ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All + Reader ตัวละครแสนรัก [ปิดรับรีเควสชั่วคราวจ้า]

    ลำดับตอนที่ #18 : [Marvel] Captain America x Reader : Modern World

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 61


    Pairing : Captain America x Reader
    Theme : เริ่มต้นใหม่
    Summary : ตอนต่อจากตอนจบ ชีวิตในวงการซูเปอร์ฮีโร่ของกัปตันผู้เลื่องชื่อได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง



    ...................................................................................................................................................................................................................

            ที่โต๊ะทำงานออฟฟิศห้องหนึ่งในอาคารของหน่วยชิลด์ คุณนั่งเท้าคางอย่างไม่สบอารมณ์ขณะพยายามเพ่งสมาธิจดจ่ออยู่กับจอคอมพิวเตอร์ล้ำยุคและกองเอกสารที่กองสุมอยู่บนโต๊ะ ซึ่งต้นเหตุของความอารมณ์ไม่ดีของคุณนั้นมาจากเครื่องวิทยุสื่อสารขนาดพกพาที่วางอยู่ใกล้ๆ มันส่งเสียงดังของคลื่นสลับสายกันไปมาต่อกันยาวตั้งแต่ช่วงพักกลางวัน ดูเหมือนแผนกอะไรสักอย่างกำลังเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น

    ซ่า~คลิก
    'หน่วยเอ เขาลงไปชั้นสองแล้ว เร็วเข้า!-'
    ซ่า~
    '-ใครก็ได้กดเรียกขอกำลังเสริมที-'
    คลิก~
    '-ขอเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมเข้ามาเสริมด้วย! ทราบแล้วเปลี่ยน-'
    ซ่า~
    '-กำลังเสริม ตอนนี้เขาจะไปถึงไทม์สแควร์แล้ว!-'
    ~
    'เลี้ยวเข้าถนนแล้วดักไว้! นิคกำลังไล่เขาอยู่-'
    ~
    'ช่วยดักหน้าเอาไว้ ทั้งสามหน่วยนั่นแหละ ไปที่-'
    ปิ๊บ!

            นิ้วเรียวกดปุ่มปิดวิทยุสื่อสารเพราะความอดทนของคุณที่ได้หมดลง คุณโยนกองเอกสารลงบนโต๊ะอย่างมีอารมณ์ก่อนจะนวดคลึงบริเวณขมับ คิ้วของคุณผูกเข้าหากันเมื่อเหลือบไปเห็นเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆวิ่งวุ่นวายอลหม่านอยู่บริเวณทางเดินของอาคาร ที่ผิดสังเกตคือ ส่วนมากเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยของนิค ฟิวรี่

