คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Day 14: Sat 02/04/11
Day 14: Sat 02/04/11
...อากาศ...หนาวเหมือนเดิม...
วันนี้เรามีทัวร์ที่ทางโรงเรียนจัดให้ นั่นคือการไปทัวร์ตลาด Nelson Market ในตอนเช้า ซึ่งต้องขับรถเข้าไปในตัวเมือง Nelson ในความเข้าใจของฉัน Richmond ที่อยู่เหมือนจะเป็นอำเภอ แล้ว Nelson ก็เหมือนจะเป็นจังหวัด แต่ในกรณีเข้าไปในตัวเมือง Nelson นี่ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจ... อาจจะเหมือนอำเภอเมืองทำนองนั้นล่ะมั้ง?
ตลาดค่อนข้างครึกครื้นกว่าที่คิด ดูเผินๆ ก็เหมือนตลาดทั่วไป ติดจะคล้ายตลาดนัดบ้านเราเสียมากกว่า เลยไม่ค่อยมีอะไรให้ฉันตื่นเต้นนัก นอกจากคอยถ่ายรูปผู้คนไปเรื่อยไป เพราะเหตุสำคัญที่ว่าราคาของมันแพงจนหมดอารมณ์ซื้อ ถ้าถามคนอื่นอาจไม่แพงหรอก เมื่อเทียบกับจำนวนดอลล่าร์และเงินที่พกมา แต่พอคิดเป็นเงินไทยทีไร... ฉันก็ซื้อไม่ลงทุกที
ท่าทางกลับไปงานนี้... นิสัยขี้งกคงรุนแรงยิ่งกว่าเดิมซะล่ะมั้ง...
เสร็จจากเดินตลาด รถก็พาเราแล่นไปยังเกาะนึง ลักษณะคลับคล้ายว่าจะเป็นป่า ส่วนอีกด้านเป็นหาดทรายยาวเหยียด มีเสียงคลื่นกระทบฝั่งกับเสียงลมใสๆ ให้ได้ยินเป็นระยะ มองออกไปก็พบสายน้ำสีใสกับภูเขาและเกาะอยู่เป็นหย่อมๆ ช่างเป็นประเทศที่น่าหลงใหลเสียจริง
นึกโทษกล้องตัวโปรดของตนเอง กับฝืมือการถ่ายภาพที่ไม่เอาไหนเอาเสียเลย
...อยากเก็บความสวยงามทั้งหมดนี่ลงกล้อง มันยากเกินไปงั้นหรือ??...
เพราะธรรมชาติคือสิ่งที่ไม่อาจแปรเปลี่ยน ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบรรจงสร้างมันขึ้น มันเลยกลายเป็นสิ่งสวยงามอันน่ามหัศจรรย์อย่างแท้จริง ลำพังกับแค่กล้องเลนส์ใส ต่อให้จะตั้งใจถ่ายซักเท่าไหร่ มันก็เก็บความสวยงามที่มีได้ไม่ถึงครึ่ง ...ถึงอย่างนั้น... ฉันก็อยากจะเก็บภาพความทรงจำดีๆ เอาไว้
...ไว้ในหัวใจดวงนี้ที่ดียิ่งกว่ากล้องยี่ห้อใด...
ช่วงเกือบบ่ายสอง รถเคลื่อนตัวพาเราไปยังฟาร์มแกะ ที่นั่นบรรยากาศสวยเสียจนละสายตาไปไม่ได้ นึกว่าตนเองอยู่ในละครสี่หัวใจแห่งขุนเขายังไงไม่รู้ มองออกไปรอบๆ อากาศหนาวเย็นก็ไม่อาจกระทบผิวกายให้ใจหวั่นได้ เพราะอุ่นใจเสมอเมื่ออยู่ภายในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของขุนเขารายรอบ
เจ้าของฟาร์มพาเราไปยังมุมตัดขนแกะ พวกมันตัวสั่นไม่รู้เพราะกลัวหรือหนาว แต่หลังจากที่เห็นวิธีโกนขนกับใบมีดก็พอจะรู้ได้ว่าคงไม่ทำให้มันเจ็บอะไรนัก อารมณ์เหมือนผู้ชายโกนหนวดในทุกเช้าเสียมากกว่า
โกนไปซักพัก เขาก็หันมาถามว่ามีใครอยากลองมั้ย... ฉันผู้ซึ่งสนใจในด้านนี้ รวมถึงชอบหาประสบการณ์ใหม่ๆ เลยเสนอตัวเองท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ
พอไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นจริงๆ มือมันก็สั่นขึ้นมา... โหมดแปลภาษาเริ่มทำงานเพี้ยนๆ ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เขาให้ฉันจับแกะไว้ด้วยมือนึง ส่วนอีกมือกระชับแบตเตอเรี่ยน ลักษณะมันคล้ายหวีที่มีใบมีดคมอยู่ด้านในลึกลงไป การทำงานของมันก็แค่หวีไปตามทางเดียวกัน ขนหนากระจุกใหญ่ก็จะหลุดออกมา
ฉันลองไถดูเผินๆ เกรงว่าจะเข้าเนื้อ แต่ขนที่หนามากของมัน และใบมีดที่ไม่คมเท่าไหร่ทำให้มันหลุดออกมาเพียงเล็กน้อย ฉันจึงเริ่มมั่นใจว่าสามารถไถลึกกว่านั้นได้ ไถไปไถมาก็เริ่มชักเกร็งๆ บวกเกรงๆ เลยขอตัวว่าพอแค่นี้ดีกว่า ถึงแม้ว่าเจ้าของฟาร์มจะยุให้ฉันไถอีกด้าน (จนแทบหมดตัวแล้วก็ตาม)
เพื่อนหลายคนนึกสงสารกลัวมันเจ็บสารพัด แล้วก็ไม่ค่อยพอใจที่ฉันไปโกนขนมันเพราะฉันยังไม่ชำนาญเกรงว่าอาจจะพลาดไปโดนมันได้
พอได้ยินคำกดดันแบบนั้น จากที่เกร็งอยู่แล้วเลยกลัวมากเข้าไปใหญ่
...ฉันเองก็เป็นคนรักสัตว์ คิดว่าฉันอยากทำให้มันเจ็บนักหรือไง...
