คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : สำหรับนายฉันอยู่ในฐานะอะไร( 100%)
Loma_ p
สามเพื่อนซี้หน้าหวานนั่งคุยกันเบาๆอยู่ในร้านลองชุดแต่งงาน แต่ดูเหมือนว่าฮีชอลกับซองมินนั้นเริ่มที่จะมีอารมณ์ขึ้นมานิดๆเพราะป่านนี้ว่าที่เจ้าบ่าวยังไม่มาเลยนี่พวกเขามารอได้เกือบสองชั่วโมงแล้วนะ
“ ทำไมพวกคนรวยถึงได้ชอบไม่ตรงต่อเวลากันนักนะ “ ซองมินบ่นออกมา ตอนนี้ร่างบางเบื่อจนถึงที่สุดแบบชุดที่ทางร้านเอามาให้ดูพวกเขาทั้งสามก็ดูจบไปแล้วตั้งไม่รู้กี่รอบแต่พวกลูกคนรวยก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาถึง
“ ใช่ คิดว่าพวกเรามีเวลาว่างขนาดนั้นรึไง “ ฮีชอลเห็นด้วย เขาต้องกับไปช่วยแม่ที่ร้านนะไม่ได้มีเวลามานั่งรอคนอื่นเป็นชั่วโมงแบบนี้
“ คิบอมอาจจะติดธุระอยู่ก็ได้ “ ทงเฮพยายามคิดในแง่ดีว่าที่คิบอมมาสายอาจเป็นเพราะร่างสูงติดธุระสำคัญอยู่ ถึงแม้ว่าลึกๆแล้วร่างบางจะแอบไม่พอใจอยู่บ้างก็ตาม
“ อย่างน้อยก็น่าจะโทรมาบอกกันบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นรออยู่แบบนี้ “ ซองมินว่า เขาล่ะเกลียดจริงๆพวกลูกคนรวย ยิ่งตอนนี้ซองมินได้เข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลโจวเพื่อคอยดูแลคุณชายคยูฮยอนมันยิ่งทำให้ร่างบางมีอคติต่อคนพวกนี้มากขึ้นไปอีก
ขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งคุยกันอยู่นั้นประตูร้านก็เปิดออกอีกครั้งพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาดีสามคนและหญิงสาวหน้าตาน่ารักหนึ่งคนที่เดินตามเข้ามา
“ ขอโทษนะที่มาสาย “ ซีวอนเอ่ยกับคนทั้งสามพร้อมกับมอบรอยยิ้มเป็นมิตรให้กับทุกคนแต่ดูเหมือนว่าจะหยุดอยู่ที่ฮีชอลนานเป็นพิเศษ
“ ไม่เป็นไรหรอก พวกชั้นรอพวกนายแค่สองชั่วโมงกว่าเอง “ ซองมินเอ่ยออกไปเรียบๆแต่เต็มไปด้วยความประชดประชัน ไม่นานหรอกแค่สองชั่วโมงกว่าเอ๊ง
“ นายประชดพวกฉันเหรอ “ คยูฮยอนแทรกขึ้นมา
“ รู้ตัวด้วยเหรอ ให้คนอื่นรอนานๆมันเสียมารยาทไม่รู้หรือไง “
“ ก็บอกว่าติดธุระไง “
“ ธุระอะไรมิทราบ “ อยากรู้เหมือนกันว่าธุระที่ว่ามันสำคัญมากขนาดที่ต้องให้คนอื่นรอนานเป็นชั่วโมงเลยเหรอ ตากลมจ้องร่างสูงเพื่อรอคำตอบ
“ พวกเราไปดูยุนอาประกวดร้องเพลงมา “ ซองมินหันไปมองตามเสียง และคนที่เอ่ยประโยคนี้ออกมาก็คือคิมคิบอมนั่นเอง
ซองมินกับฮีชอลหันไปมองเพื่อนรักที่ตอนนี้หลุบสายตาลงต่ำ ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ทงเฮรู้สึกอย่างไรแต่คำพูดเมื่อสักครู่คล้ายกับว่าจะเป็นการหักหน้าเพื่อนรักของพวกเขากลายๆ
