คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ณ บ้านตระกูลโจว
Loma_ p
หลังจากที่รับปากมารดาเอาไว้ว่าช่วงที่มารดาไม่อยู่ซองมินจะเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลโจว เพื่อดูแลคุณชาย คยูฮยอน เมื่อเช้าแม่ของเขาก็เก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้กระต่ายตัวอวบก็เลยจำต้องเคลื่อย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่
ภาพของชายหนุ่มตัวเล็กอวบๆยืนอยู่หน้าประตูบ้านมือหนึ่งถือกระเป๋าอีกมือถือชะลอม ( เฮ้ย ไม่ใช่พจมานซะหน่อย ) ซองมินยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระที่คนน่ารักขนมาเท่าที่จำเป็น แม่บ้านคนหนึ่งจึงเดินเข้ามาถาม
“ คุณหนูซองมินใช่มั๊ยค่ะ “
ก่อนที่จะออกเดินทาง นายหญิงของบ้านได้บอกเอาไว้ก่อนแล้วว่าซองมินจะมาอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลคยูฮยอน อันที่จริงแล้วแม่บ้านที่เป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่จะรู้จักซองมินดีเพราะตอนเด็ดๆมารดาของซองมินชอบพามาด้วยประจำ แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอโตขึ้นถึงได้ไม่ค่อยได้เจอหน้า
“ ฮะ “ ตอบรับอย่างสุภาพ
“ งั้นเชิญด้านนี้เลยค่ะ คุณท่านให้พวกเราจัดห้องไว้แล้ว “
แม่บ้านคนเดิมเอ่ยพร้อมกับเดินมาแย่งกระเป๋าที่คนร่างอวบถือไว้เอาไปถือซะเอง ซองมินได้แต่ยืนทำหน้างงๆ เพราะคิดว่าเจ้าของบ้านจะให้คนจัดห้องเอาไว้แล้ว ที่จริงมันไม่มีความจำเป็นเลยด้วยซ้ำที่จะต้องจัดห้องให้เขาเพราะมาที่นี่ในฐานะของคนดูแลไม่ใช่แขกของบ้าน
แต่ร่างบางก็ต้องแปลกใจเมื่อแม่บ้านพาเดินเข้ามาในตึกใหญ่ อย่าบอกนะว่าจะให้เค้าพักอยู่บนตึกมันจะดูดีเกินไปรึเปล่าที่ให้คนดูแลที่ไม่ต่างอะไรกลับคนรับใช้ขึ้นมาพักบนตึกใหญ่แบบนี้
“ ป้าฮะ ผมต้องพักบนนี้หรอฮะ ไม่ใช่ข้างล่างเหรอ “
“ คุณผู้หญิงสั่งเอาไว้ว่าให้คุณซองมินพักห้องนี้ค่ะ “
เมื่อซองมินเอ่ยถามก็เป็นจังหวะเดียวกับที่แม่บ้านพาเดินมาถึงห้องพอดี ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับความตะลึงของคนตัวเล็ก ห้องที่เตรียมไว้ใหญ่กว่าห้องนอนที่บ้านเขาถึงสองเท่า เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างครบครัน แถมมีห้องน้ำในตัว
“ ผมต้องพักห้องนี้จริงๆเหรอฮะ” ถามออกไปด้วยความไม่แน่ใจ
“ ค่ะ ส่วนห้องตรงข้ามเป็นห้องของคุณคยูฮยอน “ แม่บ้านชี้ไปห้องฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะขอตัวลงไปทำงานของเธอต่อปล่อยให้ซองมินจัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อย อันที่จริงเธอจะทำให้แต่ว่าร่างอวบนั้นไม่ยอมเพราะเกรงใจ
