ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ้านไร่สิเน่หา

    ลำดับตอนที่ #5 : เริ่มงานได้ไม่ทันไร ....ก็ได้งานใหม่ซะแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 56


    นิศิษย์ลงจากรถอย่างรีบเร่ง ซอยฝีเท้าไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งไม่รับแขก ก่อนจะตรงเข้าไปภายในออฟฟิศ แล้วเดินไปเปิดประตูห้องทำงานเพื่อนสนิทออกโดยไม่ขออนุญาตผู้เป็นเจ้าของ

    ˝คินไอ้กรรมพล  มันเอาอีกแล้ววะ˝ นิศิษย์ เอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อคนของเขาที่แฝงตัวอยู่กับพวกมันได้ส่งข่าวมา เขาจึงตรงเข้ามาในห้องของธนาคินเพื่อบอกข่าวที่ได้รับมาสดๆร้อนๆ  ให้เพื่อนสนิททราบ  ธนาคินเงยหน้ามองเพื่อนสนิทที่เข้ามาโดยพละการก่อนเอ่ยถามเพื่อนด้วยสี่หน้าไม่ต่างกันนัก ˝ไอ้กรรมพลมันเคลื่อนไหวอะไรอีกวะ˝

    ˝จะอะไรซะอีละวะนอกจากไล่ขู่ ชาวบ้านให้ขายที่ให้กับมันในราคาถูกแสนถูก  มีชาวบ้านบางส่วนทนไม่ไหวก็ต้องยอมขายให้มันจนที่แถวๆบ้าน.....ถูกมันกวาดซื้อเกือบหมด  แล้วอีกไม่กี่วันมันจะส่งของกันอีกแล้ว˝ นิศิษย์เหยียดปากว่า

    ˝หึ แถบนั้นมันใกล้กับชายแดนด้วย  ทางสะดวกเลยสิ ˝ ธนาคินนึกสมเพช ไอ้พวกที่มันยืนอยู่ในทางสว่างแล้วยังไม่พอใจจนต้องกระเสือกกระสนหลบๆซ้อนๆเพื่อที่จะเข้าไปในความมืด  ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าในสมองของมันมีแต่น้ำหรือไงถึงคิดจะทำแต่เรื่องโง่

    ˝ แล้วเราจะทำไงดี˝ 

    ˝ เดี่ยวค่อยปรึกษาไอ้เอกอีกที ˝ เอกดนัยคือสารวัตใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนกับพวกเขาทั้งสองและคอยติดต่อเกี่ยวกับเรื่องนี่แล้วหลายครั้ง   ครั้งนี้ก็เช่นกัน นิศิษย์ขานรับก่อนจะออกจากห้องไป  ธนาคินนั่งครุ่นคิดถึงปัญหาที่จะตามมาถ้ากรรมพลมันทำสำเร็จคงได้เงินมหาศาลและมันก็คงจะกวาดซื้อที่ดินแถบนี่จนเหี้ยนแน่  เขาจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นโดยเด็จขาด  สายตาเย็นชาเริ่มเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวเมื่อ

     คิดไปถึงกรรมพลศัตรูที่เคยสร้างความอัปยศให้แก่เขา  แค่คนสองคนกลับทำให้เขาเจ็บเจียนตาย หึ หญิงชั่วชายเลวมันก็เข้ากันได้อยู่แล้ว

    ธนาคินเหยียดยิ้มหยันให้กับอดีตที่เคยโง่เขล่าจนถูกผู้หญิงหิวเงินคนหนึ่งสวมเขาให้  จนแล้วจนรอดความคิดกับจิตใจก็สวนทางกันอีกแล้วไม่อยากคิดถึงอดีตแต่หัวใจกลับห้ามไม่ฟัง ชายหนุ่มนั่งทำงานอย่างเครียดเครงหวังแค่ให้เวลากับงานช่วยเยียวยาใจที่บอบช้ำนี้ได้

               

     

     

    เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่น่าอยู่มากจังหวัดหนึ่งเลยในความคิดของเธอทั้งอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่อแบบนี่หายากมากในเมืองหลวงที่ชีวิตประจำวันมีแต่ความเร่งรีบวุ้นวานมีเจ้านาฬิกาเป็นพระเจ้าคอยควบคุมกะเกณฑ์ทุกอย่าง คิดแล้วก็อยากเขกกะโหลกตัวเอกสักป้าบที่คิดได้แตกต่างกับนิสัยตัวเองราวหน้ามือกับหลังเท้าก็ไม่ปาน  เฮ้อ ในเวลาสบายๆแบบนี่ถ้าได้นอนพักสักงีบบนเตียงนุ่มๆเปิดแอร์เย็นฉ่ำทั่วห้องแล้วนอนคลุมโป่ง เพื่อเผาพล่านค่าแอร์ก็คงจะดีมิใช่น้อย แต่.....ทำไมเธฮต้องมานั่งเฝ้าไอ้เจ้าแกะพวกนี้ด้วยยะ  คิดแล้วก็โมโหตั้งแต่คืนรับน้องสยองจิต เสี่ยวๆตากุ้งยิงจะถามหา มันก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ภาพป่าละเมาะก็ยังไม่เลือนรางไปจากสมองเธอเสียที ไม่รู้ชาติที่แล้วเธอไปฆ่าล้างโคตรมันรึไงนะชาตินี่เลยต้องมาเป็นลูกจ้าง(ที่ไม่เต็มใจ) ของมัน แถมสถนะที่ด้อยกว่าทำให้เธอเอาคืนไม่ได้อีก  บรื่อ แค่เธอข่มใจให้หลับโดยที่ภาพอุจาดตาไม่โผล่ออกมาทักยังทำยากเลย  อรพาทำหน้ามุ่ยบึ้งตึง พลางมองแกะที่ส่งเสียงน่ารำคาญหูอย่างพาลๆ    

