คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : นายคือคนดูแลฉันไม่ใช่หรือไง
Loma_ p
ซองมินเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ด้วยท่าทางที่ไม่รีบร้อนมากนัก เอาจริงๆแล้วเพราะไม่มีเรื่องอะไรสำคัญเลยไม่รู้ว่าจะต้องรีบไปทำไม ก็แค่เตรียมน้ำอุ่นให้คุณหนูที่ไม่รู้จักโตมันจะไปยากอะไร ซองมินก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าแค่เตรียมน้ำให้ตัวเองอาบง่ายๆแค่ทำไมคยูฮยอนต้องโทรตามเขาด้วย
“ ฉันโทรตามนายตั้งนาน แล้วทำไมถึงพึ่งมา “
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้านเสียงทุ้มกวนประสาทก็ดังขึ้น ร่างบางหันตามเสียงก็พบว่าคยูฮยอนนั่งทำหน้ากวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ในใจก็นึกอยากจะพูดสวนขึ้นมาว่าตนไม่ได้มีรถหรูขับไปเรียนเหมือนเขานี่ นั่งรถประจำทางมันก็เอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้แหละ
“ พอใจ “
“ ทีหลังถ้าฉันเรียกนายต้องมาภายในสิบนาที ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เข้าใจไหม “
“ ไม่เข้าใจ”
เขาไม่ใช่โดเรมอนซะหน่อยที่จะได้มีคอปเตอร์ไม้ไผ่เป็นของตัวเอง นึกอย่างจะไปไหนเวลาไหนก็หยิบขึ้นมาติดไว้บนหัวแล้วก็บินไปได้เลย
“ อย่ามากวน “
“ นายก็อย่ามาสั่ง “
“ แต่ฉันเป็นเจ้านาย “
“ชั้นไม่แคร์ “
ต่างคนต่างไม่มีใครยอมลดราวาศอกให้กันและกัน ซองมินเองก็ยังแค้นเรื่องเมื่อเช้าไม่หายที่ร่างสูงขับรถเหยียบน้ำแล้วกระเด็นมาโดนตนเอง
“ เอาล่ะๆฉันไม่อยากเถียงกับนายแล้ว ไปเตรียมน้ำอุ่นให้ฉันที “
“ แล้วทำไมไม่ทำเองเรื่องง่ายๆแค่นี้ “
“ ฉันทำไม่เป็น ตั้งแต่เกิดก็มีคนทำให้แล้ว “
ที่คยูฮยอนพูดมันไม่ต่างจากความจริงเลยแม้แต่นิดตั้งแต่เกิดมาคุณหนูคยูฮยอนก็มีคนคอยจัดการทุกอย่างให้ นี่คือสาเหตุที่คุณนายโจวอยากให้ซองมินมาช่วยดัดนิสัยพ่อลูกชายของเธอ เพราะความเลยชินที่มีคนคอยทำให้ทุกอย่างคยูฮยอนเลยไม่คิดที่จะอะไรเอง
“ โง่ “ เสียงหวานพูดออกมาเบาๆไม่คิดที่จะให้อีกคนได้ยิน และมันก็เป็นดั่งใจนึกเมื่อคยูฮยอนยังนั่งกระดิกเท้าอ่านนิตสารแฟชั่นอยู่บนโซฟาตัวหรู
ร่างบางส่ายหน้าน้อยๆก่อนที่จะเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บแล้วค่อยมาเตรียมน้ำอุ่นให้กับร่างสูง นี่ถ้าไม่เห็นแก่คำขอของมารดานะซองมินคงจะกลับบ้านไปแล้วแหละ
“ เสร็จรึยัง “ เสียงทุ้มดังมาจากประตูก่อนที่ซองมินจะหันไปตามเสียงก็พบว่าคยูฮยอนกำลังเดินเข้ามาในห้องน้ำเตรียมตัวที่จะอาบน้ำเต็มที่เพราะทั้งตัวมีแค่ผ้าขนหนูสีขาวพันช่วงล่างเอาไว้ ร่างบางอดที่จะอิจฉาเรือนร่างของผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ หน้าท้องที่เต็มไปด้วยน้ำเนื้อนั้นบ่งบอกว่าเจ้าของคงดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
