ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All + Reader ตัวละครแสนรัก [ปิดรับรีเควสชั่วคราวจ้า]

    ลำดับตอนที่ #38 : [Detroit Become Human] Markus x Reader : Prank Painter

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 919
      63
      26 ส.ค. 61

    Pairing : Markus x Reader
    Theme : คู่รักนักศิลปิน
    Summary : วันแห่งการสร้างสรรค์ศิลปะแสนสนุกของมนุษย์หนึ่งคนและแอนดรอยด์หนึ่งตัว
    Warning!! : 1. มีการสปอยล์เนื้อเรื่อง + ตอนจบของเกมเช่นเดิม
                            - เนื้อเรื่องกะตอนจบที่ว่าคือของคุณพี่เอกHRKเจ้าเก่าจ้า
                            2. คำหยาบและคำสบถมีนิดๆหน่อยตอนท้ายเพื่อให้เข้ากับบุคลิกของตัวละคร





    ...................................................................................................................................................................................................................


            คุณขยับตัวขยุกขยิกไปมาบนม้านั่งเล็กๆโดยที่ยังเกร็งร่างกายของตนเองค้างเอาไว้อยู่ในท่าเดิมด้วยความไม่ค่อยจะสบายตัวนัก ในหัวของคุณตอนนี้อัดแน่นตื้อไปด้วยรายชื่อสารพัดกิจกรรมบินว่อนไปมาในหัวที่คุณวางแผนไว้ว่าจะทำในวันนี้ เริ่มต้นยามเช้าด้วยการตะลอนดูซีรี่ส์เรื่องโปรดจนจบซีซั่นให้ตาแฉะพร้อมขนมถุงกรุบกรอบไซส์สุดยอดจัมโบ้บนตัก จากนั้นเปลี่ยนอิริยาบถมานั่งตาค้างแช่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์สักสองสามชั่วโมงท่องโลกอินเตอร์เน็ตดูโน่นดูนี่ มื้อเที่ยงก็หาอะไรเรียบง่ายเช่นบะหมี่สักถ้วยหรือขนมปังสักถุงก่อนจะตบท้ายด้วยการท่องโลกแห่งการช้อปปิ้งตลอดเวลาที่เหลือยามบ่ายแล้วค่อยกลับมาที่บ้าน ชื่นชมกับสมบัติต่างๆที่สอยกลับมาได้ แต่แพลนทุกอย่างก็ล่มเหลวเป๋วไม่เป็นท่าเมื่อมาร์คัส แฟนหนุ่มแอนดรอยด์ผู้มีอารมณ์ศิลปินโผล่หน้าเข้ามาบอกตอนที่คุณกับคาร์ลกำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารเช้าอยู่ว่าวันนี้เขาอยากได้คุณมาเป็นตัวแบบสำหรับวาดภาพ ทีแรกคุณกะว่าจะปฏิเสธ แต่เมื่อนัยน์ตาสี(...)มองสบเข้ากับนัยน์ตาอัญมณีต่างสีสุกปลั่งเปล่งประกายวับวาวตัดกับผิวสีเข้มของอีกฝ่ายที่กำลังส่งอารมณ์สีหน้าเว้าวอนมาให้เป็นช่วงๆ...ใครจะปฏิเสธลงล่ะจริงไหม?

            พอตัดสินใจแบบนั้นแล้วเป็นยังไงล่ะ...คุณเลยได้ใช้เวลาเกือบชั่วโมงหมดไปกับการนั่งเกร็งค้างเติ่งอยู่ในท่าเดิมที่มาร์คัสทำการจัดแจงให้ ถึงเขาจะไม่ได้ให้คุณทำท่าอะไรอลังการงานสร้าง แต่การต้องอยู่นิ่งๆในท่าเดิมเป็นเวลานานๆนี่ยังไงก็ปวดเมื่อยอยู่ดี...

            " เสร็จหรือยังเนี่ย.."