    ****˝ โอ๊ย ไอ้พวกแกะบ้าจะอยู่เงียบๆไม่ได้รึไงฮะ เดียวแม่ก็จับเอาไปเชือดให้หมดซะหรอก ˝   เจ็บใจลงกับแกะนี่และคือวิธีเดียวที่เธอสามารถทำได้ให้ส่งไปถึงนายแกด้วยนะ

    ˝ จะไปเอาอะไรกับแกะเล่า.........ไอ้พา  ฮ้าๆๆ˝  หญิงสาวมองพี่ชายที่ทำหน้าระรื้น  ลงจากหลังม้าด้วยสายตาดุ ที่เอ่ยซื่อตนอย่างล้อๆ  

    ˝หยุดพูดไปเลยพี่พัทธ์  มาไม่ให้ซุ้มให้เสียงตกใจหมด แล้วอยู่กันสองคนไม่ต้องเรียก ไอ้พาเลยฟังแล้วเคืองหูชะมัด ˝

    ˝พี่ว่าน่ารักดีออก เอาพอๆ ไม่ต้องมามองหน้า กินข้าวเที่ยงได้แล้วเจ้าหญิง˝  อรพัทธ์มองน้องสาวในคราบหนุ่มน้อยมอมแมม อย่างล้อเลียน จึงได้รับค้อนวงใหญ่เป็นรางวัล ชายหนุ่มจัดการเปิดปิ่นโตตรงหน้า ให้ตนและน้องสาว  กับข้าวก็มีผัดกระล่ำปลีกับแกงฟักทองสงสารก็แต่อรพาที่ไม่เคยต้องลำบากลำบนดูสภาพกับข้าวสิไม่รู้จะกินได้รึเปล่า

    ˝พอกินได้ไหม˝

    ˝กินไม่ได้ก็ต้องกินแหละ  เมื่อไรจะครบสามเดือนสักทีก็ไม่รู้   พาเริ่มจะทนอาหารกับแกะพวกนี้ไม่ได้แล้วนะ˝ หญิงสาวทำหน้า ยู้ยี้มองกับข้าวพื้นๆอย่างเหยียดๆ

    ˝ทนไปก่อนเถอะ  พอครบสามเดือนเมื่อไร มรดกก็จะตกเป็นของเราแล้วคราวนี่เราจะกินจะเที่ยว อะไรยังไงก็ได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้อย่าบนเหมือนยายแก่ไปหน่อยเลยน่า˝

    ˝พี่พัทธ์  พายังไม่แก่สักหน่อย˝ อรพัทธ์มองน้องสาวที่ทำหน้ามุ่ยอย่างงอนๆ ก่อนจะลงมือกินข้าวกลางวันทันที   คิดไปถึงตอนที่ได้รับมอบหมายงานกันแล้วโชคดีที่อรพาได้แค่คอยมานั่งเลี้ยงแกะทั้งฝูง กับเจ้าเปี๊ยกเด็กน้อยลูกคนงานในไร่สองคน  ส่วนตนนั้นได้รับหน้าที่ให้ไปต้อนวัวที่ถูกปล่อยไปกินหญ้าแถวๆเขาฝังโน้น  เข้าคอกและคอยดูแลไม่ให้วัวหลงเข้าไปตามป่า  และคอยติดตามวัวที่พลัดหลงฝูง กับพวกผู้ชายอีกหลายสิบคนซึ้งถือว่าเป็นงานที่อยากอยู่เหมือนกันคนงานที่ทำงานนี่จึงต้องขี่ม้าได้และเก่งด้วย  ซึ่งเขาเองและอรพานั้นก็ขี่เป็นอยู่แล้วเมื่อตอนเด็กๆถูกพ่อแม่บังคับให้เรียนเพราะเป็นกีฬาของผู้ดีที่จะช่วยสร้างบุคลิกให้ดูสง่างาม ยามเมื่ออยู่บนหลังม้า  และไม่คิดจริงๆว่าอนาคตจะได้ใช่ประโยชน์จากมัน  สองพี่น้องนั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อยคงเพราะทำงานมาทั้งวันจึงทำให้อาหารธรรมดาๆแต่กลับถูกปากหญิงสาวเป็นอย่างมาก เมื่อกินเสร็จอรพัทธ์ก็เก็บปิ่นโตก่อนจะควบม้ากลับไปโรงครัวทันที  ปล่อยให้อรพานอนกลางวันรอเจ้าเปี๊ยกคนเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×