คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ฉันจะหย่าให้....เมื่อถึงเวลา
Loma_ p
การเผชิญหน้าของคนหน้าหล่อสามคนกับคนหน้าสวยสามคนแต่เป็นคนละอารมณ์คยูฮยอนกับซองมินนั้นแยกเขี้ยวใส่กันทันทีที่เจอหน้า ส่วนซีวอนก็ยิ้มแก้มปริเมื่อเจอนางฟ้าคนสวยอีกครั้งไม่ต่างอะไรกับฮีชอลที่ยืนเขินบิดตัวไปมาแต่ที่เขินน่ะไม่ใช่เพราะซีวอนหรอกนะแต่เป็นคิบอมต่างหากล่ะก็นี่เป็นครั้งแรกที่ร่างบางได้เจอเจ้าชายในฝันใกล้ๆแบบนี้ ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็ยืนจ้องหน้ากันนิ่ง
“ จะไปไหนกันเหรอครับ “ ซีวอนเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“ กำลังจะไปทานข้าวน่ะฮะ แล้วพวกคุณจะไปไหนกันเหรอ “ เมื่อเพื่อนอีกสองคนต่างยืนเงียบฮีชอลเลยต้องเป็นคนตอบ
“ พอดีเลย พวกเราก็กำลังจะไปหาอะไรทาน ถ้าไม่รังเกียจก็ไปทานพร้อมกันเลยดีไหมครับ “ ซีวอนเอ่ยชวนโดยที่ไม่ถามความเห็นจากเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
“ ไม่รังเกียจเลยฮะ ยินดีด้วยซ้ำ “
“ งั้นก็ไปเลยนะ “
ซีวอนเอ่ยบอกคนสวยก่อนจะหันไปสะกิดคยูฮยอนที่ยังแยกเขี้ยวใส่ซองมินไม่เลิกส่วนคิบอมเองก็มองว่าที่ภรรยาของตนไม่วางตาเช่นกัน
ฮีชอลเองก็กำลังพยายามเรียกรุ่นน้องทั้งสองที่ดูเหมือนว่าจะหลุดไปอยู่อีกโลกให้กลับมาสนใจ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยได้ผลนักก็ตามยิ่งคู่ของซองมินยิ่งแล้วไปใหญ่ถ้า กระโดดงับหัวคุณชายโจวได้เจ้ากระต่ายน้อยของเขาคงทำไปแล้วแต่มันติดอยู่ตรงที่เกิดมาเตี้ยน่ะสิ
“ ไปกันเถอะ วันนี้พวกฮีชอลจะทานข้าวกับเรา “ ซีวอนบอกเพื่อน
“ แกว่าไงนะ พวกยัยกระต่ายจะไปกับเรางั้นเหรอ “ คยูฮยอนร้องเสียงหลง
“ แล้วใครว่าชั้นจะไป อย่าสำคัญตัวเองหน่อยเลย “ ซองมินก็ไม่ยอมเช่นกันก่อนจะหันไปหารุ่นพี่คนสวยแต่ก็ได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบ
“ ยังไงฉันก็ไม่ไปกินข้าวกับยัยอ้วนนี่เด็ดขาด “ คยูฮยอนว่า
พอได้ยินร่างสูงเรียกแบบนั้นร่างอวบก็ของขึ้นสิครับ เรียกอะไรก็ยอมได้แต่มาเรียกอ้วนเนี่ยเอามีดมาตัดคอกันเลยดีกว่าไหม คนแค่อวบระยะสุดท้ายมาหาว่าอ้วนได้ไง
“ อ้าวพูดแบบนี้หมายความว่าไง “ มือบางเลิกแขนเสื้อขึ้นเตรียมพร้อมที่จะมีเรื่องได้ทุกเวลา
“ ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ ยัย อ้วน “ คยูฮยอนตอบหน้าตายก่อนที่จะยื่นหน้ามาจนเกือบชิดใบหน้าหวานพร้อมกับเน้นคำสุดท้ายช้าๆชัดๆ
“ โหย ไอ้โย่ง มาเจอกันตัวๆเลยมาถ้าจะพูดแบบนี้ “ ซองมินเตรียมถลาเข้าไปหาร่างสูงที่ว่าเขาอ้วนเมื่อครู่แต่ก็โดนฮีชอลกับทงเฮดึงไว้ซะก่อน