    คุณทำทีบ่นขึ้นลอยๆเมื่อแอบชำเลืองเห็นว่าอีกฝ่ายยังลงมือปาดพู่กันไปมา ไม่มีสัญญาณใดๆบ่งบอกถึงความสำเร็จ

            " แป๊ปนึง "

            เสียงทุ้มดังตอบกลับขึ้นมาเบาๆในอากาศโดยที่ครึ่งตัวท่อนบนของเจ้าของเสียงยังคงซ่อนอยู่หลังผ้าใบสำหรับวาดภาพ หน้าอกของคุณยกพองขึ้นสูงจากการสูดหายใจก่อนที่คุณจะพ่นลมออกมาแรงๆด้วยความไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่นัก

            " สิบนาทีที่แล้วคุณก็บอกแบบนี้ อีกแป๊ปๆที่ว่าน่ะอีกนานแค่ไหนเล่า "
    คุณหน้ามุ่ย เสียงหัวเราะดังแว่วออกมาหลังผ้าใบและขาตั้ง
            " อีกนิดเดียวน่า "
    เสียงทุ้มเสียงเดิมตอบกลับมา คราวนี้นัยน์ตาต่างสีชะโงกโผล่ออกมามองคุณด้วย คุณยกมือลูบหน้าลูบตาพลางบิดขี้เกียจแก้อาการปวดเมื่อย
            " นี่...อย่าขยับสิ "

            นัยน์ตาต่างสีโผล่ออกมาอีกรอบ มาร์คัสขมวดคิ้วเข้มเป็นเชิงเอ็ดก่อนจะหายกลับเข้าไปเหมือนเดิม คุณหรี่ตาลงด้วยความสงสัย ทำไมเขาใช้เวลาวาดนานจัง...จะว่าไป...เขาเงียบหายนานเป็นพักใหญ่แล้วเหมือนกันนี่นา...

            " เดี๋ยวนะ...นี่คุณทำเสร็จถึงตรงไหนแล้ว? "
    คุณถามอย่างสงสัย รอบนี้เขาโผล่ออกมาจากหลังผ้าใบทั้งใบหน้า คิ้วเข้มข้างหนึ่งเลิกขึ้นน้อยๆ
            " หืม? "
            " ฉันถามว่าคุณทำถึงตรงไหนแล้ว? ถ้าคุณเหลือแค่ตกแต่งหรือเก็บรายละเอียดละก็ฉันจะได้ลุก "
    ครั้งนี้คิ้วเข้มสองข้างเลิกขึ้นพร้อมกัน ขับให้นัยน์ตาสีฟ้าและเขียวอย่างละข้างของมาร์คัสโดดออกมา
            " อืม...นั่นสินะ... "
    ตาของเขาฉายประกายความขบขันอยู่เสี้ยววินาทีหนึ่ง นัยน์ตาสี(...)หรี่ลงเมื่อสัมผัสได้ถึงพิรุธนั้น
            " มาร์คัส...เอาดีๆ ทำถึงไหนแล้ว? "

            คุณกดน้ำเสียงตัวเองให้ทุ้มต่ำลงแสดงถึงความหนักแน่นและความจริงจัง แต่ริมฝีปากของเจ้าตัวกลับหยักยิ้มเจือจางที่มุมราวกับเป็นเชิงหยอก อากัปกิริยานั้นทำให้คุณร้องสบถออกมาด้วยความหัวเสียเพราะรู้ตัวแล้วว่าโดนแกล้ง

            " โธ่เอ๊ย! มาร์คัส! "

            คุณฟึดฟัดลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ตั้งต้นก้าวขาจ้ำอ้าวตรงปรี่ไปหลังผ้าใบ คุณกระทืบตบเท้าลงกับพื้นอย่างหัวเสียเมื่อพบว่าภาพบนผ้าใบนั้นเหลือเพียงส่วนที่ยังลงสีไม่เสร็จคือส่วนของพื้นหลังเท่านั้นที่มีสีแต้มไปเพียงครึ่งเดียว นอกนั้นยังเป็นสีขาวของเนื้อผ้าใบอยู่ แต่ภาพหลักของตัวคุณนั้นเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว

    ป้าบ!

