คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เพราะเป็นนายฉันยอมให้ก็ได้
Loma_ p
ข่าวการแต่งงานของทายาทตระกูลดังได้รับความสนใจจากคนทุกเพศทุกวัยเป็นอย่างมาก แต่ที่มาแรงไม่แพ้กันก็เห็นทีจะเป็นกระแสต่อต้านคนที่จะมาแต่งงานกับคิบอม บางคนเห็นว่าทงเฮนั้นไม่คู่ควรกับร่างสูงทั้งฐานะ หน้าตาทางสังคมและที่สำคัญทั้งคู่เป็นผู้ชายเหมือนกัน
ร่างบางนั่งดูข่าวเรื่องงานแต่งงานของตนแล้วก็ต้องถอนหายใจเพราะไม่คิดว่าแค่การแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อคิม คิบอมจะทำให้มีคนไม่ชอบตนเองได้มากมายขนาดนี้
“ ถ้าเลือกได้ชั้นก็ไม่อยากแต่งหรอกนะ “ คนสวยพูกับตัวเองเบาๆ
ในขณะที่หน้าห้องก็มีร่างบางของเพื่อนรุ่นพี่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมกับหนังสือนิตยาสารอยู่ในมือ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองทงเฮรู้ได้ทันทีว่าฮีชอลคงจะมาถามเขาเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานแน่นอน
“ นี่มันอะไร อธิบายมาซิลี ทงเฮ “ ฮีชอลวางหนังสือไว้บนโต๊ะที่รุ่นน้องนั่งอยู่
“ ก็หนังสือไงฮะ “ ร่างบางยังทำทีเป็นไม่รู้เรื่อง
“ อย่ามาเล่นลิ้น บอกมาเลยว่าทำไมคิบอมถึงได้มาแต่งงานกับนาย “
“ เรื่องมันยาวน่ะฮะ “
“ ยาวแค่ไหนชั้นก็จะฟัง “ รุ่นพี่คนสวยลากเก้าอี้มานั่งข้างๆทงเฮพร้อมกับหน้าตาที่อยากรู้สุดฤทธิ์
เมื่อเช้าฮีชอลแวะไปที่ร้านหนังสือเพื่อไปดูว่าอาทิตย์นี้มีนิตยาสารเล่มไหนลงข่าวเกี่ยวกับคิบอมหรือไม่ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นข่าวว่ารุ่นน้องคนสนิทกำลังจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ตนเองวาดหวังว่าจะเอามาเป็นสามีในอนาคตให้ได้ ทันทีที่ซื้อหนังสือเสร็จฮีชอลก็รีบตรงดิ่งมาหาคำตอบทันที
ทงเฮมองหน้ารุ่นพี่คนสวยแล้วถอนหายใจก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อีกคนฟัง ซึ่งดูเหมือนว่าฮีชอลจะสนใจฟังเรื่องยิ่งกว่าเวลาฟังอาจารย์สอนในห้องเรียนซะอีก
“ เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้แหละฮะ “
“ ที่ต้องแต่งงานกันก็เป็นเพราะผู้ใหญ่สินะ แล้วทำไม่พวกนายไม่ขอยกเลิกล่ะ”
ฮีชอลสรุปเรื่องยาวที่ได้ยินมา แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่ทงเฮนั้นไม่ปฏิเสธเพราะปกติแล้วมันใช่นิสัยของรุ่นน้องคนนี้ที่ไหนล่ะที่จะยอมทำตามคนอื่นง่ายๆ
“ ที่จริงถ้าทำแบบนั้นมันก็ได้นะ ถ้าบ้านผมไม่มีหนี้ท่วมหัวอยู่เหมือนตอนนี้”
