ลำดับตอนที่ #90
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #90 : [Harry Potter] Tom Riddle x Reader : A familiar gentleman [Request]
Pairing : Tom Riddle x Reader
Theme : Myst , slightly fluff
Summary : ความทะเยอทะยานนั้นสามารถปรากฏออกมาได้หลายรูปแบบ
......................................................................................................................................................................................................................
ตรอกไดแอกอนที่เดิมทีก็ครึกครื้นพอสมควรอยู่แล้วในวันธรรมดายิ่งคึกคักเป็นสองเท่าในวันหยุดสุดสัปดาห์จนบางครั้งคุณต้องเขย่งเท้าชะเง้อคอเพื่อให้มองเห็นร้านค้าตามสองฝั่งข้างทาง ส่วนมากก็ยังเหมือนเดิม ร้านเสื้อคลุมออกงานอยู่ตรงนี้ เลี้ยวไปทางซ้ายจะเจอธนาคารกริงกอตส์ตรงกลางทางแยก เลี้ยวขวาเดินไปอีกสักสองสามช่วงตรอกก็จะเป็นร้านขายพวกเครื่องยากับร้านขายอุปกรณ์กีฬา ถึงกระนั้นคุณก็ยังเข้าออกมันเกือบทุกร้าน เอาจริงเข้าไปก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้ออะไรหรอก แค่มาเดินเชยชมความงามของมันเล่นๆก็พอใจแล้ว
คุณกำลังจะกลับบ้านพอดีในตอนที่หันไปสะดุดตากับร้านค้าห้องแถวหนึ่งที่ดูใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งเปิดใหม่หรือไม่ก็ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มีประตูไม้สีเขียวมรกตเข้มเด่นสะดุดตาและมีกรอบหน้าต่างสีเงินตัดกันชวนให้เข้าไปชมสินค้าด้านในซึ่งแต่ละอย่างล้วนดึงดูดตาและดูแปลกใหม่ คุณเขยืบเข้าไปใกล้เพื่อจะอ่านป้ายชื่อขนาดใหญ่เหนือบานประตูได้ชัดๆ
' ที.อาร์.--ร้านขายของเก่าสภาพดีและวัตถุวิเศษทำเอง '
ว่าแล้วคุณก็จัดแจงสาวเท้าก้าวเข้าไปด้านใน ภายในร้านเปรียบเสมือนกับขั้วตรงข้ามของร้านบอร์เจ็นและเบิร์กสในตรอกน็อกเทิร์น ถึงจะเป็นร้านขายของมือสองและวัตถุเวทมนต์เหมือนกัน แต่ร้านของคุณตัวย่อทีอาร์นี้ให้บรรยากาศเหมือนห้องโชว์ของสะสมตามคฤหาสน์ของตระกูลพ่อมดแม่มดเก่าแก่ คือสิ่งของเกือบทุกชิ้นแทบดูไม่ออกว่าเคยผ่านมือเจ้าของคนอื่นมาก่อน แถมแต่ละอย่างช่างดูสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนที่คุณเคยเห็นในร้านไหนมาก่อน
คุณหยุดยืนดูสินค้าตัวหนึ่งบนชั้นวางติดกับหน้าต่างที่มีผ้าม่านกำมะหยี่สีมรกต มันคือรูปจำลองของมือขนาดเท่าจริงที่ทำให้คุณนึกถึงเจ้าสินค้าที่ชื่อมือแห่งความรุ่งโรจน์ในหน้าต่างร้านบอร์จินและเบิร์กเพียงแต่เจ้ามือนี่ทำจากวัสดุแก้วผสมหยกทำให้มันทั้งแวววาวเป็นสีเขียวมันวับสวยงาม แถมคุณยังแอบเห็นว่ามันมีเกล็ดสีเงินเล็กๆทอประกายระยิบระยับอยู่ในเนื้อหยกราวกับดวงดาวด้วย