...แล้วฉันก็ไม่ได้อยากเด่น อยากดัง อยากอวดคนอื่นๆ...
...ก็แค่... อยากลองอะไรที่มันไม่เคย...
ฉันเป็นนักเขียน... อาชีพของฉันก็คือนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ที่น่าสนใจให้คนอ่าน ถึงแม้บางอย่างฉันจะหาข้อมูลได้ แต่มันก็แทบไม่ต่างอะไรกับก็อปของคนอื่นมาเขียนต่อเป็นสำนวนใหม่ การเรียนรู้ที่ดีที่สุด และการเขียนที่ดีที่สุดก็คือการได้ลองทำทุกอย่างด้วยตนเอง
...ฉันก็แค่อยากหาวัตถุดิบอันมีค่า ที่เรียกว่า “ประสบการณ์” ให้ตนเองก็เท่านั้น...
เมื่อฉันโกนขนมันเสร็จเท่าที่พอใจ เขาก็ถามว่ามีใครอยากลองอีกมั้ย... ทุกคนพากันส่ายหน้าพรืด เป็นอันว่าฉันกลายเป็นคนเดียวที่ได้ไถขนแกะตัวนี้ไปโดยปริยาย
...เด่นไม่ได้ตั้งใจอีกแล้วเรา...
...บางทีก็ไม่ได้อยากโดนคนอื่นเขม่นนักหรอกนะ...
จะคิดมากต่อก็ใช่ที่ เลยพาตนเองไปเล่นกับหมาต้อนแกะของที่นี่แทน ฉันคุยกับมันเป็นภาษาไทย พลางเกาคาง เกาท้อง ลูบหัวมันไปเรื่อยเปื่อย หมากระดิกหางดุกดิกอย่างน่ารัก ถึงแม้มันอาจจะฟังที่ฉันพูดว่า ‘อย่าทำเสื้อพี่เลอะนะคะเด็กน้อย เดี๋ยวพี่ต้องใส่อีกหลายวันนะ’ ไม่ออกก็ตามที
“เฮ้ย! ไม่พูดภาษาอังกฤษ มันคงฟังออกหรอก”
...เพื่อนหลายคนถาม...
แต่ฉันคิดว่าภาษาไม่ใช่เรื่องสำคัญ แค่น้ำเสียง สายตา ท่าทาง เท่านั้นมันก็มากพอที่จะทำให้หมาขนนุ่มตัวนี้เข้าใจได้แล้ว
สัตว์ก็เหมือนสิ่งมีชีวิตที่จิตใจบริสุทธิ์... เพียงแค่เราพูดดีๆ กับเขา ไม่ว่าจะภาษาไหน ความใสซื่อของเขาก็ทำให้เขาเข้าใจเราได้อยู่ดี
...ฉันเชื่ออย่างนั้น...
เขาไม่เหมือนกับคนหรอก... เขาคิดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น อยากเล่นก็เล่น ไม่อยากเล่นก็เดินหนี เขาไม่ใช่มนุษย์ที่ต้องมานั่งสวมหน้ากาก ปั้นหน้าเสแสร้งสิ่งที่ตนเองไม่ได้เป็น รวมถึงทำเป็นพูดจาอ่อนโยน ทั้งที่จริงในใจกลับเสียดแทงเสียจนย่อยยับ
...ทำไมต้องรังเกียจว่าเขาเป็นสัตว์ เขาจะฟังที่เราพูดไม่รู้เรื่อง เขาจะฟังภาษาเราไม่ออก...
...เป็นเขาหรือไง?... ถึงได้รู้........ จริงมั้ยล่ะ ^^...
ถึงฉันจะไม่ชอบเด็ก... ไม่สิ เรียกว่าเข้ากับเด็กไม่เป็นมากกว่า คนมีโลกส่วนตัวสูงอย่างฉัน ถ้าให้คุยกับผู้คนวัยเดียวกันหรืออายุมากกว่าสามารถเข้ากับพวกเขาได้ง่ายๆ แต่มุมมองการมองโลกแปลกๆ แบบฉัน ต่อให้ไม่ต้องเด็กฝรั่งหรอก... แม้แต่เด็กไทยก็คงไม่ได้เห็นฉันเป็นฮีโร่ของเราอะไรทำนองนั้น
แต่กระนั้น...ฉันกลับเป็นคนที่รักสัตว์มาก จึงไม่แปลกเลยหากพออยู่ฟาร์มแบบนี้แล้วจะเห็นฉันวิ่งเล่นกับหมาตัวนั้นตัวนี้ หรือวิ่งไปใกล้ๆ ฝูงแกะที่เล็มหญ้าอยู่ตามทุ่งหญ้ากว้าง
...มันจะมีความสุขแค่ไหนหนอ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ เช่นนี้...
...ขนาดฉันที่เพิ่งมาเยือนฟาร์มนี้ครั้งแรก... ยังหลงรักมันเข้าเต็มเปา...
...ฉันตกหลุมรักประเทศนี้ไปกี่ครั้งแล้วล่ะเนี่ย!?...
ความคิดเห็น