ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~* It's love* ~ รักเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง [KiHae KyuMin etc. ]

    ลำดับตอนที่ #11 : ผมชอบลูกชายคุณแม่ครับ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 53


     Loma_ p
         
    ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาอาหารเย็นของหลายครอบครัวจึงไม่แปลกถ้าหากร้านอาหารที่กว้างขวางแห่งนี้จะดูแคบลงไปถนัดตาเมื่อลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรต่างแวะเข้ามาลิ้มลองรสชาติของอาหารเพราะต่างรู้กันดีว่าร้านอาหารแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องความอร่อยมากแค่ไหน

            นี่  เมื่อไหร่จะได้กิน คุณชายคยูฮยอนผู้ยิ่งใหญ่เดินมาถามกระต่ายอวบที่ยืนต่อคิวซื้อข้าวหน้าเป็ดให้ตนเองอยู่  ใบหน้าหล่อส่อเค้าไม่ค่อยพอใจเพราะปกติไม่เคยต้องรออะไรนานๆแบบนี้

           ฉันจะไปรู้ไหม  ไม่เห็นหรือไงว่าคนรอคิวเยอะแยะ ร่างบางสวนกลับอย่างมีอารมณ์คนก็เยอะอากาศก็ร้อนยังต้องมายืนเบียดกับคนเยอะแยะทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้อยากกินเลยแม้แต่น้อย

           หลังจากฉุดกระชากลากถูกันออกมาจากร้านที่คิบอมกับทงเฮไปลองชุดแต่งงานแล้วคยูฮยอนก็ขับรถมุ่งออกไปตามเส้นทางที่ซองมินบอกทันที  แต่พอมาถึงร่างสูงก็ต้องหงุดหงิดเมื่อพบว่ามีคนอยู่เต็มร้านงานเลยเข้ากระต่ายอวบที่พามาเพราะโดนสั่งให้ไปต่อแถวซื้อมาให้และนั่นก็ทำให้ซองมินอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก   อะไรจะใช้งานคุ้มค่าขนาดนั้นในเมื่ออยากกินก็พามาแล้วนี่ร่างบางยังต้องเป็นคนไปซื้อมาให้อีกเหรอเนี่ย สบายเกินไปแล้วนะคุณชาย

            แล้วทำไมไม่บอกก่อนล่ะว่าร้านนี้คนเยอะ  พอโมโหหิวก็เริ่มจะพาลสิ่งรอบตัว  ถ้าบอกว่าร้านนี้คนเยอะแน่นอนว่าเขาไม่มีทางมาแน่นอน

           ก็เห็นนายบอกอยากกินร้านนี้  อย่าทำเป็นบ่นหน่อยเลย นายไม่ได้เป็นคนมายืนรอเพื่อนฉันซะหน่อย พูดแล้วก็หมั่นไส้ตัวเองนั่งรอสบายๆอยู่ในรถไม่ได้มายืนขาแข็งเหมือนเขาซะหน่อยแล้วจะยังมาบ่นอีกนะเดี๋ยวพ่อก็ไล่ให้มาซื้อเองเลยซะนี่

           ร่างสูงชะเง้อมองแถวที่ซองมินต่ออยู่อีกตั้งหลายคนกว่าที่จะถึงคิวพวกเขา  คนที่ไม่เคยรออะไรนานก็ชักจะหมดความอดทนแล้วสิ

           ฉันไม่อยากรอแล้ว

            หมายความว่าไง

           ก็หมายความว่าฉันไม่กินแล้ว  ไปกินที่อื่นก็ได้ พูดจบก็ลากแขนคนที่ยืนอึ้งให้เดินตามไปที่รถ  ไม่รงไม่รอมันแล้วหิวจนไส้จะขาดแล้วเนี่ย  ไปกินที่อื่นก็ได้ข้าวหน้าเป็ดมันก็รสชาติคล้ายๆกันแหละ

