ตอนที่ 15 : I'm on your side
Episode 15
ร่างสูงของสายตรวจสาวในชุดไปรเวทหลังจากออกเวรแล้วกำลังยืนพิงรถของตัวเองอยู่ในที่จอดรถในโรงพยาบาล สายจดจ้องไปที่ช่อดอกไม้ในมือแล้วอมยิ้มให้กับตัวเองเล็กน้อย มันถึงเวลาที่ต้องพูดอะไรสักอย่างแล้ว ก็เดี๋ยวนักกายภาพบำบัดสาวของเธอจะเปลี่ยนใจจริงๆเสียก่อน หลังจากวันนั้นที่เธอทั้งสองคนจูบกัน พวกเธอก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก เพราเจ้าสายตรวจที่อยู่ดีๆก็ขี้ป๊อดขึ้นมา เอาแต่เป็นกังวล เป็นกังวลว่าจะพูดไม่ถูกใจเธอ ถึงจะเหมือนรู้ก็เถอะว่าเธอคนนั้นก็รู้สึกเหมือนกันก็เถอะ แต่อยู่ดีๆจะให้มาพูด มันเกิดเขิลขึ้นมา แล้วทำไมสายตรวจผู้ที่ใครๆก็ต่างว่าเป็นคาสโนว่าจะต้องมาเขิลกัน ไม่ได้สิ เสียฟอร์มที่วางท่ารุกเธอเสียตั้งแต่แรกหมด
วันนี้จะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง
“อ่ะ.. จะมาแล้วทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะคะ”
ซองโซมีทีท่าชะงักนิดหน่อยเมื่อเห็นร่างสูงที่คุ้นเคยของผู้ป่วยตัวแสบที่ตอนนี้ไม่ป่วยแล้วของเธอด้วยท่าทางสบายๆก่อนจะเดินมาหาเธอพร้อมช่อดอกไม้ทันทีที่เธอเดินออกมาจากประตูอัตโนมัติของโรงพยาบาล
“ถ้าบอกก่อนคุณก็ไม่ตกใจน่ะสิ”
“ฉันไม่ได้ตกใจสักหน่อยค่ะ แล้วดอกไม้...”
“ของคุณไง”
อึนซอยื่นดอกไม้มาข้างหน้า มือบางรับมาก่อนจะทำหน้าสงสัยนิดหน่อยแต่ก็ยังส่งยิ้มให้กับสายตรวจที่ดูหน้าตาสดใสและพกความมั่นใจมามากกว่าทุกวัน
“เนื่องในโอกาสอะไรคะ..”
“เนื่องในโอกาส.. อยากให้”
ท่าทางสบายๆของสายตรวจตัวสูงทำให้เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย ดูท่าจะไม่ประหม่าเหมือนครั้งที่แล้วที่เจอกัน
“ไปเดินเล่นกันนะ.. เฉิงเซียว”
......................................................................
เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตคันสีแดงดับลง ผู้หมวดตัวเล็กที่เป็นคนขับรถแทนคนเจ็บทำทีว่าจะเดินนำไปก่อน แต่หากก็แอบมองคนตัวสูงกว่าเป็นระยะๆ ก่อนจะถึงห้องของคนตัวเล็กที่กลายเป็นที่นอนของอีกคนไปแล้ว ผู้หมวดตัวสูงกว่าได้แต่ย่นจมูกแล้วเดินตามคนตัวเล็กเข้าห้องแต่โดยดี ลูดาทำท่าว่าจะโกรธเธอจริงๆเข้าแล้ว ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากซักหน่อย คนตัวเล็กไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่ขึ้นรถจนเข้าห้องมา ทำให้คนเจ็บเริ่มจะหวั่นๆ เดินเลี่ยงเข้าไปในครัวก่อนจะหยิบขวดน้ำดื่มออกมา
แต่พอหันกลับมาก็ถูกคนตัวเล็กกว่าสวมกอดแน่นพร้อมเอาศีรษะซุกลงไปที่ไหล่ของคนเจ็บ
อยู่ดีๆคำพูดของซอลอาก็ทำให้เธอกังวล ‘ขี้หึงแบบนี้ ระวังเขาจะเบื่อเอานะคะ’
“เธอ..เบื่อฉันหรือเปล่า”
คำถามของคนตัวเล็กทำโบนาต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะระบายยิ้มออกมาอ่อนๆ มือบางยกขึ้นปลดกระดุมคอเสื้อเชิ้ตสีขาวออกก่อนจะกระชับอ้อมกอดของผู้หมวดตัวเล็ก
“ถามอะไรแบบนั้นล่ะ”
“ตอบมาสิ ! .. แล้วปลดกระดุมทำไม”
ผู้หมวดลูดาเลิกตามองอีกคนที่อยู่ๆก็ปลดกระดุมเสื้ออออกสองเม็ด ใบหน้าคมก้มลงมาใกล้ก่อนจะแกล้งทำเสียงกระซิบ
“ก็เธอรัดฉันแน่น ฉันหายใจไม่ออก”
ตอบไปตามความจริงก่อนผู้หมวดตัวเล็กจะส่งค้อนวงใหญ่ มือเล็กทุบเข้าที่อกของคนตัวสูงกว่าหนึ่งที แถมวงแขนที่รัดแน่นมากกว่าเดิม ซุกใบหน้าลงไปอีกครั้ง
“ตอบมาก่อน..”
