ตอนที่ 1 : การพบเจอ
-1-
การพบเจอ
“องค์หญิง ได้โปรด ทรงหยุดเถอะเพคะ”
คำร้องขอจากองครักษ์ส่วนพระองค์ไม่ได้รับความสนใจแต่อย่างใด องค์หญิงลูดากำลังวิ่งเก็บดอกไม้สีสวยไปทั่วอุทยานในบริเวณพระตำหนักอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้ระวังทำเอาคนเป็นองครักษ์ต้องวิ่งวุ่นตามไปทั่ว
องค์หญิงอีลูดา พระราชธิดาขององค์จักรพรรดิกวังซู กษัตริย์ผู้ครองเมืองในดินแดนทางตะวันตก ซึ่งถูกเรียกขานกันว่าเมืองแห่งหุบเขา องค์จักรพรรดิทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 2 พระองค์ ได้แก่ องค์รัชทายาทฮยอนอู และองค์หญิงลูดา
“อึนซอ ถ้าเจ้ายังไม่พูดกับข้าเหมือนเดิมล่ะก็ ข้าจะโกรธเจ้าจริงๆด้วย”
องค์หญิงทรงพูดกับเหล่าดอกไม้ในมือ เพื่อส่งผ่านข้อความไปยังอีกคน ซน อึนซอ องครักษ์ที่เป็นทั้งสหายคนสนิทครั้นยังเด็กจนถึงตอนนี้ พอได้เข้ารับราชการก็ได้รับความไว้วางใจเป็นถึงองครักษ์ส่วนพระองค์ขององค์หญิงแห่งดินแดนตะวันตก
“ถึงองค์หญิงจะรับสั่งอย่างนั้น หม่อมฉันก็...”
“เราเป็นเพื่อนกันนะ” องค์หญิงรับสั่งอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันไปยิ้มให้กับองครักษ์ของตน อึนซอ ได้แต่ยิ้มอย่างละเหี่ยใจปนเอ็นดูให้กับความเอาแต่ใจขององค์หญิง แล้วแบบนี้เธอจะขัดรับสั่งได้อย่างไร
“แต่ท่านต้องไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ได้แล้วนะ”
ทันใดองค์หญิงก็หน้ามุ่ยขึ้นมา นี่คือสาเหตุที่องค์หญิงลูดาต้องเสด็จรอนแรมมาถึงยังที่แห่งนี้ ดินแดนตะวันออก เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลององค์รัชทายาทที่เพิ่งจะได้รับการสถาปนา
“เจ้าน่ะจุ้นจ้านจริงๆ ข้าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมท่านพ่อถึงส่งข้ามาแทนที่จะเป็นท่านพี่” ถึงจะรับสั่งแบบนั้นแต่องค์หญิงก็จำยอมต้องเดินไปหาองครักษ์ของตน
“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ก่อนหน้าที่เราจะเดินทางกันมา ท่านยังดีใจที่ได้มาเที่ยวอยู่เลยนะ”
“ข้าไม่ชอบงานเลี้ยงเอิกเกริก เจ้าก็รู้” ยิ่งนึกถึงองค์หญิงก็ยิ่งมุ่ยหน้า
“ท่านไม่อยากเห็นพระพักตร์องค์รัชทายาทหรอกเหรอ ข้าได้ยินคนเขาลือกันว่าองค์รัชทายาทโบนาน่ะ งดงามเป็นที่หนึ่งในแผ่นดินเลยนะ” อึนซอพยายามหาเรื่องเพื่อดึงความสนใจขององค์หญิงมิฉะนั้นคงไม่ยอมหยุดงอแงเป็นแน่
“ก็แค่คำคนเขาลือกัน ข้าไม่เห็นสนใจเลยซักกะนิด ข้าว่านะ นางคงจะชอบทำหน้าบึ้งตึงและหยิ่งทนงเป็นแน่” องค์หญิงรับสั่งเรื่อยเปื่อยไปตามความคิดของตน
“องค์หญิง!” อึนซอทำเสียงเข้มเป็นการเตือนว่าไม่ควรรับสั่งออกมาอย่างนั้น หากแต่ว่าอาจไม่ทันการเสียแล้ว
“ขออภัยถ้าหากใบหน้าของข้ามันบึ้งตึงและหยิ่งทนง” เจ้าของเสียงที่สามปรากฎกายบนม้าสีดำในชุดสีขาวด้านหลังสะพายคันธนูและซองใส่ลูกธนูอย่างดีเอาไว้ ผมยาวสีดำขลับรวบขึ้นสูงเผยใบหน้าให้เห็นอย่างชัดเจน สองมือจับบังเหียน ร่างบางไหล่ผายหลังตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม สายตาคมกริบมองมายังเจ้าของคำกล่าวหา ดูท่าคำที่เขาเล่าขานจะไม่เกินจริงเสียกระมัง องค์รัชทายาทโบนา เจ้าของใบหน้าที่งดงามที่สุดในแผ่นดิน
ข้างกันยังปรากฏสาวงามที่มีใบหน้างดงามไม่แพ้กันบนอาชาสีขาว องค์หญิงเฉิงเซียว พระขนิษฐาในองค์รัชทายาท สองพระองค์มักจะเสด็จเคียงกันอยู่เสมอ
