ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~* It's love* ~ รักเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง [KiHae KyuMin etc. ]

    ลำดับตอนที่ #4 : ณ บ้านตระกูลโจว

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 53


        
    Loma_ p
       
    หลังจากที่รับปากมารดาเอาไว้ว่าช่วงที่มารดาไม่อยู่ซองมินจะเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลโจว เพื่อดูแลคุณชาย    คยูฮยอน    เมื่อเช้าแม่ของเขาก็เก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  วันนี้กระต่ายตัวอวบก็เลยจำต้องเคลื่อย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่

     

         ภาพของชายหนุ่มตัวเล็กอวบๆยืนอยู่หน้าประตูบ้านมือหนึ่งถือกระเป๋าอีกมือถือชะลอม ( เฮ้ย ไม่ใช่พจมานซะหน่อย )  ซองมินยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระที่คนน่ารักขนมาเท่าที่จำเป็น  แม่บ้านคนหนึ่งจึงเดินเข้ามาถาม

     

       คุณหนูซองมินใช่มั๊ยค่ะ  

     

        ก่อนที่จะออกเดินทาง นายหญิงของบ้านได้บอกเอาไว้ก่อนแล้วว่าซองมินจะมาอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลคยูฮยอน  อันที่จริงแล้วแม่บ้านที่เป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่จะรู้จักซองมินดีเพราะตอนเด็ดๆมารดาของซองมินชอบพามาด้วยประจำ  แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอโตขึ้นถึงได้ไม่ค่อยได้เจอหน้า

     

       ฮะ ตอบรับอย่างสุภาพ

     

       งั้นเชิญด้านนี้เลยค่ะ คุณท่านให้พวกเราจัดห้องไว้แล้ว

     

        แม่บ้านคนเดิมเอ่ยพร้อมกับเดินมาแย่งกระเป๋าที่คนร่างอวบถือไว้เอาไปถือซะเอง  ซองมินได้แต่ยืนทำหน้างงๆ เพราะคิดว่าเจ้าของบ้านจะให้คนจัดห้องเอาไว้แล้ว  ที่จริงมันไม่มีความจำเป็นเลยด้วยซ้ำที่จะต้องจัดห้องให้เขาเพราะมาที่นี่ในฐานะของคนดูแลไม่ใช่แขกของบ้าน

     

       แต่ร่างบางก็ต้องแปลกใจเมื่อแม่บ้านพาเดินเข้ามาในตึกใหญ่  อย่าบอกนะว่าจะให้เค้าพักอยู่บนตึกมันจะดูดีเกินไปรึเปล่าที่ให้คนดูแลที่ไม่ต่างอะไรกลับคนรับใช้ขึ้นมาพักบนตึกใหญ่แบบนี้

     

       ป้าฮะ  ผมต้องพักบนนี้หรอฮะ ไม่ใช่ข้างล่างเหรอ

     

       คุณผู้หญิงสั่งเอาไว้ว่าให้คุณซองมินพักห้องนี้ค่ะ

     

       เมื่อซองมินเอ่ยถามก็เป็นจังหวะเดียวกับที่แม่บ้านพาเดินมาถึงห้องพอดี  ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับความตะลึงของคนตัวเล็ก  ห้องที่เตรียมไว้ใหญ่กว่าห้องนอนที่บ้านเขาถึงสองเท่า เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างครบครัน แถมมีห้องน้ำในตัว

     

       ผมต้องพักห้องนี้จริงๆเหรอฮะ ถามออกไปด้วยความไม่แน่ใจ

     

       ค่ะ ส่วนห้องตรงข้ามเป็นห้องของคุณคยูฮยอน   แม่บ้านชี้ไปห้องฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะขอตัวลงไปทำงานของเธอต่อปล่อยให้ซองมินจัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อย  อันที่จริงเธอจะทำให้แต่ว่าร่างอวบนั้นไม่ยอมเพราะเกรงใจ

     

       หลังจากแม่บ้านออกไปแล้วร่างเล็กก็จัดการรื้อเสื้อผ้าและของใช้ในกระเป๋าออกมาจัดเก็บให้เข้าที่  ซองมินขนเสื้อผ้ามาไม่กี่ชุดแต่ว่าตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องมันช่างกว้างเหลือเกินพอเอาเสื้อผ้าใส่เข้าไปแล้วมันก็ยังเหลือเนื้อที่ภายในตู้กว่าครึ่ง

