[[SF-SNSD]] :+:Love at first sight:+: (Yuri) - [[SF-SNSD]] :+:Love at first sight:+: (Yuri) นิยาย [[SF-SNSD]] :+:Love at first sight:+: (Yuri) : Dek-D.com - Writer

    [[SF-SNSD]] :+:Love at first sight:+: (Yuri)

    เขาว่ากันว่า รักแรกพบคือ ความรู้สึกเมื่อพบเจอ ไม่ใช่เพียงแค่ถูกชะตาจากรูปร่างภายนอก หากสัมผัสได้ถึงความรู้สึกจากข้างใน แล้วฉันกับรุ่นพี่คนนั้นล่ะ จะใช่รักแรกพบมั้ย (SeoSic) (ลงแล้วค่ะ)

    ผู้เข้าชมรวม

    6,220

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    6.22K

    ความคิดเห็น


    24

    คนติดตาม


    16
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.ย. 52 / 15:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้



    เอาล่ะค่ะ ฤกษ์งามยามดี
    ขอสุขสันต์วันเกิดให้กับซอฮยอน
    มักเน่น้อย น้องเล็กแห่งโซนยอ อิอิ
    ในที่สุดก็ถึงคิวซอสิกได้ออกโรงซะที เย่

    โปรเจ็คต์นี้ก็เป็นเรื่องที่สามแล้วนะคะ
    ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยค่ะ

    สุดท้ายนี้ขอให้ซอโระโระมีความสุขมากๆ
    เป็นที่รักของพวกเราตลอดไปน้า ><

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      [[SF-SNSD]] :+:Love at first sight:+: (Yuri)

       

       

      Do you believe in Love at first sight?

       

      I do…

       

       

      “เขาว่ากันว่า รักแรกพบคือ...ความรู้สึกเมื่อพบเจอ

      ไม่ใช่เพียงแค่ถูกชะตา จากรูปร่างภายนอก

      หากสัมผัสได้ถึงความรู้สึกจากข้างในที่มองไม่เห็นได้ด้วยตา

      แล้วฉันกับรุ่นพี่คนนั้นล่ะ จะ หลงแรกพบ หรือ รักแรกพบ กันแน่”

       

       

      - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

       

                     

                      ฉันซอ จูฮยอน ผู้ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก และยิ่งกับรักแรกพบด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ฉันคิดว่ามันคือการหลงแรกพบต่างหาก แบบว่ารักเพราะเค้าสวย หล่อ ดูดี น่ารัก ไม่ได้รักกันด้วยใจ

                      แต่ความคิดของฉันต้องเปลี่ยนไป... เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ...

       

                     

       

       

       

       

                      ((กรุ๊งกริ๊ง))

                      เสียงกระดิ่งดังแผ่วตามสายลม ฉันหันไปทางต้นเสียง ถนนเงียบสงัด สายลมเมื่อครู่หยุดพัดไหว ดวงตาจับจ้องอยู่กับประตูไม้เก่าๆ บานหนึ่ง ดูท่าทางจะเป็นร้านพวกเครื่องราง หมอดูซะล่ะมั้ง ฉันที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ก็ไม่คิดจะเข้าไปซักนิด แต่มันรู้สึกตงิดๆ ใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเสียงนั้นดังถี่ขึ้นทุกที ฉันก็ยิ่งรู้สึกอยากสัมผัส อยากลองค้นหา สองเท้าขัดคำสั่งสมอง มันพาร่างของฉันเข้าไปในร้านโดยไม่ได้ตั้งใจ

                      ร้านมีกลิ่นอับแปลกๆ ดูมีมนตร์ขลังขึ้นมาเล็กน้อย ทางขวามือฉันมีเครื่องรางหน้าตาประหลาดเต็มไปหมด ฉันมองมันด้วยความสนเท่ ขณะที่เท้ายังก้าวไปเรื่อยๆ ราวกับมีจุดหมายของมัน

                      โต๊ะกลมเหมือนที่หมอดูใช้กันตั้งอยู่กลางร้าน บนเก้าอี้ไม้โยกมีร่างหนึ่ง ใส่ชุดคลุมด้วยผ้าคลุมสีดำทั้งตัว เล็บและเรียวปากยังทาไปด้วยสีดำ ฉันนึกสงสัยไม่ได้ว่านี่แม่หมอหรือแม่มด?

