ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [Black Butler] Gregory Violet x Reader : Portrait (อาจมีสปอยล์เน้อ)
คุณนั่งเท้าคางมองดูชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันที่กำลังนั่งชันเข่าและก้มหน้าก้มตาใจจดใจจ่ออยู่กับแผ่นกระดานวาดเขียน มือผอมซีดของเขาจับแท่งถ่านสีดำไว้แน่นขณะที่ลงมือขีดเขียนวาดภาพลงไปบนนั้น ริมฝีปากของเขาขบเม้มเข้าหากันแน่นจากการเพ่งสมาธิ คุณถอนหายใจ แม้จะเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว แต่คุณก็ยังคงข้องใจกับอะไรหลายๆอย่างในตัวเขาอยู่ ทั้งการแต่งตัวที่แต่งหน้าละม้ายคล้ายผู้หญิงด้วยการทาตาและปากสีดำแถมยังไว้ผมยาวเกินมาตรฐานชายอังกฤษทั่วไปอีก ไหนจะเสื้อคลุมผ้าหนาสีดำมีฮู้ดนั่นที่เขาใส่มันตลอดเวลาไม่ว่าจะไปที่ไหนแม้จะเป็นวันที่อากาศร้อนหรืออยู่ในร่มก็ตาม อย่างเช่นตอนนี้ที่พวกคุณนั่งกันอยู่ในสวนสาธารณะตอนเที่ยงตรง แม้จะนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ แต่อากาศก็ยังคงอบอ้าวอยู่ดี
เขาไม่ร้อนบ้างรึไงนะ...ขนาดฟัค*ของเขาอย่างเชสล็อคก็ยังไม่เคยใส่เลย
แล้วยังจะเรื่องเป็นตัวของตัวเองอีก คือคุณก็ไม่เถียงหรอกนะว่าการเป็นตัวของตัวเองมันดี แต่ในกรณีของไวโอเล็ตนี่..คุณว่าบางทีมันค่อนข้างจะสุดโต่งเกินไปนิด เช่นการที่เขาสามารถนั่งวาดรูปได้ตลอดทั้งวันโดยไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างใดๆทั้งสิ้นไม่ว่าใครจะพูดคุยหัวข้ออะไรหรือกำลังทำอะไรกันอยู่ ไหนจะบุคลิกแปลกๆคือ พูดน้อยพร้อมๆกับทำตัวดูลึกลับมีปริศนา หรือรักการวาดภาพที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวต้นแบบเลยสักนิด คุณจำได้ว่างานเลี้ยงฉลองหลังงานแข่งกีฬาคริกเก็ตประเพณีของโรงเรียนเวสตัน
กรีนฮิลล์มักจะบ่นกับคุณไม่หยุดปากเลยว่างานอดิเรกที่ไวโอเล็ตโปรดปรานนักหนาคือการจับกรีนฮิลล์มาดัดท่าทางยากๆเพื่อเป็นแบบวาด แต่ทุกครั้งผลก็ออกมาโดยที่ไวโอเล็ตวาดภาพอื่นที่ไม่ใช่ตัวกรีนฮิลล์เลย แต่คุณไม่แปลกใจหรอก ก็นั่นน่ะเป็นเอกลักษณ์ในพรสวรรค์การวาดรูปของเขาก็ว่าได้ อย่างตอนนี้ที่ตาของเขากำลังจับจ้องแมวที่กำลังนอนอยู่บนต้นไม้ แต่เขากลับวาดภาพของหมาป่าที่อยู่ในดงหนามขึ้นมาแทน
พวกศิลปินนี่นะ..