รัดแน่นขนาดนี้จะให้ตอบอย่างอื่นได้ยังไง แล้วทำไมอยู่ดีๆก็มาถามแบบนี้กันนะ
“ไม่..ไม่เคยเลย”
“จริงๆนะ”
“อื้ม .”
โบนากระชับอ้อมกอดของคนตัวเล็กอีกครั้งพร้อมพยักหน้าหงึกๆให้อีกคนมั่นใจในคำตอบของเธอ ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ๆเพราะเรื่องอะไรในวันนี้ที่ทำให้ลูดาดูเป็นกังวลขึ้นมา ปลายจมูกโด่งจึงกดเน้นเข้าไปที่แก้มใสของคนตัวเล็กหนักๆให้เจ้าตัวต้องร้องประท้วง
“งื้ออออ..โบนา ปล่อยนะ เดี๋ยวก็เจ็บแผลอีกหรอก”
“ไม่ปล่อยแล้ว เธอเข้ามากอดฉันก่อนเองนี่หน่า”
“ไม่ปล่อยใช่ไหม..” คนตัวเล็กจ้องมองอย่างคาดโทษ เมื่อดูคนตัวสูงกว่าจะไม่ยอมปล่อยจริงๆ
“อ..โอ๊ยย ! หยิกฉันทำไมอ่ะ โอ๊ยๆ” มือเล็กบิดเข้าที่เอวจนโบนาร้องเสียงดัง แต่เรียวแขนกลับยิ่งโอบกระชับมากขึ้นไม่ยอมปล่อยให้คนตัวเล็กได้เป็นอิสระจนอีกคนต้องหยิกซ้ำอย่างหมั่นไส้
“ถ้าแผลหายแล้วจะทำมากกว่านี้อีก.. ยังไม่เคลียร์เรื่องเมื่อกลางวันเลยนะ” ว่าอย่างนั้นก็กลับไปยืนนิ่งๆให้เขากอด
“เมื่อกลางวันเธอไปกินข้าวกับมิกิ” โบนาพูดเสียงเรียบนิ่งก่อนจะฝังจมูกลงไปที่แก้มใสของผู้หมวดลูดาอีกครั้ง “แล้วก็ป้อนเนื้อให้มิกิด้วย”
พูดอีกก็ฝังจมูกลงไปที่แก้มใสของคนตัวเล็กอีกข้าง
“เธอก็ทำตามเหมือนกันนั่นแหละ” ลูดาว่าก่อนจะมองค้อนตอบกลับไป โบนาสิที่ต้องถูกคาดโทษเพราะกล้าลองดีมาทำตามเธอ
“อ่ะ..งั้นให้หอมคืน” คนตัวสูงกว่ายื่นแก้มใสของตัวเองมาบ้าง ลูดาทำเป็นเสมองไปทางอื่น เดี๋ยวนี้โบนาชักจะเอาใหญ่แล้วจริงๆ เจ้าของใบหน้าสวยคมจะแสดงออกเก่งกว่าเมื่อก่อน และมันทำให้เธอหวง หวงโบนาของเธอมากขึ้นทุกวัน
มือเล็กยกขึ้นหยิกแก้มใสที่ยื่นเข้ามา คนตัวสูงกว่าหยีตายู่หน้าแต่ก็ยอมให้เธอหยิกไม่ไปไหนจนเธออดยิ้มไม่ได้ มันทำให้เธอนึกถึงคำพูดของซอลอาอีกครั้ง ‘เขาน่ะ รักคุณมากๆเลยนะคะ’
ถึงแม้โบนาจะไม่ได้มาพูดให้เธอฟังทุกวัน อันที่จริงคนตัวสูงกว่าเคยพูดอยู่แค่ครั้งเดียว ตอนที่เขากำลังเมาเธอนั่นแหละ และถึงแม้เราสองคนจะไม่เคยพูดถึงสถานะของกันและกัน แต่ทุกการกระทำของโบนาก็ย้ำชัดคำพูดของซอลอาเป็นอย่างดีว่ามันคือเรื่องจริง และเธอก็รู้สึกแบบเดียวกัน
