มารู้จักประวัติอย่อๆของแบรนด์ดังระดับโลกกันเถิดทุกท่าน!

ลำดับตอนที่ #8 : ~กินอะไร กินอะไร กินอะไร ไปกิน MK~

กินอะไร กินอะไร กินอะไร ไปกิน MK


หรือสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ทางเว็บไซต์ของบริษัทโดยตรง
http://www.mkrestaurant.com/corporate/index.html

เริ่มแรกของ MK  นั้น เกิดที่สยามสแควร์เป็นร้านอาหารไทยคูหาเดียวดำเนินกิจการโดยคุณป้าทองคำ  เมฆโต ซึ่งซื้อ
กิจการมาจาก   นาง  Makong King Yee (มาคอง คิงยี)
( ชื่อย่อ  MK ) ชาวฮ่องกง ซึ่งย้ายครอบครัวไปอยู่  Boston ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2505 คุณป้าทำกิจการมาด้วยใจรักงาน รักการบริการ จนลูกค้าที่มาอุดหนุน ติดใจกลับมารับประทานอีก และกลายเป็นลูกค้าประจำในที่สุด นั่นก็เป็นเพราะความ
"ใจดี" ของคุณป้านั่นเอง ทานแล้วไม่มีเงินจ่ายก็ติดไว้ก่อน
ป้าก็ไม่ทวง ทั้งลูกค้าทั้งเจ้าของร้านสนิทสนมกันเหมือนญาติ
รียกกันพี่ป้าน้าหลานตลอด  อาหารขึ้นชื่อสมัยนั้นมีหลายอย่างอาทิ ข้าวมันไก่ เนื้อตุ่น
แป๊ะซะปลาช่อน  ผัดไท   ผัดขี้เมา  เนื้อย่างเกาหลี  (เตาถ่านจริง ๆ) ยำแซบ ๆ ทุกชนิด  อีกทั้งมีเค้กแสนอร่อยขายตอนปีใหม่อีกด้วยกิจการเริ่มก้าวหน้ามาเป็น ลำดับจาก 1 คูหา ขยายเป็น 2 คูหา จวบจนล่วงเข้าปี 2527 ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เริ่มผุดขึ้นหลาย ๆ แห่ง คุณป้าได้รับการชักชวนให้ไปเปิดร้านในเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ของนายห้าง
สัมฤทธิ์  จิราธิวัฒน์   และให้ชื่อร้านใหม่ว่า  ร้านกรีน  เอ็มเค ซึ่งก็ยังคงเป็นร้านอาหาร
ไทยอยู่เช่นเดิม มีลูกค้ากลุ่มครอบครัวและออฟฟิศเข้ามาอุดหนุนกันอย่างคับคั่ง
คุณป้าได้รับการชักชวนให้ไปเปิดร้านในเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ของนายห้าง
สัมฤทธิ์  จิราธิวัฒน์   และให้ชื่อร้านใหม่ว่า  ร้านกรีน  เอ็มเค ซึ่งก็ยังคงเป็นร้านอาหาร
ไทยอยู่เช่นเดิม มีลูกค้ากลุ่มครอบครัวและออฟฟิศเข้ามาอุดหนุนกันอย่างคับคั่ง
ปี 2529 ก็คุณสัมฤทธิ์   ท่านนั้นอีกนั่นแหละที่ชักชวน
ให้มาเปิดร้านสุกี้  MK สาขาแรกในห้างเซ็นทรัล  
ลาดพร้าวนั่นเอง   ซึ่งขณะนี้ลูกชายลูกสาว และลูกเขย
ของคุณป้าทองคำก็ได้มาช่วยบริหารงานตามวิธีการแผนใหม่ และทำการขยายสาขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ณ ปัจจุบัน  MK มีสาขาในกรุงเทพ และต่างจังหวัด รวม ๆ กันกว่า   180 สาขา โดยใช้หลักการบริการที่นำความพอใจ มาสู่
ลูกค้าเป็นแกนนำการฝึกอบรมพนักงานอย่างจริงจัง และถนอมน้ำใจ
ของลูกน้องทุก ๆ คนเหมือนเป็นครอบครัวหนึ่ง   การตั้งหน้าตั้งตาปรับปรุงระบบงาน
ตลอดเวลา  ( Continuous  Improvement ) การเลือกทำเลร้านที่เหมาะสมตั้งราคา
อาหารให้พอเหมาะกับกำลังทรัพย์ของคนชั้นกลางและครอบครัว  เน้นการฝึกผู้จัดการ
ที่มีความสามารถ สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานค้ำจุน MK ให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง
จวบจนทุกวันนี้ แม้แต่ญี่ปุ่น ก็มีสาขาอยู่ถึง 20 สาขาแล้วเช่นกัน

MK Branch History
ปัจจุบันนี้ MK มีสาขาในประเทศไทยกว่า 161 สาขา และ
ยังขยายสาขาไปยังต่างประเทศซึ่ง ในประเทศญี่ปุ่นก็มีถึง 18 สาขาแล้วเช่นกัน
แต่ MK ก็ยังไม่หยุดยั้ง ยังคงจะขยายสาขาออกไปทั่วโลก
(แหม! อย่างนี้ก็ดีซิคะ เวลาไปอยู่ประเทศอื่น อย่างน้อยจะได้อุ่นใจว่า มี MK ที่กินเป็นไม่อดตายแน่น่อน)

รางวัล
เอ็มเค ติดอันดับ 1 ใน 5 บริษัทชั้นนำจาก 500 บริษัทชั้นนำของประเทศ
สมาคมการจัดการแห่งประเทศไทย หรือ
TMA จับมือกับศศินทร์ หรือ สถาบันบัณ-
ฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย เฟ้นหาสุดยอดองค์กรธุรกิจ
ดีเด่น แห่งปี 2547 ภายใต้โครงการ
" Thailand Corporate Excellence
Awards 2004 "
 
เอ็มเค ได้รับรางวัล Popular Advertising of the Year 2004

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองค์ จำกัด โดย
คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน (น้านิด) ได้ไปรับมอบ
โล่รางวัล "โฆษณาที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ประจำปี 2547 ประเภทอาหาร (Popular
Advertising of the Year 2004,
Category : Food)" จากโฆษณาชุด
"กินอะไร" ซึ่งมอบโดยนิตยสาร
Marketeer จากผลการสำรวจของ เอแบค
โพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อวันที่ 23
มีนาคม 2548 ที่ผ่านมา
(อยากขอบอกว่าโฆษณาชิ้นนี้ประสบความสำเร็จจริงๆคะ เพราะ ขนาดเวลาไปหากินข้าวที่ไหน แล้วมีคนถามว่าจะกินอะไร? ไอ้พลง กินอะไรๆๆ ของ MK ก็ดังแว่วลอยเข้ามาในโสตประสาททุกที ถือว่าเป็นการทำการตลาดผ่านสื่อโฆษณาได้ดีมากทีเดียว ถ้าจะขอบคุณคงต้องขอบคุณคนคิดเพลงกับ CONCEPT นั่นแหละคะ แหมทำไปด้าย!)