ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 6 ขั้นตอนเพื่อพยุงตัววันที่จิตใจอ่อนล้า
อย่ามัวแต่โอดโอยโหยไห้ และจมปลักอยู่กับเรื่องร้าย ๆ เลย ลุกมาเติมใจให้เต็มร้อยกันดีกว่า
1. ถ้าเธอเหนื่อยนัก หยุดพักเสียก่อน
ถ้ารถที่ขับเกิดผิดปกติขึ้นมา คุณจะจอดขางทางก่อนใช่ไหม นี่ก็เช่นกัน เป็นทางเลือกที่ฉลาดสำหรับคนที่ตกอยู่ ในห้วงทุกข์ ถ้าฝืนดันทุรังไปข้างหน้า วันแย่ ๆ อาจถึงกับเป็นวันวิบัติขั้นมาได้
2. ร้องเถิดถ้าอยากร้อง
แต่การร้องไห้นานเกินไปก็เป็นการบ่อนทำลายได้เช่นกัน เพราะความเศร้าสามารถหล่อเลี้ยงตัวมันเองได้ ยิ่งเศร้าก็ ยิ่งคิดมาก และความทรงจำไม่ดีจะยิ่งประดังประเดทับถมมากขึ้นไปอีก แต่ถ้ากลั้นน้ำตาไว้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เหมือนกัน ตอนนี้น่ะทั้งเศร้า ทั้งประสาท สิ้นหวังเต็มประดาแล้วจะทำอย่างไรดี ก่อนอื่นต้องหัดยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นให้ได้ แล้วร้องไห้แต่พอเหมาะพอควร จะให้คุณประโยชน์ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หายเครียด และ คุณจะรู้สึกสงบนิ่งขึ้น
3. หาที่มาที่ไปของเจ้าตัวร้าย
ถึงแม้จะยังไม่มีข้อสรุปแน่นอนว่า ทำไมคนเราต้องรู้สึกหดหู่ ท้อแท้ ละเหี่ยใจ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร มึนทึม และอีกหลาย ๆ ความรู้สึกที่ไม่ดี คำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด คือ ธรรมชาติสร้างให้คนต้องมีความรู้สึกเหล่านี้บ้าง เพื่อบอกให้เรารู้จักพักผ่อน และค่อย ๆ คิดว่าจะทำอะไรต่อไป
4. ตัดไฟแต่ต้นลม
ลองสืบสาวถึงเหตุการ์ที่มักทำให้หัวใจป่วยดูหลาย ๆ ครั้ง แล้วจะเห็นว่าเกิดเป็นรูปแบบที่แน่นอน นั่นก็คือร่าง กายจะส่งสัญญาณเตือนภัยออกมา เวลาที่มีบางสิ่งบางอย่างมากระทบ กุญแจไขปริศนานี้สามารถได้มาด้วยการ ฝึกฝนจิตใจตัวเองหาทางออกไปทีละ ขั้น และเหมาะสมกับการเผชิญและบรรเทาปัญหาที่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในแต่ละ ครั้ง
5. อย่าเอาแต่นอนซังกะตาย
ที่ว่าบอกให้ค่อยเป็นค่อยไปนั้น ไม่ได้หมายความให้นอนแน่นิ่ง และปล่อยให้เรื่องเลวร้ายสุมทับตัวอยู่ตรงนั้นฝ่ายเดียว เราจะต้องลุกขึ้นและสู้กับมัน การจะควบคุมระบบความนึกคิดของตัวเองนั้น ต้องกระตุ้นตัวเองให้หลุดจากปลักที่จมอยู่ ขอแค่ให้ผ่านวันนี้ไปได้ แล้วพรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
6. อย่าโทษตัวเอง
เคยสงสัยไหมว่า สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นในวันเลวร้ายของคุณน่ะ เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของตัวเองหรือคนรอบข้าง ถึงแม้การทำ ความเข้าใจและแก้ไขปัญหาจะมีประโยชน์ แต่การย้ำคิดถึงทุกสิ่งที่ผิดพลาดไปอย่างไม่หยุดหย่อน เป็นเสมือนการโทษตัวเอง ที่ทำให้วันไม่ดี วันหนึ่งเป็นสัปดาห์แห่งความทุกข์ระทมได้ การจองจำตัวเองอยู่กับคำคาดโทษตัวเองจะยิ่งเป็นอุปสรรคขวางกั้นการไปสู่หนทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ดังนั้นให้ลองถามตัวเองว่า กำลังโหดร้ายกับตัวเองเกินไปรึเปล่า? และการทำเช่นนี้ช่วยขจัดปัญหา และเตรียมให้คุณพร้อมเผชิญ เหตุการณ์ยุ่ง ยากในคราวต่อไปได้ไหม?
