คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อีกนานกว่าจะเช้า 2/2
Chapter 2
อีกนานกว่าจะเช้า...2
หลังการเดินทางอันยาวนาน สุดถนนเบื้องหน้าคือวังของสนมวาเรีย ตัวอาคารตั้งอยู่บนผาหินสูงชัน ตอนกลางวันเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของเมือง ด้านหลังเป็นทะเลลึกใสกว้างสุดตาและมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา พอก้าวข้ามประตูรั้วไปกลับรู้สึกเย็นยะเยือก พวกทหารพาฉันอ้อมไปยังลานกว้างด้านหลังของตัวอาคาร สว่างสไวด้วยคบเพลิงที่เรียงเป็นทิวแถว รายล้อมด้วยทหารอีกกว่าร้อยนาย บริเวณนั้นมีเขม่าควันอยู่เป็นหย่อมๆ มีแท่นไม้ที่ด้านล่างสุมด้วยเชื้อไฟอย่างดีอยู่มากมาย แต่ที่น่าตกใจคือบนแท่นนั้นคือร่างเล็กๆที่แสนคุ้นตา อเล็กซ์และแอนนา ส่วนที่พื้นคือร่างอันสะสะบอมของกิลเดอร์ เขานอนหอบหายใจรวยรินโดยมีวาเรียนั่งอยู่ด้านหน้า จ้องมองมาที่ฉันอย่างสะใจ
“จับมันมาไว้ตรงนี้” เจ้าทหารผลักฉันล้มคะมำไปข้างหน้า มือที่ถูกมัดไว้ทำให้ไม่สามารถยันตัวลุกขึ้นมาได้ จึงได้แต่เงยหน้ามองนังปีศาจร้ายด้วยสายตาอาฆาต
“นังแก่หนังเหี่ยว แกคิดจะทำอะไร”
“ตบปากมัน”
ฉันรับรู้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก ใบหน้าซีกซ้ายปวดแปลบ ผมที่รวบไว้ถูกจิกจนต้องแหงนหน้าไปด้านหลังเพื่อรองรับฝ่ามือที่จะตามมาอีกครั้งและอีกครั้ง
“อึก ”
“ไม่เจอกันนานเลยนะ อุตส่าห์หนีไปได้ตั้งหลายปี คิดถึงป้ามั้ยจ๊ะโคลอี้”
“นังสารเลว....”
“โธ่ อย่ามองอย่างนั้นสิ กว่าฉันจะหาตัวได้เหนื่อยแทบแย่ แล้วอย่ามาปากดีใส่ฉันอีก!!! กระทืบมัน”
“อั่ก” หัวรองเท้าหลายคู่กระแทกเข้าที่หน้าท้องและสีข้างฉันอย่างหนักหลายครั้ง จุกระบมจนขยับไม่ได้
“ขอบใจฉันซะสิ พ่อแม่แกคงไม่คิดว่าจะได้เจอลูกสาวเร็วขนาดนี้ ฉันไม่เคยลืมรสชาติของพวกมันลงเลยสักครั้ง กลิ่นเลือดของเผ่าโคยายังซ่านอยู่ในลิ้นฉันเสมอ”
“กรี๊ดดดดดดดดด หยุดนะ”
“เนื้อสัมผัสหัวใจของพวกมันเด้งอยู่ในปาก ตับไต เครื่องในทุกส่วน ลูกตา มันสมอง ทุกส่วน ทุกๆส่วนของมัน ด้วยมือฉันนี่แหละ ความเยาว์วัย ความสาวของฉัน มาจากทุกส่วนของพวกแกไงล่ะ ไอ้พวกโคยาน่าโง่”
“หุบปาก!!!! กรรรซ์” เล็บแหลมคมงอกยาวออกมาอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับใบหู เสียงกรีดร้องกลายเป็นเสียงขู่คำราม ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดทำให้ฉันมองวาเรียได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ อย่างนั้นแหละเด็กดี โกรธฉันสิ เกลียดฉันเข้าไปอีก ชิ้นส่วนพวกโคยาที่ดุร้ายเป็นยิ่งกว่ายาวิเศษใดๆ”
“ฮึ่มมม” ฉันพยายามสงบใจลง สายตาเริ่มกลับเป็นปกติ ถ้าฉันโกรธจะเข้าทางพวกมัน ต้องสงบใจไว้ เย็นลง หายใจช้าๆ โคลอี้ พ่อกับแม่ไม่ดีใจแน่ที่เป็นแบบนี้
“สงบลงแล้วเหรอ ฉลาดกว่าไอ้แก่พวกนั้นนี่นา”