" คุณตาถึงนะ น้อยคนที่จะเข้ามาแล้วสะดุดตากับ 'มือส่องปัญญา' ชิ้นนี้เป็นอย่างแรก "
เสียงนุ่มเข้มนิ่งสงบพูดด้วยสำเนียงอันเป็นเอกลักษณ์แบบที่พวกผู้ลากมากดีชั้นสูงมักจะพูดกันดังขึ้นจากด้านหลังกะทันหันทำคุณสะดุ้งโหยง เมื่อคุณหันหลังไปมองก็แทบจะลืมหายใจ เพราะผู้ที่ยืนอยู่คือชายหนุ่มรูปงามในชุดเสื้อคลุมพ่อมดยาวกรอมเท้าตัวหรูสีไม้แก่ทับเสื้อชั้นในโทนสีไล่เลี่ยกัน เส้นผมสีดำสนิทในทรงสมัยนิยมเรียบแปล้ ดวงตาสีเข้มเป็นประกาย และใบหน้าของเขา--โอ้เมอร์ลินช่วย เขามีใบหน้าหล่อเหลางดงามแบบที่มองแวบเดียวก็สามารถคาดเดาชีวประวัติบางส่วนของเจ้าตัวได้ จากท่าทางการวางตัวและรูปลักษณ์แล้ว ชายคนนี้น่าจะมาจากตระกูลเก่าแก่มีชื่อเสียง เรียนเก่งพ่วงตำแหน่งคนเด่นคนดังในสมัยเรียน แต่ในทางกลับกันก็เป็นคนที่มีลูกเล่นลูกกลและทะเยอทะยานเข้าข่ายอันตรายพอสมควรเมื่อดูจากลักษณะรอยยิ้มของเขาที่มีแววความมั่นใจทะนงตน
แต่ใดๆเหล่านั้นล้วนไม่สำคัญเท่าอะไรบางอย่างที่รบกวนจิตใจคุณอยู่ตอนนี้ คุณแอบรู้สึกว่าใบหน้าของเขาคุ้นตาแปลกๆเหมือนเคยเห็นมาก่อนที่ไหนสักที่เมื่อนานมาแล้ว
" ถ้าคุณรีบตัดสินใจล่ะก็...ผมอาจให้ราคาพิเศษนะ "
น้ำเสียงนั่นทำคุณหลุดจากอาการเหม่อ
" เอ้อ--ฉันแค่คิดว่ามันแปลกแล้วก็สวยดีน่ะ...คือฉันเคยเห็นมือคล้ายๆแบบนี้ที่ร้านๆนึงแต่ของคุณดูสวยกว่าแล้วก็ไม่น่ากลัวเท่า "
คุณพูดรัว พยายามรักษาภาพลักษณ์ตัวเองโดยการเลี่ยงไม่พูดถึงร้านขายของศาสตร์มืดและชื่อตรอกน็อกเทิร์น ไม่ใช่ว่าคุณเป็นแม่มดสายนั้นหรอกนะ ก็แค่เคยเข้าไปลองเดินเล่นครั้งเดียว(และครั้งสุดท้าย...)เพราะอยากรู้ก็เท่านั้นเอง ส่วนร่างสูงตรงหน้านั้นเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากพอใจในคำชม แต่แววตาของเขากลับบ่งบอกอะไรว่ารู้อะไรมากกว่านั้น
" อ้อ--คุณหมายถึง 'มือแห่งความรุ่งโรจน์' ของ 'บอร์เจ็นและเบิร์กส' ใน 'ตรอกน็อกเทิร์น' ล่ะสิ "
คุณกะพริบตาปริบหลังได้ยินเขาพูดชื่อเจาะจงซะครบแบบไร้ซึ่งความเกรงกลัวใดๆ โอเค อย่างน้อยลางสังหรณ์คุณก็ถูกต้องอย่างหนึ่งละ ชายคนนี้ไม่ธรรมดาของจริง
" หึ ไม่เป็นไรหรอก ความอยากรู้อยากเห็นคือกุญแจดอกแรกของความสำเร็จ "
เขาแค่นหัวเราะเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคุณนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรก่อนจะยื่นฝ่ามือออกมาข้างหน้า
" ทอม ริดเดิ้ล--ที.อาร์--คุณเจ้าของร้าน--ทอม--คุณริดเดิ้ล เรียกอะไรก็ได้แล้วแต่คุณต้องการ "
" ฉัน(...)(...) ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกัน--ทอม..."