หลังจากแม่บ้านออกไปแล้วร่างเล็กก็จัดการรื้อเสื้อผ้าและของใช้ในกระเป๋าออกมาจัดเก็บให้เข้าที่ ซองมินขนเสื้อผ้ามาไม่กี่ชุดแต่ว่าตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องมันช่างกว้างเหลือเกินพอเอาเสื้อผ้าใส่เข้าไปแล้วมันก็ยังเหลือเนื้อที่ภายในตู้กว่าครึ่ง
มือเล็กค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเพื่อเอาโฟม ครีมอาบน้ำ ละเครื่องใช้ต่างๆไปไว้ ตากลมถึงกับตาค้างเพราะห้องน้ำกว้างมาก นี่ขนาดห้องรับแขกนะแล้วถ้าเกิดเป็นห้องเจ้าของบ้านล่ะมันต้องหรูกว่านี้แน่เลย
“ เอาที่นอนมาปูนอนในห้องน้ำยังได้เลย “ ซองมินพึมพำกับตัวเอง
เมื่อจัดการธุระในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก็เดินออกมาสำรวจรอบๆห้องเตียงนอนที่ใหญ่จนซองมินอดที่จะคิดไม่ได้ว่าต้องกลิ้งกี่ตลบถึงจะตก เตียงที่บ้านเค้าน่ะสองตลบเจ้าเตียงบ้านี่ก็ส่งเค้าลงมากองกับเพื่อนแล้ว
“ มีคอมด้วยแฮะ “ ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ของโต๊ะอ่านหนังสือที่มีคอมพิวเตอร์วางอยู่บนนั้น ก่อนที่จะหยิบหนังสือมาวางไว้บนโต๊ะ
พวกลูกคนรวยมีพ่อแม่อำนวยความสะดวกให้ขนาดนี้แล้วแทนที่จะตั้งใจเรียนกลับเอาเวลาไปเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่ได้ ไม่รู้จักใช้ความได้เปรียบที่พระเจ้าให้มาให้เป็นประโยชน์ พวกนี้มันช่างแตกต่างจากเขาและคนอีกหลายๆคนเหลือเดิน เพราะโต๊ะอ่านหนังสือของซองมินนั้นก็เป็นโต๊ะญี่ปุ่นธรรมดามีแค่เบาะไว้รองนั่งเท่านั้น นี่เค้ายังถือว่ายังโชคดี แต่กับบางคนแม้กระทั่งโต๊ะญี่ปุ่นยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ
แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาที่นี่ทำไมซองมินก็ลุกขึ้นทันที คำสั่งของแม่ที่สั่งก่อนจะขึ้นเครื่องและคำฝากฝังของคุณนายโจวผู้มีพระคุณผุดขึ้นมาในสมอง
ลูกต้องดูแลคุณคยูฮยอนให้ดีดี
ถึงคุณคยูฮยอนเธอจะดื้อไปบ้าง แม่ขอให้ลูกใจเย็นๆ
ป้าฝากเจ้าคยูมันด้วยนะ ช่วยทำให้มันเป็นผู้เป็นคนซะที
ถ้าบอกแล้วมันไม่ฟังป้าอนุญาตให้ซองมินด่ามันได้
แต่ถ้าด่าแล้วมันยังไม่จำ ป้าอนุญาตให้ใช้กำลังกับมันได้
ใช่แล้วเขามาที่นี่เมื่อมาดูแลคุณชายจอมแสบนี่หว่า ว่าแต่หมอนั่นอยู่ไหนล่ะเนี่ยตั้งแต่มาถึงยังไม่เจอหน้าเลย วันนี้วันเสาร์คุณชาย โจว คยูฮยอน ไม่น่าจะตื่นเช้าได้ หรือว่าจะออกไปเที่ยวยังไม่กลับมา
หลังจากที่นั่งคิดหาคำตอบด้วยตัวเองอยู่นานก็ไม่สามารถหาคำตอบได้สักที ซองมินเลยตัดสินใจเดินลงไปข้างล่างเพื่อถามพวกแม่บ้าน
“ คุณซองมิน ป้ากำลังจะขึ้นไปตามพอดีเลยค่ะ “
“ ตามผมเหรอฮะ มีธุระอะไรรึเปล่า “ ซองมินเอ่ยถามด้วยความสงสัย หรือว่าคุณป้าแม่บ้านพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าจัดห้องให้เขาผิด
