[[SF-SNSD]] Boring (Yuri) - [[SF-SNSD]] Boring (Yuri) นิยาย [[SF-SNSD]] Boring (Yuri) : Dek-D.com - Writer

    [[SF-SNSD]] Boring (Yuri)

    คืนวันอันแสนน่าเบื่อของควอน ยูริ เธอควรทำอะไรดี? (YulSic) [ลงแล้วนะคะ รีบอ่านกันด้วยค่ะ!]

    ผู้เข้าชมรวม

    7,782

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    7.78K

    ความคิดเห็น


    117

    คนติดตาม


    27
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 พ.ย. 52 / 21:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้



    เคยได้ยินคำว่า วันช็อตชั่ววูบมั้ยคะ = ="
    เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะความไม่ได้ตั้งใจ
    จากอารมณ์อันแสนเบื่อและเหนื่อยล้าของบุงนั่นเอง

    สุดท้ายทนไม่ไหว อยากแต่งเอ็นซีขึ้นมา
    ไม่ซีเรียสอะไรเท่าไหร่ค่ะ ถ้าโดนแบนก็ลบทิ้งเลย (อย่างนั้น?)
    เพราะงั้นถ้าอัพแล้วก็รีบอ่านรีบเมนต์กันด้วยนะคะ
    ของดีมีเวลาจำกัด จนกว่าเว็บมาสเตอร์จะเคือง ^^

    ปล. ปาดขาวเอานะคะ บุงปาดมันเกือบทั้งเรื่อง ฮ่าๆ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

      [[One-Shot]] :+:Boring:+: (YulSic)

       

                     

                      ภายนอกฝนตกพรำๆ ควอน ยูริ ที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อความเบื่อเข้าครอบงำ ใครก็เคยเป็นใช่มั้ย อาการที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี หันไปทางไหนก็ดูจะขัดหูขัดตาไปหมด มันเหนื่อยล้าจนไม่อยากทำอะไร ไม่อยากแม้กระทั่งล้มตัวลงนอน หากแต่จะพยุงร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมหน้าต่างให้ลุกยืนขึ้นได้ ยังเป็นเรื่องยากเลย

                     

                      วันที่ไร้คนรักนี่มันช่างน่าเบื่อจริงๆ ด้วย!

                     

                      เมื่อไหร่เจสสิก้าจะกลับมานะ นี่ก็ปาเข้าไปเกือบข้ามวันอยู่แล้ว ฉันรู้ดีว่างานของคนรักมันหนักแค่ไหน เลิกงานก็ดึกๆ ดื่นๆ ต่างจากงานฟรีแลนซ์สบายๆ ที่ฉันทำ จึงอดเป็นห่วงเธอขึ้นมาไม่ได้... เธอจะเปียกฝนมั้ย เธอจะขับรถไหวรึเปล่า เธอจะง่วงหรืออ่อนเพลียมากมั้ย ยิ่งคิดยิ่งกลัวยิ่งกังวลไปสารพัด สุดท้ายก็ต้องมานั่งถอนหายใจทิ้ง การที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างนี้มันน่าเบื่อเหลือเกิน ทำได้เพียงแค่เฝ้ารอเท่านั้นหรอ...

                     

                      และแล้วเหมือนเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น ประตูห้องในคอนโดถูกเปิดออกช้าๆ ฉันรีบพาร่างเหนื่อยอ่อนของตนเองมายืนต้อนรับเธอ นั่นแหละเจสสิก้า... เธอยิ้มหวาน ในมือหอบของพรุงพรัง จนฉันรีบกุลีกุจอเข้าไปช่วย

                     

                      อยู่คนเดียวเหงามั้ยคะ

                     

                      ไม่อ่ะ... เบื่อมากกว่า ฉันตอบตามความจริง แล้วก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา มือกดรีโมทเปลี่ยนไปมา ให้เธอได้แต่ส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะนั่งลงข้างฉัน แล้วดึงรีโมทไปถือไว้แทน

                     

                      เบื่ออะไร...เบื่อเจสหรอคะ เจสสิก้าออดอ้อน ก็เป็นอย่างนี้ทุกทีนั่นแหละ อย่างนี้จะให้ฉันเบื่อเธอลงได้หรือ... ร่างบางย้ายจากโซฟามานั่งตักฉันแทน แล้วก็เอาแขนโอบรอบลำคอไว้ ก่อนจะโน้มใบหน้าฉันให้ลงไปหา จนปลายจมูกเราเกือบจะสัมผัสกันอยู่แล้ว

                     

                      คนที่ชอบทำหน้าซังกะตาย เหมือนเบื่อโลกตลอดเวลาอย่างฉัน ใช่ว่าจะไม่มีความรู้สึกนะ!