คุณยื่นมือสัมผัสกับอีกฝ่าย ทอมเขย่ามือเล็กน้อยตามแบบฉบับแล้วผละออก ใบหน้าหล่อเหลายังคงไว้ซึ่งแววของความไว้ตัวมีมาด
" ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เจ้าสิ่งนี้มันไม่ได้ทำงานแบบของทางนั้นหรอก อยากดูหรือเปล่าล่ะ "
ฟังดูเหมือนจะเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบซะมากกว่า เพราะคุณยังไม่ทันตอบ เจ้าตัวก็หยิบไม้กายสิทธิ์ของตนที่ดูเหมือนท่อนกระดูกสีขาวขึ้นมาเสกคาถาเรียกของซึ่งเป็นเทียนไขธรรมดาหนึ่งเล่ม ทอมวางเทียนลงบนมือนั้น เทียนถูกจุดขึ้นมาทันทีเมื่อมันถูกมือนั้นกอบกำส่องแสงสว่างเรืองรองไปทั่วบริเวณ
" เข้าไปใกล้ๆสิ "
เขาเชิญ คุณค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปใกล้แบบกล้าๆกลัวๆ พอเข้าไปใกล้ในระยะแสงสว่างของเทียนแล้ว คุณก็ตกตะลึงเพราะจู่ๆในหัวก็โล่งปลอดโปร่งเบาสบาย ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายเหมือนเพิ่งผ่านการอาบน้ำแบบแช่สปามาหมาดๆ
" ผมผสมน้ำยาผ่อนคลายกับน้ำยาตื่นตัวน่ะ แล้วก็สมุนไพรเล็กๆน้อยๆที่มีสรรพคุณช่วยให้สมองแล่น ตัวช่วยทำให้การอ่านหนังสือหรือทำการบ้านเป็นเรื่องง่ายขึ้น "
แล้วทอมก็ทำเนียนถือโอกาสพาคุณเดินทัวร์รอบร้าน ซึ่งคุณไม่ได้รู้สึกว่าน่าเบื่อหรือถูกบังคับเลย ตรงกันข้าม คุณกลับรู้สึกตื่นเต้นเพราะสินค้าทุกอย่างดูน่าตื่นตาตื่นใจ รูปลักษณ์สวยงามแปลกตาแต่ไม่เข้าข่ายประหลาดพิสดาร ทุกชิ้นถูกจัดวางอย่างมีลีลาลูกเล่นชวนเข้าไปชื่นชม
" --ชิ้นนี้ผมแนะนำให้คุณใส่มันในโอกาสวันสำคัญๆอย่างเช่นเดทแรกหรือวันสอบ "
เขาผายมือไปยังสร้อยคอมรกตแสนสวยส่องประกายเส้นหนึ่งวางโชว์อยู่บนหมอนกำมะหยี่สีดำมีตู้กระจกครอบไว้อีกชั้น คิ้วของคุณย่นเข้าหากันขณะกำลังนึกว่าตัวเองคิดอยู่คนเดียวหรือเปล่าว่าสร้อยเส้นนี้มันคล้ายกับ--
" สร้อยโอปอลต้องคำสาปเหรอ--ใช่ แต่ไม่เชิง "
ทอมเสกคาถาลอยยกตู้กระจกไปไว้ที่อื่นแล้วจับสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาไว้บนมือ ทันใดนั้นคุณก็รู้สึกมีความสุขเคลิบเคลิ้มแปลกๆ จู่ๆก็รู้สึกว่าคนตรงหน้าคือบุคคลที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา รู้สึกว่าคนตรงหน้าน่านับถือเสียจนถ้าออกปากขอเพียงคำเดียวคุณก็พร้อมให้ความอนุเคราะห์ เขาเหยียดริมฝีปากนิดๆอย่างพอใจก่อนเอาสร้อยกลับไปวางที่เดิม ทันทีที่สร้อยหลุดพ้นจากมือเขา ความรู้สึกพิลึกพิลั่นนั่นก็อันตรธานหายไปด้วย
" จี้ของสร้อยเส้นนี้มีส่วนผสมพิเศษอยู่ในเนื้อมรกต ผลลัพธ์ของมันผมว่าคุณคงเห็นแล้วว่ามันเป็นยังไง ผมโชคดีที่หาวิธีดึงเอาสรรพคุณบางอย่างของน้ำยาลุ่มหลงออกมาได้ ผลที่ได้ก็เลยแค่ทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆคุณรู้สึกเอ็นดูและเมตตามากกว่าจะหลงรักหัวปักหัวปำแบบไร้สติ แต่น่าเสียดายที่ผมยังไม่สามารถหาวิธียืดเวลาออกฤทธิ์ของน้ำยานำโชคได้ มันก็เลยจะแสดงผลอ่อนลงทุกครั้งที่สวมใส่ "
นัยน์ตาสี(...)ล็อกอยู่กับสร้อยเส้นสวยอย่างสนอกสนใจ...คุณว่าคุณรู้แล้วว่าคุณจะพกเครื่องรางนำโชคแบบไหนติดตัวไปสัมภาษณ์งานในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
" เอ่อ...คุณมีของคล้ายๆสร้อยเส้นนี้แต่ขนาดเล็กเรียบง่ายกว่าไหมคะ? คือฉันอยากได้เครื่องรางสักชิ้นสำหรับพกติดตัวไว้น่ะ "
คุณลองถามดู สร้อยมรกตเส้นนั้นก็สวยดีแต่คุณรู้สึกว่ามันออกจะเด่นอลังแล้วก็หรูหราเกินไปหน่อย
" งั้นผมแนะนำเป็นแหวนหรือสร้อยคอมือแทนแล้วกัน แต่ฤทธิ์มันก็จะอ่อนกว่านะ "
ทอมตวัดไม้เปิดลิ้นชักเรียกหีบใส่เครื่องประดับออกมา ภายในคือแหวนและสร้อยคอมือสารพัดแบบ คุณหยิบจับเลือกดูอยู่สักพักก็หยิบสร้อยคอมือเส้นหนึ่งขึ้นมาซึ่งเป็นสีเงินสไตล์เรียบๆประดับด้วยพลอยสี(...)เม็ดเล็กๆทั้งเส้นดูน่ารักกะทัดรัด
" เส้นนี้เท่าไหร่คะ? "
" ห้าเกลเลียนสองซิกเกิ้ล* "
ไม่รู้ทำไมพอฟังราคาแล้วคุณอยากจะวางมันกลับที่เดิม คือคุณเห็นด้วยนะว่าวัตถุวิเศษแบบนี้มันใช้ความชำนาญเวทมนต์ระดับสูงหลายแขนงในการสร้าง แต่คุณก็ยังแอบคิดว่ามันแพงไปสำหรับสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งอยู่ดี...