           แล้วทำไมนายไม่เปลี่ยนใจให้มันเร็วกว่านี้ ห๊ะ  คนสวยโวยวายความรู้สึกช้าเกินไปหรือเปล่าคุณชายคยู ฮยอนอีกไม่กี่คิวก็จะถึงคิวของซองมินแล้วนะ  นี่แสดงว่าที่เค้ายืนต่อคิวร่วมชั่วโมงนี่สูญเปล่างั้นเหรอถ้าจะทำแบบนี้ทำไมไม่เปลี่ยนใจตอนที่ถึงคิวซะเลยล่ะ

           ก็ตอนแรกฉันนึกว่ามันจะแป๊บเดียว  อย่าพูดมากเข้าไปได้แล้ว ร่างสูงตัดบทพร้อมกับใช้มือหนากดหัวกลมให้เข้าไปในรถ

     

     

     

           รถยนต์สีดำคันหรูเคลื่อนมาจอดสนิทอยู่ที่หน้าบ้านหลังเล็กก่อนที่คนขับจะรีบวิ่งลงมาเปิดประตูให้กับอีกคนทำเอาคนที่ถูกปฏิบัติเช่นนั้นถึงกับเขินกันเลยทีเดียว

           ถึงบ้านแล้วครับ

           ขอบคุณฮะ  แต่ซีวอนไม่ต้องเปิดประตูให้ผมก็ได้นะ ผมเกรงใจ   ฮีชอลตอบเขินๆ จะไม่ให้เขินได้ยังไงล่ะในเมื่อซีวอนทำเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้หญิงอีกอย่างรบกวนร่างสูงให้มาส่งแล้วยังจะต้องมาให้เปิดประตูให้อีก

           ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ ตอบออกไปตามความจริงเขาก็แค่อยากจะทำแค่นั้นเองมันเป็นความสุขเล็กๆที่ได้ทำแบบนี้

           งั้นก็ตามใจฮะ  เข้าบ้านกันดีกว่า   เจอรอยยิ้มกระชากใจเข้าไปฮีชอลถึงกับไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียวร่างบางยิ้มแก้เขินก่อนจะชวนอีกคนเข้าบ้าน

           เพราะเคยรับปากเอาไว้ว่าถ้ามีโอกาสร่างบางจะให้ซีวอนลองทานอาหารฝีมือของมารดาตนวันนี้ร่างสูงเลยทวงสัญญานั้น   ฮีชอลเองก็เห็นว่าไม่ได้ลำบากอะไรดีซะอีกมีคนทานด้วยกันเยอะๆสนุกดีแม่ของเขาต้องดีใจมากแน่เลยถ้ารู้ว่ามีคนอยากทานอาหารฝีมือแม่

           กลับมาแล้วฮะ เสียงหวานเอ่ยขึ้นทันทีหลังจากเข้ามาในบ้าน  แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมาร่างบางรู้ได้ทันทีที่กลิ่นหอมๆลอยมากระทบจมูกแม่ของเขาคงอยู่ในครัวเช่นเคย

           วันนี้มีอะไรทานบ้างฮะ แขนขาวสวมกอดเอวบางของมารดาหลวมๆคางมนวางบนลาดไหล่พร้อมกับคำพูดอ้อนๆที่ชอบใช้เป็นประจำ

           กลับมาแล้วเหรอ วันนี้แม่ทำข้าวผัดกิมจิของโปรดเราด้วยนะ คุณนายคิมยิ้มน้อยๆกับท่าทางออดอ้อนของลูกชายที่ดูยังไงก็เหมือนเด็กอยู่วันยังค่ำ

           แม่รู้ใจผมที่สุดเลย จมูกโด่งกดลงบนแก้มเหี่ยวของมารดา แม่มักจะรู้ใจเขาเสมอแหละ

           งั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะสิ คุณนายคิมเอ่ยกับลูกชายก่อนจะยกกะทะลงจากเตาแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าในห้องครัวไม่ได้มีเพียงสองคนแม่ลูก  เอ๊ะ ! นั่นเพื่อนลูกเหรอ