                     

                      จะเบื่อเจสได้ไง

                     

                      แล้วดูทำหน้าเข้า... เจสช่วยทำให้หายเบื่อดีมั้ยเนี่ยว่าพลางเอาจมูกมาคลอเคลียกับซอกคอหอมกรุ่น เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แล้วไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากไปนั่งเหม่อมองสายฝนราวถ่ายเอ็มวีอยู่อย่างนั้น จากที่เคยแน่นิ่ง อารมณ์ครุกรุ่นในกายก็เริ่มล้นปรี่ขึ้นมา ความจริงฉันว่าฉันหายเบื่อตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วล่ะ แค่ล้าจนไม่มีแรงจะทำอะไรเท่านั้นเอง สงสัยว่าช่วงหลายวันมานี้คงพักผ่อนไม่เพียงพอเสียมากกว่า

                     

                      จะทำอะไรหรอ...ถามพาซื่อ ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว เจสสิก้าหัวเราะกรุ้มกริ่ม ดูเธอมีความสุขไม่น้อยที่ได้ยั่วฉัน มือเล็กๆ ซุกซนเลื่อนมายังเสื้อเชิ๊ตลายทาง ก่อนจะปลดกระดุมตั้งแต่เม็ดบนลงมาเรื่อยๆ ฉันจึงได้แต่นั่งพิงโซฟา คอยดูว่าเธอจะทำอะไรต่อไป อยากรู้เหมือนกัน...มันจะหาย เบื่อจริงรึเปล่า

                     

                      คิดถึงจัง...เธอพึมพำ พลางก้มลงพรมจูบลงบนลำคอ และไล้ลงมาช้าๆ ตามเม็ดกระดุมที่ถูกปลด มือเรียวเลื่อนไปยังแผ่นหลังของฉัน และแกะตะขอบราด้วยความชำนาญ เฮ้ย! นี่ภรรยาฉันไปฝึกปลดตะขอชาวบ้านมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พัฒนามากไปมั้ยเนี่ย!?

                     

                      ในเวลาไม่นาน ร่างท่อนบนของฉันก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เมื่อเธอสลัดเสื้อเชิ๊ตออกอย่างไม่ใยดี ร่างบางโน้มกายทาบทับลงมา จนแผ่นหลังฉันสัมผัสกับโซฟาเย็นเฉียบ เนื่องจากฝนที่ตกภายนอก ทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงต่ำ ทว่ากายมันร้อนผ่าวจนแทบระเบิดแล้วนี่สิ

                     

                      เจสสิก้ายังคงสนุกที่ได้กลั่นแกล้งฉันอย่างนั้น ฉันร้องครางออกมาเสียงแผ่วอย่างอดไม่ได้ เมื่อลิ้นอุ่นๆ สัมผัสยังเนินเนื้อขาวที่เริ่มขึ้นรอยแดงเรื่ออย่างแสดงความเป็นเจ้าของจากเธอ มือเรียวกอบกุมมันเบาๆ ทุกสัมผัสเชื่องช้า หากหนักแน่น เหมือนอยากจะให้ฉันขาดใจตายเสียให้ได้ แล้วดูใบหน้าแดงๆ ของเธอตอนนี้สิ อยากบอกว่าน่ารักและมีเสน่ห์เป็นบ้า คนรักของฉันสวยได้ทุกเวลาจริงๆ

                     

                      วันน่าเบื่อเริ่มกลายเป็นวันที่มีความหมายขึ้นมา จะว่าไปช่วงนี้เราก็เอาแต่ยุ่งๆ ไม่ได้มีเวลาให้กันเหมือนเมื่อก่อน จึงไม่แปลกอะไรที่ฉันจะสั่นสะท้านได้ขนาดนี้ แค่เพียงได้รับสัมผัสอันอ่อนโยนจากเธอ

                     

                      มือที่เคยเคลื่อนไหวเล่น ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง และเอวบางของฉัน เธอสัมผัสลงบนกางเกงแต่ฉันต้องกระชับมืออันซุกซนของเธอเอาไว้เสียก่อน

                     

                      เรื่องอะไรจะยอมล่ะ!

