      ทำไมอีกล่ะกับเด็กนั่น
      หาเรื่องเขาแทบทุกวัน
      เด็กคนนั้นเศร้าโศกโศกา
      เฮอะ เขาก็ไม่ผิดบิดร
      ดัมเบิลดอร์กล่าวสอนไปว่า
      ถึงแม้ดวงผิวพักตรา
      เหมือนบิดาแต่ใจคล้ายชนนี
      ที่ฉันขลุกอยู่กับเขา
      บอกเล่าข้อมูลแฮร์รี่
      ก่อนฉันจะวายชีวี
      สเนปว่าคุณนี้ไม่ไว้ใจ
      บอกเล่าข้อมูลแก่เด็กนั่น
      ตัวผมหาทราบมันไม่
      ดัมเบิลดอร์ว่าไม่ได้ไม่ไว้ใจ
      ฉันแค่ไม่อยากใส่ความลับ
      ลงในตะกร้าใบเดียว
      เฉพาะที่เกี่ยวห้อยไว้อยู่กับ
      จอมมารสเนปก็รับ
      ผมอยู่กับท่านตามวาจา
      ของคุณที่สั่งผมให้
      ดัมเบิลดอร์บอกไปฉันรู้ว่า
      ใช้ชีวิตเสี่ยงกับมรณา
      เป็นสายลับสองหน้าอันตราย
      ถึงเธอจะบอกความลับ
      กลอกกลับปิดบังเงื่อนสาย
      ฉันรู้เธอเสี่ยงชีวาวาย
      ฉันไม่ได้ไว้วางใจใคร
      หน้าที่นี้สำคัญยิ่งนัก
      เธอเท่านั้นที่ฉันจักเชื่อไม่สงสัย
      นอกจากเธอแล้วจะมีใคร
      ที่ไว้ใจให้ทำงานนี้
      แต่คุณยังบอกกับเด็ก
      ยังเล็กกลับแจ้งสารศรี
      จิตใจเชื่อมโยงจอมฤทธี
      ดัมเบิลดอร์ว่าเขานี้หวาดกลัว
      ไม่อาจครอบครองแฮร์รี่
      วิญญาณดีไม่อาจรวมวิญญาณชั่ว
      สเนปก็ว่าตามใจตัว
      เหตุใดมัวพูดถึงวิญญาณ
      ที่เราพูดนั้นคือจิตใจ
      ดัมเบิลดอร์ตอบไปตามสาร
      หัทยาแลก็วิญญาณ
      จอมมารแฮร์รี่เหมือนกัน
      หลังจากที่เธอฆ่าฉันแล้ว
      พูดเจื้อยแจ้วสเนปโกรธตัวสั่น
      คุณสั่งผมทำงานสารพัน
      แต่คุณนั้นไม่มีสัจจา
      ไม่เคยบอกผมทุกอย่าง
      กล่าวอ้างคำสั่งหนักหนา
      ผมนั้นอาจเปลี่ยนหัทยา
      ดัมเบิลดอร์ก็ว่าสัญญาแล้ว
      สเนปยังไม่หายโกรธา
      ดัมเบิลดอร์ก็ว่าเสียงแจ้ว
      มาหาฉันคืนนี้แล้ว
      จะได้รู้แกวว่าไว้ใจ
      (จบฉาก 11)
      ดัมเบิลดอร์ก็เดินย่ำหน้า
      บอกว่าอย่าบอกเขาให้
      จนเขาสำเร็จงานไป
      งานอะไรสเนปเอ่ยวาจา
      มันเป็นเรื่องของฉันกับเขา
      ขอเจ้าจงอย่ากังขา
      หากจอมมารผู้เรืองฤทธา
      กลัวว่างูจะอันตราย
      เธอนั้นจงเอ่ยวจีถ้อย
      บอกแก่ลูกน้อยนางโฉมฉาย
      ว่าวันพ่อแม่วอดวาย
      วิญญาณร้ายปักลงกายา
      หากว่าแฮร์รี่ยังไม่ตาย
      จอมมารหรือจะวายสังขาร์
      ถ้าเช่นนั้นเด็กต้องมรณา
      สเนปกล่าววาจาสงบใจ
      จอมมารต้องเป็นคนฆ่า
      เธอนั้นจงอย่าสงสัย