สุดท้ายคุณก็วางมันคืนที่เดิมจริงๆ
" เอ่อ...ฉันว่าจะลองไปหาเครื่องรางแบบอื่นที่พอทดแทนได้ดีกว่า--"
" --คุณหาที่ไหนไม่มีหรอก--เพราะสินค้าทุกชิ้นผมสร้างเองกับมือ "
ริมฝีปากคมยกขึ้นนิดๆเจือความมีชัย นาทีนี้แหละที่คุณฟันธงได้ว่าทอมนั้นมีลูกเล่ห์ลูกกลสูงจริงๆ เพราะเขาไม่ได้เหมือนกับพ่อค้าบางคนที่เลือกทำตัวกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อลูกค้าออกอาการลังเลหรือปฏิเสธ แต่เขากลับเลือกที่จะใช้ถ้อยคำโน้มน้าวอันนุ่มนวลแต่จี้ใจได้ตรงจุด แถมท่าทางการยืนมองปฏิกิริยาลูกค้าอย่างใจเย็นสงบนิ่งพินิจพิจารณานั้นอาจดูเผินๆเหมือนเขาเป็นพ่อค้าที่สุภาพธรรมดา แต่หารู้ไม่ว่าการทำแบบนี้นี่แหละคือการกดดันทางอ้อมแบบมืออาชีพที่แท้จริงเพื่อเร่งให้ลูกค้าตัดสินใจ
ในที่สุด หลังเวลาผ่านไปราวศตวรรษตามความรู้สึกของคุณ สุดท้ายถามว่าซื้อไหม...หึ...เจอออร่าพ่อค้ากดดันระดับนั้นจะเหลือเรอะ ซื้อสิคะ!
" อ่า...ง-งั้นเอาเส้นนั้นแหละค่ะ... "
เขาผงกศีรษะ รับเงินมาแล้วจัดการห่อของให้ด้วยกระดาษสีเขียวแก่และริบบิ้นม้วนสีเงิน ระหว่างรอคุณก็สำรวจข้าวของอื่นไปเรื่อยแล้วก็อดอยากรู้ไม่ได้
" อยากรู้จังว่าคุณไปหาวัตถุดิบบางอย่างมาได้ยังไง..."
" ก็ไม่ยากหรอกนะ...ถ้าคุณรู้เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆว่าจะเอามันมาได้ยังไง...และต้องไปหาใคร "
ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยเช่นนั้น
ตาคนนี้นี่เด็กบ้านสลิธีรินแหงๆเลย!
คุณตัดสินใจไม่ถามต่อ เมื่อรับของมาได้แล้วก็จัดแจงขอตัวกลับโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีก ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกสังหรณ์แปลกๆว่าจะมีแววไดิรับคำตอบประเภทอึ้งกิมกี่หากซักไซ้อีกฝ่ายเพิ่ม
.
.
.
.
.
.
.
.
วันจันทร์มาถึงไวยิ่งกว่าโกหก คุณเดินทางมาสัมภาษณ์งานด้วยชุดเสื้อคลุมใหม่เอี่ยมและแน่นอนว่าไม่ลืมสร้อยข้อมือนำโชคราคาหูฉี่ที่ซื้อเมื่อวันนั้น คุณกวาดสายตาทอดมองวิวอันคุ้นตาของปราสาทฮอกวอตส์ที่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองซึ่งคุณสุดจะคิดถึง คุณกำลังมุ่งหน้าไปยังห้องพักของพวกอาจารย์ในตอนที่คุณสะดุดตาเข้ากับภาพถ่ายของบุคคลหนึ่งในกรอบรูปรวมประธานนักเรียนรุ่นต่างๆของโรงเรียนที่วางโชว์ในตู้รางวัล
คุณเพ่งมองภาพถ่ายของชายหนุ่มรูปหล่อในชุดเสื้อคลุมเครื่องแบบบ้านสลิธีรินของโรงเรียนในท่าทางสง่าภูมิฐาน ริมฝีปากกระตุกยิ้มจางๆแบบคนฉลาดเฉลียว ดวงตาสีเข้มเป็นประกายฉายแววเล่ห์เหลี่ยมคุ้นเคย คุณปรายสายตาเลื่อนไปเห็นชื่อที่สลักอยู่บนโล่ประกาศที่วางข้างๆกัน
' ทอม ม. ริดเดิ้ล-ประธานนักเรียนปี 1945 '
พอได้เห็นทั้งรูปและชื่อก็ทำคุณร้องอ๋อ ก็ว่าอยู่ว่าทำไมคุ้นหน้าคุ้นชื่อจัง ที่แท้ทอมเจ้าของร้านคนนั้นก็คืออดีตรุ่นพี่ของคุณนี่เอง เมื่อถึงที่หมาย คุณคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ผู้นัดหมายกำลังมีแขกเพราะเก้าอี้ตัวหนึ่งหน้าโต๊ะทำงานของเขาถูกจับจองโดยผู้ชายร่างสูงผมสีเข้มคนหนึ่ง
" อ้า! กำลังรออยู่พอดี เชิญนั่งก่อนสิ "
เขายิ้มรับ ผายมือมาที่เก้าอี้อีกตัว คุณก้าวขาเข้าไปและหย่อนตัวลงนั่ง จังหวะนั้นเองที่คุณหันไปมองชายคนข้างๆ...
