คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตามหา
การจราจรของกรุงเทพวันนี้แตกต่างจากวันที่ผ่านๆมา คือ รถที่เคยติดมาก ตอนนี้ก็แล่นได้อย่างสบาย วันนี้เรียกได้ว่าเป็นวันที่ถนนโล่งทีเดียว เนื่องเพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์ ผู้คนส่วนมากที่มาจากต่างจังหวัดก็เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อไปเยี่ยมญาติหรือพ่อแม่กันหมด ไม่เว้นแม้แต่ชาวกรุงเทพที่ยังอออกเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่อผ่อนคลายในฤดูร้อน
เวลาที่กานต์และอลิซมาถึงที่นี่เป็นเวลาตอนกลางวัน พวกเขาไม่มีเวลามากขนาดที่จะนอนพักก่อนตามหากระดาษเหล่านั้น พวกเขาจะต้องรีบออกตามหาในทันที กานต์ถือกระดาษไว้แน่น เขาลืมไปว่ามันจะต้องยับและขาดแน่ หากเขายังกำมันไว้แน่นอย่างนี้
บริเวณที่ทั้งสองยืนอยู่ตรงจุดนี้คือบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิอลด์ กานต์และอลิซเริ่มการค้นหาขึ้น เขาค่อยๆปล่อยกระดาษลงกับพื้นอย่างช้าๆ บริเวณที่ปล่อยกระดาษลงเป็นลานหน้าห้าง เพราะฉะนั้นพวกเราตองระวังไม่ให้ลมพัดปลิวไปไกลจนเกินกว่าจะตามได้
“จับมือฉันไว้นะ ที่นี่ ฉันชำนาญทางมากกว่าเธอ” กานต์บอกอลิซ เธอจึงค่อยๆเอามือจับแขนของกานต์ไว้
“ มันไปแล้ว” อลิซร้องบอก กระดาษใบนี้ไปเร็วกว่าที่คิด คงเป็นเพราะลมที่พัดมาบวกกับแรงการเคลื่อนไหวของกระดาษ กานต์และอลิซวิ่งตามกระดาษใบนั้นจนไปถึงฝั่งประตูน้ำ คราวนี้พวกเขาต้องกับปัญหาครั้งใหญ่ เพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์ ชาวบ้านและเด็กๆต่างก็พากันออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ปัญหาอย่างแรกที่เขาต้องเจอคือ กระดาษอาจจะเปียกได้ขณะที่มันกำลังเคลื่อนที่ไป
“ระวัง ขอโทษค่ะ อย่าสาดน้ำมา เราต้องไปทำธุระ” อลิซร้องบอก พวกชาวบ้านที่ได้ยินจึงปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านออกมาอย่างไม่ต้องตัวเปียก
“ไปเร็ว มันไปโน่นแล้ว” อลิซจับแขนกานต์ ทั้งสองวิ่งตามกระดาษนั้นจนมันหยุดอยู่ที่ที่หนึ่งในซอยเล็กๆ โชคดีที่ซอยนี้ไม่มีบ้านคนและไม่มีคนมาเล่นน้ำอยู่จึงไม่ต้องกลัวเปียก กระดาษคำตอบหยุดนิ่งแนบกับพื้นเป็นแนวขวางกับซอยเหมือนกับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น จนสักพักเมื่อกานต์เดินเข้าไปใกล้ ด้านหัวกระดาษก็พลิ้วไหวผงกขึ้นเบาๆอย่างกับมีมนต์ขลัง กานต์มองไปทางที่หัวกระดาษชี้ไป
“อะไรกัน นี่มันกำแพงชัดๆ จะมีกระดาษคำตอบอีกใบหนึ่งอยู่เหรอ”กานต์พูด
“ บางที อาจจะอยู่หลังกำแพงก็ได้นะ”
ทั้งสองจึงตัดสินใจปีนกำแพงข้ามไปฝั่งตรงข้าม แล้วก็พบว่าเป็นบ้านร้างหลังหนึ่งตั้งอยู่
“ใช่ ! ฉันเคยมาที่นี่” กานต์เอ่ยขึ้นมา พร้อมกับเดินเข้าไปในบ้านอย่างไม่รีรอ บ้านร้างหลังนี้คือบ้านหลังเดียวกับที่กานต์เคยมาหลบพวกนักเลงเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตัวบ้าน มองไปที่บ้านหลังนั้นเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ อลิซเดินตามเข้ามาทีหลัง เธอสังเกตเห็นว่ามีอะไรสักอย่างขยับอยู่ มันไม่ใช่สิ่งที่จะขยับได้เองตามธรรมชาติ