           ตากลมหันกลับไปมองร่างสูงที่ตนพามาด้วย  ลืมไปสนิทเลยว่าที่เข้ามาในครัวก็เพื่อที่จะพาซีวอนมาแนะนำกับมารดา

           นี่เพื่อนผมเองฮะ ชื่อซีวอน ร่างบางแนะนำผู้มาเยือนให้มารดารู้จักพร้อมกับที่ร่างสูงโค้งคำนับตามมารยาท    เมื่อแนะนำเสร็จแล้วร่างบางกก็หันมากะว่าจะอ้อนมารดาซะหน่อยแต่ก็ต้องก้มหน้างุดเมื่อหันไปเจอสายตาล้อเลียนของคุณนายคิม   ไม่ใช่อย่างที่แม่คิดซะหน่อย ร่างบางรีบออกตัวกลัวว่ามารดาของตนจะเข้าใจผิดว่าเขาพาว่าที่ลูกเขยมาแนะนำ

           แม่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ  รู้เหรอว่าแม่คิดอะไรอยู่   คุณนายคิมเอ่ยแซวลูกชายอะไรจะร้อนตัวขนาดนั้นยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ  เธอหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อลูกชายคนสวยสะบัดหน้าหนีเพื่อบอกว่างอนแล้วนะ

           แม่อ่ะ  คนสวยทำเป็นงอนแล้วเดินออกไปจากห้องครัวแต่คุณนายคิมนั้นรู้ดีว่าลูกชายทำไปเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน

           ตามสบายเลยนะจ๊ะ  อย่าไปถือสาฮีชอลเลยรายนั้นก็เป็นแบบนี้แหละชอบงอนเป็นเด็กๆ คุณนายคิมหันมาเอ่ยกับร่างสูงที่ยืนยิ้มกับท่าทางงอนสะบัดของลูกชายเธอ

           ครับ  แต่ผมว่าเป็นแบบนี้ก็น่ารักดีนะครับ ซีวอนตอบยิ้มๆก็เวลาฮีชอลเขินน่ะน่ารักจะตายเห็นแบบนี้แล้วอยากจะแกล้งให้เขินวันล่ะหลายๆรอบ

           น่าตีล่ะสิไม่ว่า   แล้วนี่มาส่งฮีชอลเหรอ

            ครับ พอดีผมเห็นว่าเย็นมากแล้วไม่อยากให้ฮีชอลกลับเอง

           ขอบใจนะจ๊ะที่มาส่งฮีชอล  วันนี้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันสิซีวอน คุณนายคิมเอ่ยชวนเพื่อนของลูกชาย  เธอถือคติที่ว่าใครดีกับลูกชายเธอก็ดีด้วย

            ผมว่าจะมาขอรบกวนคุณแม่อยู่พอดี  งั้นวันนี้รบกวนด้วยนะครับ

           ได้จ๊ะ ดีซะอีกเพราะวันนี้คุณพ่อไม่อยู่แม่ทานสองคนกับฮีชอลคงเหงาแย่ เอ่ยอย่างใจดีเพราะวันนี้สามีบอกว่าต้องไปงานเลี้ยงกับเจ้านายวันนี้สองแม่ลูกเลยต้องนานข้าวกันตามลำพัง 

           ขอบคุณครับ

           ไม่เป็นไรจ๊ะ  แม่ว่าซีวอนออกไปรอข้างนอกดีกว่าอยู่ในนี้นานๆกลิ่นอาจจะติดเสื้อผ้าได้   ในครัวแม่แต่กลิ่นอาหารลอยคลุ้งไปหมดคุณนายคิมเกรงว่าหากอยู่นานกว่านี้เสื้อผ้าของซีวอนอาจจะมีกลิ่นได้