            " แซม วันนี้แถวแผนกวิจัยเกิดอะไรขึ้นน่ะ? "
    คุณหันไปถามเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในแผนกเจ้าหน้าที่อิสระเช่นกัน เขาถอดหูฟังออก ทอดสายตามองไปยังสิ่งที่คุณสงสัยก่อนจะขยับตัวบิดขี้เกียจ
    " ยอดมนุษย์คนนั้นหนีออกไปน่ะสิ" เขาตอบเรียบๆ
    " อะไรนะ "
    เขากระพริบตา
    " เอ้า ก็คนนั้นที่ถูกแช่น้ำแข็งไง ที่นิคพากลับมาเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละ เขาฟื้นแล้วดันเกิดเสียขวัญแล้วก็อาละวาดหนีไป "
    คุณพยักหน้า ยังไม่ทันจะถามอะไรเขาต่อก็พอดีมีคนอื่นเข้ามาห้องซะก่อน นิค ฟิวรี่นั่นเอง
    คุณและแซมรีบลุกขึ้นโค้งทำความเคารพให้กับผู้มีตำแหน่งสูงที่สุดในหน่วยชิลด์
    " ผมคิดว่าพวกคุณพอจะจับประเด็นได้บ้างแล้ว งั้นขอเข้าเรื่องเลยละกันเพราะเวลาเรามีจำกัด เจ้าหน้าที่แซม รบกวนช่วยค้นดูข้อมูลของโปรเจค 'ซูเปอร์โซลเยอร์' กับแฟ้มประวัติของทหาร 'กัปตันอเมริกา' ทีนะ"
    แซมพยักหน้า
    " ส่วนเจ้าหน้าที่(...) ผมมีงานพิเศษอย่างนึงจะมอบให้คุณ โปรดตามผมมา " เขาเอ่ยสั้นๆก่อนจะเดินนำคุณออกไป คุณชำเลืองไปทางแซม เขาเพียงแค่ยักไหล่แล้วโบกมือเป็นนัยว่า 'ตามๆเขาไปเถอะ เดี๋ยวก็รู้เอง'
    .
    .
    .
    .
    .
         นิคพาคุณเข้ามาหยุดอยู่หน้าห้องกระจกห้องหนึ่งที่ถึงจะดูสบายๆแต่ที่ประตูมีระบบล็อกแบบพิเศษส่วนตัวกระจกก็ทำจากวัสดุกันกระแทกชั้นเยี่ยม ภายในห้องมีชายหนุ่มผมตัดสั้นสีบลอนด์รูปร่างแข็งแรงกำยำแบบนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลคนหนึ่งกำลังนั่งหันหลังอยู่บนเตียง มีนางพยาบาลแต่งตัวในสไตล์ย้อนยุคราวๆแฟชั่นสมัยสงครามโลกนั่งอยู่ข้างๆเขา มือของเธอจดขยุกขยิกลงแผ่นคลิปบอร์ดที่อยู่บนตักขณะพูดคุยกับเขาไปด้วย ตลอดการสนทนา ท่าทางของเขาดูกระสับกระส่ายไม่สบายตัวเหมือนกำลังร้อนใจกับอะไรสักอย่าง

    นางพยาบาลคนนั้นออกมาหาพวกคุณในอีกห้านาทีให้หลัง เธอยื่นแผ่นคลิปบอร์ดนั้นให้นิคแล้วขอตัวกลับไปที่หน่วยของเธอ เขากวาดสายตาอ่านผ่านๆเพียงครู่เดียว

            " ทีนี้ สำหรับงานของคุณ-"
    เขาบอก ชี้มือไปยังชายผมบลอนด์ในห้องนั้น 
    " เขาชื่อสตีฟ โรเจอร์ส ผมต้องการให้คุณช่วยสอนการใช้ชีวิตในโลกสมัยใหม่ให้เขาสักหน่อย สำหรับรายละเอียดกับข้อมูลที่เหลือ-"
    เขาว่าพลางยื่นแผ่นคลิปบอร์ดนั้นให้คุณ
    "ดูตามนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คุณพยายามทำให้เขาปรับตัวให้ได้เร็วที่สุด เรายังมีภารกิจที่ต้องการมนุษย์พิเศษแบบเขารออยู่อีกเยอะ เอาล่ะ ผมต้องไปดูแซมก่อนว่าไปถึงไหนแล้ว ฝากตรงสตีฟด้วยล่ะ"
    เขาตบบ่าคุณเบาๆแล้วเดินกลับไปอีกทาง คุณก้มลงอ่านข้อมูลที่ได้มา

    ชื่อ : สตีเฟน โรเจอร์ส (กัปตันอเมริกา)
    วันเกิด : 4 กรกฎาคม 1918
    อายุ : 99 ปี (30ปีโดยประมาณจากรูปร่างกาย)
    บ้านเกิด : แมนฮัตตัน , นิวยอร์ค
    ประวัติโดยย่อ : เคยเข้าร่วมเป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกฉีดซูเปอร์เซรุ่มเพื่อสร้างยอดทหารตามโปรเจคซูเปอร์โซลเยอร์ซึ่งคิดค้นโดยด็อกเตอร์อับราฮัม เออร์สกิน(เสียชีวิตแล้ว) ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกในการทำภารกิจเป็นผลให้ร่างกายถูกแช่แข็ง 
    *หมายเหตุ 1* ค้นพบร่างตอนที่ผ่านเหตุการณ์อุบัติเหตุนั้นมาแล้วเป็นเวลา70 ปี
    *รหัสห้องคือ 1728*