" สวัสดีครับ--(...) "
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคือคนที่รู้ว่าใครนั่นล่ะ...
" ทอมเขาแวะมาเยี่ยมน่ะ เธออาจจะไม่ค่อยเห็นเขาเพราะตอนเธออยู่ปีหนึ่งเขาก็อยู่ปีสุดท้ายพอดี แถมแบกงานโรงเรียนไว้เต็มบ่าอีก "
" แต่ผมก็ทำได้ดี "
เจ้าตัวแย้งขึ้นแทบจะทันทีด้วยน้ำเสียงเข้มแสดงความมั่นใจกึ่งไม่สบอารมณ์นิดๆ
" ฉันไม่เถียงว่าเป็นเช่นนั้นจริง "
ดัมเบิลดอร์เอ่ยพร้อมใบหน้าประดับยิ้มเมตตา
" งั้นผมขอตัวก่อน โชคดีครับศาสตราจารย์--และคุณด้วย (...)--ขอให้โชคดี "
ทอมพยักหน้าให้พวกคุณทั้งคู่ เขาหันกลับมามองคุณอย่างมีเลศนัยสื่อความก่อนจะทำท่านิ้วเคาะข้อมือปรายตาชำเลืองนิดๆไปทางข้อมือของคุณที่สวมสร้อยข้อมืออยู่ ริมฝีปากเขากระตุกยิ้มอย่างรู้แกวก่อนเจ้าตัวจะหยัดลุกออกไปจากห้อง
" เอาล่ะ ก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์งาน ฉันเดาว่าเธอคงเป็นหนึ่งในคนที่หลงเสน่ห์วาทศิลป์ของทอมสินะ "
ดัมเบิลดอร์ชำเลืองมองสร้อยข้อมือของคุณแล้วยิ้มอย่างใจดีเมตตาแต่แฝงความหมาย เขาเดินกลับไปนั่งประจำโต๊ะตามเดิม และการสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้น น่าแปลกที่ตลอดช่วงเวลานั้นคุณรู้สึกว่าหัวสมองโล่งปลอดโปร่ง ความตื่นเต้นที่กระจุกแน่นในอกตั้งแต่เช้าอันตรธานหายไปจนหมดสิ้นแบบปริศนา ซึ่งคุณก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นเพราะบรรยากาศผ่อนคลายจากศาสตราจารย์ผู้คุ้นเคยหรือเป็นเพราะฤทธิ์มนต์ของสร้อยข้อมือ แต่เมื่อคุณเห็นใบหน้าระบายรอยยิ้มกว้างของดัมเบิลดอร์ คุณก็มั่นใจว่าตัวเองได้งานแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
" --เหรอคะ? เห็นเขาบอกว่าของทุกชิ้นเขาทำเอง "
" ก็ใช่ แต่คนสไตล์อย่างทอมน่ะไม่ค่อยจะลงมือทำเองนักหรอก เขามีลูกทีมช่วย ทอมน่ะเป็นคนต้นคิด ส่วนพวกเขาก็เป็นคนทำออกมา "
ดัมเบิลดอร์ยกบัตเตอร์เบียร์สูตรพิเศษจากร้านไม้กวาดสามอันขึ้นกระดก ตอนแรกคุณวางแผนไว้ว่าสัมภาษณ์เสร็จก็จะกลับเลย แต่ศาสตราจารย์วิชาแปลงร่างมีความคิดอื่นที่เข้าท่ากว่านั้น คือการเลี้ยงอาหารกลางวันแทนการต้อนรับคุณล่วงหน้า
" ขอถามได้ไหมว่าซื้อมาเท่าไหร่? "
เขาปรายนิ้วไปทางสร้อยข้อมือของคุณ
" ห้าเกลเลียนกับสองซิกเกิ้ลค่ะ แต่ทอมคงเห็นว่าฉันชอบมันมากเลยลดราคาให้เหลือสี่เกลเลียนถ้วน "
ดัมเบิลดอร์ย่นคิ้วขมวดกันด้วยความสงสัยขณะลูบเคราสีน้ำตาลแดงของตนระหว่างครุ่นคิดไปด้วย
" แปลกนะ "
" คะ? "
" ตั้งแต่ฉันรู้จักทอมมา...ฉันแน่ใจว่าฉันไม่เคยเห็นเขายอมลดราคาให้ใครคนไหนเลย แม้กระทั่งลูกค้าขาประจำก็เถอะ "
คุณกะพริบตาปริบอึ้งไป การที่รู้ว่าตัวเองได้สิทธิพิเศษกว่าคนอื่นนั้นทำคุณเลือกไม่ถูกทีเดียวว่าควรทำสีหน้าหรือรู้สึกอย่างไรดี ควรจะรู้สึกภาคภูมิใจหรือควรจะรู้สึกวิตกกังวลดีว่าอาจมีอะไรอย่างอื่นแอบแฝงอยู่ในสิทธิพิเศษนั้น
.
