ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มารู้จักประวัติอย่อๆของแบรนด์ดังระดับโลกกันเถิดทุกท่าน!

    ลำดับตอนที่ #3 : ~PANTENE แชมพูพรีเมียมของไทย~

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 49


                  ~PANTENE แชมพูพรีเมียมของไทย~

    ในตลาดแชมพูของไทยนั้น มีค่าย ยูนิลีเวอร์ ครอง คอร์ปอเรทแชร์ อยู่ถึง 50 เปอเซ็นต์ด้วยกัน(โห พี่นี่พี่แกกะจะครองประเทศเลยรึไง) โดยมีซัลซิลเป็นหัวเรือในด้านการตลาดด้านเส้นผม บิวตี้ทั้งหลายแหล่
                    แต่สำหรับสายของ แชมพูพรีเมียมนั้น ยังคงไม่สามารถจะ สลัด(ถีบ เตะ ผลัก อัด)แพนทีนลงได้(แม้ว่าจะพยายามจะเป็นจะตาย) แพนทีนนั้นเป็นแบรนด์ที่คร่ำหวอดอยู่ในตลาดแชมพูโลกและในประเทศไทยมานานมิใช่น้อย แพนทีนนั้นมีแหล่งกำเนิดมาจาก บริษัทยา HOFFMAN-LA สัญชาติ SWISS(ไฟ) ซึ่งจริงๆแล้วชื่อรากเหง้าต้นตระกูลจริงๆของแพนทีนคือ PANTHENOL พอต่อมาในปี 1947 ยาสระผมนามว่าแพนทีนก็ได้ออกสู่ตลาดโลกเป็นครั้งแรก 

                  จุดพลิกล็อคของแพนทีน(ระวังอย่าสะกดเป็น ต. เต่าละ เด๋วความหมายจะกลายเป็น บาทา) ถูกเขาซื้อกิจการโดย RICHARDSON-VICKS แล้วอีก 2 ปีถัดมา ก็ถูกผลักไปให้กับ PROCTER and GAMBLE(P&G) จาก อเมริกา(ยังไม่ได้บัญญัติ คิดออกเมื่อไหร่เด๋วมาบอก) ซึ่งในปี 1991 ก็ได้เปลี่ยนชื่อมา เป็น แพนทีน โปร-วี(วิตามิน)ให้เป็นแบรนด์สากลหรูเริ่ด หลอกล่อพวกหัวสูงทั้งหลาย

                  P&G เข้ามาในตลาดไทยหลัง ยูนิลีเวอร์ถึง 55 ปี(มิน่าถามปู่ทวดถึงไม่รู้จัก) ในเดือนมิถุนา 2534 โดยแพนทีนมุ่งนักมุ่งหนาที่จะเป็นเจ้ายุธจักรในตลาดขายฟองสระผมแทนยูนิลีเวอร์เจ้าเก่า

                   โดยกลยุทธ์แรกที่พีแอนด์จีใช้ก์คือ การส่ง รีจอยส์ เข้าเปิดศึกในตลาด และก็ได้รักบการตอบรับอย่างดีเนื่องจากเป็นยี่ห่อแชมพูแบรนด์แรกที่ รวมทั้งแชมพูและครีมนวดไว้ในขวดเดียวกัน(มันก็เลยไปสะกิดต่อมขี้เห่อของคนไทยไงเล่า รวมทั้งดิฉันด้วย) แต่ก็ได้ไม่นานพอ 3 ปี ความนิยมก็เริ่มลดหดหาย เนื่องจากชาวไทยยังมักใช้ แชมพูกับครีมนวดแยกกันเพื่อความเท่ห์(มันเกี่ยวตรงไหนฟะ) และด้วยเหตุนี้พีแอนด์จี จึงงัดกลยุทธ์ไม้ตายออกมาคือการ ส่ง แพนทีนสู่สนามรบอันดุเดือด 

                   และแพนทีนก็ทำสำเร็จเนื่องจากรูปลักษณ์ของแพนทีนนั้น ดูหรูมีราคา ใช้แล้วดูมีระดั๊บ...มีระดับ(เสียงแหลมๆ) และการชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ซึ่งนอกจากจะเป็นแค่ครีมนวดแชมพูเปล่า ยังผสมวิตามิน โปรตีนจากสัตว์ นมจากวัว ปลาร้าจากไห ลงไปด้วย(อันหลังเนี่ยถ้ามีจริงๆคงเจ๋งดีนะ ใครมันจะกล้าดมหัวละวะ) ซึ่งช่วยบำรุงรักษาสภาพผม และกลยุทธ์นี้ก็ได้พลิกโฉมการแข่งขันแชมพูโดยโฟกัสหรือเจาะไปที่ฟังก์ชั่นของแชมพูล้วนๆ และกลยุทธ์นี้ก็ยังใช้มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

    ก็ต้องคอยดูต่อไปว่าซัลซิลจะสามารถเคี้ยวแพนทีนได้หรือเปล่า ในตลาดแชมพูพรีเมียม ก็คงขึ้นอยู่กับผู้บริโภคแล้วหละ...

    อ้างอิงมาจาก.... 60เส้นทางความสำเร็จของแบนด์ไทย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×