                     

                      “รักแรกพบ...” ใครคนนั้นพูดขึ้น ขณะที่มือกำลังกุมกันแน่น ความรู้สึกบางอย่างฉุดรั้งฉันให้นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามเธอ ฉันมองอย่างสนเท่กับคำพูดนั่น

                     

                      “เจ้ามีชะตาต้องกับความรักแรกพบ และอีกไม่นานนี้ เจ้าจะได้เจอเขา” เสียงใสนั่น ทำให้ฉันพอรู้ว่าเธอคงอายุไม่ห่างจากฉันมากเท่าไหร่นัก สงสัยจะตั้งร้านหลอกลวงเพื่อหากินมั้ง ฉันยังเดาไปเรื่อย

                     

                      “ข้าไม่ได้หลอกลวงใคร!!” เธอตะโกนดังก้อง! ชะอุ้ย... รู้ด้วยล่ะ ท่าทางจะศักดิ์สิทธิ์พอตัว

                     

                      “ฉันไม่เชื่อในความรัก แล้วฉันจะไปมีรักแรกพบได้ไง” ย้อนถามกลับอย่างงุนงง

                     

                      “ชะตาเจ้าถูกขีดไว้แล้ว เจ้าจะพบรักแท้ได้จากรักแรกพบ” แม่หมออายุเท่าฉันยังคงพูดร่ายไปเรื่อย ปกติฉันคงลุกออกไปแล้วนะ ไม่มานั่งทนฟังอยู่อย่างนี้หรอก แต่ว่าแรงดึงดูดบางอย่างทำให้ฉันขยับไม่ได้              

                     

                      “ยังไงฉันก็ไม่เชื่อเด็ดขาด”

       

                      “เจ้าคือหนึ่งในสี่คู่ที่ชะตาขีดเส้นไว้ soulmate, love at first sight, miracle and promise เชื่อข้าเถอะ อีกไม่นานเจ้าจะพบมันเอง” นี่โฆษณาอะไรรึเปล่า เนื้อคู่...รักแรกพบ...ปาฏิหาริย์...คำสัญญา โห...สี่คำเน่าๆ ทั้งนั้น แล้วคุณคิดว่าฉันจะเชื่อมันหรอคะ เรื่องเหล่านั้นย่อมไม่เกิดขึ้นกับฉันแน่นอน (โฆษณาจากไรท์เตอร์เองแหละ 55+)

                     

                      “เก็บสร้อยเส้นนี้ไว้ให้ดี” เธอยื่นสร้อยที่มีกลีบดอกไม้แปลกๆ ที่ฉันไม่รู้จักชื่ออยู่ข้างในหลอดแก้วใส กลีบดอกเป็นสีเหลืองสด ออกเป็นช่อกระจุกแน่น ปลายกลีบเป็นเส้นแฉกฝอย อะไรกัน ฉันไม่จ่ายเงินซื้อของพรรค์นี้หรอกนะ แต่เธอก็เข้าใจความคิดฉันอยู่ดี

                     
                      “ไม่เสียเงินหรอก” เธอบอกทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่ ฉันจึงเห็นหน้าเธอไม่ชัด “มันคือดอก
      รักแรกพบแค่อยากให้เจ้าพิสูจน์ดูเอง หัวใจมันไม่โกหกหรอกนะ” และแล้วฉันก็เหมือนได้กลิ่นหอมเย็นๆ ของอะไรบางอย่าง ประสาทพร่าเลือนไปหมด ดวงตาหรี่ลงจนในที่สุดสติทั้งมวลก็พลันดับวูบ...