.
.
.
.
.
.
.
ขอบคุณสวรรค์ที่ในที่สุดคุณก็สามารถหาเวลาว่างกลับมาเดินเล่นที่ตรอกไดแอกอนได้สักทีในรอบหลายเดือนหลังได้แต่หมกตัวในปราสาทสอนหนังสือเหล่านักเรียนจอมแสบ แต่ใครจะไปนึกว่าขณะเดินเล่นเพลินๆ จู่ๆก็มีมือปริศนาคว้าแขนคุณไว้ แล้วภาพรอบตัวก็หมุนวืดไป
คุณมาโผล่อีกทีในตรอกมืดๆระหว่างร้านขายนกฮูกอายล็อปส์และร้านอะไรสักอย่างที่มืดทึมพอๆกัน คุณรีบตวัดหันไปเตรียมจะอ้าปากด่าก็จำต้องปิดปากเงียบเมื่อพบว่าบุคคลดังกล่าวไม่ใช่คนเฟอะฟะที่ไหนแต่เป็นชายหนุ่มนามทอม ริดเดิ้ลเจ้าเก่าคนเดิม วันนี้เขาอยู่ในชุดลำลองดูสบายขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความเรียบหรูเพราะเสื้อคลุมยาวหนังสีดำปักดิ้นขอบสีเงินที่สวมทับกับเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีคาราเมลไหม้
" อะไรของคุณเนี่ยห๊ะ เล่นอะไรก็ไม่รู้ "
คุณเอ็ด คำตอบที่ได้จากอีกฝ่ายคือใบหน้าเรียบเฉยและแววตาเป็นประกายประหลาดจ้องกลับมา
" หลังจากวันนั้นผมก็เห็นคุณอีกแค่ครั้งเดียวแล้วก็ไม่เจออีกเลย พอได้เจออีกทีก็อดไม่ได้ที่จะทักทาย "
คุณมองค้อนอีกฝ่ายด้วยอารามตกใจที่ค้างอยู่จึงทำให้รู้สึกเคืองอยู่หน่อยๆ
" อ๋อ เพราะฉันงานยุ่งน่ะสิก็เลยไม่ได้มา--อีกอย่าง ถ้าอยากทักก็ทักกันตรงนั้นได้ไหมล่ะ ไม่เห็นต้องพาหายตัวให้มันซับซ้อน "
คราวนี้ริมฝีปากคมกระตุกขึ้นเล็กน้อย
" นั่นเพราะผมต้องการความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะตอนที่พกของมีค่าไว้กับตัว "
ทอมเบาเสียงตรงประโยคหลังก่อนเจ้าตัวจะเปิดเสื้อคลุมยาวออกให้คุณดูวัตถุบางอย่างในกระเป๋าด้านในซึ่งเป็นเขี้ยวสัตว์สีขาวสะอาดขัดมันอันหนึ่งที่มีขนาดเกือบเท่าครึ่งแขน คุณไม่รู้หรอกว่ามันคือเขี้ยวของตัวอะไร คุณรู้แค่ว่าขนาดฟันยังใหญ่มหึมาซะขนาดนี้ คุณก็ไม่คิดว่าตัวเองอยากรู้แล้วว่ามันคือสัตว์อะไรหรือมีขนาดตัวเท่าไหร่
" เขี้ยวมังกรน่ะ ว่าจะเอาไปทดลองกับแร่วิเศษดูว่าฤทธิ์จะเป็นยังไง "
เขาอธิบาย สายตาจ้องมันด้วยความชื่นชม แต่คุณกลับทำตรงข้าม คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันขณะครุ่นคิดพิจารณา
ถ้าจำไม่ผิด...การซื้อขายมังกรและชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆของพวกมันนี่ผิดกฎหมายไม่ใช่เหรอ...
