ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Answer Sheets

    ลำดับตอนที่ #4 : ตามหา

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 50


                    การจราจรของกรุงเทพวันนี้แตกต่างจากวันที่ผ่านๆมา คือ รถที่เคยติดมาก ตอนนี้ก็แล่นได้อย่างสบาย  วันนี้เรียกได้ว่าเป็นวันที่ถนนโล่งทีเดียว  เนื่องเพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์  ผู้คนส่วนมากที่มาจากต่างจังหวัดก็เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อไปเยี่ยมญาติหรือพ่อแม่กันหมด ไม่เว้นแม้แต่ชาวกรุงเทพที่ยังอออกเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่อผ่อนคลายในฤดูร้อน

     

                    เวลาที่กานต์และอลิซมาถึงที่นี่เป็นเวลาตอนกลางวัน พวกเขาไม่มีเวลามากขนาดที่จะนอนพักก่อนตามหากระดาษเหล่านั้น พวกเขาจะต้องรีบออกตามหาในทันที   กานต์ถือกระดาษไว้แน่น เขาลืมไปว่ามันจะต้องยับและขาดแน่ หากเขายังกำมันไว้แน่นอย่างนี้

     

                    บริเวณที่ทั้งสองยืนอยู่ตรงจุดนี้คือบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิอลด์  กานต์และอลิซเริ่มการค้นหาขึ้น เขาค่อยๆปล่อยกระดาษลงกับพื้นอย่างช้าๆ บริเวณที่ปล่อยกระดาษลงเป็นลานหน้าห้าง เพราะฉะนั้นพวกเราตองระวังไม่ให้ลมพัดปลิวไปไกลจนเกินกว่าจะตามได้ 

     

                    จับมือฉันไว้นะ  ที่นี่ ฉันชำนาญทางมากกว่าเธอ กานต์บอกอลิซ เธอจึงค่อยๆเอามือจับแขนของกานต์ไว้ 

     

                    มันไปแล้ว อลิซร้องบอก กระดาษใบนี้ไปเร็วกว่าที่คิด คงเป็นเพราะลมที่พัดมาบวกกับแรงการเคลื่อนไหวของกระดาษ  กานต์และอลิซวิ่งตามกระดาษใบนั้นจนไปถึงฝั่งประตูน้ำ  คราวนี้พวกเขาต้องกับปัญหาครั้งใหญ่ เพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์ ชาวบ้านและเด็กๆต่างก็พากันออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ปัญหาอย่างแรกที่เขาต้องเจอคือ กระดาษอาจจะเปียกได้ขณะที่มันกำลังเคลื่อนที่ไป

     

                    ระวัง  ขอโทษค่ะ อย่าสาดน้ำมา  เราต้องไปทำธุระ อลิซร้องบอก พวกชาวบ้านที่ได้ยินจึงปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านออกมาอย่างไม่ต้องตัวเปียก

     

                    ไปเร็ว มันไปโน่นแล้ว อลิซจับแขนกานต์ ทั้งสองวิ่งตามกระดาษนั้นจนมันหยุดอยู่ที่ที่หนึ่งในซอยเล็กๆ โชคดีที่ซอยนี้ไม่มีบ้านคนและไม่มีคนมาเล่นน้ำอยู่จึงไม่ต้องกลัวเปียก  กระดาษคำตอบหยุดนิ่งแนบกับพื้นเป็นแนวขวางกับซอยเหมือนกับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น   จนสักพักเมื่อกานต์เดินเข้าไปใกล้ ด้านหัวกระดาษก็พลิ้วไหวผงกขึ้นเบาๆอย่างกับมีมนต์ขลัง  กานต์มองไปทางที่หัวกระดาษชี้ไป

                   

                    อะไรกัน นี่มันกำแพงชัดๆ จะมีกระดาษคำตอบอีกใบหนึ่งอยู่เหรอกานต์พูด

     

                    บางที อาจจะอยู่หลังกำแพงก็ได้นะ

     

                    ทั้งสองจึงตัดสินใจปีนกำแพงข้ามไปฝั่งตรงข้าม  แล้วก็พบว่าเป็นบ้านร้างหลังหนึ่งตั้งอยู่ 

     

    ใช่ ! ฉันเคยมาที่นี่ กานต์เอ่ยขึ้นมา พร้อมกับเดินเข้าไปในบ้านอย่างไม่รีรอ บ้านร้างหลังนี้คือบ้านหลังเดียวกับที่กานต์เคยมาหลบพวกนักเลงเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา  เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตัวบ้าน มองไปที่บ้านหลังนั้นเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่  อลิซเดินตามเข้ามาทีหลัง เธอสังเกตเห็นว่ามีอะไรสักอย่างขยับอยู่ มันไม่ใช่สิ่งที่จะขยับได้เองตามธรรมชาติ 

     