     

       มือเล็กค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเพื่อเอาโฟม  ครีมอาบน้ำ ละเครื่องใช้ต่างๆไปไว้  ตากลมถึงกับตาค้างเพราะห้องน้ำกว้างมาก นี่ขนาดห้องรับแขกนะแล้วถ้าเกิดเป็นห้องเจ้าของบ้านล่ะมันต้องหรูกว่านี้แน่เลย

     

       เอาที่นอนมาปูนอนในห้องน้ำยังได้เลย ซองมินพึมพำกับตัวเอง

     

        เมื่อจัดการธุระในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก็เดินออกมาสำรวจรอบๆห้องเตียงนอนที่ใหญ่จนซองมินอดที่จะคิดไม่ได้ว่าต้องกลิ้งกี่ตลบถึงจะตก เตียงที่บ้านเค้าน่ะสองตลบเจ้าเตียงบ้านี่ก็ส่งเค้าลงมากองกับเพื่อนแล้ว

     

      มีคอมด้วยแฮะ   ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ของโต๊ะอ่านหนังสือที่มีคอมพิวเตอร์วางอยู่บนนั้น  ก่อนที่จะหยิบหนังสือมาวางไว้บนโต๊ะ

     

        พวกลูกคนรวยมีพ่อแม่อำนวยความสะดวกให้ขนาดนี้แล้วแทนที่จะตั้งใจเรียนกลับเอาเวลาไปเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่ได้  ไม่รู้จักใช้ความได้เปรียบที่พระเจ้าให้มาให้เป็นประโยชน์  พวกนี้มันช่างแตกต่างจากเขาและคนอีกหลายๆคนเหลือเดิน  เพราะโต๊ะอ่านหนังสือของซองมินนั้นก็เป็นโต๊ะญี่ปุ่นธรรมดามีแค่เบาะไว้รองนั่งเท่านั้น นี่เค้ายังถือว่ายังโชคดี แต่กับบางคนแม้กระทั่งโต๊ะญี่ปุ่นยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

     

        แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาที่นี่ทำไมซองมินก็ลุกขึ้นทันที คำสั่งของแม่ที่สั่งก่อนจะขึ้นเครื่องและคำฝากฝังของคุณนายโจวผู้มีพระคุณผุดขึ้นมาในสมอง

     

       ลูกต้องดูแลคุณคยูฮยอนให้ดีดี

     

       ถึงคุณคยูฮยอนเธอจะดื้อไปบ้าง แม่ขอให้ลูกใจเย็นๆ

     

       ป้าฝากเจ้าคยูมันด้วยนะ ช่วยทำให้มันเป็นผู้เป็นคนซะที

     

      ถ้าบอกแล้วมันไม่ฟังป้าอนุญาตให้ซองมินด่ามันได้

     

      แต่ถ้าด่าแล้วมันยังไม่จำ  ป้าอนุญาตให้ใช้กำลังกับมันได้

     

     

        ใช่แล้วเขามาที่นี่เมื่อมาดูแลคุณชายจอมแสบนี่หว่า  ว่าแต่หมอนั่นอยู่ไหนล่ะเนี่ยตั้งแต่มาถึงยังไม่เจอหน้าเลย  วันนี้วันเสาร์คุณชาย โจว คยูฮยอน ไม่น่าจะตื่นเช้าได้ หรือว่าจะออกไปเที่ยวยังไม่กลับมา

     

        หลังจากที่นั่งคิดหาคำตอบด้วยตัวเองอยู่นานก็ไม่สามารถหาคำตอบได้สักที ซองมินเลยตัดสินใจเดินลงไปข้างล่างเพื่อถามพวกแม่บ้าน

       คุณซองมิน ป้ากำลังจะขึ้นไปตามพอดีเลยค่ะ

     

       ตามผมเหรอฮะ  มีธุระอะไรรึเปล่า   ซองมินเอ่ยถามด้วยความสงสัย หรือว่าคุณป้าแม่บ้านพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าจัดห้องให้เขาผิด

     

       ป้าจะขึ้นไปตามมาทานอาหารว่างน่ะค่ะ

     

