ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนาย...ไม่กล้าพูด (Seungho x G.O. Mblaq)

    ลำดับตอนที่ #3 : 87Line # 3 (Rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 55


     จุนบยองฮีโหมด


    วันนี้เป็นการถ่ายทำฮัลโหลเบบี้วันนี้อีจุนมีงานที่อื่นเลยมีแค่พวกเราที่ไปถ่ายทำเนื่องจากพวกเรามีลูกหลายสัญชาติทำให้เราไม่ค่อยจะเข้าใจลูกรักของพวกเราสักเท่าไหร่นักโดยเฉพาะลูกสาวผม T T ผมทำอะไรผิดหรอครับ ใครก็ได้ช่วยบอกบยองฮีที ฮือ วันนี้เราเลยต้องใช้หลักจิตวิทยาในการคุยกับเด็กๆของเรา และเพื่อที่จะเข้าใจเด็กๆได้มากขึ้นพวกเราจำเป็นที่ต้องทำแบบทดสอบทัศนคติในระหว่างที่คุณครูพาเด็กๆไป ทำให้บริเวณที่พวกเรานั่งกันอยู่นั่นเงียบสงบขึ้นมาแทบจะทันที



    การใช้เหตุผล?การดูแลเด็ก? โอ้วปวดหัวอ่าในขณะที่ผมคิดอะไรไม่ออกผมจึงค่อยๆชะเง้อมองกระดาษคำตอบของซึงโฮอย่างแนบเนียน ฮี่ฮี่



    “นายลอกฉันหรอ?บยองฮีอ่า”ซึงโฮกระซิบเบาๆพลางขยี้ผมของผมอย่างหมั่นเขี้ยวทำให้ผมถึงกับหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขิน


    “ฉันจะลอกนายทำไมเล่า”ผมเอ่ยพลางปัดมือซึงโฮทิ้งก่อนที่จะจัดทรงผมของตัวเองให้เข้าที่


    “อ้า~ผมทำเสร็จแล้วหล่ะ อิอิ”มีร์เอ่ยขึ้นพลางค่อยๆเอนตัวลงนอนกับที่นั่งทำให้ซึงโฮเริ่มจะหันเหความสนใจมาที่มักเน่ตัวน้อยก่อนที่จะเริ่มประชดเหน็บแหนมโดยมีผมเป็นลูกคู่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ฮี่ฮี่ แน่หล่ะก็เราสองคนเป็นลูกพี่แปดเจ็ดไลน์นี่



    และแล้วผมก็ได้เข้าใจดายองงี่ลูกรักของผมซะที อัปป้าเข้าใจแล้วนะแล้วะไม่ทำผิดอีกเป็นครั้งที่สองแล้วนะและการทดสอบก็ดำเนินต่อไปจนกระทั่งมาถึงการเล่นกับลูกๆทุกคนก็ยังคงเล่นกับเด็กๆอย่างเขินๆก็แน่หล่ะคุณครูเล่นนั่งจ้องตาไม่กระพริบแบบนี้ใครมันจะไปกล้าเล่นขนาดนั้นหล่ะคร้าบบบ



    “จีโออัปป้า”เสียงหวานของคุณครูเอ่ยเรียกเบาๆเป็นสัญณาณว่าถึงคิวผมที่จะออกไปเล่นกับเด็กๆแล้วผมจึงค่อยๆสตาร์ตัวไล่ลอเรนซ์



    “ฉันคือสิงโต แฮ่~



    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไม่นะ!!”ลอเรนซ์กรี๊ดเสียงดังลั่นก่อนที่จะวิ่งหนีผมไปอย่างรวดเร็ว นี่ ผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอเนี่ยก่อนที่จะตกใจกับภาษาต่างดาวของเลโอที่คาดว่าน่าจะเป็นฝรั่งเศสผสมเกาหลีแต่ผมฟังไม่ออก T Tใครแปลเลโอออกช่วยบอกผมทีได้ม้ายยยย ทำไมเลี้ยงลูกมันถึงได้เหนื่อยขนาดนี้ ผมจึงหยุดเล่นแบบมึนๆ