            คุณจัดการตีไหล่ของร่างสูงไปทีหนึ่ง มาร์คัสไม่ได้ดูสะทกสะเทือนอะไร ใบหน้าคมของเขายังดูสบายๆด้วยคิ้วข้างหนึ่งที่เลิกสูงขึ้นบวกกับประกายความทะเล้นน้อยๆในดวงตา ตรงกันข้ามกับคุณที่กลับกลายต้องเป็นฝ่ายนวดคลึงมือด้วยความเจ็บแทนซะงั้น...ไม่รู้ว่าแอนดรอยด์ตัวอื่นจะแข็งแรงเท่านี้หรือเปล่าเพราะคุณเองก็ไม่เคยหยอกพวกเจริโค่หรือคอนเนอร์เล่นแบบนี้

            " เจ็บใช่ไหมล่ะ ตีผมซะดังเลย "
    เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นคุณยังบีบนวดมือนั้นอยู่
            " ไม่เจ็บ "
    คุณตอบปากแข็ง 

    ยอมรับไปตรงๆก็เสียฟอร์มหมดสิ ไม่มีทาง

            " แน่ใจว่าไม่เจ็บ? "
    เขาเอามือไพล่หลังแล้วถามอีกที คิ้วเข้มทั้งสองข้างเลิกขึ้นสูงเหมือนเวลาที่เขาจับไต๋ใครสักคนได้ คุณหันไปทำหน้าบึ้งใส่เขา
            " บอกว่าไม่เจ็บไง "
    เขาคลายแขนข้างหนึ่งพลางยื่นมือออกมาคว้ามือคุณ คุณสะดุ้ง รีบชักมือออก
            " ก็...เจ็บนิดหน่อย..."

            คุณพึมพำพลางถูๆมือตรงตำแหน่งที่เจ็บ ริมฝีปากคมของคนตรงหน้ากระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ เขาคว้ามือคุณอีกรอบด้วยท่าทางนุ่มนวลกว่าทีแรกหลังจากรู้ว่าคุณเจ็บ เขาจุมพิตหลังฝ่ามือข้างนั้นอย่างแผ่วเบาส่งผลให้อุณหภูมิบริเวณมือกับใบหน้าของคุณพุ่งสูงขึ้นทันที

            " หายเจ็บหรือยัง? "
    เขาถาม คุณหลุบตาก้มหน้าต่ำ
            " ห-หายแล้ว..."
    คุณตอบโดยที่ยังไม่ยอมสบตาเขา เขาถอนหายใจเบาๆพลางยกมือใหญ่ขยี้ผมสี(...)ของคุณก่อนจะหย่อนตัวนั่งตามเดิม
            " คุณมีแผนจะไปทำอะไรหรือเปล่า? ผมไม่แกล้งตัวแบบละ "
    เขาพูดหยอก คุณมองค้อนเขาทีหนึ่งต่อด้วยนาฬิกาข้อมือ
            " ตอนแรกว่าจะดูหนังแล้วค่อยไปห้าง...แต่หลังจากโดนคุณทรมานให้นั่งเฉยๆในท่าเดิมมาชั่วโมงนึงนี่ฉันชักก็ชักจะขี้เกียจแล้วล่ะ "
    คุณตอบ หันไปหาคู่สนทนา นัยน์ตาสี(...)กวาดไล่สำรวจดูเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบของมาร์คัส ในวินาทีนั้นเอง ไอเดียบางอย่างก็แล่นเข้ามาในโสตประสาท

    ฉันหาวิธีแกล้งคืนได้แล้ว~

            คุณสะกดกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ขณะเดินอ้อมไปข้างหลังก่อนจะค่อยๆพันแขนโอบรอบคอกอดมาร์คัสจากทางด้านหลัง คุณเอาคางเกยบนศีรษะของอีกฝ่าย ผมสีดำสั้นเตียนของเขาทำให้คุณรู้สึกจั๊กจี้อย่างบอกไม่ถูก

