คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : การกลับมาของพี่ชาย
Loma_ p
ภายในสนามบินอินชอนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มกำลังยืนรอต้อนรับพี่ชายต่างสายเลือดภายใต้ใบหน้าเย็นชานั้นกับซ่อนความรู้สึกตื่นเต้นเอาไว้ เพราะจะได้เจอพี่ชายที่ไม่ได้พบหน้ามานานหลายปี วันนี้เป็นวันที่ฮันฮยองบอกว่าจะกลับมาตามกำหนด
ไม่นานมากนักร่างสูงโปร่งของพี่ชายก็ปรากฏตัวออกมาจากห้องผู้โดยสาร คิบอมคลี่ยิ้มบางๆออกมาเมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนั้นคือพี่ชายของตน แต่ร่างหนาก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ก็ฮันฮยองบอกว่าจะกลับมาคนเดียวไม่ใช่เหรอแต่ทำไมถึงได้มีผู้ชายหน้าหวานเดินออกมาด้วยล่ะ
“ หวัดดีฮะพี่ “ สองพี่น้องโผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง
“ ไม่เจอตั้งนานโตเป็นหนุ่มขึ้นเยอะเลยนะ “ ฮันฮยองผละออกจากอ้อมกอดของน้องชาย พร้อมกับสำรวจดูเจ้าแก้มป่องตรงหน้าที่ดูเปลี่ยนไปจากครั้งสุดท้ายที่เจอกันเยอะมาก
“ พี่ก็ยังหล่อเหมือนเดิมนะ “
“ เรื่องนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว “ ฮันฮยองตอบน้องชายก่อนที่สองพี่น้องจะหลุดขำออกมา ไม่ง่ายหรอกนะที่จะได้เห็นคิม คิบอมหัวเราะแบบที่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ แต่พอนึกได้ว่ายังไม่ได้แนะนำผู้ชายร่างบางที่ตัวเองมากลับมาด้วยให้น้องชายรู้จัก จึงเอ่ยแนะนำ
“ คิบอมนี้ฮยอกแจ “
“ สวัสดีฮะ “ คิบอมทักทายตามมารยาทเพราะดูแล้วคนตรงหน้าน่าจะอายุมากกว่าตน
“ ฮยอกแจ นี่คิบอมน้องชายฉันเอง “ ร่างหนาแนะนำน้องชายให้กับร่างบางได้รู้จัก
“ ยินดีที่ได้รู้จักนะ “ ฮยอกแจทักทายก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
หลังจากพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้วทั้งสามคนจึงเดินออกจากสนามบินเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว โดยมีบอดี้การ์ดถือกระเป๋าเดินตามมาข้างหลัง
“ พี่จะไม่พักที่บ้านจริงเหรอ “ คิบอมเอ่ยถามพี่ชายหลังจากที่ขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เพราะก่อนที่จะมาที่นี่ฮันฮยองได้บอกกับน้องชายไว้ว่าจะพักที่คอนโด
“ อืม อยู่ที่บ้านมันทำอะไรไม่ค่อยสะดวกน่ะ “
“ พี่ก็เป็นแบบนี้ทุกที ชอบทิ้งให้ผมเผชิญชะตากรรมคนเดียวอยู่เรื่อยเลย” คิบอมบ่นให้พี่ชายแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก
ฮันฮยองยิ้มขำกับคำพูดของน้องชาย มันไม่แปลกเลยสักนิดที่คิบอมจะพูดออกมาแบบนี้ เพราะสาเหตุที่เขาขอไปอยู่ที่คอนโดก็เพราะที่บ้านหลังโตนั้นมีกฎระเบียบมากมายเหลือเกินมันทำให้ร่างหนารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ถึงแม้ว่าน้องชายจะไม่แสดงออกแต่ร่างสูงก็รู้ว่าคิบอมก็อึดอัดอยู่ไม่ใช่น้อย
“ แล้วนี่แกเห็นว่าที่เจ้าสาวแกรึยัง “ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าเจ้าแก้มป่องจะต้องเข้าพิธีวิวาห์ พี่ชายก็อดที่จะถามหาว่าที่น้องสะใภ้ไม่ได้
“ เจอแล้วฮะ “
“ เป็นไงบ้างสวยไหม ” ฮันฮยองเอ่ยถามน้องชาย แต่ว่าไอ้อาการอยากรู้จนออกนอกหน้านั้นทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆต้องตวัดสายตามามองในทันที
“ ก็โอเคฮะ เดี๋ยวพี่ก็คงได้เจอมั้ง “
“ อืม อยากเจอเร็วๆจัง “
ประโยคที่ว่า อยากเจอเร็วๆจังที่มาพร้อมกับสายตาหยาดเยิ้มนี่แหละ ที่ทำให้ร่างหนาได้ฝ่ามือจากร่างบางมาเป็นของรางวัล ฮันฮยองได้แต่ลูบต้นแขนตัวเองไปมาเพราะแรงที่ฟาดลงมาก็ใช่ว่าจะน้อย
“ เผลอเป็นไม่ได้เลยนะนายน่ะ เจ้าชู้ตลอดกับแฟนน้องตัวเองยังไม่เว้น “ ฮยอกแจว่าเสียงขุ่น ผู้ชายคนนี้เผลอเป็นไม่ได้เป็นต้องหาเรื่องมาให้เค้าปวดหัวตลอดเวลา
“ โธ่ ฮยอกแจจ๋า ฮันฮยองก็แค่ล้อเล่นไม่ได้คิดอะไรซักหน่อย “ ร่างหนารีบเข้าไปออเซาะร่างบางทันที่รู้ว่าตนเองเผลอออกลายเจ้าชู้ให้คนรักเห็น
“ ชั้นก็เห็นนายล้อเล่นทุกที แต่สุดท้ายกิ๊กนายก็มาป่วนชั้นอยู่เรื่อย “
ตั้งแต่คบกันมาร่างหนาก็ขยันสรรหาปัญหามาให้ฮยอกแจอยู่เรื่อย แต่ปัญหาแต่ละอย่างก็หนีไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับสาวๆในสต๊อกที่ร่างสูงนั้นแอบไปมีไว้ เคยที่จะเลิกลากันหลายครั้งแต่สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอดเพราะคำว่ารักคำเดียวที่ทำให้ตัดใจจากผู้ชายคนนี้ไม่ได้สักที
“ แต่ฉันก็รักนายคนเดียวนะ “ ร่างสูงได้ทีรีบทำคะแนน
“ ลองนายไม่รักชั้นดูสิ พ่อจะตัดให้เป็ดกินคอยดู “ ร่างบางหันมาพูดสีหน้าจริงจังก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาทำเหมือนเป็นกรรไกรแล้วตัดมันตรงหน้าร่างสูง ฮันฮยองหน้าถอดสีทันทีเพราะรู้ว่าฮยอกแจไม่เคยพูดเล่น ก่อนที่จะบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“ โหดเป็นบ้าเลย เมียใครวะ “
คิบอมที่นั่งมองดูเหตุการณ์ต่างๆอยู่เงียบ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าใจในสถานะของพี่ชายกับเพื่อนร่างบางเท่าไหร่นัก จะว่าเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่เพราะอาการที่แสดงออกนั้นมันไม่เหมือนเพื่อนเค้าทำกัน ในเมื่อไม่เข้าใจแต่ว่าอยากรู้จึงต้องถาม ร่างหนาเขยิบเข้าไปใกล้พี่ชายก่อนจะกระซิบเบาๆให้ได้ยินเพียงสองคน