ถึงปากคุณจะบอกว่าเขาแปลกอย่างนั้นพิลึกอย่างนี้ลึกลับอย่างนั้น แต่ก็นั่นล่ะเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณ...ชอบเขา
คุณรู้จักกับไวโอเล็ตมาตั้งแต่สมัยเด็กเพราะบ้านของคุณทั้งคู่อยู่ใกล้ๆกันทำให้คุณกับเขาได้เป็นเพื่อนเล่นกันมาตลอด แต่จะเรียกว่าเพื่อนเล่นก็ไม่ค่อยจะถูกนัก เพราะการเล่นของคุณกับเขามักจะเป็นการที่คุณนั่งดู(และรอ)เขาวาดภาพซะส่วนใหญ่ แล้วสุดท้ายก็จะลงเอยที่คุณเผลอหลับไปหรือไม่ก็ลุกไปเล่นอย่างอื่นจนกว่าเขาจะวาดภาพเสร็จ
พอเริ่มโตขึ้น คุณก็ชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน คุณชอบที่เขาเป็นผู้ชายเรียบง่ายประเภทที่ไม่คาดหวังหรือเจ้ากี้เจ้าการอะไรกับคนอื่นให้เปลี่ยนไปตามอุดมคติของตนเอง(ยกเว้นเรื่องวาดภาพล่ะนะ..) เงียบสงบไม่คุยโว้โอ้อวดแบบที่พวกสังคมชนชั้นสูงส่วนใหญ่ชอบทำ ยอมรับในตัวตนและเอกลักษณ์ของคนอื่นซึ่งเป็นสิ่งที่คุณประทับใจที่สุด คุณล่ะเกลียดนักพวกคนที่ชอบยกมาตรฐานตัวเองสูงๆ เช่นว่า หญิงสาวที่เพียบพร้อมต้องสวยเหมือนภาพวาด มีบุคลิกแบบนั้น แต่งตัวแบบนี้ หรือชายหนุ่มที่ดีจะต้องดูภูมิฐานอย่างนั้น เป็นสุภาพบุรุษอย่างนี้ ฐานะและยศไม่ตำกว่าระดับนั้น ว่ากันตามตรง...คุณรู้สึกว่าตัวคนพูดหลายคนไม่ได้ดูคู่ควรกับสิ่งเหล่านั้นเลย
ผิดกับไวโอเล็ต เขาไม่เคยว่าอะไรเลยถ้าอยู่ดีๆคุณจะนึกสนุกเอากางเกงหรือเสื้อนอกของผู้ชายมาใส่ ตรงกันข้าม เขากลับบอกว่าคุณดูดีซะด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาแสนสนุกเหล่านั้นก็จบลงเมื่อเขาไปเข้าเรียนในวิทยาลัยเวสตัน โรงเรียนสำหรับเหล่าสุภาพบุรุษผู้เป็นทายาทในสังคมตั้งแต่ชนชั้นกลางขึ้นไปจากทั่วอังกฤษ
เพราะว่าวิทยาลัยแห่งนี้เป็นโรงเรียนชายล้วน คุณก็เลยไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนกับเขาแล้วมาเรียนกับครูที่ถูกว่าจ้างให้มาสอนที่บ้านแทน คุณได้แต่เฝ้ารอให้ถึงวันหยุดคริสต์มาส ช่วงปิดเทอมหรือโอกาสพิเศษเท่านั้นที่จะได้เจอกัน ระหว่างนั้นคุณก็ทำได้แค่เขียนจดหมายติดต่อพูดคุยกันเท่านั้น
ช่วงเวลาปิดเทอมแบบนี้นี่แหละที่คุณชอบที่สุด ได้ใช้เวลาอยู่กับเขาเหมือนเมื่อก่อนเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆก่อนที่เขาจะต้องกลับไปเรียนในชั้นปีถัดไป ห้วงคิดอันยาวนานของคุณสะดุดลงด้วยเสียงดังเป๊าะของแท่งถ่านที่หัก คุณหันไปพอดีกับที่ไวโอเล็ตเงยหน้าขึ้นมา
"เสร็จแล้ว.." เขาพูดด้วยเสียงนิ่งๆพลางยื่นกระดานภาพวาดหันมาทางคุณ คุณอมยิ้มนิดๆแล้วส่ายหัว
"สวยเหมือนเคย..ว่าแต่เธอใช้แมวเป็นแบบแต่กลับวาดหมาป่าออกมาเนี่ยนะ" คุณพูดหยอกๆ เขากระพริบตาทีหนึ่งแล้วเก็บกระดานกลับไป
"มันเป็นศิลปะนี่.." เขาพูดพลางหยัดตัวลุกขึ้นยืน ผายมือมาข้างหน้าคุณ
"กลับกันเถอะ ตอนนี้มันชักจะร้อนเกินไปแล้ว" คุณถอนหายใจนิดๆขณะส่งมือให้เขา ลุกขึ้นตาม
"มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกที่เรามานั่งแล้วล่ะ ก็ตอนเที่ยงนี่นา แล้วก็...ถ้าเธอถอดเสื้อคลุมออกนะ ไวโอเล็ต เธอจะรู้ว่าอากาศมันกำลังพอดี" คุณแหย่เจ้าตัวที่กำลังเดินนำอยู่ เขาเพียงแค่ขมวดคิ้วนิดๆแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ยังคงพาคุณเดินเลาะไปตามถนนเรื่อยๆ
เมื่อเดินเข้ามาบนถนนสายที่บ้านของพวกคุณอยู่ เขาหันมาถาม
"จะไปบ้านเธอหรือบ้านฉัน?"