            " ตอนนี้ฉันว่าฉันรู้แล้วว่าฉันจะทำอะไรดี "
    อีกฝ่ายส่งเสียงฮัมออกมาเป็นเชิงถาม
            " เดี๋ยวรอคุณทำผลงานนี่เสร็จก่อนแล้วจะบอก เพราะฉันเองก็ต้องการให้คุณช่วยเหมือนกัน "
    มือที่จับพู่กันของมาร์คัสหยุดชะงักลงก่อนที่เจ้าตัวจะเอียงหน้ามาหา
            " คงไม่ได้จับผมทำอะไรพิเรนทร์หรอกนะ "
            " ไม่หรอก "
    คุณเพียงแค่หอมแก้มเขาไปฟอดหนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรอีก

    เขามัวแต่ยุ่งอยู่กับการรังสรรผลงานจนไม่ทันสังเกตว่ามือข้างนึงของคุณแอบไขว้นิ้วซ่อนไว้ด้านหลัง
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            " (...)...ผมถามอะไรหน่อยได้ไหม...นี่เรากำลังจะทำอะไรกัน? "

            เขาส่งเสียงหลุดรอดออกมาอย่างอึ้งๆเมื่อทอดมองสารพัดเครื่องสำอางที่วางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอนระหว่างที่คุณกำลังรื้ออุปกรณ์แต่งหน้าออกมาจากกระเป๋าพกพา ทั้งแปรงแต่งหน้าขนาดต่างๆ ดินสอเขียนเติมทั้งสีเข้มสีอ่อนกับแป้งพัฟเล็กใหญ่และบรรดาฟองน้ำสำหรับเกลี่ยเนื้อครีมรองพื้น

            " ก็นะ...ฉันเพิ่งอ่านนิตยสารแฟชั่นล่าสุดมาแล้วเจอแนวแต่งหน้าแบบใหม่ที่กำลังฮิตน่ะ "
    คุณบอกยิ้มๆ คว้าเอารองพื้นตลับหนึ่งมาเปิด นัยน์ตาต่างสีของอีกฝ่ายจับจ้องค้างอยู่ที่รองพื้นโทนสีสว่าง
            " ผมว่าคุณอยากเอาคืนผมซะมากกว่า... "
    เขาถามด้วยน้ำเสียงแตกพร่านิดๆตรงช่วงท้าย คุณอมยิ้มระหว่างจุ่มฟองน้ำลงรองพื้น
            " ก็อาจจะ...เอ้า หลับตา "
    เขายึกยักอยู่ครู่หนึ่ง
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            " จะว่าไป ช่วงนึ้ไม่ค่อยเห็นลีโอกลับมาบ้านเลยว่าไหม "
    คุณพูดลอยๆขณะใช้แปรงปาดป้ายอายแชโดว์สีทองผสมกากเพชรบนตลับก่อนจะบรรจงแต่งแต้มเติมสีนั้นลงบนเปลือกตาของมาร์คัส
            " ร้านของเขากำลังไปได้สวยเลยค่อนข้างยุ่งหน่อย "
    เขาตอบพลางยกมือขึ้นหมายจะขยี้ตาที่คุณบรรจงปาดอายไลน์เนอร์ที่คุณอุตส่าห์เขียนซะยาวเฟื้อยไแถึงใบหู แต่คุณตีมือห้ามเขาได้ทันก่อนเจ้าตัวจะทำมันเลอะ
            " ฉันว่าเขาก็เก่งคล้ายคาร์ลไม่ใช่เล่น "
    มาร์คัสหยักยิ้มน้อยๆ แต่แล้วก็ต้องทำหน้าเบ้เมื่อคุณจับเปลือกตาอีกข้างของเขาดันขึ้นเพื่อเขียนลวดลายใต้ตาด้วยดินสอไฮไลท์สีขาว
            " ไม่เถียงเรื่องนั้นหรอก...แต่ผมก็แอบคิดว่าพ่อเก่งกว่านิดหน่อยน่ะนะ "
    คุณแค่นหัวเราะ มือตวัดแปรงป้ายบลัชออนสีม่วงอมชมพูไปตามแนวกระดูกกรามและคางของเขา
            " คุณบอกแบบนั้นเพราะตัวเองชอบวาดรูปล่ะสิ "
    เขาหัวเราะเบาๆในคอ
            " นั่นสินะ "
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            " ...เสร็จหรือยัง?... "
    เสียงทุ้มถามอย่างหน่ายๆ คุณหลุดหัวเราะพรืดออกมาจนเกือบทำขวดลิปกลอสตก
            " แอนดรอยด์เมื่อยไม่ได้นี่นา "
    คุณพูดทั้งที่หน้ายังเปื้อนยิ้มอยู่ขณะเขียนเติมลายก้นหอยต่อท้ายให้คิ้วเข้มข้างหนึ่งของมาร์คัส
            " ถึงจะไม่เมื่อยแต่ก็รู้สึกเบื่อเป็นนะ..."
    เขาตอบ คราวนี้น้ำเสียงแฝงนัยละห้อยปนอ้อนวอนนิดๆ คุณวางกระเป๋าลิปสติกลงก่อนจะก้มจุ๊บศีรษะของเขาไปที
            " ละทีตะกี้คุณแกล้งฉันล่ะ? "
    เขาซ่อนอัญมณีสีฟ้าและเขียวภายใต้เปลือกตาที่แน่นไปด้วยสารพัดสีสันก่อนจะถอนหายใจยิ้มน้อยๆ มือหนายกขึ้นลูบไล้เรือนผมสี(...)
            " ครับๆ....ผมสำนึกผิดแล้ว.."

