ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Te Aroha! ...NZ...

    ลำดับตอนที่ #8 : Day 8: Sun 27/03/11

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 54




                Day 8: Sun 27/03/11

     

                ...ปวดหลังชะมัด T^T...

                    นั่นคือความรู้สึกแรกที่ฉันเป็นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมา ช่วยไม่ได้... ผ้านวมที่ใช้รองนอนก็ไม่ได้หนาอะไรนัก ถึงแม้จะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องที่นอนว่าต้องนุ่มราวกับจมหายไปได้ แต่นอนพื้นแบบนี้มันก็มีปวดเมื่อยตัวเป็นธรรมดา

                    หันไปทางโซฟา เพื่อนสนิทก็ยังคงนอนหลับปุ๋ยไม่รู้สึกรู้สากับเสียงเพลงปลุกของฉันเช่นเคย แต่ฉันก็ยังได้ยินเสียงเธอจามเป็นระยะ ส่วนตัวฉันเองก็มีคัดจมูกบ้างเหมือนกัน เนื่องจากฝุ่นที่เยอะเต็มพิกัดจากผ้านวมและผ้าห่ม รวมถึงอากาศในห้องที่ไม่ค่อนถ่ายเทเท่าที่ควร

                    ...คาดว่าเราสองคนคงได้ฤกษ์เป็นภูมิแพ้ ไม่งั้นก็หวัดรับประทานแล้วล่ะ...

                    หลังจัดการตัวเองเสร็จก็เดินเก็บภาพรอบบ้านนิดหน่อย บ้านหลังนี้ดีอย่างตรงที่ปลูกพืชผักสวนครัวไว้ใช้เองด้วย ทำให้ฉันค่อนข้างจะอึ้งเล็กน้อยกับระบบเศรษฐกิจพอเพียงเล็กๆ ของบ้าน

                    พูดถึงเรื่องเจ้าของบ้านซักหน่อย Hostdad ที่เป็น CEO ไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่นัก อย่างคราวนี้ก็เหมือนว่าจะไปปีนเขาประมาณหนึ่งอาทิตย์ ส่วนลูกชายและลูกสาวของบ้านนี้ก็โตๆ กันหมดแล้ว มีทั้งวิศวกร ทั้งหมอ แล้วก็นางพยาบาล ซึ่งต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปมีครอบครัวจนหมด

                    ...มีเคย์ที่ยังคงอยู่บ้านหลังใหญ่นี่เพียงคนเดียวกับสามี...

                    ฉันรู้จากฟ้าและพลอยมาว่าเคย์สายตาไม่ค่อยจะดีนัก เหมือนมองไม่เห็น ซึ่งฉันก็เชื่อว่าจริงจากหลายเหตุการณ์ หนำซ้ำการที่เธอต้องอยู่บ้านคนเดียวมาตลอดเนื่องจากสามีไม่ค่อยอยู่บ้านทำให้ฉันออกจะเป็นห่วงและสงสารเธอไม่น้อย ซึ่งฟ้ากับพลอยก็บอกฉันว่าเคย์พูดบ่อยๆ ว่า “ชินแล้ว”

                    ...ถึงจะชิน... แต่มันก็เป็นความเคยชินที่หัวใจไม่ได้ต้องการนักหรอก...

                    เอาล่ะ ก่อนจะดราม่า พวกเราจึงรีบกินข้าวเช้าและรีบออกจากบ้านเนื่องจากต้องเดินไปโรงเรียนค่อนข้างไกลพอสมควร แถมเดินไปซักพักฝนก็ดันตกปรอยๆ ลงมาเสียได้!... ยิ่งผ่านไปก็ยิ่งตกหนักขึ้นทุกที ฉันรู้สึกว่ามันตกหนักกว่าสะเก็ดหยดน้ำเมื่อวานเสียอีก แต่ยังไงเราก็คงไม่อาจเลื่อนทริปในวันนี้ได้