ราวกับอ่านใจได้ เมื่อนัยน์ตาสี(...)เงยสบกับนัยน์ตาสีเข้ม ร่างสูงก็ยกนิ้วชี้ขึ้นทาบริมฝีปากแล้วเปลี่ยนนิ้วนั้นมาเคาะเบาๆบริเวณขมับ
" ถ้าผมทำสำเร็จแล้วก็อาจจะเอามาให้คุณทดลองเป็นกรณีพิเศษแล้วกัน "
คุณฉุกคิดขึ้นมาได้เมื่อได้ยินคำว่า 'พิเศษ'
" พูดแล้วก็นึกได้ ดัมเบิลดอร์เคยบอกฉันว่าคุณไม่เคยลดราคาให้ลูกค้าคนไหนเลย มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า? "
ริ้มฝีปากหยักเป็นรอยยิ้มจางๆมีเลศนัยทำให้คุณเริ่มทบทวนว่าตัวเองคิดถูกหรือเปล่าที่ถาม
" ลองเดาสิ...เพราะอะไรกันนะ... "
" พ-เพราะฉันเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน "
เขาแค่นหัวเราะแล้วส่ายหัวก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาระดับเดียวกัน ปอยผมสีดำสนิทที่ตกลงมาปรกหน้าขับให้เจ้าตัวดูดีขึ้นไปอีกเท่า
" ก็เพราะว่า..."
แล้วเขาก็จัดการทำสิ่งที่คุณไม่คาดคิด ฝ่ามือใหญ่ประคองศีรษะของคุณเอาไว้ก่อนใบหน้าหล่อเหลาคมคายโน้มลงมาประทับริมฝีปากฝังจมูกลงบนพวงแก้มอย่างอ่อนโยนแต่รวดเร็ว
" อ-อะไร--"
คุณอุทานอย่างตกตะลึง แต่ก็ถูกนิ้วชี้ผอมเรียวยกทาบบนริมฝีปากสะกดกลั้นถ้อยคำเอาไว้ก่อนเจ้าของนิ้วจะยกยิ้มมุมปากสื่อนัยบางอย่างแล้วหายตัววับไป
ใช้เวลาสักพักกว่าสติสตังจะกลับมาตามเดิม ขณะที่คุณกำลังย้อนภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ คุณกลับรู้สึกถึงน้ำหนักปริศนาภายในกระเป๋าเสื้อคลุม คุณล้วงมือหยิบขึ้นมาก็ตกตะลึงเมื่อพบว่ามันคือสร้อยข้อมืออีกเส้นนึงแต่คราวนี้ประดับด้วยทับทิมสลับกับไพลินมาพร้อมกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง คุณหยิบออกมาคลี่อ่านข้อความที่เขียนไว้ด้วยลายมือวิจิตรสวยงาม
'คุณเป็นคนที่น่าสนใจดีนะ--ผมชอบ'
.......................................................................................................................................................................................................................
ป.ล.1 จัดนักธุรกิจเวทมนต์มาอีกหนึ่งตามคำขอของคุณรี้ดเน้อ เอาจริงตอนแรกไรต์คิดว่าคุณทอมนี่จะเขียนง่ายกว่าคุณกรินเดลวัลด์ ปรากฏว่าไม่จ้าาา เขียนยากกว่าเยอะ คุณกรินเดลวัลด์เขามีแนวโน้มไปทางวาทศิลป์กับเสน่ห์ แต่คุณทอมนี่มีมิติซับซ้อนก็ต้องตีความลึกกว่านี้ ไรต์เลยกลับไปอ่านแฮร์รี่เล่มหกอีกรอบ สุดท้ายก็ออกมาแบบนี้แล...คือในความรู้สึกไรต์นะ ไรต์คิดว่าวาทศิลป์ของคุณทอมส่วนมากจะออกมาตอนที่เขาพูดโน้มน้าวเอาใจใครเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ (เช่นตอนที่เขาตีสนิทกับเฮปซิบาห์ สมิธเพื่อจะดูถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟกับล็อกเก็ตสลิธีริน นี่ก็สุภาพบุรุษโรแมนติกมาเชียว) ส่วนคนที่เขาเฉยๆไม่ได้อะไรเป็นพิเศษก็จะออกแนวเงียบๆขรึมๆหน่อย (เช่นตอนคุยกับดัมเบิลดอร์หรือตอนเค้นศาสตราจารย์ซลักฮอร์นเรื่องวิธีทำฮอร์ครักซ์ก็เอาซะเจาะจงตรงประเด็นไม่มีการอ้อมค้อมใดๆทั้งสิ้น รู้สึกนึกคิดอยากรู้อะไรก็พูดออกมาตามนั้น...) ถึงเขาจะไม่ได้เป็นพ่อมดศาสตร์มืดหรือสติแตกแบบในเรื่องจริง แต่ด้วยบุคลิกนิสัยของเขาไรต์ว่ามันก็มีบ้างที่เขาจะยังเหลือคราบของความทะเยอทะยาน ความรักศักดิ์ศรี ความแอบร้ายไม่เกรงกลัวสรรพสิ่งใดๆอะไรทำนองนี้อยู่บ้างอ่ะนะ...