    เขาบอกพลางโยกหัวคุณไปมาเบาๆก่อนจะเอานิ้วหยิกแก้มคุณเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว ทำเอาเลือดสูบฉีดพลุ่งพล่านให้ใบหน้าของคุณขึ้นสีกุหลาบแผ่ซ่านไปทั้งแนวแก้ม

            " แล้วตกลงเสร็จหรือยังเนี่ย?..."
    เขาถามอีก คุณดึงปลอกลิปสติกสีเขียวเปิดออก
            " ลงลิปสติกก็เสร็จแล้ว "
    คุณตอบสั้นๆ แต่แล้วข้อมือที่กำลิปสติกอยู่ก็ถูกยับยั้งไว้โดยมือใหญ่ของอีกฝ่าย
            " สีเขียว? นี่มันไม่ใช่สีที่มนุษย์ส่วนใหญ่เขาใช้กันนี่ "
    คุณส่งยิ้มยิงฟันให้
            " ก็นี่แค่แต่งแกล้งคุณไง เพราะงั้นก็ต้องใช้สีประหลาดๆสิ "
    คุณบอก เขากลอกตาพลางปล่อยมือ คุณฉีกยิ้มหวานให้แล้วเริ่มบรรเลงจบงาน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            " ผมไม่อยากดูเลย... "
    อัญมณีต่างสีของมาร์คัสกระพริบๆมองคุณ บนตักของเขามีกระจกพกบานเล็กวางคว่ำอยู่
    คุณหยิบมันขึ้นมายัดใส่มือใหญ่
            " เถอะน่า "