                    รถทัวร์คันใหญ่พาพาพวกเราไปบนเขาเพื่อนเล่นเกมตาราง Adventure ในวันนี้... ประเดิมรายการแรกเลยนั่นก็คือเพ้นท์บอล ฉันที่ไม่เคยเล่นมาก่อนก็ค่อนข้างตื่นเต้นพอสมควร แต่เรื่องใหญ่คือฝนยังคงเทมาไม่หยุด หากพวกเราก็ไม่มีทางเลือกไหนดีกว่ายอมใส่ชุดหมีลายทหารพราง ปรับสายหน้ากาก แล้วกระชับปืนอันแสนหนักให้เข้าที่

                    สัญญาณเริ่มเกมดังขึ้น พวกเราพยายามวิ่งเข้าเขตกำบังเพื่อไม่ให้โดนฝ่ายตรงข้ามยิง แล้วก็ต้องพยายามไปแย่งธงฝ่ายนั้นกลับมาให้ได้ ยิ่งเกมผ่านไปนานเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกถึงความเปียก แฉะ และการย่ำไปบนสายธารเล็ก กับโคลนที่เปียกชุ่ม

                    ...ฉันไม่ชอบเอาเสียเลย...

                    ทว่าด้วยความที่เป็นคนชอบยิงปืนเลยยังพอมีความสุขอยู่บ้าง มันคงจะสุขกว่านี้ถ้าฝนจะหยุดตกเสียทีเพราะมันทำให้ทัศนียภาพของหน้ากากพร่ามัว รวมถึงหยาดน้ำที่หยดลงมาตามไรผมทำให้ฉันนึกรำคาญเหลือเกิน หากฉันก็ทำได้แค่หลบบ้างยิงบ้างสลับกันไป

                    โดนยิงไปหลายนัดเหมือนกัน แต่ที่นี่ไม่ได้ยิงโดนแล้วตายเลย ถ้าเพื่อนในทีมมาแปะหลังก็พอฟื้นชีวิตได้ แต่ยังไงก็ตาม ฉันต้องทำให้ตัวเองโดนยิงน้อยที่สุด... เพราะเวลาเม็ดสีกระแทกร่างกายมันก็เจ็บพอสมควร - -^

                    หลังเสร็จเกมที่หนึ่ง ผลสรุปคือพวกสีส้มของฉันแพ้สีน้ำเงินราบคาบ เนื่องจากทีมนั้นมีกลุ่มนักท่องเที่ยวฝรั่งเยอะ ส่วนทีมที่ฉันอยู่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ผู้หญิงกับมือใหม่หัดเล่น จะให้ชนะก็ดูจะเกินไปหน่อย

                    เคลียร์สนามเป็นที่เรียบร้อย พวกที่กระสุนเหลือจะได้ลงเล่นในเกมที่สอง หรือใครปรารถนาจะเสียเงินเพิ่มก็ตามแต่สะดวก น่าเหลือเชื่อที่ว่ากลุ่มสาวๆ ของพวกฉันยอมลงสนามครั้งที่สองอย่างมุ่งมั่น พร้อมฝนที่เหมือนจะหยุดตกแล้ว หากเพราะความที่มีแต่ผู้หญิง... สถานการณ์เลยเลวร้ายกว่าครั้งแรกเสียอีก

                    ...ผลก็ออกมาอย่างที่คิด แพ้ราบคาบพร้อมชุดที่เปียกชุ่ม...