ร่างบางบอกเหตุผลที่แท้จริงของพี่ชาย เพราะตอนที่เจ้าตัวรู้เรื่องครั้งแรกก็ค้านหัวชนฝาว่าเป็นตายยังไงก็ไม่มีวันยอมแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันเด็ดขาด แต่พอพ่อกับแม่บอกว่าอีกไม่กี่วันบ้านจะโดนยึดร่างบางจึงไม่มีทางเลือกเพราะทางนั้นยื่นข้อเสนมาว่าถ้าหากตนยอมแต่งงานจะช่วยเคลียร์ปัญหาหนี้สินให้ทั้งหมด
“ งั้นชั้นขอถามอะไรนายสักอย่างสิ “ ฮีชอลลังเลอยู่สักพัก แต่ยังไงก็ขอถามเพื่อความมั่นใจหน่อยก็แล้วกัน
“ได้ฮะ “
“ นายชอบคิบอมรึเปล่า “
“ ผมกับเขาแทบจะไม่ได้คุยกันเลยนะฮะ แล้วจะชอบได้ยังไงล่ะอีกอย่างนะหมอนั่นน่ะไม่ใช่สเปกผมหรอก “
ร่างบางเอ่ยตอบพี่ชายทันที หลังจากที่รู้ว่าจะต้องแต่งงานกันทั้งทงเฮและคิบอมก็ได้พบกันบ่อยขึ้นแต่ร่างบางแทบจะนับได้ว่าได้คุยกับร่างสูงนั้นกี่ประโยค
“ นายแน่ใจนะ “
“ ฮะ “
“ งั้นก็แล้วไป ชั้นเห็นว่าคนที่แต่งงานกับคิบอมเป็นนายหรอกนะชั้นถึงได้ยอมให้ “
ทงเฮเห็นท่าทางของพี่ชายคนสวยแล้วก็นึกขำไม่รู้ว่าอิตาคิมคิบอมมีดีอะไรนักหนาคนถึงได้คลั่งไคล้กันมากมายขนาดนี้ วันๆไม่เห็นหมอนั่นจะทำอะไรนอกจากทำหน้าขรึมไปวันๆไม่รู้ว่ามันจะลำบากอะไรนักหนาแค่ยิ้มให้คนอื่นบ้าง หรือว่ายิ้มของหมอนี่มันมีราคาถึงได้หวงนักหวงหนา ร่างบางคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแต่พอสังเกตเห็นว่าซองมินยังไม่มาจึงเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ ซองมินยังไม่มาเหรอฮะ “
“ยังเลย นี่นายรู้หรือเปล่าว่าซองมินไปอยู่บ้านเดียวกับคุณคยูฮยอน “ ฮีชอลตอบพร้อมกับเล่าข่าวที่เขาพึ่งรู้มาสดๆร้อนๆจากคนวงในที่เป็นแฟนคลับพันธุ์แท้ของคยูฮยอน
“ จริงเหรอฮะ ว่าแต่คยูฮยอนไหนเหรอ “
ฮีชอลยกมือเกาหัวตัวเองนี่เขาลืมไปได้ยังไงว่าทงเฮไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ ดังนั้นเลยไม่แปลกเลยที่เจ้าน้องชายหน้าหวานตรงหน้าจะไม่รู้จักคุณชาย โจว คยูฮยอน
“ ลูกชายคนรองของรัฐมนตรีโจวไง เป็นเพื่อนสนิทของว่าที่สามีนายน่ะ “
“ พี่น่ะพูดอะไรก็ไม่รู้ สามีที่ไหน “ คนสวยพูดทั้งๆที่หน้าเริ่มขึ้นสี ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรแต่ร่างบางรู้สึกเขินทุกครั้งที่ได้ยินคนพูดแบบนี้
“ หรือไม่จริงอีกสองอาทิตย์ก็ต้องแต่งงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ “
“ ไม่เอาไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ว่าแต่ทำไมซองมินถึงได้ไปอยู่ที่นั่นล่ะฮะ “ ว่าที่เจ้าสาวรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีมันอดที่จะรู้สึกแปลกไม่ได้ที่อีกไม่กี่วันข้างหน้าตัวเองต้องเป็นเจ้าสาวทั้งๆที่เป็นผู้ชาย