"บ้านเธอดีกว่า ฉันชอบภาพวาดที่บ้านเธอสะสม นั่งดูเพลินดีเวลาจิบชา" ชั่วขณะนั้นเหมือนริมฝีปากของเขาจะหยักยิ้มขึ้นมา
คุณชอบทุกๆอย่างในบ้านของเขามาตลอดการตกแต่งที่มองครู่เดียวผู้มาเยี่ยมเยือนก็รู้ได้ว่าครอบครัวเจ้าของบ้านให้ความสำคัญและชื่นชมศิลปะเพียงใดพื้นที่ทุกตารางนิ้วมีภาพวาดหลากหลายชนิดแขวนอยู่บนผนังวอลเปเปอร์ลายสวยหรูน่าประหลาดในฝีมือของนักตกแต่งที่สามารถจัดเรียงให้มันออกมาดูดีได้โดยไม่ลายตาหรือให้ความรู้สึกอึดอัดเลยไวโอเล็ตพาคุณเข้าไปยังห้องรับรองห้องประจำที่มีภาพวาดนานาชนิดแขวนอยู่เรียงรายไปตลอดผนังผลงานศิลปะชั้นเยี่ยมหลายชิ้นประดับอยู่ทุกมุมของห้องคุณหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่บุด้วยเบาะกำมะหยี่สีแดงไวน์พลางรับแก้วกระเบื้องเคลือบใบสวยใส่ชาดาร์จีลิงที่กำลังส่งกลิ่นหอมจากเขาขึ้นมาจิบ
คุณเพลิดเพลินกับชารสดีขณะกวาดตาชื่นชมผลงานศิลปะรายรอบห้องดื่มด่ำกับบรรยากาศ แต่แล้วสายตาของคุณก็ไปหยุดลงที่ด้านหลังห้องที่มีประตูไม้เชอร์รี่สีน้ำตาลแดงเคลือบเงาแกะลายดอกรักเร่และเถาไอวี่ มีผ้าม่านกำมะหยี่สีม่วงแก่ที่รูดปิดบานประตูนั้นอยู่ครึ่งบาน
ถ้าจำไม่ผิด..คุณรู้สึกว่าประตูบานนั้นเพิ่งจะมีขึ้นเมื่อสองสามปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปีที่เขาเข้าเรียนที่เวสตัน แล้วจนถึงตอนนี้ต่อให้คุณพยายามถามสักกี่รอบ ไวโอเล็ตก็ไม่เคยยอมบอกคุณเลยว่ามีอะไรอยู่หลังประตูบานนั้นหรือนำไปสู่ห้องอะไร เขาแค่หาเหตุผลสารพัดมาบ่ายเบี่ยงแล้วพยายามดึงให้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาจนคุณล้มเลิกที่จะถามไปนานแล้ว
แต่ในฉับพลัน...ความคิดที่ไม่เข้าท่าก็โผล่ขึ้นมา
หรือว่าเขาทำงานศิลปะที่วิกลจริตผิดกฎหมายแล้วซ่อนไว้ในนั้นกันนะ...คุณนึกอย่างหวาดๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วคุณก็ดันไปอ่านวรรณกรรมเกี่ยวกับศิลปินโรคจิตที่ชอบฆ่าคนเพราะยึดติดกับการสร้างผลงานเสมือนจริงซะด้วย..จนตอนนี้มันก็ยังแอบหลอนคุณอยู่เลย
ไวโอเล็ตเคยบอกว่าไงบ้างนะ..คุณนึกเหตุผลเหล่านั้นที่เขาใช้บ่ายเบี่ยงมาตลอด คุณคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาเอาแต่บอกคุณวนไปมาอยู่นั่นว่าเป็นห้องที่ใช้เก็บงานที่เขารัก มีความสำคัญและมีคุณค่าทางใจต่อเขามาก ว่าแล้วคุณก็สลัดความคิดบ้าๆก่อนหน้านี้ออกไป