“ พี่ฮันพี่ฮยอกแจเป็นอะไรกับพี่เหรอ “
“ เป็นแม่ “ ฮันฮยองตอบน้องชายแต่เมื่อเห็นว่าคิบอมยังไม่เข้าใจจึงพูดต่อ “ แม่คุณทูนหัว “
เจ้าแก้มป่องจึงถึงบางอ้อ ถึงว่าล่ะอาการที่แสดงออกมามันเหมือนคนรักที่กำลังงอนกันยังไงยังงั้น แต่ดูท่าว่าพี่ชายของเขาคงจะกลัวแม่คุณทูนหัวคนนี้มาก ถึงได้ยอมขนาดนี้
“ แกก็ระวังตัวไว้ให้ดีเหอะ พอแต่งงานแล้วจะรู้สึก “
“ ทำไมต้องระวัง “ คิบอมยังไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ชายพูด ทำไมต้องระวังด้วย แล้วต้องระวังเรื่องอะไรล่ะ อีกอย่างนะเค้าไม่กลัวภรรเมียเหมือนพี่ชายหรอก
“ เดี๋ยวแกก็รู้เอง แต่อย่าให้ว่าที่เมียแกมาเจอกับแม่คุณทูนหัวของฉันละกัน เดี๋ยวจะหาว่าพี่ชายคนนี้ไม่เตือน “
“ ทำไมอ่ะ “
“ ความซวยจะมาเยือนเราสองคนน่ะสิ “
รถตู้คันหรูสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามายังคฤหาสน์หลังโตของตระกูลคิม พอรถเคลื่อนตัวเข้ามาภายในบริเณบ้านสองหนุ่มที่นั่งคุยกันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นใบหน้านิ่งขรึมขึ้นมาทันที ฮันฮยองกระชับเสื้อสูทของตนเองให้เข้าที่เข้าทางพร้อมกับสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง
ฮยอกแจนั่งดูการกระทำของคนรักด้วยความไม่เข้าใจเพราะตอนอยู่อยู่ที่จีนไม่เคยที่จะเห็นฮันฮยองวางมาดเท่ห์แบบนี้ เห็นดีแต่กระล่อนไปวันๆ ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับเจ้านายทั้งสามที่เดินลงมา
“ คุณย่าคงรออยู่ที่ห้องรับแขก”
คิบอมเอ่ยบอกพี่ชาย ฮันฮยองพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะเดินตามหลังน้องชายเข้าบ้านไป ส่วนข้าวของสัมภาระต่างๆก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านไป
ทันทีที่เดินเข้าไปในห้องรับแขกหลานชายผู้จากบ้านเกิดไปนานก็พบว่ามีหญิงสูงวัยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าของเธอยังคงสวยเหมือนครั้งสุดท้ายที่เจอกันนั่นคงเป็นเพราะได้รับการดูแลจากเจ้าของเป็นอย่างดี
“ มากันแล้วเหรอ เข้ามาสิ “ คิม เยจิน เรียกคนทั้งสามให้เข้าไป
“ สวัสดีฮะคุณยาย “ ฮันฮยอง โค้งเคารพตามมารยาท ก่อนที่จะโผเข้าไปกอดคนเป็นยายด้วยความคิดถึง เนื่องจากไม่ได้เจอกันนาน
“ ในที่สุดหลานก็กลับมา “ มือขาวลูบไล้ใบหน้าหลานชายด้วยความทะนุถนอม
“ ฮะ ผมกลับมาแล้ว “
“ แล้วแม่ของหลานเป็นยังไงบ้าง สบายดีใช่ไหม “
“ ฮะ คุณแม่ท่านสบายดี ท่านฝากความคิดถึงถึงคุณยายด้วยนะฮะ “
“ เหรอ ยายดีใจนะที่หลานกลับมาอยู่ที่นี่ “
“ ผมก็ดีใจเหมือนกันครับ “ ร่างสูงว่าพลางก้มลงหอมที่แก้มของคุณยาย ทำเอาคนแก่หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