        อ๋อ  ขอบคุณมากฮะ   กล่าวขอบคุณพร้อมกับเดินตามหลังแม่บ้านเข้าไปในครัว แต่พอนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องจะถามเกี่ยวกับขอมูลของเจ้านายคนเล็กเสียงใสก็เลยเอ่ยขึ้น

     

       วันนี้ไม่มีคนอยู่บ้านเหรอฮะ พูดพลางส่งยิ้มน่ารักให้กับคนรับใช้ที่ทำงานอยู่ในครัวที่หันมาส่งยิ้มให้  จริงๆแล้วแม่บ้านบอกว่าจะยกของว่างไปให้ในห้องนั่งเล่น แต่คนน่ารักกลับดื้อที่จะเข้ามาทานในครัว  หนึ่งเพราะควมเกรงใจ สองเพราะตนเองเป็นแค่คนอาศัย จึงไม่ต้องการให้คนอื่นต้องมาลำบากเพราะตน

     

       มีค่ะ  คุณคยูฮยอนอยู่บนห้อง

     

       อยู่บนห้อง ซองมินทวนคำ

     

       ค่ะ ปกติวันหยุดแบบนี้คุณคยูฮยอนเธอจะตื่นสายน่ะค่ะ  แม่บ้านอธิบายกิจวัตรประจำสัปดาห์ของนายเล็กให้แก่ผู้มาใหม่ฟัง  ซองมินเหลือบมองนาฬิกาบ่ายสองเค้าไม่เรียกว่านอนตื่นสายแล้วล่ะ เค้าเรียกว่านอนกินบ้านกินเมืองต่างหากล่ะ

     

      งั้นเหรอฮะ เดี๋ยวผมมานะ พูดจบก็ลุกออกจากห้องครัวตรงดิ่งขึ้นไปชั้นบนแน่นอนว่าเป้าหมายของคนร่างเล็กก็คือห้องนอนของคุณชาย โจว คยูฮยอน

     

       แม่บ้านที่อาวุโสที่สุดมองตามร่างอวบนั้นขึ้นไปก่อนที่จะคลี่ยิ้มบางๆออกมาแล้วก็พลันนึกถึงคำพูดของนายหญิงของบ้าน

     

       ซองมินนี่แหละ คือคนที่ฉันจะให้มาดัดนิสัยเจ้าคยูฮยอน

     

     

     

     

     

       

     

        ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก

     

        เสียงมือเล็กกระทบกับบานประตูหลายครั้งแต่เจ้าของห้องก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดมันออกมาซะที  ไม่มีแม้กระทั่งเสียงตอบรับ   ให้ตายสิลูกชายบ้านนี้มันช่างหลับลึกจริงๆ

     

       เมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับจากบุคคลที่อยู่ด้านใน ร่างอวบจึงถือวิสาสะหมุนลูกบิดซึ่งปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อคก่อนจะก้าวช้าเดินเข้าไปในห้อง  ให้ตายสิทำไมห้องนี้มันกว้างจังแล้วลี ซองมินคนนี้จะเดินหลงไหมเนี่ย

     

       ตากลมกวาดมองรอบๆบริเวณห้องผ้าม่านถูกปิดไว้อย่างมิดชิดเพื่อไม่ให้มีแสงเล็ดลอดเข้ามา  แน่นอนว่าเจ้าของห้องไม่ต้องการให้แสงแดดในยามเช้าเข้ามารบกวนเวลานอน  ขาสั้นก้าวเดินไปยังเตียงตอนเพื่อที่จะปลุกคุณชายขี้เซาแต่ว่าต้องพบกับความว่างเปล่าเพราะบนเตียงนั้นไม่มีร่างของใครอยู่เลย

     

      สงสัยจะตื่นแล้วมั้ง ดีจะได้ไม่ต้องเสียแรงปลุก

     

        เมื่อคิดว่าเจ้าของห้องคงจะตื่นแล้วและตอนนี้คงจะอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำร่าเล็กเลยหันหลังกลับเพื่อที่จะออกไปนอนห้อง แต่แล้วสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นร่างๆหนึ่งนอนฟุบอยู่ที่โซฟาหน้าจอโทรทัศน์  ภายในหน้าจอสี่เหลี่ยมนั้นยังคงมีเกมส์ค้างอยู่  ซองมินเดินไปหยุดอยู่ที่โซฟาก่อนที่จะส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ

     

       อยู่ปีสามแล้วยังทำตัวเหมือนเด็กๆ

     