            เขาถอนหายใจยาวก่อนจะหงายมันขึ้นมาส่อง สายตาของเขานิ่งค้างไปทันทีที่เห็นภาพสะท้อนของตัวเองในนั้น ใบหน้าทั้งหน้าของเขาตอนนี้จะเรียกว่าเป็นงานศิลปะก็ว่าได้ ใต้ตาข้างขวาของเขามีลวดลายเถาดอกกุหลาบที่ถูกวาดด้วยดินสอไฮไลท์สีขาว หางคิ้วข้างซ้ายถูกวาดเป็นลายลูกไฟเติมต่อจากหางคิ้ว ปากของเขาคือส่วนผสมระหว่างลิปสติกสีเขียวและสีน้ำเงิน พื้นที่อื่นที่เหลือบนใบหน้าของเขาถูกแต้มเติมด้วยสีสันจากเครื่องสำอางอีกหลากต่อหลายชนิดแบบที่ไม่เหลือที่ว่างให้เห็นสีเนื้อผิวของเขาได้เลย สาบานเลยว่าถ้าตอนนี้เขายังมีไฟแอลอีดีอยู่ล่ะก็ตอนนี้มันต้องเป็นสีเหลืองอ๋อยแน่ๆ

            " คุณคิดว่าไง? "
    มาร์คัสกระพริบตาถี่ สายตายังคงจับจ้องเงาสะท้อนในกระจก
            " ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นงานศิลปะสไตล์แวนโก๊ะผสมกับปิกัสโซ.."
    เขาเอ่ยขึ้นในที่สุด แต่มองจากสายตาเขาแล้วดูเหมือนเขาจะอยากพูดอะไรมากกว่านั้น
            " แล้ว? "
    อีกฝ่ายวางกระจกกลับลงบนตัก เอี้ยวตัวหันกลับมาหาก่อนจะคว้าคุณโน้มเข้ามา
            " มันก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว..."
    ว่าแล้วเขาก็จัดการขโมยจุมพิตไปจากริมฝีปากของคุณ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
            คุณนั่งหัวเราะคิกคักอยู่บนเตียงขณะไถเลื่อนดูภาพถ่ายในมือถือซึ่งล้วนแต่เป็นภาพผลงานชิ้นโบว์แดงสุดบรรเจิดของคุณเมื่อครู่ ในใจนั้นก็กำลังสองจิตสองใจว่าจะส่งไปให้เพื่อนบางคนดูดีไหมเพราะถ้ามองอีกแง่หนึ่งมันช่างดูเป็นศิลปะเกินกว่าที่คุณคาดหวังไว้ 

            เสียงเปิดประตูห้องน้ำดึงให้คุณเงยหน้าขึ้นจากจอพบกับร่างสูงของมาร์คัส เขามีผ้าขนหนูผืนเก่งพาดอยู่ที่คอ เครื่องสำอางทั้งหลายมลายหายวับไปหมดแล้วหลังจากที่เขาใช้เวลาหลายสิบนาทีเพื่อล้างมันออก

            " เป็นไงบ้าง? "
    คุณถามโดยที่ริมฝีปากเม้มแน่นจากการกลั้นยิ้ม เขาถอนหายใจพลางซับหน้าให้แห้งสนิทเป็นครั้งสุดท้าย
            " ล้างยากพอตัว...โดยเฉพาะปากกาสีดำๆที่คุณเอามาเขียนตากับเติมคิ้วผม "

            เขาตอบด้วยเสียงหน่ายๆ คราวนี้คุณระเบิดหัวเราะลั่นออกมา ขำความไร้เดียงสาในการตั้งชื่อสรรพนามใหม่ให้กับเครื่องสำอางแล้วก็ขำความไม่เข้าใจในตัวสิ่งของเหล่านี้เหมือนกับมนุษย์ผู้ชายส่วนใหญ่