“ มองอะไร “ร่างสูงถามออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนเอาแต่จ้องตัวเอง
ซองมินที่สติเริ่มกลับมาหลังจากที่คยูฮยอนเอ่ยถาม หน้าหวานรับรู้ถึงความร้อนที่ใบหน้าทำไมต้องรู้สึกเขินด้วยนะทั้งๆที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ปากเล็กโวยวายกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง
“ ทำไมไม่แต่งตัวดีๆเล่า “
“ ก็ฉันกำลังจะอาบน้ำ นายจะให้ฉันแต่งยังไง “ ก็คนกำลังจะอาบน้ำไม่ได้จะไปเดินแบบที่ไหนทำไมต้องแต่งตัวดีๆด้วยล่ะ แล้วปกติคนอาบน้ำเขาก็ไม่ใส่เสื้อผ้าเหมือนกันนี่หว่า
“งั้นก็เชิญตามสบาย “ พอรู้ว่าตัวเองพลาดท่าซองมินก็รีบลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปหากแต่ว่าเสียงของคยู ฮยอนก็เรียกเอาไว้ซะก่อน
“ นายจะไปไหนน่ะ “
“ กลับห้องชั้นสิ หมดหน้าที่ชั้นแล้ว “
“ ใครบอก หน้าที่เธอยังไม่เสร็จนะ “
“ นายจะเอาอะไรอีกล่ะ “ เสียงหวานถามด้วยความรำคาญ
“ วันนี้ฉันจะสระผม “
“ แล้วไง “
“ ไม่แล้วไง แต่นายต้องเป็นคนสระให้ฉัน “
ตากลมเบิกกว้างกำลังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินนี่เขามาเป็นคนดูแลนะไม่ได้มาเป็นคนรับใช้ แค่ให้มาเตรียมน้ำอุ่นให้ก็มากพอแล้วแต่นี่พ่อคุณจะให้สระผมให้ด้วย อยากรู้จริงๆว่าบ้านนี้เขาเลี้ยงลูกกันยังไง
แต่ยังไม่ทันที่ซองมินจะได้อ้าปากเถียงก็ต้องรีบยกมือน้อยๆขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ ก็จู่ๆคุณชายคยูฮยอนเล่นถอดผ้าเช็ดตัวต่อหน้าต่อตาไม่มีอายเลยสักนิด ก่อนที่ซองมินจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆพร้อมกับเสียงเคลื่อนไหวของน้ำสงสัยคงจะคงไปในอ่างแล้วมั้ง
“ นี่เอามือออกได้แล้ว แค่นี่ทำเป็น “ เสียงทุ้มบอก
“ ก็ชั้นไม่ใช่นายนี่ ถึงจะได้ไม่อาย “
“ นายทำไมก็มีเหมือนๆกัน “
คราวนี้ซองมินถึงกับเงียบ นั่นสิเมื่อกี้เขาจะอายทำไมในเมื่อเป็นผู้ชายเหมือนกันมีก็มีเหมือนกัน แต่ตอนนั้นที่เห็นว่าคยูฮยอนกำลังจะดึงผ้าเช็ดตัวออกสมองมันก็สั่งการอัตโนมัติให้รีบยกมือขึ้นนมาปิดเอาไว้ รู้แต่ว่าไม่กล้ามอง
“ แล้วจะยืนอีกนานไหม มาสระผมให้ฉันเร็วๆ “
“ รู้แล้วน่า “
ร่างบางเดินลงไปนั่งที่ขอบอ่างโชคดีหน่อยที่ตอนนี้มีฟองสบู่มาช่วยปิดบังส่วนต่างๆของร่างสูงเอาไว้เพราะถ้าขืนไม่มีจ้างให้ซองมินก็ไม่ทำตามคำสั่งคยูฮยอนเด็ดขาด