“ เข้ามาสิ มาเลย “ คยูฮยอนกวักมือเรียกอย่างท้าทายทำเอาร่างบางฮึดฮัดที่ไม่สามารถทำอะไรคนกวนประสาทได้เพราะโดนพี่กับเพื่อนล็อคตัวเอาไว้
“ พอได้แล้วคยู แกก็ไปแกล้งซองมินเค้า “ ซีวอนรีบปรามเพื่อนเพราะคยูฮยอนยังคงยั่วโมโหซองมินโดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุด
คยูฮยอนมองหน้าเพื่อนเซ็งนิดๆที่โดนขัดเขากำลังสนุกอยู่เลยนี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่ซองมินทำกับเขาเมื่อเช้า แต่ก็ยอมทำตามที่เพื่อนขอก่อนที่ซีวอนจะเดินนำออกไปพร้อมกับฮีชอล ซองมินที่หลุดจากการเกาะกุมแล้วเดินมาใกล้ๆร่างสูงก่อนจะกระแทรกส้นเท้าลงบนเท้าของคุณชายโจว คยูฮยอนเต็มแรงทำเอาชายหนุ่มต้องก้มลงกุมเท้าตัวเองด้วยความเจ็บก่อนที่จะรีบเดินตามยัยตัวแสบที่หันมาแลบลิ้นเยาะเย้ยเขา ปล่อยให้เหลือแค่เพียงว่าที่สองสามีภรรยาที่เดินตามมาเป็นคู่สุดท้าย
“ ตอนเย็นนายต้องกลับพร้อมฉันรู้รึยัง “ คิบอมเอ่ยถามเมื่ออยู่กันสองคน
“ รู้แล้วล่ะ แม่ชั้นโทรมาบอกแล้ว “
“ คุณย่าสอนอะไรนายบ้างล่ะ “
คิบอมเอ่ยถามเพราะคิม เยจิน ให้ทงเฮไปฝึกเรียนรู้งานบ้านและการวางตัวเกี่ยวกับการเข้าสังคมเพราะหลังจากแต่งงานแล้วร่างบางคงจะได้มีโอกาสออกงานคู่กับเขา
“ ก็สอนหลายอย่างอยู่นะ ตั้งแต่เรื่องเล็กๆจนถึงเรื่องที่สำคัญ “
“ ลำบากหน่อยนะ “
“ อืม แต่ตอนนี้ชั้นก็เริ่มปรับตัวได้แล้วล่ะ “
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะคุยกันเรื่องอะไรจนเกือบจะถึงร้านอาหารจู่ๆคิบอมก็เอ่ยประโยคที่ทำให้ทงเฮต้องแปลกใจ
“ หลังจากแต่งงานกันแล้วถ้านาย
“เอ๋? “
“ ฉันรู้ว่านายเองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานกันถูกไหม “
“ มันก็จริง “
“ เราสองคนไม่ได้รักกัน และไม่มีทางที่รักกันได้นายก็รู้ “
“......................”
“ เพราะฉะนั้นถ้าวันไหนที่นายรู้สึกอึดอัดขอให้บอกฉัน ฉันจะหย่าให้ “
พูดจบก็เดินเข้าไปในร้านปล่อยให้ทงเฮยืนคิดตามคำพูดเมื่อสักครู่ คิบอมจะยอมหย่าให้จริงเหรอคงไม่มีใครหรอกที่อยากจะล้มเหลวในชีวิตคู่ แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเพราะพ่อกับแม่บอกว่าหลังจากแต่งงานแล้วคนที่จะเป็นผู้ปกครองของเขาไม่ใช่พ่อกับแม่เหมือนเดิมหากแต่ว่าเป็นคิบอมแทน
นายคงอยากกลับไปหาคนรักของนายสินะ
ภายในร้านอาหารสุดหรูยังคงมีเสียงทะเลาะกันของสองคู่ปรับดังออกมาเรื่อยๆไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรก็จะโดนคำพูดที่ทั้งจิกทั้งกัดของอีกฝ่ายตอกกลับมาเสมอ
“ นายจะสั่งอะไรเยอะแยะ กินเยอะแบบนี้ไงมันถึงได้อ้วนแบบนี้ “ คยูฮยอนว่า เมื่อเห็นซองมินก้มหน้าก้มตาสั่งอาหารมาตั้งเยอะ
