ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~* It's love* ~ รักเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง [KiHae KyuMin etc. ]

    ลำดับตอนที่ #2 : การพบกันครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 53


       Loma_ p


         ย้อนไปเมื่อยี่สิบปีก่อนคิม จงมิน อดีตประธานบริษัทคิมกรุ๊ป ได้สัญญากับเพื่อนรักไว้ว่าจะให้หลานของทั้งคู่ที่เป็นทายาทของตระกูลแต่งงานกัน  ต่อมาคิม จงมิน  เกิดล้มป่วยและเสียชีวิตด้วยอาการภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

       จนวันนี้เวลาได้ผ่านไปแล้วยี่สิบปีซึ่งทายาทคนปัจจุบันของตระกูลคิมผู้ที่จะต้องสืบทอดธุรกิจมูลค่ามหาศาลในตอนนี้คือคิม คิบอม ชายหนุ่มอายุยี่สิบปี 

       คิม เยจิน ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าของคิบอมและดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในบ้านได้พูดเรื่องเกี่ยวกับสัญญาของผู้ใหญ่กับมารดาของคิบอม

       " แม่คิดว่ามันถึงเวลาแล้ว แม่หมายถึงเรื่องงานแต่งงานของคิบอม" 

      "  แต่คิบอมยังเด็กอยู่นะค่ะ  อีกอย่างเค้าก็ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วย "  เฮียวริคัดค้านแม่สามี เธอไม่เห็นด้วยเลยสักนิด ลูกชายของเธอเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะได้ไม่นาน

      " ไม่ว่าจะเร็วจะช้าก็ต้องแต่งอยู่ดี เธอก็รู้ว่าสุขภาพของแม่มันเริ่มแย่ลงทุกวัน "

      " แต่ว่า..."

      " ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เธอเตรียมจัดงานได้เลย ส่วนคิบอมชั้นจะคุยกับเค้าเอง"  เยจินสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนจะเดินออกจากห้องไป หล่อนรู้อยู่แก่ใจว่าหลานชายคนนี้จะไม่ทำให้หล่อนผิดหวัง





        
       ฮีชอลนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์กำลังนั่งชื่นชมรูปในแมกกาซีนที่เขาเพิ่งซื้อมาเมื่อเช้าพร้อมกับเพ้อคำชมไม่หยุดปาก  เพราะในหนังสือเล่มนั้นมีภาพของชายหนุ่มที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในศตวรรษ   ชายหนุ่มหน้าคม จมูกโด่งเป็นสัน  ปากหยักได้รูป ยืนโพสท่าเท่ห์ๆให้สาวๆครึ่งค่อนประเทศต้องใจละลาย กว่าที่เค้าจะได้หนังสือเล่มนี้มาต้องไม่ยื้อแย่งกับเหล่าบรรดาสาวๆทั้งหลายเพราะมันเหลือเล่มสุดท้ายในร้าน  แต่ก็ไม่วายโดน ลี ซองมินซึ่งไม่ชอบพวกลูกคนรวยเบรกเอาไว้ว่าเพื่อนเป็นพวกชอบเพ้อฝัน

       ขณะนั้น ลี ทงเฮ หนุ่มน้อยหน้าหวานแต่ชอบทำตัวซุ่มซ่ามก็เดินเข้ามาหยอกล้อกับเพื่อนอีกสองคนด้วยความสนุกสนาน

       " นี่ ทงเฮ นายทำรายงานเสร็จรึยัง" ซองมินถาม

      " หือ  รายงานอะไร " คิ้วเรียวเลิกขึ้นเพราะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนถาม

      " ก็รายงานที่อาจารย์ให้ทำตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วไง " 

       ทงเฮเบิกตากว้างเมื่อนึกขึ้นมาได้  ใบหน้าสวยตอนนี้แสดงอาการตกใจและกังวลเป็นอย่างมาก

