คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ~PEPSi เต็มที่กับชีวิต~
~PEPSI เต็มที่กับชีวิต~
อ้างอิงจาก: http://www.pepsithai.com/about/index.php
บทความเมื่อตะกี้ก็ได้รู้ถึงความเป็นมา ของ โค้ก โคคา-โคล่า แล้วนะคะ
ในเมื่อมี "โค้ก"แล้วเป็ปซี่จะหายไปได้ยังไง
โค้ก อยู่ที่ไหน เป็ปซี่ก็ต้องอยู่ที่นั่นเหมือนกันดังนนั้นเรามารู้จัก เป็บซี่ คู่แข่งตัวฉกาจของ โค้กกันดีกว่า...
เริ่มต้นที่นาย คาเลบ แบรดแฮม ซึ่งเป็นเภสัชกรจากเมือง นิวเบิร์น รัฐ แคโลไรนา ได้เปลี่ยนชื่อ "แบรด ดริงค์" ที่เขาได้คิดค้นปรุงขึ้นเพื่อลูกค้าในร้านขายยาของเขา ไปเป็นชื่อ ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้คือ "เป๊ปซี่ - โคคาโคล่า" ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1898
เพื่อที่จะดำรงตำรับความเป็นเครื่องดื่มที่ผสมขึ้นโดยเภสัชชกร แบรดแฮมจึงทำการโฆษณาเครื่องดื่มของเขา อย่างค่อนข้างจะเกินจริงหน่อยๆว่า "สดชื่น มีชีวิตชีวา และช่วยในการย่อยอาหาร" ในปี 1903 และได้ตั้งโรงงานบรรจุขวด เป๊ปซี่-โคล่าสาขาแรก ขึ้นที่เมืองชาร์ล็อตและเดอร์แฮม รัฐ นอร์ธ แคร์โลไลนาอีสองปีต่อมาในปี 1905
และใน ค.ศ. 1909 เป๊ปซี่ได้ดึงตัวนักแข่งรถระดับแถวหน้า บาร์นี่ โอล์ฟิลด์ ซึ่งถือเป็นพรีเซนเตอร์ผู้มีชื่อเสียงคนแรกของเป๊ปซี่ มาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาเป๊ปซี่ทางหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า"เครื่องดื่มชั้นยอด...เติมความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เป็นเครื่องบำรุงกำลังสำหรับเารแข่งขันประลองความเร็ว"
และได้เริ่มมีการใช้แนวคิดที่ว่า "รสชาติดีเยี่ยมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ" ซึ่งแนวคิดนี้ยังคงใช้ต่อกันมานานถึง 2 ทศวรรษ
ต่อมา ปี 1941 เพื่อเป็นการสนับสนุนกาองทัพอเมริกา เป๊ปซี่จึงเปลี่ยนสีของฝาขวดเป็นสีแดง ขาว และน้ำเงิน และร้านค้าเป๊ปซี่ในไทม์ แสควร์ นิวยอร์ค ได้เปิดกิจการตลอดช่วงระยะเวาลที่เกิดสงคราม ทำให้ครอบครัวกว่า 1 ล้านครอบครัวสามารถบันทึกข้อความสำหรับฝ่ายบริการของกองทัพที่อยู่โพ้นทะเลได้
พอถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ใปี1946 เกิดวิกฤติน้ำตาลขึ้นอีกครั้ง และเพื่อเป็นการแกวิกฤติครั้งนี้ เป๊ปซี่จึงซื้อกิจการปลูกอ้อยน้ำตาลในคิวบา ซึ่งถือว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเป็ปซี่คุ้มค่ามาทีเดียว เนื่องสามารถทำกำไรได้มากเพราะน้ำตาลก็ปลูกเอง ไม่ต้องไปซื้อเอาที่ไหน จึงเข้าภาษิตที่ว่า เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน
บัดนี้ ปี1947 เป๊ปซี่มีผลกำรนานาชาติสูงถึง 6,769,000 เหรียญสหรัฐ จากนั้น เป๊ปซี่ก็เริ่มรุกตลาดเข้าไปใน ฟิลิปปินส์ และตะวันออกกลาง หลังจากได้ตีตลาด แถบละติน อเมริกาแล้ว