“ ชั้นสั่งมาเผื่อพี่ฮีชอลกับทงเฮด้วย ไม่ด้กินคนเดียวซะหน่อย “
“ เพื่อนนายเค้าสั่งเองเป็นหรอก “
“ แล้วนายจะมายุ่งอะไรกับชั้นทำไมเนี่ย “
“ จะไม่ยุ่งเลยถ้านายไม่ไม่ได้นั่งโต๊ะเดียวกันกับฉัน น่าอายจะตายสั่งมาเยอะแยะ “
“ หน้าบางจริงเลย “ ซองมินเบ้ปากใส่ก่อนที่จะเลือกเมนูต่อ
ส่วนคนที่เหลือก็ได้แต่นั่งส่ายหน้ากับอาการไม่ลงรอยของทั้งคู่ปกติคยูฮยอนไม่ใช่คนที่พูดมากขนาดนี้แล้วก็ไม่ค่อยได้จิกกัดใครบ่อยๆด้วยซึ่งคิบอมกับซีวอนเองก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่จู่ๆเพื่อนรักก็กลายมาเป็นคนปากจัด ซองมินเองถึงจะไม่ค่อยถูกชะตากับพวกลูกคนรวยแต่ก็ไม่เคยแสดงออกมากมายขนาดนี้
“ สั่งตามสบายเลยนะ “ ซีวอนบอกคนหน้าหวานที่เหลืออีกสองคน
ทงเฮกับฮีชอลยิ้มให้กับชายหนุ่มก่อนที่จะสั่งอาหารของตัวเองบ้างแต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คิบอมหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กขึ้นมาดูร่างหนาลังเลอยู่สักพักแต่ก็ยอมกดรับเมื่อคนในร้านเริ่มหันมามอง
“ ว่าไงครับยุนอา “
[คิบอมไม่ได้อยู่บนห้องหรอกเหรอค่ะ]
“ เปล่า ผมอยู่ร้านอาหาร “
[ อยู่กับพวกซีวอนรึเปล่า ]
“ ใช่ครับ ยุนอาทานอะไรรึยัง มาทานด้วยกันสิ “
[ก็ได้ ฝากคิบอมสั่งสปาเก็ตตี้ให้ด้วยนะ ยุนอาหิวมากๆเลย]
“ หิวขนาดนั้นเลยเหรอ เดี๋ยวจะสั่งไว้ให้แล้วกัน “ คิบอมไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาที่เขาคุยโทรศัพท์กับยุนอานั้นเขายิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวแต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเห็นชัดเจน ขนาดซองมินกับคยูฮยอนยังต้องพักรบกันชั่วคราวเพื่อหันมามอง
เมื่อวางสายจากยุนอาแล้วร่างสูงถึงได้รู้ตัวว่าเพื่อนทุกคนกำลังมองมาที่เขา เว้นซะแต่ทงเฮที่เอาแต่ก้มหน้าทำเป็นเหมือนไม่สนใจอะไรแต่ใครจะไปรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วร่างบางกำลังคิดอะไรอยู่
“ มองอะไร “ คิบอมถามซีวอนกับคยูฮยอน
“ ยุนอาโทรมาเหรอ “ แทนที่จะตอบแต่คยูฮยอนกับถามกลับมา
“ อืม ยุนอาบอกจะมาทานด้วย “ บอกก่อนจะเรียกพนักงานเพื่อสั่งอาหารเพิ่ม
ซีวอนมองหน้าเพื่อนอย่างไม่ค่อยพอใจนักเพราะคิบอมทำเหมือนกับว่าทงเฮไม่ได้อยู่ตรงนี้ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคิบอมกับยุนอารู้สึกอย่างไรต่อกัน แต่คิบอมก็น่าจะให้เกียรติร่างบางที่อยู่ตรงนี้บางเพราะอย่างน้อยๆพวกเขาทั้งสองคนก็จะแต่งงานกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ไม่นานนักหญิงสาวหนึ่งเดียวก็มาถึงคิบอมขยับที่ว่างข้างๆตนให้ยุนอานั่ง เรียกความไม่พอใจจากฮีชอลกับซองมินได้ทันทีเลย