“ สระดีๆล่ะอย่าให้เข้าตาฉันนะ “ สั่งก่อนจะหลับตาลง ซองมินหน้าหงิกที่อีกคนเอาแต่สั่งหมั่นไส้ก็หมั่นไส้ที่ทำตัวเป็นคุณหนูเกิน มือเล็กเทยาสระผมลงบนฝ่ามือก่อนที่จะค่อยๆนวดลงบนศรีษะคนที่นอนสบายอยู่ในอ่าง หน้าตาของคยูฮยอนตอนนี้ดูผ่อนคลายจนพนักงานสระผมจำเป็นอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ มือเล็กค่อยๆเพิ่มแรงในการนวดมากขึ้นเรื่อยๆแรงจนคนที่กำลังจะเคลิ้มหลับต้องโวยวายออกมา
“ เบาๆหน่อยสิ นายจะผลกหนังหัวฉันหรือไง “เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเอาเรื่อง
“ โอ๊ะ แรงไปเหรอ “ แกล้งทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้แต่พอร่างหนาหันกลับไปพร้อมกับบ่นงึมงำอยู่คนเดียวปากปากก็วาดรอยยิ้มด้วยความสะใจ
กว่าที่จะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมงเพราะนอกจากคยูฮยอนจะใช้ให้ซองมินสระผมให้แล้วร่างสูงยังบอกให้คนน่ารักขัดหลังให้ด้วย พอจะเดินออกจากห้องน้ำเสียงทุ้มก็ตะโกนตามหลังให้เตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ให้ นี่ตกลงว่าเขามาทำหน้าที่ดูแลหรือมาทำหน้าที่เมียกันแน่ล่ะเนี่ย
ไม่นานร่างโปร่งของคยูฮยอนก็เดินตามออกมาซองมินที่คิดว่าคงจะหมดหน้าที่ของตนแล้วเลยจะกลับห้อง แต่ก็มีผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กโยนมาให้ซะก่อน ร่างบางหันไปมองคนที่โยนมาอย่างงงๆ
“ อะไร “
“ เช็ดผมให้หน่อยสิ “
“ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ “ คนตัวเล็กเอ่ยถาม ชักจะอารมณ์เสียขึ้นมาแล้วสิ อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนี้แม้กระทั่งเช็ดผมตัวเองยังทำไม่เป็นเชื่อเขาเลยล่ะ “ นายทำเองไม่เป็นรึไง “
“ เป็น แต่ขี้เกียจ “ เหตุผลที่ยกมาอ้างนั้นฟังดูดีเหลือเกินนะ
“ งั้นก็ไม่ต้องเช็ด ชั้นก็ขี้เกียจเหมือนกัน “ บอกก่อนจะโยนสิ่งเมื่อครู่กลับไปให้กับเจ้าของ ขี้เกียจมากขนาดนั้นก็ไม่ต้องเช็ดมันหรอกปล่อยให้มันแห้งเองละกัน
“ แต่นี่มันหน้าที่นาย “ ร่างสูงว่า
“ หน้าที่ชั้นคือมาดูแลนาย ไม่ใช่มาเป็นคนใช้ “
“ มันก็เหมือนๆกันแหละ “
“ ไม่เหมือน “ ร่างบางเถียง
“ หรือที่นายไม่ยอมเช็ดผมให้ฉันเพราะนายกลัว “
“ ชั้นเนี่ยนะกลัว มีอะไรที่ชั้นต้องกลัวมิทราบ “
“ นายกลัวว่านายจะหน้าแดงเหมือนตอนที่อยู่ในห้องน้ำใช่ไหมล่ะ “ เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหยันๆ
หลังจากที่สังเกตซองมินอยู่หลายวันทำให้คยูฮยอนรู้ว่าร่างบางตรงหน้าไม่ชอบให้ใครมาท้าทายเพราะซองมินนั้นเป็นพวกที่ไม่ยอมคน
“ เหอะ พูดบ้าๆ “
“ งั้นนายก็พิสูจน์สิว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันพูด “
“ ได้ ชั้นจะพิสูจน์ให้นายดุ “
ว่าแล้วก้เดินไปแย่งผ้าขนหนูจากมือใหญ่แล้วเดินอ้อมไปด้านหลังก่อนที่จะลงมือเช็ดผมให้ร่างหนา ส่วนเจ้าตัวก็นั่งเล่นเกมส์ในมืออย่างสบายอารมณ์เพราะถือว่ายกนี้เขาสามารถเอาชนะซองมินได้
ก็บอกแล้วลี ซองมิน ไม่ชอบให้ใครมาท้าทาย
Believe in ฮันเกิง
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายใต้ชายคาตระกูลคิมก่อนที่คิบอมกับทงเฮจะเดินลงมา ร่างสูงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูตอนนี้ก็เลยเวลาทานอาหารเย็นของครอบครัวมานานพอสมควรทำให้อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ที่ตัวเองเป็นคนไม่รักษาเวลา
“ คุณผู้หญิงสั่งว่าถ้าคุณทั้งสองมาถึงแล้วให้ตามไปที่ห้องอาหารได้เลยค่ะ “ สาวใช้ที่ได้รับมอบหมายเอ่ยบอกผู้เป็นเจ้านายก่อนจะเดินนำคนทั้งสองไปที่ห้องอาหาร
เมื่อเข้ามาคิบอมก็พบว่าคุณย่านั่งรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับบิดามารดาของตน ร่างสูงเลื่อนเก้าอี้ให้ทงเฮตามมารยาทก่อนที่จะเดินไปนั่งประจำที่ของตนเอง
“ หลานรู้ตัวใช่ไหมว่าตัวเองมาสาย “ เยจินเอ่ยตำหนิหลานชาย
“ ครับ ผมทราบ “
“ การเป็นผู้นำที่ดีต้องตรงต่อเวลาหลานก็น่าจะรู้ “
“ ผมขอโทษครับ ต่อไปจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก “ ร่างสูงกล่าวขอโทษด้วยความสำนึกผิด
“ ในการแข่งขันที่แท้จริงมันไม่มีครั้งต่อไปให้แก้ตัวหรอกนะ “
ทงเฮที่รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มจะตึงเครียดเพราะบทสนทนาระหว่างย่ากับหลานรีบเอ่ยแทรกขึ้น เพราะสาเหตุที่ทำให้คิบอมต้องโดนตำหนิก็คือเขาเอง
“ เอ่อ ไม่ใช่ความผิดของคิบอมหรอกฮะ “ เสียงหวานเอ่ยออกไปอย่างหวาดๆ “ ผมมาสายเอง คุณ
“ ไม่ต้องมาออกรับแทนหรอก “ เยจินบอกว่าที่หลานสะใภ้ “ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ขนาดคนของตัวเองยังควบคุมไม่ได้ แล้วจะไปบริหารคนเป็นร้อยเป็นพันได้อย่างไร “
หลังจากที่จบประโยคของหญิงสูงวัยทงเฮทันได้เห็นดวงตาที่นิ่งสงบคู่นั้นสั่นไหวแต่แค่เพียงวูบเดียวเท่านั้นเพราะไม่นานมันก็กลับมานิ่งสงบเหมือนเดิม ตอนนี้ทงเฮเริ่มสงสารคิบอมขึ้นมาแล้วล่ะที่ต้องเจอกับภาวะกดดันตั้งแต่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ ปากบางกำลังจะขยับอีกครั้งแต่ก็มีมือใหญ่ของคนข้างๆปรามเอาไว้ซะก่อนบอกเป็นนัยๆว่าพอได้แล้ว
บรรยากาศภายในห้องอาหารที่กำลังอึมครึมนั้นถูกทำลายด้วยเสียงของชายหนุ่มผู้มาใหม่ที่มาพร้อมกับร่างบางที่เคยมาแล้วครั้งหนึ่ง