       

                     

       

       

       

       

                      “เป็นอะไร เหม่อมานานแล้วนะซอ” เสียงเพื่อนสนิท อิม ยุนอา ดังขึ้นข้างกายให้ต้องสะดุ้ง เรากำลังเดินออกจากประตูทางหน้าโรงเรียน มือของฉันกุมสร้อยที่ทาบอยู่บนลำคอระหงแน่น ดอกรักแรกพบงั้นหรือ... ตอนแรกฉันก็คิดว่าฉันคงฝันไป แต่มันก็ไม่ใช่ เมื่อหลักฐานมันชัดเจนคาตาขนาดนี้ แถมดอกชื่อแปลกนั่นยังมีตัวตนจริงๆ เสียด้วย ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Xanthostemon chrysanthus มีถิ่นกำเนิดประเทศออสเตรเลีย อยากจะรู้เหมือนกันว่าแม่หมอจอมหลอกลวงนั่นไปหามาจากไหน

                     

                      “อ๋อ เมื่อคืนฝันประหลาดน่ะ” โมเมตอบไปว่าเป็นความฝัน แต่มือฉันคงกำสร้อยแน่นไปหน่อยกระมัง ทำให้จี้ของมันหลุดจากตัวสร้อย หลอดแก้วใสกลิ้งไปตามทาง ฉันรีบวิ่งตามมันเพราะกลัวคนเหยียบเข้า เนื่องจากไม่เสียเงินซักบาท แถมสร้อยแปลกๆ อย่างนี้จะไปหามาจากไหนได้อีก

                                     

                      และแล้วมือก็คว้ามันได้ พร้อมกับใครบางคนที่หยิบมาขึ้นพร้อมฉัน ฉันเงยหน้ามองใครคนนั้นทันที ที่รับรู้ตอนแรกคือเธอสวย... แต่ความรู้สึกของฉันมันไม่ได้ปลาบปลื้มแค่นั้น อะไรบางอย่างในตัวเธอ ให้ฉันเผลอไผลมองได้อย่างไม่รู้จักเบื่อ หัวใจเต้นถี่รัว ก่อนที่ฉันจะเริ่มควบคุมมันได้ ไม่ใช่อาการกระวนกระวาย หรือประหม่า หากฉันรู้สึกแปลกไปมากกว่านั้น ฉันรู้สึกอยากรู้จักเธอให้มากขึ้น และรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนของเธอผ่านดวงตาคู่นั้นอย่างไม่ได้เสแสร้ง หลากความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอ ถาโถมเข้ามามากมายจนฉันแทบบ้า บางสิ่งบางอย่างที่ฉันสัมผัสลึกลงไปมากกว่าสายตา ไม่ใช่ความรู้สึกผิวเผิน แต่มันเป็นอะไรซักอย่างที่ฉันมองไม่เห็น... เพียงแค่รับรู้ได้

                     

                      “ขอโทษนะคะ พี่เกือบเหยียบสร้อยน้องซะแล้ว” เสียงใสพูดขึ้น ก่อนจะวางสร้อยลงในมือฉัน มือเรียวเราสัมผัสกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอเอ่ยขอโทษอีกครั้ง ก่อนจะรีบวิ่งไป ดูท่าว่าเธอคงจะมีธุระ ทิ้งให้ฉันยืนค้างกับสัมผัสแปลกๆ นั้น มือกำสร้อยจนแทบแหลก เพื่อข่มหัวใจที่มันสั่นไหวของตัวเอง

                                     

                      ฉันมองเธอวิ่งผ่านไปจนลับตา ชั่วเดียวกับที่สายลมพัดผ่านมาเบาๆ ใบไม้สีน้ำตาลแดงรอบกายปลิวหยอกล้อกับสายลม...