ป.ล.2 พูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกนี่ก็ต่างกับคุณกรินเดล ไรต์คิดว่าคุณทอมน่าจะเป็นนักธุรกิจที่ไม่ได้มีสไตล์แฟชั่นระดับรันเวย์แบบเดินไปไหนก็โดดเด่น แต่เขาจะน่าจะเน้นอะไรที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนแต่ก็ดูหรูให้อารมณ์ทายาทตระกูลเก่าแก่ไรงี้
ป.ล.3 ชอบไม่ชอบ ถูกใจไม่ถูกใจยังไงก็ติชมบอกกันได้เช่นเดิมจ้า
ป.ล.4 อาทิตย์หน้าไรต์ขออนุญาตหายตัวเนื่องจากไปญี่ปุ่นจ้า (เจอกันอีกทีวันอาทิตย์ที่ 20 แต่อาจมีตอนสั้นหรือ Drable อัพให้ก่อนถ้ามีเวลาแต่งเน้อ )
ป.ล.สุดท้าย คิวรีเควสจ้า
1. All Might [Boku no Hero Academia]--Coming soon
2. Hiei [Yu Yu Hakusho]
3. Gavin Reed [Detroit Become Human]
4. Charles Grey [Black Butler]
5. Akashi Seijuro [Kuroko no Basuke]
6. Shoto Todoroki [Boku no Hero Academia]
7. Kuroko Tetsuya [Kuroko no Basuke]
8. The Legion [Dead By Daylight]
9. Levi Ackerman [Attack on Titan]
10. Cedric Diggory [Harry Potter]
11. Matsuoka Rin [Free!]
12. Giant [The Iron Giant]
13. Theseus Scamander [Fantastic Beast]
14. Akaashi Keiji [Haikyuu!!]
15. Tsukishima Kei [Haikyuu!!]
16. Mukami Yuma [Diabolik Lovers]
17. Akai Shuichi [Detective Conan]
18. Okiya Subaru [Detective Conan]
19. Bakugo Katsuki [Boku no Hero Academia]
20. Akabane Karma [Assassination Classroom]
21. Killua Zoldyck [Hunter x Hunter]
22. Pharaoh Atem [Yu-Gi-Oh!]
23. Connor RK800 [Detroit Become Human]
24. Saiki Kusuo [The Disastrous Life of Saiki K.]
25. Uchiha Shisui [Naruto]
26. Trafalgar D. Water Law [One Piece]
27. Kuroo Tetsuro [Haikyuu!]
28. Nara Shikamaru [Naruto]
29. Belphegor [Katekyo Hitman Reborn]
30. Kagami Taiga [Kuroko no Basuke]
31. Leon Kennedy [Resident Evil]
32. Ray [The Promised Neverland]
33. Norman [The Promised Neverland]
34. Giotto [Katekyo Hitman Reborn]
35. Eddie Gluskin [Outlast]
36. Captain America [Marvel]
37. Okumura Rin [Blue exorcist]
38. Kris [Seven Night]
39. Gon Fleece [Hunter x Hunter]
40. Kise Ryouta [Kuroko no Basuke]
41. Takao Kazunari [Kuroko no Basuke]
42. Izuki Shun [Kuroko no Basuke]
43. Michael Meyer [Halloween]
44. Jonathan Kent [DC-Super Sons]
45. Jotaro Kujo [JoJo's Bizarre]
46. Kira Yoshikage [JoJo's Bizarre]
47. Bumblebee [Transformer]
48. Wen Ning [Mo Dao Zu Shi]
49. Vergil [Devil May Cry]
50. Star-Lord [Marvel]
51. Thor [Marvel]
52. Wei Wuxian [Mo Dao Zu Shi]
53. Lan Wangji [Mo Dao Zu Shi]
54. Jafar [Magi]
55. Erwin Smith [Attack on Titan]
56. Aizen Sosuke [Bleach]
57. Yoshida Shouyou/Utsuro [Gintama]
58. Ryan Clayton [Beyond: Two Souls]
59. Black Hat [Villainous]
60. Kiji Mitsuba [Nanbaka]
61. Tsunayashiro Tokinada [Bleach: Can't fear your own world]
62. Ichimaru Gin [Bleach]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น