“ ป้าจะขึ้นไปตามมาทานอาหารว่างน่ะค่ะ “
“อ๋อ ขอบคุณมากฮะ “ กล่าวขอบคุณพร้อมกับเดินตามหลังแม่บ้านเข้าไปในครัว แต่พอนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องจะถามเกี่ยวกับขอมูลของเจ้านายคนเล็กเสียงใสก็เลยเอ่ยขึ้น
“ วันนี้ไม่มีคนอยู่บ้านเหรอฮะ “ พูดพลางส่งยิ้มน่ารักให้กับคนรับใช้ที่ทำงานอยู่ในครัวที่หันมาส่งยิ้มให้ จริงๆแล้วแม่บ้านบอกว่าจะยกของว่างไปให้ในห้องนั่งเล่น แต่คนน่ารักกลับดื้อที่จะเข้ามาทานในครัว หนึ่งเพราะควมเกรงใจ สองเพราะตนเองเป็นแค่คนอาศัย จึงไม่ต้องการให้คนอื่นต้องมาลำบากเพราะตน
“ มีค่ะ คุณคยูฮยอนอยู่บนห้อง “
“ อยู่บนห้อง “ ซองมินทวนคำ
“ ค่ะ ปกติวันหยุดแบบนี้คุณคยูฮยอนเธอจะตื่นสายน่ะค่ะ” แม่บ้านอธิบายกิจวัตรประจำสัปดาห์ของนายเล็กให้แก่ผู้มาใหม่ฟัง ซองมินเหลือบมองนาฬิกาบ่ายสองเค้าไม่เรียกว่านอนตื่นสายแล้วล่ะ เค้าเรียกว่านอนกินบ้านกินเมืองต่างหากล่ะ
“ งั้นเหรอฮะ เดี๋ยวผมมานะ “ พูดจบก็ลุกออกจากห้องครัวตรงดิ่งขึ้นไปชั้นบนแน่นอนว่าเป้าหมายของคนร่างเล็กก็คือห้องนอนของคุณชาย โจว คยูฮยอน
แม่บ้านที่อาวุโสที่สุดมองตามร่างอวบนั้นขึ้นไปก่อนที่จะคลี่ยิ้มบางๆออกมาแล้วก็พลันนึกถึงคำพูดของนายหญิงของบ้าน
“ ซองมินนี่แหละ คือคนที่ฉันจะให้มาดัดนิสัยเจ้าคยูฮยอน “
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงมือเล็กกระทบกับบานประตูหลายครั้งแต่เจ้าของห้องก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดมันออกมาซะที ไม่มีแม้กระทั่งเสียงตอบรับ ให้ตายสิลูกชายบ้านนี้มันช่างหลับลึกจริงๆ
เมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับจากบุคคลที่อยู่ด้านใน ร่างอวบจึงถือวิสาสะหมุนลูกบิดซึ่งปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อคก่อนจะก้าวช้าเดินเข้าไปในห้อง ให้ตายสิทำไมห้องนี้มันกว้างจังแล้วลี ซองมินคนนี้จะเดินหลงไหมเนี่ย
ตากลมกวาดมองรอบๆบริเวณห้องผ้าม่านถูกปิดไว้อย่างมิดชิดเพื่อไม่ให้มีแสงเล็ดลอดเข้ามา แน่นอนว่าเจ้าของห้องไม่ต้องการให้แสงแดดในยามเช้าเข้ามารบกวนเวลานอน ขาสั้นก้าวเดินไปยังเตียงตอนเพื่อที่จะปลุกคุณชายขี้เซาแต่ว่าต้องพบกับความว่างเปล่าเพราะบนเตียงนั้นไม่มีร่างของใครอยู่เลย
“ สงสัยจะตื่นแล้วมั้ง ดีจะได้ไม่ต้องเสียแรงปลุก “
เมื่อคิดว่าเจ้าของห้องคงจะตื่นแล้วและตอนนี้คงจะอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำร่าเล็กเลยหันหลังกลับเพื่อที่จะออกไปนอนห้อง แต่แล้วสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นร่างๆหนึ่งนอนฟุบอยู่ที่โซฟาหน้าจอโทรทัศน์ ภายในหน้าจอสี่เหลี่ยมนั้นยังคงมีเกมส์ค้างอยู่ ซองมินเดินไปหยุดอยู่ที่โซฟาก่อนที่จะส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ
“ อยู่ปีสามแล้วยังทำตัวเหมือนเด็กๆ”
สิ่งที่ซองมินพูดนั้นไม่ผิดเลยแม้แต่น้อยเพราะคุณชาย โจว คยูฮยอนที่สาวๆทั้งหลายต่างคลั่งไคล้นั้น ตอนนี้กำลังนอนหลับทั้งๆที่มีปุ่มกดเกมส์อยู่ในมือ ซองมินค่อยๆดึงสิ่วที่อยู่ในมือนั้นออกก่อนจะก้มลงสะกิดให้อีกคนตื่น
“ คุณคยูฮยอน ตื่นได้แล้ว “ แต่ว่ายิ่งสะกิดร่างหนายิ่งสะบัดก่อนจะพลิกตัวหนี ซองมินยืนเท้าสะเอวมองคนตัวใหญ่ที่ปลุกยากปลุกเย็นเหลือเกิน
“ ดี ไม่ตื่นใช่มั๊ย “ คนน่ารักพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะยื่นมือไปดึงใบหูของคนที่นอนหลับเป็นตายพร้อมกับตะโกนสุดเสียง
“ โจว คยูฮยอน ตื่นได้แล้วโว้ย ย ย “
ทันทีที่เสียงแปดหลอดยกกำลังสองกระทบโสตประสาทคุณชายขี้เซารีบดีดตัวขึ้นมาทันที ใครจะไปทนได้เสียงดังยิ่งกว่าพูดใส่โทรโข่งซะอีก
ร่างหนาหันไปมองคนที่บังอาจมารบกวนเวลาหลับเวลานอนของเขา เพราะเป็นอันรู้กันว่าถ้าหากเจ้านายคนเล็กกำลังนอนอยู่ห้ามมนุษย์หน้าไหนมารบกวนทั้งนั้น แต่คิ้วหนาก็ต้องขมวดเป็นปมเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นไม่คุ้นเอาซะเลย
“ นายเป็นใคร กล้าดียังไงถึงได้มาตะโกนใส่หูฉัน”
“ ลี ซองมิน คนที่แม่นายส่งมาดัดนิสัยนายไง “
“ ว่าไงนะ “ คยูฮยอนตะโกนลั่น คนดัดนิสัยงั้นเหรอ เหอะ ตัวเล็กแค่นี้จะมีปัญญาทำอะไรได้
“ ชั้นพูดแค่ครั้งเดียว ต่อไปนี้นายต้องอยู่ในความดูแลของชั้น”
เหอะ คนหล่ออยากจะหัวเราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครสั่งอะไรเค้าได้แล้วหมอนี่เป็นใครถึงได้อวดดีมาบอกว่าให้เค้าอยู่ในความดูแล
“ นายคิดว่านายทำได้งั้นเหรอ “
“ แน่นอน “ ซองมินตอบด้วยความมั่นใจ “ และตอนนี้มันก็หมดเวลานอนของนายแล้ว เชิญไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”
“ ไม่ “ ร่างสูงตอบก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ก็บอกแล้วไงว่า โจว คยูฮยอน คนนี้ไม่ชอบทำตามคำสั่งใคร
“ ไม่ไปดีๆใช่มั๊ย “ พูดจบก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับน้ำเต็มแล้ว ร่างสูงที่ไม่ได้สนใจอะไรเตรียมตัวจะไปเข้าเฝ้าพระอินทร์อีกรอบก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรเย็นมากระทบที่ใบหน้า พอลืมตาขึ้นก็เจอกระต่ายอวบยืนยิ้มสะใจพร้อมกับถือแก้วน้ำอยู่ในมือ
“ นายเอาน้ำมาเทใส่ฉันทำไม “ พุดออกไปด้วยอารมณ์ที่โกรธสุดๆ ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาแบบนั้น