    ข้อมูลที่ปรากฏนั้นไขความกระจ่างแก่คุณขึ้นมา 

    มิน่าล่ะ เขาถึงได้ขวัญเสียแบบนั้น

            คุณไม่โทษเขาหรอก ถ้าเป็นคุณ คุณก็คงสติแตกเหมือนกันถ้าอยู่ดีๆก็ตื่นมาเจอกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหมดทุกอย่างหลังจากหลับยาวไปหลายสิบปีโดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรเลย

            คุณกดรหัสบนแป้นพิมพ์หน้าประตูแล้วเข้าไปข้างใน สตีฟขยับตัวเล็กน้อยเป็นสัญญาณรับรู้ถึงการมาเยือน แต่ก็ไม่ได้สนใจจะหันมา สายตายังคงเหม่อลอยไกลออกไปนอกหน้าต่าง ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเขา เขาหันมามองด้วยสายตาระแวดระวัง
    " สวัสดีสตีเฟน ฉันเจ้าหน้าที่(...) สังกัดหน่วยอิสระ แต่จะเรียกสั้นๆว่า(...)ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก "
    คุณแนะนำตัว ยื่นมือออกไปตรงหน้า
    " เรียกผมว่าสตีฟเถอะ " เขาพยักหน้า พูดนุ่มๆขณะจับมือทักทายกับคุณ 

            เกิดช่องความเงียบขึ้นพักใหญ่ชวนให้บรรยากาศอึมครึมสวนทางกับท้องฟ้าสว่างด้านนอก จนสุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมา
    " ผม-ผมมีเดทจริงๆ..ผม-นัดเธอไว้..มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ " เขาเขย่าแขนคุณ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือฟังดูเจ็บปวด นัยน์ตาสีฟ้าของเขามีแววความวิตกกังวลผสมกับความสิ้นหวัง

            คุณไม่เข้าใจนักหรอกว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ก็พอเดาได้ว่าเขาคงจะให้สัญญากับสาวสักคนไว้ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ
    คุณแตะบ่าเขาเบาๆ

            " ฉันรู้..แต่...คุณต้องไปต่อนะ อยู่กับปัจจุบัน เดินหน้าต่อ...นั่นคือสิ่งที่นิคบอกคุณไม่ใช่หรือ" 
    เขาแค่นหัวเราะ หันกลับไปมองทิวทัศน์ข้างนอก
    " ไม่รู้สิ..ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด....จนผมรู้สึกว่า...นี่มันไม่ใช่บ้านเลย.."

            คำพูดของเขาทำเอาคุณรู้สึกแย่ตามไปด้วย ขณะเดียวกันมันกลับจุดประกายความมั่นใจให้กับคุณด้วย คุณจะปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้เพราะเวลามีจำกัด คุณเองก็มีงานที่ต้องทำ ส่วนสตีฟเองก็มัวจมฝังอยู่กับอดีตแบบนั้นไม่ได้เช่นกัน

    คุณหยัดตัวลุกขึ้น วางคลิปบอร์ดทิ้งไว้บนโต๊ะข้างเตียง
            " มาเถอะ หาอะไรให้คุณทานกันดีกว่า เผื่อท้องอิ่มจะได้ช่วยให้ใจสงบลงได้บ้าง "

            เขาผ่อนลมหายใจเฮือกหนึ่งแล้วลุกตามมา คุณเองก็ไม่ลืมพกเครื่องสื่อสารขนาดจิ๋วติดตัวไปด้วยเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินแบบเมื่อสักครู่
    .
    .
    .
    .
    .
            สีหน้าของสตีฟระหว่างทางนั้นยากที่จะระบุได้เพราะความหลากหลายอารมณ์แย่งกันปรากฏบนสีหน้าของเขาที่มีทั้งความสงสัย ความเจ็บปวด ความตื่นเต้นประหลาดใจอยากรู้อยากเห็นแบบเด็กเล็กๆที่ได้ออกมาเที่ยวข้างนอก คุณเพลิดเพลินกับการที่เขาบอกเล่ารื่องราวของสิ่งต่างๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟังนิทานสักเรื่อง น้ำเสียงของเขามีทั้งความคิดถึงและความโหยหาในเวลาเดียวกัน อีกอย่างนึงคือเขาดูมีความสุขขึ้นมานิดนึงเมื่อได้พูดระลึกถึงความทรงจำเก่าๆ