           ครับ   ไม่รู้ว่าป่านนี้ฮีชอลหายงอนรึยัง ร่างสูงเอ่ยยิ้มๆไม่รู้ว่าป่านนี้นางฟ้าของเขาจะหายงอนคุณแม่คนสวยหรือยังเห็นทีว่าต้องออกไปดูหน่อยแล้ว

           เดี๋ยวก็หายเองแหละ  ปล่อยๆไปเถอะรายนั้นน่ะถ้ายิ่งมีคนง้อยิ่งได้ใจ เธอรู้นิสัยของลูกชายเธอดีว่าเป็นเช่นไรถ้าหากไม่มีคนง้อไม่นานก็หายเองแต่ถ้ามีคนง้อล่ะก็ยิ่งได้ใจงอนไม่จบไม่สิ้นกันเลยทีเดียว

     

     

           ไม่นานอาหารน่าทานก็ถูกนำมาวางเรียงรายไว้บนโต๊ะอาหาร  คุณนายคิมยิ้มพอใจเมื่อเห็นซีวอนดูพึงพอใจกับรสชาติอาหารฝีมือเธอ

           เป็นไงบ้างจ๊ะ  ถูกปากรึเปล่า อันที่จริงไม่ต้องถามก็พอจะเดาออกว่าคำตอบจะออกมาเช่นไรเพราะดูจากสีหน้าแล้วร่างสูงคงจะชอบอยู่ไม่น้อย

           อร่อยมากเลยครับ เห็นทีผมต้องมารบกวนคุณแม่บ่อยๆซะแล้ว  เอ่ยเอาใจแต่ล้วนแล้วแต่เป็นความจริงทั้งสิ้นมิน่าล่ะฮีชอลถึงบอกว่าอาหารฝีมือของมารดาเขาอร่อยที่สุด

           ด้วยความเต็มใจจ๊ะ  ว่าแต่ซีวอนเป็นเพื่อนที่คณะฮีชอลเหรอแม่ไม่เคยเจอมาก่อนเลย คุณนายคิมอดที่จะสงสัยไม่ได้  เพราะปกติเธอจะรู้จักเพื่อนลูกชายทุกคนแต่เจ้าเด็กหนุ่มหน้าหล่อนี่เธอพึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกสงสัยคงจะเป็นเพื่อนใหม่

           เปล่าครับ ผมเรียนบริหารน่ะครับ

           หรอจ๊ะ  แล้วรู้จักกันได้ยังไงล่ะ เรียนคนละคณะแล้วมารู้จักกันได้ยังไงล่ะแบบนี้แสดงว่ามันต้องมีเบื้องลึกแน่นอนเพราะใช่ว่าคนในมหาวิทยาลัยจะมีจำนวนน้อยๆการที่จะรู้จักเพื่อนต่างคณะจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนอกซะแต่ว่าจะเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยม

           ซีวอนเป็นเพื่อนของคนที่ทงเฮจะแต่งงานด้วยนะฮะเราก็เลรู้จักกัน  เป็นฮีชอลที่เอ่ยไขข้อข้องใจของมารดา

           คุณนายคิมพยักหน้าเข้าใจเธอพอจะรู้มาบ้างว่าเพื่อนรักของลูกชายกำลังจะแต่งงานกับลูกชายของตระกูลดังในเร็ววันนี้  แต่พอได้ยินชื่อของทงเฮก็เหมือนว่าหญิงเดียวในบ้านจะนึกอะไรขึ้นมาได้

           จริงสิ  ลูกบอกว่าวันนี้ทงเฮจะมาค้างกับเราไม่ใช่เหรอแล้วทำไมถึงไม่ได้กลับมาพร้อมกันล่ะ   เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านเธอจำได้ว่าลูกชายมาขออนุญาตบอกว่าวันนี้ทงเฮจะขอมานอนด้วย  ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะทงเฮก็มาค้างที่นี่บ่อยๆอยู่แล้วตรงกันข้ามเธอกลับเอ็นดูทงเฮเหมือนลูกชายอีกคนเลยล่ะ