                     

                      พลิกร่างบางให้ไปอยู่ภายใต้ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขืนเลยซักนิด หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวนจนคนฟังแทบคลั่ง

                     

                      หืม...หายเบื่อแล้วหรอ จะทำอะไรเจสคะเนี่ย

                     

                      อยากรู้...ก็หลับตาสิคะเธอทำตามอย่างว่าง่าย ฉันจึงเริ่มจุมพิตลงบนเปลือกตานั้น เคลื่อนต่ำลงมาจนหยุดที่ริมฝีปากเนิ่นนาน เก็บเกี่ยวความหอมหวาน เหมือนคนขาดน้ำกลางทะเลทราย รสจูบอันเคยคุ้น หากเสพเท่าไหร่เหมือนไม่เคยพอเสียที ฉันเหมือนคนที่ติดยาเสพติด ซึ่งสิ่งที่ว่านั่นก็นอนสั่นริกอยู่นี่ยังไงล่ะ

                     

                      ลำคอระหงนั้น ทำเอาอดใจไม่ได้ จนต้องพรมจูบลงไปซ้ำๆ ขนกายอ่อนๆ ของเธอลุกซู่ เมื่อฉันนึกครึ้มเลื่อนริมฝีปากไปขบใบหูแผ่วเบาเป็นเชิงหยอกล้อ เสื้อของเธอมันไม่จำเป็นอีกแล้ว ดังนั้นฉันจึงปลดมันออกด้วยความรวดเร็ว หน้าอกเต่งตึงซ่อนอยู่ภายใต้บราลูกไม้สีดำสวย ทำเอาต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เจสสิก้ายังคงเซ็กซี่ และน่าสัมผัสสำหรับฉันเสมอ

                     

                      หายเบื่อยัง ร่างภายใต้ซึ่งหลับตาอยู่พูดเสียงกระเซ่า เสมือนปลุกอารมณ์ปรารถนาครุกรุ่นร้อนๆ ของฉัน จนพวยพุ่งออกมาแผดเผาร่างเธอให้มอดไหม้

                     

                      ยังค่ะ...แล้วก็จะไม่หายด้วยว่าแล้วไม่พูดพล่ามทำเพลง ฉันทำเหมือนกับที่เธอทำต่อฉันเมื่อครู่ หากเพิ่มความแรงและความเร่าร้อนตามอารมณ์ของเรา บราสวยถูกถอดออกไปอย่างไม่ยากเย็นนัก เมื่อเจ้าของมันให้ความร่วมมือแก่ฉันได้เป็นอย่างดี ฉันฝังใบหน้าลงกับเนินเนื้อสีหวาน ลิ้นไล้วนรอบทั่ว จนเปียกชื้นด้วยน้ำลายและน้ำเหงื่อของเธอ ยอดอกชมพูเรื่อเริ่มตอบสนองตามการปลุกเร้า

                     

                      ความหอมหวนของมัน ทำให้อดไม่ได้เลยที่จะละเลียดลิ้มรสยิ่งกว่าเป็นของหวานชั้นยอด ถ้าให้เปรียบฉันว่าคงเป็นไวน์รสดีล่ะมั้ง ยิ่งเพาะบ่มนานเท่าไหร่ รสชาติก็จะยิ่งเข้มข้น ยิ่งดื่มกินมันมากเท่าไหร่ ก็จะเมามาย หลงอยู่ในห้วงแห่งความเสน่หาไม่รู้จบ

                     

                      เลื่อนใบหน้าต่ำลง และส่งมือขึ้นไปทำหน้าที่สำรวจหน้าอกสวยของเธอแทน ร่างบางแอ่นรับสัมผัสนั้นด้วยความเต็มใจ ขณะที่ลิ้นเรียวของฉัน กำลังระเรื่อยอยู่ยังหน้าท้องแบนราบ เอวคอดกิ่วได้รูปสวย ยิ่งอาการบิดหนีอย่างสะท้านกับทุกการกระทำระหว่างเรา ยิ่งทำให้สัดส่วนของเธองามจับตามากยิ่งขึ้น

                     

                      ลากปลายลิ้นชื้นๆ วนเวียนไปทั่วรอบแอ่งสะดือได้รูปสวยของเธอ ให้เสียงครางดังมาจากริมฝีปากบางนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน คนเคยคิดจะแกล้งฉัน ตอนนี้ได้แต่นอนนิ่งอย่างทรมาน เมื่อความต้องการภายในมันอยากปลดปล่อยเต็มที หากฉันก็เอาแต่หยกเอินอยู่นั่น

                     