“นั่นอะไร” อลิซถามแล้วเดินตรงไปยังสิ่งๆนั้น มันอาจจะเป็นสัตว์มีพิษหรืออะไรก็ได้ แต่เมื่ออลิซเดินเข้าไปใกล้ๆเธอก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ กานต์ที่เดินตามมาก็เห็นท่าทางของอลิซที่ดูจะดีใจผิดปกติ กานต์จึงคิดแล้วว่าเธอต้องสิ่งนั้นแน่ๆ กานต์จึงรีบวิ่งเข้าไปดู
“เราพบแล้วๆ เราพบแล้ว กระดาษคำตอบใบแรก ดูสิ มันกำลังจะคลานเข้ามา” อลิซบอก
เธอรีบเข้าไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาทันทีก่อนที่มันจะโดนลมพัดปลิวไปเสียก่อน อลิซพลิกกระดาษดูด้านหลังซึ่งมีตัวหนังสือ คือตัว O กระดาษใบแรกจะคือตัว S ที่พวกเขาหาได้คือ SO... ทั้งสองรู้สึกว่ากระดาษใบแรกได้มาอย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ต้องออกตามหากระดาษอีกสามแผ่น ให้ทัน เพราะเวลาโลกของอลิซเดินเร็วกว่าที่นี่มาก พวกเขาจึงต้องรีบออกตามหาต่อไป กานต์เก็บกระดาษใส่ซองป้องกันอย่างดี
กานต์และอลิซออกเดินทางตามหากระดาษแผ่นที่สามต่อ โดยในครั้งนี้เขาจะต้องวางกระดาษแผ่นที่สองเพื่อหากระดาษแผ่นที่สาม และในครั้งต่อไปเขาก็ต้องวางกระดาษแผ่นล่าสุดที่ให้ได้เพื่อค้นหาอีกใบที่เป็นแผ่นต่อกัน
ในกระดาษคำตอบแผ่นที่สามที่พวกเขาหาได้นั้นคือ U เมื่อเขานำกระดาษทั้งสามแผ่นพลิกกลับด้านมาสิ่งที่ปรากฏขึ้นคือภาพเขียนด้วยดินสอ แรงเงาอย่างสวยงาม เป็นรูปถนนหนทางกรุงเทพในปัจจุบันที่ยังเป็นการจราจรที่ติดขัด มีบ้านเรือนและตึกอาคารตั้งอยู่เรียงราย
ในเวลาต่อมาซึ่งเป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว พวกเขาก็หาหระดาษแผ่นที่สี่เจอ กานต์ได้ไปขอพักอาศัยอยู่กับบ้านเพื่อนที่อยู่คนเดียว คืนนั้นในขณะที่เขากำลังดูกระดาษแผ่นที่สี่ซึ่งมีตัวอักษร L และกำลังเรียบเรียงคำตอบที่เขาจะได้อยู่คือ S-O-U-L
“ S-O-U-L โซล วิญญาณ ใจ อะไรกัน” อลิซถามอย่างงงงง
“ ฉันว่ามันน่าจะแปลว่าจิตวิญญาณ จิตวิญญาณของมนุษย์ ลองพลิกกระดาษดู มันจะต่อเป็นรูปอะไร”
อลิซจับกระดาษทั้งสี่พลิกกลับด้านหลังทุกใบเพื่อที่จะดูภาพที่ต่อจากทั้งสามใบที่เคยดูได้ แต่เมื่อพลิกกลับมาแล้วกลับกลายเป็นอีกภาพหนึ่งที่แตกต่างจากภาพเก่าอย่างสิ้นเชิง แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่บรรยายต่อจากภาพเก่า เพราะด้านซ้ายของภาพเป็นรูปตึกสูงตั้งตระหง่านที่หายไปครึ่งหนึ่งในภาพเก่าแล้วจึงมาต่อในภาพนี้ แต่ภาพนี้เมื่อต่อกันเป็นสี่แผ่นแล้วทำให้ภาพที่ได้มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ก็ไม่สามารถที่จะมองภาพออกว่าเป็นภาพอะไร ดูทุกอย่างจะยุ่งเหยิง ด้านล่างขวาเหมือนกับมีคนตัวเล็กๆกลุ่มหนึ่งกำลังทะเลาะเบาะแว้งตีกัน แต่อีกมุมหนึ่งเป็นเหมือนเปลวไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ เป็นเปลวไฟขนาดใหญ่มากจนมองแทบไม่เห็นเลยว่าเผาไหม้สิ่งใดอยู่ เมื่อมองภาพนี้โดยรวมๆแล้วจะเห็นเป็นเหมือนกับหลายๆสถานการณ์ที่เลวร้ายรวมกัน แสดงออกมาโดยเส้นดินสอที่แรเงาได้เหมือนจริงอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะเป็นสีขาวดำ