           พอดีวันนี้ทงเฮต้องไปทานข้าวที่บ้านคิบอมน่ะฮะก็เลยมาไม่ได้

           คิบอม เอาอีกแล้วชื่อไม่คุ้นหูมาอีกแล้วคิบอมใครอีกล่ะเนี่ย  รู้สึกว่าช่วงนี้ลูกชายของเธอจะมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นเยอะเลย

           คิบอมเพื่อนของซีวอนคนที่จะแต่งงานกับทงเฮนะฮะ

           อ่อ คุณนายคิมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะหันไปเอ่ยกับซีวอนที่นั่งมองดูสองแม่ลูกคุยกันอยู่เงียบๆ

           เวลาอยู่กับซีวอนฮีชอลดื้อไหมลูก  เอ่ยอย่างรู้ในนิสัยของลูกชายที่มักจะเอาแต่ใจกับคนที่สนิทด้วยแต่นั่นก็เป็นเพราะฮีชอลอยากให้ทุกคนสนใจ

           ผมไม่ได้ดื้อซะหน่อย ร่างบางค้านมารดาน้ำเสียงติดจะงอนๆซะหน่อย  เขาไม่ได้ดื้อซะหน่อยแม่อ่ะเอาอะไรมาพูดก็ไม่รู้

           น้อยไปสิเราน่ะ

           ร่างสูงหัวเราะเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบคำถามออกไป ไม่หรอกครับ  น่ารักดี ท้ายประโยคหันไปส่งตาหวานให้กับคนที่ถูกพาดพิงถึงทำเอาร่างบางอายม้วน

           พูดแบบนี้แสดงว่าชอบลูกชายแม่ล่ะสิ คุณนายคิมเอ่ยแซวแต่คำตอบที่ได้จากร่างสูงทำเอาฮีชอลแทบจะสำลักน้ำที่พึ่งจะดื่มเข้าไป 

           ครับ ผมชอบลูกชายคุณแม่ครับ ตอบแบบชัดถ้อยชัดคำตรงไปตรงมาสมกับเป็นเชว ซีวอนจริงๆ

           ซีวอน  นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดเล่นนะ  ร่างบางโวยวายหลังจากที่หาเสียงของตนเองเจอ  ตาบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้เรื่องแบบนี้ใครเค้าให้เอามาล้อเล่นกันเล่า

           ผมไม่ได้พูดเล่นนะ  ผมชอบฮีชอลจริงๆ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับแววตาจริงจังเรียกรอยยิ้มพึงพอใจจากคุณนายคิมได้เป็นอย่างมากเห็นทีว่าลูกชายเธอจะได้ลงจากคานก็คราวนี้แหละ

           ผมไม่ตลกนะ

           ผมก็ไม่ได้บอกว่ามันตลก  ผมจริงจังนะ

           ไม่เอาไม่พูดด้วยแล้ว เมื่อเห็นว่าอีกคนตื๊อไม่เลิกร่างบางจึงลุกจากเก้าอี้ขาเรียวกำลังจะเดินออกไปด้านนอกแต่เสียงของมารดาก็ดังขึ้นมาซะก่อน  รู้ทั้งรู้ว่าลูกชายเขินแต่ก็ยังอยากที่จะแกล้ง

           นั่นลูกจะไปไหนล่ะ

           ไปเอาผลไม้ฮะ ตอบก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัวทันทีเรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งสองที่นั่งอยู่  มีใครเคยบอกหรือเปล่าว่าคิมฮีชอลไม่เคยปิดอาการเขินได้เลยสักครั้ง

           ที่พูดเมื่อกี๊จริงจังรึเปล่า แต่เมื่อเสียงหัวเราะจบลงคุณนายคิมก็เอ่ยถามร่างสูงทันที ใบหน้าสวยไม่แพ้ลูกชายเอ่ยขึ้นเรียบๆแต่จริงจัง