             " เมื่อก่อนมันมีแต่ป้ายโฆษณาใหญ่ๆ ไม่ใช่จอทีวีสีๆแบบนี้หรอก-- " เขาพูดขึ้นขณะเดินผ่านจอโฆษณาที่เป็นจุดเด่นของไทม์สแควร์
    "--หัวมุมถนนทุกที่เป็นแหล่งหากินของเด็กๆเลยล่ะ เพราะพวกเขาจะจองพื้นที่เล็กๆข้างร้านค้าสำหรับขายหนังสือพิมพ์หาเงินค่าขนม เสียดายที่ตอนนี้พวกเขาขายกันในร้านหมดแล้ว"
    เขากวาดตามองขบวนรถยนต์ที่ขับกันอัดแน่นบนท้องถนน
    " ตอนนั้นรถก็ยังไม่เยอะขนาดนี้ แล้วพวกเขาก็ไม่ขับซิ่งแบบเลือดร้อนด้วย "
    เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นรถสปอร์ตสองคันขับแข่งกัน
    " ฉันว่าเป็นเพราะรถสมัยก่อนมันซิ่งไม่ได้มากกว่าล่ะมั้ง " คุณบอก นึกถึงสภาพรถยนต์ในสมัยนั้นที่เร่งความเร็วสูงสุดได้แค่ระดับหกสิบเท่านั้น
    .
    .
    .
    .
    .
            " สตีฟ คุณจะสั่งอะไร? " คุณถามเจ้าตัวที่นั่งเหม่อลอยมาได้ครู่ใหญ่ 
    เขาสั่นหัวให้ตัวเองตื่น ยักไหล่น้อยๆ
    " อะไรก็ได้ ผมไม่ค่อยหิว "

            คุณขมวดคิ้วมองไปตามสายตาที่ว่าก็พบคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังนั่งกินข้าวไปคุยไปอย่างหวานชื่นน่ารัก คุณถอนหายใจน้อยๆก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟสั่งอาหาร
    .
    .
    .
    .
    .
            เป็นโชคดีของคุณที่สตีฟสงบเรียบร้อยตลอดจนกลับมายังอาคารศูนย์บัญชาการ แต่ก็ยังไม่วายมีเรื่องให้คุณต้องหงุดหงิดเมื่อเห็นบรรดาลูกน้องซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนุ่มๆนั้นกำลังนั่งเอกเขนกพักผ่อนกันอย่างสบายอารมณ์ทั้งๆที่พวกเขาควรจะช่วยกันค้นคว้าหาเอกสารวิจัยตามที่นิคสั่งไว้

    ว่าแล้วคุณก็จัดการตบมือเสียงดังขณะเดินไปตามทางระหว่างโต๊ะทำงานปลุกให้พวกเขาตื่นตัว
    แปะๆๆ!!
    " เอ้าสาวๆ! มัวรออะไรกันอยู่ล่ะ แยกย้ายกันทำงานเร็วเข้า! นั่งแช่สวยๆแบบนี้เอกสารมันไม่บินมาหาพวกเธอหรอกนะ! "
    พวกเขาแต่ละคนต่างวงแตกก่นจะเด้งตัวขึ้นมาแล้วเริ่มแยกย้ายกันไปทำงาน คุณหันไปพยักหน้าเป็นสัญญาณให้สตีฟ
    " ส่วนเรามาทางนี้ ต้องพาคุณไปหานิค เขาส่งข้อความมาบอกว่าเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ให้คุณแล้ว-หือ? "
     คุณเอียงคอสงสัยเมื่อเห็นริมฝีปากของเขาอมยิ้ม
    " มีอะไหรือเปล่า? "
    เขาเอามือเสยปอยผมสีบลอนด์แก้อาการประหม่า
    " เปล่า..แค่รู้สึกว่าบุคลิกคุณเหมือนคนรู้จักคนหนึ่งของผมเท่านั้นเอง "
    คุณยิ้มพลางส่ายหัว เดินนำเขาเข้าไปยังห้องศูนย์บัญชาการของนิค 
    .
    .
    .
    .
    .