      สเนปว่าผมคุ้มชีวาลัย
      เด็กไว้เพราะเห็นแก่มารดา
      เราคุ้มครองสอนให้เขาเรียน
      พากเพียรหมั่นฝึกศึกษา
      ให้เเกร่งจนถึงเวลา
      มรณาของเขาและจอมมาร
      คุณตั้งใจจะให้เขาตาย
      วอดวายชีวังสังขาร
      เมื่อถึงเวลาควรกาล
      ดัมเบิลดอร์ว่าวานอย่าตกใจ
      กี่คนแล้วที่เธอเห็นมรณา
      สเนปก็ว่าด้วยขัดอัชฌาสัย
      ครั้งหลังที่คนบรรลัย
      เพราะไม่อาจช่วยชีวา
      ผมนั้นไม่อาจทนได้
      คุณหลอกใช้ดัมเบิลดอร์ก็ว่า
      หมายความว่าอย่างไรจงบอกมา
      สเนปก็ว่าทันใด
      ผมนั้นได้ทำงานหนัก
      เกือบจักวอดวายบรรลัยให้
      เพราะจะคุ้มครองชีวาลัย
      ให้โอรสโฉมฉายวิไลวรรณ
      ตอนนี้คุณบอกเขาต้องตาย
      ตามโฉมฉายไปยังสวรรค์
      ตายเหมือนหมูถูกฆ่าบูชายัญ
      รำพันด้วยกริ้วโกรธา
      อ๋อเธอนั้นเริ่มห่วงใย
      ในเด็กแล้วใช่ไหมหว่า
      สเนปยิ่งกริ้วโกรธา
      เสกคาถาผู้พิทักษ์ทันที
      กวางสาวกระโจนโผนจากไม้
      โดดออกไปในกลางหาวศรี
      พุ่งไปในรุ่งราตรี
      ดัมเบิลดอร์นี้คลอน้ำตา
      ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้
      สเนปกล่าววจีอย่าพักว่า
      ตลอดกาลอย่าได้สงกา
      แล้วเวลาก็ผันแปรไป
      (จบฉาก 12)
      สเนปพูดกับรูปภาพเหมือน
      ดัมเบิลดอร์ก็เตือนบอกให้ 
      เธอจงบอกจอมมารแต่จริงไป
      วันไหนแฮร์รี่จะออกมา
      จอมมารไว้ใจเธอนัก
      ให้ประจักษ์เรื่องที่ออกจากเคหา 
      แต่เธอจงลองทำตามวาจา
      เสกคาถาใส่มันดังกัส
      หากเธอถูกบังคับให้ไล่ล่า
      จงทำอย่าให้ใจขัด
      ทําเนียนทุกสิ่งสารพัด
      จึงจัดว่าเมตตาปรานี
      ไม่งั้นนักเรียนจะตาย
      วอดวายมากยิ่งกว่านี่
      สเนปรับคำทันที
      บอกว่าคุณนี้อย่ากังวล
      (จบฉาก13)
      เสกคาถาใส่มันดังกัส เฟลทเชอร์
      ตัวเจ้าอย่าเผลอสับสน
      ให้มีพอตเตอร์หลายคน
      เด็กนั้นจึงพ้นภัยพาล 
      (จบฉาก14)
      ผู้เสพความตายไล่ลูปิน
      จวนสิ้นชีวังสังขาร
      สเนปกลัวม้วยชนมาน
      หาญชี้ไม้กายสิทธิ์นั้น
      เล็งที่มือผู้เสพความตาย
      แต่กรรมเคราะห์ร้ายบันดาลนั่น
      ถูกหูจอร์จเจ็บแทบสิ้นชีวัน
      แต่บุญนั้นยังไม่มรณา
      (จบฉาก15)
      สเนปอยู่ห้องพ่อทูนหัวแฮร์รี่
      โศกีน้ำตาลงอาบหน้า
      เห็นจดหมายของกัลยา
      ลงท้ายมาด้วยรักจริงใจ 