“ อะไรน่ะ” กานต์ถาม เทื่อเห็นกระใบที่สีพลิ้วปลิวที่ด้านล่าง แสดงว่ามันต้องเจอกระดาษอีกใบหนึ่ง แต่ในความคิดของกานต์ กระดาษคำตอบที่เขาได้มาก็เรียกได้ว่าจะไขปริศนาได้แล้ว เขาจึงไม่คิดว่ามีกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง
“นายคิดว่าไม่ใช่ไหม? แต่ฉันว่านายคิดผิด” อลิซมองตามทิศมี่กระดาษกำลังพลิ้วผงกอยู่ และบริเวณนั้นคือใต้เตียงของเพื่อนเขา ที่ได้หลับใหลอย่างไม่รู้สึกตัวแล้ว อีกทั้งในขณะที่พวกเขาทำงานอยู่ มีไฟเพียงดวงเดียวที่ถูกเปิดไว้ให้ กานต์ไม่อยากรบกวนเพื่อน เขาจึงใช้ไฟแช็คสูบบุหรี่ที่ติดตัวมาเป็นแสงสว่าง กานต์และอลิซนอนคว่ำราบลงกับพื้นแล้วคลานไปที่ใต้เตียงไม้ซึ่งมีความสูงไม่มากนัก พวกเขาค่อยๆเคลื่อนที่อย่างเงียบที่สุด เมื่อกานต์ใช้ไฟแช็คจุดไปที่ใต้เตียงสิ่งที่เขาทั้งสองได้พบคือ กระดาษใบหนึ่งที่กำลังค่อยๆพลิ้วไหวเคลื่อนที่ออกมา กานต์หยิบมันออกมาแล้วรีบนำมาต่อกับกระดาษใบที่สี่ ที่กำลังคว่ำอยู่ และภาพก็ได้เปลี่ยนไปอีก เมื่อเขาพลิกกระดาษให้หันกลับมาด้านที่มีตัวอักษร แผ่นที่ห้ากลับไม่มีตัวใดในแผ่นกระดาษเลย
อลิซพลิกกลับมาที่ด้านหลังที่เป็นรูปภาพอีกครั้ง ซึ่งเป็นภาพแตกต่างจากภาพก่อนๆที่ผ่านมาโดยภาพนี้เป็นภาพเคลื่อนไหว อาจเป็นเพราะเมื่อทั้งห้าแผ่นมาประกอบต่อกันจึงทำให้เกิดสิ่งบางอย่าง เนื้อเรื่องของภาพแสดงถึงโลกอนาคตที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน เป็นภาพที่เกิดต่อจากการทะเลาะ แตกแยกความสามัคคีกันในประเทศ เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้ง อุทกภัย อัคคีภัย ทำให้เกิดความสูญเสียต่อทั้งคน ประเทศและโลก ภาพเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไปถึงโลกที่มีเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ ลักษณะการแต่งตัวที่ผิดแปลกจากปัจจุบันที่เป็นอยู่
“ นั่น โลกของฉัน!” อลิซร้องบอก
“ชูว์...ดูต่อไป” กานต์บอก ภาพเปลี่ยนไปอีก เป็นภาพที่โลกถูกทำลาย ไม่ได้แตกดับสูญไป แต่เป็นการถูกรุกรานจากสิ่งหนึ่ง สิ่งก่อสร้างหลายๆอย่างพังลงมา เกิดเปลวไฟจากการเผาไหม้ แสงไฟต่างๆถูกฉายส่องลงมาที่พื้นโลก มองเห็นศพผู้คนตายเป็นมดปลวก ภาพหยุดให้ดูเพียงเท่านี้ กานต์และอลิซไม่พูดอะไร ได้แต่มองหน้ากันแล้วรีบเก็บกระดาษใส่ซองให้ดี ทั้งสองรีบวิ่งออกจากห้องโดยทิ้งเพื่อนที่กำลังนอนหลับ โดยไม่บอกลาสักคำ กานต์ถามแค่ว่า “เราจะกลับไปยังไง” อลิซไม่ตอบ จับมือกานต์แล้วรีบวิ่งลงจากหอพักอย่างเร่งด่วนที่สุด ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป
“ พาเราไปที่ที่มืดและเงียบที่สุดเดี๋ยวนี้เลย” อลิซบอก หลังจากที่พวกเขาลงมาถึงชั้นล่างกันแล้ว กานต์จึงพาอลิซไปยังซอยทางตันซึ่งเป็นที่เก็บของข้างหอพัก อลิซหยิบซองใส่กระดาษออกจากกระเป๋า ทันใดนั้นก็เกิดแสงประหลาดก่อตัวขึ้นจากกระดาษทั้งห้าแผ่น แสงสีขาวที่เจิดจ้าสาดส่องซอยที่มืดให้สว่างทั้งซอย และในที่สุด มันก็นำทั้งสองไปสู่โลกของอลิซทันที
ความคิดเห็น