“ ไปลองชุดกันได้แล้ว คุณย่าบอกให้นายกับบ้านพร้อมฉัน “ ร่างสูงเดินมาชิดตัวทงเฮก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วเดินนำไปยังห้องลองชุด
“ อืม “ ร่างบางรับคำในลำคอก่อนจะเดินตามร่างสูงเข้าไปท่ามกลางสายตาเป็นห่วงจากเพื่อนทั้งสอง นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งงานกันทงเฮยังดูไม่มีความสุขไม่อยากจะคิดเลยว่าแต่งงานไปแล้วเพื่อนเขาจะเป็นอย่างไร
หลังจากว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินเข้าไปด้านในบุคคลที่เหลือก็จับจองพื้นที่นั่งรอไปพลางๆซองมินกับฮีชอลนั่งอยู่ที่เดิมส่วนพวกของคยูฮยอนแยกไปนั่งงอีกมุมหนุ่งของร้าน ท่าทางหยิ่งทะนงของหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในที่นี้สร้างความหมั่นไส้ให้แก่ฮีชอลและซองมินได้มากทีเดียว
“ เมื่อคืนแม่นั่นคอตกหมอนรึไง ถึงได้เชิดขนาดนี้ “ ฮีชอลว่าพลางหันไปดูหญิงสาวที่นั่งตัวตรงหน้าเชิดอยู่กับพวกของซีวอนคนสวยเห็นแล้วไม่สบอารมณ์คิดว่าตัวเองสวยนักรึไงน่ะ
“ หล่อนก็เชิดเป็นประจำแบบนี้แหละ จนคนทั้งมหาวิทยาลัยเค้าหมั่นไส้กันหมดแล้ว “ ซองมินว่า ก่อนจะหันหน้ากลับมาทางเดิมหลังจากที่หันไปมองหญิงสาวตามพี่ชาย
ทุกคนในมหาวิทยาลัยต่างก็รู้ดีว่ายุนอานั้นเป็นเพื่อนหญิงคนสนิทเพียงคนเดียวของคิบอม ซึ่งแน่นอนว่าการที่เธอได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มที่เพียบพร้อมอย่างคิมคิบอมย่อมตกเป็นที่อิจฉาของคนที่วาดฝันอยากเป็นมาดามคิมแน่นอน แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้หลายต่อหลายคนไม่ชอบยุนอาบางคนอาจจะถึงขั้นเกลียดเลยด้วยซ้ำก็เพราะนิสัยหยิ่งทะนงและถือตัวของเจ้าหล่อน ยุนอาเลือกคบเฉพาะคนที่มีฐานะเท่าเทียมกับเธอดังนั้นจึงดูเหมือนว่าเพื่อนสนิทของเธอก็จะมีเพียงแค่กลุ่มของคิบอมเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วฐานะทางบ้านเธอก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย
“ นี่ยัยเตี้ย วันนี้ฉันอยากกินข้าวหน้าเป็ด แวะซื้อเข้าไปด้วยนะ “ เสียงของคยูฮยอนลอยผ่านอากาศเข้ามากระทบโสตประสาทของซองมิน พร้อมกับที่เจ้าตัวนั่งทำหน้ากวนอยู่อีกโต๊ะ
“ อยากกินแล้วทำไมไม่ไปซื้อเอง มือเท้าก็มีเท่ากันรถนายก็มีขับ “ ร่างบางแหวลั่นตัวเองมีรถส่วนตัวแทนที่จะขับซื้อเองแต่นี่อะไรให้เขาขึ้นรถเมลล์ไปซื้อมาถวายเนี่ยนะ นับวันยิ่งจะเอาใหญ่เข้าไปทุกทีอยากได้อะไรก็สั่งเอาๆซองมินคนนี้ไม่ใช่คนรับใช้นะ
“ ก็มันหน้าที่ของนาย “ ร่างสูงตอบหน้าตาย
“ เรื่องสิ อยากกินก็ไม่หาซื้อเองไป “