แม้ผ่านมาหลายปี แม้สาบานกับพ่อเอาไว้ว่าจะแสดงความเกรี้ยวกราดจนเปลี่ยนไป แม้สาบานกับแม่ว่าจะมีชิวิตในฐานะมนุษย์ เฝ้าหลอกตัวเองให้ก้าวต่อไป ให้ลืม แต่ความเคียดแค้นต่อวาเรียไม่เคยจางหาย ฉันมักจะกลายเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่นึกถึง หลังจากรักษากิลเดอร์จนหายดี พ่อกับแม่ก็ตั้งใจจะตั้งรกรากที่นี่เพราะพวกท่านหลงรักเมืองนี้ อยากใช้ความรู้รักษาผู้คนที่เจ็บป่วย พยายามปิดบังตัวเองเอาไว้ เศรษฐีครอฟท์ซื้อใจพวกท่านได้ แต่ทุกคนไม่ได้เป็นอย่างเขา ชาวป่าผู้โง่งมไว้วางใจทุกคน โดยไม่รู้เท่าทันจิตใจอันโสมมของมนุษย์ จากเดือนเป็นปี จากปีเป็นหลายปี ฉันเรียนรู้ว่ามนุษย์ชื่นชมเราแค่ยามที่ตนมีปัญหา ตักตวงผลประโยชน์เพียงส่วนตน ต้องการเรียกร้องเอาความช่วยเหลือแต่กลับไม่เคยช่วยเหลือผู้อื่น แต่พวกท่านไม่เห็นอย่างนั้น
“พวกมนุษย์แค่หวาดกลัวไงลูก เพราะเขาไม่รู้เขาจึงหวาดกลัว กลัวเจ็บ กลัวหิว กลัวความมืด กลัวความสูญเสีย แต่ชนเผ่าเรามีอาวุธศักดิ์สิทธิ์คือความรู้ เรายื่นมือช่วยพวกเขาได้”
“หากวันหนึ่งที่เราถูกความหวาดกลัวครอบงำ หนูก็หวังว่าพวกเขาจะยื่นมือให้เราบ้างนะคะ”
ต่อจากนั้นไม่นาน จู่ๆก็มีทหารจากวังมาพาตัวพวกเราไป เพราะชาวบ้านกลุ่มหนึ่งไปแจ้งว่ารู้ที่อยู่ของเผ่าโคยาเห็นแก่รางวัลก้อนโต ตอนนั้นอเล็กซ์กับแอนนายังเด็กกว่านี้เจ้าพวกนั้นร้องให้โยเยตลอด ทาง ฉันจ้องมองร้องหาความช่วยเหลือ ไม่มีใครแม้จะสบตา ปล่อยพวกเราถูกถูลู่ถูกังไปอย่างน่าเวทนา
“งั้นขอร้องล่ะ ปะ ปล่อยพวกนั้นไป ….แฮ่ก.... ฉันคนเดียวก็พอ”
“ท่านวาเรียเด็กพวกนั้นร่างกายยังไม่โตพอ จึงไม่มีผลต่อความเยาว์วัย จะทำยังไงดี ให้ปล่อยไปมั้ยขอรับ”
“อืมมมม” วาเรียทำท่าครุ่นคิด
“ส่วนท่านกิลเดอร์ เพราะท่านเศรษฐีคุมระบบเศรษฐกิจเกือบทั้งประเทศถ้าเป็นอะไรไปคงเป็นปัญหาแน่”
“นั่นสิ งั้นปล่อยตัวไอ้ลูกเศรษฐี”
“ขะ … ขอบคุณ”
“ส่วนแกนังโคลอี้ เกรี้ยวกราดมากเท่าไรยิ่งดี แกมีประโยชน์ต่อฉัน คิดออกแล้ว”
“...........”
“จับไอ้เด็กพวกนั้น เผาไฟซะ!!!!”
“เฮือกกกกกก” สิ้นคำสั่งคบเพลิงถูกโยนเข้าไปบนเชื้อไฟ จนลุกพรึบ เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของเด็กทั้งสองดังก้องลานดิน สติฉันขาดผึงหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ร่างกายเปลี่ยนแปลงเต็มที่ ปลดเปลื้องทุกพันธนาการ ฉันวิ่งพุ่งเข้าสู่กองเพลิงเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ธนูนับร้อยดอกถูกปล่อยออกมา มันกระแทกสู่เป้าหมายเดียวคือร่างของฉัน ทุกอย่างหยุดนิ่ง จิตใจฉันมุ่งเข้าสู่กองไฟไปแล้ว แต่ร่างกายไม่อาจฝืนทำตามใจได้ มันหยุดชะงัก สายตาฉันจ้องมองในกองเพลิง เสียงหวีดร้องระงมไปทั่ว อาจเป็นเสียงของพวกเขารึเป็นเสียงของฉันเองฉันจำไม่ได้
อยากช่วย ใครก็ได้ หยุดมันที หยุดไฟพวกนี้สักที !!!! เสียงกึกกักของคันธนูดังขึ้นอีกครั้ง มันจะมาอีกระรอกแล้ว ฉันหลับตาลง เฝ้าภาวนา รู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างแรงจากด้านข้าง เมื่อลืมตาเห็นเป็นกิลเดอร์นั่นเองที่โอบตัวฉันไว้แล้วผลักฉันออกมา จนพวกเราตกลงมาจากผาหินลงสู่ทะเลเบื้องล่าง ฉันหลับตาลงได้ยินเสียงกรีดร้องของวาเรีย เพราะเป็นกิลเดอร์พวกนั้นจึงไม่กล้ายิงอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงอึกทึกวุ่นวาย ก่อนกระแทกตัวลงสู่พื้นน้ำด้านล่างมีเพียงเสียงกระซิบอันแผ่วเบาและลมหายใจสะท้อนความเศร้า
“ฉัน ขอ โทษ”
ความคิดเห็น