    “นี่สรุปฉันเป็นอะไรเนี่ย”ผมเอ่ยขึ้นอย่างสับสนก่อนที่จะตกใจเมื่อมีมือของใครบางคนเข้ามากอดจากด้านหลัง



    “นายเป็นหมีน้อยของฉันไง จีโอ ฮ่าฮ่า”ซึงโฮเอ่ยพลางกอดผมสะบัดไปสะบัดมายังกับผมเป็นตุ๊กตา “ลอเรนซ์อัปป้าจับหมีน้อยได้แล้ว”



    ยังมีการตะโกนบอกลูกสาวอีก



    “ปล่อยฉันนะโว๊ย ซึงโฮ”ผมเอ่ยขึ้นพลางดิ้นออกจากอ้อมกอดของซึงโฮก่อนที่จะคลานเข้าไปเล่นกับดายองระงับอารมณ์เขินที่พุ่งพรวดขึ้นมาอย่างเต็มแม๊กซ์แต่ดายองไม่เล่นกับผมอ่า T T




    เมื่อเราสองคนจะจูนกันติดสักทีหล่ะค่ะ ลูกรักอัปป้าอยากดูแลหนูให้ดีกว่านี้จัง และผลก็ออกมาว่าผมได้อันดับสามสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือผมควรทำให้ดีขึ้นวันนี้ผมทำเลโอร้องไห้ด้วยหล่ะ รู้สึกแย่จัง เพราะฉะนั้นเราต้องสมัครสมานสามัคคีด้วยการไปวัดด้วยกันสักครั้ง แต่บารูกงยางทำให้ผมถึงกับออกอาการเครียดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แต่ทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้นจากถ้วยข้าวผมก็รูสึกอยากจะมุดหัวกลับเข้าไปในชามใบใหญ่นี่จริงๆก็จะทำไมหล่ะยางซึงโฮกำลังนั่งจ้องหน้าผมอยู่ด้วยสายตาที่ผมอ่านจากเขาไม่ออกจริงๆนะสิ




    หลังจากที่เราทานข้าวเสร็จก็ถึงเวลาเข้านอนระหว่างที่ผมกำลังอุ้มดายองเดินอยู่นั้นเอง



    “นายโอเคนะจีโอ”ซึงโฮเอ่ยถามระหว่างทางเดินไปที่ห้องพัก


    “ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอกน่า~ สบายใจเหอะ”ผมเอ่ยตอบคนข้างๆพลางส่งยิ้มให้ซึงโฮได้คลายกังวล



    “อืม ก็ดีแล้วหล่ะเพราะฉันเป็นห่วงนายนะ บยองฮี”ซึงโอเอ่ยบอกก่อนที่จะอุ้มลอเรนซ์เดินนำเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วทำให้ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างตกใจ




    “อัปป้า เป็นไรไปค่ะ”ดายองเอ่ยถามผมที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยความเป็นห่วงผมจึงได้แต่ยิ้มให้ลูกสาวสุดที่รักน้อยๆพลางเดินตามพวกที่เหลือเข้าไปในห้องนอน



    หลังจากวันที่กลับมาจากวัดผมก็ถือโอกาสแอบออกมาจากหอพักเพื่อมีเวลาได้ไตร่ตรองอะไรต่อมิอะไรกับตัวเองบ้างแม้ว่าทุกคนจะเหนื่อยกับการไป MT มากแค่ไหนก็เหอะแต่ผมหลับไม่ลงจริงๆ




    “ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    ~”เสียงใสตะโกนออกมาอย่างเหลืออดใส่ผนังห้องซ้อมเต้นเป็นการระบายารมณ์ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาในบริษัทถึงกับผงะ

    ผมค่อยๆทิ้งตัวมองตัวเองในกระจกพลางนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆระหว่างผมกับซึงโฮที่ค่อยๆไหลผ่านเข้ามาก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลงเป็นการผ่อนคลาย ผมไม่ใช่คนที่ชอบร้องไห้แต่ถ้าถึงเวลาที่เหลืออดหรือไม่ก็สุดๆแล้วจริงๆมันก็จะไหลกมาเองอย่างคราวที่ผมไปงานคอนเสริตสุดท้ายก่อนเข้ากรมของจีฮุนฮยองคนที่ผมทั้งรักและเคารพยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น



    ทั้งคำพูด ทั้งการกะทำ และการดูแลเอาใจใส่ ยังซึงโฮนายก็คิดเหมือนกันกับฉันใช่ไหม


    แกร๊ก~’เสียงประตูห้องซ้อมค่อยๆเปิดออกแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมสนใจที่จะลืมตาขึ้นมองผู้มาเยือนแม้แต่น้อย

    สัมผัสแผ่วเบาที่ใบหน้าพร้อมกับเสียงหายใจเบาๆกับกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็ว

    “จีฮุนฮยอง~”ผมเอ่ยเรียกคนตรงหน้าอย่างดีใจก่อนที่จะโผเข้าไปกอดร่างสูงตรงหน้าอย่างคิดถึงทำให้พี่จีฮุนเสียหลักล้มลง มือหนาขยี้ผมของผมอย่างเคยชินพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่นที่ส่งมาให้ผมเสมอ

    “ลุกได้แล้ว พี่หนักตัวนายก็ไม่ใช่จะเล็กๆนะบยองฮี”พี่จีฮุนเอ่ยขึ้นพลางดันตัวผมออกก่อนที่จะค่อยๆยันตัวเองขึ้นนั่งตาม

    “ฮยองอ่า~”ผมทำหน้ามุ่ยใส่พี่จีฮุนเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มพูดคุยด้วยความคิดถึง “พี่มาได้ไงอ่ะ ในกรมทหารเป็นไงบ้างอ่ะครับ แล้วพี่เป็นไงบ้างอ่ะครับ สบายดีรึป่าวผมหล่ะคิดถึงพี่สุดๆไปเลย แล้ว...”แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบจีฮุนฮยองก็เอามือมาปิดปากผมเป็นเชิงให้หยุดพูดได้แล้ว

    “ทีละคำถามก็ได้”พี่จีฮุนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะค่อยๆปล่อยให้ปากผมเป็นอิสระ “แต่ก่อนที่ฉันจะตอบคำถามนาย นายต้องตอบคำถามฉันก่อน”

    “คะ...ครับ”ผมเอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักอย่างกลัวๆเมื่อเห็นสายตาพิฆาตของพี่จีฮุนที่ส่งมาให้

    “ตารางงานนายมันแน่นมากรึไงอยู่ถึงได้เป็นโรคเครียดจนล้มพับไปแบบนั้นน่ะ จีโอ”พี่จีฮุนเอ่ยถามแบบต้งการคำตอบ

    “ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ”ผมเอ่ยตอบกลับไปแต่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงกับพี่จีฮุนออกไปแต่ก็ต้องผงีกครั้งเมื่อได้ยินบางอย่างจากจีฮุนฮยอง

    “เรื่องความรักหล่ะสิ”

    “ฮยอง~

    “แปลกใจหล่ะสิที่ฉันรู้”พี่จีฮุนเอ่ยขึ้นพลางเอนหัวพิงกระจกก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองผม “นายหน่ะอยู่ในสายตาของฉันตลอดหล่ะจีโอ”


    คำพูดของจีฮุนฮยองทำให้ผมถึงกับหน้าขึ้นสีระเรื่อใช่แล้วหล่ะ อย่างที่ทุกคนคิดผมเคยเป็นซัมติงรองกับพี่เค้านะหล่ะแต่ด้วยความที่เราจูนกันไม่ติดเราเลยต้องเลิกลากันไปแต่ผมก็ยังรักพี่เค้านะ รักแบบพี่ชายแบบพ่อที่คอยดูแลผมและคนอื่นๆเพราะพี่เค้าคือคนที่ให้ชีวิตใหม่กับจุนบยองฮีคนนี้