            " ปากกานั่นเขาเรียกว่า 'อายไลน์เนอร์' เอาไว้เขียนขอบตาให้เป็นทรงสวยๆ "
            " แล้วคุณเอามาวาดคิ้วผมเนี่ยนะ"
    เขาพูดกึ่งฉุนขณะปีนขึ้นมาบนเตียงสมทบกับคุณ
            " บางยี่ห้อมันก็พอจะป้ายคิ้วได้นั่นแหละ แต่พอดีอยากแกล้งคุณก็เลยเอาแบบกันน้ำวาดให้ "
    คุณรู้สึกได้ถึงมือใหญ่ขยุ้มลงมาบนผมก่อนศีรษะจะถูกจับโยกน้อยๆ
            " ได้แกล้งผมคืนแล้วพอใจหรือยังล่ะ? "
    เขาถามกลับ ตอนนี้มือใหญ่เปลี่ยนตำแหน่งจากศีรษะมาโอบรอบไหล่คุณดึงให้เข้าไปใกล้เขามากขึ้น
            " ไปๆมาๆชักจะเสียใจละ "
    คิ้วทรงสวยเลิกขึ้นด้วยความสงสัย
            " ทำไมล่ะ? "
    คุณเอนหัวซบบ่าคนข้างๆ
            " ก็ฉันมัวแต่บรรจงพิถีพิถันในท่ายืนอย่างนั้นนานๆมันก็เมื่อยสิ...รู้งี้น่าจะละเลงสะเปะสะปะให้เสร็จไวๆซะก็ดี"

            มีเสียงผ่อนลมหายใจเบาๆดังมาจากด้านบนก่อนที่เรือนผมสี(...)จะถูกลูบไล้เกลี่ยเล่นไปมา ตอนนั้นเองที่คุณตัดสินใจผละออกมาจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย ทีแรกสีหน้าเขาดูประหลาดใจราวกับกำลังคิดกังวลสงสัยว่าตัวเองทำอะไรผิดไปหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นคุณเขยิบลงมาเหยียดตัวยาวไปตามแนวเตียงแล้วเอาศีรษะเกยพิงบนตักกว้างของเขา สีหน้าไม่สู้ดีนั้นก็คลายลงพร้อมกับริมฝีปากได้รูปคมหยักขึ้นมาเป็นรอยยิ้ม มือใหญ่ลูบไล้คลอเคลียเส้นผมและใบหน้าของคุณไปเรื่อยๆจนกระทั่งคุณผล็อยหลับไปท่ามกลางความอบอุ่นที่มาจากมาร์คัส







    **พิเศษ**


            " อะไรของแกวะคอนเนอร์ ดูมือถือแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "

    แฮงค์ตวัดหันมามองเจ้าลูกชายแอนดรอยด์ที่นั่งอยู่ข้างๆ คอนเนอร์หลุดหัวเราะออกมาพรืดหนึ่งพลางหันหน้าจอให้พ่อของเขาดู

            " (...)กับมาร์คัสส่งรูปมาให้ผมดูฮะ นี่ไง "

            เขาเรียกคู่สนทนาที่เพิ่งจะหันหลังกลับไปดูการแข่งขันชิงแชมป์บาสเก็ตบอลในโทรทัศน์ เมื่อแฮงค์หันมามองตามเสียงเรียก เขาก็สำลักเหล้าสก็อตที่เพิ่งกระดกไปหมาดๆ มิหนำซ้ำยังทำที่เหลือหกลงพื้นไปหมดทั้งขวดด้วย...ไม่แปลกใจที่เขาจะตกใจขนาดนั้น เพราะภาพในหน้าจอนั้นคือภาพของมาร์คัสที่ถูกแกล้งจับแต่งหน้าชุดใหญ่ถ่ายคู่กันกับคุณ ถึงสีหน้าของทั้งคู่จะสื่ออารมณ์อบอุ่นละมุนละไมแบบคู่รักทั่วๆไปออกมา แต่เมื่อดูรายละเอียดอื่นๆประกอบด้วยแล้ว...เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆระหว่างคนสองคนน่าจะดีกว่าล่ะนะ...