            ใช้เวลาเบ็ดเสร็จรวมกว่าสองชั่วโมงในการอธิบาย สอนและสาธิตการใช้ข้าวของให้สตีฟ ซึ่งกว่าจะได้แต่ละอย่างก็เล่นเอาคุณเหนื่อยไม่ใช่น้อย เขาทำโทรศัพท์มือถือค้างไปสี่ครั้งเพราะความใจร้อนรีบกด ทำหูฟังขาดไปสองเส้นและทำวิทยุสื่อสารจิ๋วพังไปอีกหนึ่งเครื่อง

    คุณใช้หลังมือปาดเหงื่อซึมบนหน้าผากขณะพาสตีฟไปยังห้องพักชั่วคราวที่อยู่ในโซนฝั่งตรงข้ามของตึก

            " คุณต้องพักอยู่ที่นี่ไปก่อนจนกว่าอะไรจะลงตัว ระหว่างนั้นเรียกได้เสมอนะ วันนี้คุณพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ " 

    เขาจ้องคุณนิ่งๆโดยที่มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มีธุระอะไรจึงหันหลังจะกลับ แต่แล้วข้อมือของคุณก็ถูกมือแข็งแรงยึดไว้

    เขายื่นมือถือมาตรงหน้าคุณ
            " ผมขอเบอร์คุณไว้ได้ไหม? " เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงลังเล
    คุณเลิกคิ้ว นิ่งค้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแค่นหัวเราะ
    " รู้รึเปล่าว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีเบอร์ฉันด้วยซ้ำ เครื่องสื่อสารจิ๋วนั่นน่ะแค่กดปุ่มก็ติดต่อทุกคนได้หมด "
    คุณบอกเรียบๆ 
    เขากระพริบตา
    " แต่ถ้าเป็นมือถือนี่มันก็ทำอะไรได้มากกว่านั้นใช่ไหม แบบว่า โทรหาหรือส่งข้อความ "
    คุณพยักหน้า ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าเขากำลังต้องการหรือสื่ออะไร
    " คือ..เผื่อว่าผมไม่ได้พักอยู่ที่นี่แล้ว..ผมจะยังได้ติดต่อคุณได้อยู่ไง ถ้าคุณไม่ถือสาน่ะนะ ..คุณเป็นเหมือนเพื่อนคนแรกของผมที่นี่ แล้วก็อะไรอีกหลายๆอย่างๆ "

    ถ้อยคำเหล่านั้นของเขาทำเอาคุณยิ้มออกมาแบบกลั้นไม่อยู่ คุณรับมือถือมาจากเขา กดบันทึกเบอร์โทรแล้วส่งคืนให้เจ้าของ

    " พักผ่อนได้แล้วกัปตัน พรุ่งนี้เรายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ " 

            คุณกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับไปยังแผนกช่วยแซมสะสางงานที่เหลือให้เสร็จ



    ...................................................................................................................................................................................................................
    Extra ตอนนี้ไรต์เริ่มเหตุการณ์ต่อจากตอนจบของหนัง First Avenger เพราะเคยอ่านเจอบทความนึงที่บอกว่ากัปตันต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตในโลกสมัยใหม่ก่อนจะกลับเข้าวงการซูเปอร์ฮีโร่อีกครั้งก็เลยเอาคอนเซ็ปต์ตรงนี้มาเขียนจ้า

    ป.ล.1 ขอแจ้งข่าวจ้า เนื่องจากหลังช่วงสงกรานต์ไรต์จะเริ่มเข้าสู่ช่วงใกล้สอบ ตอนนี้บรรดาการบ้านโปรเจคทั้งหลายก็เลยถูกประเคนมาให้ตามคอนเซ็ปมีวันหยุดยาวต้องมีการบ้าน...ไรต์ก็เลยจะแจ้งว่าหลังช่วงนี้เป็นต้นไปคือจะเหลือวันอัพแค่วันเดียวคือวันอาทิตย์เน้อ พอสอบเสร็จไรเสร็จแล้วก็จะเป็นพุธกับอาทิตย์สองวันเหมือนเดิมจ้า ขอโทษรีดทุกคนด้วยนะคะ..

    ป.ล.สุดท้าย คิวรีเควสจ้า
           1. Arima Kishou [Tokyo Ghoul] - Coming Soon
           2. Aamuro Tooru [Conan]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×