       

                     

       

       

       

       

                  จอง ซูยอน หรือ เจสสิก้า นักร้องสาวประจำโรงเรียน เป็นดาวโรงเรียน อยู่ม. 5 ห้องเอ ฉันแทบค้างอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กับรูปที่โชว์ขึ้นในเว็บบอร์ดโรงเรียน นี่คือรูปของเธอชัดๆ ชื่อเจสสิก้า คงจะอยู่ในความทรงจำของฉันไปอีกนานแสนนาน ฉันได้รู้อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับเธอซะแล้ว

                     

                      เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่ารักแรกพบมันไม่ต่างจากหลงแรกพบเลย เจอหน้าแล้วใจเต้นแรง หวั่นไหวไปกับหน้าตาของเขา หรือบุคลิกของใครคนนั้น แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันต่างกัน สิ่งที่ฉันเป็นอยู่ไม่ใช่เพียงแค่หลง ฉันต้องการจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่แค่ที่มองเห็นด้วยตา แต่ต้องเป็นด้วยหัวใจ

                      คิดดังนั้นแล้วประวัติส่วนตัวของเธอก็ปรากฏอยู่บนหน้าจอ

       

                     

       

       

       

       

       

                      เท้าก้าวมาตามทางเดิน เย็นนี้ฉันไม่ได้เดินกลับบ้านกับยุนอาอีก เพราะฉันอยากจะเจอหน้าของเธออีกครั้ง แม้จะรู้แน่อยู่แก่ใจว่าเธอคงจำคนที่เจอกันไม่ถึงหนึ่งนาทีอย่างฉันไม่ได้หรอก เธอรายล้อมไปด้วยแฟนคลับ เหล่าผู้คนที่รักเธอเพียงแค่เปลือกนอกและความสามารถของเธอ ส่วนฉันคนนี้ก็โดนกันออกมาจากวงแคบๆ นั่น ถึงฉันจะรักเธอด้วยใจหรืออะไรก็ตาม หากใครจะมาสนผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีอะไรอย่างฉัน กับเจ้าหญิงน้ำแข็งของโรงเรียนได้ล่ะ

                      ฉันหยุดตรงหน้าประตูห้องหนึ่ง กระจกใสบานเล็กทำให้มองเห็นภายในได้ แม้มันจะไม่ชัดเจนก็ตาม เธอยังคงตั้งใจซ้อมร้องเพลงอย่างตั้งใจ ชั่ววูบหนึ่งสายตาของเธอ หันมาประสานกับดวงตาของฉันทันที ฉันไม่หลบสายตาเธอ และเธอก็ไม่หลบสายตาฉันเช่นกัน เราต่างสื่อสารกันทางดวงตาผ่านกระจกใสบางๆ ที่กั้นขวางอยู่ มันจะเป็นไปได้มั้ย หากฉันจะพังกระจกนี้ แล้วดึงร่างของเธอมากอด แต่มันช่างเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวเสียเหลือเกิน

                      ฉันต้องสะดุ้งเมื่อประตูถูกเปิดออกกว้าง ด้วยฝีมือของใครคนนั้นที่ฉันมีความรู้สึกหวั่นไหวแปลกๆ ด้วย เธอมองฉันด้วยสายตาสงสัย ขณะที่เธอยื่นมือออกมาตรงหน้า มันคือสร้อยคอที่เป็นหลอดแก้วใส มีดอกรักแรกพบสีเหลืองอยู่ภายใน ฉันมองมันอย่างสนเท่ เมื่อมันเหมือนของฉันเสียเหลือเกิน

                     

                      “ของน้องรึเปล่าคะ พี่เจอมันอยู่ตรงหน้าประตูห้องซ้อม” พี่เจสสิก้าถามฉัน ประตูห้องซ้อมหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน เมื่อฉันเพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี้เองนี่ ฉันรีบสัมผัสลำคอระหงของตัวเอง แล้วต้องแปลกใจยิ่งขึ้น เมื่อสร้อยของฉันมันยังคงอยู่ดี แล้วในมือของเธอล่ะ...