“ ขอโทษนะครับที่มาสาย พอดีรถติดนะฮะ “ ฮันคยองโค้งทักทายทุกคนก่อนจะเอ่ยคำขอโทษออกมา ทงเฮมองสองคนที่มาใหม่ด้วยความสงสัยว่าเป็นใครแต่รู้สึกถูกชะตากับร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆร่างสูงอย่างบอกไม่ถูก
“ ไม่เป็นไร คิบอมก็พึ่งมาเหมือนกันนั่งสิฮันคยอง “ จีฮุนเอ่ยกับหลานชาย
ถ้าจำไม่ผิดคิม เยจินเคยบอกไว้ตอนที่เขามาเรียนเรื่องงานบ้านด้วยว่ามีหลานชายชื่อฮันคยองเพิ่งกลับมาจากจีน นี่คงจะเป็นหลานชายคนนั้นล่ะสินะเพราะดูจากหน้าตาแล้วไม่ค่อยเหมือนคนเกาหลีเท่าไหร่ แต่ทำไมฮันคยองไม่โดนตำหนิเหมือนคิบอมล่ะทั้งๆที่เป็นหลานเหมือนกันหนำซ้ำยังมาช้ากว่าพวกเขาอีก
“ มาพร้อมหน้าก็ดีแล้วย่าจะได้แนะนำให้รู้จัก นี่ฮันคยองหลานชายอีกคนของฉันแล้วนั่นฮยอกแจแฟนของฮัน คยอง ส่วนนี่ทงเฮว่าที่ภรรยาคิบอม “
“ ยินดีที่ได้รู้จักนะ “ ฮันคยองกับฮยอกแจทักทายอย่างเป็นมิตร
“ เช่นกันฮะ “
“ รู้จักกันแล้วก็ลงมือทานกันเถอะ “ เยจินเอ่ยปากชวนทุกคนให้ลงมือทานอาหารที่แทบจะเย็นหมดแล้ว เพราะกว่าที่สมาชิกจะมาครบกันหมดทุกคนก็เสียเวลาไปพอสมควร
ดูเหมือนว่าทงเฮกับฮยอกแจจะคุยกันถูกคอเป็นพิเศษเพราะคุยกันไม่หยุดเลยโดยมีคนอื่นๆมาร่วมสนทนาด้วยเหลือแค่เพียงคิบอมที่นั่งเงียบทานในส่วนของตนไปโดยมีดวงตาคู่สวยหันมามองเป็นระยะ ทงเฮไม่รู้ว่าตอนนี้คิบอมคิดอะไรอยู่แต่ที่ร่างบางรู้คือตอนนี้ร่างสูงกำลังรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
อาหารมื้อนี้ผ่านไปด้วยบรรยากาศสนุกสนานแต่นั่นคงไม่ใช่ความรู้สึกของคิบอม ร่างสูงขอตัวขึ้นห้องทันทีที่ทานเสร็จทั้งๆที่คนอื่นๆตกลงกันว่าจะไปนั่งคุยกันต่อที่สวนหลังบ้านแต่ร่างสูงก็ปฏิเสธคำชวนบอกแต่เพียงว่าเหนื่อย
“ งั้นทงเฮก็ขึ้นไปด้วยสิ ตอนกลางวันย่าให้คนไปขนของใช้จากที่บ้านมาไว้ที่นี่แล้วจะได้ดูว่าขาดเหลืออะไรรึเปล่า “ เยจินบอกว่าที่หลานสะใภ้
“ มะ หมายความว่าไงฮะ “
“ ก็หมายความว่าย่าให้คนเอาของทงเฮไปไว้ในห้องคิบอมแล้วน่ะสิ “
“ ว้าว นอนห้องเดียวกันเลยเหรอฮะ “ ฮันคยองเอ่ยขึ้น แต่น้ำเสียงติดจะล้อน้องชายซะมากกว่า
“ แต่งงานกันแล้วก็ต้องอยู่ห้องเดียวกันสิ เรานี่ก็ถามแปลก “ เยจินว่าน้ำเสียงเหมือนจะดุถ้าหากไม่มีรอยยิ้มออกมาด้วยขณะพูด
“ มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ “ เป็นคิบอมที่ถามออกมา ถึงแม้จะแต่งงานกันแต่เขาคิดว่าการใช้ชีวิตคู่ที่เหมือนสามีภรรยาจริงๆเขาทำกันมันดูจะเร็วไปหน่อยสำหรับพวกเขาที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
“ ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่หลานสองคนจะสนิทกันล่ะ “
“ แต่ .....”
“ ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น นี่คือคำสั่ง คิบอมพาทงเฮขึ้นไปดูห้องแล้วก็ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกแม่บ้าน “หญิงชราสั่งด้วยอำนาจเด็ดขาดทำให้ทั้งคู่ต้องยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี
หลังจากว่าที่คู่บ่าวสาวเดินเข้าไปในบ้านแล้วที่เหลือก็เดินไปนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านก่อนที่เยจินจะเล่าเรื่องบนโต๊ะอาหารให้หลานชายอีกคนฟังถึงเหตุการณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อทดสอบว่าที่มาดามคิม
“ มันไม่แรงไปหน่อยเหรอครับ “ ฮันคยองเอ่ยขึ้นหลังจากได้ฟังเรื่องทุกอย่างจากผู้เป็นยาย
“ แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ การที่จะยืนอยู่เคียงข้างคิบอมได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย ทงเฮต้องเจอสภาวะที่กดดันมากกว่านี้เป็นร้อยเท่า ยายอยากให้เขาเรียนรู้เอาไว้ “
“ แต่ผมกลัวทงเฮเค้าจะทนไม่ไหวก่อนน่ะสิ “ ฮันคยองอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้
“ ไม่หรอก ยายดูออกทงเฮมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ยายมั่นใจว่าเค้าเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ “
“ ผมขอให้เป็นอย่างนั้นก็แล้วกันฮะ “
อันที่จริงเรื่องที่อยู่บนโต๊ะอาหารนั้นเยจินไม่ได้โกรธคิบอมจริงๆหรอก เพียงแต่อยากทดลองใจของว่าที่หลานสะใภ้ของตัวเอง เพราะเยจินรู้ว่าการที่จะยืนอยู่เคียงข้างหลานชายของเธอนั้นภายนอกมันอาจจะดูหรูหราเป็นที่อิจฉาของใครต่อใครแต่ใครจะรู้บ้างว่าที่จริงแล้วต้องทนกับสภาวะกดดันต่างๆนานาข้อนนี้เธอรู้ดีเพราะเคยผ่านช่วงเวลานั้นมาก่อน ตระกูลคิมนั้นเป็นที่จับตามองในทุกๆด้านและแน่นอนว่าเมื่อมีคนชื่นชมก็ต้องมีคนอิจฉาและจ้องที่จะทำลายได้ทุกเมื่อ ดังนั้นหากวันที่คิบอมต้องเข้าไปบริหารงานจริงๆแล้วล่ะก็ทงเฮต้องทนกับสิ่งต่างๆที่จะเข้ามาและกล้าที่จะตัดสินใจในเรื่องเล็กๆน้อยที่สามารถตัดสินใจแทนคิบอมได้
การเป็นมาดามคิมไม่ใช่เพียงแค่แต่งตัวหรูหราออกงานสังคมไปวันๆแต่ต้องช่วยสามีดูแลงานต่างๆรวมไปถึงงานบ้านภายในบ้านด้วยเห็นแล้วใช่ไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิดเพราะว่าจิตใจภายในต้องแข็งแกร่งด้วย และที่เธอทำบนโต๊ะอาหารนั้นก็เพื่อให้ทงเฮเข้าใจในตัวคิบอม เผื่อบางทีทั้งคู่อาจจะยอมเปิดใจให้กันและกัน อย่างน้อยๆหลานชายของเธอก็จะได้มีคนคอยรับฟังไม่ใช่เก็บปัญหาทุกอย่างไว้กับตัวเองแบบที่เป็นอยู่
หลังจากที่แยกกับทุกคนแล้วคิบอมก็พาทงเฮขึ้นมาบนห้อง แต่ก็ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาเพราะไม่รู้ว่าจะหาเรื่องอะไรมาคุย
“ ตามสบายเลยนะ อยากได้อะไรก็บอกแม่บ้านก็แล้วกัน “
“ อืม “ คนสวยพยักหน้า
ห้องของคิบอมมีทางเชื่อมไปอีกห้องหนึ่งถ้าทงเฮเดาไม่ผิดมันคงจะเป็นห้องอ่านหนังสือสินะ ร่างสูงปล่อยให้คนสวยเดินดูรอบๆส่วนตนเองก็เดินหายไปอีกห้อง