            " แค่กๆๆๆ!--เวรเอ๊ย!--แค่ก!--หกหมดเลย--สองคนนั้นทำ--แค่กๆ--อะไรกัน! "

            ผู้หมวดวัยกลางคนสบถพร้อมกับไอโขลกๆ สุนัขเซนต์เบอร์นาร์ดขนฟูตัวเบ้อเริ่มหยัดลุกขึ้นอย่างเกียจคร้านก่อนจะเดินกระดิกหางดุ๊กดิ๊กมาหาเจ้าของ
            " ดูเหมือนพวกเขาจะเล่นแกล้งกันน่ะครับ "
    คอนเนอร์อ่านข้อความในมือถือแล้ววางมันลงทิ้งไว้กับโต๊ะเล็กข้างโซฟา เขาลุกขึ้นปรี่ไปเอาผ้าขี้ริ้วสองผืนมาจากห้องครัว
            " ผมอยากรู้จังว่าคาร์ลจะคิดยังไงกับศิลปะบนหน้ามาร์คัส "
    แอนดรอยด์พูดขึ้นลอยๆด้วยความสงสัยขณะยื่นผ้าขี้ริ้วผืนหนึ่งให้แฮงค์ ทั้งสองเริ่มลงมือเช็ดถูของเหลวสีเข้มบนพื้น
            " ฮึ! เขาไม่ว่าอะไรหรอก เผลอๆอาจจะชอบด้วยซ้ำ--บ้าจริง..แกไม่น่าหกเลย "
    เขาตอบพลางพ่นลมออกจมูกดังครืดก่นด่าขวดเครื่องดื่ม ยังหัวเสียอยู่ที่อดซดมัน
            " แต่สองคนนั้นดูมีความสุขจังเลยนะฮะ มาร์คัสกับ(...)น่ะ "
    แฮงค์ส่งเสียงคำรามสั้นๆในลำคอ
            " แหงล่ะ เขาเป็นคู่รักกันนี่หว่า "
    นัยน์ตาสีน้ำตาลกระพริบปริบๆเป็นประกาย พร้อมๆกับไฟแอลอีดีที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองขณะเจ้าตัวกำลังประมวลผล
            " พ่อฮะ "
            " อะไร? "
    อีกฝ่ายขานรับห้วนๆ สายตาของผู้หมวดยังคงใจจดใจจ่อตั้งสมาธิอยู่กับการเก็บกวาด
            " มีคนรักนี่มันเป็นยังไงเหรอฮะ? "
    ถ้าอวัยวะสามารถส่งเสียงออกมาได้ ตอนนี้คอนเนอร์ก็คงจะได้ยินเส้นเลือดทั่วขมับของแฮงค์กระตุกเต้นตุบตับ
            " โธ่เว้ยเจ้าคอนเนอร์! ช่วยกันเก็บตรงนี้ก่อนจะได้ไหม! "



    ...................................................................................................................................................................................................................
    ป.ล.1 เนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วเพิ่งจะมีงานเกมผ่านพ้นไปพร้อมกับอีเว้นท์อลังการงานหนึ่ง ไรต์ผู้นี้เกิดอารมณ์ค้างจ้า เลยเลือกเขียนดีทรอยท์ขึ้นมาอีกตอน พอดีเคยเขียนของคอนเนอร์ไปแล้ว คราวนี้ก็เลยเขียนของมาร์คัสบ้างเน้อ
    ป.ล.2 ไอเดียพล็อตเรื่องไรต์ได้มาจากตอนดูคลิปแต่งหน้าแกล้งเพื่อนของยูทูปช่องหนึ่ง(จำชื่อแชนเนลไม่ได้ง่ะ...)
    ป.ล.สุดท้าย คิวรีเควสจ้า
          1. Kirito [Sword Art Online] - Coming soon
          2. Pharaoh Atem [Yu-Gi-Oh!]
          3. Doctor Strange [Doctor Strange]
          4. Rikuo Nura [Nurarihyon no Mago] 
          5. Lavi [D.Gray-man]
          6. Yukimura Tooru [Aoharu x Kikanjuu]
          7. The Shape [Dead By Daylight]
          8. Nura Rihan [Nurarihyon no Mago]
          9. Nurarihyon [Nurarihyon no Mago]
          10. Kageyama Tobio [Haikyuu!!]
          11. Eyeless Jack [Creepypasta]
          12. Yamamoto Takeshi [Katekyo Hitman Reborn]
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×