                     

                      “สร้อยของซออยู่นี่ค่ะ” ฉันหยิบสร้อยของฉันให้ดู เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัยไม่ต่างจากฉัน แต่การกระทำของเธอ ทำให้คนบางคนตรงหน้าต้องใจเต้นรัว คนอะไร ไม่ว่าจะทำยังไงก็ยังคงสวยและดูดีอยู่เสมอ หากลึกลงไปนั้น ภายใต้ฉายาเจ้าหญิงน้ำแข็งที่ใครๆ เรียก แต่ฉันกลับสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่มาจากภายในตัวเธอ ความอ่อนโยนที่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รับรู้เพียงคนเดียว

                     

                      “อ้าว พี่นึกว่าคนนิยมของแปลกๆ จะมีแค่น้อง” ฉันแทบจะหุบยิ้มกับคำพูดของเธอ ฉันไม่ได้นิยมของแปลกๆ นะ แต่ยัยแม่หมอร้านบ้าอะไรนั่นให้ฉันมาต่างหาก แล้วทำไมมันมีตั้งสองอันนี่ หรือว่า... 

                     

                  เก็บสร้อยเส้นนี้ไว้ให้ดี อยากให้เจ้าพิสูจน์ดูเอง หัวใจมันไม่โกหกหรอกนะคำพูดของหมอดูประหลาดๆ ดังขึ้นมาในห้วงความคิด รวมถึงที่เธอย้ำนักย้ำหนาว่าฉันมีดวงผูกพันกับรักแรกพบ... เจสสิก้าเป็นคนที่ฉันจะผูกพันด้วยหรือเปล่า ถ้าหากเธอคือรักแรกพบของฉัน

                     

                      ฉันอดนึกย้อนไปไม่ได้ เนื้อคู่ รักแรกพบ ปาฏิหาริย์ คำสัญญา หรือว่าจะเป็นสี่คู่ที่โชคชะตาได้กำหนดไว้... บ้าน่า นี่ฉันเชื่อเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน มันจะเป็นไปได้ยังไง!

                     

                      “ตกลงไม่ใช่ของน้องแน่ใช่มั้ย งั้นมันก็เป็นของพี่นะ” เธอว่าพลางสวมสร้อยเส้นนั้นทันที และชั่ววูบหนึ่งฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมเย็นๆ เหมือนตอนอยู่ในร้านไม่มีผิด สร้อยที่พวกเราสวมอยู่มันเรืองแสงขึ้น บรรยากาศรอบด้านมืดสนิทไปหมด ทั้งที่เพิ่งเป็นยามเย็นแท้ๆ หากมีเพียงแสงสว่างจากสร้อยทั้งสองเท่านั้น ที่ทำให้เรายังพอมองเห็นได้

                     

                      “เกิดอะไรขึ้นน่ะ” เธอถามอย่างตกใจ...

                     

                      “ซอก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

                     

                      “ว่าแต่น้องชื่ออะไร พี่เจสสิก้านะ เรียกสิก้าก็ได้” เธอหันมาแนะนำตัวฉัน นี่ขนาดเรื่องรอบด้านมันปั่นป่วนขนาดนี้ เธอยังมีกะจิตกะใจมาถามชื่อฉันอีกหรอ ทั้งที่ฉันก็อดดีใจไม่ได้ว่าคนที่แฟนคลับรายล้อมอย่างเธอจะมาสนใจคนอย่างฉัน ซึ่งแอบตามสืบเรื่องราวเกี่ยวกับเธอมาตั้งสามเดือนแล้ว จนตอนนี้เพื่อนฉันยุนอา มันได้แฟนเป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียนอย่างพี่ยูริ ขนาดมันเจอพี่ยูริหลังฉันเจอพี่สิก้าตั้งนาน แต่มันดันสมหวังก่อนฉันซะนี่ แถมยังพูดเสมอๆ ว่านั่นน่ะโซลเมทมันเลย เอ๊ะ!! โซลเมทก็เนื้อคู่ อย่าบอกนะว่ายุนอาก็เป็นหนึ่งในสี่คู่แห่งโชคชะตานั่นเหมือนกัน!! ฉันนึกถึงริบบิ้นสีแดงเส้นนั้นขึ้นมาทันที ฉันได้มาจากแม่หมอคนเดิมนั่นแหละ หนอย...ช่วยให้คู่เพื่อนฉันสมหวังไปแล้ว แต่คู่ฉันยังไม่ไปไหนเลย เพิ่งจะแนะนำตัวกันเนี่ย!!