เสื้อผ้าของทงเฮถูกจัดเอาไว้ในตู้เดียวกับคิบอมอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็อดที่จะรู้สึกแปลกไม่ได้เพราะนานแล้วที่ไม่ได้นอนร่วมห้องกับคนอื่น แต่ตอนนี้เขากำลังจะได้นอนกับคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีแถมของใช้ทุกอย่างยังต้องใช่ร่วมกันอีกต่างหาก ร่างบางเดินดูของต่างๆไปเรื่อยแต่จนแล้วจนรอดคิบอมก็ยังไม่ออกมาจากอีกห้อง ทงเฮเลยแอบเดินไปดูก็พบว่าร่างสูงกำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังเครียดอยู่ทงเฮก็ไม่อยากกวนจึงเดินกลับมานั่งรออยู่ที่โซฟาเปิดดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยเพื่อรอให้อีกคนออกมาแล้วจะได้กลับบ้านซะที
เกือบสองชั่วโมงผ่านไปคิบอมที่แทบจะลืมไปแล้วว่ามีร่างบางอีกคนอยู่ในห้องเดินออกมาจากห้องอ่านหนังสือตั้งใจว่าจะอาบน้ำขับไล่ความเมื่อยล้าหลังจากที่นั่งอ่านหนังสือมานาน แต่คิ้วเข้มก็ต้องขมวดมุ่นเมื่อพบว่ามีคนนอนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่นี่เขาลืมไปเลยว่าต้องไปส่งทงเฮ
ขายาวเดินไปหยุดอยู่ที่โซฟาก่อนจะสะกิดคนที่กำลังหลับใหลให้ตื่นแต่ก็ได้รับเสียงงึมงำมาแทนคำตอบดูเหมือนว่าร่างสูงจะเจอคนขี้เซาซะแล้วล่ะ
“ ตื่นได้แล้ว นายไม่กลับบ้านรึไง “
“ ขออีกห้านาทีนะ” พูดจบก็พลิกตัวหนี
เฮ้อ อีกห้านาทีก็อีกห้านาทีพูดจบก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำคิดว่าหลังจากเขาอาบน้ำเสร็จทงเฮคงจะตื่นพอดี แต่ผิดคลาดเพราะร่างบางไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิด
“ นี่มันเลยห้านาทีแล้วนะ “
“ คนจะนอน ยุ่ง “ เสียงหวานบอกอย่างรำคาญ
ดูท่าว่าปลุกยังไงก็คงจะไม่ตื่นแน่นอน แล้วเนี่ยเค้าจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย ร่างสูงพยายามปลุกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าคนสวยจะตื่นเลยแม้แต่น้อยสงสัยงานนี้คงได้มีการอุ้มกันเกิดขึ้นแล้วล่ะ มือใหญ่หยิบกระเป๋าเป้ของทงเฮขึ้นมาสะพายข้างก่อนที่แขนแกร่งจะช้อนตัวคนตัวเล็กขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ทงเฮที่สัมผัสได้ถึงไออุ่นจากอีกคนซุกหน้าเอาหาอกแกร่งทันที
คิบอมอุ้มร่างเล็กลงมายังชั้นล่างก่อนที่จะบอกให้คนรถเตรียมรถเพื่อไปส่งทงเฮที่บ้านโดยมีสายตาจากคุณย่าที่เฝ้ามองด้วยความพึงพอใจ เมื่อเห็นภาพที่คิบอมกำลังจะวางทงเฮลงที่เบาะที่ปรับรอเอาไว้แล้วแต่คนสวยก้ไม่ยอมปล่อยมือที่คล้องคอร่างสูงออกสุดท้ายคิบอมเลยต้องยอมให้ทงเฮนอนบนตักของตัวเองพร้อมกับใช้มือเกลี่ยผมที่มาปกใบหน้าสวยเพื่อให้ทงเฮได้นอนสบายๆ
“ย่าเชื่อว่าทงเฮจะทำให้หลานของย่ามีความสุข “
มีคนถามว่าทำไมคิบอมถึงได้เป็นทายาททำไมถึงไม่เป็นฮันคยองที่เป็นหลานชายคนโต เอ่อ จะอธิบายยังไงดีล่ะ คือตอนนี้คนที่บิหารงานทั้งหมดของบริษัทคือพ่อของคิบอมค่ะ ดังนั้นคนที่จะมาสืบสานต่อก็ต้องเป็นลูกชายซึ่งนั่นก็คือคิบอมค่ะ ส่วนฮันคยองนั้นเป็นลูกของลูกสาวซึ่งตอนนี้ทำธุรกิจอยู่ที่จีนไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับฝั่งนี้เท่าไหร่
ความคิดเห็น