                      พอ...ก...ก่อนเถอะเจสสิก้าร้องห้าม ขณะดันใบหน้าของฉันออก ตอนนี้ท่อนบนของเราเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน ฉันได้แต่มองหน้าเธอด้วยความสงสัย ทว่าเพียงไม่นาน ก็เริ่มเข้าใจ เมื่อเธอดึงร่างฉันขึ้นไปกอดแนบแน่น บดเบียดกายเราให้แนบชิด ท่อนขาเรียวที่เสียดสีอยู่กึ่งกลางลำตัว ทำให้ฉันเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้น

                     

                      โซฟายังไม่ เบื่อหรอ อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างมั้ย คำพูดชวนคิดไกลของเธอ นั่นยังไม่เท่ากับการกระทำที่ค่อยๆ ดันฉันไปจนติดกับกำแพงห้องนอน ประตูยังคงปิดแน่น เนื่องจากเธอเองก็คงเบื่อเตียงของเราภายในนั้นเช่นกัน ฉันจึงได้แต่อยากรู้ว่าเธอจะเปลี่ยรบรรยากาศไปที่ไหน...

                     

                      หากฉันเริ่มพอจะรู้แล้วล่ะว่าคำนั้นของเธอมันหมายความว่ายังไง เมื่อหญิงสาวกระตุกกางเกงวอร์มของฉันลงกับพื้น นิ้วเรียวลากผ่านชั้นในเปียกชุ่มด้วยความเย้ายวน รู้สึกว่าวันนี้ฉันจะโดนเธอรุกมากไปซะแล้วล่ะมั้ง เรื่องอะไรจะยอมให้ภรรยาจับกด ไม่มีทาง!

                     

                      เป็นฉันเองที่เปลี่ยนมาดันเธอติดกับกำแพง กางเกงยีนขาสั้นตัวสวย ถูกถอดออกไปพร้อมๆ กับเจ้าตัวจิ๋วภายใน ใบหน้าเธอแดงเรื่ออย่างหน้ามอง ขณะที่เรียวขาเริ่มสั่นอย่างไม่อาจทรงตัวได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เมื่อมือของฉันจับพยุงร่างบอบบางเอาไว้อยู่

                     

                      ใบหน้าก้มต่ำลง น้ำสีขาวขุ่นไหลรินลงมาตามเรียวขา ให้ฉันลากผ่านลิ้มรสมันขึ้นมาจากทางด้านล่าง ราวกับจะไม่ให้หลุดรอดไปแม้เพียงหยดเดียว จนในที่สุดก็เลื่อนมาจนถึงแหล่งกำเนิดนั้น เนื้อแดงเรื่อมันเรียกร้องให้ฉันอยากเข้าไปสำรวจภายในเสียเหลือเกิน

                     

                      และแน่นอน...มีหรือฉันจะปฏิเสธคำเชิญเช่นนั้นได้ ปลายลิ้นอุ่นๆ จึงค่อยๆ แตะยังตำแหน่งนั้น แม้เพียงเบาๆ หากเธอกลับสะดุ้งเฮือกจิกไหล่ฉันไว้แน่น เสียงครางดังออกมาจนฉันกลัวว่าห้องข้างๆ อาจได้ยิน ทว่าเรากลับไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ในเมื่อวันแสนน่าเบื่อนี้มีเธอและฉันจะผ่านมันไปด้วยกัน!

                     

                      ภายในตอบรับอย่างอบอุ่น ราวกับเคยคุ้นกันดี เลื่อนเข้าออกช้าเร็วสลับกันไปอยู่อย่างนั้น ความจริงฉันอยากเข้าไปลึกกว่านี้ด้วยซ้ำ หากสรีระทางร่างกายมันไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ น้ำหวานรสชาติแปร่งลิ้นพากันหลั่งรินจนฉันดื่มกินมันแทบไม่หมด เหมือนกับกำลังท่องอยู่ภายในมหาสมุทรกว้างขวาง ไม่รู้ทิศทาง ไม่รู้ควรไปทางไหน หากมีเพียงคลื่นแรงเป็นตัวช่วยพาเคลื่อนที่ไปยังเป้าหมายอย่างนั้นเอง

                     

                      ลิ้นยังไม่ถูกนำออก แต่ฉันกลับใช้ปลายนิ้วเข้าไปร่วมในคลื่นทะเลพิศวาสนั้นเสียแล้ว เธอสะดุ้งกับสัมผัสที่ไม่ทันได้ตั้งตัว มือที่จิกอยู่เริ่มกดศีระษะฉัน ดั่งอยากให้สำรวจผืนทะเลอันกว้างไกลนั้นต่อไป