                     

                      “ซอฮยอนค่ะ เรียกซอก็ได้” ทันทีที่ฉันพูดประโยคนั้นจบ เมฆสีดำทมิฬก็เลือนหายไปจากโรงเรียนทันที ท้องฟ้าอาบสีส้มด้วยแสงแดดยามเย็นเช่นเคย นี่มันวันพิลึกอะไรเนี่ย น่ากลัวชะมัด

                     

                      สร้อยคอที่พวกเราสวมอยู่มันหยุดเรืองแสงลง แต่แล้วก็เกิดแรงดึงมหาศาลราวกับแม่เหล็ก สร้อยทั้งสองเคลื่อนที่เข้าหากันอย่างรวดเร็ว รวมถึงร่างของฉันและเจสสิก้าที่เคลื่อนเข้าหากันราวกับแม่เหล็ก... กายของเราแนบชิดจนฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมดทั้งใบหน้า เธอเองก็แทบไม่ต่างกัน

                     

                      “อ...เอ่อ... น้องถอยไปหน่อยดีมั้ย” เธอกล่าวเสียงสั่น เมื่อเรียวปากเราแทบจะสัมผัสกันอยู่แล้ว ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

                     

                      “ซอขยับไม่ได้ค่ะ” ฉันตอบไปตามความจริง เพราะมันชาวาบไปทั้งกาย ขยับไม่ได้เลย และดูท่าทางเธอจะอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างจากฉัน เราทั้งสองจึงได้แต่มองหน้ากันอยู่อย่างนั้น อย่าถามถึงเรื่องแก้มของฉันเลย ตอนนี้มันคงร้อนผ่าวแดงไปทั้งหน้าหมดแล้ว

                     

                      “พี่ก็ขยับไม่ด...” เธอพูดยังไม่ทันจบเสียงหวานใสนั่นก็ขาดหายเนื่องจาก... เรียวปากของเธอเลื่อนมาประกบลงบนตำแหน่งเดียวกันกับฉัน!!!

                     

                      ลองเอาไข่มาทอดบนหน้าฉันได้ เนื่องจากมันร้อนจนแทบจะระเบิด ฉันได้แต่ตาโตอย่างคาดไม่ถึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่เจสสิก้าเองก็อยู่ในสภาพเดียวกัน ดูท่าทางเธอจะพยายามอย่างมากที่จะฝืนต้านกับแรงบางอย่าง แต่แล้วมันก็ไร้ผลเพราะกายของเราก็ต่างขยับไม่ได้ มีเพียงแต่รอยสัมผัสบางเบาบนริมฝีปากของเราทั้งคู่เท่านั้น...

                     

                      แล้วคุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ล่ะคะ?

       

                     

       

       

       

       

                  เจ้าหญิงน้ำแข็งถูกหลอมละลายแล้ว!!’ ข่าวพาดหน้าหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนโชว์แผ่หรา เนื้อหาละเอียดยิบ ส่วนรูปภาพก็ใหญ่เสียจนกินไปทั้งหน้า กลบข่าวเรื่องอื่นเสียจนหมดสิ้น ข่าวที่ว่าคือซอฮยอน...นักเรียนชั้นม.สี่ธรรมดาคนหนึ่ง จูบกันอย่างดูดดื่มกับเจสสิก้า ดาวโรงเรียนสาวสวย เจ้าหญิงน้ำแข็งที่ไม่เคยสนใจในเรื่องรอบด้าน