คิบอมที่ยืนดูอยู่นานอดที่จะอิจฉาพี่ชายไม่ได้ที่ไม่ต้องถูกคาดหวังเหมือนตน อยากจะแสดงความรักก็แสดงออกมาเลย แต่สำหรับคิบอมแล้วเขาถูกสอนให้รู้จักเก็บอารมณ์มาตั้งแต่เด็กเพราะการที่จะเป็นนักธุรกิจที่ดีนั้นต้องมีความอดดทน ไม่ควรแสดงอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมให้ใครเห็นเพราะมันจะมีผลต่อภาพลักษณ์
“ ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ “ คิบอมเอ่ยขึ้น
“ อืม “ เยจินพยักหน้าอนุญาตก่อนที่จะหันไปสนใจฮันฮยองที่กำลังจะแนะนำฮยอกแจต่อ
“ คุณยายฮะ นี่ฮยอกแจ ว่าที่หลานสะใภ้ของคุณยายฮะ “
ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับรั้งเอวร่างบางให้เข้าใกล้ๆ ฮยอกแจโค้งเคารพตามมารยาทพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีเต็มพิกัดเพราะเขินกับคำพูดเมื่อสักครู่ของชายหนุ่ม
“ มีหลานสะใภ้มาฝากด้วย แล้วทำไมไม่เอาเหลนมาฝากด้วยล่ะ “ ผู้อาวุโสเอ่ยอย่างขำๆ แต่มันก็ทำให้ร่างบางซึ่งเป็นคนที่ถูกแซวเขินจนแทบจะมุดโซฟาหนีแล้ว
“ เร็วๆนี้แหละ ฮะ “ ร่างหนาเอ่ยพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่แล้วที่คนทั้งสามยังนั่งคุยกันอยู่ที่เดิมโดยมีเสียงหัวเราะดังออกมาเป็นระยะ แต่รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่แม่บ้านมารายงานว่าอาหารเย็นเสร็จแล้ว พร้อมกับที่คิมจีฮุนและเฮียวริกับมาจากบริษัทพอดี นายใหญ่ของบ้านจึงสั่งให้แม่บ้านตั้งโต๊ะได้เลย
“ ให้คนไปตามคิบอมด้วยนะ “ เยจินสั่งแม่บ้านที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้องครัว
“ค่ะ “
อาหารเย็นมื้อนี้ดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษเพราะปกติแล้วโต๊ะอาหารจะมีไว้แค่ทานอาหารอย่างเดียวเพราะต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตาทาน จะมีคุยกันบ้างแต่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องธุรกิจ แต่พอมีฮันฮยองกับฮยอกแจมานั่งทานด้วก้ดูเหมือนว่าบรรยากาศจะผ่อนคลายขึ้นมาก
ร่างบางที่ดูเหมือนว่าจะพูดคุยถูกคอกันกับคิม เยจินเป็นพิเศษ ทำให้คุนยายของชายหนุ่มนึกเอ็นดูเป็นอย่างมาก เรื่องบนโต๊ะอาหารวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องในวัยเด็กของฮันฮยองแทบทั้งสิ้นที่หญิงสูงวัยหยิบขึ้นมาแฉให้ว่าที่หลานสะใภ้ฟัง เรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งโต๊ะ มีแค่เพียงคิบอมเท่านั้นที่นั่งเงียบ
“ เห็นคิบอมบอกน้าว่าฮันจะพักที่คอนโดเหรอ “ เฮียวริเอ่ยถามหลานชาย
“ ฮะ “
“ ทำไมไม่พักที่บ้านล่ะ ห้องว่างก็ออกจะเยอะ “