      " กำหนดส่งวันนี้ใช่มั๊ย " เอ่ยถามเพื่อนทั้งที่มือกำลังสาละวนกับการหารายงานในแฟ้ม

      " วันนี้บ่ายโมง " ซองมินเอ่ยย้ำให้เพื่อนฟังอีกครั้ง

      " ตายๆ ตายแน่ชั้น ตอนนี้มันกี่โมงแล้วเนี่ย" 

       ทั้งทงเฮและฮีชอลรีบจัดการรายงานของตนเอง ร่างบางทั้งคู่เกิดความโกลาหลขึ้นมาในบัดดล  ซองมินยิ้มเย้ยก่อจะเอ่ยแซวว่า

      " พี่ฮีชอล ทำไมพี่ไม่ชื่นชมเจ้าชายในฝันของพี่ต่อไปล่ะ" 

      " ลี  ซองมิน ทำไมนายถึงเป็นคนแบบนี้นะ " ตากลมโตหันมาค้อนก่อนที่จะหันกลับไปก้มหน้าก้มตาปั่นงานของตัวเองให้เสร็จ





        เสียงกรี๊ดที่ดังมาจากหน้าประตูของมหาวิทยาลัยเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าตอนนี้หนุ่มฮอตประจำมหาลัยได้มาถึงแล้ว  รถเก๋งสีดำคันหรูวิ่งเข้ามาภายในบริเวณด้วยความเร็วก่อนที่สาวๆและบรรดาหนุ่มหัวใจแหววทั้งหลายจะวิ่งตามรถคันนั้นมาอย่างบ้าคลั่ง

       ชายชุดดำสองคนก้าวลงมาจากรถก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูให้กับเจ้านาย คิบอมก้าวลงจากรถด้วยอาการนิ่งๆ แต่ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากคนที่อยู่ในบริเวณนั้นได้มากโข

       " ตอนเย็นพวกนายรออยู่ที่หน้าประตูละกัน " ชายหนุ่มหันไปสั่งลูกน้อง

      " แต่ท่านประธานสั่งว่าให้พวกเราดูแลคุณชายอย่างดีนะครับ"

      " ฉันบอกก็ทำตามนั้นสิ พ่อไม่รู้หรอก " คิบอมตวัดสายตาใส่ชายชุดดำทั้งสอง ก่อนที่ทั้งคู่จะโค้งรับคำสั่งอย่างขัดไม่ได้ ร่างสูงเดินเข้าไปในตึกเรียนก็เจอเพื่อนรักรออยู่ก่อนแล้ว  คยูฮยอนมักจะมาเรียนเช้าเสมอเพราะมาหาที่งีบ ส่วนซีวอนถึงจะมาไม่เช้ามากนักแต่ก็เช้ากว่าตนอยู่ดี

       "สาวเพียบเหมือนเดิมเลยนะแก" คยูฮยอนเอ่ยแซว เขาเริ่มชินซะแล้วล่ะที่ทุกเช้าจะต้องได้ยินเสียงกรี๊ด ตัวเค้าก็ใช่ว่าจะไม่มีแต่เมื่อเทียบกับเจ้าแก้มป่องข้างๆแล้วมันคนละชั้น

      " ผู้หญิงพวกนั้น น่ารำคาญชะมัด " คิบอมเอ่ยกับเพื่อนเค้าไม่ยินดีเลยสักนิดที่ผู้หญิงพวกนั้นมาวิ่งตามเค้า ที่ต้องมีคนมาคุ้มกันก็เพราะผู้หญิงพวกนั้นแท้ๆ