ให้ตายสิ..อะไรทำให้ฉันคิดเข้าไปได้นะเขาไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก
แต่ถ้างั้นชิ้นงานอะไรล่ะที่มันมีค่าขนาดนั้น...คุณคิดพร้อมๆกับมีอีกเสียงท้วงขึ้นมาในใจ
หรือบางที...อาจจะเป็นรูปของคนที่รักหรือคนที่แอบชอบ* ด้วยความคิดนี้เองที่ทำให้อารมณ์สงสัยชั่ววูบของคุณแปรเปลี่ยนเป็นความไม่สบอารมณ์และหงุดหงิดแปลกๆเกิดขึ้นมาทดแทน
"นี่ไวโอเล็ต..ประตูบานนั้นน่ะตกลงมันคือห้องอะไรเหรอ?" เขาเงยหน้าขึ้นมาจากการผสมเครื่องดื่มเล่น(นี่ก็เป็นอีกหนึ่งงานอดิเรกแปลกๆของเขารองจากการวาดภาพ)
"ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ..ว่าเป็นห้องเก็บผลงานชิ้นที่ดีที่สุดของฉันน่ะ" "เขาพูดเสียงเรียบๆที่เจือความหงุดหงิดเขาทำท่าจะก้มลงไปสนใจบรรดาถ้วยชาหลากเครื่องดื่มอีกครั้งแต่เสียงของคุณก็รั้งไว้ก่อน
ถ้าเป็นผลงานที่สุดยอดขนาดนั้น..คุณเองก็อยากเห็นสักครั้งนึงเหมือนกัน
"ขอดูหน่อยได้ไหมฉันเคยเห็นผลงานที่โชว์อยู่ที่นี่ครบหมดแล้ว" เพียงเท่านั้นใบหน้าของไวโอเล็ตก็ขึ้นสีกุหลาบตาสีดำขลับของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
"ไม่ได้นะ!! ไม่ได้เด็ดขาด!! ยิ่งเป็นเธอฉันให้ดูไม่ได้เด็ดขาด!!" คุณสะดุ้งโหยงเมื่อเขาส่งเสียงดังขึ้นมา ตอนนี้หน้าของเขาขึ้นสีแดงเรื่อยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ปกติแล้วไวโอเล็ตจะเป็นคนที่พูดเสียงค่อนข้างเบา แต่จะโวยวายหรือส่งเสียงดังขึ้นมาแบบนี้เฉพาะเวลาอยู่ในอารมณ์ที่ขีดสุดจริงๆเท่านั้น เช่นตอนที่โมโห เสียใจ แม้กระทั่ง...เวลาที่เขาพยายามปิดบังความลับหรือกลบเกลื่อนสิ่งที่ตัวเองเขินอาย ซึ่งถ้าดูจากอาการหน้าแดงของเขาแล้ว..มันก็คงชัดเจนแล้วล่ะ
คุณวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงอาการประชดประชันใดๆ ในใจของคุณกำลังข่มกลั้นความรู้สึกที่บอก
ไม่ถูก..เสียใจ..ผิดหวัง
"นั่นสินะ...เธอจะชอบใครมันก็เรื่องส่วนตัวของเธอนี่นะ...ฉันขอตัวกลับก่อนแล้วกัน" คุณเอ่ยขณะกำลังก้าวเท้าตรงไปยังทางเดินใหญ่ เขารีบหันขวับกลับมา
"เธอว่าไงนะ.." เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กลับมาเป็นปกติ
แต่คุณเพียงแค่ยิ้มให้เขาพร้อมกับดวงตาที่เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยของเหลวใสที่รื้นตัวขึ้นมา
"ฉันขอตัวกลับก่อน...แล้วเจอกัน...นะ."