    “บยองฮีย๊า~เรื่องแบบนี้อ่ะ เคะอย่างนายต้องหัดเงียบไว้บ้างให้เขาคิดถึงเราไม่ใช่แสดงออกไปบ่อยๆรู้ป่าว 55”จีฮุนฮยองเอ่ยบอกก่อนที่จะขยิบตาให้ครั้งนึงก่อนที่จะขยับตัวลุกขึ้น “เดี๋ยวพี่ต้องไปและ ไปทักทายคนอื่นบ้างเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องกลับกรมหล่ะ อย่าลืมที่บอกหล่ะ”ผมจึงทำได้แค่พยักหน้ารับออกไปพลางมองตามจีฮุนฮยองที่ค่อยๆเดินไกลออกไป

    หลายวันต่อมาก็ถึงวันGoodbye stage ของมินิอัลบั้ม it’s warเรามีสัมภาษณ์กันนิดหน่อยและในขณะที่ Mcกำลังถามคำถามผมในขณะที่ผมกำลังที่จะออกเสียงพูดไม่รู้ว่าชาติก่อนผมมีปัญหาอะไรกะไมโครโฟนรึป่าวเวลาจะพูดหรือจะร้องทีไรเสียงท่ออกไมค์มันไม่มีอ่ะ ฮือ TT TT บยองฮีอยากจะร้องไห้ ไมค์จ๋าช่วยติดทีเถอะผมเขย่าไมค์ในมืออย่างบ้าคลั่งก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างปลงตกเมื่อไฟม่ติดซะที พลางเงยหน้ามองA+อย่างไร้จุดหมายเมื่อได้ยิน MC พูดคำถามจบแต่แล้วผมก็ต้องผงะเมื่อมือไมค์จากมือของยังซึงโฮส่งมาจ่อปากแบบนิ่งๆโดยที่ไม่พูดจาอะไร ทำให้ผมสามารถที่จะตอบคำถามไปได้แบบไม่ติดขัด ในขณะที่ซึงโฮแย่งไมค์ตัวที่เสียไปจากมือผมเพื่อเดินไปเช็คกับสตาฟด้านหลังในระหว่างผมตอบคำถาม

    พอคำตอบของผมสิ้นสุดลงซึงโฮก็เดินกับมาพร้อมกับใบหน้าเรียบๆตามสไตร์ยังซึงโฮเช่นเคย

    “เป็นไงบ้างทำได้ป่าวอ่ะ ??”ผมเอ่ยถามซึงโฮที่พึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ

    “อืม”ซึงโฮพยักหน้ารับเบาๆพลางยืนไมค์ส่งให้ผม

    “ขอบคุณนะ”ผมเอ่ยขอบคุณพลางส่งยิ้มให้ซึงโฮบางๆก่อนที่จะหันกลับไปตอบคำถามของเอ็มซีเพื่อระงับอาการร้อนผ่าวบนใบหน้าที่เริ่มจะก่อตัวเนื่องจากความเขินอายและดีใจผสมปนกัน

    การกระทำของซึงโฮทำให้เอ็มซีถึงกับเอ่ยปากชมในความเป็นรีดเดอร์ที่ดขงซึงโฮอย่างประทับใจทำให้ผมต้องชะงักค้าง

    นั่นสินะนายจะเข้าข้างตัวเองไปอีกนานแค่ไหนเพราะซึงโฮก็ดูแลน้องๆในวงดีเท่ากันหมดแบบไม่เคยขาดตกบกพร่องอยู่แล้ว 

    ............................................

    ขอโทษน้าที่มาอัพช้าแต่ก็ขอให้ทุกคนติดตามฟิคเราต่อไปน้า

    เราจะพยายามอัพสกิลแต่งให้เร็วขึ้นน้าทุกคน

    ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะค่าาาาา :)))

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×