เมื่ออีกคนถามมาฮีชอลก็เริ่มเล่าทันทีเพราะถึงแม้ทงเฮจะไม่เอ่ยปากถามแต่ร่างบางก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเล่า เพราะตอนนี้เจ้ารุ่นน้องกระต่ายอวบของตนกำลังเป็นที่อิจฉาของสาวๆเหล่าสาวกคุณชายโจว
“ น่าสงสารซองมินจังเลยนะฮะ “ ทันทีที่ได้ฟังรุ่นพี่คนสวยเล่าจบทงเฮก็พึมพำออกมา ต้องไปอยู่บ้านคนอื่นทั้งๆที่ไม่เต็มใจแถมยังต้องไปดูแลคนอื่นอีก
“ แต่ชั้นว่าคนที่น่าสงสารน่าเป็นคุณชายคยูฮยอนมากกว่านะ “
“ เอ๋ ทำไมอ่ะ “
“ นายน่าจะรู้จักนิสัยเพื่อนนายดีนิ่”
ฮีชอลไม่ได้คิดเหมือนทงเฮแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีว่าซองมินเป็นคนยังไง คนที่น่าจะตกที่นั่งลำบากน่าจะเป็น คยูฮยอนมากกว่าเพราะไม่รู้ว่าจะโดนเจ้ากระต่ายปั่นหัวอะไรบ้าง
ในขณะที่คนที่กำลังถูกพูดถึงก็กำลังปลุกคุณชายขี้เซาที่ไม่ยอมตื่น เพราะครั้งที่แล้วที่โดนซองมินปลุกนั้นมันสอนให้ร่างหนารู้ว่าเวลานอนต้องรู้จักล็อคห้องซะบ้าง แต่มีหรือว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้ลีซองมินละความพยายาม เพราะร่างบางนั้นลงทุนปีนหน้าต่างเข้าไปให้มันรู้ซะบ้างว่าใครแน่กว่ากัน
เมื่อเข้ามาในห้องร่างบางก็พบว่าคยูฮยอนกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่บนที่นอนนุ่มๆ กลิ่นแอลกอฮอล์ยังคงมีอยู่เดาได้ไม่อยากเลยว่าเมื่อคืนร่างสูงคงจะไปดื่มมาสภาพถึงได้เป็นอย่างนี้
ซองมินเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อที่จะให้แสงเข้ามา และทันทีที่ผ้าม่านเปิดออกลูกชายคนรองของท่านรัฐมนตรีก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงทันทีก่อนจะหลับต่อโดยไม่สนใจแขกที่มาเยือนเลยแม้แต่น้อย
“ นี่กะจะนอนอย่างเดียวเลยใช่ไหม “ ร่างบางส่ายหน้าพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง
เสียงเคาะประตูที่ดังอยู่หน้าห้องทำให้ร่างบางต้องละสายตากับคนที่นอนอยู่บนเตียงก่อนจะเดินไปเปิดประตูจึงพบว่าแม่บ้านเอาชุดขึ้นมาให้ ร่างบางรับชุดแล้วบอกให้แม่บ้านกลับไปทำงานของตัวเองได้ ขาเรียวพาเจ้าของเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนที่จะแขวนชุดที่พึ่งได้รับมาเอาไว้แล้วเดินไปจัดการกับคนหลับต่อ
“ นี่ ตื่นได้แล้วนายมีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ “ มือเล็กสะกิดให้อีกคนรู้สึกตัวแต่ร่างหนาที่อยู่บนผ้าห่มก็ขยับตัวหนี
ซองมินมองดูที่ที่คนตัวใหญ่เขยิบหนีไปซึ่งมันเหลืออีกนิดเดียวก็จะถึงขอบเตียงแล้ว ร่างบางยกยิ้มที่มุมปากทันทีที่คิดอะไรออก มือเล็กสะกิดอีกครั้งและก็เหมือนเดิมร่างสูงก็ขยับหนีเป็นเช่นนั้นอยู่สองสามครั้ง ซองมินแทบจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อร่างของคุณชายโจว คยูฮยอนร่วงลงไปอยู่ข้างเตียง