      จดหมายไม่ได้เขียนถึงเขา
      โฉมเฉลานั้นได้เขียนให้
      แก่สหายสามีเพื่อนคู่ใจ
      ก็ยังเก็บไปด้วยภักดี
      โอ้ว่าลิลี่โฉมฉาย
      วอดวายไปฟ้าราศี 
      เพราะว่าตัวฉันนั้นไม่ดี
      สารพัดอัปรีย์ทุกสิ่งอัน
      อุตส่าห์ได้รักผูกมิตร
      ยิ่งคิดยิ่งแสนโศกศัลย์
      หากว่าภายในวันนั้น
      ฉันไม่ได้เอาคำทำนาย
      ไปบอกแก่เจ้าแห่งมาร
      นงคราญหรือจะสิ้นได้
      ถึงอยู่ก็เหมือนกับตาย
      เฝ้าฟูมฟายโศกาอาลัย
      อุตส่าห์คุ้มครองในบุตร
      ของนงนุชหมั่นเอาใจใส่
      วันนี้เขาจะบรรลัย
      ตามไฉไลไปยังเมืองฟ้า
      จะว่ารักนั้นก็ไม่ได้
      ด้วยใจยังแค้นหนักหนา
      ในตัวของผู้บิดา
      แต่ว่าไม่อยากให้บรรลัย
      ด้วยเนตรของเจ้าเด็กน้อย
      เหมือนเนตรกลอยสวาทอย่าสงสัย 
      คิดพลางโศกาอาลัย
      เก็บรักเธอไว้กับตัว
      แล้วก็ฉีกรูปเป็นสองชิ้น
      เก็บรูปยุพินกำลังหัว
      โยนลูกชายสามีให้พ้นตัว
      ถึงใครว่าชั่วไม่สนใจ
      (จบฉาก16)
      สเนปกลับมาที่ห้อง
      ได้ครองตำแหน่งอาจารย์ใหญ่
      ฟินิแอสก็ได้บอกไป
      อาจารย์ใหญ่ผมได้ทราบมา
      พวกเขาอยู่ในป่าดีนนะ
      ผมน่ะได้เลือดสีโคลนว่า
      สเนปว่าอย่าจำนรรจา
      ฟินิแอสก็ว่าทันใด
      เอาเถอะเจ้าเด็กเกรนเจอร์
      เผลอพูดผมเลยรู้ได้
      ภาพเหมือนดัมเบิลดอร์พูดทันใด
      เอาดาบไปส่งให้เขานี้
      แต่ต้องให้เขาใช้ปัญญา
      และความกล้าให้สมศักดิ์ศรี
      แต่อย่าให้เขาทราบคดี
      เดี๋ยวจอมมารนี้จะสงกา
      สเนปว่าผมนั้นรู้
      ผมไม่จู่ลู่อย่าพักว่า
      ว่าพลางหยิบดาบออกมา
      จากรูปเรขาทันที
      คุณยังไม่บอกผมหรือไร
      ว่าทำไมต้องให้ดาบนี่
      ดัมเบิลดอร์ว่าไม่พูดจะดูดี
      ขอเธอนี้จงระวังตัว
      เด็กพวกนั้นคงกริ้วโกรธา
      แทนเชษฐาคิดว่าเธอชั่ว 
      สเนปว่าอย่าได้กลัว
      อย่ามัวร่ำวอนพิไร 
      ผมนั้นมีแผนการแล้ว
      คงแคล้วปลอดภัยไปได้
      ว่าพลางเดินออกทันใด
      มุ่งตรงเข้าไปในไพรวัน
      (จบฉาก17)
      ด้วยกรรมเคราะห์ร้ายบันดาล
      จอมมารกริ้วโกรธตัวสั่น
      เรียกสเนปเข้ามาว่าพลัน
      ฉันนั้นเคยได้สงกา
      ว่าไม้กายสิทธิ์ดัมเบิลดอร์นี้ 
      เหตุใดไม่มีฤทธิ์กล้า
      ตามที่ตำนานเล่ามา
      ตอนนี้ฉันว่าเข้าใจ
      เพราะเธอนั้นได้สังหาร
      ล้างผลาญชีวิตอาจารย์ใหญ่