       ย้อนไปเมื่อครั้งที่เข้าปีหนึ่งวันแรก คิม คิบอม ได้รับอนุญาตจากบิดาให้ขับรถมาเรียนเองได้แต่แล้วมันก็เกิดเรื่องเองจนได้ เมื่อบรรดาสาวๆทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันต่างวิ่งเข้ามารุมร่างหนา เพียงแค่อยากจะใกล้ชิดอยากจะสัมผัสและถ้าวันนั้นคยูฮยอนกับซีวอนไม่เข้ามาช่วยเค้าก็ไม่รู้ว่าจะได้มายืนอยู่ตรงนี้รึเปล่า เพราะพอกลับถึงบ้านก็พบว่าตามตัวมีรอยเล็บนับไม่ถ้วน พอมารดาเห็นเข้าแค่นั้นแหละ    คิบอมแทบจะไม่ได้ไปไหนตามลำพังทั้งๆที่ตอนนี้ก็อยู่ปีสามแล้ว ผิดกับเพื่อนทั้งสองที่มันสามารถขับรถโฉบไปโฉบมาได้ทั่วมหาวิทยาลัย

      " ช่วยไม่ได้นี่หว่า ใครบอกให้แกเกิดมาเป็นทายาทตระกูลคิมเองล่ะ " ซีวอนตบไหล่เพื่อน เหมือนจะเป็นคำปลอบถ้าเจ้าของคำพูดไม่พูดไปหัวเราะไป

      " ใช่ๆ มีแต่คนเค้าอิจฉาแกทั้งนั้น" คยูฮยอนสมทบ

     " งั้นมาเปลี่ยนกันเอามั๊ย " 

      " ไม่ " สองเสียงประสานตอบพร้อมกัน ก่อนที่ทั้งสามจะเดินกอดคอกันเข้าตึกเรียน






        วันนี้คณะบริหารต้องไปเรียนที่ตึกซีเพราะเป็นวิชาที่ต้องเรียนรวมกับคณะอื่น ในขณะที่สามหนุ่มเดินผ่านตึกบีเพราะเป็นทางเชื่อมไปที่ตึกซีก็เกิดวามวุ่นวายขึ้นที่ชั้นสอง เพราะมีสาวๆนับสิบวิ่งออกมาจากในห้องเพื่อมาส่งเสียงเรียกเทพบุตรประจำสถาบัน

       ซีวอนมองขึ้นไปด้านบนก่อนที่จะส่งยิ้มตามแบบฉบับสุภาพบุรุษส่งไปให้เล่นเอาคนที่เป็นแฟนคลับแทบล้มทั้งยืน ส่วนคยูฮยอนก็ไม่น้อยหน้ายกมือขึ้นโบกให้สาวๆที่กระทืบเท้าอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยความดีใจ  จะมีแค่เพียงคิบอมคนเดียวเท่านั้นที่ทำแค่เพียงมองขึ้นไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วก็ไม่สนใจอะไรอีกเลย แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ขอแค่ได้เห็นหน้าพวกเค้าทั้งสามคนแม่พวกนั้นก็ฝันดีไปสามวันเจ็ดวันแล้ว

      " น่าเบื่อชะมัด " ซองมินที่ยืนอยู่บนตึกเอ่ยขึ้น 

      " น่าเบื่อตรงไหน คิบอมออกจะหล่อ " ฮีชอลขัดขึ้นตากลมโตยังคงเคลิ้มกับภาพที่เห็นเมื่อครู๋

      " ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะมาเรียนที่นี่ทำไม ทำให้สถาบันเค้าวุ่นวาย" 

      " ชั้นว่าดีออก บรรยากาศจะได้ไม่เงียบเหงา" 

      " เหอะ พี่น่ะมันบ้าผู้ชาย" รุ่นน้องตัวอวบว่าให้พี่ชายที่เข้าข้างพวกนั้นจนออกนอกหน้า

      " ฉันก็บ้าเฉพาะผู้ชายหล่อเท่านั้นแหละย่ะ"  ฮีชอลว่าก่อนจะกลับไปสนใจกลับรายงานที่ตัวเองต้องทำต่อ

      "พี่ผมทำเสร็จแล้วนะ " ทงเฮที่ไม่ได้สนใจบทสนทนาเมื่อครู่เอ่ยขึ้นหลังจากที่เค้านั่งปั่นงานอยู่นานสองนาน