แต่แล้วร่างบางก็ชักสีหน้าด้วยความหงุดหงิดเพราะนอกจากคยูฮยอนจะไม่ตื่นแล้วร่างหนายังหลับต่อไม่ได้รู้สึกอะไรเลยว่าตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนเตียง
“ปลุกดีๆไม่ชอบใช่ไหม”
คนตัวเล็กกว่าเดินไปดึงผ้าห่มที่คุณชายโจว คยูฮยอนใช้ห่อร่างกายเอาไว้ก่อนที่คนที่ตัวโตกว่าจะกลิ้งไปตามพื้นแต่ก็ยังไม่ยอมตื่น แขนเล็กลากเอาร่างหนาที่ไม่รู้ว่าหลับหรือตายเข้าไปห้องน้ำก่อนที่จะทิ้งร่างหนาไว้ที่พื้นพร้อมกับเปิดฝักบัวทำเอาคนที่กำลังหลับฝันดีดิ้นพล่านเพราะความเย็นของน้ำที่กระทบผิวกาย
คยูฮยอนรีบลุกขึ้นปิดน้ำทันทีแต่ก็พบกับร่างบางที่เริ่มจะคุ้นตายืนหัวเราะอยู่ไม่ไกลมากนัก ร่างหนาฉุนขาดทันทีที่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร
“ นายทำบ้าอะไรของนาย “ ร่างสูงตวาดลั่นด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด น้ำเสียงที่ซองมินไม่เคยได้ยินมาก่อนร่างบางตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยังทำเป็นเก่งตอบออกไป
“ ก็ปลุกนายไง “
“ ปลุกบ้าอะไร ให้ฉันอาบน้ำทั้งชุดเนี่ยนะที่เค้าเรียกว่าปลุก “
ร่างหนาสวนกลับทันที ไม่เคยมีใครหน้าไหนทำกับเขาแบบนี้ นี่นายหน้าหวานคนนี้เข้ามาอยูที่นี่ได้ไม่กี่วันมีสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับชีวิตของเขา
“ ก็ชั้นปลุกนายดีๆแล้วนายไม่ยอมตื่นเอง “
“ ฉันจะตื่นหรื่อไม่ตื่นมันก็เรื่องของฉันนายไม่ต้องยุ่ง “
“ แต่ชั้นต้องยุ่ง เพราะมันเป็นหน้าที่ของชั้น “
“ แต่มันน่ารำคาญ “
“ ถ้าไม่อยากรำคาญก็หัดตื่นเองซะบ้างสิ นายคิดว่าชั้นไม่เบื่อรึไงที่ต้องมามาคอยปลุกนายทุกวันแบบนี้ การที่ต้องทำอะไรซ้ำซากทุกวันมันน่าเบื่อที่สุดนายรู้ไหม “
“ ถ้าเบื่อนายก็เลิกยุ่งกับฉันสิ “
“ ชั้นเลิกแน่ถ้านิสัยแย่ๆของนายมันดีขึ้น อาบน้ำซะวันนี้นายมีเรียนตอนเช้า “
ร่างบางเอ่ยจบแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับยัดผ้าเช็ดตัวใส่มือร่างสูงก่อนจะปิดประตูห้องน้ำสุดแรงเกิด นี่ถ้าไม่เห็นว่ารับปากกับมารดาเอาไว้ไม่มีทางที่คนอย่างซองมินจะยอมทนอยู่กับเจ้าเด็กไม่รู้จักโตคนนี้หรอก
คยูฮยอนเดินลงมาชั้นล่างหลังจากถูกกระต่ายอวบบังคับให้อาบน้ำ ร่างหนายังนึกสงสัยอยู่ว่าซองมินรู้ตารางเรียนของเขาได้ยังไง แต่ความคิดทุกอย่างก็ต้องหยุดเอาไว้แค่นั้นเพราะเหลือบมองดูเวลาที่ข้อมือแล้วเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาเรียน
ร่างสูงรีบวิ่งออกจากบ้านทันทีแต่ก็ต้องโวยวายจนลั่นบ้านเมื่อพบว่าแม่บ้านยังไม่เตรียมของเท้าเอาไว้ให้เหมือนเช่นทุกวัน
“ รองเท้าฉันอยู่ไหน ทำไมยังไม่เอามาไว้อีก “
เสีนงทุ้มตะโกนลั่นบ้านสร้างความหวาดกลัวให้คนใช้ในบ้านได้เป็นอย่างดี ก่อนที่แม่บ้านคนที่ทำหน้าที่เป็นประจำจะรีบเอารองเท้าไปให้เจ้านายคนเล็กของบ้านแต่ก็โดนแขนเล็กจับเอาไว้ซะก่อน
“ ไม่ต้องฮะ เขามาเอาเอง “
“ มันจะดีเหรอค่ะคุณซองมิน เดี๋ยวคุณคยูฮยอนเธอจะโกรธนะค่ะ “
“ ดีสิฮะ เขาควรจะหัดทำเรื่องเล็กๆน้อยเองบ้าง ไม่ใช่คอยให้คนอื่นยกไปถวายให้แบบนี้มันยิ่งจะเป็นผลเสียกับตัวเขาเองนะฮะ “
“ เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ “
ร่างบางยิ้มให้แม่บ้านก่อนที่จะเดินข้าไปหาคนที่กำลังโวยวายเพราะไม่ได้ดั่งใจ มองอย่างนี้แล้วคยูฮยอนก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเด็กๆที่โดนขัดใจเลยสักนิด
“ นายมาก็ดีแล้ว ไปเอารองเท้ามาให้ฉันหน่อยสิ “ เสียงทุ้มร้องสั่ง
“ แล้วทำไมนายไม่ไปหยิบเองล่ะ เลือกเล็กน้อยแค่นี้เอง “
“ อย่ามาพูดมาก ฉันบอกให้ไปหยิบรองเท้ามาให้ฉันไง คนกำลังรีบอยู่ด้วย “ เสียงทุ้มตวาดลั่นบ่งบอกว่าเจ้าตัวเริ่มที่จะหงุดหงิดแล้ว
“ โทษทีนะ ชั้นไม่ว่างน่ะต้องรีบไปเรียน ส่วนคนอื่นก็มีงานที่ต้องทำ ถ้ารีบมากก็ไปหยิบเองละกัน “
คนตัวเล็กกว่าเอ่ยก่อนที่จะเดินออกจากบ้านทิ้งให้ร่างหนายืนขบกรามแน่นที่ไม่สามารถทำอะไรคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเมื่อครู่ได้ ก่อนที่จะเดินฮึดฮัดไปหยิบรองเท้าเพราะนี่ก็เสียเวลามามากแล้ว
“ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน “
ยานพาหนะคันหรูพาลูกชายคนรองของท่านรัฐมนตรีมุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัย แต่ระหว่างทางนั้นตาคมเหลือบไปเห็นร่างเล็กที่คุ้นตาเดินอยู่ตรงฟุตบาท ชายหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อนึกแผนการเอาคืนได้ ร่างสูงเร่งความเร็วของรถตั้งใจขับไปตรงที่ที่มีน้ำขังเพื่อให้มันกระเด็นโดนร่างบางที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่ง
ซองมินต้องรีบกระโดดหลบทันทีที่น้ำกระเด็นขึ้นมาบนฟุตบาทแต่ก็ช้าเกินไปเพราะชุดนักศึกษาของเขาเต็มไปด้วยโคลน ร่างบางมองตามรถของคนที่ไม่มีมารยาทแต่ก็ต้องเม้มริมฝีปากแน่นเพราะมันคือรถของคู่กรณีที่เพิ่งมีเรื่องกันมาหมาดๆ ส่วนทางด้านของคยูฮยอนนั้นร่างสูงกำลังหัวเราะลั่นรถด้วยความสะใจ