ปี 1950เป๊ปซี่ได้ใช้สโลแกนที่ว่า"สองเท่าในราคา 5 เซ็นต์ก็เหมือนกับได้มากกว่า 1 ออนซ์ ส่งมให้เป๊ปซี่มีทศวรรษที่เต็มไปด้วยพละกำลัง เมื่อผู้บริโภคต่างก็คิดว่า เหมาโหลถูกกว่าอยู่แล้ว
แต่ว่ากลยุทธ์นี้ก็ต้องชะงักเมื่อชาวอเมริกันเริ่มหันมาตระหนักถึงเรื่องน้ำหนักตัว เป๊ปซี่จึงตอบสนองโจทย์ผู้บริโกคเกี่ยวกับเรื่องแคลอรี่ต่ำด้วยแคมเปญ "ความสดชื่นแบบแบาๆ"ในปี 1953
เป๊ปซี่ได้รับการขนานนามว่า the kitchen cola เนื่องมาจากที่เป๊ปซี่ครองตำแหน่ง ยี่ห้อที่ราคาไม่แพงเป็นเวาลานาน ในขณะเดียวกันเป๊ปซี่ก็ได้เจาะกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวที่ทันสมัยด้วยแนวคิด "อยากเข้าได้กับกลุ่มดื่มเป๊ปซี่ซิ" และใช้ขวดเกลียว เข้ามาแทนที่ขวดแบนเรียบแบบเก่าในปี 1958
ในปี 1963 ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงการศึกษาสถิติประชากรมนุษย์ที่สำคัญที่สุด ยุคเบบี้ บูมเมอร์ในช่วงหลังสงครามเป็นปรากฎการณ์ทางด้านสังคมและด้านการตลาดอันหนึ่ง เป๊ปซี่มองเห็นถึงช่องทางของความเปลี่ยนแปลงนั้น จึงกำหนดตำแหน่งของตัวเองว่าเป็น เครื่องดื่มสำหรับคนรุ่นใหม่ - เป๊ปซี่ เจเนอเรชั่น โฆษณา "Come alive! You're in the pepsi Generation" ได้สร้างประวัติศาสตร์แก่วงการโฆษณา เป็นครั้งแรกที่ ด้วยการกำหนดตัวผลิตภัณฑ์ไม่ได้อยู่ที่คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์นั้นๆ แต่อยู่ที่ลักษณะวิถีชีวิตของผู้บริโภคแทนปีถัดไปเป๊ปซี่ก็ได้ถือฤกษ์คลอด Diet PEpsi ขึ้นมา
เริ่มมีการรุกตลาดอื่นนอกเหนือไปจากตลาดเครื่องดื่ม ฟริโต-เลย์ ของ ดัลลัส, เท็กซัส และ เป๊ปซี่-โคล่า มารวมกัน กลายเป็น บริษัท เป๊ปซี่ (Pepsi Co, Inc.)
ประสบความสำเร็จกับการออกกระป๋องขนาด 12 ออนซ์ การกระจายสินค้าอย่าเต็มรูปแบบเริ่มขึ้น เมาเท่น ดิว เริ่มออกสู่ตลาดด้วยแคมเปญ "Ya-Hoo Mountain Dew
It's tickle your innards"
"Girlwatchers" แคมเปญอิสระชิ้นแรกของไดเอทเป๊ปซี่ มุ่งเน้นแนวคิดไปที่ประโยชน์ทางด้านความสวยงามที่ได้จากการดื่มโคล่าแคลอรี่ต่ำ เพลงโฆษณา "Girlwatchers" ได้รับความนิยมติดอันดับหนึ่งใน 40 จากนั้นโฆษณาของ เมาเท่น ดิว ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกชนิดหนึ่งที่ออกมาในปี 1964 ก็ตามมา โดยออกอากาศเป็นครั้งแรก กับสโลแกนที่ติดหูในทันทีที่ว่า "Ya-hoo, Mountain Dew"
ใน ค.ศ. 1999 ถือว่าเป็นปีที่เป๊ปซี่มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน เริ่มต้นที่ เป๊ปซี่และลูคัสฟิล์มร่วมมือกันในภาพยนตร์สุดฮิตเรื่อง "Star Wars: Episode I The Phantom Menace" สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคที่รอชมมานาน ด้วยกระป๋องเป๊ปซี่และขวดที่มีรูปของตัวละครในเรื่องสตาร์วอร์สทั้งหมด 24 แบบ และยังมีกระป๋องทอง "โยดา" อีกด้วย