                     

                      พายุระลอกแล้วระลอกเล่าพัดผ่าน หากฉันก็ไม่ได้สั่นไหว ขาเรียวข้างหนึ่งของเธอถูกยกขึ้นพาดบ่า เพื่อทำให้ฉันท่องโลกสุดแผ่นฟ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั้นได้มากยิ่งขึ้น หอมหวานจนไม่อยากคลายลิ้นที่ลิ้มรสออกอยู่เลย ทว่ามันเบียดเสียดจากการแย่งกันสำรวจระหว่างปลายนิ้วเหลือเกิน สุดท้ายก็เลยกลั้นใจขึ้นมาประทับลงบนเรียวปากบางของเธอทันที เสียงครางในลำคอ พร้อมๆ กับลิ้นอุ่นมอบความหอมหวานให้ รสชาติของแหล่งน้ำเบื้องล่าง ถูกพวกเราผลัดกันเชยชิมได้อย่างไม่รู้เบื่อ

                     

                      เมื่อสิ้นศัตรู นิ้วเรียวของฉันมันก็ยิ่งได้ใจ เหมือนอยากสำรวจหาชุมทรัพย์ไม่รู้จักพอ กระดิกเร่งเร้า หยอกล้อกับผนังถ้ำกลางผืนทะเลกว้าง ดึงดันเล่นแหย่อยู่อย่างนั้น เข้าบ้างออกบ้าง เสมือนเรือลำนี้ไม่แน่ใจกับทิศทางที่ควรไปของมัน มหาสมุทรจึงพิโรธล่ะมั้ง ถึงได้พาคลื่นน้ำขาวขุ่นสาดกระทบไม่หยุดหย่อนเช่นนี้

                     

                      ฉันเองก็เพิ่งจะรู้ว่าภายในตื้นเขินกว่าที่คิด ผนังถ้ำนั้นนุ่มนิ่มอย่างน่าหยอกเอินเสียเหลือเกิน มือซ้ายจับขาเธอที่พาดบ่าไว้ มือขวาก็กำลังทำหน้าที่นักสำรวจอย่างซื่อตรง ในขณะที่ริมฝีปากร้อนระอุ ย้ายมาปรนเปรอยังก้อนปทุมถัน ร่างบางจึงอ่อนแรงลงทุกที ถ้าไม่ได้ฉันพยุงไว้ ป่านนี้เธอคงทรุดลงกับพื้นไปนานแล้ว

                     

                      ย...ยูล...จ...เจสไม่ไหวแล้วเธอกล่าวเสียงพร่าแทบฟังไม่ได้ศัพท์ ขบริมฝีปากแน่น อย่างพยายามกลั้นเสียงครางด้วยความพอใจกับรสสัมผัสนั้น

                     

                      แล้วอยากให้ยูลทำอะไรล่ะคะ

                     

                      ร...เร็วกว่านี้ เจสสิก้าอ้อนวอนขอ ฉันจึงยิ้มรับ เรือสำเภารุ่นโบราณ ได้เวลาเปลี่ยนเป็นเจ็ทสกีทันสมัย ระลอกคลื่นที่โจมตีโหมกระหน่ำ มีหรือฉันจะใส่ใจ การสำรวจไปทั่วห้วงมหาสมุทรกว้างใกล้ได้เวลาหยุดลง เมื่อภายในกำลังเริ่มบีบรัดช้าๆ ผนังถ้ำใต้น้ำคงใกล้ถล่ม เพื่อปิดกั้นผู้บุกรุกอย่างฉันเต็มที

                     

                      อ๊า... น้ำเสียงใสน่าฟัง หลุดมาอย่างเกินอดกลั้น ร่างบางกระตุก สัมผัสชาวูบแล่นจากปลายเท้าจนไปถึงหัวสมองที่ขาวโพลน ดูท่าทางเธอกำลังใกล้ขอบเขตที่อยู่เหนือจักรวาลเข้าไปทุกที สรวงสวรรค์บนนั้นคงสวยงามน่าดู หากมีเราสองคนเดินเที่ยวไปด้วยกัน

                     

                      ยืนอย่างนี้เมื่อยเนอะ... ถ้าเป็นบรรยากาศเก่าๆ อย่างบนเตียงเจสจะเบื่อมั้ย ถามทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว ว่าเธอกำลังอ่อนแรงจนเกินกว่าจะตอบอะไรได้ จึงเป็นหน้าที่ของฉันที่ช้อนร่างบางไว้ภายในอ้อมแขน และอุ้มร่างของเธอไปวางไว้บนเตียง ก่อนตนเองจะขึ้นคร่อมทันที