           ครับ คุณแม่ว่าไงนะครับ  ถามอีกครั้งเพราะยังไม่แน่ใจว่าคุณนายคิมหมายถึงเรื่องอะไรก็เมื่อกี๊พูดไปตั้งหลายเรื่องนี่นา

           ที่บอกว่าชอบฮีชอลซีวอนจริงจังมากแค่ไหน คุณนายคิมขยายความให้ร่างสูงเข้าใจอีกครั้ง

           จริงจังมากครับ  ผมคิดว่าฮีชอลคือคนที่ใช่สำหรับผม  ไม่มีวันที่ผมจะทำให้เขาเสียใจครับ  คุณแม่ได้โปรดให้โอกาสผมด้วยนะครับ

           แม่มีลูกชายคนเดียวนะ  สัญญาได้ไหมว่าซีวอนจะไม่ทำให้ฮีชอลเสียใจ คนเป็นแม่ทุกคนไม่มีใครอยากจะเห็นลูกของตัวเองเสียใจ  แต่เพราะเห็นว่าซีวอนมีความมุ่งมั่นที่เธอสัมผัสได้เธอจึงอยากจะให้โอกาสชายหนุ่มสักครั้ง

           ผมสัญญาครับ ทั้งสีหน้าและท่าทางนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเอาจริง  เขาไม่เคยคิดที่จะจีบฮีชอลเล่นๆตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันซีวอนก็รู้ได้ทันทีว่านี่แหละคือคนที่เขาตามหา

           งั้นก็พยายามเข้านะ   ฮีชอลไม่ใช่คนใจแข็งอะไรหรอก ขอแค่เพียงพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าซีวอนรักเขาจริงๆและถ้าถึงเวลานั้นลูกชายของแม่จะมอบทั้งใจให้ซีวอนอย่างไม่มีข้อแม้เลยล่ะ   คุณนายคิมให้กำลังกับร่างสูงพร้อมกับให้คำแนะนำ

           ขอบคุณครับ ผมจะพยายาม ซีวอนรับคำด้วยความดีใจอย่างน้อยๆก็ผ่านด่านคุณแม่มาได้แถมยังได้เป็น กองหนุนอีกต่างหากรู้แบบนี้แล้วทำให้เขามีกำลังใจขึ้นเยอะเลย

           ร่างบางที่ยืนฟังอยู่เงียบๆนั้นถึงกับอมยิ้มน้อยๆเมื่อได้ฟังบทสนทนาของมารดากับร่างสูง  ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก   ในเมื่ออยากได้โอกาสงั้นเค้าก็ลองให้สักครั้งรีบๆพิสูจน์ๆล่ะเขาจะรอดูว่าจะทนได้สักกี่น้ำจีบฉันมันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะซีวอน

     

     

     

           หลายวันมาแล้วที่คิบอมไม่ได้เจอหน้าว่าที่ภรรยาของตนเองเลย   ร่างสูงต้องคอยตอบคำถามของคุณย่าว่าทงเฮไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า  แล้วไหนจะบอกแกมบังคับให้เขาไปรับมาทานอาหารที่บ้านอีกแต่ทุกครั้งคิบอมก็ไม่เคยได้เจอทงเฮเลยเพราะร่างบางไม่ยอมลงมาพบหน้าสงสัยคงจะโกรธจริงๆละมั้ง  พอไปเรียนก็ไม่ได้เจอกันอีกเพราะเรียนคนละคณะเวลาเรียนก็ไม่ตรงกันแล้วคนอย่างคิมคิบอมก็ไม่เคยเดินไปหาใครก่อนเลย

           หลังจากวันที่มีเรื่องกันแล้วทงเฮก็มักจะหาเหตุผลมาอ้างทุกครั้งเวลาที่คุณย่าให้มาหาที่บ้านหรือให้ออกไปไหนมาไหนกับร่างสูงทั้งๆที่อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันงานแล้วไม่รู้ว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ทำไม

           ว่าไงเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว ฮันคยองตบไหล่น้องชายเบาๆก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ  วันนี้เขาพา      ฮยอกแจมาพบเยจินตามคำสั่งของคุณยายสงสัยคงจะหลงเสน่ห์ไก่น้อยเข้าซะแล้ว  คิดแล้วมันน่าน้อยใจจริงๆเลยพอเจอหลานสะใภ้แล้วลืมหลานชาย

           ไม่รู้สิฮะ  คงจะเรียบร้อยละมั้ง คิบอมตอบตามจริง  เขาไม่ค่อยจะรู้เรื่องการเตรียมงานเท่าไหร่นักเพราะส่วนมากแล้วคนที่จัดการจะเป็นเยจินกับเฮียวริซะมากกว่าเขากับทงเฮมีหน้าที่แค่นั่งรอเวลาแล้วแต่งกันไปตามหน้าที่ก็เท่านั้น

           จะแต่งงานทั้งทีไม่ตื่นเต้นเลยรึไง   ฮันคยองอดที่จะแขวะน้องชายไม่ได้อะไรกันจะแต่งงานทั้งทีมานั่งทำหน้าซังกะตายอยู่ได้ให้แต่งงานนะเว้ยไม่ได้ให้ไปฆ่าตัวได้

           แล้วทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วย  พี่ก็รู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้มันเกิดจากอะไร   มันเป็นแค่หน้าที่เท่านั้นแหละดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องตื่นเต้นแต่งๆไปจะได้จบๆ

           คิดซะว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิตสิน้องชาย  แล้วนี่ว่าที่เมียแกไปไหนซะล่ะพี่ไม่เห็นมาที่บ้านหลายวันแล้วนะ

           ปกติจะเห็นว่าที่สะใภ้ของตระกูลคิมแวะเวียนมาที่บ้านบ่อยๆเพื่อเตรียมตัวและเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากคุณย่าแต่หลายวันมานี้ฮันคยองยังไม่เห็นคนตัวเล็กเลย ดูมันแปลกๆอยู่นะ

           ไม่รู้สิฮะ  ผมไม่ได้สนใจ ตอบแบบขอไปทีก็เขาไม่คิดที่จะสนใจนี่นาก็เลยไม่รู้ว่าทงเฮหายไปไหน

           พวกนายทะเลาะกันรึเปล่า  ถามอย่างคนมีประสบการณ์เพราะฮยอกแจชอบหายไปแบบนี้บ่อยๆเวลาที่พวกเราทะเลาะกัน

           มันก็แค่เรื่องไร้สาระน่ะฮะ ใช่แล้วเรื่องนั้นมันเป็นแค่เรื่องไร้สาระในความคิดของคิบอม  แต่ร่างสูงจะรู้ไหมว่าเรื่องไร้สาระสำหรับเขานั้นมันกลายเป็นเรื่องทำร้ายความรู้สึกของอีกคน

           แล้วไอ้เรื่องไร้สาระที่ว่าน่ะมันเรื่องอะไร

           คิบอมค่อยๆเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ชายฟัง  ฮันคยองซึ่งนั่งฟังเงียบๆก็พอที่จะเข้าใจความรู้สึกของทงเฮร่างบางคงน้อยใจที่คิบอมพูดเหมือนว่าตัวเขาไม่มีค่า

           พี่ว่าเรื่องแบบนี้มันไร้สาระไหมล่ะ หลังจากเล่าจบเจ้าแก้มป่องก็ขอความเห็นจากพี่ชาย  แต่คำตอบที่ได้นั้นทำเอาคิ้วหนาขมวดเป็นปมเมื่อฮันคยองเห็นต่างไปจากเขา

           แต่พี่ว่านายทำเกินไปนะ พูดออกไปตรงๆเพราะสำหรับคิบอมแล้วเขาไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมคิดอย่างไรก็พูดออกไปอย่างนั้นซึ่งคิบอมเองก็ปฏิบัติกับเขาเช่นเดียวกัน

           พี่หมายความว่ายังไง

           ถึงแม้ว่าพวกนายสองคนจะแต่งงานกันด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่ความรัก แต่การที่นายพาแฟนเก่าไปไหนมาไหนด้วยกันทั้งๆที่ว่าที่ภรรยานายก็อยู่ตรงนั้นด้วยพี่ว่านายทำเกินไป

           ................

           อย่างน้อยๆนายก็น่าจะให้เกียรติกับคนที่นายกำลังจะแต่งงานด้วย แต่ดูสิ่งที่นายทำสิเป็นใครก็โกรธทั้งนั้นแหละ

           .........................

           ไหนจะเรื่องที่นายไปพูดทำร้ายจิตใจเขาอีก  คนเราทุกคนล้วนแล้วแต่มีความฝันนะคิบอมหรือนายจะเถียงว่านายไม่มี  แต่การที่นายไปพูดราวกับว่าทงเฮเป็นของตายที่นายคิดอยากจะทำอะไรก็ได้คิดอยากจะแต่ง  คิดอยากจะให้มาเป็นตัวแทนของคนผู้หญิงคนนั้นนายไม่คิดบ้างเหรอว่าทงเฮเค้าจะเสียใจ  เค้าก็เป็นมนุษย์ธรรมดามีความรู้สึกเหมือนกับเราๆนี่แหละ 

           ผมทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ

            มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหรอก แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกต่างหากล่ะเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนน่ะ  พี่ว่านายควรจะไปขอโทษทงเฮนะ ยิ้มอ่อนโยนให้น้องชายก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

           พี่ฮะ  ขอบคุณนะ  คิบอมเอ่ยขอบคุณพี่ชาย

           ไม่เป็นไร อ่อ  อีกอย่างนายควรจะหัดสนใจความรู้สึกของคนรอบข้างบ้างนะ ทิ้งท้ายเอาไว้ให้คิดอีกประโยคเพราะเขารู้สึกว่าคิบอมจะจมอยู่กับโลกส่วนตัวของตัวเองมากเกินไปแล้ว

           พี่นี่ก็มีสาระเป็นกับเขาเหมือนกันนี่นา  แต่แล้วบรรยากาศซึ้งๆก็ถูกทำลายลงด้วยคำพูดของคิมคิบอม  ฮันคยองตบลงไปบนศรีษะทุยเบาๆเจ้าน้องบ้าคนเค้ากำลังซึ้งดันมาทำบรรยากาศเสียซะนี่ แต่ยังไงผมก็ต้องขอบคุณพี่อยู่ดี

           อืม  รู้แล้วๆ ฮันคยองพยักหน้ารับส่งๆ มาพูดอะไรแบบนี้บ่อยๆเล่าถึงจะเป็นเมะก็เขินเป็นนะ   เพราะเวลาอยู่ด้วยกันน้อยครั้งนักที่สองพี่น้องจะคุยกันด้วยถ้อยคำซึ้งๆแบบนี้

           คิบอมมองตามหลังพี่ชายที่เดินหายเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะกลับมาคิดตามในสิ่งที่ฮันคยองพูดไปเมื่อสักครู่  เขาไม่คิดเลยว่าเพียงคำพูดไม่กี่ประโยคมันจะทำให้ทงเฮเสียความรู้สึกขนาดนั้น

           แล้วนี่เขาต้องไปขอโทษทงเฮจริงๆเหรอนี่  ให้ตายสิตั้งแต่เกิดมาคิมคิบอมคนนี้ยังไม่เคยขอโทษใครเลยสักครั้งแล้วเขาจะต้องทำยังไง  จะให้ไปพูดหวานๆเหมือนที่เห็นฮันคยองง้อฮยอกแจก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะแบบนั้นไม่ใช่ทางของเขาเลย

           นายกำลังสร้างปัญหาให้ฉันละลี ทงเฮ

     

         

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×