และต่อมาก็มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้เป๊ปซี่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบใหม่ ที่แสดงความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยใช้ Pepsi Globe บนพื้นสีน้ำเงิน
เป๊ปซี่เฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปี โดยมีบริษัทผู้ผลิตขวดเป๊ปซี่-โคล่าทั่วโลกมาร่วมงาน รวมทั้งดาราดังของเป๊ปซี่ เช่น เรย์ ชาร์ลส์ (Ray Charles), Kool and the Gang และ เดอะ โรลลิ่ง สโตน
รวมทั้ง ประธานาธิบดีบุชและนางบุช นางแธ็ตเชอร์ และวอลเตอร์ ครอนไคท์ (Walter Cronkite) ยังได้ช่วยกล่าวรำลึกถึงโอกาสที่ Pepsi's legacy ได้รับการยกย่องให้เกียรติ และมีการเผยภาพลักษณ์ใหม่สำหรับสหัสวรรษใหม่ โลโก้ที่เป็นสามมิติบนพื้นสีน้ำเงิน ได้กลายมากเป็นสัญลักษณ์สากลเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของครอบครัวเป๊ปซี่ ซึ่งได้รับการปรับให้พร้อมสำหรับนวัตกรรม และความเป็นผู้นำของโลก ในขณะที่ก้าวเข้าสู่ศตวรรษใหม่นี้
คริศตศักราช 2001 ซูเปอร์สตาร์เพลงป๊อป บริทนีย์ สเปียร์ส ปรากฎตัวในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของเป๊ปซี่เป็นครั้งแรกในงานประกาศรางวัล อคาเดมี อวอร์ดส์ สปอตโฆษณาที่โด่งดังชิ้นนั้น ก็ได้เผยแพร่บนโลกอินเทอร์เน็ตด้วยเช่นกัน ซึ่งแฟนๆ กว่า 2 ล้านคน คลิกเข้าไปชมโฆษณาชิ้นนี้ของเธอ ซึ่งมีชื่อชุดว่า "the Joy of Pepsi"
เว็บไซต์ PepsiStuff.com เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสะสมแต้ม เพื่อนำมาแลกของรางวัลสุดพิเศษจากเป๊ปซี่กว่าครึ่งล้าน และนั่นก็เป็นโปรโมชั่นออนไลน์ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดชิ้นหนึ่งของเป๊ปซี่
ชากีร่า นักร้องสาวชาวโคลัมเบียผู้กำลังมาแรง เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของเป๊ปซี่ พร้อมๆ กับตอนที่อัลบั้มเพลงภาษาอังกฤษชุดแรกของเธอฮิตระเบิดในอเมริกา ในขณะเดียวกัน เป๊ปซี่ได้ตกลงเป็นผู้สนับสนุนการทัวร์คอนเสิร์ต เพลงป๊อปสไตล์ละตินของเธอไปทั่วโลก
เป๊ปซี่ เผยโฉมโรงงาน FunWraps ให้ผู้บริโภคสามารถออกแบบกระป๋องเป๊ปซี่ได้เองด้วยดีไซน์สนุกๆ และข้อความส่วนตัว และจากการที่มีกีฬา ความบันเทิง และวันหยุดหลากหลายให้เลือก ผู้ดื่มเป๊ปซี่จึงออกแบบฉลากของเขาเองสำหรับโอกาสใดๆ ก็ได้ตามต้องการ
เป๊ปซี่ใช้สโลแกน "a little twist on a great thing" แนะนำเครื่องดื่มรสมะนาว "Pepsi Twist" และ "Diet Pepsi Twist" นับเป็นการกลับมาของโคล่า รสมะนาวของเป๊ปซี่ ซึ่งจำหน่าย Pepsi Light จนกระทั่งถึงตอนกลางของทศวรรษ 80
- - ปัจจุบัน เป๊ปซี่และ โค้กยังคงคับเคี่ยวกันในการแย่งชิงตลาด แต่ก็ไม่แน่นะคะ ศัตรูแห่ง ศัตรู คือ มิตร ในอีกสัก 20 หรือ 30 ปีข้างหน้าทั้งสองบริษัทอาจจะหันหน้ามาจับมือร่วมกันเป็น เป๊ปโค้ก-โคล่า จำกัด ก็ได้ ใครจะไปรู้... - -
ความคิดเห็น