เราต้องยอมรับความจริงว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตกเข้าไปในหลุมดำแห่งความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง แม้แต่คนที่ดูเหมือนจะเพอร์เฟ็กไปหมดทุกอย่าง ก็คงต้องเคยมีอาการของไข้ใจประเภทใดประเภทหนึ่งบ้าง ล่ะ ฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือถนอมตัวเองไว้ให้ดีจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ (เป็นอย่างน้อยที่สุด)
ปล. ขออภัยหากมันเศร้า แค่อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนมีแรงสู้ต่อไป สักวันต้องเป็นวันของเรา
1. ถ้าเธอเหนื่อยนัก หยุดพักเสียก่อน
ถ้ารถที่ขับเกิดผิดปกติขึ้นมา คุณจะจอดขางทางก่อนใช่ไหม นี่ก็เช่นกัน เป็นทางเลือกที่ฉลาดสำหรับคนที่ตกอยู่ ในห้วงทุกข์ ถ้าฝืนดันทุรังไปข้างหน้า วันแย่ ๆ อาจถึงกับเป็นวันวิบัติขั้นมาได้
2. ร้องเถิดถ้าอยากร้อง
แต่การร้องไห้นานเกินไปก็เป็นการบ่อนทำลายได้เช่นกัน เพราะความเศร้าสามารถหล่อเลี้ยงตัวมันเองได้ ยิ่งเศร้าก็ ยิ่งคิดมาก และความทรงจำไม่ดีจะยิ่งประดังประเดทับถมมากขึ้นไปอีก แต่ถ้ากลั้นน้ำตาไว้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เหมือนกัน ตอนนี้น่ะทั้งเศร้า ทั้งประสาท สิ้นหวังเต็มประดาแล้วจะทำอย่างไรดี ก่อนอื่นต้องหัดยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นให้ได้ แล้วร้องไห้แต่พอเหมาะพอควร จะให้คุณประโยชน์ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หายเครียด และ คุณจะรู้สึกสงบนิ่งขึ้น
3. หาที่มาที่ไปของเจ้าตัวร้าย
ถึงแม้จะยังไม่มีข้อสรุปแน่นอนว่า ทำไมคนเราต้องรู้สึกหดหู่ ท้อแท้ ละเหี่ยใจ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร มึนทึม และอีกหลาย ๆ ความรู้สึกที่ไม่ดี คำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด คือ ธรรมชาติสร้างให้คนต้องมีความรู้สึกเหล่านี้บ้าง เพื่อบอกให้เรารู้จักพักผ่อน และค่อย ๆ คิดว่าจะทำอะไรต่อไป
4. ตัดไฟแต่ต้นลม
ลองสืบสาวถึงเหตุการ์ที่มักทำให้หัวใจป่วยดูหลาย ๆ ครั้ง แล้วจะเห็นว่าเกิดเป็นรูปแบบที่แน่นอน นั่นก็คือร่าง กายจะส่งสัญญาณเตือนภัยออกมา เวลาที่มีบางสิ่งบางอย่างมากระทบ กุญแจไขปริศนานี้สามารถได้มาด้วยการ ฝึกฝนจิตใจตัวเองหาทางออกไปทีละ ขั้น และเหมาะสมกับการเผชิญและบรรเทาปัญหาที่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในแต่ละ ครั้ง
5. อย่าเอาแต่นอนซังกะตาย
ที่ว่าบอกให้ค่อยเป็นค่อยไปนั้น ไม่ได้หมายความให้นอนแน่นิ่ง และปล่อยให้เรื่องเลวร้ายสุมทับตัวอยู่ตรงนั้นฝ่ายเดียว เราจะต้องลุกขึ้นและสู้กับมัน การจะควบคุมระบบความนึกคิดของตัวเองนั้น ต้องกระตุ้นตัวเองให้หลุดจากปลักที่จมอยู่ ขอแค่ให้ผ่านวันนี้ไปได้ แล้วพรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
6. อย่าโทษตัวเอง
เคยสงสัยไหมว่า สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นในวันเลวร้ายของคุณน่ะ เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของตัวเองหรือคนรอบข้าง ถึงแม้การทำ ความเข้าใจและแก้ไขปัญหาจะมีประโยชน์ แต่การย้ำคิดถึงทุกสิ่งที่ผิดพลาดไปอย่างไม่หยุดหย่อน เป็นเสมือนการโทษตัวเอง ที่ทำให้วันไม่ดี วันหนึ่งเป็นสัปดาห์แห่งความทุกข์ระทมได้ การจองจำตัวเองอยู่กับคำคาดโทษตัวเองจะยิ่งเป็นอุปสรรคขวางกั้นการไปสู่หนทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ดังนั้นให้ลองถามตัวเองว่า กำลังโหดร้ายกับตัวเองเกินไปรึเปล่า? และการทำเช่นนี้ช่วยขจัดปัญหา และเตรียมให้คุณพร้อมเผชิญ เหตุการณ์ยุ่ง ยากในคราวต่อไปได้ไหม?
เราต้องยอมรับความจริงว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตกเข้าไปในหลุมดำแห่งความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง แม้แต่คนที่ดูเหมือนจะเพอร์เฟ็กไปหมดทุกอย่าง ก็คงต้องเคยมีอาการของไข้ใจประเภทใดประเภทหนึ่งบ้าง ล่ะ ฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือถนอมตัวเองไว้ให้ดีจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ (เป็นอย่างน้อยที่สุด)
ปล. ขออภัยหากมันเศร้า แค่อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนมีแรงสู้ต่อไป สักวันต้องเป็นวันของเรา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น