                     

                      หายเบื่อยังยูล

                     

                      ยังค่ะ...เจสช่วยยูลหน่อยสิ ยูลยังไม่หายเบื่อเลย ว่าแล้วก็ทาบทับส่วนอ่อนไหวลงบนตำแหน่งเดียวกัน สะโพกสวยได้รูปเริ่มขยับเชื่องช้า ราวกับบรรเลงบทเพลงแสนหวาน ในห้วงแห่งความรักอันไร้ที่สิ้นสุด เธอตอบรับทุกการกระทำของฉัน เหมือนว่าเราจะกระหายไม่รู้จักพออย่างไรไม่รู้ เมื่อบทเพลงช้าๆ พาเคลิ้มหลับฝันนั้นไม่เป็นที่พอใจ คอนดักเตอร์อย่างฉันจึงเริ่มเร่งจังหวะ อาจใกล้เคียงแทงโก้ล่ะมั้ง แต่ไม่น่าใช่... ดูท่าทางมันเร็วกว่าเพลงฮิพฮอบอีกต่างหาก ทว่าฉันสนใจที่ไหนล่ะ ในเมื่อนี่มันไม่ใช่วิชาดนตรีเสียหน่อย ไม่จำเป็นต้องมาวิจัยความเร็วของบทเพลงรัก

                     

                      เสียงครางดังสอดประสาน แทนเนื้อร้องอันแสนหวานจนอยากได้ยินไม่รู้เบื่อ ทำนองแห่งรักคือเรือนร่างของคนสองคน ที่กำลังร่วมเล่นเครื่องดนตรีลากชนิดเพื่อร่วมสร้างจังหวะอันน่าอภิรมย์ ซึ่งเสียดสีกันจนร้อน... ไม่ใช่เพียงแค่ร้อนกายเท่านั้น ทว่าอารมณ์ปรารถนาในกาย เหมือนกับพุ่งจนทะลุจุดเดือดยิ่งขึ้นไปทุกที

                     

                      เพลงกำลังจะจบ แต่ความต้องการดูท่ายังไม่จบเห๊ะ... เมื่อบทเพลงมาถึงท่อนสุดท้าย ฉันก็เร่งจังหวะเท่าที่จะทำได้ และแล้วเส้นขอบฟ้าก็ปรากฏอยู่ใกล้แค่เอื้อม อาการเกร็งแล่นทั่วเรือนร่าง และผ่อนคลายเสมือนโบยบินสู่ท้องฟ้า ก่อนจะถูกกระตุกลงมาอย่างรวดเร็ว

                     

                      ฉันเริ่มหอบเหนื่อย มือของเธอลูบใบหน้าฉันอย่างหลงใหล ขณะที่เจสสิก้าพาตัวเองลงต่ำ ไม่ทันได้สงสัยนาน ความอบอุ่นยังส่วนอ่อนไหวให้คำตอบได้เป็นอย่างดี

                     

                      การแก้แค้นอันหวาบหวามของเธอ ปลุกอารมณ์ของฉันเหมือนให้ลุกโชนได้ไม่รู้จบ ลิ้นร้อนๆ ที่ลากเวียนไปทั่วด้วยความไม่ชำนาญ กลับยิ่งเร้าปรารถนามากยิ่งขึ้น เด็กฝึกบทเรียนรัก สำรวจทางภายในของฉันบ้าง รู้สึกได้ถึงสัมผัสร้อนๆ เหมือนเธออยากจะเผาร่างฉันให้แหลกสลายคามือ

                     

                      เจสสิก้าเก็บเกี่ยวความหอมหวาน และน้ำขาวขุ่นอย่างหวนแหน ไม่ให้มันหลุดลอดผ่านสายตาไปได้เลยแม้แต่หยดเดียว เธอยังคงบรรจงทำความสะอาดช่องทางนั้นให้ฉัน หากไม่รู้จะทำความสะอาด หรือว่าจะเพิ่มให้น้ำหวานพากันหลั่งรินออกมาเชิญชมอากาศภายนอกได้มากยิ่งขึ้นกันแน่

                     

                      สุดท้ายก็ไม่อาจต้านความต้องการของตนเองได้อีกต่อไป ฉันร้องออกมาอย่างอดกลั้น เมื่อร่างบางพาฉันขึ้นไปเหยียบขอบสวรรค์กี่ครั้งแล้วก็ไม่อาจนับ

                     

                      มือเอื้อมขึ้นไปดึงคนแสนซนขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะทาบทับลงบนกายของเธอบ้าง

                     

                      ยูล...