        สิ่งที่ซองมินพูดนั้นไม่ผิดเลยแม้แต่น้อยเพราะคุณชาย โจว คยูฮยอนที่สาวๆทั้งหลายต่างคลั่งไคล้นั้น ตอนนี้กำลังนอนหลับทั้งๆที่มีปุ่มกดเกมส์อยู่ในมือ ซองมินค่อยๆดึงสิ่วที่อยู่ในมือนั้นออกก่อนจะก้มลงสะกิดให้อีกคนตื่น

     

       คุณคยูฮยอน  ตื่นได้แล้ว   แต่ว่ายิ่งสะกิดร่างหนายิ่งสะบัดก่อนจะพลิกตัวหนี  ซองมินยืนเท้าสะเอวมองคนตัวใหญ่ที่ปลุกยากปลุกเย็นเหลือเกิน

     

       ดี ไม่ตื่นใช่มั๊ย   คนน่ารักพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะยื่นมือไปดึงใบหูของคนที่นอนหลับเป็นตายพร้อมกับตะโกนสุดเสียง

     

       โจว คยูฮยอน  ตื่นได้แล้วโว้ย ย   

     

         ทันทีที่เสียงแปดหลอดยกกำลังสองกระทบโสตประสาทคุณชายขี้เซารีบดีดตัวขึ้นมาทันที  ใครจะไปทนได้เสียงดังยิ่งกว่าพูดใส่โทรโข่งซะอีก

     

       ร่างหนาหันไปมองคนที่บังอาจมารบกวนเวลาหลับเวลานอนของเขา  เพราะเป็นอันรู้กันว่าถ้าหากเจ้านายคนเล็กกำลังนอนอยู่ห้ามมนุษย์หน้าไหนมารบกวนทั้งนั้น  แต่คิ้วหนาก็ต้องขมวดเป็นปมเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นไม่คุ้นเอาซะเลย

     

       นายเป็นใคร  กล้าดียังไงถึงได้มาตะโกนใส่หูฉัน

     

       ลี ซองมิน  คนที่แม่นายส่งมาดัดนิสัยนายไง

     

      ว่าไงนะ คยูฮยอนตะโกนลั่น คนดัดนิสัยงั้นเหรอ เหอะ ตัวเล็กแค่นี้จะมีปัญญาทำอะไรได้

     

       ชั้นพูดแค่ครั้งเดียว  ต่อไปนี้นายต้องอยู่ในความดูแลของชั้น

     

       เหอะ  คนหล่ออยากจะหัวเราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครสั่งอะไรเค้าได้แล้วหมอนี่เป็นใครถึงได้อวดดีมาบอกว่าให้เค้าอยู่ในความดูแล

     

       นายคิดว่านายทำได้งั้นเหรอ

     

       แน่นอน   ซองมินตอบด้วยความมั่นใจ และตอนนี้มันก็หมดเวลานอนของนายแล้ว เชิญไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้

     

      ไม่   ร่างสูงตอบก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ก็บอกแล้วไงว่า โจว คยูฮยอน คนนี้ไม่ชอบทำตามคำสั่งใคร

     

      ไม่ไปดีๆใช่มั๊ย พูดจบก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับน้ำเต็มแล้ว  ร่างสูงที่ไม่ได้สนใจอะไรเตรียมตัวจะไปเข้าเฝ้าพระอินทร์อีกรอบก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรเย็นมากระทบที่ใบหน้า พอลืมตาขึ้นก็เจอกระต่ายอวบยืนยิ้มสะใจพร้อมกับถือแก้วน้ำอยู่ในมือ

     

       นายเอาน้ำมาเทใส่ฉันทำไม พุดออกไปด้วยอารมณ์ที่โกรธสุดๆ ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาแบบนั้น

     

      ก็เห็นว่านายไม่อยากเดินไปอาบเอง  ชั้นเลยเอามาประเคนให้ถึงที่ไงล่ะ   เอ่ยออกไปโดยที่ไม่สนว่าตอนนี้คู่กรณีกำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ตอนนี้

     

       ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้

     

       ชั้นไปแน่  แต่ต้องรอให้ครบสองเดือนก่อน

     