                      ใครคนหนึ่งมองดูภาพในหนังสือพิมพ์นั้นแล้วก็ต้องยิ้มออกมาบางเบา... เธอวางหนังสือพิมพ์ลงกับโต๊ะ เผยให้เห็นปลายเล็บเรียวที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีดำ

                      ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นขึ้น ดูท่าทางสองคนก็ต่างห่างเหินกันไปเล็กน้อย เนื่องจากยังคงเขินอายกับเรื่องที่ว่า หากเวลาไม่นาน ก็กลับสนิทกันยิ่งขึ้น และทำให้ซอฮยอนได้ศึกษาเจสสิก้าอย่างละเอียดสมกับใจหวัง ความรักของทั้งคู่จึงเริ่มต้นไปอย่างช้าๆ... ถึงแม้จุดเริ่มต้นของมันอาจจะเกิดขึ้นในเวลาอันสั้นแม้เพียงแรกพบ แต่จุดสิ้นสุดของมันคงลากผ่านถนนแห่งความรักทอดยาวต่อไปอีกนานแสนนาน...

                      ร่างบางพึงพอใจกับผลงานของตัวเองไม่น้อย เธอหยิบรูปถ่ายสี่ใบขึ้นมาวาง รูปแรกเป็นรูปของยูริและยุนอา คู่รักโซลเมทที่หน้าตาคล้ายกัน หญิงสาวหยิบริบบิ้นสีแดงวางทาบลงไปบนรูปนั้นราวกับว่าเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว รูปใบที่สองเป็นรูปของคู่รักคู่หนึ่งที่นอนกอดกันท่ามกลางสวนดอกไม้จนวินาทีสุดท้าย... แทยอนและทิฟฟานี่ มือเรียววางกลีบกุหลาบสีแดงลงไปบนรูปนั้นเช่นกัน หยาดน้ำใสคลอเอ่อเล็กน้อย เมื่อนึกถึงความรักของคนทั้งคู่

                      รูปใบที่สามคือรูปของซอฮยอนและเจสสิก้าที่กำลังจูบกันด้วยฝีมือของเธออีกนั่นแหละ... สร้อยคอที่มีจี้เป็นหลอดแก้วใส ภายในบรรจุดอกรักแรกพบไว้ถูกวางทาบลงบนนั้นเช่นกัน

                      ดวงตาจับจ้องมายังรูปสุดท้าย... เธอขยับนิ้วเรียวไปมาราวกับกำลังเสกมนต์ และแล้วแหวนเงินเกลี้ยงเกลาก็ปรากฏขึ้นในมือ รอยยิ้มอย่างพึงพอใจฉาบลงบนใบหน้า

                     

                      Next project… Promise” เรียวปากบางขยับพูดเสียงแผ่วเบา ก่อนที่ร่างจะค่อยๆ เลือนหายไป!!

       

       

       

      “แล้วคุณล่ะ เชื่อในรักแรกพบรึยัง?

       

                  Do you believe in Love at first sight?”

       

       

       

      End.

       

       

      ในที่สุดฟิคสั้นเรื่องนี้ก็ได้เผยโฉมให้กับสายตาของชาวโลกซะที

      (หลังจากดองมาแรมเดือน ฮ่าๆ)

      ไม่รู้จะถูกใจกันบ้างมั้ยนะคะ รู้สึกว่าเจสไม่ค่อยเด่นเลย กร๊าก

      เอาล่ะค่ะ เหลือเรื่องสุดท้ายแล้วสำหรับโปรเจ็คต์

      ในเซ็ท Do you believe in…? นี้

      ยังไงก็ขอฝากเรื่องต่อไปด้วยค่ะ

      สำหรับฟิคสั้น ซูซันใน Promise ^^

       

      ปล. ช่วยกันเม้นต์หน่อยนะคะ >///<

       

      ปล2. สำหรับฟิคสั้นที่ผ่านมา

      Do you believe in soulmate? (ริอา)

      Do you believe in miracle? (แทนี่)

       

                     

                        

       

       

       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×