“ ฮีชอลอิ่มแล้วเหรอครับ “ ซีวอนถามเมื่อเห็นว่าฮีชอลวางช้อนลงแล้ว
“ ยังหรอกฮะ กำลังจะทานต่อ “ ร่างบางละสายตาจากหญิงสาวแล้วหันมายิ้มหวานให้กับชายหนุ่ม
“ กินให้หมดนะอ้วน “ คยูฮยอนเลื่อนจานตรงหน้าไปให้ซองมิน
“ รู้แล้ว ชั้นมีความรับผิดชอบต่ออาหารที่ชั้นสั่งพอ “
หกหนุ่มหนึ่งสาวยังคงนั่งทานอาหารกันต่อไปมีเสียงพูดคุยกันบ้างเป็นระยะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ส่วนคิบอมก็พูดคุยกับยุนอาอย่างสนุกสนานเปลี่ยนเป็นอีกคนไปเลย ฮีชอลพึ่งรู้วันนี้แหละที่เขาบอกว่ายุนอาคือคนที่ทำให้คิบอมเปลี่ยนเป็นคนละคนมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะดูแล้วเวลาที่คิบอมอยู่กับหญิงสาวนั้นดูมีความสุขและผ่อนคลายมากๆ
“ วันนี้ยุนอาต้องซ้อมใหญ่ คิบอมว่างไหมช่วยไปเล่นเปียโนให้หน่อยสิ “
คิบอมมองดูร่างบางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทันทีที่คำขอของหญิงสาวจบลง วันนี้เขาต้องกลับบ้านพร้อมทงเฮแต่ก็อยากอยู่เป็นกำลังใจให้ยุนอาเพราะอาทิตย์หน้าเธอต้องไปประกวดที่ต่างประเทศ
“ นายมีธุระด่วนไหม “ เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“ ไม่ ชั้นไม่มี “
“ งั้นกลับช้าหน่อยคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“อืม นายทำธุระของนายตามสบายเลยชั้นรอได้ “
ร่างหนาพยักหน้ารับก่อนจะหันไปตอบตกลงกับยุนอาทำเอาหญิงสาวยิ้มหวานด้วยความดีใจ ก่อนที่ยุนอาจะหันไปชวนซีวอนกับคยูฮยอนให้ไปดูด้วยกัน
“ นายสองคนจะไม่ไปให้กำลังใจชั้นหน่อยเหรอ “ ยุนอาว่าอย่างงอนๆ
“ ไปสิ เพื่อนทั้งคน “ ซีวอนว่าพลางยื่นมือมาขยี้หัวเพื่อนรักก่อนที่หญิงสาวจะหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปเรียนตามคณะของตนอันที่จริงซีวอนอาสาที่จะไปส่งพวกของฮีชอลที่คณะแต่โดนคนสวยปฏิเสธซะก่อนเพราะยังเคืองที่คิบอมหักหน้าเพื่อนของตน
“ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะฮะ “
ฮีชอลเอ่ยขอบคุณเพราะมื้อนี้คิบอมเป็นคนเลี้ยงก่อนที่ร่างสูงจะพยักหน้านิ่งๆกลับมาแทน ก่อนที่คิบอมจะขอแยกตัวออกไปส่งยุนอาที่ตึก แต่เหมือนจะนึกขึ้นได้จึงหันกลับมาบอกร่างบางที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ เลิกเรียนแล้วนายไปรอที่รถได้เลยนะ “ พูดจบก็เดินออกไปไม่สนใจคนที่อยู่ด้านหลังเลยสักนิด
“ เลิกเรียนแล้วนายไปรอที่รถได้เลยนะ หมั่นไส้คิดว่านายเป็นคนใช้รึไงคิดอยากจะให้ไปรอที่ไหนก็บอก “ ซองมินเลียนแบบท่าทางของร่างสูงก่อนจะบ่นออกมาด้วยความหมั่นไส้กับท่าทางที่ไม่ไว้หน้าเพื่อนของตน
“ ช่างเถอะ ไปเรียนกันดีกว่า “ ทงเฮไม่คิดจะเก็บเอามาใส่ใจก่อนจะชวนเพื่อนเข้าห้องเรียน
หลังจากเลิกเรียนแล้วทงเฮก็ไปรอคิบอมที่รถตามที่ร่างสูงบอกเพราะคิดว่าคิบอมคงทำธุระไม่นานแต่นี่มันจะปาเข้าไปเกือบชั่วโมงแล้ว ซองมินกับฮีชอลที่มารอเป็นเพื่อนชักจะหงุดหงิดแทนเพื่อนขึ้นมาแล้ว
“ ทงเฮไปกินไอติมรอดีกว่า “ ซองมินชวนเพื่อน
ฮีชอลเองก็เห็นด้วยไปนั่งรออยู่ที่ร้านไอติมดีกว่าจะมานั่งรออยู่ที่รถแล้วมีพวกบอร์ดี้การ์ดหน้าโหดยืนอยู่ด้วยรู้สึกแปลกๆยังไงก็บอกไม่ถูก
“ ดีเหมือนกัน สงสัยว่าคงจะอีกนาน “ ทงเฮเองก็เห็นด้วย
ร่างบางหันไปบอกกับผู้ชายชุดดำสามสี่คนที่ยืนอยู่ตอนแรกดูเหมือนว่าผู้ชายพวกนั้นจะไม่ยอมอนุญาตให้ไปแต่ร่างบางก็พยายามอ้อนจนในที่สุดพี่หน้าโหดก็ยอมอนุญาต
“ ไปร้านเดิมนะ “ ทงเฮเอ่ยกับเพื่อนๆก่อนที่ทั้งสามจะเดินกอดคอกันไปร้านไอติมเจ้าประจำ
ร้านไอติมร้านนี้ไม่ใหญ่มากนักแต่ว่าก็มีลูกค้าเต็มร้านทุกวันเพราะเจ้าของร้านใจดีอีกอย่างไอติมที่นี่ก็ทำเองเพราะฉะนั้นเรื่องความสดใหม่ไม่ต้องห่วง
“ ป้าฮะขอเหมือนเดิมสามที่นะฮะ “ ซองมินบอกป้าเจ้าของร้านก่อนจะเดินตามเพื่อนๆไปหาที่นั่ง ถึงแม้ตอนนี้จะเย็นมากแล้วแต่คนก็ยังแน่นร้านอยู่เลย
สามเพื่อนรักนั่งทานไอติมกันเพลินจนลืมเวลาลืมไปด้วยซ้ำว่าวันนี้ตนเองต้องไปทำอะไร และกว่าที่ทงเฮจะรู้ตัวว่ามีคนรอตัวเองอยู่ก็ตอนที่ร่างสูงโปร่งของใครบางคนเดินเข้ามาตามในร้านนั่นแหละ
“ กินเสร็จรึยัง ลีทงเฮ “ เสียงทุ้มเอ่ยถาม
ทงเฮหันไปตามเสียงทั้งๆที่ในปากยังคาบช้อนไอติมอยู่ท่าทางแบบนี้ของทงเฮมันทำให้คิบอมอยากจะขำออกมาแต่ก็ยังคงรักษาฟอร์มเอาไว้ก่อนจะปั้นหน้านิ่งเหมือนเดิม
“ ใกล้เสร็จแล้วล่ะ คิบอมทานด้วยกันไหม “ ร่างบางตอบไปพร้อมกับชวนอีกคนให้มานั่งทานด้วยกัน
“ ไม่ล่ะ นายลืมไปแล้วเหรอว่าเราต้องไปทานข้าวกับคุณย่า “
ทงเฮยิ้มแห้งๆกลับไปร่างบางลืมไปเสียสนิทเลยว่าเย็นนี้ต้องไปทานอาหารเย็นที่บ้านตระกูลคิม แต่วันนี้เขากินไอติมไปแล้วสองถ้วยแล้วกระเพาะน้อยๆของเขามันจะรับไหวไหมล่ะเนี่ย
“ แหะ ๆ ลืมไปเลย “
“ งั้นก็ไปได้แล้ว คุณย่าโทรตามแล้ว “ พูดจบก็ดึงข้อมือเล็กให้เดินตามออกมาโดยที่ไม่ได้ทักทายอีกสองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเลย ทงเฮเลยทำได้เพียงยกมืออีกข้างที่ยังเป็นอิสระอยู่ขึ้นมาโบกลาเพื่อน
พอเข้ามานั่งในรถเรียบร้อยแล้วคิบอมก็เปิดฉากถามทันทีเพราะร่างสูงกลับมาแล้วก็พบว่าคนที่ตนบอกให้มารอไม่ได้อยู่ที่รถ พอถามลูกน้องก็ได้คำตอบว่าทงเฮขอไปทานไอติมกับเพื่อนเพราะคิดว่าไม่นานคงจะกลับมาแต่พอนานเข้าร่างสูงเลยต้องไปตามเอง
“ ฉันบอกให้นายรออยู่ที่รถไม่ใช่เหรอ “ เสียงทุ้มเอ่ยถามเรียบๆ