                    ตะลุยสนามรบเสร็จแล้ว เราก็ไปตะลุยสนามรัก... เอ่อ... ไม่ใช่ล่ะ คราวนี้เราจะได้นั่ง Argo (อาร์โก้) มันคล้ายๆ รถถังขนาดเล็ก นั่งได้ห้าคนแบบไม่นับคนขับ มีจำนวน 8 ล้อ ฉันกับเพื่อนได้นั่งเป็นคิวที่สอง ซึ่งก็ค่อนข้างมันส์ไม่น้อย คนขับจะพยายามขับขึ้นไปบนเนินหญ้าแล้วก็หมุนรถลงมาอย่างหวาดเสียว พร้อมตะลุยแหล่งน้ำแหล่งโคลนทุกที่ที่ผ่าน แถมยังตะลุยผ่านฝูงแกะที่ทำเอาเจ้าขนเกรียน (เพราะถูกตัดไปหมด) วิ่งหนีจ้าล่ะหวั่น

                    ...สนุกดีเหมือนกัน เพียงแต่หูอื้อชอบกล...

                    ช่วงกลางวันเรากินข้าวกล่องที่เตรียมมาท่ามกลางธรรมชาติที่ห้อมล้อม สายลมเย็นเฉียบพัดผ่านผิวกายเป็นระยะ มองไปเห็นทุ่งหญ้าเขียวๆ รับกับสีขาวนวลๆ ของเจ้าแกะที่เดินเล็มหญ้าไปตามประสา เหนือไปนั้นเป็นทิวเขาที่สลับไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์

                    น่าแปลกที่ว่าประเทศนี้จะมีวิวเดิมๆ ซ้ำๆ อยู่ทุกที่ คือภูเขา ท้องฟ้า ทุ่งหญ้า ดอกไม้ และทะเล

                    ...แต่มองกี่ครั้งในแต่ละมุม มันก็ช่างมีเสน่ห์ในตัวของมันเองทุกครา...

                    นอกจากท่ามกลางภูเขาแล้ว ข้างๆ เราก็มีไก่สามตัววิ่งเล่นคอยรอกินเศษขนมปังที่เราโยนให้เป็นระยะ เพื่อนฉันร่วมกันตั้งชื่อให้แล้วเรียบร้อย คนนึงตั้งไว้ว่า “5 ดาว”, “เคเอฟซี”, “เชสเตอร์กริลล์” ส่วนอีกคนก็ตั้ง “เทอริยากิ”, “คาราเกะ”กับอะไรซักอย่าง ฟังดูก็น่าสงสารไก่พวกนั้นชอบกล

                    ...ชื่อเป็นมงคลกับชีวิตมันดีจัง - -^...

                    เมื่อตะลุย Adventure เสร็จแล้ว เราก็กลับมาโรงเรียน ขณะที่พวกเราต้องเดินกลับไปบ้านพลอยและฟ้าเช่นเดิมซึ่งแนนจะมารับเราที่นั่น พวกเราเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรได้นอกจากหาเรื่องคุยไปพลาง ก็ไม่พ้นหนุ่มนิวซีแลนด์ที่หน้าตาดี (ฉันตัดตัวเองออกจากหัวข้อนี้โดยสิ้นเชิง) การเรียน การเที่ยวและจิปาถะ

                    พอถึงบ้านเคย์ไม่นานนัก แนนก็มารับฉันกับพิกกี้เพื่อกลับบ้านที่แสนจะสะดวกสบายและคิดถึง ต่อให้มันจะไม่ใหญ่เท่าบ้านของเคย์ แต่เทียบกันแล้วฉันรู้สึกว่าที่ที่ฉันอยู่ช่างเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่พาลให้หัวใจผ่อนคลาย

                    เขียนไดอารี่พลางทบททวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็ระลึกได้ว่าเป็นการตะลุยที่ค่อนข้างเหนื่อยเอาการ แถมยังทำให้ฉันรู้สึกคล้ายจะจับไข้ สุดท้ายฉันเลยคิดว่าเราควรจะกินยาดักไว้เสียหน่อย ไม่งั้นพรุ่งนี้อาจได้ลากสภาพผีซอมบี้ไปโรงเรียนก็เป็นได้

                    ...ก็ถ้าจะเหนื่อยขนาดนี้ ป่วยการเมืองทั้งกลุ่มดีมั้ยหนอ...



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×