                     

                      คะ?”

                     

                      เจสเริ่มเบื่อแล้วล่ะ ยูลช่วยทำให้เจสหายเบื่อได้มั้ยคำหยอกเย้า ทำเอาฉันต้องยิ้มกริ่ม อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวก่อนกันแน่

                     

                      ได้อยู่แล้วค่ะ...ที่รัก ฉันตอบรับ ก่อนจะยกร่างเปลือยเปล่าของเธอขึ้นมาโอบกอด ประตูระเบียงที่เป็นกระจกใสถูกเปิดออกกว้าง ภายนอกคือรัตติกาลอันเงียบเชียบ มีเพียงเสียงหยาดฝนเท่านั้น

                     

                      ย...ยูลจะทำอะไรน่ะเธอถามเสียงพร่า ทว่าฉันกลับไม่ตอบ มือประคองร่างเธอให้ยืนชิดติดขอบระเบียง สายฝนเริ่มสาดกระทบผิวกายของเราสองคนมากยิ่งขึ้น หากมันไม่เป็นอุปสรรคเลยแม้แต่น้อย เมื่อน้ำจากฟ้าทำให้เรือนร่างลื่นขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

                     

                      อ๊ะ...ยูล ตรงนั้นมันเธอร้องเสียงหลง ยามฉันก้มหน้าลิ้มรสความหอมหวานจากสวนดอกไม้อย่างไม่รู้เบื่อ ภายในช่างสวยงามจนไม่อยากจะออกไปเลย ยิ่งสำรวจยิ่งสนุก และแล้วฉันก็ดึงลิ้นออกช้าๆ ก่อนจะสอดปลายนิ้วเข้าไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจแทน

                     

                      จากหนึ่งนิ้วก็กลัวเหงา...เลยกลายเป็นสอง...เป็นสาม หากน่าเสียดาย ที่สวนดอกไม้งามแห่งนี้มันแคบเกินกว่าจะแย่งกันเข้าไปมากกว่านี้ได้ ทั้งสามนิ้วจึงค่อยๆ เรียนรู้ สัมผัส สำรวจขุมทรัพย์อันหมายปองด้วยความรวดเร็ว ราวอยากจะแข่งกับเวลา

                     

                      แล้วฉันก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมผ่านเข้ามาทางจุดเปราะบางยังกึ่งกลางลำตัว เธอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เสมือนแก้แค้นในสิ่งที่ฉันกำลังทำ

                     

                      ฉันไม่ขัดอยู่แล้ว มือเริ่มเร่งจังหวะให้เร็วมากยิ่งขึ้น จนเธอครางออกมาอย่างไม่ขาดสาย ด้วยความกลัวว่าคนภายนอกคอนโดจะได้ยิน ฉันจึงใช้ริมฝีปากเลื่อนขึ้นไปปิดเสียงอันน่าหลงใหลของเธอ

                     

                      ดันเจสสิก้าให้นอนลงกับพื้นระเบียง น้ำฝนสาดใส่กายของเราทั้งสอง ทว่ามันไม่มีผลหรือน่าหวั่นเกรงสิ่งใดอีกแล้ว ในเมื่ออารมณ์กำลังครุกรุ่นเช่นนี้ เรื่องรอบด้านก็ถูกลืมเลือนไปเสียหมด ระเบียงเต็มไปด้วยน้ำฝน ขณะที่ท้องฟ้ากว้างมีแต่เมฆบดบังความงามของดวงดาวและจันทราเสียจนหมดสิ้น

                     

                      หากจะสนอะไรเล่า คนเบื้องล่างอย่างเจสสิก้าทั้งสวยงามกว่าตั้งเยอะ!

                     

                      อย่าเอาเปรียบกันสิเธอร้องโอดครวญ พลางพลิกฉันให้ลงไปอยู่ภายใต้ และเริ่มเป็นคนควบคุมจังหวะนี้แทน นิ้วเรียวของฉันแน่นิ่งเฉย ขณะที่ต้องทนรับแรงกดจากสะโพกของเธอ การเคลื่อนไหวนั่นทำให้ฉันได้แต่มองอย่างเคลิ้มฝัน น้ำพราวไปทั่วผิวกายขาวเนียนละเอียด ที่ขึ้นรอยแดงเรื่อเพราะฝีมือฉัน ผมยาวสลวยบัดนี้ปล่อยสยายทั่วแผ่นหลัง ไรผมซึ่งกำลังปรกใบหน้าสวยอยู่ เร้าความต้องการที่มีภายในได้อย่างไม่สิ้นสุด

                     

                      แล้วร่างบางก็กระตุกเกร็งเต็มแรง ก่อนจะล้มลงนอนทับบนกายของฉัน มือยกขึ้นลูบผมสวยๆ ของเธอด้วยความหลงใหล การกระทำที่อ่อนโยนทำเอาเจสสิก้าหลับตาพริ้ม

                     

                      เหนื่อยชะมัด...