       แต่ชั้นต้องการให้นายไปเดี๋ยวนี้  คยูฮยอนกดเสียงต่ำจนน่ากลัว  ซึ่งมันแสดงออกว่าร่างสูงนั้นโกรธจริงๆซะแล้ว แต่เพราะรับปากกับมารดาไวแล้วซองมินจึงโต้ตอบออกไปถึงแม้ว่าในใจจะเริ่มกลัวกับอารมณ์ของคนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว

     

       ขอโทษนะคุณชาย  แต่ชั้นคงทำตามที่คุณชายต้องการไม่ได้หรอกเพราะชั้นรับปากพ่อคุณชายไว้แล้ว

     

        ฉันไม่สน คยูฮยอนตวาดลั่น

     

         แต่ชั้นสน รีบๆอาบน้ำซะ ช้าขืนชักช้ามันจะไม่ใช่แค่น้ำธรรมดา แต่คราวหน้ามันจะเป็นน้ำแข็ง พูดจบก็เดินออกจากห้อง  เพราะเกรงว่าถ้าหากอยู่นานกว่านี้อาจจะโดนฆ่าเอาได้

     

        เมื่อซองมินเดินออกไปแล้วร่างสูงที่อยู่ในห้องก็กำลังหงุดหงิดที่โดนขัดใจ จะนอนต่อก็ไม่ได้เพราะเสื้อผ้าเปียกหมดแล้วจึงต้องจำใจคว้าผ้าเช็ดตัวที่แม่บ้านเตรียมเอาไว้ให้แล้วเดินเข้าห้องน้ำ

     

       อย่าให้ถึงทีฉันบ้าง  พ่อจะเอาคืนให้สาสมเลย

     

     

       ภายในห้องนอนสีขาวที่ตกแต่งเรียบๆตามบุคลิกของเจ้าของ  มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียด  ดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้นถูกบดบังด้วยแว่นสายตากรอบดำที่เจ้าตัวใส่อยู่  คิบอมเงยหน้าจากหนังสือที่เค้านั่งอ่านมาเกือบจะชั่วโมงก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเมื่อมันส่งเสียงร้อง  ปากหยักคลี่ยิ้มบางๆเมื่อเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา  ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะสามารถทำให้คิบอมยิ้มได้

     

       ครับพี่

     

      ว่าไงน้องรัก สบายดีมั๊ย

     

      ก็เรื่อยๆครับ แล้วพี่เป็นไงบ้าง ไม่กลับมาเยี่ยมกันเลยนะ

     

      ไม่สบายเท่าไหร่ สาวเยอะไปหน่อย สับรางไม่ทัน ฮ่า ๆ

     

      แล้วเมื่อไหร่พี่จะกลับมาเกาหลีบ้าง

     

      อีกสองอาทิตย์ อยู่ยาวเลย

     

       หมายความว่าพี่จะย้ายกลับมาเกาหลีเหรอ คนเป็นน้องถามด้วยความดีใจ เกือบจะสามปีได้แล้วที่คิบอมไม่ได้เจอลูกพี่ลูกน้องคนนี้เลย

     

      อืม  กลับไปงานแต่งงานแกด้วย

     

          เมื่อพูดถึงเรื่องงานแต่งงานคิบอมก็เงียบลงทันที ใช่แล้ว เดือนหน้าเค้าต้องแต่งงานกับผู้ชายที่คุณย่าหาให้นี่พี่ฮันฮยองคงจะรู้ข่าวจากคุณย่าล่ะสินะ

     

         เป็นไรไป ไม่ดีใจเหรอ เมื่อเห็นว่าน้องเงียบฮันฮยองจึงเอ่ยขึ้นมาอีก

     

      พี่ฮัน ผมไม่อยากแต่งเลยอ่ะ  ผมไม่ได้รักเค้า

     

        คิบอมเผยความในใจที่เค้าเก็บเอาไว้คนเดียว เค้าไม่กล้าที่จะเอ่ยกับคุณย่า แม้กระทั่งกับพ่อและแม่ได้แต่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ แต่ฮันฮยองนั้นเป็นพี่ชายที่เค้าเชื่อใจและสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง  ซึ่งดูเหมือนว่าฮันฮยองเองก็เข้าใจความรู้สึกของน้องชายเช่นกัน  และนี่คือสาเหตุที่เขาโทรศัพท์ข้ามประเทศมาหาน้องชาย

     

       เอาน่า อย่าคิดมาก อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง พี่เชื่อว่าคุณยายเลือกคนไม่ผิด ที่ทำไปเพราะคุณยายรักแกนะ