“พอใจหรือยัง ให้หอมไม่ใช่ให้หยิก” คนตัวสูงถามเสียงอ่อน ลืมตาขึ้นมามองคนที่กำลังยิ้มอยู่เมื่อแรงหยิกที่แก้มจางลงก่อนจะค่อยๆปล่อยให้เธอเป็นอิสระ คนตัวเล็กยืดตัวขึ้นหอมแก้มแดงๆเพราะรอยหยิกก่อนจะยกมือขึ้นดูความเรียบร้อยของผ้าพันแผลของเขา
“นี่..ฉันถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไรเหรอ”
“เธอกำลังสืบเรื่องของพ่อฉันอยู่ใช่ไหม”
..........................................................
ดวงอาทิตย์สีส้มกลมโตกำลังจะลาลับขอบฟ้า สองร่างหยุดลงที่ใต้ต้นไม้ในสวนสาธารณะ ใบไม้สีส้มที่ถูกลมพัดร่วงหล่นลงมา ลอยคั่งค้างอยู่ในอากาศ สายตรวจตัวสูงคงจะต้องเสียดายมากแน่ๆ ถ้าไม่พูดมันออกมาตอนนี้ อึนซอจับมืออีกคนให้หยุดไว้
“เอ่อ..คือว่านะ”
“คะ?” ซองโซยิ้มให้คนตรงหน้า
“คือ...” อึนซอกระพริบตาถี่อย่างคนใช้ความคิด
“คือ?”
“คือเรื่องก็มีอยู่ว่า...”
“ว่า?”
“คือว่างี้.. แปปนึงนะ” ร่างสูงหันหลังให้อีกคนก่อนจะทึ้งหัวตัวเองแรงไปหนึ่งที
อ๋า.. จะพูดอะไรกันเนี่ย ! ทำไมนึกไม่ออก โอเค เอาใหม่..
“คือว่านะ... ฉันน่ะ ตอนนั้นก็ผ่าตัดที่ขา แล้วก็นะ...”
“ค่ะ..ฉันตกลง” ซองโซพูดขึ้นมาขณะที่อีกคนยังอ้ำๆอึ้งๆ
“อ๋า.. เดี๋ยวก่อนสิ ให้ฉันพูดก่อน”
“รอคุณพูดวันนี้ก็ไม่ได้ขอหรอกค่ะ”
“เดี๋ยวสิ.. เฉิงเซียว”
“คะ?”
“เป็นแฟนกันนะ”
“ค่ะ..”
ซองโซตอบรับอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม มือบางหยิบเอาเศษใบไม้ที่ร่วงลงมาปิดหน้าปิดตาคนตัวสูงพร้อมกับที่เขาค่อยๆเผยยิ้มออกมา เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร เธอเพิ่งจะรู้จักเขาเพียงแค่ไม่กี่เดือนเอง แต่รู้ตัวอีกทีก็คงหลงรักรอยยิ้มของเขาไปซะแล้ว และถ้าหากความรู้สึกของเราทั้งสองตรงกัน เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฎิเสธคำขอของเขา ถึงแม้จะยังไม่รู้จักกันดีแต่เธอก็พร้อมจะเรียนรู้อีกคนไปพร้อมๆกัน..