“ ก็เห็นว่านายไม่อยากเดินไปอาบเอง ชั้นเลยเอามาประเคนให้ถึงที่ไงล่ะ “ เอ่ยออกไปโดยที่ไม่สนว่าตอนนี้คู่กรณีกำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ตอนนี้
“ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้”
“ ชั้นไปแน่ แต่ต้องรอให้ครบสองเดือนก่อน “
“ แต่ชั้นต้องการให้นายไปเดี๋ยวนี้ “ คยูฮยอนกดเสียงต่ำจนน่ากลัว ซึ่งมันแสดงออกว่าร่างสูงนั้นโกรธจริงๆซะแล้ว แต่เพราะรับปากกับมารดาไวแล้วซองมินจึงโต้ตอบออกไปถึงแม้ว่าในใจจะเริ่มกลัวกับอารมณ์ของคนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
“ ขอโทษนะคุณชาย แต่ชั้นคงทำตามที่คุณชายต้องการไม่ได้หรอกเพราะชั้นรับปากพ่อคุณชายไว้แล้ว “
“ ฉันไม่สน “ คยูฮยอนตวาดลั่น
“ แต่ชั้นสน รีบๆอาบน้ำซะ ช้าขืนชักช้ามันจะไม่ใช่แค่น้ำธรรมดา แต่คราวหน้ามันจะเป็นน้ำแข็ง “ พูดจบก็เดินออกจากห้อง เพราะเกรงว่าถ้าหากอยู่นานกว่านี้อาจจะโดนฆ่าเอาได้
เมื่อซองมินเดินออกไปแล้วร่างสูงที่อยู่ในห้องก็กำลังหงุดหงิดที่โดนขัดใจ จะนอนต่อก็ไม่ได้เพราะเสื้อผ้าเปียกหมดแล้วจึงต้องจำใจคว้าผ้าเช็ดตัวที่แม่บ้านเตรียมเอาไว้ให้แล้วเดินเข้าห้องน้ำ
“ อย่าให้ถึงทีฉันบ้าง พ่อจะเอาคืนให้สาสมเลย “
ภายในห้องนอนสีขาวที่ตกแต่งเรียบๆตามบุคลิกของเจ้าของ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียด ดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้นถูกบดบังด้วยแว่นสายตากรอบดำที่เจ้าตัวใส่อยู่ คิบอมเงยหน้าจากหนังสือที่เค้านั่งอ่านมาเกือบจะชั่วโมงก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเมื่อมันส่งเสียงร้อง ปากหยักคลี่ยิ้มบางๆเมื่อเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะสามารถทำให้คิบอมยิ้มได้
“ ครับพี่ “
“ ว่าไงน้องรัก สบายดีมั๊ย “
“ ก็เรื่อยๆครับ แล้วพี่เป็นไงบ้าง ไม่กลับมาเยี่ยมกันเลยนะ “
“ ไม่สบายเท่าไหร่ สาวเยอะไปหน่อย สับรางไม่ทัน ฮ่า ๆ “
“แล้วเมื่อไหร่พี่จะกลับมาเกาหลีบ้าง “
“ อีกสองอาทิตย์ อยู่ยาวเลย “
“ หมายความว่าพี่จะย้ายกลับมาเกาหลีเหรอ “ คนเป็นน้องถามด้วยความดีใจ เกือบจะสามปีได้แล้วที่คิบอมไม่ได้เจอลูกพี่ลูกน้องคนนี้เลย
“ อืม กลับไปงานแต่งงานแกด้วย “
เมื่อพูดถึงเรื่องงานแต่งงานคิบอมก็เงียบลงทันที ใช่แล้ว เดือนหน้าเค้าต้องแต่งงานกับผู้ชายที่คุณย่าหาให้นี่พี่ฮันฮยองคงจะรู้ข่าวจากคุณย่าล่ะสินะ
“ เป็นไรไป ไม่ดีใจเหรอ “ เมื่อเห็นว่าน้องเงียบฮันฮยองจึงเอ่ยขึ้นมาอีก
“ พี่ฮัน ผมไม่อยากแต่งเลยอ่ะ ผมไม่ได้รักเค้า “