                    นั่นอะไร อลิซถามแล้วเดินตรงไปยังสิ่งๆนั้น มันอาจจะเป็นสัตว์มีพิษหรืออะไรก็ได้  แต่เมื่ออลิซเดินเข้าไปใกล้ๆเธอก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ กานต์ที่เดินตามมาก็เห็นท่าทางของอลิซที่ดูจะดีใจผิดปกติ กานต์จึงคิดแล้วว่าเธอต้องสิ่งนั้นแน่ๆ กานต์จึงรีบวิ่งเข้าไปดู

                    เราพบแล้วๆ  เราพบแล้ว กระดาษคำตอบใบแรก ดูสิ มันกำลังจะคลานเข้ามา อลิซบอก

                   

                    เธอรีบเข้าไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาทันทีก่อนที่มันจะโดนลมพัดปลิวไปเสียก่อน อลิซพลิกกระดาษดูด้านหลังซึ่งมีตัวหนังสือ คือตัว O กระดาษใบแรกจะคือตัว S ที่พวกเขาหาได้คือ SO... ทั้งสองรู้สึกว่ากระดาษใบแรกได้มาอย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ต้องออกตามหากระดาษอีกสามแผ่น ให้ทัน เพราะเวลาโลกของอลิซเดินเร็วกว่าที่นี่มาก พวกเขาจึงต้องรีบออกตามหาต่อไป  กานต์เก็บกระดาษใส่ซองป้องกันอย่างดี

                   

                    กานต์และอลิซออกเดินทางตามหากระดาษแผ่นที่สามต่อ โดยในครั้งนี้เขาจะต้องวางกระดาษแผ่นที่สองเพื่อหากระดาษแผ่นที่สาม และในครั้งต่อไปเขาก็ต้องวางกระดาษแผ่นล่าสุดที่ให้ได้เพื่อค้นหาอีกใบที่เป็นแผ่นต่อกัน

     

                    ในกระดาษคำตอบแผ่นที่สามที่พวกเขาหาได้นั้นคือ U เมื่อเขานำกระดาษทั้งสามแผ่นพลิกกลับด้านมาสิ่งที่ปรากฏขึ้นคือภาพเขียนด้วยดินสอ แรงเงาอย่างสวยงาม เป็นรูปถนนหนทางกรุงเทพในปัจจุบันที่ยังเป็นการจราจรที่ติดขัด มีบ้านเรือนและตึกอาคารตั้งอยู่เรียงราย

     

                    ในเวลาต่อมาซึ่งเป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว พวกเขาก็หาหระดาษแผ่นที่สี่เจอ  กานต์ได้ไปขอพักอาศัยอยู่กับบ้านเพื่อนที่อยู่คนเดียว  คืนนั้นในขณะที่เขากำลังดูกระดาษแผ่นที่สี่ซึ่งมีตัวอักษร L และกำลังเรียบเรียงคำตอบที่เขาจะได้อยู่คือ S-O-U-L

     

                    S-O-U-L โซล วิญญาณ ใจ อะไรกัน อลิซถามอย่างงงงง

     

                    ฉันว่ามันน่าจะแปลว่าจิตวิญญาณ จิตวิญญาณของมนุษย์ ลองพลิกกระดาษดู มันจะต่อเป็นรูปอะไร

     

                    อลิซจับกระดาษทั้งสี่พลิกกลับด้านหลังทุกใบเพื่อที่จะดูภาพที่ต่อจากทั้งสามใบที่เคยดูได้ แต่เมื่อพลิกกลับมาแล้วกลับกลายเป็นอีกภาพหนึ่งที่แตกต่างจากภาพเก่าอย่างสิ้นเชิง  แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่บรรยายต่อจากภาพเก่า  เพราะด้านซ้ายของภาพเป็นรูปตึกสูงตั้งตระหง่านที่หายไปครึ่งหนึ่งในภาพเก่าแล้วจึงมาต่อในภาพนี้  แต่ภาพนี้เมื่อต่อกันเป็นสี่แผ่นแล้วทำให้ภาพที่ได้มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ก็ไม่สามารถที่จะมองภาพออกว่าเป็นภาพอะไร ดูทุกอย่างจะยุ่งเหยิง ด้านล่างขวาเหมือนกับมีคนตัวเล็กๆกลุ่มหนึ่งกำลังทะเลาะเบาะแว้งตีกัน  แต่อีกมุมหนึ่งเป็นเหมือนเปลวไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ เป็นเปลวไฟขนาดใหญ่มากจนมองแทบไม่เห็นเลยว่าเผาไหม้สิ่งใดอยู่  เมื่อมองภาพนี้โดยรวมๆแล้วจะเห็นเป็นเหมือนกับหลายๆสถานการณ์ที่เลวร้ายรวมกัน แสดงออกมาโดยเส้นดินสอที่แรเงาได้เหมือนจริงอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะเป็นสีขาวดำ

     