คุณเดินไปได้อีกไม่กี่ก้าวเมื่อข้อมือถูกยึดไว้โดยมือผอมซีดของอีกฝ่ายคุณมองเขาด้วยความรู้สึกปนเปกันระหว่างความสงสัยและความไม่เข้าใจไวโอเล็ตก้มหน้านิ่งจนหมวกฮู้ดห้อยลงมาดูคล้ายพ่อมดริมฝีปากของเขาเม้มแน่นและใบหน้าก็ยังคงขึ้นสีแดงเรื่อ
"ว-ไวโอเล็ต.."
เขายังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนจะดึงคุณไปยังประตูบานนั้นเขารูดผ้าม่านเปิดออกมือของเขาที่กุมมือของคุณอยู่บีบแน่นขึ้นเขาสูดหายใจลึกและบิดลูกบิดเปิดประตูเข้าไป
คุณยืนนิ่งค้างด้วยความตกใจ ที่อยู่ตรงหน้าคือห้องสไตล์เรเนซองส์ ด้วยผนังบุวอลเปเปอร์สีน้ำงินเข้มฉลุลายเถาองุ่นด้วยเส้นสีครีม หน้าต่างกระจกรูปครึ่งวงรียาว เพดานรูปโดมโค้งที่ทาสีเลียนแบบท้องฟ้าประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลแขวนห้อยย้อยลงมาเหมือนสายฝนแก้วส่องประกายกับแสงแดดดูระยิบระยับ แต่จุดเด่นของห้องคือผลงานศิลปะที่วางประดับอยู่ในห้องนั้น ทุกๆภาพวาดคือภาพของตัวคุณในอิริยาบถต่างๆเวลาที่คุณอยู่กับเขา
มีแรงอะไรบางอย่างดึงให้คุณปล่อยมือจากเขาและตรงเข้ามาชมใกล้ๆ มีภาพวาดของคุณตั้งแต่วันแรกที่เป็นเพื่อนกันซึ่งก็คือภาพคุณตอนอายุราวแปดขวบกำลังนอนหงายอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าและแหงนหน้าดูก้อนเมฆที่ลอยไปมาบนท้องฟ้า จนถึงล่าสุดซึ่งก็คือภาพของตัวคุณที่อยู่ในชุดราตรีออกงานสีเขียวแมลงทับเมื่อตอนงานเลี้ยงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา
คุณกวาดตาดูชิ้นงานจนครบแล้วสายตาของคุณก็หันกลับไปมองไวโอเล็ตที่ยังคงก้มหน้าขึ้นสีระเรื่อนั้นอยู่คุณค่อยๆเดินไปทางเขา
"ฉัน-ฉันคิดว่าถ้าบอกไปเธอก็คงจะปฏิเสธแน่นอน..ฉันเลยคิดว่าเก็บเอาไว้เป็นความลับต่อไปน่าจะดีที่สุด" เขาพึมพำ
"แต่ตอนนี้ถึงฉันไม่ได้พูดออกมาเธอก็คงจะเข้าใจแล้วนะ"
"ไวโอเล็ต.." คุณเรียกเขาอย่างแผ่วเบาเขาเพียงแต่ส่งยิ้มเศร้าๆมาให้
"ช่างเถอะฉันเข้าใจดีถ้าเธอไม่ได้ชอบฉัน..ไม่เป็นระ-"
โดยที่ไม่ทันตั้งตัว คุณพุ่งเข้าไปจับฮู้ดของเขาถอดลงมาและฝังจมูกพร้อมริมฝีปากลงบนแก้มสีซีดโดยที่เขายังพูดไม่ทันจบประโยค ชั่วครู่เดียว...คุณก็ผละออกมาพร้อมทิ้งรอยสีแดงเรื่อกระจายไปทั่วแก้มข้างที่คุณเพิ่งจะบรรจงหอมไปหมาดๆ เขากระพริบตาปริบๆด้วยความที่ยังไม่หายตกใจกับความฉุกละหุกเมื่อตะกี้ คุณจึงได้ทีแหย่เขาเล่น