“ ผมไม่ค่อยชินกับบ้านหลังใหญ่นะฮะ “
“ งั้นก็ตามใจ แต่หลานต้องแวะมาที่นี้บ่อยๆนะ “
คิม เยจินเอ่ยอนุญาตหลานชายอย่างง่ายดาย ต่างจากครั้งที่คิบอมมาขอออกไปอยู่ข้างนอกหลังจากที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เพราะนอกจากจะไม่ได้ออกไปอยู่ตามลำพังแล้วเยจินยังสั่งห้ามคิบอมพูดเรื่องที่จะขออกไปอยู่ข้างนอกอีกเด็ดขาด
“ ยังไงยายก็ฝากฮยอกแจดูแลฮันฮยองหน่อยนะ “ เยจินหันไปเอ่ยกับร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆหลานชายของตน
“ ได้ฮะ ผมจะดูแลไม่ให้คลาดสายตาเลย “ ร่างบางรับปากผู้อาวุโสแต่ท้ายประโยคหันมามองหน้าแฟนแฟนหนุ่มเล่นเอาฮันฮยองถึงกับต้องปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว
“ ต้องให้มันได้อย่างนี้สิ “ เยจินเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “ ฮยอกแจน่าจะมาเร็วกว่านี้จะได้รู้จักกับทงเฮ รายนั้นก็น่ารักไม่เบาเหมือนกัน “
หญิงชราเอ่ยถึงว่าที่หลานสะใภ้อีกคนที่พึ่งจะกลับไปเมื่อกี้เพราะหล่อนให้คนรถไปรับมาเรียนเกี่ยวกับการบ้านการเรือนตั้งแต่ตอนเช้า
“ ทงเฮ ว่าที่ภรรยาคิบอมน่ะเหรอฮะ “ เป็นฮันฮยองที่เอ่ยถามประโยคนี้ออกมา ทำเอาน้องชายที่นั่งอยู่เงียบๆต้องหันมามองหน้าพี่ชายเพราะยังไม่คุ้นกับคำว่าภรรยา
“ อืม ทงเฮน่ารักมากเลยล่ะ ร่าเริงแล้วก็คุยเก่งเหมือนกับฮยอกแจเลย “ พอพูดมาถึงตรงนี้ก็เกิดรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าอัตโนมัติเมื่อนึกถึงเสียงเจื้อยแจ้วของลูกศิษย์ตัวน้อย “ ถ้าได้รู้จักกันยายว่าทั้งสองคนต้องเข้ากันได้ดีแน่เลย “
“ ผมชักอยากจะเจอแล้วสิฮะ “ ร่างบางเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ดีเหมือนกันเขาจะได้มีเพื่อนที่เกาหลี เพราะจากไปตั้งแต่เด็กเลยทำให้ร่างบางนั้นไม่มีเพื่อนที่เกาหลีมากนัก
“ แล้วยายจะแนะนำให้รู้จัก “
หลังจากที่มื้อเย็นผ่านไปแขกทั้งสองก็ขอตัวกลับคอนโดเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บให้เรียบร้อย ก่อนที่จะออกมาหาซื้อของใช้ที่จำเป็นเข้าห้อง จีฮุนยื่นกุญแจรถให้หลานชาย เพราะตตอนเย็นเขาแวะไปที่โชว์รูมมาแล้วนึกขึ้นได้ว่าฮันฮยองยังไม่มีรถใช้จึงซื้อมาให้
“ นี่กุญแจ รถคันนี้น้าให้ “
“ ขอบคุณครับ “ ฮันฮยองยิ้มให้น้องชายมารดาก่อนที่จะยื่นมือไปรับกุญแจรถมา
“ ผมไปแล้วนะครับ พรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่ “ ร่างหนาเอ่ยลากับทุกคน พร้อมกับร่างบางที่ยื่นโค้งลาตามมารยาทเช่นกัน
“ ไปแล้วนะ “ ฮันฮยองยื่นมือมาตบไหล่น้องชายเบาๆ
“ ขับรถดีๆนะฮะ “ คิบอมเอ่ยกลับพี่ชาย
ความคิดเห็น