                     

                      อะไรกัน...ยูลยังไม่หายเบื่อเลยนะฉันหยอกล้อ จนเธอเอื้อมมือมาตีไหล่เบาๆ

                     

                      เจสหนาว...เธอพึมพำ ขณะที่แขนเรียวโอบกอดฉันเอาไว้แน่น อากาศตรงนี้มันก็หนาวจริงๆ นั่นแหละ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน แถมฝนยังสาดใส่อีก ด้วยความกลัวเธอจะเป็นหวัด ฉันจึงช้อนร่างเบาหวิวของเธอเข้าไปในห้องนอนเหมือนเดิม

                     

                      เดี๋ยวยูลเติมความอบอุ่นให้นะคะ

                     

                      อยากอาบน้ำแล้วอ่ะ... คำขอเสียงกระเซ่า ทำเอาฉันได้แต่ยิ้มกรุ้มกริ่ม

                     

                      งั้นยูลอาบด้วยค่ะ...ที่รัก ว่าแล้วสุดท้ายฉันก็พาเจสสิก้าเข้าไปในห้องน้ำแทน ดูท่าทางบทเพลงรักคืนนี้ยังคงดำเนินต่อไปอีกนานแสนนานล่ะมั้ง

                     

                     

       

                      เสียงหยาดฝนตกกระทบภายนอก หากมันไม่ได้ช่วยทำให้รู้สึกเย็นขึ้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยความรุ่มร้อนระคนลุ่มหลงเต็มที

                     

                      ...ดูเหมือนค่ำคืนอันแสนน่าเบื่อ ค่อยๆ ผ่านพ้นไปช้าๆ เมื่อคนเติมเต็มความรักอันเปี่ยมล้นของฉันอยู่เคียงข้างกาย และเราจะก้าวผ่านรัตติกาลนี้ไปพร้อมๆ กัน...

                     

                      ช่างเป็นคืนที่มีความสุขจริงๆ ให้ตายสิ!

       

       

      The end

       

       

       

       

      อารมณ์เบื่อๆ จากคืนวันเสาร์เป็นเหตุ เลยลองแต่งเอ็นซีเล่นๆ ดู จึงเกิดเป็นวันช็อตชั่ววูบ

      อยากบอกว่าเป็นเอ็นซีที่ยาวที่สุดในชีวิตที่เคยแต่งแล้วค่ะ เนื่องจากปาเข้าไปหกหน้าเอสี่! O////o (แต่งไปได้ไงเนี่ย)

       

      พยายามไม่บรรยายว่าเค้าทำอะไรกันนะคะ เพราะไม่อยากให้โดนแบน

      เนื่องจากเหตุผลของการโดนแบน (ในลาสท์) คือมีฉากเอ็นซีอันเป็นตัวอย่างแก่เยาวชนให้นำไปปฏิบัติตามได้

      งั้นถ้าบุงไปเปรียบเปรยกับธรรมชาติหรืออย่างอื่นสารพัดเหมือนกลอนในสมัยสองร้อยกว่าปีก่อน

      มันก็คงพอรอดได้ใช่มั้ยคะ ในเมื่อเยาวชนคงไม่รู้จะเลียนแบบยังไง ฮ่าๆ (หัวหมอมาก = =^)

       

      ถ้าใครไม่ชอบก็กดออกได้ค่ะ บุงไม่เคยบังคับใครอ่าน เพียงแต่อย่ามานั่งกดแบน คนอยากอ่านเค้าก็พอมีอยู่ (ใช่มั้ย?)

      ส่วนคนที่อ่านแล้ว ช่วยคอมเมนต์ติชมให้กำลังใจไรท์เตอร์ด้วยน้า ><

       

      ปล. หวังว่าบุงคงไม่นั่งเบื่อ แล้วทำอะไรขัดกฎสถาบันเด็กดีอีกนะเนี่ย หุหุ

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×