“ตรงนี้ไม่ได้นะคะ” ซองโซเอ่ยปรามคนที่ดีใจแล้วเผลอคว้าเธอไปกอด
“แปปเดียวนะเฉิงเซียว ถ้าไม่กอดตอนนี้เดี๋ยวมันจะไม่โรแมนติค”
ทำอะไรตามใจตัวเองตามแบบฉบับของเขานั่นแหละ
คนไข้ตัวแสบ..
......................................................
“เธอกำลังสืบเรื่องของพ่อฉันอยู่ใช่ไหม”
ถึงแม้ว่าโบนาจะสนิทกับเธอมากแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็อยากจะสืบเรื่องนี้ตัวเอง นี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเธอ และตอนนี้พวกที่เกี่ยวข้องก็กำลังเผยตัวออกมา ลูดาไม่อยากพลาดโอกาสที่จะแก้แค้นให้พ่อของเธอ อีกอย่างแผลที่หัวของโบนาก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นฝีมือของคนที่ระแคะระคายความเคลื่อนไหวของเขา
“...” ผู้หมวดคิมโคลงหัวเล็กน้อย
“เราจะไม่คุยเรื่องนี้กัน แต่ฉันขอห้ามไม่ให้เธอเข้ามายุ่ง” ลูดาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะชี้นิ้วเป็นเชิงสั่งใส่คนตรงหน้า
“ฉันไม่รับปากหรอกนะ” ผู้หมวดตัวสูงกว่าย่นจมูก ลูดากันเธอออกจากเรื่องนี้ไม่ได้หรอก
“นี่มันเป็นเรื่องของฉันนะ พ่อของฉัน ความรู้สึกของฉัน เธอจะมารู้อะไร” คนตัวเล็กเริ่มจะฉุนขึ้นมานิดๆเมื่อโบนาทำเป็นเฉยเมยต่อคำสั่งของเธอ และเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าเผลอขึ้นเสียงใส่เขาเธอก็หันหลังหนี อยู่ๆความแค้นลึกๆที่ถูกเก็บไว้มานานมันก็ปะทุขึ้น
“รู้สิ.. ไม่ใข่สิ ฉันอาจจะไม่รู้ก็ได้ พ่อของเธอ ความรู้สึกของเธอ ลูดายา แต่ฉันอยู่ข้างเดียวกับเธอนะ”
แขนเรียวดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดจากทางด้านหลังก่อนจะเอาหน้าเกยบนไหล่เล็ก โบนากระชับอ้อมกอดแน่น ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมให้คนตัวเล็กต้องต่อสู้เพียงคนเดียว ถึงตอนนี้ลูดาจะเก่งกาจแค่ไหน แต่โบนารู้ เธอต้องการคนช่วยเหลือ
“เธอมีฉันนะ”
“แต่ฉันไม่อยากให้เธอมายุ่ง” ผู้หมวดตัวเล็กเสียงอ่อนลง
“ฉันเก่งนะ” คนตัวสูงกว่าไม่ว่าอย่างเดียวกลับกดจมูกลงไปที่แก้มใสของคนในอ้อมกอด
“อื้อ..แล้วแผลที่หัวนี่คืออะไร”
“คือแผลสิ”
“อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะยอมนะ” มือเล็กพยายามดันใบหน้าซุกซนนั่นออกไป
“แล้วยอมหรือเปล่า” จูบที่ขมับของคนตัวเล็กเบาๆ
ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะ...
.......................................................
พิหมวดกลับมาแล้วค่ะ แต่สั้นได้อีก T__T
คิดถึงไหมคะ ฮืออ ไม่ เพราะขนาดคนแต่งยังลืม 555555555
ต่อไปก็จะพยายามมาอัพเรื่อยๆนะคะ เพราะจริงๆก็จะจบแล้ว
ตั้งใจจะบู๊ ก็ไม่บู๊เลย มีแต่อะไร ><
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รักคู่่่่่่นี้มากกกกก55555 อึนเซียว โบนาลูดา
โอ้ยยฟินนค่่ะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2560 / 23:40
อัพบ่อยๆเด้อ-//////-
นี่มันแบบน่ารักจริงๆโบลูแบบในฝันเลยหหกสสิยัใบ้ัลดวดาแ
กลับมาพร้อมความน่ารักๆ