                    อะไรน่ะ กานต์ถาม เทื่อเห็นกระใบที่สีพลิ้วปลิวที่ด้านล่าง  แสดงว่ามันต้องเจอกระดาษอีกใบหนึ่ง แต่ในความคิดของกานต์ กระดาษคำตอบที่เขาได้มาก็เรียกได้ว่าจะไขปริศนาได้แล้ว เขาจึงไม่คิดว่ามีกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง

     

                    นายคิดว่าไม่ใช่ไหม? แต่ฉันว่านายคิดผิด อลิซมองตามทิศมี่กระดาษกำลังพลิ้วผงกอยู่  และบริเวณนั้นคือใต้เตียงของเพื่อนเขา ที่ได้หลับใหลอย่างไม่รู้สึกตัวแล้ว อีกทั้งในขณะที่พวกเขาทำงานอยู่ มีไฟเพียงดวงเดียวที่ถูกเปิดไว้ให้ กานต์ไม่อยากรบกวนเพื่อน เขาจึงใช้ไฟแช็คสูบบุหรี่ที่ติดตัวมาเป็นแสงสว่าง  กานต์และอลิซนอนคว่ำราบลงกับพื้นแล้วคลานไปที่ใต้เตียงไม้ซึ่งมีความสูงไม่มากนัก พวกเขาค่อยๆเคลื่อนที่อย่างเงียบที่สุด  เมื่อกานต์ใช้ไฟแช็คจุดไปที่ใต้เตียงสิ่งที่เขาทั้งสองได้พบคือ กระดาษใบหนึ่งที่กำลังค่อยๆพลิ้วไหวเคลื่อนที่ออกมา กานต์หยิบมันออกมาแล้วรีบนำมาต่อกับกระดาษใบที่สี่ ที่กำลังคว่ำอยู่ และภาพก็ได้เปลี่ยนไปอีก เมื่อเขาพลิกกระดาษให้หันกลับมาด้านที่มีตัวอักษร แผ่นที่ห้ากลับไม่มีตัวใดในแผ่นกระดาษเลย

                   

                    อลิซพลิกกลับมาที่ด้านหลังที่เป็นรูปภาพอีกครั้ง ซึ่งเป็นภาพแตกต่างจากภาพก่อนๆที่ผ่านมาโดยภาพนี้เป็นภาพเคลื่อนไหว อาจเป็นเพราะเมื่อทั้งห้าแผ่นมาประกอบต่อกันจึงทำให้เกิดสิ่งบางอย่าง เนื้อเรื่องของภาพแสดงถึงโลกอนาคตที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน เป็นภาพที่เกิดต่อจากการทะเลาะ แตกแยกความสามัคคีกันในประเทศ เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้ง อุทกภัย อัคคีภัย ทำให้เกิดความสูญเสียต่อทั้งคน ประเทศและโลก ภาพเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไปถึงโลกที่มีเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ ลักษณะการแต่งตัวที่ผิดแปลกจากปัจจุบันที่เป็นอยู่  

                   

                    นั่น โลกของฉัน!” อลิซร้องบอก

     

                    ชูว์...ดูต่อไป กานต์บอก  ภาพเปลี่ยนไปอีก  เป็นภาพที่โลกถูกทำลาย ไม่ได้แตกดับสูญไป แต่เป็นการถูกรุกรานจากสิ่งหนึ่ง สิ่งก่อสร้างหลายๆอย่างพังลงมา เกิดเปลวไฟจากการเผาไหม้ แสงไฟต่างๆถูกฉายส่องลงมาที่พื้นโลก มองเห็นศพผู้คนตายเป็นมดปลวก  ภาพหยุดให้ดูเพียงเท่านี้  กานต์และอลิซไม่พูดอะไร ได้แต่มองหน้ากันแล้วรีบเก็บกระดาษใส่ซองให้ดี  ทั้งสองรีบวิ่งออกจากห้องโดยทิ้งเพื่อนที่กำลังนอนหลับ โดยไม่บอกลาสักคำ  กานต์ถามแค่ว่า เราจะกลับไปยังไง อลิซไม่ตอบ จับมือกานต์แล้วรีบวิ่งลงจากหอพักอย่างเร่งด่วนที่สุด ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป 

                    พาเราไปที่ที่มืดและเงียบที่สุดเดี๋ยวนี้เลย อลิซบอก หลังจากที่พวกเขาลงมาถึงชั้นล่างกันแล้ว   กานต์จึงพาอลิซไปยังซอยทางตันซึ่งเป็นที่เก็บของข้างหอพัก  อลิซหยิบซองใส่กระดาษออกจากกระเป๋า ทันใดนั้นก็เกิดแสงประหลาดก่อตัวขึ้นจากกระดาษทั้งห้าแผ่น แสงสีขาวที่เจิดจ้าสาดส่องซอยที่มืดให้สว่างทั้งซอย และในที่สุด มันก็นำทั้งสองไปสู่โลกของอลิซทันที

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×