“ ซองมินนายไปอะไรมาน่ะ “ ทงเฮรีบเข้าไปถามไถ่อาการของเพื่อนทันทีที่เห็นสภาพของเจ้ากระต่ายเดินเข้ามาในห้อง
“ ก็แค่คนขับรถไม่มีมารยาทน่ะ “
“ แล้วมันเป็นใครเหรอ “ ฮีชอลรีบเอ่ยถามทันที
“ พวกลูกคนรวยน่ะฮะ พวกพี่ไม่ต้องสนใจหรอก “
“ ได้ไงอ่ะ คิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง นายรู้จักมันไหม เดี๋ยวชั้นจะไปจัดการให้ “
“ ช่างมันเถอะ แค้นนี้สิบปีก็ยังไม่สาย “
ร่างบางเอ่ยบอกพี่ชายและเพื่อนแต่สายตานั้นเต็มไปด้วยความแค้น แต่สำหรับโจว คยูฮยอน อีกสิบปีกลับมาแก้แค้นยังไม่สาย กลับบ้านไปค่อยเข้าคืนยังทัน อย่าคิดว่าเรื่องนี้มันจะจบง่ายๆนะ
“ แล้วทำไมนายไม่กลับไปเปลี่ยนเสื้อก่อนล่ะ “ ทงเฮถามพร้อมกับสำรวจเสื้อของเพื่อนรักที่ตอนนี้แทบจะดูไม่ออกว่ามันป็นเสื้อนักศึกษา “
“ ก็ชั้นกลัวมาไม่ทันสอบน่ะสิ “
“ เออ ใช่วันนี้มีสอบนี่นาชั้นลืมไปเลยอ่ะ “ ฮีชอลที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่รู้เรื่องว่ามันนี้มีสอบโพลงขึ้น แล้วจะทำไงล่ะทีนี้หนังสือไม่ได้อ่านสักตัว “ ชั้นขอลอกหน่อยนะซองมิน “
ร่างบางส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ ซองมินรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่รุ่นพี่หน้าสวยจะมาขอลอกข้อสอบตน เพราะถ้าหากไปฝากความหวังไว้กับทงเฮชาตินี้คงได้แก้ F กันไม่จบไม่สิ้น
ด้านฝั่งของเด็กบริหารที่กำลังนั่งรอเรียนอยู่นั้นก็ได้รับข่าวดีว่าวันนี้อาจารย์ติดธุระไม่สามารถมาสอนได้คาบนี้จึงไปให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้ากันเอง
“ อ้าว จะไปไหนกัน “ คยูฮยอนที่วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาบนห้องเมื่อเห็นว่าซีวอนกับคิบอมกำลังจะเดินออกไป
“ ไปห้องสมุด แล้วนายจะรีบไปไหน “ ซีวอนเอ่ยพร้อมกับเลิกคิ้วสงสัยกับท่าทางของเพื่อน
“ แล้วไม่เรียนกันเหรอ “
“ อาจารย์
“ แล้วฉันจะรีบมาทำไมเนี่ย “
ซีวอนอดที่จะขำกับท่าทางเซ็งรับประทานของเพื่อนไม่ได้ สรุปว่าที่รีบนี่คือรีบมาให้ทันอาจารย์ใช่ไหม แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วไปห้องสมุดด้วยกันเลยละกัน
“ นายจะไปด้วยกันไหม “
“ ถ้าไม่ไปแล้วฉันจะอยู่ทำซากอะไรล่ะ “ พูดจบก็เดดินมาแทรกกลางแล้วกอดคอเพื่อนทั้งสองออกท่ามกลางสายตาของคนในมหาวิทยาลัยที่แอบชื่นชมชายหนุ่มทั้งสาม บ้างก็มีเสียงกรี๊ดบ้างประกายเมื่อเพื่อนรักหยอกล้อกันระหว่างทาง
แต่แล้วรอยยิ้มของสองหนุ่มก็ต้องเหือดหายไปยกเว้นก็แต่ซีวอนเท่านั้นที่ยิ้มแก้มแทบจะระเบิดแข่งกับคิบอมเมื่อสามหนุ่มบังเอิญเดินสวยทางกับสามหนุ่มหน้าหวานพอดิบพอดี
ความคิดเห็น