"ฉันน่ะชอบเธอมาตั้งแต่เธอไปเข้าเรียนปีหนึ่งแล้วจ้ะ" คุณพูดพลางฉีกยิ้มให้เขาคราวนี้ริมฝีปากทาสีดำของเขาคลี่ยิ้มออกมาเขาจับฮู้ดขึ้นมาใส่เหมือนเดิมก่อนจะกระแอมเบาๆ
"แฮ่ม..ยังไงก็ตาม.." เขายกมือขึ้นแล้วอมยิ้ม
"สุภาพสตรีเขาไม่พุ่งเข้าหาชายหนุ่มโต้งๆแบบนี้กันหรอกนะ" ว่าแล้วเขาก็เอามือลูบหัวคุณอย่างแผ่วเบา คุณหัวเราะออกมา
"ไม่มีสุภาพบุรุษคนไหนเขามาแอบทำตัวลับๆล่อๆแบบนี้เวลาชอบใครเหมือนกันแหละ เกร็ก"
เขามองคุณนิ่งๆ
"อ้าว ก็ไวโอเล็ตเป็นนามสกุลเธอนี่ ตอนนี้เราเป็นมากกว่าเพื่อนกันแล้วก็เรียกชื่อต้นกันไม่เห็นเป็นไรเลยเนอะ"
คุณฉีกยิ้มและคว้าตัวเขามากอด เขาถอนหายใจน้อยๆพลางยกแขนขึ้นกอดคุณตอบพลางคิดในใจว่า
รู้งี้น่าจะบอกคุณไปตั้งนานแล้วดีกว่า
**Special**
"นี่.." เขาเอ่ยขึ้น
"หืม?" คุณส่งเสียงทั้งที่ยังซุกหน้ากับบ่าของเขาอยู่
"รู้ไหมว่าถ้าเธออยู่โรงเรียนฉันแล้วมีใครมาเห็นเราทำแบบนี้ เราได้โดนวาย*คนละสองตัวแน่" เขาพูดติดตลก
"โธ่ อย่าทำบรรยากาศเสียสิ!" คุณพูดปนขำพลางเงยหน้าขึ้นไปหอมแก้มเขาอีกฟอด
...................................................................................................................................................................................................................
**เพิ่มเติม**
*ฟัค คือระบบธรรมเนียมในวิทยาลัยเวสตัน ซึ่งหลักการจะคล้ายๆกับระบบพี่รหัสน้องรหัส โดยคำนี้จะใช้เรียกรุ่นน้องค่ะ ไม่ใช่คำหยาบคายในทางนั้นเน้อ...
*ในสมัยก่อนมีความเชื่อกันว่าหากเราวาดรูปใครสักคนออกมาแสดงว่าเรากำลังหลงรักหรือมีใจให้คนๆนั้นอยู่จ้า
*วาย หรือ Y's คือการลงโทษนักเรียนที่ทำผิดกฎระเบียบในโรงเรียนค่ะ ซึ่งบทลงโทษคือนักเรียนที่ทำผิดจะต้องคัดบทกวีภาษาละตินเป็นจำนวนร้อยจบต่อการได้วายหนึ่งตัว (โหดเนาะ ^ ^;)
**Extra**
บุคลิกของไวโอเล็ตเน้อ (สปอยล์มังงะ)
เครดิตรูปภาพ : www.blackbutler.net.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น