     

        สรรพนามที่ฮันฮยองใช้เรียกคิม เยจินนั้นต่างจากคิบอมเพราะ เยจินนั้นเป็นญาติฝ่ายมารดาแต่กับคิบอมแล้ว เยจินนั้นเกี่ยวข้องทางฝั่งของพ่อ

     

      เป็นจะเป็นไปได้เหรอพี่ 

     

      แกไม่เคยได้ยินรึไง รักแท้แพ้ใกล้ชิดน่ะ

      เฮ้อ นี่ผมทำได้แค่ทำใจใช่มั๊ยเนี่ย คิบอมถอนหายใจ จนคนเป็นพี่ที่อยู่ปลายสายต้องหลุดหัวเราะออกมา นานๆทีคิม คิบอมจะหลุดฟอร์มออกมาให้เห็น

     

      คิดได้แบบนั้นก็ดี นี่ๆ แค่นี้ก่อนนะกิ๊กคนที่สิบโทรมา แล้วเจอกันที่เกาหลี

     

      ระวังรถไฟชนกันนะพี่  คิดถึงพี่นะ

     

       เออๆ คิดถึงเหมือนกัน

     

     

         เมื่อวางสายจากพี่ชายเสร็จแล้ว  ร่างหนาก็ถอดแว่นสายตาออกคิดว่าจะพักสายตาสักครู่แต่ตาคมก็เหลือบไปเห็นซองสีน้ำตาลที่คุณย่ามอบให้เมื่อวานแต่เจ้าตัวดันลืมเปิดดู

     

        เมื่อเปิดออกแล้วก็พบว่าในนั้นมีกระดาษอยู่หนึ่งแผ่นพร้อมกับรูปถ่ายอีกหนึ่งใบ ตาคมก้มลงอ่านเอกสารที่อยู่ในมือก็พบว่ามันเป็นประวัติของว่าที่ภรรยาของเขานั่นเอง

     

    ชื่อ  ลี ทงเฮ

     

    ชื่อเล่น  ด๊อง

     

    วันเกิด 15 ตุลาคม

     

    ส่วนสูง 175 ซม.


    น้ำหนัก 60 ก.ก.


    กรุ๊ปเลือด A

     

    การศึกษา  คณะศิลปศาสตร์ปี3

     

       ร่างสูงกวาดสายตาอ่านมาเรื่อยๆจนถึงข้อสุดท้าย มือหนาพลิกรูปที่มันมาพร้อมกับเอกสารขึ้นมาดู   คิบอมแทบไม่อยากเชื่อว่าคนในรูปนั้นจะเป็นผู้ชายเพราะหน้านั้นหวานเหลือเกินถ้าไม่เห็นลูกกระเดือกที่คอเค้าคงคิดว่าเป็นผู้หญิงแน่นอน

     

        ทำไมเราถึงไม่เคยเห็นหน้านายคนนี้เลยนะ เรียนที่เดียวกันไม่ใช่เหรอ

     

         คิบอมพึมพำกับตัวเองเพราะคุณย่าบอกว่าเค้าเรียนที่เดียวกันกับทงเฮ แต่ไม่ยักกะเคยเห็นหน้าผู้ชายในรูปเลยสักครั้งแต่พอนึกถึงคำพูดของฮันฮยองก็ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ

     

         ผมยังไม่เคยเจอหน้าเค้าเลยพี่

     

       ได้ไงเรียนที่เดียวกันไม่ใช่เหรอ

      ใช่ฮะ แต่ผมไม่เคยเจอเค้าเลยจริงๆนะ

     

        ก็ไม่เห็นแปลก แกเคยสนใจสิ่งรอบข้างด้วยเหรอ

     

     

          ใช่แล้ว คิม คิบอมคนนี้แทบจะไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบตัวเลย เวลาไปเรียนเค้าก็รู้จักแค่เพื่อนสนิทและเพื่อนที่เรียนด้วยกัน  จะมีก็แต่ยุนอาที่อยู่ต่างคณะแต่นั้นเพราะยุนอาคือคนรัก ดังนั้นมันจึงไมใช่เรื่องแปลกที่คิบอมจะไม่เคยเจอทงเฮเลย เพราะต่อให้เดินสวนกันร่างสูงก็คงไม่คิดที่จะสนใจอยู่แล้ว

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×