“ ก็ฉันไม่รู้จักร้าน แม่นายบอกว่านายรู้จักร้านอร่อยๆเยอะ “ เมื่อวานมารดาของซองมินโทรศัพท์มาหาร่างสูงเพื่อสอบถามว่าลูกชายของเธอทำอะไรให้คุณหนูคยูฮยอนไม่พอใจหรือเปล่า ร่างสูงจึงถือโอกาสถามอะไรหลายเรื่องเกี่ยวกับซองมินเพื่อเอาไว้เป็นข้อมูลในการแกล้งร่างบาง
“ งั้นเดี๋ยวชั้นเขียนแผนที่ให้แล้วนายก็ไปหาซื้อเองก็แล้วกัน “ ร่างบางตัดบทอย่างรำคาญ
“ เรื่องสิ ถ้างั้นก็ไปด้วยกันนี่แหละ “ ร่างโปร่งว่าอย่างเอาแต่ใจพอเห็นว่าอีกคนกำลังจะอ้าปากเถียงก็รีบพูดต่อทันที “ ถ้านายไม่ยอม ฉันจะโทรไปฟ้องแม่นายว่านายละเลยต่อหน้าที่ “
“ ก็ได้ “ เจอไม้นี้เข้าไปซองมินเป็นต้องยอมทุกทีเพราะถ้าไม่อย่างนั้นเขาต้องทนฟังมารดาบ่นจนหูชาเป็นแน่ ร่างบางชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าตกลงเขาหรือคยูฮยอนเป็นลูกคุณนายลีกันแน่
“ ยอมตั้งแต่แรกก็จบ “ ร่างสูงเอ่ยอย่างผู้มีชัย
“ แล้วฮีชอลกลับยังไงครับ “ ซีวอนเอ่ยถามอีกคนที่นั่งอยู่กับซองมิน ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้วด้วยหวังว่านางฟ้าของเขาคงไม่เดินกลับคนเดียวเหมือนทุกวันนะ
“ กลับพร้อมทงเฮน่ะ “ ร่างบางตอบตามจริงเพราะวันนี้ทงเฮบอกว่าจะแวะไปทานข้าวที่บ้านของเขาแล้วก็จะนอนค้างด้วยกัน
“ แต่ทงเฮต้องกลับพร้อมคิบอมไม่ใช่เหรอ “
“ เอ๋ ? “ คิ้วบางเลิกขึ้นด้วยความสงสัย
“ เห็นคุณย่าคิบอมโทรมาบอกให้รับทงเฮไปทานอาหารเย็นด้วย “ ระหว่างที่นั่งดูยุนอาแข่งขันอยู่อยู่นั้น ร่างสูงบังเอิญได้ยินเพื่อนรักคุยโทรศัพท์กับคุณย่าพอดี
“ จริงเหรอ งั้นวันนี้ชั้นก็ต้องกลับคนเดียวน่ะสิ “ ร่างบางหน้าเศร้า อุตส่าห์ดีใจนึกว่าคืนนี้จะได้นอนคุยกับทงเฮก่อนนอนซะอีก
“ เดี๋ยวผมกลับเป็นเพื่อนก็ได้นะพี่ “ ซองมินที่นั่งฟังอยู่เอ่ยขึ้น
“ ได้ไงอ่ะ ไหนนายบอกว่าจะพาฉันไปซื้อข้าวหน้าเป็ดไง “ คยูฮยอนโวยวายทันทีเพราะคิดว่ากระต่ายอวบคิดจะเบี้ยว
“ นายไม่เห็นรึไงว่าเพื่อนชั้นต้องกลับบ้านคนเดียวแล้วนี่มันก็เย็นมากแล้วด้วยชั้นก็เป็นห่วงเพื่อนชั้นนะ ทั้งหมดมันเป็นเพราะใครถ้าไม่ใช่เพราะพวกนายมาสาย “ ซองมินโวยวายกลับบ้าง คนบ้าอะไรเห็นแก่กินชะมัดแล้วที่พวกเขาต้องกลับช้าแบบนี้มันไม่ใช่เพราะพวกลูกคนรวยทั้งสายมาสายเพราะติดธุระสำคัญไปนั่งดูเพื่อนแข่งร้องเพลงหรอกเหรอ
“ เอาแบบนี้ไหมเดี๋ยวผมไปส่งฮีชอลเอง “ ซีวอนอาสาเมื่อเห็นว่าอีกสองคนกำลังจะเปิดศึกกันอีกรอบ ไม่รู้ว่าอยู่บ้านเดียวกันได้อย่างไรเห็นเจอหน้ากันทีไรก็หาเรื่องกันตลอดโดยเฉพาะคยูฮยอนที่มักจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนซะส่วนใหญ่
“ ไม่เป็นไรฮะ ผมกลับเองได้ ซองมินเดี๋ยวชั้นกลับเองก็ได้นายไม่ต้องห่วงนะ “ ร่างบางรีบปฎิเสธเพราะเกรงใจร่างสูงอีกอย่างเขาทำตัวไม่ถูกเวลาที่หันไปเจอสายตาที่ซีวอนใช้มองเขา ท้ายประโยคร่างบางหันไปเอ่ยกับรุ่นน้องคนสนิท
“ กลับด้วยกันน่ะดีแล้ว อีกอย่างบ้านฮีชอลก็เป็นทางผ่านของผมอยู่แล้ว “ ร่างสูงตอบพร้อมยิ้มอ่อนโยนให้
“ นั่นสิพี่ ผมกับทงเฮจะได้สบายใจด้วย “ ซองมินเห็นด้วย
“ งั้นก็ได้” ร่างบางยอมตกลง
ส่วนด้านในร้านว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็กำลังลองชุดแต่งงานกันอยู่เลย แต่ดูเหมือนว่าทงเฮจะไม่ชอบชุดที่ร่างบางต้องใส่เอาซะเลย ร่างบางเดินออกมาจากห้องลองชุดด้วยท่าทางไม่ค่อยมั่นใจรู้สึกประหม่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ คิบอม “ เสียงหวานเรียกร่างสูงที่นั่งรออยู่ด้านนอกก่อนจะค่อยๆโผล่หน้าออกมาจากประตูแต่ก็ยังไม่ยอมโผล่ออกมาทั้งตัวอยู่ดี
“ มีอะไร “ ร่างสูงละสายตาจากหนังสือที่อยู่ในมือก่อนจะเอ่ยกับร่างบาง
“ นี่ชั้นต้องใส่ชุดนี้จริงๆเหรอ “ ทงเฮดูไม่มั่นใจเอาซะเลย ก็ชุดที่ร่างบางต้องใส่มันเป็นชุดฮันบกโบราณของผู้หญิงสีชมพูหวานแหววน่ะสิ
“ ก็ใช่น่ะสิ “
“ แต่ชั้นเป็นผู้ชายนะ ให้ชุดผู้หญิงแบบนี้น่าอายจะตาย “
“ นายอย่าลืมสิว่านายแต่งงานในฐานะอะไร “
“ เรื่องนั้นชั้นรู้ “ ร่ างบางตอบเบาๆ ทำไมจะไม่รู้ว่าเขาต้องแต่งเข้าไปในฐานะสะใภ้ของตระกูลคิมแต่ให้ใส่ชุดแต่งงานผู้หญิงแบบนี้มันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ
“ รู้แล้วก็ออกมาได้แล้ว “
“ ไม่เอา “ ร่างบางอิดออด เขาไม่ยอมออกไปในสภาพหน้าอายแบบนี้หรอก
“ บอกให้ออกมาก็ออกมาสิ “ คิบอมวางหนังสือลงก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่จนแล้วจนรอดทงเฮก็ไม่ยอมออกมาอยู่ดี ขายาวก้าวเข้าไปหาว่าที่เจ้าสาวจอมดื้อก่อนที่มือหนาจะดึงตัวคนที่หลบอยู่หลังประตูให้ออกมาซะที
“ ว้าว สวยมากเลยค่ะ “ ทันทีที่ร่างบางโผล่พ้นประตูออกมาเนื่องจากแรงดึงของคนที่ตัวโตกว่า พนักงานสาวที่ยืนอยู่บริเวณนั้นก็เอ่ยปากชมทันที
“ เอ่อ....แต่ผมว่ามันดูแปลกๆนะฮะ “ ร่างบางตอบเขินๆ รู้สึกแปลกๆที่โดนชมว่าสวยเมื่อหันไปมองคิบอมชายหนุ่มก็ทำหน้าปกติไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“ ไม่แปลกหรอกค่ะ พี่ว่าสวยกว่าผู้หญิงบางคนซะอีกนะค่ะ “
พนักงานสาวไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด ใบหน้าที่สวยหวานยิ่งกว่าผู้หญิงพอใส่ชุดฮันบกที่ออกแบบมาโดย เฉพาะยิ่งทำให้ดูเหมือนผู้หญิงเข้าไปกันใหญ่ขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังรู้สึกอิจฉาเลยถ้าแต่งหน้าอ่อนๆเพิ่มเข้าไปอีกหน่อยคงจะสวยกว่านี้
“ คิบอม ตลกไหมอ่ะ “ ทงเฮหันไปขอความเห็นจากร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ร่างโปร่งไม่ตอบเพียงแต่หันไปบอกพนักงานว่าตกลงพวกเขาเลือกชุดนี้ก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดเดิม
ตากลมมองตามคนที่เดินเข้าไปในห้องแต่งตัว วันนี้ร่างบางกับคิบอมแทบจะไม่ได้คุยกันเลยขนาดเขาขอความเห็นร่างสูงยังไม่ตอบเลย “ นายจะเย็นชาเกินไปแล้วนะคิมคิบอม “
ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินกลับออกมาหาเพื่อนๆอีกครั้งเสียงเอะอะโวยวายที่ดังพอสมควรทำให้ทงเฮแอบยิ้มน้อยๆนี่ซองมินกับคยูฮยอนคงหาเรื่องทะเลาะกันอีกแล้วสินะ
“ เสร็จแล้วเหรอทงเฮ “ ฮีชอลเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นคิบอมกับทงเฮเดินออกมา ทงเฮพึ่งสังเกตว่าตอนนี้พวกซีวอนย้ายมานั่งโต๊ะเดียวกันกับเพื่อนเขาแล้วเพราะก่อนที่ร่างบางจะเข้าไปด้านในยังเห็นนั่งแยกโต๊ะกันนั่งอยู่เลย จะมีก็เพียงยุนอาเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ตากลมสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคิบอมรีบแยกตัวเดินไปหาหญิงสาวทันที
“ อื้อ เสร็จแล้ว “ ตอบทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มกับหญิงสาว
“ ดีเลย งั้นกลับกันเถอะ ชั้นขี้เกียจฟังซองมินทะเลาะกันจะแย่อยู่แล้ว “ ร่างบางว่าพลางทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะส่ายหัวน้อยๆเมื่อหันไปเจอทั้งคู่ยังคงแยกเขี้ยวใส่กันอยู่เลย ไม่เบื่อบ้างรึไงนะทะเลาะกันตั้งแต่มาถึงจนจะกลับอยู่แล้ว
“ เอ่อ พี่ผมมีเรื่องจะบอก วันนี้ผมต้องกลับพร้อมคิบอมน่ะ “ ร่างบางเอ่ยเสียงเบา รู้สึกผิดที่เป็นคนขอให้ฮีชอลกับซองมินมาเป็นเพื่อนแต่เขากลับทิ้งให้เพื่อนต้องกลับเอง
“ เรื่องนั้นชั้นรู้แล้วล่ะ “
“ พี่ไม่โกรธผมนะ “
“ โกรธ “
“ พี่อ่ะ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ “ แขนขาวเกาะแขนของพี่ชายเอาไว้แน่นใบหน้าน่ารักถูไถไปมาตรงต้นแขนของพี่ชายเพื่ออ้อน
“ งั้นนายต้องไถ่โทษด้วยการไปนอนบ้านชั้นสองวันโอเคไหม “ ว่ าพลางใช้มือบางขยี้ผมน้องชายไปมาเล่นอ้อนแบบนี้ใครไม่ใจอ่อนก็บ้าแล้ว
“ โอเค สบายมาก “ ยิ้มหวานเพื่อเอาใจ
“ งั้นเราก็กลับกันดีกว่าเย็นมากแล้ว “
“ แล้วพี่กลับไงอ่ะ ซองมินด้วย “
“ เดี๋ยวผมจะไปส่งฮีชอลเองครับ ส่วนซองมินเห็นบอกว่าจะกลับพร้อมคยูฮยอน “ เป็นซีวอนที่เดินเข้ามาเป็นคนตอบคำถาม
“ ซองมินเนี่ยนะ “ ดูเหมือนว่าทงเฮจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ขนาดมีเพื่อนอยู่ด้วยยังกัดกันขนาดนี้แล้วถ้าไปด้วยกันสองคนไม่ฆ่ากันตายเลยเหรอ ทั้งฮีชอลและซีวอนอดยิ้มขันไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางตกใจของเจ้าปลาน้อย
“ งั้นพี่กลับแล้วนะ ซองมินพี่ไปแล้วนะ “ ฮีชอลเอ่ยลาน้องชาย ก่อนจะหันไปเอ่ยกับน้องชายอีกคนที่นั่งอยู่กับคยูฮยอน
“ ฮะ เจอกันพรุ่งนี้นะ “ ทงเฮยิ้มให้ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายให้ทั้งฮีชอลและซีวอนก่อนที่ร่างสูงจะเดินนำพี่ชายหน้าสวยออกไป
“ เราก็ไปกันได้แล้ว ฉันหิวแล้ว “ เมื่อเห็นเพื่อนรักเดินออกไปคยูฮยอนก็ชวนซองมินทันที ก่อนที่คนสวยจะเบะปากให้ อยากได้อะไรก็จะเอาเดี๋ยวนั้นเลยนะคุณชายโจวคยูฮยอน
“ นายนี่มันเห็นแก่กินจริงๆเลย “
“ ไม่เห็นแปลกคนเราทุกคนก็ต้องกินกันทั้งนั้น ไปได้แล้ว คิบอมกลับก่อนนะ “ ร่างสูงไม่รอให้อีกคนตอบตกลงทันทีที่เพื่อนรักพยักหน้ารับรู้แขนแกร่งก็กระชากกระต่ายอวบให้เดินตามทันที เดือดร้อนซองมินที่ต้องตะโกนบอกลาเพื่อนรัก
“ เจอกันพรุ่งนี้นะทงเฮ โอ๊ย เจ็บนะ เบาๆไม่ได้รึไง “ ซองมินที่โดนลากออกจากร้านตะโกนบอกเพื่อนรักท้ายประโยคหันไปโวยวายกับคนชอบใช้กำลัง
ทงเฮมองตามคนทั้งคู่ก่อนที่ใบหน้าสวยจะส่ายไปมาเล็กน้อยพร้อมกับที่ปากบางคลี่ยิ้มออกมา เขาเห็นมาหลายคู่แล้วที่แรกๆหาเรื่องทะเลาะกันตลอดแต่สุดท้ายก็จบลงที่รักกัน
“ นี่ กลับได้แล้ว “ เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังเมื่อหันกลับไปก็พบว่าคิบอมกับยุนอาลุกจากเก้าอี้เตรียมตัวที่จะกลับแล้วเหมือนกัน
“ แล้วยุนอาจะกลับยังไงล่ะฮะ “ ร่างบางเอ่ยกับหญิงสาวพร้อมกับส่งรอยยิ้มเป็นมิตรไปให้ แต่แล้วทงเฮก็ต้องยิ้มเก้อเมื่อหญิงสาวไม่ยิ้มตอบแถมยังเชิดหน้าไปอีกทาง
“ เดี๋ยวฉันจะแวะไปส่ง นายไม่ว่าอะไรใช่ไหม “ ร่างสูงตอบแทนหญิงสาวที่ยืนเงียบอยู่
“ ฮะ “ ร่างบางรับคำสั้นๆก่อนจะเดินตามหลังคนทั้งคู่ออกไปรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นส่วนเกินยังไงยังงั้น
ตลอดระยะทางถึงแม้ว่าภายในรถจะมีกันอยู่สี่คนแต่ดูเหมือนว่าคิบอมและยุนอาจะคิดว่ามีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น หญิงสาวชวนชายหนุ่มคุยตลอดทางหลายครั้งที่ทงเฮแอบเห็นรอยยิ้มของคิบอมรอยยิ้มที่ร่างบางไม่มีโอกาสได้สัมผัสมัน คนทั้งคู่ยังคงสนทนากันไปเรื่อยๆคงจะลืมไปแล้วสินะว่าในรถยังมีลุงคนขับรถกับทงเฮนั่งอยู่ด้วย
ทงเฮอดที่จะคิดไม่ได้ว่าในเมื่อคิบอมมีคนรักอยู่แล้วแล้วจะมาแต่งงานกับเขาทำไม ซึ่งเท่าที่เห็นดูเหมือนว่าร่างสูงรักและใส่ใจหญิงสาวมากทีเดียว ในเมื่อแต่งไปแล้วไม่มีความสุขจะแต่งไปทำไมเพราะสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี
“ สำหรับนายแล้วฉันอยู่ในฐานะอะไรกันแน่คิบอม “
อยู่ๆประโยคนี้ก็ผุดขึ้นมาในสมองของทงเฮในขณะที่ร่างบางกำลังนั่งมองดูคิบอมเดินไปส่งยุนอาที่หน้าบ้านไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกชาที่หน้า หรือนี่จะเป็นอาการของคนที่โดนหักหน้ากันนะ
“ คิบอม “ เสียงใสเอ่ยเรียกร่างหนาที่เข้ามานั่งประจำที่เหมือนเดิม
“ อะไร “ สั้นและห้วนเหมือนเดิมมันช่างแตกต่างจากครั้งที่คุยกับยุนอาเหลือเกิน
“ เรายกเลิกงานแต่งงานดีไหม “
“ ทำไม “ ตาคมหันมามองคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆ เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้วจะมายกเลิกมันก็สายเกินไปแล้วล่ะและอีกอย่างมันคงเป็นไปไม่ได้แน่นอนเพราะผู้ใหญ่ไม่มีทางยอม
“ ก็การแต่งงานมันต้องเกิดจากความรักไม่ใช่เหรอ แต่เราสองคนไม่ได้รักกันนี่นา “
“ แล้วไง “
“ อีกอย่างคิบอมก็มียุนอาอยู่แล้วทั้งคนไม่ใช่เหรอ ชั้นว่าคิบอมคงจะอยากแต่งงานกับยุนอามากกว่าชั้นใช่ไหม “
“ อืม ใช่ “ ตอบโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของร่างบางเลยแม้แต่น้อยใบหน้ายังคงเรียบเฉย
“ แล้วทำไมคิบอมไม่ไปขอเธอแต่งงานล่ะ มาแต่งกับฉันทำไม “ ร่างบางเอ่ยถามสิ่งที่ข้องใจมานานอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องเป็นเขา
“ ถ้ายุนอาเขายอมแต่งงานกับฉันคิดเหรอว่าฉันจะมาแต่งงานกับนาย แต่เพราะฉันไม่มีทางเลือกในเมื่อยุนอาเขาอยากตามหาความฝันอยากมีอิสระในตอนนี้ฉันเลยต้องแต่งงานตามคำสั่งคุณย่าไงล่ะ “ เสียงทุ้มเอ่ยราวกับว่าเรื่องที่พูดคุยกันมันเป็นเพียงเรื่องดินฟ้าอากาศ
เหมือนมีคนเอาอะไรมาทิ่มร่างกายนี่คิบอมเห็นเขาเป็นอะไร คิดอยากจะทำอะไรก็ทำงั้นเหรอ ผู้หญิงคนนั้นมีความฝันแล้วไม่คิดบ้างเหรอว่าลีทงเฮคนนี้ก็มีความฝันเหมือนกัน ทงเฮคนนี้ก็อยากมีอิสระเหมือนกับคนอื่นๆเหมือนกัน ใจร้ายเกินไปแล้วนะคิมคิบอม
“ ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง “ น้ำใสๆไหลออกมาจากตาคู่สวยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องร้องไห้ออกมาด้วย รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้เสียความสุขกับสิ่งที่คิบอมพูดออกมา
“ แล้วนายคิดว่ามันเป็นแบบไหนล่ะ คิดว่าฉันอยากแต่งงานกับนายงั้นเหรอ หลงตัวเองเกินไปรึเปล่าลีทงเฮ “
“ เข้าใจแล้ว “ มือเรียวถูกยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าสวยก่อนจะหันไปเอ่ยกับคนขับรถ “ ลุงฮะ ช่วยจอดรถทีฮะ “
“ นายจะทำอะไร “ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อคนขับรถจอดรถตามคำสั่งของร่างบาง
“ ชั้นจะกลับบ้าน ฝากเรียนคุณย่าด้วยว่าชั้นไม่สบายไปพบท่านไม่ได้ แล้วเราก็ไม่ต้องพบกันอีกจนกว่าจะถึงวันงาน “ พูดจบก็หยิบกระเป๋าลงจากรถแล้วขึ้นแท็กซี่กลับบ้านทันทีปล่อยให้ร่างสูงนั่งอึ้งอยู่บนรถ
ความคิดเห็น