      " ได้ไงอ่ะ ชั้นเหลืออีกตั้งเยอะ " 

      " ก็พี่มัวแต่มองผู้ชายไงล่ะ งานมันถึงไม่เสร็จซักที" เจอซองมินจิกเข้าให้อีกดอก

       ร่างบางทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ชี้หน้าคาดโทษรุ่นน้องที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนมาด้วย  อย่าให้เค้าได้เป็นแฟนกับคิบอมนะ เค้าจะลาออกแล้วไปเป็นคุณนายคิมเต็มตัวเลย

      


       ที่ชั้นล่างของตึกซี

        ทงเฮกำลังถือถังน้ำลงมาเปลี่ยนเพราะวันนี้พวกเค้าส่งรายงานช้าก็เลยถูกทำโทษให้เช็ดกระจกและทำความสะอาดห้องแต่เพราะกำลังหงุดหงิดที่โดนอาจารย์ลงโทษปากบางก็ขยับบ่นไปตลอดทางเลยไม่ทันได้ระวังจึงเดินชนเข้ากับนักศึกษาชายคนหนึ่งโดยบังเอิญ น้ำในถังกระฉอกออกมารดรองเท้าผ้าใบคู่สีขาวของชายหนุ่ม

      ร่างบางตกใจมากกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแต่ว่าก็ต้องตกใจมากยิ่งกว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอคู่กรณีแล้วพบว่าผู้ชายคนนั้นคือ คิม คิบอม

      " ขอโทษครับ" ทงเฮล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเช็ดที่ลองเท้าให้อย่างกุลีกุจอ เพราะกลัวว่าอีกคนจะไม่พอใจ

      " หยุดเถอะ" เจ้าของรองเท้าเอ่ยเสียงเรียบ

      ร่างบางที่มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดรองเท้าให้อยู่นั้นเลยไม่ทันได้ยินเสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้น จนคิบอมต้องเอ่ยขึ้นมาเป็นรอบที่สอง

      " ฉันบอกให้หยุดได้แล้ว "

      ทงเฮเงยหน้ามองตามเสียง เห็นทีว่าคิบอมคงจะโกรธซะแล้ว แต่เกินคาดเพราะร่างหนานั้นยังคงนิ่งอยู่ คิบอมไม่พูดอะไรต่อเพียงแค่ถอดรองเท้าพละออกแล้วกับไปใส่รองเท้าหนังตามเดิม

      " เอาไปทิ้งให้ด้วยนะ " พูดจบก็หันหลังกลับทันที

      " แต่มันยังใหม่อยู่นะ รู้หรอกว่ารวยน่ะ แต่ช่วยประหยัดเพื่อประเทศชาติบ้าง " ร่างบางตะโกนไล่หลังก่อนที่คิบอมจะหันกลับมาแล้วเหยียดยิ้มมุมปาก

      " พ่อรวยแล้วไง คิดว่าจะมาเบ่งใส่คนอื่นได้ทุกคนงั้นเหรอ จะทำอะไรก็คิดถึงคนที่เค้าไม่มีอันจะกินบ้างสิ" 

       ร่างบางไม่ฟังอะไรทั้งนั้น มันจะมากเกินไปแล้วที่ทำตัวแบบนี้ คิบอมเดินกลับมาหาทงเฮ ทำเอาร่างบางหวั่นๆเพราะไม่รู้ว่าจะถูกสั่งฆ่ารึเปล่า แต่ประโยคที่ร่างหนาเอ่ยออกมานั้นเล่นเอาคนสวยพูดไม่ออก

      " ถ้าเธอเสียดายก็เอาไปสิ ฉันสงเคราะห์ให้"  ว่าเสร็จก็เดินกลับไปหาเพื่อนที่วิ่งมาสมทบและไม่หันมาสนใจทงเฮอีกเลย

      " ทงเฮ เป็นไงบ้าง " ซองมินรีบวิ่งเข้ามาเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

      " ชั้นไม่เป็นอะไร เรากลับห้องกันเถอะ" 

      " เมื่อกี้คิมคิบอมใช่มั๊ย มองใกล้ๆเค้าหล่อมากมั๊ยทงเฮ" ฮีชอลเขย่าแขนรุ่นน้องด้วยอาการตื่นเต้น คนที่ได้ใกล้ชิดกับคิบอมเมื่อครู่น่าจะเป็นเค้า

      " เฮ้อ เป็นห่วงน้องบ้างก็ดีนะพี่" ซองมินได้แต่ถอนหายใจ สงสัยว่ารุ่นพี่เค้าคงจะเกินเยียวยาแล้วล่ะ





        ภายในห้องเรียนคิบอมกำลังนั่งครุ่นคิดอะไรบ้างอย่างอยู่ เพราะซีวอนกับคยูฮยอนลงไปหาซื้อของกินด้านล่างดังนั้นในห้องนี้จึงเหลือแต่ร่างสูงคนเดียว

      " คิบอม ย่าอยากให้หลานแต่งงานเร็วๆนี้" 

      นี่คือประโยคที่ย่าแท้ๆเอ่ยกับเขาเมื่อเช้าในขณะที่กำลังทานอาหารเช้ากันอยู่ แต่งงานงั้นเหรอ? มันจะเร็วเกินไปรึเปล่า เค้ายังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยนะ

      " แต่ผมยังเรียนไม่จบเลยนะครับ" 

      " ไม่เห็นจะเป็นไรเลย แต่งงานแล้วก็เรียนได้ " 

      " คุณย่าครับ ผมยังไม่พร้อม " 

      " ย่าคิดว่าหลานน่าจะพร้อมได้แล้วนะ  ตอนนี้ย่ากำลังให้คนไปตามหาคู่หมั้นหลาน" 

      " คู่หมั้น?" คิบอมทวนคำเค้าเคยมีคู่หมั้นตอนไหนเนี่ย

      " เป็นคนที่คุณปู่เลือกไว้ให้น่ะ " คิม เยจิน ขยายความให้หลานชายเข้าใจ

       " แต่ผมมีคนรักอยู่แล้วครับ " ร่างหนาบอกเหตุผลของตน เพราะอันที่จริงแล้วเค้ามีคนที่คบหาดูใจอยู่แล้วถ้าจะต้องแต่งงานกับคนที่ย่าเลือกให้ แน่นอนว่ามันจะเป็นการทำร้ายความรู้สึกของผู้หญิงที่เค้ารัก

      " งั้นก็พาเค้ามาให้ย่าดูหน่อยสิ" เอ่ยด้วยน้ำเสียงตรึงเครียดก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมาที่ทำให้ร่างสูงต้องคิดหนักมาจนถึงตอนนี้

      " ถ้าหล่อนยินดีแต่งงานกับหลานตอนนี้ย่าก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้าหล่อนปฏิเสธหลานต้องแต่งงานกับคนที่ย่าหาให้ โดยไม่มีข้อแม้"


       ร่างสูงถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบเครื่องเล่นในกระเป๋าขึ้นมายัดใส่หูเพื่อที่จะตัดขาดจากสิ่งที่อยู่รอบตัว เย็นนี้คิบอมคิดว่าจะลองคุยกับคนรักดู ตาคมค่อยๆปิดลงถ้าหากวันนี้หญิงสาวไม่ยอมตอบตกลงเค้าคงจะหนีสัญญาบ้าๆนั่นไม่พ้น ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเขาทั้งคู่ต้องเลิกกัน






    _____________________________________________________________________


    Talk


      เอาตอนแรกมาลงให้อ่านกันนะค่ะ ไม่รู้ว่าจะชอบกันรึเปล่า

      ถ้าชอบก็เม้นด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

     ป๋าที่รัก เค้ารอป๋าออกมาพูดอยู่น๊า  เค้าเชื่อใจในทุกอย่างที่ป๋าทำ 


    รักป๋าน๊า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×