เหล่านางกำนัลที่ถูกเกณฑ์มาเพื่อรับใช้พระราชอาคันตุกะอย่างองค์หญิงอีลูดาต่างพากันน้อมกายเมื่อเห็นนายเหนือหัวเสด็จผ่านมา รวมทั้งองครักษ์อย่างอึนซอที่พอจะล่วงรู้ได้ว่าบุคคลตรงหน้าเป็นใคร หากแต่องค์หญิงเองกลับยืนนิ่ง ทั้งยังส่งสายตากลับไปอย่างไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใดๆ
“ข้า..ข้าไม่ได้กำลังพูดถึงท่านเสียหน่อย” ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจพูดออกไปอย่างเต็มปากได้ หากแต่องค์หญิงจะมิยอมเสียหน้าเป็นแน่ สายตาที่ทรงทอดลงมาขององค์รัชทายาททำให้พระองค์ไม่ชอบใจอยู่ในที ทั้งยังการวางท่าปั้นใบหน้าเรียบเฉยแบบนั้นอีก
“ขออภัยถ้าหากข้าเข้าใจท่านผิด ข้าไม่ทราบมาก่อนว่ามีแขกอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งนี้ ขออภัยถ้าหากข้ามารบกวน” องค์รัชทายาทยังคงรับสั่งด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่สายตายังคงยังไม่ละออกจากดวงตาแข็งกร้าวแต่กลับชวนฝันที่บัดนี้กำลังสั่นเล็กน้อยของอีกฝ่าย ราวกับทั้งสองพระองค์กำลังทำศึกสงครามกันผ่านดวงตา และไม่มีใครยอมละสายตาออกจากกัน
“องค์รัชทายาทเพคะ เดี๋ยวจะไม่ทันการ” องค์หญิงเฉิงเซียวเอ่ยเตือนองค์รัชทายาท ท่าทีที่ดูสง่างาม สงบ ชวนให้ใครต่อใครประทับใจยามได้มองของพระองค์ไม่เคยเป็นที่ครหา “องค์หญิงลูดา ถ้าหากขาดเหลืออะไร ขอให้รีบทรงบอกนางกำนัลได้เลยนะเพคะ”
“องค์หญิงเฉิงเซียวช่างน้ำใจงามยิ่งนัก” องค์หญิงลูดาโน้มพระวรกายเล็กน้อยเอ่ยรับองค์หญิงเฉิงเซียวที่ทรงเคยพบกันแล้ว หากสายตากลับปรายทิ้งไปที่องค์รัชทายาท
“องค์รัชทายาทเพคะ เราต้องไปแล้ว” องค์หญิงเฉิงเซียวเอ่ยบอกอีกครั้งครั้นเกรงว่าศึกทางสายตานี้ดูท่าทางจะยืดเยื้อเป็นแน่
ณ พระตำหนักองค์รัชทายาท
“น้องว่าพี่ทำหน้าตาบึ้งตึงอย่างนั้นเหรอ” องค์รัชทายาทโบนาเอ่ยถามองค์หญิงเฉิงเซียวเมื่ออยู่กันตามลำพัง องค์หญิงทรงหัวเราะออกมาเล็กน้อย เมื่อองค์รัชทายาทนึกใส่พระทัยในคำพูดของคนอื่นขึ้นมา หากในยามปกติที่องค์รัชทายาทมักไม่สนพระทัยในคำครหาของใครก็ตามอยู่แล้ว แม้จะเป็นคำพูดที่แสดงถึงเสียงคัดค้านและความไม่ภักดีในตัวองค์รัชทายาทก็ตาม
“ท่านพี่กำลังกังวลสิ่งใดอยู่หรือ ในยามปกติท่านพี่ไม่เห็นสนใจเสียหน่อย” คงด้วยเหตุที่ว่าไม่เคยพบใครกล้าท้าทายอำนาจด้วยท่าทางดื้อดึงปฏิเสธเท่าองค์หญิงลูดากระมัง ท่านพี่ของเธอถึงได้ดูสูญเสียความมั่นใจขึ้นมาเสียแบบนี้ มือสวยสัมผัสไปตามใบหน้าของตนเองอย่างครุ่นคิดให้น้องที่มองดูอย่างเธอได้นึกขัน
“พี่หาได้กังวลสักหน่อย เพียงแต่... นางเป็นใครกัน” องค์รัชทายาททรงปฏิเสธข้อสงสัยขององค์หญิงผู้น้อง หากแต่พระองค์เองก็สงสัยมาตลอดทางที่เสด็จกลับมายังพระตำหนักเหมือนกันว่าเจ้าของดวงหน้าและดวงตาชวนฝันนางนั้นเป็นใคร
“องค์หญิงอีลูดา แห่งดินแดนตะวันตก เสด็จแทนองค์จักรพรรดิอีกวังซูเพคะ”
-
แอบมาเปิดเรื่องใหม่จนได้แล้วค่ะ 5555555
อยากแต่งพีเรียดมานานแล้วค่ะ พล็อตนี้คิดไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ก็ไม่ได้แต่งซักที
จนตอนนี้อดไม่ไหว คนพิดูเหมาะมากจริงๆ >///<
ภาษาอาจยังไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่ ติชมกันได้นะ จะพยายามปรับเปลี่ยนเรื่อยๆ
ขอฝากอีกเรื่องไว้ในอ้อมอกด้วยนะคะ T___T
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หาฟิคยาวโบลูอ่านมานานมากแล้วค่ะฮือออดีใจที่ไรท์มาเขียนเพราะไรท์เขียนสนุกมากกกรอติดตามนะคะสู้ๆค่ะไรท์
ไฟนอลลี่มีฟิคโบลูแนวพีเรียดให้อ่านสักทีค่ะ อยากอ่านมานานแล้ว ขอบคุณที่แต่งนะคะ แล้วก็เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ :)