ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~* It's love* ~ รักเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง [KiHae KyuMin etc. ]

    ลำดับตอนที่ #7 : เพราะเป็นนายฉันยอมให้ก็ได้

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 53


      Loma_ p

      
    ข่าวการแต่งงานของทายาทตระกูลดังได้รับความสนใจจากคนทุกเพศทุกวัยเป็นอย่างมาก   แต่ที่มาแรงไม่แพ้กันก็เห็นทีจะเป็นกระแสต่อต้านคนที่จะมาแต่งงานกับคิบอม   บางคนเห็นว่าทงเฮนั้นไม่คู่ควรกับร่างสูงทั้งฐานะ  หน้าตาทางสังคมและที่สำคัญทั้งคู่เป็นผู้ชายเหมือนกัน

     

       ร่างบางนั่งดูข่าวเรื่องงานแต่งงานของตนแล้วก็ต้องถอนหายใจเพราะไม่คิดว่าแค่การแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อคิม คิบอมจะทำให้มีคนไม่ชอบตนเองได้มากมายขนาดนี้

     

       ถ้าเลือกได้ชั้นก็ไม่อยากแต่งหรอกนะ คนสวยพูกับตัวเองเบาๆ

     

       ในขณะที่หน้าห้องก็มีร่างบางของเพื่อนรุ่นพี่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมกับหนังสือนิตยาสารอยู่ในมือ  เมื่อเงยหน้าขึ้นมองทงเฮรู้ได้ทันทีว่าฮีชอลคงจะมาถามเขาเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานแน่นอน

     

       นี่มันอะไร อธิบายมาซิลี ทงเฮ ฮีชอลวางหนังสือไว้บนโต๊ะที่รุ่นน้องนั่งอยู่

       ก็หนังสือไงฮะ ร่างบางยังทำทีเป็นไม่รู้เรื่อง

       อย่ามาเล่นลิ้น บอกมาเลยว่าทำไมคิบอมถึงได้มาแต่งงานกับนาย

       เรื่องมันยาวน่ะฮะ

       ยาวแค่ไหนชั้นก็จะฟัง รุ่นพี่คนสวยลากเก้าอี้มานั่งข้างๆทงเฮพร้อมกับหน้าตาที่อยากรู้สุดฤทธิ์

     

       เมื่อเช้าฮีชอลแวะไปที่ร้านหนังสือเพื่อไปดูว่าอาทิตย์นี้มีนิตยาสารเล่มไหนลงข่าวเกี่ยวกับคิบอมหรือไม่  แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นข่าวว่ารุ่นน้องคนสนิทกำลังจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ตนเองวาดหวังว่าจะเอามาเป็นสามีในอนาคตให้ได้  ทันทีที่ซื้อหนังสือเสร็จฮีชอลก็รีบตรงดิ่งมาหาคำตอบทันที

     

        ทงเฮมองหน้ารุ่นพี่คนสวยแล้วถอนหายใจก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อีกคนฟัง  ซึ่งดูเหมือนว่าฮีชอลจะสนใจฟังเรื่องยิ่งกว่าเวลาฟังอาจารย์สอนในห้องเรียนซะอีก

     

       เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้แหละฮะ

         ที่ต้องแต่งงานกันก็เป็นเพราะผู้ใหญ่สินะ  แล้วทำไม่พวกนายไม่ขอยกเลิกล่ะ

     

       ฮีชอลสรุปเรื่องยาวที่ได้ยินมา  แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่ทงเฮนั้นไม่ปฏิเสธเพราะปกติแล้วมันใช่นิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่ไหนล่ะที่จะยอมทำตามคนอื่นง่ายๆ

     

       ที่จริงถ้าทำแบบนั้นมันก็ได้นะ  ถ้าบ้านผมไม่มีหนี้ท่วมหัวอยู่เหมือนตอนนี้

     

       ร่างบางบอกเหตุผลที่แท้จริงของพี่ชาย  เพราะตอนที่เจ้าตัวรู้เรื่องครั้งแรกก็ค้านหัวชนฝาว่าเป็นตายยังไงก็ไม่มีวันยอมแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันเด็ดขาด  แต่พอพ่อกับแม่บอกว่าอีกไม่กี่วันบ้านจะโดนยึดร่างบางจึงไม่มีทางเลือกเพราะทางนั้นยื่นข้อเสนมาว่าถ้าหากตนยอมแต่งงานจะช่วยเคลียร์ปัญหาหนี้สินให้ทั้งหมด

     

       งั้นชั้นขอถามอะไรนายสักอย่างสิ ฮีชอลลังเลอยู่สักพัก  แต่ยังไงก็ขอถามเพื่อความมั่นใจหน่อยก็แล้วกัน

       ได้ฮะ

       นายชอบคิบอมรึเปล่า

       ผมกับเขาแทบจะไม่ได้คุยกันเลยนะฮะ  แล้วจะชอบได้ยังไงล่ะอีกอย่างนะหมอนั่นน่ะไม่ใช่สเปกผมหรอก

     

       ร่างบางเอ่ยตอบพี่ชายทันที  หลังจากที่รู้ว่าจะต้องแต่งงานกันทั้งทงเฮและคิบอมก็ได้พบกันบ่อยขึ้นแต่ร่างบางแทบจะนับได้ว่าได้คุยกับร่างสูงนั้นกี่ประโยค

     

       นายแน่ใจนะ

       ฮะ

      งั้นก็แล้วไป  ชั้นเห็นว่าคนที่แต่งงานกับคิบอมเป็นนายหรอกนะชั้นถึงได้ยอมให้

     

       ทงเฮเห็นท่าทางของพี่ชายคนสวยแล้วก็นึกขำไม่รู้ว่าอิตาคิมคิบอมมีดีอะไรนักหนาคนถึงได้คลั่งไคล้กันมากมายขนาดนี้  วันๆไม่เห็นหมอนั่นจะทำอะไรนอกจากทำหน้าขรึมไปวันๆไม่รู้ว่ามันจะลำบากอะไรนักหนาแค่ยิ้มให้คนอื่นบ้าง  หรือว่ายิ้มของหมอนี่มันมีราคาถึงได้หวงนักหวงหนา  ร่างบางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแต่พอสังเกตเห็นว่าซองมินยังไม่มาจึงเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

       ซองมินยังไม่มาเหรอฮะ

      ยังเลย  นี่นายรู้หรือเปล่าว่าซองมินไปอยู่บ้านเดียวกับคุณคยูฮยอน ฮีชอลตอบพร้อมกับเล่าข่าวที่เขาพึ่งรู้มาสดๆร้อนๆจากคนวงในที่เป็นแฟนคลับพันธุ์แท้ของคยูฮยอน

       จริงเหรอฮะ  ว่าแต่คยูฮยอนไหนเหรอ

     

        ฮีชอลยกมือเกาหัวตัวเองนี่เขาลืมไปได้ยังไงว่าทงเฮไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้   ดังนั้นเลยไม่แปลกเลยที่เจ้าน้องชายหน้าหวานตรงหน้าจะไม่รู้จักคุณชาย  โจว  คยูฮยอน

     

       ลูกชายคนรองของรัฐมนตรีโจวไง เป็นเพื่อนสนิทของว่าที่สามีนายน่ะ

       พี่น่ะพูดอะไรก็ไม่รู้ สามีที่ไหน คนสวยพูดทั้งๆที่หน้าเริ่มขึ้นสี  ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรแต่ร่างบางรู้สึกเขินทุกครั้งที่ได้ยินคนพูดแบบนี้

       หรือไม่จริงอีกสองอาทิตย์ก็ต้องแต่งงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ

       ไม่เอาไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ว่าแต่ทำไมซองมินถึงได้ไปอยู่ที่นั่นล่ะฮะ ว่าที่เจ้าสาวรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีมันอดที่จะรู้สึกแปลกไม่ได้ที่อีกไม่กี่วันข้างหน้าตัวเองต้องเป็นเจ้าสาวทั้งๆที่เป็นผู้ชาย

     

       เมื่ออีกคนถามมาฮีชอลก็เริ่มเล่าทันทีเพราะถึงแม้ทงเฮจะไม่เอ่ยปากถามแต่ร่างบางก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเล่า  เพราะตอนนี้เจ้ารุ่นน้องกระต่ายอวบของตนกำลังเป็นที่อิจฉาของสาวๆเหล่าสาวกคุณชายโจว

     

       น่าสงสารซองมินจังเลยนะฮะ ทันทีที่ได้ฟังรุ่นพี่คนสวยเล่าจบทงเฮก็พึมพำออกมา  ต้องไปอยู่บ้านคนอื่นทั้งๆที่ไม่เต็มใจแถมยังต้องไปดูแลคนอื่นอีก

       แต่ชั้นว่าคนที่น่าสงสารน่าเป็นคุณชายคยูฮยอนมากกว่านะ

      เอ๋ ทำไมอ่ะ

      นายน่าจะรู้จักนิสัยเพื่อนนายดีนิ่

     

       ฮีชอลไม่ได้คิดเหมือนทงเฮแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีว่าซองมินเป็นคนยังไง  คนที่น่าจะตกที่นั่งลำบากน่าจะเป็น   คยูฮยอนมากกว่าเพราะไม่รู้ว่าจะโดนเจ้ากระต่ายปั่นหัวอะไรบ้าง

     

     

     

     

       ในขณะที่คนที่กำลังถูกพูดถึงก็กำลังปลุกคุณชายขี้เซาที่ไม่ยอมตื่น  เพราะครั้งที่แล้วที่โดนซองมินปลุกนั้นมันสอนให้ร่างหนารู้ว่าเวลานอนต้องรู้จักล็อคห้องซะบ้าง  แต่มีหรือว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้ลีซองมินละความพยายาม เพราะร่างบางนั้นลงทุนปีนหน้าต่างเข้าไปให้มันรู้ซะบ้างว่าใครแน่กว่ากัน

     

       เมื่อเข้ามาในห้องร่างบางก็พบว่าคยูฮยอนกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่บนที่นอนนุ่มๆ   กลิ่นแอลกอฮอล์ยังคงมีอยู่เดาได้ไม่อยากเลยว่าเมื่อคืนร่างสูงคงจะไปดื่มมาสภาพถึงได้เป็นอย่างนี้

     

       ซองมินเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อที่จะให้แสงเข้ามา  และทันทีที่ผ้าม่านเปิดออกลูกชายคนรองของท่านรัฐมนตรีก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงทันทีก่อนจะหลับต่อโดยไม่สนใจแขกที่มาเยือนเลยแม้แต่น้อย

     

       นี่กะจะนอนอย่างเดียวเลยใช่ไหม ร่างบางส่ายหน้าพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง

     

       เสียงเคาะประตูที่ดังอยู่หน้าห้องทำให้ร่างบางต้องละสายตากับคนที่นอนอยู่บนเตียงก่อนจะเดินไปเปิดประตูจึงพบว่าแม่บ้านเอาชุดขึ้นมาให้  ร่างบางรับชุดแล้วบอกให้แม่บ้านกลับไปทำงานของตัวเองได้  ขาเรียวพาเจ้าของเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนที่จะแขวนชุดที่พึ่งได้รับมาเอาไว้แล้วเดินไปจัดการกับคนหลับต่อ

     

       นี่ ตื่นได้แล้วนายมีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ มือเล็กสะกิดให้อีกคนรู้สึกตัวแต่ร่างหนาที่อยู่บนผ้าห่มก็ขยับตัวหนี

     

       ซองมินมองดูที่ที่คนตัวใหญ่เขยิบหนีไปซึ่งมันเหลืออีกนิดเดียวก็จะถึงขอบเตียงแล้ว  ร่างบางยกยิ้มที่มุมปากทันทีที่คิดอะไรออก  มือเล็กสะกิดอีกครั้งและก็เหมือนเดิมร่างสูงก็ขยับหนีเป็นเช่นนั้นอยู่สองสามครั้ง  ซองมินแทบจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อร่างของคุณชายโจว คยูฮยอนร่วงลงไปอยู่ข้างเตียง

     

       แต่แล้วร่างบางก็ชักสีหน้าด้วยความหงุดหงิดเพราะนอกจากคยูฮยอนจะไม่ตื่นแล้วร่างหนายังหลับต่อไม่ได้รู้สึกอะไรเลยว่าตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนเตียง

     

       ปลุกดีๆไม่ชอบใช่ไหม

     

       คนตัวเล็กกว่าเดินไปดึงผ้าห่มที่คุณชายโจว  คยูฮยอนใช้ห่อร่างกายเอาไว้ก่อนที่คนที่ตัวโตกว่าจะกลิ้งไปตามพื้นแต่ก็ยังไม่ยอมตื่น  แขนเล็กลากเอาร่างหนาที่ไม่รู้ว่าหลับหรือตายเข้าไปห้องน้ำก่อนที่จะทิ้งร่างหนาไว้ที่พื้นพร้อมกับเปิดฝักบัวทำเอาคนที่กำลังหลับฝันดีดิ้นพล่านเพราะความเย็นของน้ำที่กระทบผิวกาย

     

       คยูฮยอนรีบลุกขึ้นปิดน้ำทันทีแต่ก็พบกับร่างบางที่เริ่มจะคุ้นตายืนหัวเราะอยู่ไม่ไกลมากนัก   ร่างหนาฉุนขาดทันทีที่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร 

       นายทำบ้าอะไรของนาย ร่างสูงตวาดลั่นด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด น้ำเสียงที่ซองมินไม่เคยได้ยินมาก่อนร่างบางตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยังทำเป็นเก่งตอบออกไป

       ก็ปลุกนายไง

      ปลุกบ้าอะไร ให้ฉันอาบน้ำทั้งชุดเนี่ยนะที่เค้าเรียกว่าปลุก

     

       ร่างหนาสวนกลับทันที  ไม่เคยมีใครหน้าไหนทำกับเขาแบบนี้  นี่นายหน้าหวานคนนี้เข้ามาอยูที่นี่ได้ไม่กี่วันมีสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับชีวิตของเขา

     

       ก็ชั้นปลุกนายดีๆแล้วนายไม่ยอมตื่นเอง

       ฉันจะตื่นหรื่อไม่ตื่นมันก็เรื่องของฉันนายไม่ต้องยุ่ง

      แต่ชั้นต้องยุ่ง เพราะมันเป็นหน้าที่ของชั้น

      แต่มันน่ารำคาญ

      ถ้าไม่อยากรำคาญก็หัดตื่นเองซะบ้างสิ นายคิดว่าชั้นไม่เบื่อรึไงที่ต้องมามาคอยปลุกนายทุกวันแบบนี้  การที่ต้องทำอะไรซ้ำซากทุกวันมันน่าเบื่อที่สุดนายรู้ไหม

      ถ้าเบื่อนายก็เลิกยุ่งกับฉันสิ

      ชั้นเลิกแน่ถ้านิสัยแย่ๆของนายมันดีขึ้น  อาบน้ำซะวันนี้นายมีเรียนตอนเช้า

     

       ร่างบางเอ่ยจบแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับยัดผ้าเช็ดตัวใส่มือร่างสูงก่อนจะปิดประตูห้องน้ำสุดแรงเกิด   นี่ถ้าไม่เห็นว่ารับปากกับมารดาเอาไว้ไม่มีทางที่คนอย่างซองมินจะยอมทนอยู่กับเจ้าเด็กไม่รู้จักโตคนนี้หรอก

     

     

     

       คยูฮยอนเดินลงมาชั้นล่างหลังจากถูกกระต่ายอวบบังคับให้อาบน้ำ  ร่างหนายังนึกสงสัยอยู่ว่าซองมินรู้ตารางเรียนของเขาได้ยังไง   แต่ความคิดทุกอย่างก็ต้องหยุดเอาไว้แค่นั้นเพราะเหลือบมองดูเวลาที่ข้อมือแล้วเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาเรียน

     

       ร่างสูงรีบวิ่งออกจากบ้านทันทีแต่ก็ต้องโวยวายจนลั่นบ้านเมื่อพบว่าแม่บ้านยังไม่เตรียมของเท้าเอาไว้ให้เหมือนเช่นทุกวัน

     

       รองเท้าฉันอยู่ไหน ทำไมยังไม่เอามาไว้อีก

     

       เสีนงทุ้มตะโกนลั่นบ้านสร้างความหวาดกลัวให้คนใช้ในบ้านได้เป็นอย่างดี  ก่อนที่แม่บ้านคนที่ทำหน้าที่เป็นประจำจะรีบเอารองเท้าไปให้เจ้านายคนเล็กของบ้านแต่ก็โดนแขนเล็กจับเอาไว้ซะก่อน

     

       ไม่ต้องฮะ เขามาเอาเอง

       มันจะดีเหรอค่ะคุณซองมิน  เดี๋ยวคุณคยูฮยอนเธอจะโกรธนะค่ะ

       ดีสิฮะ  เขาควรจะหัดทำเรื่องเล็กๆน้อยเองบ้าง ไม่ใช่คอยให้คนอื่นยกไปถวายให้แบบนี้มันยิ่งจะเป็นผลเสียกับตัวเขาเองนะฮะ

       เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ

     

       ร่างบางยิ้มให้แม่บ้านก่อนที่จะเดินข้าไปหาคนที่กำลังโวยวายเพราะไม่ได้ดั่งใจ  มองอย่างนี้แล้วคยูฮยอนก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเด็กๆที่โดนขัดใจเลยสักนิด

     

       นายมาก็ดีแล้ว ไปเอารองเท้ามาให้ฉันหน่อยสิ เสียงทุ้มร้องสั่ง

       แล้วทำไมนายไม่ไปหยิบเองล่ะ  เลือกเล็กน้อยแค่นี้เอง

       อย่ามาพูดมาก  ฉันบอกให้ไปหยิบรองเท้ามาให้ฉันไง คนกำลังรีบอยู่ด้วย เสียงทุ้มตวาดลั่นบ่งบอกว่าเจ้าตัวเริ่มที่จะหงุดหงิดแล้ว

       โทษทีนะ ชั้นไม่ว่างน่ะต้องรีบไปเรียน ส่วนคนอื่นก็มีงานที่ต้องทำ ถ้ารีบมากก็ไปหยิบเองละกัน

     

       คนตัวเล็กกว่าเอ่ยก่อนที่จะเดินออกจากบ้านทิ้งให้ร่างหนายืนขบกรามแน่นที่ไม่สามารถทำอะไรคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเมื่อครู่ได้  ก่อนที่จะเดินฮึดฮัดไปหยิบรองเท้าเพราะนี่ก็เสียเวลามามากแล้ว

     

       อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน

     

     

        ยานพาหนะคันหรูพาลูกชายคนรองของท่านรัฐมนตรีมุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัย  แต่ระหว่างทางนั้นตาคมเหลือบไปเห็นร่างเล็กที่คุ้นตาเดินอยู่ตรงฟุตบาท  ชายหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อนึกแผนการเอาคืนได้  ร่างสูงเร่งความเร็วของรถตั้งใจขับไปตรงที่ที่มีน้ำขังเพื่อให้มันกระเด็นโดนร่างบางที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่ง

     

       ซองมินต้องรีบกระโดดหลบทันทีที่น้ำกระเด็นขึ้นมาบนฟุตบาทแต่ก็ช้าเกินไปเพราะชุดนักศึกษาของเขาเต็มไปด้วยโคลน  ร่างบางมองตามรถของคนที่ไม่มีมารยาทแต่ก็ต้องเม้มริมฝีปากแน่นเพราะมันคือรถของคู่กรณีที่เพิ่งมีเรื่องกันมาหมาดๆ   ส่วนทางด้านของคยูฮยอนนั้นร่างสูงกำลังหัวเราะลั่นรถด้วยความสะใจ

     

     

     

     

       ซองมินนายไปอะไรมาน่ะ  ทงเฮรีบเข้าไปถามไถ่อาการของเพื่อนทันทีที่เห็นสภาพของเจ้ากระต่ายเดินเข้ามาในห้อง

       ก็แค่คนขับรถไม่มีมารยาทน่ะ

       แล้วมันเป็นใครเหรอ ฮีชอลรีบเอ่ยถามทันที

       พวกลูกคนรวยน่ะฮะ  พวกพี่ไม่ต้องสนใจหรอก

       ได้ไงอ่ะ คิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง  นายรู้จักมันไหม เดี๋ยวชั้นจะไปจัดการให้

       ช่างมันเถอะ  แค้นนี้สิบปีก็ยังไม่สาย

     

       ร่างบางเอ่ยบอกพี่ชายและเพื่อนแต่สายตานั้นเต็มไปด้วยความแค้น  แต่สำหรับโจว  คยูฮยอน อีกสิบปีกลับมาแก้แค้นยังไม่สาย  กลับบ้านไปค่อยเข้าคืนยังทัน  อย่าคิดว่าเรื่องนี้มันจะจบง่ายๆนะ

     

       แล้วทำไมนายไม่กลับไปเปลี่ยนเสื้อก่อนล่ะ   ทงเฮถามพร้อมกับสำรวจเสื้อของเพื่อนรักที่ตอนนี้แทบจะดูไม่ออกว่ามันป็นเสื้อนักศึกษา

       ก็ชั้นกลัวมาไม่ทันสอบน่ะสิ

       เออ  ใช่วันนี้มีสอบนี่นาชั้นลืมไปเลยอ่ะ ฮีชอลที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่รู้เรื่องว่ามันนี้มีสอบโพลงขึ้น แล้วจะทำไงล่ะทีนี้หนังสือไม่ได้อ่านสักตัว  ชั้นขอลอกหน่อยนะซองมิน

     

       ร่างบางส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ  ซองมินรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่รุ่นพี่หน้าสวยจะมาขอลอกข้อสอบตน เพราะถ้าหากไปฝากความหวังไว้กับทงเฮชาตินี้คงได้แก้ F กันไม่จบไม่สิ้น

     

     

     

     

     

       ด้านฝั่งของเด็กบริหารที่กำลังนั่งรอเรียนอยู่นั้นก็ได้รับข่าวดีว่าวันนี้อาจารย์ติดธุระไม่สามารถมาสอนได้คาบนี้จึงไปให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้ากันเอง

     

       อ้าว  จะไปไหนกัน คยูฮยอนที่วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาบนห้องเมื่อเห็นว่าซีวอนกับคิบอมกำลังจะเดินออกไป

       ไปห้องสมุด แล้วนายจะรีบไปไหน ซีวอนเอ่ยพร้อมกับเลิกคิ้วสงสัยกับท่าทางของเพื่อน

       แล้วไม่เรียนกันเหรอ

       อาจารย์ติดธุระ มาสอนไม่ได้

       แล้วฉันจะรีบมาทำไมเนี่ย

     

       ซีวอนอดที่จะขำกับท่าทางเซ็งรับประทานของเพื่อนไม่ได้   สรุปว่าที่รีบนี่คือรีบมาให้ทันอาจารย์ใช่ไหม แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วไปห้องสมุดด้วยกันเลยละกัน

     

       นายจะไปด้วยกันไหม

       ถ้าไม่ไปแล้วฉันจะอยู่ทำซากอะไรล่ะ พูดจบก็เดดินมาแทรกกลางแล้วกอดคอเพื่อนทั้งสองออกท่ามกลางสายตาของคนในมหาวิทยาลัยที่แอบชื่นชมชายหนุ่มทั้งสาม  บ้างก็มีเสียงกรี๊ดบ้างประกายเมื่อเพื่อนรักหยอกล้อกันระหว่างทาง

     

       แต่แล้วรอยยิ้มของสองหนุ่มก็ต้องเหือดหายไปยกเว้นก็แต่ซีวอนเท่านั้นที่ยิ้มแก้มแทบจะระเบิดแข่งกับคิบอมเมื่อสามหนุ่มบังเอิญเดินสวยทางกับสามหนุ่มหน้าหวานพอดิบพอดี

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×