คิบอมเผยความในใจที่เค้าเก็บเอาไว้คนเดียว เค้าไม่กล้าที่จะเอ่ยกับคุณย่า แม้กระทั่งกับพ่อและแม่ได้แต่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ แต่ฮันฮยองนั้นเป็นพี่ชายที่เค้าเชื่อใจและสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ซึ่งดูเหมือนว่าฮันฮยองเองก็เข้าใจความรู้สึกของน้องชายเช่นกัน และนี่คือสาเหตุที่เขาโทรศัพท์ข้ามประเทศมาหาน้องชาย
“ เอาน่า อย่าคิดมาก อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง พี่เชื่อว่าคุณยายเลือกคนไม่ผิด ที่ทำไปเพราะคุณยายรักแกนะ”
สรรพนามที่ฮันฮยองใช้เรียกคิม เยจินนั้นต่างจากคิบอมเพราะ เยจินนั้นเป็นญาติฝ่ายมารดาแต่กับคิบอมแล้ว เยจินนั้นเกี่ยวข้องทางฝั่งของพ่อ
“ เป็นจะเป็นไปได้เหรอพี่ “
“ แกไม่เคยได้ยินรึไง รักแท้แพ้ใกล้ชิดน่ะ “
“ เฮ้อ นี่ผมทำได้แค่ทำใจใช่มั๊ยเนี่ย “ คิบอมถอนหายใจ จนคนเป็นพี่ที่อยู่ปลายสายต้องหลุดหัวเราะออกมา นานๆทีคิม คิบอมจะหลุดฟอร์มออกมาให้เห็น
“ คิดได้แบบนั้นก็ดี นี่ๆ แค่นี้ก่อนนะกิ๊กคนที่สิบโทรมา แล้วเจอกันที่เกาหลี “
“ ระวังรถไฟชนกันนะพี่ คิดถึงพี่นะ “
“เออๆ คิดถึงเหมือนกัน “
เมื่อวางสายจากพี่ชายเสร็จแล้ว ร่างหนาก็ถอดแว่นสายตาออกคิดว่าจะพักสายตาสักครู่แต่ตาคมก็เหลือบไปเห็นซองสีน้ำตาลที่คุณย่ามอบให้เมื่อวานแต่เจ้าตัวดันลืมเปิดดู
เมื่อเปิดออกแล้วก็พบว่าในนั้นมีกระดาษอยู่หนึ่งแผ่นพร้อมกับรูปถ่ายอีกหนึ่งใบ ตาคมก้มลงอ่านเอกสารที่อยู่ในมือก็พบว่ามันเป็นประวัติของว่าที่ภรรยาของเขานั่นเอง
ชื่อ ลี ทงเฮ
ชื่อเล่น ด๊อง
วันเกิด 15 ตุลาคม
ส่วนสูง
น้ำหนัก 60 ก.ก.
กรุ๊ปเลือด A
การศึกษา คณะศิลปศาสตร์ปี3
ร่างสูงกวาดสายตาอ่านมาเรื่อยๆจนถึงข้อสุดท้าย มือหนาพลิกรูปที่มันมาพร้อมกับเอกสารขึ้นมาดู คิบอมแทบไม่อยากเชื่อว่าคนในรูปนั้นจะเป็นผู้ชายเพราะหน้านั้นหวานเหลือเกินถ้าไม่เห็นลูกกระเดือกที่คอเค้าคงคิดว่าเป็นผู้หญิงแน่นอน
“ ทำไมเราถึงไม่เคยเห็นหน้านายคนนี้เลยนะ เรียนที่เดียวกันไม่ใช่เหรอ “
คิบอมพึมพำกับตัวเองเพราะคุณย่าบอกว่าเค้าเรียนที่เดียวกันกับทงเฮ แต่ไม่ยักกะเคยเห็นหน้าผู้ชายในรูปเลยสักครั้งแต่พอนึกถึงคำพูดของฮันฮยองก็ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ
“ ผมยังไม่เคยเจอหน้าเค้าเลยพี่”
“ ได้ไงเรียนที่เดียวกันไม่ใช่เหรอ “
“ ใช่ฮะ แต่ผมไม่เคยเจอเค้าเลยจริงๆนะ “
“ ก็ไม่เห็นแปลก แกเคยสนใจสิ่งรอบข้างด้วยเหรอ”
ใช่แล้ว คิม คิบอมคนนี้แทบจะไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบตัวเลย เวลาไปเรียนเค้าก็รู้จักแค่เพื่อนสนิทและเพื่อนที่เรียนด้วยกัน จะมีก็แต่ยุนอาที่อยู่ต่างคณะแต่นั้นเพราะยุนอาคือคนรัก ดังนั้นมันจึงไมใช่เรื่องแปลกที่คิบอมจะไม่เคยเจอทงเฮเลย เพราะต่อให้เดินสวนกันร่างสูงก็คงไม่คิดที่จะสนใจอยู่แล้ว
ความคิดเห็น