      หากเธอยังคงชีวาลัย
      ที่ไหนไม้จะมีฤทธิ์ 
      ว่าพลางเสกคาถาทันใด
      ตั้งใจสังหารผลาญจิต
      แล้วก็สั่งอสรพิษ
      คิดฆ่าเขาให้บรรลัย
      ตอนที่จะถึงที่ตาย
      วอดวายก็อยากร้องไห้
      อันตัวฉันนี้จะบรรลัย
      จากไปไม่ห่วงชีวา
      แต่ว่าลูกน้อยโฉมเฉลา
      เจ้ายังไม่ทันได้รู้ว่า
      ตัวเจ้าต้องตายวายชีวา
      แต่ด้วยบุญญาบารมี
      ทำให้แฮร์รี่เดินเข้าใกล้
      สเนปรีบให้สารศรี
      ในรูปเพนซิฟด้วยภักดี 
      แล้วกล่าววจีต่อไป 
      ร่ำไห้วอนพิไรว่า
      โปรดสบนัยนาดูให้
      เห็นดวงตานางแล้วบรรลัย
      ตายไปฟากฟ้าดุษฎี
      (จบฉาก18)
      หลังจากแฮร์รี่ได้รู้ความ
      ตามเพนซิฟที่แจ้งสารศรี
      ก็อุตส่าห์สละชีวี
      ต่อตีซึ่งท่านจอมมาร
      ด้วยบุญบันดาลดลให้
      ชีวาลัยไม่วายสังขาร
      กลับฟื้นคืนชีพวิญญาณ
      สังหารพาลาปัจจามิตร
      (จบฉาก19:19ปีผ่านไป)
      ครั้นสิบเก้าปีผ่านไป
      มีแต่สุขเหมือนอยู่ในดุสิต
      อยู่กับจินนี่มิ่งมิตร
      มีโซ่คล้องดวงจิตถึงสามคน
      ด้วยอาลัยพ่อทูนหัวและบิดา
      ชื่อบุตราตั้งตามอุทิศกุศล
      ลูกคนรองชื่ออาจารย์ใหญ่สองคน
      นฤมลบุตรีตามมารดา
      ชื่อรองเป็นชื่อเพื่อนรัก
      ผิวพักตร์จำเริญเสน่หา
      ครั้นถึงจึงจวนเวลา
      โอรสาคนรองไปโรงเรียน
      พี่ชายก็หยอกซึ่งน้อง
      เห็นเจ้าจะลองไปอ่านเขียน
      ไปอยู่ที่นั่นที่โรงเรียน
      กลัวจะเพี้ยนไปอยู่สลิธีรีน
      อนุชาก็ให้ร้อนรน
      อยู่ไปไม่พ้นคนดูหมิ่น
      บิดาปลอบว่าราคิน
      เจ้าดวงชีวินของบิดร
      ถึงเจ้าจะอยู่สลิธีริน
      ก็ไม่มีใครหมิ่นพ่อจะสอน
      อันชื่อของเจ้านั้นบิดร 
      ตั้งตามอาจารย์ที่สอนทั้งสองคน 
      ทั้งคู่นั้นเป็นอาจารย์ใหญ่ 
      ทั้งคู่ใฝ่สร้างทางกุศล
      ต่อสู้จอมมารจนวายชนม์ 
      ความกล้าหาญนั้นพ้นประมาณ
      อัลบัส เซเวอร์รัส ลูกเอ๋ย 
      ทรามเชยจงฟังพ่อขาน
      ชื่อรองลูกตั้งตามอาจารย์
      ผู้ซึ่งอยู่บ้านสลิธีริน 
      เขานั้นกล้าหาญชาญชัย 
      ในโลกนี้ไม่มีใครกล้าหมิ่น
      เจ้าจงฟังอย่าได้ราคิน
      ถึงอยู่สลิธีรินพ่อก็รัก 
      แต่หากอยากอยู่กริฟฟินดอร์
      จงขอหมวกเถิดไม่หาญหัก
      มันก็คงตามใจลูกรัก
      พลางจูบพักตร์ลูกยาปลอบใจ
      (อวสาน)
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×