“ ชั้นมารอแล้วนะ แต่นายไม่มาซักทีชั้นเบื่อก็เลยไปหาอะไรกิน “ คนสวยรีบเถียงก็เขามารอแล้วจริงๆนี่นา คิบอมนั่นแหละผิดที่มาช้าเอง
“ แล้วทำไมไม่โทรมาบอกก่อน “
“ โทรได้ไงล่ะชั้นไม่มีเบอร์นาย แล้วชั้นก็บอกพี่ที่อยู่ที่นี่แล้วด้วย “
ดูเหมือนว่าคิบอมจะลืมไปว่าเขาทั้งคู่ยังไม่เคยแลกเบอร์กันเลยร่างสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะถามเบอร์โทรศัพท์ของคนที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วจัดการโทรเข้าเครื่องของร่างบาง
“ ทีนี้จะไปไหนก็โทรมาบอกก่อน ฉันจะได้ไม่ต้องรอ “
“ นายก็เหมือนกัน ถ้าจะไปทำธุระนานเหมือนวันนี้ก็โทรบอกด้วยชั้นจะได้กลับก่อน “
เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศในรถนั้นเงียบเกินไปคิบอมก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่อยู่ในมือ ทงเฮจึงบอกให้คนขับรถเปิดเพลงฟังก่อนที่เจ้าตัวจะฮัมเพลงตามเบาๆตามประสาคนที่มีดนตรีในหัวใจ คิบอมแอบมองท่าทางของคนที่จะมาเป็นว่าที่ภรรยาของตนก่อนที่จะแอบอมยิ้มเพราะดูๆไปทงเฮก็น่ารักดีเหมือนกัน
“ เบาเสียงลงหน่อยได้ไหม ฉันจะอ่านหนังสือ “
เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนที่คนสวยจะช้อนตามองแต่ก็ยอมลดเสียงเพลงลงแต่มันก็ยังดังอยู่ดี คิบอมขี้เกียจที่จะพูดต่อเลยเก็บหนังสือลงก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพื่อพักสายตา
ระหว่างทางเดินจากมหาวิทยาลัยมีร่างบอบบางของผู้ชายหน้าสวยกำลังเดินกลับบ้านด้วยท่าทางที่ไม่ได้รีบร้อนอะไร หลังจากที่แยกกับทงเฮแล้วฮีชอลกับซองมินก็ตกลงกันว่าจะไปเดินเล่นที่ไหนสักที่ก่อนกลับบ้าน แต่เพราะเจ้ากระต่ายตัวอวบโดนคุณชายโจว คยูฮยอนโทรมาจิกให้กลับไปเตรียมน้ำอุ่นให้ไม่รู้ว่านึกยังไงคุณชาย โจวถึงนึกอยากจะแช่น้ำอุ่นขึ้นมา ฮีชอลเลยต้องเดินกลับบ้านคนเดียวเพราะระยะทางจากมหาวิทยาลัยไปบ้านเขานั้นไม่ไกลมากนัก
ยานยนต์คันหรูชะลอช้าๆเมื่อเห็นว่าคนที่เดินอยู่เป็นใครก่อนที่เจ้าของจะลดกระจกลงและเอ่ยทักทายพร้อมกับชวนให้กลับพร้อมกันเพราะร้านของฮีชอลนั้นเป็นทางผ่านของบ้านเขา
“ กำลังจะกลับบ้านเหรอครับ “
“ ฮะ ซีวอนจะไปไหนเหรอ “
“ กำลังจะกลับบ้านเหมือนกัน ขึ้นมาสิเดี๋ยวผมจะไปส่ง “
“ ไม่เป็นไรหรอก ผมกลับเองได้ ขอบคุณมาก “
“ไม่ต้องเกรงใจ พอดีผมต้องผ่านทางนี้ประจำอยู่แล้ว “
ถึงแม้จะเกรงใจร่างสูงอยู่บ้างแต่เพราะความขี้เกียจเดินฮีชอลเลยเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถตามคำชวน ก่อนที่จะได้รับรอยยิ้มจากชายหนุ่มพร้อมกับที่รถเคลื่อนตัวออกไป
“ ปกติฮีชอลกลับบ้านเย็นแบบนี้ประจำเหรอครับ “ ร่างสูงชวนคุยเมื่อเห็นว่าฮีชอลนั่งเงียบและสนใจแต่บรรยากาศริมทาง
“ ก็ไม่ทุกวันฮะ พอดีวันนี้อยู่ป็นเพื่อนทงเฮ “
ซีวอนเข้าใจความหมายทันทีเพราะทงเฮต้องรอกลับบ้านพร้อมคิบอมแต่ว่าเจ้าแก้มป่องกลับไปช่วยยุนอาซ้อมร้องเพลงอยู่นานสองนาน ฮีชอลเองก็คงจะเป็นห่วงเพื่อนเลยอยู่รอเป็นเพื่อนล่ะสินะ
“ แล้วทานอะไรรึยังครับนี่มันก็เย็นมากแล้วนะ “
“ ยังเลยฮะ ผมต้องกลับไปทานกับแม่เดี๋ยวท่านน้อยใจ “
“ เป็นครอบครัวที่น่ารักจังนะ “
“ คุณแม่ผมท่านเป็นคนขี้น้อยใจน่ะฮะ ถ้าใครไม่ทานอาหารฝีมือท่านท่านก็จะน้อยใจ “ พอพูดถึงมารดาแล้วก็อดจะยิ้มอยู่คนเดียวไม่ได้ป่านนี้คุณนายคิมคงมายืนรอที่หน้าร้านแล้วล่ะ
“ คุณแม่ฮีชอลท่านทำกับข้าวอร่อยเหรอ”
“ ที่สุดเลยล่ะฮะ “ ตอบด้วยน้ำเสียงที่ภาคภูมิใจเหลือเกิน
“ ผมชักอยากจะลองทานแล้วล่ะสิ “
“ ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวผมจะบอกให้นะฮะ แม่คงดีใจมากแน่เลยที่มีคนอยากลองชิมฝีมือท่าน “
การพูดคุยของคนสองคนยังดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งรถมาจอดสนิทอยู่ที่หน้าร้านไอติมร้านเล็กๆ ที่ร่างสูงเคยเข้าไปใช้บริการมาแล้วและก็เป็นดังคาดเมื่อที่หน้าร้านมีหญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวยมายืนรอรับลูกชายคนสวยอยู่ก่อนแล้ว
“ ขอบคุณมากนะฮะ วันนี้รบกวนซีวอนตั้งหลายรอบ “ ร่างบางกล่าวขอบคุณพร้อมกับมอบรอยยิ้มสดใสมาให้จนชายหนุ่มอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
“ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ลำบากอะไร “
“ งั้นผมขอตัวก่อนนะฮะ ว่างๆพาหลานซีวอนมาเล่นที่ร้านบ้างนะ “
“ ได้เลยครับ เจ้าตัวยุ่งคงจะดีใจมากแน่เลย “
“ ขับรถดีๆนะ แล้วเจอกันใหม่ฮะ “
ปากบางขยับบอกคนที่อยู่ในรถพร้อมกับมือเล็กที่ยกขึ้นมาบอกลาซึ่งซีวอนเองก็ยกขึ้นมาโบกตอบเช่นกัน ก่อนที่จะเคลื่อนรถออกจากหน้าร้านแต่ก็ไม่วายที่จะมองตามกระจกหลัง
ภาพของคนตัวเล็กเดินเข้าไปหามารดาพร้อมกับโผเข้ากอด้วยท่าทางอ้อนๆก่อนที่ใบหน้าสวยๆจะมุ่ยลงเมื่อมารดาทำเหมือนจะดุ ก่อนที่สองแม่ลูกจะหัวเราะออกมาพร้อมกันแล้วเดินกอดกันเข้าไปในบ้านเป็นภาพที่วาดรอยยิ้มบนใบหน้าคมได้โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยสักนิด
_____________________________________________________________________________________________________
ก่อนอื่นขอกรี๊ดส์ให้ลั่นสนั่นทุ่ง
พี่แก้มแตกของน้องตัดผมแล้ว หล่อลาก
พอจะไว้ผมยาวก้ไว้ซะแม่ยกปวดเฮด
บทจะตัดก็ตัดซะไม่เสียดายผมเลยนะพ่อคู๊ณ
แต่คิมคิซะอย่าง
ตัดทรงไหน ตัดเมื่อไหร่ ก็หล่อ
ความคิดเห็น